ฟู่จิ่นซิ่วตกใจ รีบดึงมือกลับทันที "อะไรกัน นายทำหน้าแบบนั้นทำไม? นายเองก็อยากเซ็นสัญญากับบริษัทฉันเหมือนกันเหรอ?"ลู่สือเยี่ยนจ้องมองคนทั้งสองบนเวทีอย่างเย็นชา มองอยู่นานกว่าจะถอนสายตา แล้วก็มองไปที่โซนด้านหน้า"ซือเยี่ยน"ซือเยี่ยนรีบเดินเข้ามา "ประธานลู่"ลู่สือเยี่ยนออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ซ่งซ่งอยู่ที่นั่น พาตัวเธอไปห้องรับรองด้วย"พูดจบ เขาก็เดินไปที่บันไดด้านข้างโดยตรงซือเยี่ยนพยักหน้า แล้วเดินไปที่โซนด้านหน้าตามคำสั่งฟู่จิ่นซิ่วตกใจ "เกิดอะไรขึ้น? ซ่งซ่งเป็นใคร? นายจับตัวเธอไปทำไม? ลู่สือเยี่ยน อย่ามัวแต่เดินสิ ตอบฉันก่อน!"...ซ่งซ่งปรบมือรัวไม่หยุดอยู่ที่ด้านล่าง กรีดร้องจนเสียงแทบแหบแห้ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้นสุดยอดไปเลย!ตอนฉินโหย่วหานเต้นกับเซียงเซียง ราวกับจิตวิญญาณของคนทั้งสองได้บรรจบกัน เธอยกให้คู่รักคู่นี้เป็นอันดับหนึ่ง!ในเวลานี้ ชายหนุ่มหน้าตาดีไร้อารมณ์คนหนึ่งก็เดินเข้ามา "คุณซ่ง คุณหลินรอคุณอยู่ที่หลังเวที"ซ่งซ่งตกใจ "เธอไปหลังเวทีตั้งแต่เมื่อไหร่"ชายหนุ่มส่ายหัว "ผมก็ไม่รู้"ซ่งซ่งลุกขึ้น "งั้นไปกันเถอะ"ซือเยี่ยนพาเธอเดินขึ้นไปชั้
แต่ฉินโหย่วหานกลับเสนอว่า "ผมไปด้วย มีผมอยู่ทั้งคน เขาไม่กล้ารังแกพวกคุณหรอก"หลินเซียงรู้สึกอบอุ่นใจ แต่กลับปฏิเสธด้วยรอยยิ้ม "ไม่เป็นไรค่ะ ฉันกับเขาเป็นสามีภรรยากันอยู่แล้ว จัดการเรื่องอะไร ๆ ได้ง่ายกว่า"ดวงตาของฉินโหย่วหานวูบไหวสองครั้ง ก่อนจะพยักหน้า "ได้ ถ้ามีอะไรก็โทรหาผมนะ""ค่ะ"ฉินโหย่วหานหันหลังแล้วเดินจากไปหลินเซียงเดินไปที่ห้องรับรอง A12เมื่อมาถึงหน้าห้อง เธอสูดหายใจเข้าลึกสองครั้ง แล้วตั้งสติ ก่อนจะผลักประตูเข้าไปห้องรับรองใหญ่มาก ด้านหนึ่งสามารถมองเห็นวิวภายในร้านชั้นล่างได้ เสียงโห่ร้องดังขึ้นเป็นพัก แต่ก็เงียบกว่าด้านล่างมากลู่สือเยี่ยนนั่งอยู่บนโซฟา มือข้างหนึ่งถือแก้วไวน์ มือข้างหนึ่งคีบซิการ์ ท่าทางสง่างามและเย็นชาตรงข้ามกับเขา ชายหนุ่มหน้าตาดีแปลกหน้ากำลังมองเธอด้วยความอยากรู้อยากเห็นแต่หลินเซียงไม่มีเวลาสนใจ เธอมาตามซ่งซ่งซ่งซ่งถูกซือเยี่ยนกดให้นั่งอยู่บนเก้าอี้ เมื่อเห็นเธอเข้ามาก็อยากจะลุกขึ้น แต่ถูกซือเยี่ยนกดให้นั่งลงอีกครั้ง"นายทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไง! ก่อนหน้านี้ฉันยังคิดว่านายเป็นคนดี ช่วยเราไว้ ฉันยังรู้สึกขอบคุณนายอยู่เลย แต่สุดท้ายนายก
