หลินเซียงหันกลับมา "คุณย่า เขารังแกฉันอีกแล้ว"ทำให้คุณย่าลู่ยกมือตีลู่สือเยี่ยนโดยไม่ลังเลลู่สือเยี่ยน "..."สีหน้าของเขาเย็นชา ขณะจ้องมองหลินเซียงด้วยสายตาราวกับจะแทงเธอให้เป็นรูพรุนคุณย่าลู่พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "เจ้าสาม สมองแกนี่ไม่จดไม่จำอะไรเลยจริง ๆ ขืนยังรังแกหลานสะใภ้ไม่เลิก ฉันจะบอกให้เธอเลิกกับแกซะ!"ลู่สือเยี่ยนหลับตาลง เพื่อข่มอารมณ์ไว้หลินเซียงยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะหันไปพูดกับคุณย่า "คุณย่าเหนื่อยหรือยังคะ ง่วงไหมคะ?"คุณย่าลู่ส่ายหน้า "ไม่ง่วง ย่ายังอยากเดินเล่นอยู่"แต่พูดจบก็หาววอดยกใหญ่หลินเซียงเห็นดังนั้นจึงพูดขึ้นทันที "งั้นเราไปคุยเล่นกันในห้องดีไหมคะ ฉันจะเล่านิทานให้คุณย่าฟังเอง""ได้เลย"เมื่อได้ยินว่ามีนิทานให้ฟัง คุณย่าลู่ก็ตอบตกลงทันทีหลินเซียงเดินเข้าไปแทรกกลางระหว่างลู่สือเยี่ยน และเข็นรถเข็นไปที่ตึกเล็กลู่สือเยี่ยนจ้องมองตามแผ่นหลังของเธอ ดวงตาหมองคล้ำ"สือเยี่ยน"เซี่ยหว่านเดินเข้ามา เสียงของเธอเบาเหมือนซ่อนความเศร้าเอาไว้ลู่สือเยี่ยนหันกลับไปมอง เห็นว่าดวงตาของเธอแดงก่ำ ชัดเจนว่าเพิ่งร้องไห้มา "เป็นอะไรไป?"เซี่ยหว่านยิ้มอย่างขมขื
หลินเซียงหันไปทางเซี่ยหว่าน "คุณเซี่ย คุณเชื่อคำพูดของผู้ชายเลว ๆ แบบนี้เหรอคะ? แม้แต่คุณเองยังปกป้องตัวเองไม่ได้เลย แต่กลับใช้ฉันเป็นเครื่องกำบัง คุณไม่รู้สึกละอายใจหน่อยเหรอ?"เธอได้ยินการสนทนาทั้งหมดโดยบังเอิญเธอแทบพูดไม่ออกเพราะตกใจกับคำพูดที่ไร้ยางอายของลู่สือเยี่ยนเขารักเซี่ยหว่านมากจริง ๆ สินะรักจนไม่ลังเลที่จะลากเธอที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเข้ามาเกี่ยวข้องช่วงเวลาที่ผ่านมา ความกังวลใจและฝันร้ายยามค่ำคืนของเธอล้วนเกิดขึ้นเพราะมีเขาเป็นต้นเหตุเขาไม่ยอมให้เธอมีความสุข ถ้าอย่างนั้นทุกคนก็ไม่ควรมีความสุข!ยังไงซะ เธอก็เป็นผู้หญิงตัวคนเดียว ไม่กลัวตาย แต่พวกเขาเองก็ต้องถูกฝังกลบไปพร้อมกันกับเธอ!ความโกรธเกรี้ยวเริ่มก่อตัวขึ้นในใจของหลินเซียง รู้สึกโกรธแค้นลู่สือเยี่ยนมากขึ้นสายตาของเซี่ยหว่านเย็นยะเยือก "คุณหลิน คุณไม่รู้เรื่องราวก่อนหน้าก็ไม่ควรวิพากวิจารณ์ส่งเดช ตระกูลลู่อาจจะดูดีมีหน้าตาในสังคม แต่สือเยี่ยนไม่เคยมีความสุขเลยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ฉันอาจจะช่วยอะไรสือเยี่ยนไม่ได้ แต่หวังว่าคุณจะไม่สร้างความวุ่นวายให้เขา"หลินเซียงหัวเราะเสียงเย็น "กลัวฉันสร้างความวุ่นวา
