แชร์

หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป
หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป
ผู้แต่ง: ปีศาจเจ้าสำราญ

บทที่ 1

ผู้เขียน: ปีศาจเจ้าสำราญ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 13:11:40
ภายใต้ร่มเงาของต้นไม้ที่ประดับประดาด้วยผ้าแพรแดง บุรุษรูปงามในชุดเกราะสีเงินยืนตรงอย่างสง่างามประดุจต้นสนอยู่เบื้องหน้านาง

“จิ่วหลี เสด็จพ่อทรงตกลงพระราชทานสมรสให้พวกเราแล้ว รอข้ากลับมาจากสนามรบ จะจัดขบวนรับเจ้าสาวสิบลี้มารับเจ้าเป็นภรรยา”

สตรีที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา ดวงตาคู่งามดุจสายน้ำใสแฝงความสะเทิ้นอาย

“พระชายา พระชายาเพคะ”

เสียงใครบางคนดังแว่วข้างหู ลั่วจิ่วหลีอยากตื่นขึ้นมา ทว่าความเจ็บปวดราวถูกลงทัณฑ์แผ่ซ่านไปทั่วร่าง ทำให้นางไม่อาจลืมตาได้เลย

ทันใดนั้น ภาพหนึ่งแวบผ่านเข้ามา ชายหนุ่มในชุดเกราะเงินขี่ม้าศึกตัวใหญ่กลับมาจากการทำศึกพร้อมชัยชนะ แต่ในอ้อมแขนของเขากลับมีสตรีงามแปลกหน้าผู้หนึ่ง

เทียนแดง อักษรมงคล และเกี้ยวเจ้าสาวสองคันถูกยกเข้าจวนอ๋องเจาโดยคันหนึ่งอยู่หน้า อีกคันตามหลัง

จู่ ๆ ภาพก็เปลี่ยนเป็นเบื้องหน้ากรอบหน้าต่างไม้แกะสลักบานหนึ่ง

ชายหนุ่มสวมอาภรณ์หลวมหลุดลุ่ย บนแผ่นหลังเต็มไปด้วยรอยข่วน ใต้ร่างของเขา สตรีนางหนึ่งมีเพียงผ้าผืนบางคลุมร่างกายเพียงสามจุด แทบไม่อาจปกปิดเรือนร่าง

“ชายโฉดหญิงชั่ว ข้าจะฆ่าพวกเจ้า!”

สตรีผู้หนึ่งแบกท้องที่ตั้งครรภ์ มือกำกระบี่ยาวไว้มั่น ดวงตาฉายชัดถึงความเคียดแค้น เงื้อมือฟันกระบี่ลงไป

หญิงร้ายชายเลวสะดุ้งหันขวับมาทั้งคู่ เผยให้เห็นใบหน้าของชายผู้นั้นอย่างชัดเจน ส่วนหญิงงามใต้ร่างกลับยิ้มพราย แฝงแววเจ้าเล่ห์ เปี่ยมด้วยความยั่วยวน

ทันใดนั้น เสียงกรีดร้องปานจะขาดใจพลันดังขึ้นมา ภาพแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานของโลหิต

ทารกชายตัวผอมวัยหกเดือนนอนนิ่งในอ่างทองแดง ทั้งร่างเขียวช้ำชุ่มโชกโลหิต ไร้ซึ่งลมหายใจ

ภาพสีเเดงเบื้องหน้านางกลายเป็นความมืด สตรีร่างโชกเลือดผู้หนึ่งกอดร่างไร้วิญญาณของทารกน้อยไว้ในอ้อมแขน จ้องมองมาทางลั่วจิ่วหลีด้วยสายตาเปี่ยมความเศร้าโศกและโกรธแค้น

“ลั่วจิ่วหลี ล้างแค้น ล้างแค้นให้พวกเราที”

เสียงแว่วล่องลอยแฝงความโศกสลดเคียดแค้นดังขึ้นก่อนจะค่อย ๆ ห่างไกลออกไป และแผ่วเบาลงจนกระทั่งไม่ได้ยินอีก

ลั่วจิ่วหลีพลันลืมตาขึ้นมา แต่สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าคือบ่าวเฒ่าหน้าตาน่ากลัวและกริชคมกริบที่พุ่งตรงเข้ามาหา

ฉึก!

คมกริชปักเข้าที่หัวไหล่ ทำให้เหงื่อเย็นผุดขึ้นบนหน้าผากนางทันที

ในฐานะแพทย์ทหาร ลั่วจิ่วหลีใช้พลังใจอันแข็งแกร่งเตะบ่าวเฒ่าจนล้มลงไปกับพื้น มือข้างหนึ่งบีบคอของบ่าวเฒ่าไว้แน่นอย่างรวดเร็ว

อีกมือหนึ่งไม่รีรอ จ้วงแทงดวงตาของบ่าวเฒ่าอย่างไร้ปรานี

“อ้าก”

บ่าวเฒ่ากรีดร้องโหยหวน

“พระชายาได้โปรดไว้ชีวิต บ่าวเองก็ถูกบีบบังคับ เป็นชายารองเหลียน...”

กร๊อบ!

“การไว้ชีวิตศัตรูเป็นหน้าที่ของพระพุทธองค์ แต่ข้าชอบส่งศัตรูไปปรโลกมากกว่า”

ลั่วจิ่วหลีไม่คิดจะฟัง บิดคอนางจนเสียงกระดูกดังลั่น น้ำเสียงเย็นเยียบดุจดั่งวิญญาณร้ายที่ปีนออกมาจากนรก

เมื่อจัดการกับบ่าวเฒ่าเสร็จ ลั่วจิ่วหลีก็ทรุดตัวลงนั่งกับพื้น มือกุมไหล่ที่บาดเจ็บไว้ นางจำได้ว่าก่อนหน้านี้ตนเองกำลังลองสวมแหวนโบราณที่เพื่อนสนิทนักโบราณคดีส่งมาให้