หลินเซียงกำมือแน่น สายตาเหลือบมองไปยังโต๊ะที่วางเหล้ามากมายบนนั้นเธอเดินไปยืนตรงข้ามลู่สือเยี่ยน แล้วสูดหายใจลึกแล้วกล่าวว่า "ลู่สือเยี่ยน วันนี้ที่คุณทำไปทั้งหมดก็เพื่อระบายความโกรธแทนเซี่ยหว่าน แต่ซ่งซ่งทำลงไปก็เพื่อฉัน เอาแบบนี้ดีไหม ฉันจะดื่มเหล้าพวกนี้ให้หมด แลกกับการที่คุณไม่ทำร้ายซ่งซ่งได้หรือเปล่า?"ดวงตาคมลึกและเย็นชาของลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธออยู่นานโดยไม่พูดอะไรหลินเซียงแสยะยิ้มเล็กน้อย จากนั้นหยิบเหล้าขึ้นมาหนึ่งขวด เปิดฝาแล้วดื่มเพียว ๆรสชาติร้อนวาบพุ่งลงคอ ทำให้เธอสำลักไออย่างรุนแรงจนน้ำตาเล็ดเธอค่อย ๆ สงบสติอารมณ์ลง แล้วดื่มต่อลู่สือเยี่ยนไม่ได้ขัดขวาง เพียงแค่เฝ้ามองเธออยู่อย่างนั้น ด้วยสายตาที่มีความซับซ้อนและมืดมน"เซียงเซียง!"ซ่งซ่งเห็นดังนั้นก็เบิกตากว้าง พยายามดิ้นรนจะเข้ามาห้าม แต่ซือเยี่ยนจับตัวเธอไว้แน่น จึงดิ้นไปไหนไม่ได้"ปล่อย! ปล่อยฉัน!"เสียงของซ่งซ่งสะอื้นเหมือนจะร้องไห้ จ้องมองลู่สือเยี่ยนด้วยความโกรธเกรี้ยว แต่ในเวลานี้ เธอไม่กล้าด่าทอเขาอีกแล้วหลินเซียงทำแบบนี้ก็เพื่อเธอ ถ้าตอนนี้เธอไปขัดใจลู่สือเยี่ยนอีก ทุกสิ่งที่หลินเซียงทำก็จะสูญเปล่
"แล้วไง"ลู่สือเยี่ยนเอนหลังลงพิงพนักโซฟา รัศมีแห่งความสง่างามและเย็นชาแผ่ซ่านไปทั่วตัวเขา ใบหน้าหล่อเหลาและคมคายแสดงออกถึงความเฉยเมยและห่างเหิน ทำให้คนอื่นไม่อาจมองทะลุถึงอารมณ์ของเขาซ่งซ่งกัดฟัน แต่เมื่อเผชิญหน้ากับเขาแบบนี้ เธอกลับคิดคำด่าอะไรไม่ออกไร้ยางอายสิ้นดี!หลินเซียงจับมือซ่งซ่ง "ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร..."เหมือนกำลังปลอบโยนซ่งซ่ง และเหมือนกำลังปลอบโยนตัวเองด้วยเธอหันไปมองลู่สือเยี่ยน "จากนี้มีอะไรก็มาลงที่ฉัน อย่าหาเรื่องทำร้ายซ่งซ่งอีก"เมื่อพูดจบ เธอก็หันหลังแล้วพาซ่งซ่งเดินจากไปลู่สือเยี่ยนมองตามแผ่นหลังของเธอ ดวงตาเริ่มมีความซับซ้อนแฝงอยู่ ก่อนจะปกคลุมด้วยความเย็นชาเมื่อทั้งสองออกจากห้องไปอากาศในห้องยังคงเต็มไปด้วยความอึดอัด ฟู่จิ่นซิ่วทำเสียง "จุ๊ จุ๊" "ฉันว่านะ นายน่ะทำตัวแปลกไปรึเปล่า?"ลู่สือเยี่ยนมองเขา "นายจะรู้อะไร"ฟู่จิ่นซิ่ว "เหอะ... คิดว่าฉันมองไม่ออกเหรอ? ตั้งแต่เข้ามาที่นี่ สายตานายก็ไม่เคยละไปจากเธอเลย เมื่อกี้ที่นายทำไปทั้งหมดก็แค่ต้องการให้เธออ้อนวอนขอร้องด้วยถ้อยคำอ่อนหวาน แต่สุดท้ายเธอดื้อรั้นกว่าที่คิด ทรมานตัวเองให้ตายไม่ยอมพูดออกมา พว