ลู่สือเยี่ยนนิ่งันไปชั่วขณะเขายกมือขึ้นหมายจะเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของเธอ แต่เธอกลับหลบหลีกหลินเซียงยกมือขึ้นปาดน้ำตามั่วซั่ว "อย่ามาแตะฉัน"ลู่สือเยี่ยนกลืนน้ำลายลงคอ แล้วจ้องมองเธออย่างจริงจัง "หลินเซียง คุณ..."เขาเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่จนแล้วจนรอดก็พูดไม่ออก ได้แต่จ้องมองเธอนิ่ง ๆ อยู่อย่างนั้นความเจ็บปวดที่หน้าอกทำให้เขารู้สึกอึดอัด เมื่อเห็นความน้อยใจและความโศกเศร้าในดวงตาเธอ เขาทั้งรู้สึกสับสนและตื่นตระหนกหลินเซียงสูดหายใจเข้าลึก "ลู่สือเยี่ยน เราหย่ากันดี ๆ ได้ไหม ขอร้องล่ะ คุณมีคนเก่ง ๆ รอบตัวมากมาย พวกเขาต้องปกป้องเซี่ยหว่านได้แน่ ๆ ฉันแค่อยากใช้ชีวิตที่สงบสุข ชีวิตของฉันสามารถอยู่ได้โดยที่ไม่มีคุณ"ริมฝีปากบางของลู่สือเยี่ยนเม้มเป็นเส้นตรงกลับกัน ถ้าชีวิตของเขาไม่มีเธอล่ะ จะเป็นยังไง?จู่ ๆ ภาพความทรงจำเกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับเธอในปีที่ผ่านมาก็ผุดขึ้นในหัวเธอเป็นผู้บริสุทธิ์แต่เธอบริสุทธิ์อย่างที่เห็นจริง ๆ เหรอ?ตอนแรกที่รู้ตัวตนของเขา ทำไมเธอถึงไม่ยอมหย่า?อารมณ์ฟุ้งซ่านในดวงตาของลู่สือเยี่ยนค่อย ๆ กลับมาสงบ เขายืดตัวตรงแล้วปิดปร
เมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่หน้าประตู เธอก็ชะงักไปทำไมเป็นเขาอีกแล้ว?หลินเซียงกำไม้เบสบอลในมือแน่น แล้วหันหลังเดินหนีไปเป็นไปไม่ได้ที่จะเปิดประตู ไม่มีทางที่จะเปิดประตูให้เขาไปตลอดชีวิตแต่พอเห็นหน้าผู้ชายเฮงซวยคนนี้แล้วก็รู้สึกหงุดหงิดหลินเซียงเข้าไปในครัว ต้มมาม่า ก่อนจะหยิบแท็บเล็ตขึ้นมาแล้วหาซีรีส์ดูความคิดของเธอถูกดึงดูดไปที่ซีรีส์ทันที ไม่สนใจเลยว่าคนที่รออยู่หน้าประตูจะเป็นอย่างไรเวลาผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมงเสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้นอีกครั้งหลินเซียงคิดว่าเป็นลู่สือเยี่ยนอีก จึงไม่สนใจ เดินไปล้างหน้าล้างตาแล้วเตรียมตัวเข้านอนแต่คราวนี้เสียงกริ่งประตูกลับดังไม่หยุดหลินเซียงรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก จึงเดินไปเปิดประตูด้วยความหงุดหงิด "ฉันบอกคุณแล้วไงว่า..."แต่เธอยังพูดไม่จบ พอเห็นตำรวจสองคนที่สวมเครื่องแบบเจ้าพนักงานยืนอยู่หน้าประตู เธอถึงกับอึ้งไปทันที"พวกคุณ..."ตำรวจทั้งสองมองหน้ากัน แล้วเบี่ยงตัวหลบไปคนละนิด ตำรวจคนหนึ่งชี้ไปทางผู้ชายที่นั่งกองอยู่บนพื้นแล้วถาม "เขาเป็นสามีคุณหรือเปล่า?"หลินเซียงงงเล็กน้อย "ไม่ใช่ค่ะ""ผมเอง"ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงอ่อย แล้ว