จากนั้นก็เหมือนสติดับวูบ ต่อมาก็มองเห็นภาพในความฝันพวกนั้น

เจ้าของร่างเดิมนามลั่วจิ่วหลี อายุเพียงสิบเจ็ดปี เป็นบุตรีคนรองสายตรงของจวนอี้กั๋วกงแห่งแคว้นฉางหนิง เจ็ดเดือนก่อน นางแต่งงานกับเซียวจูมั่ว อ๋องเจา คิดไม่ถึงว่าในวันแต่งงาน เซียวจูมั่วกลับรับเยียนทิงเหลียน บุตรีบุญธรรมของรองผู้ดูแลหน่วยพิธีกรรมเข้าพิธีแต่งงานพร้อมกัน เจ้าของร่างเดิมนั้นมีจิตใจอ่อนโยนและรักเซียวจูมั่วสุดหัวใจจึงยอมรับชะตากรรมอันน่าอดสูนี้

นับจากนั้นมา เจ้าของร่างเดิมก็กลายเป็นสตรีที่ถูกทอดทิ้งจนกระทั่งตั้งครรภ์ แต่แล้วก็ถูกวางยาพิษด้วยหญ้าเซิงเฉ่าอูและต้องเห็นภาพสองคนนั้นพลอดรักกันต่อหน้าต่อตา จึงสะเทือนใจทบเท่าทวีคูญจนเสียชีวิตพร้อมลูกในท้อง

เดิมนั้น หลังจากแท้งลูก เจ้าของร่างเดิมก็ตกอยู่ในอาการหมดสติ เซียวจูมั่วไม่กล้าให้ข่าวแพร่งพรายออกไปด้วยกริ่งเกรงจวนอี้กั๋วกงจึงสั่งให้นำเจ้าของร่างเดิมไปทิ้งไว้ที่เรือนรับรองหลังหนึ่งแถบชานเมืองหลวง ไม่คาดคิดว่า...

“ไอ้ผู้ชายชั่วคนนี้ ทรยศหักหลัง หลงอนุเหยียบย่ำภรรยาเอก เป็นสัตว์เดรัจฉานที่แม้แต่สวรรค์ก็ไม่อาจยอมรับได้”

ลั่วจิ่วหลีสาปแช่งเสียงดัง ก่อนจะดึงกริชที่ปักอยู่บนไหล่ออกมา เลือดพุ่งกระจายทันที นางขมวดคิ้วบางแน่นด้วยความเจ็บปวด แต่ก็ฝืนทนไว้

ไม่นานนัก ลั่วจิ่วหลีก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ นางเห็นว่าแหวนโบราณบนนิ้วมือเจ้าของร่างเดิมมีลักษณะเหมือนแหวนวงที่นางเคยลองใส่ก่อนหน้านี้ไม่มีผิด เลือดสด ๆ ที่เปื้อนอยู่บนแหวนถูกดูดซึมเข้าไปในแหวนด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

“นี่มันเรื่องบ้าอะไร”

นิ้วมือของนางรู้สึกอุ่นวาบ ยาห้ามเลือด ผ้าพันแผล ยาเม็ดอี้หมูเฉ่า[2]และอะซิโทรมัยซิน[3]พลันปรากฏขึ้นบนมือของนาง ทั้งหมดเป็นยาที่ใช้ในการรักษาบาดแผลและอาการแท้ง

แม้ลั่วจิ่วหลีจะเคยรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินมามากมาย แต่ความลึกลับของแหวนโบราณวงนี้ก็ยังทำให้นางประหลาดใจเกินคาด

นางนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะรีบกินยาและทำความสะอาดบาดแผล ถึงแม้จะสงสัย แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมานั่งศึกษาแหวนโบราณวงนี้

เผื่อว่าจะมีคนเฝ้าอยู่ด้านนอกเรือน หลังจากทำแผลเสร็จ ลั่วจิ่วหลีจึงตัดสินใจปีนออกทางหน้าต่างด้านหลัง

นางวิ่งเข้าไปในป่าท่ามกลางแสงจันทรา ไม่รู้ว่าเดินมาไกลแค่ไหน จนกระทั่งได้ยินเสียงดังก้องมาจากที่ไม่ไกลนัก นางรู้สึกยินดีจึงรีบเร่งฝีเท้า

เพียงแต่ว่าทันทีที่โผล่ออกจากป่า ลั่วจิ่วหลีก็เห็นสิ่งมหึมาที่ปรากฏตรงหน้าจนหวาดหวั่นไปทั้งใจ

มันคือพญาอินทรีร่างใหญ่สีขาวราวหิมะ มีจะงอยปากแหลมยาวและขนสีแดงสดกระจุกหนึ่งอยู่บนหน้าผาก ขณะนี้ ร่างมหึมาของมัน กรงเล็บที่แหลมคมและดวงตาสีดำขลับแฝงเพลิงพิโรธโฉบตรงมายังลั่วจิ่วหลี

นางยังไม่ทันได้สบถคำด่าก็ต้องพุ่งตัวกลิ้งหลบไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว ปลายเท้าของนางเหยียบลงบนต้นไม้อย่างแรง ก่อนจะทะยานขึ้นไปบนหลังของพญาอินทรี บริเวณที่นางยืนอยู่เมื่อครู่ถูกกรงเล็บแหลมคมขยุ้มจนเป็นร่องลึกหลายแห่ง

“สวรรค์ ที่นี่มันที่ไหนกันแน่?”

สิ้นเสียงลั่วจิ่วหลี พญาอินทรีก็กระพือปีกมหึมาทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าเหนือน้ำตกผืนนั้น

----------------------------------------------

[1] ยาเม็ดอี้หมูเฉา เป็นยาสมุนไพรจีนที่ทำจากอี้หมูเฉ่า มักใช้ในการรักษาอาการเกี่ยวกับสตรี เช่น ปรับสมดุลประจำเดือน

[2] อะซิโทรมัยซิน เป็นยาปฏิชีวนะชนิดหนึ่ง ใช้ในการรักษาการติดเชื้อแบคทีเรียในร่างกาย เช่น การติดเชื้อทางเดินหายใจและทางเดินปัสสาวะ

