“เรียกพี่อิฐสิครับ”
“อื้อ...พี่อิฐ...พี่อิฐ...กะทิ...จะไม่ไหวแล้ว อือ...” เกวลินหยัดสะโพกขึ้นรับนิ้วร้ายกาจที่พาให้เธอไปถึงจุดสุดยอด ความเสียวซ่านแล่นไปทั่วร่าง สองมือยกขึ้นกอดร่างเขาไว้ แนบใบหน้ากับซอกคอของชายหนุ่มแล้วปล่อยเสียงครางหวานสุดเสียง
อิทธิพลรับรู้ได้ถึงแรงขมิบรัดที่ปลายนิ้ว เขาถอนนิ้วออกแล้วจูบขมับหญิงสาว “คราวนี้ขอพี่นะครับ”
เกวลินเพิ่งได้สติ ยกมือดันแผงอกของเขาไว้ก่อน เขาเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม เธอกัดริมฝีปากครู่หนึ่งข่มความเขินอายแล้วพูดเสียงแผ่วเบา
“หมอ...เอ่อ...พี่...พี่อิฐ...มะ...มี...มี...มีถุงยาง...ใช่ไหมคะ”
“ครับ” เขายิ้มรับ “อยากได้แบบไหนเป็นพิเศษไหม”
ดวงตาคู่สวยกะพริบอย่างงุนงง เธอไม่เชี่ยวชาญเรื่องนี้จะรู้ได้ไง ในวินาทีนาทีต่อมาก็ได้ยินเสียงเขาหัวเราะในลำคอ ขยับตัวขึ้นไปหยิบอะไรบางอย่างที่ลิ้นชักโต๊ะข้างเตียงนอน
“แบบผิวเรียบ แบบบางเฉียบ แบบผิวไม่เรียบ แบบปุ่ม อ้อ! มีกลิ่นกลิ่นสตรอเบอรี่ กับกลิ่นวนิลา แบบสีก็มีนะ คุณแพ้แบบไหนหรือเปล่า”
เธอกะพริบตาปริบๆ จะบอกว่าขอถุงยางสำหรับผู้หญิงที่ยังเวอร์จิ้นได้ไหม
“ถ้างั้นผมเลือกให้แล้วกันนะ” เขายิ้มขำ จูบมุมปากแล้วขยับมาที่ริมฝีปากสวย
จูบของเขาปล้นสติของเธอไปหมดสิ้น มอบความเร่าร้อนให้ร่างกายร้อนรุ่มขึ้นมาอีกระลอก เรียวขาโอบรัดเอวสอบขณะที่ปลายนิ้วของเขาขยี้ปลายถันส่วนอีกมือก็ลูบไล้ไปทั่วร่างจนเธอผ่อนคลายลง ดอกไม้สาวหลั่งน้ำหวานออกมาอีกครั้งทำให้ชายหนุ่มค่อยๆ กดแก่นกายแทรกลงไปในร่องรัก คิ้วงามขมวดแน่น ความอึดอัดทำให้เธอหายใจติดขัด
“พี่อิฐ” เธอครางเรียกชื่อเขาเมื่อท่อนเอ็นใหญ่ยาวนั้นถูกกดเข้ามาในตัวเธอ
“อา...” ความคับแน่นที่บีบรัดทำให้อิทธิพลถึงกับถอนจูบแล้วครางเสียงต่ำ แต่ไม่คิดถอนตัวตนออกมาและไม่มีวันถอยหลังกลับอีกแล้ว
“อ๊า!” หญิงสาวจับบ่าเขาแน่น เล็บที่ตัดสั้นสะอาดแต่ยังจิกเนื้อเขาอย่างไม่รู้ตัว ราวกับสิ่งนั้นของเขาร้อนรุ่มและเหยียดขยายใหญ่ เขาค่อยๆ ขยับสะโพสอบเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้า แต่ทำให้เธอเสียวซ่านทำได้เพียงแค่ครางพร้อมหอบหายใจแรง เสียงหายใจเริ่มถี่กระชั้นขึ้นเมื่อการขยับเคลื่อนไหวของเขาเร็วขึ้น ที่ทุกครั้งที่เขาบดเบียดนำพาความรู้สึกวาบหวามยากจะทนไหว เธอยกสะโพกขึ้นรับการขยับตัวของเขา อยากให้เขาเข้ามาลึกกว่านี้ แนบแน่นกว่านี้ หลอมรวมเป็นเนื้อกายเดียวกัน
การตอบสนองแสนซื่อสัตย์ของหญิงสาวเกินกว่าที่อิทธิพลจะรับไหว เขาขยับเอวอย่างดุดันแทบกดร่างเล็กจมเตียง ส่งตัวตนเข้าไปจนสุดรับรู้ถึงแรงบีบรัดและร่างกายที่เกร็งกระตุกไปอีกรอบของเธอ แต่เขายังไม่หยุดเคลื่อนไหว
“ไม่ไหว...ไม่ไหวแล้วนะคะ” เกวลินร้องบอกเสียงสั่นพร่า ร่างสั่นไหวไปตามแรงกระแทกกระทั้น เขาจับเอวเธอไว้มั่นแล้วขยับเอวดุเดือด
“อีกนิดนะครับ”
เสียงเขาก็แหบพร่าไม่แพ้กัน ความอ่อนนุ่มที่โอบรัดแก่นกายแน่นทำเอาแทบคลั่ง เขาขยับเอวทั้งเร็วทั้งแรง เสียงลมหายใจหอบถี่จนแยกไม่ออกว่าเป็นเสียงของใคร จนความอดกลั้นพังทลายเขาส่งแก่นกายเข้าไปจนสุดแล้วปลดปล่อยความเสียวซ่านในกายสาวพร้อมกับหญิงสาวที่หวีดร้องเพราะถึงจุดสุดยอดอีกครั้ง