"เซียงเซียง"ลมหายใจร้อนผ่าวราดรดซอกคอของเธอ ผิวหนังบริเวณนั้นบอบบางและไวต่อความรู้สึก ความรู้สึกเสียวซ่าปรากฏขึ้นมา ราวกับมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านหลินเซียงดิ้นรนอย่างหนัก "ลู่สือเยี่ยน ปล่อยฉัน!"คำพูดที่เธอพูดไปก่อนหน้านี้ เขาไม่ได้สนใจเลยเหรอ?ปล่อยให้เดือนนี้ผ่านไปอย่างสงบไม่ได้หรือไง?ทำไมต้องมาวุ่นวายกับเธออีก?ทำให้เธอคิดว่าเขายังรักเธออยู่หลินเซียงยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ ดิ้นรนออกแรงมากขึ้น แต่ลู่สือเยี่ยนเองก็กอดเธอแน่นขึ้น เช่นเดียวกัน ลมหายใจร้อนผ่าวประทับลงบนผิวหนังหลินเซียงเหนื่อยแล้ว เริ่มหายใจหอบ "ทำแบบนี้หมายความว่าไง?"แต่ลู่สือเยี่ยนเอาแต่กอดเธอไว้เฉย ๆ ไม่ยอมพูดอะไรหลินเซียงผ่อนลมหายใจออกช้า ๆ แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์เขาลู่สือเยี่ยนถามเสียงอ่อน "เซียงเซียง คุณเอามือถือผมไปทำไม?"แต่หลินเซียงไม่พูดอะไร พอหาโทรศัพท์เขาเจอก็คว้าเอานิ้วของเขามาปลดล็อกหน้าจอ หาเบอร์ของเซี่ยหว่านแล้วกดโทรออกลู่สือเยี่ยนเห็นดังนั้นก็รีบแย่งโทรศัพท์คืนแล้ววางสายทันที ก่อนจะโยนโทรศัพท์ออกไปไกล ๆ"คุณ..."หลินเซียงเห็นดังนั้นก็โกรธมาก"ลู่สือเยี่ยน คุณไม่ได้ชอบเซี่ยหว่านหรอกเหรอ?
หลินเซียงหลับตาลงและพูดต่อ "ถ้าคุณไม่อยากหย่า งั้นก็ลุกขึ้นก่อน เดี๋ยวฉันไปทำซุปแก้เมาค้างมาให้"เสียงพึมพำของลู่สือเยี่ยนหยุดชะงัก เขาเงยหน้าขึ้นมองเธอ ราวกับจะทบทวนว่าคำพูดของเธอเป็นจริงหรือเท็จหลินเซียงจ้องมองเขาอย่างสงบหลังจากนั้นไม่นาน ปลายจมูกของลู่สือเยี่ยนก็แตะลงบนตัวเธออย่างแผ่วเบา “ไม่หย่าจริงนะ?”"อืม"หลินเซียงอดทนต่อความสั่นไหวภายในใจ พยายามตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาดูเหมือนลู่สือเยี่ยนจะโล่งใจเมื่อได้ยินอย่างนั้น จึงยอมปล่อยเธอแต่โดยดีหลินเซียงยืนขึ้น เดินตรงไปที่ห้องครัวลู่สือเยี่ยนเอื้อมมือออกไปนวดขมับพร้อมกับขมวดคิ้ว“ลู่สือเยี่ยน ซุปแก้เมาได้แล้ว”ทันใดนั้น เสียงของหลินเซียงก็ดังขึ้นการแสดงออกของลู่สือเยี่ยนแข็งค้าง เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?เขาเงยหน้าขึ้น วินาทีต่อมา น้ำเย็นจัดจากกะละมังก็ถูกเทราดลงบนตัวเขาโดยตรงลู่สือเยี่ยนหลับตาลงทันที ปล่อยให้น้ำไหลลงมาตามร่างกาย โซฟาและพรมเปียกโชกไปหมดหลินเซียงถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา "หายเมาหรือยังล่ะ?"หากคิดว่าทำตัวเมาแล้วบุกมาหาเธอถึงที่บ้าน เธอจะถือเสียว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นงั้นเหรอ?เธอจำทุกสิ่งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ได้