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 2

    ลั่วจิ่วหลีเกาะคอพญาอินทรีแน่น ร่างของนางเกือบจะร่วงลงไป นางต้องรีบหาทางจัดการ ไม่เช่นนั้นหากไม่ถูกพญาอินทรีตะปบตายก็คงต้องตกลงไปตายเป็นแน่“ยาสลบ ยาสลบชนิดรุนแรง”ลั่วจิ่วหลีพยายามหาทางรอดแม้ความหวังริบหรี่ นางกดแหวนโบราณลงบนบาดแผลที่มีเลือดซึมออกมาบนไหล่ นิ้วมือพลันร้อนวาบ ชั่วเวลาไม่ถึงห้าวินาที ยาสลบก็ปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือของนางนางยิ้มออกมาด้วยความดีใจก่อนจะฉีดยาสลบเข้าไปในร่างของพญาอินทรีอย่างแรง เมื่อความเร็วของพญาอินทรีเริ่มลดลง ลั่วจิ่วหลีก็ตัดสินใจฉับพลัน กลั้นใจหลับตากระโดดลงจากหลังพญาอินทรีลงสู่แอ่งน้ำใต้ผาน้ำตกตูม!แอ่งน้ำนุ่มนวลกว่าที่คิด ลั่วจิ่วหลีลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็ว แผงอกกว้างสะท้อนเข้าสู่คลองจักษุนางเงยหน้าขึ้นมองสวรรค์ นี่นางเห็นอะไรเป็นบุรุษผู้หนึ่ง บุรุษที่ร่างท่อนบนเปลือยเปล่ากำลังอุ้มนางไว้ในอ้อมแขนชั่วขณะนั้น บุรุษผู้นั้นพลันลืมตาขึ้นมา เผยให้เห็นดวงตาลึกล้ำ คิ้วเรียวยาว ริมฝีปากบางสีชมพูระเรื่อเม้มเข้าหากันน้อย ๆ โครงหน้าที่ประหนึ่งแกะสลักจากหยก แม้จะใช้คำว่างามล้ำก็ยังไม่พอจะบรรยายรูปโฉมที่งามเหนือสามัญของเขาลั่วจิ่วหลีถือว่าผ่านโลกมาไม่น้อย ดา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 3

    เนื่องจากการตัดสินใจครั้งนี้ของนาง ทำให้คนที่มาตามหาคลาดกับนางพอดีราตรีนี้ลั่วจิ่วหลีนอนหลับไม่สนิท ในความฝัน บางครั้งนางเห็นภาพตอนที่ตนเองอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในชาติก่อน บางครั้งเป็นภาพเจ้าของร่างเดิมกอดร่างไร้ลมหายใจของทารกจ้องมองนางด้วยความอาฆาตระคนโศกเศร้าขอให้ช่วยล้างแค้น บางครั้งเป็นดวงตาลึกล้ำของชายผู้นั้นที่จ้องนางพลางถามคาดคั้นว่านางเป็นคนฆ่าพญาอินทรีหิมะใช่หรือไม่“ข้าไม่ได้ฆ่ามัน!”ลั่วจิ่วหลีสะดุ้งลืมตาตื่นภายนอกถ้ำเวลานี้ดวงตะวันทอประกายสว่างไสวนางนวดคลึงหว่างคิ้วที่ปวดตุบ พอได้สติกลับคืนมาก็นึกถึงบุรุษที่ใต้ผาน้ำตกขึ้นมา เกรงว่าคงกำลังรักษาแผลอยู่ นางทำแบบนั้นไป ไม่รู้ว่าเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง?“ไม่คิดแล้ว เขาไม่รู้อยู่ดีว่าข้าเป็นใคร ทางใครทางมันแล้วกัน ต่อไปคงไม่มีโอกาสได้เจอกันอีก”ลั่วจิ่วหลีลุกขึ้นยืน เสื้อคลุมยาวเกินไป นางจึงใช้มีดผ่าตัดกรีดออกส่วนหนึ่งแล้วมัดไว้ที่เอว จากนั้นก็เดินก้าวยาว ๆ ลงจากภูเขาเดินไปได้สักพัก นางค่อยเข้าใจว่าเหตุใดเซียวจูมั่วถึงโยนเจ้าของร่างเดิมไปไว้ที่เรือนรับรองหลังนั้นให้ตายเถอะ อยู่ห่างจากเมืองหลวงชะมัด จนกระทั่งแสงอาทิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 4

    ลั่วจิ่วหลีคลายมือออกจากคอซุนหมัวมัว มีดผ่าตัดยังคงจ่ออยู่ใกล้ดวงตาของนาง แววตาเหี้ยมเกรียมเย็นชาราวกับจะฉีกนางเป็นชิ้น ๆ“ชายารองเหลียนบอกว่าตนเองได้รับบาดเจ็บถึงรากฐานตอนที่ช่วยท่านอ๋องในสนามรบ ต้องใช้รกและเนื้อทารกอายุหกเดือนมาปรุงยา หลังกินเข้าไป นางจึงจะสามารถตั้งครรภ์ได้”จี๊ด!ลั่วจิ่วหลีสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดรุนแรงที่ซ่านออกมาจากในหัวใจ นางรู้ว่านั่นไม่ใช่ความเจ็บปวดของนาง แต่เป็นวิญญาณของเจ้าของร่างเดิมที่เจ็บปวดเจียนขาดใจ เจ้าของร่างเดิมตายไปแล้ว ลูกของนางยังถูกศัตรูนำไปปรุงยาความเสื่อมทรามของมนุษยธรรมในจิตใจกำลังแผ่ขยายออกไปทีละน้อยทำให้ลั่วจิ่วหลีที่มาจากศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดรู้สึกหนาวเย็นไปทั้งร่างนางไม่เข้าใจ เจ้าของร่างเดิมนั้นเป็นถึงบุตรีคนรองสายตรงของอี้กั๋วกง ฐานะไม่ต่ำต้อย เหตุใดจึงถูกทารุณเช่นนี้?เซียวจูมั่วถูกความหลงใหลครอบงำจนไม่อาจแยกแยะ โปรดอนุทำร้ายภรรยาเอก แต่เหตุใดเขาถึงได้ลงมืออำมหิตกับลูกในไส้ของตนเองเช่นนี้?นางอยากถามให้แน่ชัด แต่ซุนหมัวมัวดูคงสังเกตเห็นว่านางวอกแวกจึงใช้สองมือผลักนางออกอย่างแรง และเงยหน้าขึ้นเตรียมจะตะโกนลั่วจิ่วหลีมีสีหน้าเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 5