หลินเซียงเงยหน้าขึ้นมองไปที่ฉินโหย่วหาน แล้วส่งยิ้มให้เขา "เจอซ่งซ่งแล้วค่ะ เราเตรียมตัวกลับบ้านกันแล้ว"ฉินโหย่วหานกล่าวว่า "พอดีเลย งั้นผมขอไปส่งพวกคุณแล้วกัน"หลินเซียงส่ายหน้า "ไม่เป็นไร ฉันเรียกรถแล้ว ขอบคุณนะคะ"ซ่งซ่งพูดขัด "เรียกแล้วก็ยกเลิกได้ ให้คุณฉินไปส่งเราก็ไม่ใช่เรื่องลำบากอะไรซะหน่อย ขอบคุณคุณฉินมากเลยค่ะ"ฉินโหย่วหานทำหน้าเจ้าเล่ห์ ใบหน้าหล่อเหลามีเลศนัย "ซ่งซ่งพูดถึงขนาดนี้แล้ว คุณยังจะปฏิเสธผมอยู่เหรอ?"หลินเซียงมองไปที่ซ่งซ่งด้วยสีหน้าสิ้นหวังแต่ซ่งซ่งกลับขยิบตาให้เธอ สายตาของเธอมีความหมายบางอย่างแอบแฝงเมื่อพวกเขาก้าวขึ้นรถหลินเซียงพิงหัวกับหน้าต่าง จ้องมองออกไปที่ท้องฟ้ายามค่ำคืนอย่างเหม่อลอยจนนิ่งงันฉินโหย่วหานขับรถ มองเธอผ่านกระจกมองหลังแล้วถามว่า "เกิดอะไรขึ้น? เล่าให้ผมฟังได้นะ บางทีผมอาจจะช่วยคุณได้"ซ่งซ่งมองไปที่เขา ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามว่า "คุณฉินพอจะรู้จักทนายความที่ไว้ใจได้ไหมคะ โดยเฉพาะทนายที่เก่งเรื่องทำคดีหย่าร้าง?""ซ่งซ่ง!"หลินเซียงได้ยินคำพูดเธอแล้วก็รีบจับมือเธอไว้ "อย่าพูดมั่วซั่ว ฉันไม่ได้มีความคิดแบบนั้น"ซ่งซ่งมองเธอแล้
หลินเซียงลงจากรถ แต่เธอดื่มมากไป จึงรู้สึกว่าอาการไม่ดี เมื่อเงยหน้าขึ้นก็รู้สึกเวียนหัว ร่างกายก็ซวนเซไปเล็กน้อยฉินโหย่วหานเห็นดังนั้นจึงรีบเข้ามาประคองเธอไว้"ไหวหรือเปล่า?"หลินเซียงทรงตัว ก่อนจะตระหนักว่าระยะห่างระหว่างเธอกับฉินโหย่วหานใกล้กันเกินไปเธอรีบดึงมือตัวเองออก แล้วหัวเราะ "ไม่เป็นไรค่ะ แค่เวียนหัวนิดหน่อย"ฉินโหย่วหานขมวดคิ้ว "แล้วแบบนี้คุณจะกลับห้องยังไง ให้ผมไปส่งดีกว่าไหม?""ไม่เป็นไร..."หลินเซียงส่ายหัว ขณะกำลังจะพูดอะไรต่อ ก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นไม่ไกลนัก"ที่นี่ประเจิดประเจ้อเกินไปมั้ง สู้ขึ้นห้องไปเลยดีกว่าไหม?"หลินเซียงและฉินโหย่วหานหันไปพร้อมกัน เห็นลู่สือเยี่ยนนั่งอยู่ในรถไม่ไกลนัก หน้าต่างรถเปิดออก เผยให้เห็นใบหน้าเย็นชาและมืดมนของเขาดวงตาเรียวยาวคู่นั้นจ้องมองพวกเขาอย่างไร้ความปรานีหลินเซียงเม้มริมฝีปาก รีบละสายตา แล้วพูดกับฉินโหย่วหาน "ฉันกลับก่อนนะคะ"ฉินโหย่วหานเป็นห่วง "หลินเซียง หรือว่า...""ไม่เป็นไรจริง ๆ ค่ะ"หลินเซียงยิ้มให้เขาเล็กน้อย แล้วหันหลังเดินขึ้นไปยังอาคารที่พักฉินโหย่วหานมองตามหลังเธออยู่นาน ก่อนจะถอนสายตากลับไปมองลู