ไม่ว่าพูดอะไรไปก็เหมือนพูดให้คนหูหนวกฟังหลินเซียงหลับตาลง ยอมแพ้ไม่สู้ดิ้นรนอีกต่อไปพูดให้ถูก… คือเธอเลิกดิ้นไปตั้งนานแล้วไม่สามารถต้านทานอะไรเขาได้เลยขืนเธอยังคงฝืนดิ้นรนต่อไป รับประกันได้ว่าคนบ้าอย่างเขาคงทำให้เธอขาดใจตายบนเตียงแน่นอนอาการง่วงซึมเริ่มเข้ามาแทนที่ หลินเซียงหลับตาลงทันทีจูบของลู่สือเยี่ยนระเรื่อยมาถึงหู แต่เมื่อเห็นว่าดวงตาของเธอปิดสนิท สายตาของเขาก็ยิ่งลึกลับซับซ้อนตอนนี้ไม่มีหยดน้ำเกาะอยู่บนร่างกายเขาอีกต่อไป มีแต่เหงื่อที่เปียกโฉก พอจ้องมองไปยังริมฝีปากเธอที่ถูกเขาบดจูบจนบวมแดง เขาจับคางเธอไว้แล้วประทับจูบลงไปอีกครั้งในที่สุดหลินเซียงที่ผล็อยหลับไปก็ถูกเขาปลุกให้ตื่น“อื้อ… คนบ้า”หลินเซียงตะคอก ออกแรงมือดันตัวเขาออก แต่เขาก็ยังคงไม่ขยับเขยื้อนลู่สือเยี่ยนจูบเธอหนักหน่วง การเคลื่อนไหวจากดุเดือดเปลี่ยนเป็นอ้อยอิ่ง ราวกับเขาต้องการดูดกลืนเธอเข้าไปดูเหมือนวิธีนี้จะเป็นวิธีเดียวที่สามารถหยุดยั้งไม่ให้เธอพูดในสิ่งที่ทำให้เขาโกรธ และจะไม่พูดเรื่องขอหย่าอย่างง่ายดายวันรุ่งขึ้นเมื่อหลินเซียงตื่นนอน จึงเห็นว่าลู่สือเยี่ยนไม่อยู่ในห้องอีกต่อไปความท
ซ่งซ่งพูดขึ้นทันที "นี่ รู้จักคำว่ามาก่อนได้ก่อนไหม? ฉันเห็นสร้อยคอเส้นนี้ก่อนนะ!"เซี่ยหว่านกะพริบตา ใบหน้ามีรอยยิ้ม หันไปทางหลินเซียง "งั้นคงต้องถามคุณหลินแล้วล่ะ ว่ารู้จักคำว่ามาก่อนได้ก่อนไหม?""เธอ!"ซ่งซ่งระเบิดออกมาทันที ชี้ไปที่จมูกของเซี่ยหว่านแล้วด่ากราด "เธอล่ะ มาทำตัวเป็นนางเอกใสซื่ออะไรตรงนี้ คิดว่าเซียงเซียงของฉันให้ค่าเหรอ ถ้าจะพาลก็ควรพาลใส่คนที่ไม่ยอมหย่าซะทีสิ ไม่ใช่มาที่นี่แล้วทำเป็นเหน็บแนมเซียงเซียงของฉัน!"รอยยิ้มบนใบหน้าของเซี่ยหว่านกลับยิ่งกว้างขึ้น "คุณซ่งยังไม่รู้เหรอ ว่าทำไมสือเยี่ยนถึงไม่ยอมหย่ากับคุณหลิน ก็เพราะสือเยี่ยนกำลังปกป้องฉันไงล่ะ ตราบใดที่คุณหลินยังมีสถานะเป็นภรรยาของสือเยี่ยนอยู่ อันตรายก็จะไม่กล้ำกรายมาหาฉัน""หน้าด้าน!"ซ่งซ่งโกรธจนแทบระเบิด หันไปทางชายหนุ่มที่เงียบอยู่ตลอด แต่มีสีหน้าเย็นชา "ที่เธอพูดมาจริงไหม? นายคิดแบบนั้นจริงเหรอ?"ลู่สือเยี่ยนสวมสูทสีดำ ทั่วทั้งตัวแผ่กลิ่นอายของความเย็นชาและน่ายำเกรง ดวงตาดำขลับมองไปที่ซ่งซ่งโดยไม่แสดงอารมณ์ "แค่สร้อยคอเส้นเดียว พอโดนขัดใจก็ด่ากราดแบบนี้? มารยาทไปไหนหมด"ซ่งซ่งหัวเราะเยาะ "มารยาท
ซ่งซ่งนอนไม่หลับ พลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง ทั้งตื่นเต้นและกังวลใจ เมื่อคิดว่าตัวเองกำลังจะออกจากเมืองอวิ๋น ออกไปจากฟู่จิ่นซิ่ว คนที่น่ารังเกียจนั่น เธอก็รู้สึกตื่นเต้นแทบแย่แทบนับเวลาถอยหลัง“ปัง ปัง ปัง!”แต่ในขณะนั้นเอง เสียงเคาะประตูดังสนั่นก็ดังขึ้นซ่งซ่งตกใจ รีบลุกขึ้นมองออกไปข้างนอก เด็กผู้หญิงก็ตกใจตื่นเช่นกัน “ใครน่ะ?”ในใจของซ่งซ่งมีความรู้สึกไม่ดีแวบเข้ามา หรือว่าเขาจะตามทันแล้ว?เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?เธอลุกจากเตียงพูดว่า “ฉันไปดูเอง พวกเธออย่าออกมาล่ะ”เด็กผู้หญิงกังวลใจ “ซ่งซ่ง จะไม่เป็นไรใช่ไหม?”