หลินเซียงหลับตาลงและพูดต่อ "ถ้าคุณไม่อยากหย่า งั้นก็ลุกขึ้นก่อน เดี๋ยวฉันไปทำซุปแก้เมาค้างมาให้"เสียงพึมพำของลู่สือเยี่ยนหยุดชะงัก เขาเงยหน้าขึ้นมองเธอ ราวกับจะทบทวนว่าคำพูดของเธอเป็นจริงหรือเท็จหลินเซียงจ้องมองเขาอย่างสงบหลังจากนั้นไม่นาน ปลายจมูกของลู่สือเยี่ยนก็แตะลงบนตัวเธออย่างแผ่วเบา “ไม่หย่าจริงนะ?”"อืม"หลินเซียงอดทนต่อความสั่นไหวภายในใจ พยายามตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาดูเหมือนลู่สือเยี่ยนจะโล่งใจเมื่อได้ยินอย่างนั้น จึงยอมปล่อยเธอแต่โดยดีหลินเซียงยืนขึ้น เดินตรงไปที่ห้องครัวลู่สือเยี่ยนเอื้อมมือออกไปนวดขมับพร้อมกับขมวดคิ้ว“ลู่สือเยี่ยน ซุปแก้เมาได้แล้ว”ทันใดนั้น เสียงของหลินเซียงก็ดังขึ้นการแสดงออกของลู่สือเยี่ยนแข็งค้าง เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?เขาเงยหน้าขึ้น วินาทีต่อมา น้ำเย็นจัดจากกะละมังก็ถูกเทราดลงบนตัวเขาโดยตรงลู่สือเยี่ยนหลับตาลงทันที ปล่อยให้น้ำไหลลงมาตามร่างกาย โซฟาและพรมเปียกโชกไปหมดหลินเซียงถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา "หายเมาหรือยังล่ะ?"หากคิดว่าทำตัวเมาแล้วบุกมาหาเธอถึงที่บ้าน เธอจะถือเสียว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นงั้นเหรอ?เธอจำทุกสิ่งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ได้
ไม่ว่าพูดอะไรไปก็เหมือนพูดให้คนหูหนวกฟังหลินเซียงหลับตาลง ยอมแพ้ไม่สู้ดิ้นรนอีกต่อไปพูดให้ถูก… คือเธอเลิกดิ้นไปตั้งนานแล้วไม่สามารถต้านทานอะไรเขาได้เลยขืนเธอยังคงฝืนดิ้นรนต่อไป รับประกันได้ว่าคนบ้าอย่างเขาคงทำให้เธอขาดใจตายบนเตียงแน่นอนอาการง่วงซึมเริ่มเข้ามาแทนที่ หลินเซียงหลับตาลงทันทีจูบของลู่สือเยี่ยนระเรื่อยมาถึงหู แต่เมื่อเห็นว่าดวงตาของเธอปิดสนิท สายตาของเขาก็ยิ่งลึกลับซับซ้อนตอนนี้ไม่มีหยดน้ำเกาะอยู่บนร่างกายเขาอีกต่อไป มีแต่เหงื่อที่เปียกโฉก พอจ้องมองไปยังริมฝีปากเธอที่ถูกเขาบดจูบจนบวมแดง เขาจับคางเธอไว้แล้วประทับจูบลงไปอีกครั้งในที่สุดหลินเซียงที่ผล็อยหลับไปก็ถูกเขาปลุกให้ตื่น“อื้อ… คนบ้า”หลินเซียงตะคอก ออกแรงมือดันตัวเขาออก แต่เขาก็ยังคงไม่ขยับเขยื้อนลู่สือเยี่ยนจูบเธอหนักหน่วง การเคลื่อนไหวจากดุเดือดเปลี่ยนเป็นอ้อยอิ่ง ราวกับเขาต้องการดูดกลืนเธอเข้าไปดูเหมือนวิธีนี้จะเป็นวิธีเดียวที่สามารถหยุดยั้งไม่ให้เธอพูดในสิ่งที่ทำให้เขาโกรธ และจะไม่พูดเรื่องขอหย่าอย่างง่ายดายวันรุ่งขึ้นเมื่อหลินเซียงตื่นนอน จึงเห็นว่าลู่สือเยี่ยนไม่อยู่ในห้องอีกต่อไปความท