เขาถอนแก่นกายออกช้าๆ ถึงจะไม่มีคราบเลือดแต่เขาก็คาดเดาได้ไม่ยากว่านี่เป็นครั้งแรกของเธอ หรือถ้าไม่ใช่...เธอก็คงไม่ได้มีอะไรกับใครมานานมากๆนั้นแหละ แต่เรื่องพวกนี้เขาไม่ได้ใส่ใจเท่ากับท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู ราวลูกแมวตัวน้อยที่เล่นซนหมดฤทธิ์จนผล็อยหลับไปแบบนี้ เขาดึงคนตัวเล็กเข้ามากอด แต่เหมือนว่าเขาจะทำพลาดไป เพราะร่างกายท่อนล่างมันกลับแข็งขันขึ้นมาอีกครั้ง
อะไรที่มันดุนดันอยู่ ทำให้เกวลินปรือตาขึ้นมองแล้วค่อยหลุบมองเจ้าต้นเรื่องที่มันทิ่มหน้าท้องของเธออยู่
“เจ็บหรือเปล่า”
เกวลินกัดริมฝีปากแล้วส่ายหน้าไปมา
“ถ้างั้น...ขออีกรอบได้ไหม”
ดวงตากลมเบิกกว้าง เมื่อกี้ก็เหนื่อยยิ่งกว่าวิ่งรอบสนามฟุตบอล นี่...เขาจะไม่พักเลยเหรอ
“พี่ยังไม่อิ่ม ขออีกรอบนะครับ” เขาอ้อนอย่างไม่เคยทำมาก่อน เพราะคนตรงหน้าเด็กกว่าหรือไง เขาถึงทำตัวเป็นเด็กไม่รู้จักควบคุมตัวเองแบบนี้
“ถ้าไม่ให้ล่ะคะ” เธอถามแต่ก็อดสงสารคนหิวไม่ได้ “มันก็จะเป็นแบบนี้เหรอ”
“อืม...” เขาครางเสียงต่ำเมื่อมือนุ่มลูบไล้แก่นกายเบาๆ เขาจับมือเล็กที่เกาะกุมสาวลำเอ็นเป็นจังหวะพลางส่งเสียงครางอย่างพอใจ แน่ล่ะ เขาอยากได้มากกว่านี้ อยากอยู่ในตัวเธอที่อ่อนนุ่มและรัดแน่นจนแทบคลั่ง อิทธิพลดึงเธอมาจูบและเคล้นทรวงอกคู่สวย หญิงสาวขยับตัวเข้าหาอย่างเต็มใจในขณะที่มือยังช่วยกำรูดแก่นกายจนมันขยายใหญ่และร้อนระอุขึ้น สีหน้าและแววตาที่บอกความต้องการเต็มเปี่ยม ดูเซ็กซี่ยั่วยวนจนกายสาวเปียกแฉะขึ้นมาอีกครั้ง
“ใส่เลยได้ไหม รอไม่ไหวแล้ว” เขาถามแต่ไม่รอคำถาม คว้าซองถุงยางอนามัยมาฉีกออกแล้วสวมทันที เขาตัวขึ้นเหนือร่างอวบอิ่ม จับเรียวขาเพรียวขึ้นพาดบ่าใช้นิ้วสำรวจร่องรักอีกครั้งเพื่อความมั่นใจว่าเธอพร้อมสำหรับแล้ว แต่การใช้นิ้วเบิกทางนั้นทำให้หญิงสาวบิดกายเร่าและครางออกมา
“อื้อ...พี่อิฐ...เสียวนะคะ”
“เดี๋ยวจะเสียวกว่านี้”
เขายิ้มมองใบหน้าสวยแดงจัดแล้วกดแก่นกายเข้าไปในร่องรักสีหวานและส่งครางอย่างสุขสมเมื่อส่งตัวตนเข้าไปจนสุด สะโพกกลมกลึงลอยเหนือที่นอน เขากระแทกเข้ามาทีเดียวมิดลำ เสียงหวีดร้องครางหวานก่อนกลายเป็นเสียงครางกระเส่า ท่วงท่านี้ทำให้แก่นกายเข้าไปลึกกว่าที่เคย มันกระแทกจุดเสียวกระสันจนร่างกายเธอสั่นสะท้าน ได้แต่หอบหายใจแรง เขามองทรวงอกที่ไหวกระเพื่อมตามแรงกระแทก เขาเอื้อมมือไปเขี่ยจุดอ่อนไหวเพิ่มความเสียวซ่าน เกวลินได้แต่หอบหายใจแรงเป็นเสียงครางกระเส่า เธอถูกเร่งเร้าจนช่องท้องหวิวเหมือนจะขาดใจ และกรีดร้องเมื่อถูกส่งไปจนถึงจุดสุดยอด แรงตอดรัดที่โอบรัดแน่นทำให้เขาคำรามออกมา จับสองขาของเธอลงจากบ่าลงมาแล้วแยกออกจนสุด โน้มตัวลงมาดูดกลืนปลายถันจนเปียกชุ่มสลับขบเม้มอย่างมันเขี้ยวก่อนส่งเข้าโพรงปากแล้วตวัดลิ้นหยอกปลายถัน