ซ่งซ่งพยักหน้า “ไม่ต้องห่วง ไม่มีอะไรหรอก”เธอสวมเสื้อผ้าออกจากบ้าน “ใคร?”เธอถามอย่างระมัดระวัง“ซ่งซ่ง ฉันเอง รีบออกมาเร็ว!”เสียงของหลินเซียงดังขึ้นที่หน้าประตูซ่งซ่งชะงัก รีบไปเปิดประตู “ที่รัก กลับมาทำไม?”เธอไม่ได้กลับบ้านไปแล้วเหรอ?พอคำนวณเวลาแล้ว ตอนนี้ควรจะถึงเฟิงหลินหย่วนแล้วสิหลินเซียงจับข้อมือเธอ สีหน้ากระวนกระวาย “ฉันเห็นรถของฟู่จิ่นซิ่ว เขาหาเธอเจอแล้ว ไปกันเร็ว!”เมื่อได้ยินดังนั้น ซ่งซ่งก็ตกตะลึง “หาฉันเจอแล้ว? หาฉันเจอได้ยังไง?”การเคลื่อนไหวขอ
หลินเซียงใส่ขนมปังกรอบลงในถุง จัดเตรียมให้เรียบร้อย พลางพูดว่า “เวลาจำกัด ฉันเลยทำแค่อาหารที่เก็บรักษาง่ายและรสชาติใช้ได้ ให้เธอมีอะไรรองท้องระหว่างทาง”เมื่อได้ยินแบบนั้น ซ่งซ่งก็กะพริบตา แล้ววิ่งเข้ามากอดเธอ “ที่รัก ทำไมน่ารักแบบนี้นะ หรือพวกเราหนีไปด้วยกันเลยดีไหม!”หลินเซียงยิ้ม “พอแล้ว ไปล้างหน้าเร็ว ฉันจะไปส่งเธอที่ชานเมือง”รถบัสรอบแรกมาถึงพรุ่งนี้เช้า ซ่งซ่งต้องไปรอตั้งแต่คืนนี้แต่ซ่งซ่งส่ายหน้า “ไม่ต้อง ฉันติดต่อคนไว้แล้ว เธอพักผ่อนที่บ้านเถอะ ฉันไม่เป็นไร”หลินเซียงพูดว่า “ไม่ได้ ถ้าฉันไม่ไปส่งเธอด้วยตัวเอง ฉันไม่สบายใจ”ซ่งซ่งมองสีหน้าจริงจังของเธอ รู้ว่าเธอตัดสินใจแล้ว จึงกอดเธออีกครั้ง “ฮือ ฮือ ไม่อยากจากเธอเลย”หลินเซียงพาเธอไปที่ห้องน้ำ ดูแลเธอขณะล้างหน้าล้างตา ตรวจสอบสิ่งของที่จำเป็นอาหาร เครื่องดื่ม และของใช้ส่วนตัวง่าย ๆ ล้วนเป็นแบบใช้แล้วทิ้งอืม เกือบครบแล้วหลังจากจัดของเสร็จ ทั้งสองคนก็อยู่ด้วยกันอีกพักหนึ่ง ก่อนจะออกเดินทางตอนตีสองเมืองอวิ๋นในยามดึกเงียบสงบ ถนนแทบไม่มีรถสัญจร ผู้คนยิ่งไม่มีหลินเซียงขับรถไปทางชานเมือง ส่วนซ่งซ่งก็พูดถึงความหวังในอน
หลินเซียง “…”แม้ว่าครั้งที่แล้วจะสังเกตเห็นความผิดปกติของคนทั้งสอง แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่ซ่งซ่งพูดออกมาในตอนนี้ เธอก็พูดอะไรไม่ออกการที่เรื่องราวพัฒนามาถึงจุดนี้ จริง ๆ แล้วมีร่องรอยให้เห็นฟู่จิ่นซิ่วให้ความสนใจกับซ่งซ่งมากเกินไป และซ่งซ่งก็ไม่ได้ระวังตัวเพียงแต่…ตอนนี้เพิ่งจะคิดได้ จะสายเกินไปหรือเปล่า?หลินเซียงพูดความกังวลของตัวเองออกมาซ่งซ่งเข้ามาใกล้ และกระซิบว่า “ที่รัก ฉันวางแผนไว้แล้ว ฉันจะไม่นั่งเครื่องบินหรือรถไฟ แต่จะนั่งรถบัสไป เป็นรถบัสแบบที่วิ่งตามท้องถนนในชนบท ตราบใดที่ฉันออกจากเมืองอวิ๋นไปได้อย่างปลอดภัย ถึงเขาจะอยากหาฉันก็หาไม่เจอ”หลินเซียงขมวดคิ้ว “แต่แบบนั้นไม่ปลอดภัยนะ”ซ่งซ่ง “ตอนนี้ฉันยังต้องสนใจเรื่องความปลอดภัยอยู่อีกเหรอ? ถ้ายังอยู่ในเมืองอวิ๋น ฉันก็ไม่ปลอดภัยอยู่ดี ฉันเลยต้องคิดแล้วตัดสินใจไปแบบกะทันหัน เขาคงเดาไม่ได้ว่าฉันจะไปเมื่อไหร่”หลินเซียงยังคงรู้สึกไม่ดี เปลี่ยนมาถามว่า “แล้วงานของเธอล่ะ?”ซ่งซ่งพูดว่า “ฉันขอลาออกแล้ว และวันนี้ก็เริ่มส่งใบสมัครงาน สร้างภาพลวงตาว่าฉันแค่อยากเปลี่ยนงานเฉยๆ”เธอวางแผนทุกอย่างไว้แล้ว หลินเซียงไม่รู้จะพูดอะ