ซ่งซ่งพูดขึ้นทันที "นี่ รู้จักคำว่ามาก่อนได้ก่อนไหม? ฉันเห็นสร้อยคอเส้นนี้ก่อนนะ!"เซี่ยหว่านกะพริบตา ใบหน้ามีรอยยิ้ม หันไปทางหลินเซียง "งั้นคงต้องถามคุณหลินแล้วล่ะ ว่ารู้จักคำว่ามาก่อนได้ก่อนไหม?""เธอ!"ซ่งซ่งระเบิดออกมาทันที ชี้ไปที่จมูกของเซี่ยหว่านแล้วด่ากราด "เธอล่ะ มาทำตัวเป็นนางเอกใสซื่ออะไรตรงนี้ คิดว่าเซียงเซียงของฉันให้ค่าเหรอ ถ้าจะพาลก็ควรพาลใส่คนที่ไม่ยอมหย่าซะทีสิ ไม่ใช่มาที่นี่แล้วทำเป็นเหน็บแนมเซียงเซียงของฉัน!"รอยยิ้มบนใบหน้าของเซี่ยหว่านกลับยิ่งกว้างขึ้น "คุณซ่งยังไม่รู้เหรอ ว่าทำไมสือเยี่ยนถึงไม่ยอมหย่ากับคุณหลิน ก็เพราะสือเยี่ยนกำลังปกป้องฉันไงล่ะ ตราบใดที่คุณหลินยังมีสถานะเป็นภรรยาของสือเยี่ยนอยู่ อันตรายก็จะไม่กล้ำกรายมาหาฉัน""หน้าด้าน!"ซ่งซ่งโกรธจนแทบระเบิด หันไปทางชายหนุ่มที่เงียบอยู่ตลอด แต่มีสีหน้าเย็นชา "ที่เธอพูดมาจริงไหม? นายคิดแบบนั้นจริงเหรอ?"ลู่สือเยี่ยนสวมสูทสีดำ ทั่วทั้งตัวแผ่กลิ่นอายของความเย็นชาและน่ายำเกรง ดวงตาดำขลับมองไปที่ซ่งซ่งโดยไม่แสดงอารมณ์ "แค่สร้อยคอเส้นเดียว พอโดนขัดใจก็ด่ากราดแบบนี้? มารยาทไปไหนหมด"ซ่งซ่งหัวเราะเยาะ "มารยาท
ริมฝีปากบางเฉียบของลู่สือเยี่ยนเม้มเข้าหากันเป็นเส้นตรง ดวงตาสีดำขลับจมลึกจ้องไปที่หลินเซียง "ไม่ยอมขอโทษเหรอ?"หลินเซียงรู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่กัดกินเข้ามาในหัวใจของเธออย่างไม่ทราบสาเหตุเธอไม่กลัวอะไร ไม่มีอะไรน่ากังวล แต่ซ่งซ่งไม่เหมือนกัน!ก่อนหน้านี้เธอโต้เถียงกับเซี่ยหว่านอย่างดุเดือด แต่ทันทีที่เขาพูดออกมา เธอกลับตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบในทันทีเห็นได้ชัดว่าเธอไม่ใช่คนที่เขาโปรดปรานความเย่อหยิ่งในดวงตาหลินเซียงค่อย ๆ จางหายไป กลายเป็นรอยยิ้มเยาะอันแสนขมขื่น"ลู่สือเยี่ยน แน่ใจเหรอว่าจะทำแบบนี้?"กี่ครั้งแล้วที่เขาทำให้เธอตกอยู่ในสถานะต่ำต้อย ไร้ค่า และอับอายขายหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า?น้ำเสียงของลู่สือเยี่ยนทุ้มต่ำทรงเสน่ห์เช่นเคย แต่กลับเย็นชาและห่างเหิน "ว่าไงล่ะ?"หลินเซียงหลับตาลง ก่อนจะพยักหน้า "ก็ได้ ฉันรู้แล้ว"เธอหันไปทางเซี่ยหว่าน กำลังจะเอ่ยปากขอโทษ แต่ซ่งซ่งขวางไว้"เซียงเซียง อย่าก้มหัวให้คนพรรค์นี้ ให้ตายฉันก็ไม่ขอโทษ อยากรู้เหมือนกันว่าเขาจะฆ่าฉันหรือเปล่า!"ซ่งซ่งโอบไหล่หลินเซียง "ไปกันเถอะ สร้อยคอห่วย ๆ นั่นเราไม่เอาแล้วก็ได้ เดี๋ยวฉันจะซื้อของขวัญท