    ในรถม้า ลั่วจิ่วหลีได้ยินเสียงด่าทอด้วยโทสะนั้นก็จำได้ทันทีว่านั่นคือเสียงของอ๋องเจา เซียวจูมั่ว ดวงตาสาดประกายเย็นชากว่าเดิมเพลิงรุนแรงขนาดนี้กลับไม่อาจเผาคนเลวผู้นี้ให้ตายได้เจ้าของร่างเดิมตายไปแล้ว ไม่คิดเลยว่าผู้ชายชาติชั่วที่จิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตผิดมนุษย์ยังคิดจะถลกหนัง เลาะเส้นเอ็นและเฆี่ยนศพนางสามวัน แล้วแขวนร่างไว้เหนือประตูเมืองสังหารคนโดยไม่หลั่งเลือดคงเป็นเช่นนี้เองกระมัง“ดูเหมือนว่าข้าต้องเริ่มแผนการขั้นต่อไปแล้ว”ลั่วจิ่วหลีพูดด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย หันไปมองชายที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ความคิดไม่เคยเยือกเย็นถึงเพียงนี้มาก่อน“ท่านพอจะคลายจุดให้ข้าได้หรือไม่?”ชายผู้นั้นเหลือบมองนาง ดวงตาคู่นั้นแฝงประกายอันตราย แต่ยังคงยกมือขึ้นคลายจุดให้ ลั่วจิ่วหลีพลันรู้สึกถึงความผ่อนคลายทั่วร่างนางขยับแขนเล็กน้อย ทว่าสายตากลับไม่ละไปจากใบหน้าของชายผู้นั้นตอนนี้ นางยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่าชายลึกลับผู้มีวรยุทธ์ล้ำเลิศและตัวตนยังคงเป็นปริศนาผู้นี้ไม่ได้คิดร้ายกับนาง“ท่านจะปล่อยให้เซียวจูมั่วฆ่าข้าหรือไม่?”นางถามออกไปอย่างลองเชิงเวลานี้ ศักดิ์ศรีและหน้าตาอะไรเทือกนั้นไม่มีความสำคัญอีก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 6

    พูดแทงใจนัก! ท่านอ๋องผู้สง่างามถูกเรียกเป็น ‘สวะ’ หยามกันเช่นนี้ไหนเลยจะทนได้ไหวภายในรถม้า บุรุษผู้มีสีหน้าเย่อหยิ่งได้ยินคำพูดของลั่วจิ่วหลีแล้ว มุมปากก็โค้งขึ้นเล็กน้อยอย่างแทบสังเกตไม่เห็นลั่วจิ่วหลีรู้สึกว่าคำพูดยังไม่แรงพอ นางต้องการยั่วยุให้เซียวจูมั่วขาดสติอย่างสมบูรณ์และลงมือทำร้ายนาง “เซียวจูมั่ว ท่านจำไว้เลย ฆาตกรก็เป็นฆาตกรอยู่วันยังค่ำ”“ท่านฆ่าลั่วจิ่วหลีคนเก่าและยังฆ่าลูกชายแท้ ๆ ของตัวเองเพื่อเยียนทิงเหลียน เอาลูกชายแท้ ๆ ของตัวเองไปทำเป็นยาให้อนุชั้นต่ำของท่าน” “เหนือศีรษะสามฉื่อ[1]มีเทพเทวาคอยสอดส่องตรวจตรา ผลกรรมจะตามสนอง” “ท่านน่ะกิเลสหนา สวรรค์จะลงทัณฑ์หญิงร้ายชายเลวอย่างพวกท่าน บาปกรรมนี้จะตกใส่หัวพวกท่าน...”“นางชั้นต่ำ เจ้ารนหาที่ตาย! ทันใดนั้นเซียวจูมั่วที่บันดาลโทสะปราดมาถึงตรงหน้าประหนึ่งพายุ บีบคอลั่วจิ่วหลีไว้แน่น นัยน์ตาสีดำนั้นประหนึ่งมีหมอกปกคลุม เพลิงพิโรธพวยพุ่ง แทบจะกลืนกินลั่วจิ่วหลีทั้งเป็น “เจ้ามันขี้อิจฉา คิดว่าข้ายอมแต่งงานกับเจ้าเพราะอะไร? หากมิใช่เพราะอำนาจในราชสำนักของจวนอี้กั๋วกง คิดว่าเจ้าคู่ควรได้รับจริงหรือ? กล้าส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 7

    เวลานั้น ทุกคนเคร่งเครียดจนเส้นประสาทตึงเปรี๊ยะทั่วร่างประหนึ่งเชือกที่ถูกยืดจนตึง เสื้อผ้าตรงแผ่นหลังเปียกชุ่มด้วยเหงื่อเย็น เซียวจูมั่วก็มีสภาพไม่ต่างกัน แม้ว่าเขาก็เป็นองค์ชาย เป็นท่านอ๋อง แต่ตอนนี้ฮ่องเต้ยังไม่ได้แต่งตั้งรัชทายาท องค์ชายอย่างพวกเขาทุกคนล้วนพยายามอย่างหนักเพื่อแย่งชิงตำแหน่งรัชทายาท ด้วยเหตุนี้ เขาจึงแต่งงานกับลั่วจิ่วหลีเพื่อให้ได้รับการสนับสนุนจากจวนอี้กั๋วกง แต่เขาตระหนักดีว่าไม่ว่าเขาจะได้รับการสนับสนุนจากเหล่าขุนนางมากแค่ไหนก็ยังมิอาจเทียบวาจาประโยคเดียวของเสด็จอาเก้า ขอเพียงเสด็จอาเก้าช่วยพูดคำดี ๆ ต่อหน้าฮ่องเต้ เขาก็จะเข้าใกล้การเป็นรัชทายาทเข้าไปอีกก้าว ทว่าคืนนี้เสด็จอาเก้าลงเขา เขากลับไม่ได้รับแจ้งข่าวใด ๆ ก่อนเลย “เสด็จอาเก้า โปรดอภัยที่หลานชายหยาบคายด้วยพ่ะย่ะค่ะ” เซียวจูมั่วทรุดลงบนพื้น สภาพชวนสมเพชเวทนา ทว่าสายตาที่มองลั่วจิ่วหลีกลับคมกริบราวมีดดาบ หากสายตาสามารถสังหารคนได้ คาดว่าลั่วจิ่วหลีคงถูกเซียวจูมั่วสังหารตั้งนานแล้ว เซียวหมิงเสวียนปรายตามองเซียวจูมั่วที่อยู่บนพื้น ดึงสายตากลับมาอย่างเฉยชา นัยน์ตามืดครึ้ม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 8