บรรยากาศในลิฟต์ค่อนข้างแปลกประหลาดมีความเย็นชาปะปนกับความผ่อนคลาย บรรยากาศที่กดดันแผ่ซ่านไปทั่ว แต่เมื่อปะทะกับฉินโหย่วหานและหลินเซียง มันก็หายไปความรู้สึกแปลกประหลาดที่อธิบายไม่ได้ ทำให้รู้สึกอึดอัดลิฟต์เคลื่อนขึ้นไปอย่างราบรื่น ไม่นานประตูลิฟต์ก็เปิดออก ลู่สือเยี่ยนก้าวออกไปด้วยสีหน้าเย็นชาเป็นอย่างมากฉินโหย่วหานมองตามแผ่นหลังของเขา เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ เขาไม่ทำอะไรเลย นี่ไม่เหมือนนิสัยปกติของเขาหรือว่าเขาจะยอมปล่อยหลินเซียงแล้วจริง ๆ?ประตูลิฟต์ปิดลง สายตาของฉินโหย่วหานจับจ้องไปที่ใบหน้าของหลินเซียง แต่เห็นเธอมองประตูลิฟต์อย่างเหม่อลอยไม่ใช่สิ่งที่เธอมองน่าจะเป็นลู่สือเยี่ยนเพียงแต่ตอนนี้ประตูลิฟต์ปิดลง บดบังสายตาของเธอไว้ในดวงตาของฉินโหย่วหานมีความเย็นชาเพิ่มขึ้น เขาถามว่า “คิดอะไรอยู่?”ขนตาของหลินเซียงสั่นเล็กน้อย “ฉันแค่คิดว่า ในเรื่องนี้ เขากำลังรับบทบาทเป็นอะไร”ฉินโหย่วหานกล่าวว่า “ไม่ว่าเขาจะแสดงบทบาทไหน ก็ไม่เกี่ยวกับพวกเราแล้ว”หลินเซียงเหม่อลอยไปครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “คุณพูดถูก”เธอและลู่สือเยี่ยนหย่ากันแล้วดังนั้นจึงไม่มีความเกี่
ฉินโหย่วหานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “บอกเรื่องที่คุณรู้ทั้งหมดให้ผมฟังหน่อย”หลินเซียงพยักหน้า เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เขาฟังอย่างละเอียดครู่หนึ่ง ฉินโหย่วหานก็หัวเราะเบา ๆหลินเซียงมองเขา “เป็นอะไรไป?”ฉินโหย่วหานพูดว่า “หลินเซียง ผมขอเดาแบบบ้า ๆ เลยนะ”“พูดมาก่อนค่ะ” หลินเซียงมองเขาอย่างจริงจัง ในดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัยฉินโหย่วหานจอดรถข้างทาง เอามือวางบนพวงมาลัย บนใบหน้าหล่อเหลาและอ่อนโยนปรากฏรอยยิ้มขบขัน “คุณว่ามีความเป็นไปได้ไหม ที่มีคนปลอมตัวเป็นจ้าวข่ายไปทำเรื่องพวกนั้น แล้วโยนความผิดให้เขา?”เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาของหลินเซียงก็เบิกกว้างขึ้นเรื่อย ๆ มือของเธอกำขนมปังกรอบแน่นความเป็นไปได้นี้ เธอไม่เคยคิดถึงมาก่อน!เมื่อคิดดูให้ดี ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอหรือรูปถ่ายที่ลู่สือเยี่ยนให้เธอดู ‘จ้าวข่าย’ คนนั้นสวมหมวกและหน้ากากตลอดเวลา มองจากรูปร่างก็คิดว่าเป็นจ้าวข่ายได้ไม่ยากแต่ถ้าไม่ใช่ล่ะ?ถ้าเป็นแค่คนที่มีรูปร่างคล้ายกับจ้าวข่ายมาก ๆ ล่ะ?เมื่อนึกถึงห้องใต้ดินที่มืดมิด จ้าวข่ายที่ล้มลุกคลุกคลานอยู่บนพื้น พยายามอธิบายด้วยความเจ็บปวดเขาพูดมาตลอดว่าเขาไม่ได้ขโมย เ