สีหน้าของลู่สือเยี่ยนเปลี่ยนไป แล้วพูดว่า "ผมจะให้คนไปส่งคุณ"เซี่ยหว่านพยักหน้า "ได้ค่ะ"คนขับรถมาถึงเร็วมาก เมื่อเห็นเซี่ยหว่านขึ้นรถ ลู่สือเยี่ยนก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก"แบ่งคนมาจับตัวซ่งซ่ง"...ทั้งสองคนกินสเต็กเสร็จแล้วก็ไปเดินเล่นต่อที่ตลาดกลางคืน เพื่อคลายความหงุดหงิดลงได้บ้าง หลินเซียงจับแขนซ่งซ่ง ถอนหายใจแล้วพูดว่า "ซ่งซ่ง ฉันว่าเธอกลับไปต่างประเทศเถอะ"ซ่งซ่งส่ายหัว "ไม่ได้ ฉันจะอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนเธอ ปกป้องเธอ ไม่ให้ไอ้ผู้ชายเฮงซวยคนนั้นรังแกเธออีก"หลินเซียง "หรือฉันแต่งงานใหม่กับเธอไปเลยดี?"ซ่งซ่ง "ดีเลย ดีเลย ดีเลย"หลินเซียงหัวเราะ"บังเอิญจัง"ในเวลานี้ เสียงพูดจาหยอกล้อดังขึ้นข้าง ๆ ทั้งสองคนเมื่อหันไปมองพร้อมกัน ก็เห็นฉินโหย่วหานที่ย้อมผมสีฟ้าโดดเด่น เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มหลินเซียงรู้สึกแปลกใจ "คุณฉิน คุณก็มาเดินเล่นที่นี่เหมือนกันเหรอคะ?"แต่ฉินโหย่วหานกลับพูดว่า "ผมเป็นขาประจำที่นี่เลยล่ะ ดูนั่น ก๋วยเตี๋ยวร้านนั้นอร่อยมาก แค่บอกชื่อผมก็ได้ส่วนลดเลย"หลินเซียง "จริงเหรอคะ? งั้นฉันจะลองไปถามดู"พูดจบก็ตั้งท่าจะเดินไปฉินโหย่วหานยิ้มเจ้าเล่ห
หลินเซียงมองเธอ "ฉันว่าเธอถอนคำพูดดีกว่า"ซ่งซ่งดึงแขนเธอส่ายไปมาแล้วอ้อนวอน "เซียงเซียง น้า ขอร้องล่ะ..."หลินเซียงทนการอ้อนวอนของเธอไม่ไหว สุดท้ายก็ใจอ่อนยอมตกลง"ก็ได้"ซ่งซ่งหัวเราะอย่างมีความสุข แล้วมองไปที่คุณฉิน "จะเริ่มเมื่อไหร่เหรอคะ?"ฉินโหย่วหานตอบว่า "ไม่ต้องรีบ เดี๋ยวผมจะมาหาพวกคุณอีกครั้ง เชิญพวกคุณนั่งเล่นตามสบาย"พูดจบ เขาก็หันหลังแล้วเดินจากไปซ่งซ่งและหลินเซียงนั่งในโซนที่ดีที่สุด พนักงานเสิร์ฟเริ่มเสิร์ฟเครื่องดื่มและผลไม้หลินเซียงถือแก้วไวน์ มองไปยังเครื่องดื่มสีสดใสในนั้น แล้วพูดว่า "ฉันเริ่มรู้สึกเสียใจแล้วสิ"นี่ไม่ใช่การหาเรื่องใส่ตัวหรอกเหรอตอนนี้เธอมีเรื่องยุ่งยากมากมายพออยู่แล้ว ถ้าดึงเอาฉินโหย่วหานเข้ามาเกี่ยวข้อง เรื่องจะยิ่งวุ่นวายขึ้นอีกไหมซ่งซ่งบอกว่า "เซียงเซียง เธอคิดมากเกินไปแล้ว แค่เต้นเฉย ๆ เอง ลองคิดดูสิ เธอไม่ได้เต้นมานานแค่ไหนแล้ว"หลินเซียง "ฉันไม่ไหว แก่แล้ว"ซ่งซ่ง "คิดซะว่าเป็นการตอบแทนความปรารถนาของฉันแล้วกัน"หลินเซียงมองเธออย่างสิ้นหวัง "ตอนนี้จะนึกเสียใจก็สายไปแล้วล่ะ"ซ่งซ่งหัวเราะทันที หยิบแก้วไวน์มาชนกับเธอเวลาผ่านไ
