Share

หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป
หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป
ผู้แต่ง: ปีศาจเจ้าสำราญ

บทที่ 1

ภายใต้ร่มเงาของต้นไม้ที่ประดับประดาด้วยผ้าแพรแดง บุรุษรูปงามในชุดเกราะสีเงินยืนตรงอย่างสง่างามประดุจต้นสนอยู่เบื้องหน้านาง

“จิ่วหลี เสด็จพ่อทรงตกลงพระราชทานสมรสให้พวกเราแล้ว รอข้ากลับมาจากสนามรบ จะจัดขบวนรับเจ้าสาวสิบลี้มารับเจ้าเป็นภรรยา”

สตรีที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา ดวงตาคู่งามดุจสายน้ำใสแฝงความสะเทิ้นอาย

“พระชายา พระชายาเพคะ”

เสียงใครบางคนดังแว่วข้างหู ลั่วจิ่วหลีอยากตื่นขึ้นมา ทว่าความเจ็บปวดราวถูกลงทัณฑ์แผ่ซ่านไปทั่วร่าง ทำให้นางไม่อาจลืมตาได้เลย

ทันใดนั้น ภาพหนึ่งแวบผ่านเข้ามา ชายหนุ่มในชุดเกราะเงินขี่ม้าศึกตัวใหญ่กลับมาจากการทำศึกพร้อมชัยชนะ แต่ในอ้อมแขนของเขากลับมีสตรีงามแปลกหน้าผู้หนึ่ง

เทียนแดง อักษรมงคล และเกี้ยวเจ้าสาวสองคันถูกยกเข้าจวนอ๋องเจาโดยคันหนึ่งอยู่หน้า อีกคันตามหลัง

จู่ ๆ ภาพก็เปลี่ยนเป็นเบื้องหน้ากรอบหน้าต่างไม้แกะสลักบานหนึ่ง

ชายหนุ่มสวมอาภรณ์หลวมหลุดลุ่ย บนแผ่นหลังเต็มไปด้วยรอยข่วน ใต้ร่างของเขา สตรีนางหนึ่งมีเพียงผ้าผืนบางคลุมร่างกายเพียงสามจุด แทบไม่อาจปกปิดเรือนร่าง

“ชายโฉดหญิงชั่ว ข้าจะฆ่าพวกเจ้า!”

สตรีผู้หนึ่งแบกท้องที่ตั้งครรภ์ มือกำกระบี่ยาวไว้มั่น ดวงตาฉายชัดถึงความเคียดแค้น เงื้อมือฟันกระบี่ลงไป

หญิงร้ายชายเลวสะดุ้งหันขวับมาทั้งคู่ เผยให้เห็นใบหน้าของชายผู้นั้นอย่างชัดเจน ส่วนหญิงงามใต้ร่างกลับยิ้มพราย แฝงแววเจ้าเล่ห์ เปี่ยมด้วยความยั่วยวน

ทันใดนั้น เสียงกรีดร้องปานจะขาดใจพลันดังขึ้นมา ภาพแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานของโลหิต

ทารกชายตัวผอมวัยหกเดือนนอนนิ่งในอ่างทองแดง ทั้งร่างเขียวช้ำชุ่มโชกโลหิต ไร้ซึ่งลมหายใจ

ภาพสีเเดงเบื้องหน้านางกลายเป็นความมืด สตรีร่างโชกเลือดผู้หนึ่งกอดร่างไร้วิญญาณของทารกน้อยไว้ในอ้อมแขน จ้องมองมาทางลั่วจิ่วหลีด้วยสายตาเปี่ยมความเศร้าโศกและโกรธแค้น

“ลั่วจิ่วหลี ล้างแค้น ล้างแค้นให้พวกเราที”

เสียงแว่วล่องลอยแฝงความโศกสลดเคียดแค้นดังขึ้นก่อนจะค่อย ๆ ห่างไกลออกไป และแผ่วเบาลงจนกระทั่งไม่ได้ยินอีก

ลั่วจิ่วหลีพลันลืมตาขึ้นมา แต่สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าคือบ่าวเฒ่าหน้าตาน่ากลัวและกริชคมกริบที่พุ่งตรงเข้ามาหา

ฉึก!