เกวลินสอดนิ้วไปในกลุ่มผมนุ่มมือและแอ่นอกส่งเข้าปากเขาอย่างลืมตัว ลิ้นร้อนปรนเปรอทั้งซ้ายขวา สะโพกสอบยังคงเคลื่อนไหวอย่างดุดันและถี่กระชั้น เขาผละจากทรวกอกแล้วใช้แขนสองข้างหยัดกายขึ้นเหนือร่าง เหงื่อไหลอาบร่างทั้งทีแอร์เย็นฉ่ำแต่ไม่ได้ช่วยลดความเร่าร้อนลงได้เลย เขาซอยรัวแรงแล้วเปลี่ยนจังหวะเป็นบดเบียดเสียดลึกราวกับอยากยืดเวลาเสียวซ่านให้นานขึ้นอีก มันทั้งทรมานและสุขสมในเวลาเดียวกัน เขาโน้มหน้าลงใกล้ใบหู ตวัดลิ้นดูดติ่งหูดุจไข่มุกเม็ดงาม เธอสั่นสะท้านกับการหยอกล้อของเขา “ขอเปลี่ยนท่านะครับ” น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยบอกค่อยๆถอนแก่นกายออก ร่องรักรัดแน่นจนเขาต้องซูดปาก เขาจับร่างอ่อนนุ่มพลิกคว่ำ จับสะโพกเธอขึ้นแล้ว ตบแก้มก้มเบาๆ ก่อนกดท่อนเอ็นเข้าไปอีกครั้ง เธอยื่นมือไปยึดหัวเตียงไว้เพื่อทรงตัวรับแรงกระแทกจากด้านหลัง เสียงเขาครางอย่างพอใจขณะเริ่มโยกเอวอีกรอบ เข้าสุดออกสุดทำเอาหญิงสาวสะบัดหน้าไปมาแล้วเอี้ยวตัวหันไปมอง “ให้ตาย! แน่นชะมัด” “ลึก...ลึกจัง..เสียว...เสียวจังค่ะ” “รอบนี้เสร็จพร้อมกันนะ” ร่างเล็กถูกกระแทกจนสั่นไ
“เดี๋ยวนะครับ...” เขาเรียกและเปิดกระเป๋าสตางค์หยิบธนบัตรสีเทาส่งให้เธอห้าใบ“ค่าอะไรคะ” เธอถามแล้วเชิดปลายคางขึ้น “ยื่นเงินให้หลังมีเซ็กส์นี่รู้สึกแปลกๆ นะคะ”“อย่าเข้าใจผิดนะครับ เอ่อ...ผมจะให้ค่ารถที่คุณมาส่งผม”“ค่าขับรถมาส่งไม่กี่ร้อยหรอกค่ะ แต่ปกติกะทิต้องแจ้งค่าบริการก่อน เพราะเป็นแบบเหมาจ่ายไม่ได้ติดมิเตอร์เหมือนรถแท็กซี่ แต่กะทิลืมลืมแจ้งเอง เพราะงั้นครั้งนี้ไม่ขอรับเงินก็แล้วกันค่ะ”“แต่...”“ไปนะคะ ต้องรีบไปจ่ายตลาดแล้วค่ะ”เธอจำได้ว่าฉีกยิ้มกว้าง แถมโบกมือลาให้อีก แล้วรีบเผ่นออกจากมาอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ใช่แค่ต้องเอารถกลับมาให้ทันพี่ชายเอาไปใช้งาน แต่เธอไม่กล้าสู้หน้าเขาต่างหาก เสียงถอนหายใจครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ ตอนมีเซ็กส์กันก็รู้สึกดี แต่หลังจากนั้นแล้วทำไมมันรู้สึกใจหวิวๆ แปลกๆ ที่ผ่านมา ‘แอบรัก’ มาตลอด เป็นความรู้สึกที่อบอุ่นและหอมหวานเหมือนขนมที่อบเสร็จใหม่ๆ แต่หลังจากมีอะไรกันแล้ว เธอกลับรู้สึกเหมือนคนตื่นมาพบความจริง ความสุขที่ได้แอบคิดถึงใครสักคนมันหายไปหมด หรือจริงๆ แล้ว สิ่งที่เธอ ‘รู้สึก’ เป็นสิ่งที่เธอนึกคิดไปฝ่ายเดียว ซึ่งมันก็ไม่ใช่ความผิด
“ค่ะ” หญิงสาวเปิดกระเป๋าที่ห้อยหลังรถเข็นหยิบกล่องขนมและน้ำผลไม้ส่งให้คุณเกริกและลาวัลย์ “บ้านกะทิทำข้าวกล่องแล้วก็จัดชุดขนมของว่างอะไรพวกนี้ด้วยนะ ถ้าบริษัทเธอ เอ๊ย! ตอนนี้ของลูกชายแล้วสิ ถ้าบริษัทจัดประชุมสัมมนาอะไร สั่งยัยหนูได้ ของเขาอร่อย สะอาด ราคาไม่แพง ฉันสั่งกินประจำเลย” “เชียร์ขนาดนี้ต้องอุดหนุนแน่นอนจ๊ะ” คุณลาวัลย์อดมองหญิงสาวตรงหน้าไม่ได้ ท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู สดใสร่าเริง ที่บ้านก็มีแต่ลูกชายบ้างาน ถ้ามีลูกสาวน่ารักๆ แบบนี้ก็คงดีไม่น้อย “หนูชื่ออะไรนะจ๊ะ” “เกวลินค่ะ เรียกกะทิก็ได้” “ชื่อน่ารักจริงๆ” “พี่ชายชื่อตะโก้ค่ะ แม่เลยตั้งชื่อลูกสาวให้เข้ากับพี่ชาย” เกวลินหัวเราะเสียงใส “มีอะไรให้กะทิช่วยไหมคะ ต้นไม้ตรงนั้นขยับไปทางขวาอีกนิดดีไหมคะ คนจะได้เดินเข้าไปดูด้านในได้สะดวก” “จริงสิ ตั้งต้นไม้ตันทางเข้าร้านตัวเอง” เกริกหัวเราะออกมาและให้หญิงสาวเข้าไปขยับต้นไม้ให้ “กระถางต้นไม้สวยๆ เอาไว้ข้างหน้าให้คนเห็นชัดๆ” เกวลินพึมพำแล้วขยับต้นไม้ใหม่ “แค่นี้ก็แจ่มแล้วค่ะ” “ขอบใจหนูกะทิมาก