    น่าสนใจ น่าสนใจมากลั่วจิ่วหลีเพิกเฉยต่อเซียวจูมั่วที่ตกตะลึงเหมือนคนโง่ ก้มลงดึงหยกห้อยเอวชิ้นหนึ่งของเขาออกมา เป็นหยกห้อยเอวคุณภาพไม่เลวจริง ๆ นางถือหยกห้อยเอวไว้ในมือ หันกลับมามองมั่วหานด้วยสีหน้าคาดเดาไม่ถูก “คุณชายท่านนี้ ในเมืองนี้จะซื้อโลงได้ที่ไหน” มั่วหานชะงัก ทันใดนั้นก็เข้าใจว่าจะใช้หยกห้อยเอวของอ๋องเจาเพื่อซื้อโลง แค่ไม่รู้ว่าโลงศพนี้สำหรับอ๋องเจา หรือ... “เมืองชั้นนอก ตรอกเฉาฉ่าง เต็มไปด้วยร้านขายโลง” “ขอบคุณมาก” ลั่วจิ่วหลีกำหมัดคารวะแล้วพลิกตัวขึ้นหลังม้า ในฐานะแพทย์ทหาร การขี่ม้าเป็นหลักสูตรภาคบังคับจึงไม่ใช่เรื่องยากเลย มั่วหาน : นั่นเหมือนว่าจะเป็นม้าของข้า แต่จะทำอย่างไรได้? ตอนนี้เขาไม่กล้าหาเรื่องนางจริง ๆ เพราะจากนี้ นางยังต้องช่วยคลายคำสาปให้นายท่าน สี่ขาวิ่งเร็วกว่าสองขา ในเวลาเพียงครึ่งเค่อ[1] ลั่วจิ่วหลีก็ไปถึงร้านขายโลงร้านหนึ่งที่เมืองชั้นนอก นางแลกหยกห้อยเอวกับโลกศพขนาดเล็กหนึ่งโลง จากนั้นห้อตะบึงม้าไม่หยุดจนถึงนอกประตูวัง เวลานั้นแสงอรุณปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าแล้ว...... ห้องเก้าเสนาบดี เป็นสถานที่ให้เหล่าขุนนางพักผ่อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 9

    หากผู้ตีกลองมีข้อกล่าวหาเท็จหรือมีหลักฐานไม่เพียงพอ จะต้องโทษถูกโบยด้วยไม้นับร้อยที ผู้ที่อ่อนแออาจทนรับไม่ไหวขาดใจตายทันที นับตั้งแต่ก่อตั้งแคว้นฉางหนิงเป็นต้นมา ยังไม่เคยมีผู้ใดกล้าตีกลองร้องทุกข์ในช่วงประชุมเช้า วันนี้ผู้ใดช่างกล้านัก? ต้องมีความคับแค้นใจขนาดไหนถึงอยากให้ฮ่องเต้ได้สดับ? ขณะที่เหล่าขุนนางกำลังถกเถียงกัน ทันใดนั้นมีเสียงชาววังคุกเข่าอยู่ด้านนอกห้องโถง “ถวายบังคมอ๋องเก้า ทรงพระเจริญพันปีพันพันปี” “น้องเก้า” “อ๋องเก้า?” “เสด็จอาเก้า?” ภายในตำหนัก ตั้งแต่ฮ่องเต้ องค์ชายไปถึงเหล่าขุนนาง ทุกคนล้วนตกตะลึงพรึงเพริด แม้ว่าเหล่าเจ้านายและขุนนางทุกระดับจะรู้แล้วว่าอ๋องเก้ากลับเมืองหลวงเมื่อคืน ทว่าเมื่อสองปีก่อนชายแดนมีความมั่นคง อ๋องเก้าจึงส่งคืนตราพยัคฆ์และออกจากเมืองหลวงสองปีมานี้ไม่เคยก้าวเข้ามาในราชสำนัก เหตุใดวันนี้จึงมาได้เล่า เมื่อร่างสูงสง่าตั้งตรงของอ๋องเก้าปรากฏขึ้นในห้องโถง ความตกตะลึงของทุกคนไม่จบเพียงแค่นั้น มองเห็นด้านหลังอ๋องเก้า สตรีผู้หนึ่งที่สวมเสื้อคลุมสีน้ำหมึกขาดรุ่งริ่งและแบกโลงใบเล็กด้วยสองมือ ค่อย ๆ เดินตามมาจนถึงภ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29

บทล่าสุด

  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 100

    “เพคะ นี่คือยาเม็ดที่หม่อมฉันทำให้เฟิงเต๋อฮูหยินโดยเฉพาะ”“งั้นหรือ?”ฮ่องเต้มองที่ใบหน้าสงบนิ่งของลั่วจิ่วหลี เห็นว่านางไม่ลนลานแม้แต่น้อย และไม่มีทีท่าว่าโกหกเช่นกันก้มหัวลงดูของสิ่งนี้ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนหากบอกว่านี่คือขวด วัสดุกลับไม่เหมือน หากพูดว่านี่ไม่ใช่ขวด แต่ยาเม็ดเล็ก ๆ เหล่านั้นกลับใส่อยู่ในนี้จริง ๆ“ในเมื่อเป็นยาเม็ดที่ทำให้เฟิงเต๋อฮูหยินโดยเฉพาะ เหตุใดจึงทำให้เฟิงเต๋อฮูหยินไม่ได้สติเล่า?”ฮ่องเต้น้ำเสียงเคร่งเครียด สายตาเย็นชาโกรธขึ้งที่ด้านข้าง ฮองเฮาโบกมือไปทางองครักษ์เหล่านั้นบรรดาองครักษ์ก็ถอยออกไปอย่างหงุดหงิด“ลั่วจิ่วหลี เฟิงเต๋อฮูหยินก็กินยาในขวดนี้นี่ล่ะ แล้วก็หมดสติไป”ฮองเฮาเสียงเบามาก จ้องลั่วจิ่วหลีตาไม่กะพริบลั่วจิ่วหลีส่ายหัว น้ำเสียงหนักแน่น เผชิญหน้ากับสายตาที่ฮ่องเต้และฮองเฮาเพ่งพินิจนางโดยปราศจากความกลัวใด ๆ“เป็นไปไม่ได้เพคะ นี่คือยารักษาอาการหัวใจวายของเฟิงเต๋อฮูหยิน ไม่ใช่ยาพิษอะไรแน่นอน?”“ยาพิษ?” ที่ด้านข้าง หูกุ้ยเฟยร้องหึอย่างเย็นชาหนึ่งที เดินเข้ามา“ลั่วจิ่วหลี ที่นี่ไม่มีคนบอกว่าเฟิงเต๋อฮูหยินถูกวางยาพิษเสียหน่อย กลับ