“จะทำอะไร!”หลินเซียงตกใจสะดุ้งถอยหลัง แต่พื้นในอ่างอาบน้ำลื่น ทำให้เธอเกาะตัวไม่อยู่ สุดท้ายก็ต้องนั่งลงไปตามเดิมลู่สือเยี่ยนเอามือข้างหนึ่งวางบนไหล่ของเธอ โน้มตัวลงมามองเธอด้วยดวงตาเรียวเล็กที่ฉายแววแดงก่ำ ราวกับกำลังอดกลั้นอารมณ์บางอย่างเอาไว้“หลินเซียง คุณชอบฉินโหย่วหานเหรอ?”เขาถามด้วยเสียงทุ้มต่ำหลินเซียงอึ้งไปชั่วขณะ รู้สึกหมดคำจะพูดเขามีสิทธิ์อะไรมาถามคำถามแบบนี้?เธอชอบใคร เขาไม่รู้หรือไง?อย่างไรก็ตาม เขาเข้ามาในบ้านของเธอแบบนี้โดยไม่ได้รับความยินยอม แถมยังมาถามเธอด้วยน้ำเสียงแบบนี้ แล้วยังทำร้ายเธออีก เธอจะบอกว่าชอบเขาได้ยังไง?“ฉันจะชอบใคร แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณ?”หลินเซียงจ้องมองเขาด้วยดวงตาใสแจ๋ว ไม่กลัวความเย็นชาของเขาเลยแม้แต่น้อย “ทำไม? ทีคุณยังชอบเซี่ยหว่านได้ จะไม่ให้ฉันชอบผู้ชายคนอื่นเลยเหรอ?”“ใช่ ห้าม!”ลู่สือเยี่ยนคำรามออกมา แล้วจับคางของเธอไว้แน่น บดจูบลงไปอย่างรุนแรงหลินเซียงตกใจ พยายามต่อสู้ขัดขืนน้ำในอ่างกระเซ็นกระเด็นไปทั่ว แต่เธอก็ไม่สามารถออกแรงได้เต็มที่ เพราะร่างกายจำกัดอยู่ในอ่างในขณะที่เขานั้นอยู่ข้างนอก สามารถควบคุมเธอได้อย่างง่
ลู่สือเยี่ยนนั่งบนเก้าอี้ด้วยสีหน้าไว้ตัวและเย็นชา “กินก่อนเถอะ”หลินเซียงเดินไปคว้าตะเกียบจากมือแล้วตบลงบนโต๊ะ“ลู่สือเยี่ยน คุณเข้ามาได้ยังไง?”ลู่สือเยี่ยนเงยหน้ามองเธอด้วยท่าทีเฉยเมย เมื่อเห็นท่าทางโกรธของเธอก็รู้สึกมีความสุขอย่างอธิบายไม่ถูก“คุณคิดว่าหลังจากเปลี่ยนรหัสล็อกแล้วผมจะเข้ามาไม่ได้เหรอ? ผมสามารถเข้ามาได้ทุกเมื่อ ตราบใดที่ต้องการ”เขาจ้องมองเธอ เสียงของเขาทุ้มต่ำกังวานแต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง หลินเซียงรู้สึกว่าเขากำลังพูดถึงเรื่องอื่นเมื่อคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ เธอก็ยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีก!“หิวก็ไปหากินที่อื่น! ห้ามกิน นี่ของฉันทั้งหมด!”หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็คว้าชามและตะเกียบที่อยู่ตรงหน้าเขาออกมา จากนั้นจึงนั่งลงตรงตำแหน่งที่ห่างจากเขามากที่สุด และเริ่มก้มหน้าก้มตากินลู่สือเยี่ยนมองไปที่เธอแล้วหัวเราะเบา ๆ “หลินเซียง ทำไมทำตัวเป็นเด็กแบบนี้ล่ะ?”หลินเซียงไม่ได้ตอบอะไรเธอทำอะไรได้บ้าง?ใช้ไม้แข็งก็แล้ว ไม้อ่อนก็แล้ว ก็ยังทำอะไรเขาไม่ได้ตอนนี้เธอทำอะไรลู่สือเยี่ยนไม่ได้จริง ๆ!ลู่สือเยี่ยนไม่ได้โกรธ แค่มองเธอด้วยความขบขัน หลังจากที่เธอกินเสร็จ