เกวลินยกข้าวกล่องไปใส่ท้ายรถมอเตอร์ไซค์ สวมหมวกกันน็อกแล้วขับไปโรงพยาบาลเหมือนทุกครั้ง แต่ทุกทีไปถึงที่หมายแล้ว เธอจะโทรหาพยาบาลที่สนิทสนมกันเพื่อนำอาหารขึ้นไปส่ง แต่คราวนี้คนที่ออกมารับอาหารเองกลับเป็นนายแพทย์อิทธิพล“หมออิฐ มีอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมมารับอาหารเอง” เธอขมวดคิ้วขึ้นมาทันที หรืออาหารจะมีปัญหาทำให้หมออิฐต้องมารับเอง“เปล่าครับ” เขาส่ายหน้าไปมา เห็นเธออ้าปากจะถามก็รีบพูดขึ้นมาก่อน “ผมมีเวลาห้านาที จะถามว่าเย็นนี้คุณว่างไหม”“เย็นนี้...ถ้าหลังหกโมงเย็นก็ว่างค่ะ ตอนห้าโมงมีคิวไปให้ข้าวแมวจรค่ะ ลูกค้าประจำผูกปิ่นโตไว้” เธอหมายถึงมีคนจ้างให้เธอไปให้ข้าวแมวนั้นแหละ“ดีครับ ผมหาเพื่อนไปกินหมูกระทะ ถ้าไปกินคนเดียวทางร้านจะบวกค่าเตาเพิ่ม คุณรับงานเพื่อนเที่ยวใช่ไหม ไปกินเป็นเพื่อนผมหน่อย ถ้าคุณจะถามว่าทำไมไม่ชวนเพื่อนที่ทำงานไป ก็ตอบเลยว่าผมไม่อยากมีปัญหาว่ามีเรื่องชู้สาวในที่ทำงาน”“อ่อ” เกวลินลากเสียงยาว “ได้ค่ะ หมออิฐจะไปร้านไหนคะ ให้กะทิจองร้านให้เลยไหม” หมอหนุ่มบอกชื่อร้านออกไป หญิงสาวพยักหน้ารับ หยิบโทรศัพท์มือถือมากดบันทึกตารางงาน ขณะที่จิ้มๆ ข้อความนั้น เสียงเวรเปลร้องเ
“งานที่เราทำอยู่ เอ่อ...พี่ว่าน่าสนใจดี เคยเห็นผ่านๆในอินเตอร์เนท”“อ่อ...” เธอพยักหน้ารับ “จริงๆ แล้วกะทิไม่ได้จะทำงานแนวๆนี้ แต่ที่บ้านทำร้านอาหาร คือเมื่อก่อนคุณแม่ทำข้าวแกงขายแล้วขยับมาเปิดเป็นร้านอาหาร แล้วเราก็มีส่งตามบ้านบ้าง กะทิพอมีเวลาเลยอาสาขับรถส่งเอง จะได้ประหยัดต้นทุนไม่ต้องจ้างคนอื่น หรือจ้างก็ให้น้อยที่สุด พอร้านเริ่มเข้าที่เข้าที่มีลูกจ้างก็มีจ้างส่งของบ้าง เข้าร่วมกับแอปขายอาหารบ้าง แต่ถ้าเราไปส่งเองก็ได้คุยกับลูกค้าด้วย จะว่าไปก็ตั้งแต่ปั่นจักรยานเป็นก็หิ้วแกงถุงไปส่งตามบ้านได้แล้วล่ะค่ะ กะทิก็เลยไม่รู้สึกอายอะไรกับงานที่ทำอยู่”“ไม่เห็นน่าอายเลย น่าภูมิใจต่างหาก” เขายิ้มแล้วเป็นฝ่ายคีบเนื้อย่างส่งให้เธอบ้าง “ร้านนี้น้ำจิ้มอ่อนไปหน่อยว่าไหม”“คิดเหมือนกันเลยค่ะ” เธอหัวเราะเบาๆ แล้วทำท่าป้องปากกระซิบ “ใช้น้ำจิ้มสำเร็จแน่ๆ ถ้าพี่ชายกะทิมากินต้องบ่นไปสามวันเจ็ดวันเลยค่ะ”“แต่ของอย่างอื่นเขาก็สดอยู่นะ ว่าจะตบด้วยไอติมสักถ้วย”“กะทิก็ว่าจะกวาดบนเตาให้หมดแล้วชิมไอติมสักถ้วยเหมือนกันค่ะ” เธอยิ้มทะเล้น“แล้ว..กะทิเรียนจบอะไรมา”“บริหารค่ะ” เธอตอบอย่างรวดเร็ว “สมัครงานไว้หลา
“ตื่นเต้นเหรอกะทิ” วายุเอ่ยถามขณะที่วันนี้ทำหน้าพลขับ ขับรถมาส่งของกับเกวลิน “ถ้าบอกว่าไม่ตื่นเต้นก็เหมือนกับโกหก” เกวลินยิ้มแหย “ลูกค้าสั่งขนมไปชิมตั้งเยอะ ไม่รู้จะสั่งของเราประจำไหม พี่ตะโก้ก็อยากมาด้วยเพราะกลัวกะทิโดนหลอก แต่งานที่ร้านไม่มีคนดูก็ไม่ได้ ยังไงก็ต้องขอบคุณพี่วายุที่อุตส่าห์ขับรถมาเป็นเพื่อนกันนะคะ” “อย่าคิดมากสิครับ ยังไงพี่ก็เป็นคนมารบกวนกะทิ ทั้งกินทั้งนอนที่บ้าน” “รบกวนอะไรกันค่ะ ครอบครัวเดียวกันอย่าพูดอะไรแบบนี้สิ” เธอหัวเราะเสียงใสออกมา แล้วก็ต้องอ้าปากค้างที่เห็นหมู่บ้านหรูหราตรงหน้า “พี่วายุขับรถมาผิดที่หรือเปล่าคะ” “ก็ไม่นะ พี่มาตามแผนที่ บ้านลูกค้าของกะทิอยู่ในหมู่บ้านนี้” หญิงสาวเผลอกัดริมฝีปากครุ่นคิด เธอไปบ้านน้าอิ่มสุขบ่อยๆ เพราะต้องไปส่งของ บ้านหลังนั้นเล็กกระทัดรัด เธอก็เลยคิดว่าลูกค้าที่น้าอิ่มสุขแนะนำคงมีฐานะใกล้เคียงกัน แต่นี่...หมู่บ้านแบบนี้ บ้านแต่ละหลังน่าจะหลายสิบล้านเลย สงสัยว่างานขายต้นไม้จะเป็นงานอดิเรกจริงๆ “ไม่ต้องกลัวไปหรอก ขนมที่ตะโก้กับกะทิทำอร่อยอยู่แล้ว ถ้าลูกค้