  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 99

    เพียงไม่นาน รถม้าก็มาถึงประตูจวนที่นอกรถม้า สวีหมัวมัวเปิดม่านขึ้น“ฮูหยิน คุณหนูรอง ถึงจวนแล้วเจ้าค่ะ”สองแม่ลูกทยอยลุกขึ้นตามกันไป ลงจากรถม้ายังไม่ทันได้เข้าจวน ก็เห็นพ่อบ้านวิ่งตรงออกมาอย่างรวดเร็ว“ฮูหยิน คุณหนูรอง ในวังมีจดหมายมา เชิญให้คุณหนูไปที่พระตำหนักกานเฉวียนทันทีหลังกลับถึงจวนขอรับ”ลั่วจิ่วหลีตะลึง อี้กั๋วกงฮูหยินหนังตากระตุก“เกิดอะไรขึ้น?”พ่อบ้านส่ายหัว“ขันทีที่เชิญพระราชโองการไม่ยอมบอก บอกแค่ว่า ให้คุณหนูรองเข้าวังได้ทันที”“ท่านแม่ไม่ต้องห่วง คงให้ข้าเข้าวังไปตรวจร่างกายเฟิงเต๋อฮูหยินอีกครั้ง”ลั่วจิ่วหลีพูดปลอบประโลมแล้ว เวลานี้ สาวใช้เรือนฝูชวีก็นำกล่องยาออกมาแล้วลั่วจิ่วหลีรับกล่องยามา“สวีหมัวมัว ดูแลท่านแม่ให้ดี ข้าไปไม่นานก็กลับ”“เจ้าค่ะ คุณหนูรอง”สวีหมัวมัวประคองอี้กั๋วกงฮูหยิน มองดูลั่วจิ่วหลีขึ้นรถม้า มุ่งหน้าไปทางประตูวัง“พ่อบ้านจาง”อี้กั๋วกงฮูหยินเห็นรถม้าที่ค่อย ๆ ห่างออกไปแล้ว ก็ขมวดคิ้ว“ฮูหยิน”พ่อบ้านจางก้าวขึ้นมา“เอาเงินตำลึงไปเพิ่มหน่อยสิ ไปสืบข่าวมาที”“ขอรับ”พ่อบ้านจางไหนเลยจะกล้าชักช้า จากไปอย่างรีบร้อนตามความร้อนใ

  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 98

    อี้กั๋วกงฮูหยินมองที่นาง“เจ้าฟังออกหรือ?”“ในเมื่อเจ้ายังเข้าใจแล้ว ถ้าเช่นนั้น ท่านอ๋องเก้าก็คงจะเข้าใจได้เช่นกัน”“ท่านแม่ นี่ท่าน...”“จิ่วเอ๋อร์”อี้กั๋วกงฮูหยินคว้ามือลูกสาวตัวเองไว้“แม้แม่จะอยู่ในเรือนหลังมานาน แต่เรื่องบางเรื่อง ไม่ใช่ว่าแม่ไม่รู้ คราวที่แล้วกุ้ยเฟยเรียกเจ้าเข้าวัง ไม่ได้เป็นเพียงแค่เพราะเรื่องที่เจ้าหย่าร้างกับอ๋องเจา เรื่องที่สองพี่น้องตระกูลหูนั่นใส่ร้ายเจ้า แม่ฟังแล้วเหมือนถูกมีดกรีดหัวใจ”ลั่วจิ่วหลีตะลึง เรื่องคราวก่อน นางปิดบังไว้ไม่น้อย แต่นึกไม่ถึงว่าแม่ก็ยังไปสืบรู้เรื่องนี้มาจนได้“ท่านแม่ ท่านรู้หมดแล้วหรือ?”อี้กั๋วกงฮูหยินพยักหน้าเบา ๆ“ได้รับความอยุติธรรมขนาดนั้น เจ้าไม่บอกแม่ได้อย่างไรกัน?”ลั่วจิ่วหลียิ้มอย่างสบาย ๆ“ก็ไม่ถือว่าได้รับความอยุติธรรมนะเจ้าคะ สองพี่น้องตระกูลหูนั่นก็ไม่ได้รับผลประโยชน์”“เฮ้อ! เจ้านี่นะ”อี้กั๋วกงฮูหยินถอนหายใจเฮือกหนึ่ง“ท่านอ๋องเก้านั้นเป็นยอดคนก็จริง แต่จะว่าอย่างไรท่านก็เป็นเสด็จอาของอ๋องเจา ต่อไปเจ้าอย่าเข้าใกล้มากเกินไปจะดีกว่า เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกนินทา”ลั่วจิ่วหลีได้ยินแล้ว ก็หัวเราะเย้