ซ่งซ่งนอนไม่หลับ พลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง ทั้งตื่นเต้นและกังวลใจ เมื่อคิดว่าตัวเองกำลังจะออกจากเมืองอวิ๋น ออกไปจากฟู่จิ่นซิ่ว คนที่น่ารังเกียจนั่น เธอก็รู้สึกตื่นเต้นแทบแย่แทบนับเวลาถอยหลัง“ปัง ปัง ปัง!”แต่ในขณะนั้นเอง เสียงเคาะประตูดังสนั่นก็ดังขึ้นซ่งซ่งตกใจ รีบลุกขึ้นมองออกไปข้างนอก เด็กผู้หญิงก็ตกใจตื่นเช่นกัน “ใครน่ะ?”ในใจของซ่งซ่งมีความรู้สึกไม่ดีแวบเข้ามา หรือว่าเขาจะตามทันแล้ว?เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?เธอลุกจากเตียงพูดว่า “ฉันไปดูเอง พวกเธออย่าออกมาล่ะ”เด็กผู้หญิงกังวลใจ “ซ่งซ่ง จะไม่เป็นไรใช่ไหม?”ซ่งซ่งพยักหน้า “ไม่ต้องห่วง ไม่มีอะไรหรอก”เธอสวมเสื้อผ้าออกจากบ้าน “ใคร?”เธอถามอย่างระมัดระวัง“ซ่งซ่ง ฉันเอง รีบออกมาเร็ว!”เสียงของหลินเซียงดังขึ้นที่หน้าประตูซ่งซ่งชะงัก รีบไปเปิดประตู “ที่รัก กลับมาทำไม?”เธอไม่ได้กลับบ้านไปแล้วเหรอ?พอคำนวณเวลาแล้ว ตอนนี้ควรจะถึงเฟิงหลินหย่วนแล้วสิหลินเซียงจับข้อมือเธอ สีหน้ากระวนกระวาย “ฉันเห็นรถของฟู่จิ่นซิ่ว เขาหาเธอเจอแล้ว ไปกันเร็ว!”เมื่อได้ยินดังนั้น ซ่งซ่งก็ตกตะลึง “หาฉันเจอแล้ว? หาฉันเจอได้ยังไง?”การเคลื่อนไหวขอ
หลินเซียงใส่ขนมปังกรอบลงในถุง จัดเตรียมให้เรียบร้อย พลางพูดว่า “เวลาจำกัด ฉันเลยทำแค่อาหารที่เก็บรักษาง่ายและรสชาติใช้ได้ ให้เธอมีอะไรรองท้องระหว่างทาง”เมื่อได้ยินแบบนั้น ซ่งซ่งก็กะพริบตา แล้ววิ่งเข้ามากอดเธอ “ที่รัก ทำไมน่ารักแบบนี้นะ หรือพวกเราหนีไปด้วยกันเลยดีไหม!”หลินเซียงยิ้ม “พอแล้ว ไปล้างหน้าเร็ว ฉันจะไปส่งเธอที่ชานเมือง”รถบัสรอบแรกมาถึงพรุ่งนี้เช้า ซ่งซ่งต้องไปรอตั้งแต่คืนนี้แต่ซ่งซ่งส่ายหน้า “ไม่ต้อง ฉันติดต่อคนไว้แล้ว เธอพักผ่อนที่บ้านเถอะ ฉันไม่เป็นไร”หลินเซียงพูดว่า “ไม่ได้ ถ้าฉันไม่ไปส่งเธอด้วยตัวเอง ฉันไม่สบายใจ”ซ่งซ่งมองสีหน้าจริงจังของเธอ รู้ว่าเธอตัดสินใจแล้ว จึงกอดเธออีกครั้ง “ฮือ ฮือ ไม่อยากจากเธอเลย”หลินเซียงพาเธอไปที่ห้องน้ำ ดูแลเธอขณะล้างหน้าล้างตา ตรวจสอบสิ่งของที่จำเป็นอาหาร เครื่องดื่ม และของใช้ส่วนตัวง่าย ๆ ล้วนเป็นแบบใช้แล้วทิ้งอืม เกือบครบแล้วหลังจากจัดของเสร็จ ทั้งสองคนก็อยู่ด้วยกันอีกพักหนึ่ง ก่อนจะออกเดินทางตอนตีสองเมืองอวิ๋นในยามดึกเงียบสงบ ถนนแทบไม่มีรถสัญจร ผู้คนยิ่งไม่มีหลินเซียงขับรถไปทางชานเมือง ส่วนซ่งซ่งก็พูดถึงความหวังในอน