คมกริชปักเข้าที่หัวไหล่ ทำให้เหงื่อเย็นผุดขึ้นบนหน้าผากนางทันที

ในฐานะแพทย์ทหาร ลั่วจิ่วหลีใช้พลังใจอันแข็งแกร่งเตะบ่าวเฒ่าจนล้มลงไปกับพื้น มือข้างหนึ่งบีบคอของบ่าวเฒ่าไว้แน่นอย่างรวดเร็ว

อีกมือหนึ่งไม่รีรอ จ้วงแทงดวงตาของบ่าวเฒ่าอย่างไร้ปรานี

“อ้าก”

บ่าวเฒ่ากรีดร้องโหยหวน

“พระชายาได้โปรดไว้ชีวิต บ่าวเองก็ถูกบีบบังคับ เป็นชายารองเหลียน...”

กร๊อบ!

“การไว้ชีวิตศัตรูเป็นหน้าที่ของพระพุทธองค์ แต่ข้าชอบส่งศัตรูไปปรโลกมากกว่า”

ลั่วจิ่วหลีไม่คิดจะฟัง บิดคอนางจนเสียงกระดูกดังลั่น น้ำเสียงเย็นเยียบดุจดั่งวิญญาณร้ายที่ปีนออกมาจากนรก

เมื่อจัดการกับบ่าวเฒ่าเสร็จ ลั่วจิ่วหลีก็ทรุดตัวลงนั่งกับพื้น มือกุมไหล่ที่บาดเจ็บไว้ นางจำได้ว่าก่อนหน้านี้ตนเองกำลังลองสวมแหวนโบราณที่เพื่อนสนิทนักโบราณคดีส่งมาให้

จากนั้นก็เหมือนสติดับวูบ ต่อมาก็มองเห็นภาพในความฝันพวกนั้น

เจ้าของร่างเดิมนามลั่วจิ่วหลี อายุเพียงสิบเจ็ดปี เป็นบุตรีคนรองสายตรงของจวนอี้กั๋วกงแห่งแคว้นฉางหนิง เจ็ดเดือนก่อน นางแต่งงานกับเซียวจูมั่ว อ๋องเจา คิดไม่ถึงว่าในวันแต่งงาน เซียวจูมั่วกลับรับเยียนทิงเหลียน บุตรีบุญธรรมของรองผู้ดูแลหน่วยพิธีกรรมเข้าพิธีแต่งงานพร้อมกัน เจ้าของร่างเดิมนั้นมีจิตใจอ่อนโยนและรักเซียวจูมั่วสุดหัวใจจึงยอมรับชะตากรรมอันน่าอดสูนี้

นับจากนั้นมา เจ้าของร่างเดิมก็กลายเป็นสตรีที่ถูกทอดทิ้งจนกระทั่งตั้งครรภ์ แต่แล้วก็ถูกวางยาพิษด้วยหญ้าเซิงเฉ่าอูและต้องเห็นภาพสองคนนั้นพลอดรักกันต่อหน้าต่อตา จึงสะเทือนใจทบเท่าทวีคูญจนเสียชีวิตพร้อมลูกในท้อง

เดิมนั้น หลังจากแท้งลูก เจ้าของร่างเดิมก็ตกอยู่ในอาการหมดสติ เซียวจูมั่วไม่กล้าให้ข่าวแพร่งพรายออกไปด้วยกริ่งเกรงจวนอี้กั๋วกงจึงสั่งให้นำเจ้าของร่างเดิมไปทิ้งไว้ที่เรือนรับรองหลังหนึ่งแถบชานเมืองหลวง ไม่คาดคิดว่า...