“อ้อ!แบบนี้เอง” ลาวัลย์พยักหน้าเข้าใจ “ตกลงเราสั่งขนมของหนูกะทินี่แหละ เอ้า!ตาหิน จ่ายค่าขนมให้น้องสิ” “อ้าว คุณแม่สั่งให้ผมจ่ายแบบนี้จะเรียกว่าแม่ซื้อให้กินได้ยังไงละครับ” ลูกคนโตแสร้งโอดครวญแต่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา “ขอโอนจ่ายนะครับ ไม่เตรียมเงินสดมา” “ได้ค่ะ” เกวลินยิ้มรับแล้วบอกยอดโอนและตามด้วยเบอร์พร้อมเพย์ ครู่ต่อมาก็ได้ยินเสียงเงินเข้าบัญชี เธอยิ้มแล้วยกมือไหว้ขอบคุณ “ถ้ายังไงจะให้เลขาติดต่อคุยรายละเอียดอีกทีนะครับ” “ขอบคุณมากค่ะ” เกวลินยิ้มกว้าง “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว กะทิขอตัวกลับก่อนนะคะ” “จ๊ะ ขอบใจมากนะ คราวหน้าจะสั่งขนมมากินอีก” “และให้ผมจ่ายใช่ไหมแม่” “เอ๊ะ! ลูกคนนี้นี่” เสียงหัวเราะของคนในครอบครัวดังขึ้น เกวลินกับวายุเดินออกมา พ้นประตูบ้าน เธอก็กระโดดเต้นไปมาด้วยความดีใจ “กะทิทำได้!” “อืม ก็พี่บอกแล้วว่ากะทิทำได้” วายุยิ้มน้อยๆ แล้วเดินไปที่รถ “ข่าวดีแบบนี้โทรบอกพี่ตะโก้ให้เตรียมไปพม่าดีกว่า” “ไปพม่า?” “ย
“ได้ยินว่าหมออิฐอกหักอีกแล้ว” “พูดเป็นเล่น เห็นหวานออกสื่อขนาดนั้น” “ก็ไม่รู้สินะ แต่ที่แน่ๆ หมออิฐอัพเดทสถานะโสดแล้วจ้า” “แต่เหมือนได้ยินว่าหมออิฐก็เพิ่งอกหักไม่ใช่เหรอ” “สี่ปีอกหักสามหนเลยนะ ธรรมดาที่ไหน” “หมออิฐก็เป็นคนดีอยู่นะ ทำไมอกหักบ่อยจัง” “อยากรู้ก็ไปดามอกให้หมออิฐดูสิ” บทสนาของบรรดาพยาบาลสาวดึงดูดความสนใจของเกวลิน เธอไม่ได้ชอบสนใจเรื่องของคนอื่น แต่ที่สนใจก็เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ ‘หมออิฐ’ หรือ ‘นายแพทย์อิทธิพล’ ผู้ชายที่เธอแอบรักข้างเดียวมานาน “อ้าว น้องกะทิมาส่งข้าวเองเลยเหรอ” พยาบาลสาวคนหนึ่งเอ่ยทักเมื่อเห็นแม่ค้าหน้าหวานเข้ามาพร้อมถุงใส่กล่องอาหารนับสิบกล่อง “ค่ะ วันนี้พี่ตะโก้ต้องเอารถไปซ่อมค่ะ” หญิงสาวยิ้มกว้าง แม้มีหน้ากากอนามัยปิดครึ่งใบหน้าก็ตาม “มีน้ำใบเตยด้วยค่ะ อันนี้แถมฟรี” “น่ารักจังเลย ขอให้ขายดีนะจ๊ะ” พยาบาลสาวรับถุงอาหารมาแล้วหยิบมือถือมาโอนค่าอาหารที่สั่งไว้ “เอ่อ... หมออิฐกลับมาจากโรงพยาบาลสนามแล้วเหรอค
“อ้อ!แบบนี้เอง” ลาวัลย์พยักหน้าเข้าใจ “ตกลงเราสั่งขนมของหนูกะทินี่แหละ เอ้า!ตาหิน จ่ายค่าขนมให้น้องสิ” “อ้าว คุณแม่สั่งให้ผมจ่ายแบบนี้จะเรียกว่าแม่ซื้อให้กินได้ยังไงละครับ” ลูกคนโตแสร้งโอดครวญแต่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา “ขอโอนจ่ายนะครับ ไม่เตรียมเงินสดมา” “ได้ค่ะ” เกวลินยิ้มรับแล้วบอกยอดโอนและตามด้วยเบอร์พร้อมเพย์ ครู่ต่อมาก็ได้ยินเสียงเงินเข้าบัญชี เธอยิ้มแล้วยกมือไหว้ขอบคุณ “ถ้ายังไงจะให้เลขาติดต่อคุยรายละเอียดอีกทีนะครับ” “ขอบคุณมากค่ะ” เกวลินยิ้มกว้าง “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว กะทิขอตัวกลับก่อนนะคะ” “จ๊ะ ขอบใจมากนะ คราวหน้าจะสั่งขนมมากินอีก” “และให้ผมจ่ายใช่ไหมแม่” “เอ๊ะ! ลูกคนนี้นี่” เสียงหัวเราะของคนในครอบครัวดังขึ้น เกวลินกับวายุเดินออกมา พ้นประตูบ้าน เธอก็กระโดดเต้นไปมาด้วยความดีใจ “กะทิทำได้!” “อืม ก็พี่บอกแล้วว่ากะทิทำได้” วายุยิ้มน้อยๆ แล้วเดินไปที่รถ “ข่าวดีแบบนี้โทรบอกพี่ตะโก้ให้เตรียมไปพม่าดีกว่า” “ไปพม่า?” “ย