หลินเซียง “…”แม้ว่าครั้งที่แล้วจะสังเกตเห็นความผิดปกติของคนทั้งสอง แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่ซ่งซ่งพูดออกมาในตอนนี้ เธอก็พูดอะไรไม่ออกการที่เรื่องราวพัฒนามาถึงจุดนี้ จริง ๆ แล้วมีร่องรอยให้เห็นฟู่จิ่นซิ่วให้ความสนใจกับซ่งซ่งมากเกินไป และซ่งซ่งก็ไม่ได้ระวังตัวเพียงแต่…ตอนนี้เพิ่งจะคิดได้ จะสายเกินไปหรือเปล่า?หลินเซียงพูดความกังวลของตัวเองออกมาซ่งซ่งเข้ามาใกล้ และกระซิบว่า “ที่รัก ฉันวางแผนไว้แล้ว ฉันจะไม่นั่งเครื่องบินหรือรถไฟ แต่จะนั่งรถบัสไป เป็นรถบัสแบบที่วิ่งตามท้องถนนในชนบท ตราบใดที่ฉันออกจากเมืองอวิ๋นไปได้อย่างปลอดภัย ถึงเขาจะอยากหาฉันก็หาไม่เจอ”หลินเซียงขมวดคิ้ว “แต่แบบนั้นไม่ปลอดภัยนะ”ซ่งซ่ง “ตอนนี้ฉันยังต้องสนใจเรื่องความปลอดภัยอยู่อีกเหรอ? ถ้ายังอยู่ในเมืองอวิ๋น ฉันก็ไม่ปลอดภัยอยู่ดี ฉันเลยต้องคิดแล้วตัดสินใจไปแบบกะทันหัน เขาคงเดาไม่ได้ว่าฉันจะไปเมื่อไหร่”หลินเซียงยังคงรู้สึกไม่ดี เปลี่ยนมาถามว่า “แล้วงานของเธอล่ะ?”ซ่งซ่งพูดว่า “ฉันขอลาออกแล้ว และวันนี้ก็เริ่มส่งใบสมัครงาน สร้างภาพลวงตาว่าฉันแค่อยากเปลี่ยนงานเฉยๆ”เธอวางแผนทุกอย่างไว้แล้ว หลินเซียงไม่รู้จะพูดอะ
บรรยากาศในลิฟต์ค่อนข้างแปลกประหลาดมีความเย็นชาปะปนกับความผ่อนคลาย บรรยากาศที่กดดันแผ่ซ่านไปทั่ว แต่เมื่อปะทะกับฉินโหย่วหานและหลินเซียง มันก็หายไปความรู้สึกแปลกประหลาดที่อธิบายไม่ได้ ทำให้รู้สึกอึดอัดลิฟต์เคลื่อนขึ้นไปอย่างราบรื่น ไม่นานประตูลิฟต์ก็เปิดออก ลู่สือเยี่ยนก้าวออกไปด้วยสีหน้าเย็นชาเป็นอย่างมากฉินโหย่วหานมองตามแผ่นหลังของเขา เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ เขาไม่ทำอะไรเลย นี่ไม่เหมือนนิสัยปกติของเขาหรือว่าเขาจะยอมปล่อยหลินเซียงแล้วจริง ๆ?ประตูลิฟต์ปิดลง สายตาของฉินโหย่วหานจับจ้องไปที่ใบหน้าของหลินเซียง แต่เห็นเธอมองประตูลิฟต์อย่างเหม่อลอยไม่ใช่สิ่งที่เธอมองน่าจะเป็นลู่สือเยี่ยนเพียงแต่ตอนนี้ประตูลิฟต์ปิดลง บดบังสายตาของเธอไว้ในดวงตาของฉินโหย่วหานมีความเย็นชาเพิ่มขึ้น เขาถามว่า “คิดอะไรอยู่?”ขนตาของหลินเซียงสั่นเล็กน้อย “ฉันแค่คิดว่า ในเรื่องนี้ เขากำลังรับบทบาทเป็นอะไร”ฉินโหย่วหานกล่าวว่า “ไม่ว่าเขาจะแสดงบทบาทไหน ก็ไม่เกี่ยวกับพวกเราแล้ว”หลินเซียงเหม่อลอยไปครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “คุณพูดถูก”เธอและลู่สือเยี่ยนหย่ากันแล้วดังนั้นจึงไม่มีความเกี่