  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 97

    “แขก?”เช้าตรู่เช่นนี้ ใครกันมาที่จวนอ๋องเก้า แล้วยังส่งจดหมายคารวะมาด้วย?“ใครหรือ?”เซียวหมิงเสวียนน้ำเสียงเรียบเฉย ยื่นมือไปรับจดหมายคารวะ เมื่อเห็นแล้วก็สีหน้าเคร่งขรึมทันที “จวนอี้กั๋วกง?”“ไป เชิญแขกเข้าไปห้องโถงรับแขก”“พ่ะย่ะค่ะ”คนผู้นั้นออกไปที่ด้านข้าง ฉินอิ่นก้าวขึ้นมา“นายท่าน เป็นอี้อั๋วกงฮูหยินกับคุณหนูรองหรือพ่ะย่ะค่ะ?”“อืม”เซียวหมิงเสวียนสีหน้าดูไร้อารมณ์ แต่กลับลุกขึ้นกลับห้องไปเปลี่ยนชุดฉินอิ่นยืนอยู่นอกห้อง ลูบจมูกไปมา รู้สึกว่าวันนี้นายท่านของเขาแปลกไปไม่น้อย นายท่านเปลี่ยนชุดเป็นพิเศษเพื่อเจอคนนอกตั้งแต่เมื่อไรกัน แต่จะว่าไปแล้ว คุณหนูรองตระกูลลั่วก็ไม่ถือว่าเป็นคนนอกถึงนอกเรือนรับแขกแล้ว เซียวหมิงเสวียนก็เห็นสองแม่ลูกกำลังนั่งดื่มชาอยู่วันนี้ลั่วจิ่วหลีสวมชุดกระโปรงยาวสีฟ้าอ่อน ผิวขาวราวกับหิมะ เรียวคิ้วดูเหมือนทิวเขาที่อยู่ไกล ๆ ผัดหน้าเบา ๆ ยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปากเขารู้สึกว่าลั่วจิ่วหลีในแบบนี้ดูเย็นชา เฉียบคมน้อยกว่าปกติ และดูอ่อนโยนอบอุ่นมากขึ้นลั่วจิ่วหลีเหมือนจะรู้สึกได้ว่ามีสายตาจ้องมองนางอยู่ จึงเงยหน้ามองไปทางนอกประตูเห็นเซียวหม

  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 96

    สวีหมัวมัวค้อมตัวคำนับ“บ่าวขอขอบพระคุณความห่วงใยจากคุณหนูแทนชุนหรงเจ้าค่ะ”ลั่วจิ่วหลีรู้สึกอึดอัดไม่น้อย นี่ก็คือระบบชนชั้นสมัยโบราณ แม้บ่าวจะรับมีดแทนนายจนได้รับบาดเจ็บ ก็ยังต้องขอบคุณ แสดงความซาบซึ้งต่อความเมตตาจากนาย “จิ่วเอ๋อร์ นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่? เยียนทิงเหลียนนั่นแหกคุกไม่ใช่หรือ? ถูกจับอีกได้อย่างไร? ได้ยินว่า นางถูกเปลื้องผ้าแล้วไปแขวนไว้บนหอประตูเมืองชั้นนอก เฮ้อ! ช่างเสื่อมเสียจารีตประเพณีบ้านเมืองเสียจริง”ลั่วจิ่วหลีนวดขมับไปมาอย่างจนใจ เมื่อคืนแทบไม่ได้นอน วันนี้นั่งรถม้ามาทั้งวันก็ไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่อีก แต่แม่ถาม นางก็ได้แต่อดทน เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นนอกเมืองให้แม่ฟัง แน่นอนว่า เรื่องบางอย่างที่ต้องปิดบัง นางก็ไม่ได้ปริปากพูดแม้แต่คำเดียว“เจ้าว่าอะไรนะ? อ๋องเก้าเพราะช่วยเจ้า ก็ถูกเยียนทิงเหลียนทำร้ายบาดเจ็บหรือ?”“เจ้าค่ะ”ลั่วจิ่วหลีพยักหน้าเบา ๆ“เยียนทิงเหลียนนั่นไม่ใช่หญิงธรรมดาเลย นางเป็นสายลับของแคว้นซางหนาน ข้าเผลอไปครู่หนึ่ง ยังดีที่มีชุนหรงกับอ๋องเก้า ไม่เช่นนั้น ขณะนี้คนที่นอนปางตายอยู่บนเตียงก็คงเป็นข้าแล้ว”แม้ว่าชุนหรงกับอ๋องเก้าจะไม่ได

  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 95

    “พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมขอทูลลา”เซียวหมิงเสวียนถวายบังคม ก่อนจะหันหลังเดินออกไปจากห้องทรงพระอักษรออกจากประตูวังแล้ว ระหว่างทางกลับจวน เซียวหมิงเสวียนมองฉินอิ่นแวบหนึ่ง“ส่งข่าวไปยังหอหลิงเซียว ให้พวกเขาไปสืบหาเบื้องหลังของเยียนทิงเหลียนที่แคว้นซางหนาน”“พ่ะย่ะค่ะ”ฉินอิ่นพยักหน้า จากนั้นเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้อีก“นายท่าน ข้าน้อยส่งฉินลิ่วไปเฝ้ารักษาการณ์อยู่ที่หอประตูเมืองชั้นนอกแล้ว ฉินลิ่วรายงานกลับมา บอกว่า... อะแฮ่ม”“บอกว่าเยียนทิงเหลียนถูกแขวนตัวเปลือยเปล่าอยู่บนหอประตูเมืองชั้นนอก ทำให้เกิดความโกลาหลไม่น้อย มีคนเร่ร่อนหื่นกามคิดไม่ดี...”ส่วนคิดไม่ดีว่าอะไร ไม่ต้องให้ฉินอิ่นพูดให้ชัดเจน เซียวหมิงเสวียนก็เข้าใจว่าหมายถึงอะไร“หึ!”เซียวหมิงเสวียนยิ้มอย่างเย็นชา“เช่นนั้นแล้วก็เปิดช่องโหว่ให้พวกเขาเสีย ให้เยียนทิงเหลียนลองสัมผัสดูว่าตอนนั้นนางวางแผนทำร้ายลั่วจิ่วหลีอย่างไร”ฉินอิ่นได้ยินแล้ว ในใจก็แอบสวดมนต์ภาวนาให้เยียนทิงเหลียนดูท่า เยียนทิงเหลียนจนตายก็ไม่มีทางรู้ว่า ตอนนั้นที่นางวางแผนจะทำลายความบริสุทธิ์ของคุณหนูรองตระกูลลั่ว แต่คนที่มีความสัมพันธ์กับคุณหนูรองตระ