“ตกใจมากใช่ไหม?” ซ่งจั่วมองสีหน้าตกตะลึงของเขาแล้วยิ้มขมขื่น“แหงล่ะ พวกเราทุกคนคิดว่าเซี่ยหว่านเป็นคนช่วยท่านประธานลู่จริง ๆ ถือว่าเธอเป็นผู้มีบุญคุณอย่างมาก แต่ต่อมาพวกเราก็รู้ความจริง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตัวเอง เธอทำได้ทุกวิถีทาง”ซ่งจั่วเก็บแท็บเล็ต “ซือเยี่ยน สิ่งที่นายยึดมั่นมานานผิดทั้งหมด”“ทำไมเป็นแบบนี้?” ซือเยี่ยนพึมพำกับตัวเอง “ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้?”ลู่สือเยี่ยนมองเขาอย่างเย็นชา “อยู่กับฉันมานานขนาดนี้ หัวคิดไม่มีความก้าวหน้าเลยสักนิด”ซือเยี่ยนตัวสั่น มองลู่สือเยี่ยนด้วยสายตาอ้อนวอน “ท่านประธานลู่ครับ ผมรู้ตัวแล้วว่าผิด ผมสำนึกผิดจริง ๆ ได้โปรดให้โอกาสผมอีกครั้ง…”เสียงของเขาเริ่มสั่นเครือ ตัวสั่นสะท้านอย่างรุนแรงเพราะเขารู้ว่าลู่สือเยี่ยนจะไม่ให้โอกาสเขาอีกลู่สือเยี่ยนมองเขาอย่างเย็นชา แล้วพูดกับซ่งจั่วว่า “ตัดเอ็นข้อมือข้อเท้าเขาซะ แล้วเอาไปทิ้งที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำ”“ครับ”ซ่งจั่วรู้สึกสงสาร แต่นี่เป็นคำสั่งของลู่สือเยี่ยนลู่สือเยี่ยนหันหลังเดินจากไปซือเยี่ยนมองตามลู่สือเยี่ยนที่จากไปด้วยสีหน้าสิ้นหวัง ในดวงตาเต็มไปด้วยความเสียใจ!…หลินเซียงออกมา
สวีซินหรานหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรออก ในระหว่างนั้น สายตาของเธอมองไปยังหลินเซียงที่อยู่ไม่ไกลนัก ในดวงตาปรากฏความเคียดแค้น“ฮัลโหล คุณเซี่ย ช่วยฉันหน่อยได้ไหม? ฉันอยากฆ่าหลินเซียง นังสารเลวนั่น!”…ซืออวี่สังเกตเห็นความผิดปกติของหลินเซียงเธอเย็นชามาก ไม่สนใจอะไรเลย แต่ก็ยังคงทำงานที่ได้รับมอบหมายได้เป็นอย่างดีซืออวี่บอกข่าวนี้กับลู่สือเยี่ยนในขณะนั้น ลู่สือเยี่ยนกำลังดูสิ่งที่ซ่งจั่วได้มาจากการสืบสวน คิ้วขมวดแน่นฉินโหย่วหานจับเซี่ยหว่านขังไว้ในตู้คอนเทนเนอร์ ถือเป็นการแก้แค้นแทนหลินเซียง แต่สิ่งนี้เกี่ยวข้องอะไรกับการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเธอกัน?ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงต่ำ “จับตาดูซือเยี่ยนไว้ เขาดูไม่ปกติ”ซ่งจั่วชะงัก “คงไม่ใช่มั้งครับ เขาคอยปกป้องคุณหลินมาตลอดไม่ใช่เหรอ?”ลู่สือเยี่ยนพูดอย่างเย็นชา “บอกให้ไปก็ไป ทำไมต้องพูดมาก?”ซ่งจั่ว “ครับ”การตรวจสอบพฤติกรรมของซือเยี่ยนเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา แต่เมื่อเขาเห็นสิ่งที่ได้จากการตรวจสอบ เขาก็ตกใจมากช่วงเย็น ซ่งจั่วก็นำหลักฐานที่ได้มาส่งให้ลู่สือเยี่ยนเขามองลู่สือเยี่ยนอย่างหวาดหวั่น มือที่กำแน่นมีเหงื่อออกลู่สือเยี่ย