“ไอ้ผู้ชายชั่วคนนี้ ทรยศหักหลัง หลงอนุเหยียบย่ำภรรยาเอก เป็นสัตว์เดรัจฉานที่แม้แต่สวรรค์ก็ไม่อาจยอมรับได้”

ลั่วจิ่วหลีสาปแช่งเสียงดัง ก่อนจะดึงกริชที่ปักอยู่บนไหล่ออกมา เลือดพุ่งกระจายทันที นางขมวดคิ้วบางแน่นด้วยความเจ็บปวด แต่ก็ฝืนทนไว้

ไม่นานนัก ลั่วจิ่วหลีก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ นางเห็นว่าแหวนโบราณบนนิ้วมือเจ้าของร่างเดิมมีลักษณะเหมือนแหวนวงที่นางเคยลองใส่ก่อนหน้านี้ไม่มีผิด เลือดสด ๆ ที่เปื้อนอยู่บนแหวนถูกดูดซึมเข้าไปในแหวนด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

“นี่มันเรื่องบ้าอะไร”

นิ้วมือของนางรู้สึกอุ่นวาบ ยาห้ามเลือด ผ้าพันแผล ยาเม็ดอี้หมูเฉ่า[2]และอะซิโทรมัยซิน[3]พลันปรากฏขึ้นบนมือของนาง ทั้งหมดเป็นยาที่ใช้ในการรักษาบาดแผลและอาการแท้ง

แม้ลั่วจิ่วหลีจะเคยรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินมามากมาย แต่ความลึกลับของแหวนโบราณวงนี้ก็ยังทำให้นางประหลาดใจเกินคาด

นางนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะรีบกินยาและทำความสะอาดบาดแผล ถึงแม้จะสงสัย แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมานั่งศึกษาแหวนโบราณวงนี้

เผื่อว่าจะมีคนเฝ้าอยู่ด้านนอกเรือน หลังจากทำแผลเสร็จ ลั่วจิ่วหลีจึงตัดสินใจปีนออกทางหน้าต่างด้านหลัง

นางวิ่งเข้าไปในป่าท่ามกลางแสงจันทรา ไม่รู้ว่าเดินมาไกลแค่ไหน จนกระทั่งได้ยินเสียงดังก้องมาจากที่ไม่ไกลนัก นางรู้สึกยินดีจึงรีบเร่งฝีเท้า

เพียงแต่ว่าทันทีที่โผล่ออกจากป่า ลั่วจิ่วหลีก็เห็นสิ่งมหึมาที่ปรากฏตรงหน้าจนหวาดหวั่นไปทั้งใจ

มันคือพญาอินทรีร่างใหญ่สีขาวราวหิมะ มีจะงอยปากแหลมยาวและขนสีแดงสดกระจุกหนึ่งอยู่บนหน้าผาก ขณะนี้ ร่างมหึมาของมัน กรงเล็บที่แหลมคมและดวงตาสีดำขลับแฝงเพลิงพิโรธโฉบตรงมายังลั่วจิ่วหลี

นางยังไม่ทันได้สบถคำด่าก็ต้องพุ่งตัวกลิ้งหลบไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว ปลายเท้าของนางเหยียบลงบนต้นไม้อย่างแรง ก่อนจะทะยานขึ้นไปบนหลังของพญาอินทรี บริเวณที่นางยืนอยู่เมื่อครู่ถูกกรงเล็บแหลมคมขยุ้มจนเป็นร่องลึกหลายแห่ง

“สวรรค์ ที่นี่มันที่ไหนกันแน่?”

สิ้นเสียงลั่วจิ่วหลี พญาอินทรีก็กระพือปีกมหึมาทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าเหนือน้ำตกผืนนั้น

----------------------------------------------

[1] ยาเม็ดอี้หมูเฉา เป็นยาสมุนไพรจีนที่ทำจากอี้หมูเฉ่า มักใช้ในการรักษาอาการเกี่ยวกับสตรี เช่น ปรับสมดุลประจำเดือน

[2] อะซิโทรมัยซิน เป็นยาปฏิชีวนะชนิดหนึ่ง ใช้ในการรักษาการติดเชื้อแบคทีเรียในร่างกาย เช่น การติดเชื้อทางเดินหายใจและทางเดินปัสสาวะ

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status