“ตื่นเต้นเหรอกะทิ” วายุเอ่ยถามขณะที่วันนี้ทำหน้าพลขับ ขับรถมาส่งของกับเกวลิน “ถ้าบอกว่าไม่ตื่นเต้นก็เหมือนกับโกหก” เกวลินยิ้มแหย “ลูกค้าสั่งขนมไปชิมตั้งเยอะ ไม่รู้จะสั่งของเราประจำไหม พี่ตะโก้ก็อยากมาด้วยเพราะกลัวกะทิโดนหลอก แต่งานที่ร้านไม่มีคนดูก็ไม่ได้ ยังไงก็ต้องขอบคุณพี่วายุที่อุตส่าห์ขับรถมาเป็นเพื่อนกันนะคะ” “อย่าคิดมากสิครับ ยังไงพี่ก็เป็นคนมารบกวนกะทิ ทั้งกินทั้งนอนที่บ้าน” “รบกวนอะไรกันค่ะ ครอบครัวเดียวกันอย่าพูดอะไรแบบนี้สิ” เธอหัวเราะเสียงใสออกมา แล้วก็ต้องอ้าปากค้างที่เห็นหมู่บ้านหรูหราตรงหน้า “พี่วายุขับรถมาผิดที่หรือเปล่าคะ” “ก็ไม่นะ พี่มาตามแผนที่ บ้านลูกค้าของกะทิอยู่ในหมู่บ้านนี้” หญิงสาวเผลอกัดริมฝีปากครุ่นคิด เธอไปบ้านน้าอิ่มสุขบ่อยๆ เพราะต้องไปส่งของ บ้านหลังนั้นเล็กกระทัดรัด เธอก็เลยคิดว่าลูกค้าที่น้าอิ่มสุขแนะนำคงมีฐานะใกล้เคียงกัน แต่นี่...หมู่บ้านแบบนี้ บ้านแต่ละหลังน่าจะหลายสิบล้านเลย สงสัยว่างานขายต้นไม้จะเป็นงานอดิเรกจริงๆ “ไม่ต้องกลัวไปหรอก ขนมที่ตะโก้กับกะทิทำอร่อยอยู่แล้ว ถ้าลูกค้
“งานที่เราทำอยู่ เอ่อ...พี่ว่าน่าสนใจดี เคยเห็นผ่านๆในอินเตอร์เนท”“อ่อ...” เธอพยักหน้ารับ “จริงๆ แล้วกะทิไม่ได้จะทำงานแนวๆนี้ แต่ที่บ้านทำร้านอาหาร คือเมื่อก่อนคุณแม่ทำข้าวแกงขายแล้วขยับมาเปิดเป็นร้านอาหาร แล้วเราก็มีส่งตามบ้านบ้าง กะทิพอมีเวลาเลยอาสาขับรถส่งเอง จะได้ประหยัดต้นทุนไม่ต้องจ้างคนอื่น หรือจ้างก็ให้น้อยที่สุด พอร้านเริ่มเข้าที่เข้าที่มีลูกจ้างก็มีจ้างส่งของบ้าง เข้าร่วมกับแอปขายอาหารบ้าง แต่ถ้าเราไปส่งเองก็ได้คุยกับลูกค้าด้วย จะว่าไปก็ตั้งแต่ปั่นจักรยานเป็นก็หิ้วแกงถุงไปส่งตามบ้านได้แล้วล่ะค่ะ กะทิก็เลยไม่รู้สึกอายอะไรกับงานที่ทำอยู่”“ไม่เห็นน่าอายเลย น่าภูมิใจต่างหาก” เขายิ้มแล้วเป็นฝ่ายคีบเนื้อย่างส่งให้เธอบ้าง “ร้านนี้น้ำจิ้มอ่อนไปหน่อยว่าไหม”“คิดเหมือนกันเลยค่ะ” เธอหัวเราะเบาๆ แล้วทำท่าป้องปากกระซิบ “ใช้น้ำจิ้มสำเร็จแน่ๆ ถ้าพี่ชายกะทิมากินต้องบ่นไปสามวันเจ็ดวันเลยค่ะ”“แต่ของอย่างอื่นเขาก็สดอยู่นะ ว่าจะตบด้วยไอติมสักถ้วย”“กะทิก็ว่าจะกวาดบนเตาให้หมดแล้วชิมไอติมสักถ้วยเหมือนกันค่ะ” เธอยิ้มทะเล้น“แล้ว..กะทิเรียนจบอะไรมา”“บริหารค่ะ” เธอตอบอย่างรวดเร็ว “สมัครงานไว้หลา
เกวลินยกข้าวกล่องไปใส่ท้ายรถมอเตอร์ไซค์ สวมหมวกกันน็อกแล้วขับไปโรงพยาบาลเหมือนทุกครั้ง แต่ทุกทีไปถึงที่หมายแล้ว เธอจะโทรหาพยาบาลที่สนิทสนมกันเพื่อนำอาหารขึ้นไปส่ง แต่คราวนี้คนที่ออกมารับอาหารเองกลับเป็นนายแพทย์อิทธิพล“หมออิฐ มีอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมมารับอาหารเอง” เธอขมวดคิ้วขึ้นมาทันที หรืออาหารจะมีปัญหาทำให้หมออิฐต้องมารับเอง“เปล่าครับ” เขาส่ายหน้าไปมา เห็นเธออ้าปากจะถามก็รีบพูดขึ้นมาก่อน “ผมมีเวลาห้านาที จะถามว่าเย็นนี้คุณว่างไหม”“เย็นนี้...