เขามองซ่งจั่วอย่างเย็นชา “เธอเป็นอะไรไป?”ซ่งจั่วทำหน้างง “ผม ผมไม่รู้ครับ”ตอนเจอหลินเซียงที่โรงพยาบาลก่อนหน้านี้ เธอยังไม่เป็นแบบนี้ แต่หลินเซียงตอนนี้ เรียกได้ว่าเย็นชาและไม่เป็นมิตรอย่างมากช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นกับเธอ?ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงเย็น “ไปสืบมาให้ชัดเจน”“ครับ” ซ่งจั่วพยักหน้าลู่สือเยี่ยนไม่ออกไป แต่ไปที่ชั้นใต้ดิน ราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้จึงพูดว่า “เรียกซือเยี่ยนมาพบฉัน”“ครับ”ดีเค กรุ๊ปทันทีที่ลู่สือเยี่ยนเข้าไปในห้องส่วนตัวของประธาน ซือเยี่ยนก็เคาะประตูห้อง“เข้ามา”ซือเยี่ยนเปิดประตูเข้าไป สีหน้าค่อนข้างเกร็ง “ท่านประธานลู่”ลู่สือเยี่ยนนั่งลงบนเก้าอี้ ถามด้วยเสียงเย็นชา “นายติดตามหลินเซียงมาตลอด เห็นความผิดปกติของเธอบ้างไหม?”ดวงตาของซือเยี่ยนกะพริบเล็กน้อย เมื่อคืนเขาไม่ได้ติดตามหลินเซียงตลอดเวลา แต่เรื่องก่อนหน้านี้ก็ยังพอจะตอบคำถามได้“ฉินโหย่วหานไปรับคุณหลิน แล้วทั้งสองคนไปที่ชายหาด ที่เดียวกับที่ที่คุณหลินถูกจับตัวไปครั้งก่อน” ซือเยี่ยนเริ่มเล่าเมื่อได้ยินดังนั้น ลู่สือเยี่ยนก็หรี่ตาลงเล็กน้อย “พวกเขาไปที่นั่นทำไม?”ซือเยี่ยน “ผม ผมไม่ทราบครับ ผมอย
สีหน้าของหลินเซียงชะงักไปเล็กน้อย นิ้วที่กำโทรศัพท์แน่นขึ้น เสียงพูดแห้งผาก “ฉันเหมือนจะไม่เคยพูดว่าเขารักฉันนี่คะ”เซี่ยซือซือถอนหายใจ “หลินเซียง พวกเราแพ้แล้ว”หลินเซียงหลับตาลง “ขอโทษนะคะ คุณเซี่ย แผนการฉันดันไปดึงคุณลงมาซวยด้วย ถ้ามันสร้างความเสียหายอะไรให้คุณ คุณบอกฉันได้เลย”เซี่ยซือซือหัวเราะขมขื่น “ไม่ ไม่มีอะไรเสียหาย ฉันเต็มใจร่วมมือกับคุณเอง ไม่ว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง ฉันก็ต้องรับผิดชอบ”หลินเซียงพูดอะไรไม่ออก เพราะพวกเขาไม่เคยคิดว่าเรื่องราวจะดำเนินไปในทิศทางนี้ไม่เคยคิดเลยว่าลู่สือเยี่ยนจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเซี่ยหว่านทำไมกัน?คำถามนี้ เธอคิดไม่ตกมาตลอดทำไมเขาต้องช่วยเซี่ยหว่าน?ในใจของหลินเซียง ตอนนี้มีความรู้สึกอยากจะไปหาลู่สือเยี่ยน ถามเขาว่านี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่เสียงของเซี่ยซือซือดังขึ้น “หลินเซียง ฉันขอจัดการเรื่องของตัวเองก่อน มีความคืบหน้าอะไร เราค่อยติดต่อกันใหม่”“ค่ะ”หลังจากวางสายหลินเซียงยังคงอยู่ในสภาพเหม่อลอยไม่รู้ทำไม เสียงของเซี่ยซือซือถึงดังก้องอยู่ในหูเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าลู่สือเยี่ยนรักเธอจริงเหรอ?เคยรักจริง ๆ บ้างหรือเปล่า?