ฟู่จิ่นซิ่วตกใจ รีบดึงมือกลับทันที "อะไรกัน นายทำหน้าแบบนั้นทำไม? นายเองก็อยากเซ็นสัญญากับบริษัทฉันเหมือนกันเหรอ?"ลู่สือเยี่ยนจ้องมองคนทั้งสองบนเวทีอย่างเย็นชา มองอยู่นานกว่าจะถอนสายตา แล้วก็มองไปที่โซนด้านหน้า"ซือเยี่ยน"ซือเยี่ยนรีบเดินเข้ามา "ประธานลู่"ลู่สือเยี่ยนออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ซ่งซ่งอยู่ที่นั่น พาตัวเธอไปห้องรับรองด้วย"พูดจบ เขาก็เดินไปที่บันไดด้านข้างโดยตรงซือเยี่ยนพยักหน้า แล้วเดินไปที่โซนด้านหน้าตามคำสั่งฟู่จิ่นซิ่วตกใจ "เกิดอะไรขึ้น? ซ่งซ่งเป็นใคร? นายจับตัวเธอไปทำไม? ลู่สือเยี่ยน อย่ามัวแต่เดินสิ ตอบฉันก่อน!"...ซ่งซ่งปรบมือรัวไม่หยุดอยู่ที่ด้านล่าง กรีดร้องจนเสียงแทบแหบแห้ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้นสุดยอดไปเลย!ตอนฉินโหย่วหานเต้นกับเซียงเซียง ราวกับจิตวิญญาณของคนทั้งสองได้บรรจบกัน เธอยกให้คู่รักคู่นี้เป็นอันดับหนึ่ง!ในเวลานี้ ชายหนุ่มหน้าตาดีไร้อารมณ์คนหนึ่งก็เดินเข้ามา "คุณซ่ง คุณหลินรอคุณอยู่ที่หลังเวที"ซ่งซ่งตกใจ "เธอไปหลังเวทีตั้งแต่เมื่อไหร่"ชายหนุ่มส่ายหัว "ผมก็ไม่รู้"ซ่งซ่งลุกขึ้น "งั้นไปกันเถอะ"ซือเยี่ยนพาเธอเดินขึ้นไปชั้
แต่ฉินโหย่วหานกลับเสนอว่า "ผมไปด้วย มีผมอยู่ทั้งคน เขาไม่กล้ารังแกพวกคุณหรอก"หลินเซียงรู้สึกอบอุ่นใจ แต่กลับปฏิเสธด้วยรอยยิ้ม "ไม่เป็นไรค่ะ ฉันกับเขาเป็นสามีภรรยากันอยู่แล้ว จัดการเรื่องอะไร ๆ ได้ง่ายกว่า"ดวงตาของฉินโหย่วหานวูบไหวสองครั้ง ก่อนจะพยักหน้า "ได้ ถ้ามีอะไรก็โทรหาผมนะ""ค่ะ"ฉินโหย่วหานหันหลังแล้วเดินจากไปหลินเซียงเดินไปที่ห้องรับรอง A12เมื่อมาถึงหน้าห้อง เธอสูดหายใจเข้าลึกสองครั้ง แล้วตั้งสติ ก่อนจะผลักประตูเข้าไปห้องรับรองใหญ่มาก ด้านหนึ่งสามารถมองเห็นวิวภายในร้านชั้นล่างได้ เสียงโห่ร้องดังขึ้นเป็นพัก แต่ก็เงียบกว่าด้านล่างมากลู่สือเยี่ยนนั่งอยู่บนโซฟา มือข้างหนึ่งถือแก้วไวน์ มือข้างหนึ่งคีบซิการ์ ท่าทางสง่างามและเย็นชาตรงข้ามกับเขา ชายหนุ่มหน้าตาดีแปลกหน้ากำลังมองเธอด้วยความอยากรู้อยากเห็นแต่หลินเซียงไม่มีเวลาสนใจ เธอมาตามซ่งซ่งซ่งซ่งถูกซือเยี่ยนกดให้นั่งอยู่บนเก้าอี้ เมื่อเห็นเธอเข้ามาก็อยากจะลุกขึ้น แต่ถูกซือเยี่ยนกดให้นั่งลงอีกครั้ง"นายทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไง! ก่อนหน้านี้ฉันยังคิดว่านายเป็นคนดี ช่วยเราไว้ ฉันยังรู้สึกขอบคุณนายอยู่เลย แต่สุดท้ายนายก