ถ้าหลังหกโมงเย็นก็ว่างค่ะ ตอนห้าโมงมีคิวไปให้ข้าวแมวจรค่ะ ลูกค้าประจำผูกปิ่นโตไว้” เธอหมายถึงมีคนจ้างให้เธอไปให้ข้าวแมวนั้นแหละ“ดีครับ ผมหาเพื่อนไปกินหมูกระทะ ถ้าไปกินคนเดียวทางร้านจะบวกค่าเตาเพิ่ม คุณรับงานเพื่อนเที่ยวใช่ไหม ไปกินเป็นเพื่อนผมหน่อย ถ้าคุณจะถามว่าทำไมไม่ชวนเพื่อนที่ทำงานไป ก็ตอบเลยว่าผมไม่อยากมีปัญหาว่ามีเรื่องชู้สาวในที่ทำงาน”“อ่อ” เกวลินลากเสียงยาว “ได้ค่ะ หมออิฐจะไปร้านไหนคะ ให้กะทิจองร้านให้เลยไหม” หมอหนุ่มบอกชื่อร้านออกไป หญิงสาวพยักหน้ารับ หยิบโทรศัพท์มือถือมากดบันทึกตารางงาน ขณะที่จิ้มๆ ข้อความนั้น เสียงเวรเปลร้องเ
“ค่ะ” หญิงสาวเปิดกระเป๋าที่ห้อยหลังรถเข็นหยิบกล่องขนมและน้ำผลไม้ส่งให้คุณเกริกและลาวัลย์ “บ้านกะทิทำข้าวกล่องแล้วก็จัดชุดขนมของว่างอะไรพวกนี้ด้วยนะ ถ้าบริษัทเธอ เอ๊ย! ตอนนี้ของลูกชายแล้วสิ ถ้าบริษัทจัดประชุมสัมมนาอะไร สั่งยัยหนูได้ ของเขาอร่อย สะอาด ราคาไม่แพง ฉันสั่งกินประจำเลย” “เชียร์ขนาดนี้ต้องอุดหนุนแน่นอนจ๊ะ” คุณลาวัลย์อดมองหญิงสาวตรงหน้าไม่ได้ ท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู สดใสร่าเริง ที่บ้านก็มีแต่ลูกชายบ้างาน ถ้ามีลูกสาวน่ารักๆ แบบนี้ก็คงดีไม่น้อย “หนูชื่ออะไรนะจ๊ะ” “เกวลินค่ะ เรียกกะทิก็ได้” “ชื่อน่ารักจริงๆ” “พี่ชายชื่อตะโก้ค่ะ แม่เลยตั้งชื่อลูกสาวให้เข้ากับพี่ชาย” เกวลินหัวเราะเสียงใส “มีอะไรให้กะทิช่วยไหมคะ ต้นไม้ตรงนั้นขยับไปทางขวาอีกนิดดีไหมคะ คนจะได้เดินเข้าไปดูด้านในได้สะดวก” “จริงสิ ตั้งต้นไม้ตันทางเข้าร้านตัวเอง” เกริกหัวเราะออกมาและให้หญิงสาวเข้าไปขยับต้นไม้ให้ “กระถางต้นไม้สวยๆ เอาไว้ข้างหน้าให้คนเห็นชัดๆ” เกวลินพึมพำแล้วขยับต้นไม้ใหม่ “แค่นี้ก็แจ่มแล้วค่ะ” “ขอบใจหนูกะทิมาก
“เดี๋ยวนะครับ...” เขาเรียกและเปิดกระเป๋าสตางค์หยิบธนบัตรสีเทาส่งให้เธอห้าใบ“ค่าอะไรคะ” เธอถามแล้วเชิดปลายคางขึ้น “ยื่นเงินให้หลังมีเซ็กส์นี่รู้สึกแปลกๆ นะคะ”“อย่าเข้าใจผิดนะครับ เอ่อ...ผมจะให้ค่ารถที่คุณมาส่งผม”“ค่าขับรถมาส่งไม่กี่ร้อยหรอกค่ะ แต่ปกติกะทิต้องแจ้งค่าบริการก่อน เพราะเป็นแบบเหมาจ่ายไม่ได้ติดมิเตอร์เหมือนรถแท็กซี่ แต่กะทิลืมลืมแจ้งเอง เพราะงั้นครั้งนี้ไม่ขอรับเงินก็แล้วกันค่ะ”“แต่...”“ไปนะคะ ต้องรีบไปจ่ายตลาดแล้วค่ะ”เธอจำได้ว่าฉีกยิ้มกว้าง แถมโบกมือลาให้อีก แล้วรีบเผ่นออกจากมาอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ใช่แค่ต้องเอารถกลับมาให้ทันพี่ชายเอาไปใช้งาน แต่เธอไม่กล้าสู้หน้าเขาต่างหาก เสียงถอนหายใจครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ ตอนมีเซ็กส์กันก็รู้สึกดี แต่หลังจากนั้นแล้วทำไมมันรู้สึกใจหวิวๆ แปลกๆ ที่ผ่านมา ‘แอบรัก’ มาตลอด เป็นความรู้สึกที่อบอุ่นและหอมหวานเหมือนขนมที่อบเสร็จใหม่ๆ แต่หลังจากมีอะไรกันแล้ว เธอกลับรู้สึกเหมือนคนตื่นมาพบความจริง ความสุขที่ได้แอบคิดถึงใครสักคนมันหายไปหมด หรือจริงๆ แล้ว สิ่งที่เธอ ‘รู้สึก’ เป็นสิ่งที่เธอนึกคิดไปฝ่ายเดียว ซึ่งมันก็ไม่ใช่ความผิด