  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 94

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เยียนทิงเหลียนเดิมทีก็เป็นหญิงงามชั้นยอด เอวบางร่างน้อยราวกับต้นหลิว หน้าอกและบั้นท้ายโค้งเว้าชัดเจน หากใช้คำของอ๋องเจามาอธิบาย นี่คือผู้หญิงที่มอบความสุขให้เขาได้แม้แต่องค์ชายแห่งอาณาจักรหนึ่งยังยอมรับในความงามอันเย้ายวนของเยียนทิงเหลียน นับประสาอะไรกับบรรดาบุรุษธรรมดา ๆเพียงแค่เห็นภาพที่เย้ายวนชวนลุ่มหลงนี้แวบเดียว ก็ทำให้เลือดลมสูบฉีดยิ่งดูยิ่งตื่นเต้น ยิ่งดูยิ่งมีผู้ชายเข้ามารวมตัวกันมากขึ้นมีคนตะโกนว่านี่ช่างเสียของจริง ๆ มีคนป่าวร้องว่าสาวสวยเช่นนี้ถ้าได้ซุกอยู่ในผ้าห่มอุ่น ๆ ด้วยจะมีความสุขขนาดไหนมีคนมือบอนเข้าไปใกล้ ๆ อยากเอานางลงมาใจจะขาด หาความสำราญให้เต็มที่ ก็ถูกทหารที่เฝ้าอยู่ข้าง ๆ ถีบกระเด็นไปอยู่ที่พื้นและยังมีหญิงอารมณ์ร้ายที่เมื่อรู้ว่าสามีตนเองมาจ้องมองดูผู้หญิงเปลือยจนตาแทบออกมานอกเบ้า ก็วิ่งถือไม้นวดแป้งเข้ามาอย่างรวดเร็วราวกับลมพัด มาบิดหูสามีตัวเอง ด่าว่ายกใหญ่ ด่าสามีตัวเองเสร็จยังไม่พอ ยังหยิบทุกอย่างที่หยิบติดมือมาได้ ปาไปที่ตัวเยียนทิงเหลียนอย่างเอาเป็นเอาตายชาวบ้านร้านตลาดหรือ? เพียงแค่มีคนหนึ่งเริ่มต้น คนที่เหลือก็พากันทำตา

  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 93

    “ลงมือ”เซียวหมิงเสวียนไม่แม้แต่จะสนใจดูเยียนทิงเหลียนที่กำลังดิ้นรนกระเสือกกระสน“พ่ะย่ะค่ะ”เมื่อฉินอิ่นผลักเยียนทิงเหลียนไปข้างหน้า ทั้งร่างของเยียนทิงเหลียนก็ทรุดลงไปกองกับพื้นเมื่อหัวหน้าทหารยามทั้งสองโบกมือให้สัญญาณอย่างสุดแรง ด้านหลังก็มีทหารเฝ้าเมืองก้าวขึ้นมาข้างหน้าทีละก้าว ๆ“อื้อ! อื้อ! อื้อ!”เยียนทิงเหลียนถอยหลังโดยใช้ทั้งมือและเท้าหากเวลานี้นางพูดได้ เสียงขอความเมตตาอย่างน่าเวทนาและเสียงร้องโหยหวนก็คงจะทำให้เกิดความสงสารอันเล็กน้อยจนแทบจะไม่มีอยู่เลยขึ้นมาบ้างน่าเสียดาย ตัวนางในขณะนี้วรยุทธ์ถูกทำลาย ลิ้นก็ถูกตัด ได้แต่ทนรับความอัปยศนี้ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ร้องเรียกต่อฟ้าก็ไร้ผล อ้อนวอนต่อดินก็สิ้นหนทาง ทนทุกข์ทรมานแต่เพียงผู้เดียว ดิ้นรนอย่างขมขื่นทันใดนั้นเอง นางก็เห็นว่าบนรถม้าที่อยู่ด้านหลังนั้น ลั่วจิ่วหลีทอดสายตามาที่นางลั่วจิ่วหลี คนชั้นต่ำ นางชั้นต่ำนี่ ต้องเป็นความคิดของเจ้าแน่ ๆ ต้องใช่อย่างแน่นอนเยียนทิงเหลียนหลบทหารเฝ้าเมืองสองคนนั้นที่ไล่ตามมาประชิดตัว โหม่งหัวชนคนหนึ่งจนล้มลง ฝืนทนความเจ็บปวดอย่างรุนแรงบนร่างกาย วิ่งพุ่งตรงไปทางลั่วจิ่วหลี

  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 92

    เมืองชั้นนอกนั้นหลัก ๆ เป็นที่อยู่ของประชาชนทั่วไป และคนมากหน้าหลายตาจากทุกกลุ่มในสังคม เมืองชั้นในล้วนเป็นที่พำนักของขุนนางชั้นสูงและเชื้อพระวงศ์ ส่วนวังหลวงเป็นที่ประทับของฮ่องเต้ ฮองเฮา เหล่าสนมวังหลัง และบรรดาองค์ชายองค์หญิง จวนอี้กั๋วกงกับจวนอ๋องเก้านั้นอยู่ในเมืองชั้นในทั้งคู่ รถม้ากลับหยุดที่เมืองชั้นนอก ลั่วจิ่วหลีประหลาดใจไม่น้อย“ไปกัน ออกไปดูหน่อยกว่าเกิดอะไรขึ้น?”นางพูดพลางผลักประตูรถม้าออก ก็เห็นเซียวหมิงเสวียนที่อยู่ข้างหน้ายืนอยู่บนรถม้าอย่างสง่างามน่าเกรงขามพอดีผู้คนสองข้างทางเมื่อเห็นท่านอ๋องเก้า ก็พากันคุกเข่าลงที่พื้นไม่ไกลจากนั้น มีหัวหน้าทหารยามสองคนที่ทำหน้าที่เฝ้าประตูเมืองชั้นนอกรีบวิ่งเข้ามาอย่างเร่งด่วน“กระหม่อมถวายบังคมท่านอ๋องเก้า”“อืม ลุกขึ้นเถอะ”เซียวหมิงเสวียนน้ำเสียงเย็นชาเรียบเฉย“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องเก้า”หัวหน้าทหารยามทั้งสองลุกขึ้น“ฉินอิ่น”เซียวหมิงเสวียนโบกมือให้สัญญาณไปทางด้านหลัง“พ่ะย่ะค่ะ”ฉินอิ่นขานรับ จากนั้นก็คุมตัวคนคนหนึ่งเดินไปที่หน้าหัวหน้าทหารยามสองคนนั้น เมื่อลั่วจิ่วหลีมองให้ดี ๆ คนที่ถูกคุมตัวมาไม่ใช่เ

DMCA.com Protection Status