เกวลินสอดนิ้วไปในกลุ่มผมนุ่มมือและแอ่นอกส่งเข้าปากเขาอย่างลืมตัว ลิ้นร้อนปรนเปรอทั้งซ้ายขวา สะโพกสอบยังคงเคลื่อนไหวอย่างดุดันและถี่กระชั้น เขาผละจากทรวกอกแล้วใช้แขนสองข้างหยัดกายขึ้นเหนือร่าง เหงื่อไหลอาบร่างทั้งทีแอร์เย็นฉ่ำแต่ไม่ได้ช่วยลดความเร่าร้อนลงได้เลย เขาซอยรัวแรงแล้วเปลี่ยนจังหวะเป็นบดเบียดเสียดลึกราวกับอยากยืดเวลาเสียวซ่านให้นานขึ้นอีก มันทั้งทรมานและสุขสมในเวลาเดียวกัน เขาโน้มหน้าลงใกล้ใบหู ตวัดลิ้นดูดติ่งหูดุจไข่มุกเม็ดงาม เธอสั่นสะท้านกับการหยอกล้อของเขา “ขอเปลี่ยนท่านะครับ” น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยบอกค่อยๆถอนแก่นกายออก ร่องรักรัดแน่นจนเขาต้องซูดปาก เขาจับร่างอ่อนนุ่มพลิกคว่ำ จับสะโพกเธอขึ้นแล้ว ตบแก้มก้มเบาๆ ก่อนกดท่อนเอ็นเข้าไปอีกครั้ง เธอยื่นมือไปยึดหัวเตียงไว้เพื่อทรงตัวรับแรงกระแทกจากด้านหลัง เสียงเขาครางอย่างพอใจขณะเริ่มโยกเอวอีกรอบ เข้าสุดออกสุดทำเอาหญิงสาวสะบัดหน้าไปมาแล้วเอี้ยวตัวหันไปมอง “ให้ตาย! แน่นชะมัด” “ลึก...ลึกจัง..เสียว...เสียวจังค่ะ” “รอบนี้เสร็จพร้อมกันนะ” ร่างเล็กถูกกระแทกจนสั่นไ
“เรียกพี่อิฐสิครับ” “อื้อ...พี่อิฐ...พี่อิฐ...กะทิ...จะไม่ไหวแล้ว อือ...” เกวลินหยัดสะโพกขึ้นรับนิ้วร้ายกาจที่พาให้เธอไปถึงจุดสุดยอด ความเสียวซ่านแล่นไปทั่วร่าง สองมือยกขึ้นกอดร่างเขาไว้ แนบใบหน้ากับซอกคอของชายหนุ่มแล้วปล่อยเสียงครางหวานสุดเสียง อิทธิพลรับรู้ได้ถึงแรงขมิบรัดที่ปลายนิ้ว เขาถอนนิ้วออกแล้วจูบขมับหญิงสาว “คราวนี้ขอพี่นะครับ” เกวลินเพิ่งได้สติ ยกมือดันแผงอกของเขาไว้ก่อน เขาเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม เธอกัดริมฝีปากครู่หนึ่งข่มความเขินอายแล้วพูดเสียงแผ่วเบา “หมอ...เอ่อ...พี่...พี่อิฐ...มะ...มี...มี...มีถุงยาง...ใช่ไหมคะ” “ครับ” เขายิ้มรับ “อยากได้แบบไหนเป็นพิเศษไหม” ดวงตาคู่สวยกะพริบอย่างงุนงง เธอไม่เชี่ยวชาญเรื่องนี้จะรู้ได้ไง ในวินาทีนาทีต่อมาก็ได้ยินเสียงเขาหัวเราะในลำคอ ขยับตัวขึ้นไปหยิบอะไรบางอย่างที่ลิ้นชักโต๊ะข้างเตียงนอน “แบบผิวเรียบ แบบบางเฉียบ แบบผิวไม่เรียบ แบบปุ่ม อ้อ! มีกลิ่นกลิ่นสตรอเบอรี่ กับกลิ่นวนิลา แบบสีก็มีนะ คุณแพ้แบบไหนหรือเปล่า” เธอกะพริบตาปริบๆ จะบอกว่าขอถุงยา
ชายหนุ่มเปิดประตูห้องแล้วก้าวไปด้านในเพื่อกดสวิตช์ไฟ ความสว่างในห้องทำให้เกวลินมองเห็นโต๊ะว่างที่พอจะวางเบียร์หนึ่งถาดได้ ไหนๆ ก็อุ้มมาส่งถึงหน้าประตูแล้ว เธอจึงก้าวเข้าไปเพื่อวางถาดเบียร์บนโต๊ะ โทรศัพท์มือถือก็ส่งเสียงเตือนข้อความเข้า เธอก้มหน้าหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกงยีนแล้วอ่านข้อความจากพายุที่ส่งมาถามด้วยความเป็นห่วง เพราะเขาออกจากผับกลับมาถึงบ้านแล้วแต่เธอยังมาไม่ถึง กะทิ : อยู่กับเพื่อนค่ะ กลับช้าหน่อย ไม่ต้องเป็นห่วง ฝากดูแลพี่ตะโก้ด้วย วายุ : ตะโก้หลับแล้ว ถ้ามีอะไรโทรหาพี่ได้นะ กะทิ : รับทราบค่ะ เกวลินยิ้มกับหน้าจอมือถือ พี่ชายเธอเป็นพวกหลับลึก ปลุกยาก แต่การมีวายุเข้ามาในบ้านไม่ได้ทำให้เธออึดอัดอย่างที่กังวล วายุเป็นคนขี้เกรงใจ จะทำอะไรก็คอยมองสีหน้าเธอเสมอ และคอยเป็นคนกลางประนีประนอมระหว่างเธอกับพี่ชาย เธอรู้ว่าพี่ชายมีรสนิยมแบบไหน ในบรรดาคนที่พี่เคยคบหามีเพียงวายุที่ได้เข้ามาในบ้านและอยู่ร่วมกันอย่างนี้ และก็พอรู้ว่าวายุมีปัญหาทางบ้านแต่สำหรับเธอแล้ว ตอนนี้วายุเป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัว อ