ฉินโหย่วหานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “บอกเรื่องที่คุณรู้ทั้งหมดให้ผมฟังหน่อย”หลินเซียงพยักหน้า เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เขาฟังอย่างละเอียดครู่หนึ่ง ฉินโหย่วหานก็หัวเราะเบา ๆหลินเซียงมองเขา “เป็นอะไรไป?”ฉินโหย่วหานพูดว่า “หลินเซียง ผมขอเดาแบบบ้า ๆ เลยนะ”“พูดมาก่อนค่ะ” หลินเซียงมองเขาอย่างจริงจัง ในดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัยฉินโหย่วหานจอดรถข้างทาง เอามือวางบนพวงมาลัย บนใบหน้าหล่อเหลาและอ่อนโยนปรากฏรอยยิ้มขบขัน “คุณว่ามีความเป็นไปได้ไหม ที่มีคนปลอมตัวเป็นจ้าวข่ายไปทำเรื่องพวกนั้น แล้วโยนความผิดให้เขา?”เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาของหลินเซียงก็เบิกกว้างขึ้นเรื่อย ๆ มือของเธอกำขนมปังกรอบแน่นความเป็นไปได้นี้ เธอไม่เคยคิดถึงมาก่อน!เมื่อคิดดูให้ดี ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอหรือรูปถ่ายที่ลู่สือเยี่ยนให้เธอดู ‘จ้าวข่าย’ คนนั้นสวมหมวกและหน้ากากตลอดเวลา มองจากรูปร่างก็คิดว่าเป็นจ้าวข่ายได้ไม่ยากแต่ถ้าไม่ใช่ล่ะ?ถ้าเป็นแค่คนที่มีรูปร่างคล้ายกับจ้าวข่ายมาก ๆ ล่ะ?เมื่อนึกถึงห้องใต้ดินที่มืดมิด จ้าวข่ายที่ล้มลุกคลุกคลานอยู่บนพื้น พยายามอธิบายด้วยความเจ็บปวดเขาพูดมาตลอดว่าเขาไม่ได้ขโมย เ
“ตกใจมากใช่ไหม?” ซ่งจั่วมองสีหน้าตกตะลึงของเขาแล้วยิ้มขมขื่น“แหงล่ะ พวกเราทุกคนคิดว่าเซี่ยหว่านเป็นคนช่วยท่านประธานลู่จริง ๆ ถือว่าเธอเป็นผู้มีบุญคุณอย่างมาก แต่ต่อมาพวกเราก็รู้ความจริง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตัวเอง เธอทำได้ทุกวิถีทาง”ซ่งจั่วเก็บแท็บเล็ต “ซือเยี่ยน สิ่งที่นายยึดมั่นมานานผิดทั้งหมด”“ทำไมเป็นแบบนี้?” ซือเยี่ยนพึมพำกับตัวเอง “ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้?”ลู่สือเยี่ยนมองเขาอย่างเย็นชา “อยู่กับฉันมานานขนาดนี้ หัวคิดไม่มีความก้าวหน้าเลยสักนิด”ซือเยี่ยนตัวสั่น มองลู่สือเยี่ยนด้วยสายตาอ้อนวอน “ท่านประธานลู่ครับ ผมรู้ตัวแล้วว่าผิด ผมสำนึกผิดจริง ๆ ได้โปรดให้โอกาสผมอีกครั้ง…”เสียงของเขาเริ่มสั่นเครือ ตัวสั่นสะท้านอย่างรุนแรงเพราะเขารู้ว่าลู่สือเยี่ยนจะไม่ให้โอกาสเขาอีกลู่สือเยี่ยนมองเขาอย่างเย็นชา แล้วพูดกับซ่งจั่วว่า “ตัดเอ็นข้อมือข้อเท้าเขาซะ แล้วเอาไปทิ้งที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำ”“ครับ”ซ่งจั่วรู้สึกสงสาร แต่นี่เป็นคำสั่งของลู่สือเยี่ยนลู่สือเยี่ยนหันหลังเดินจากไปซือเยี่ยนมองตามลู่สือเยี่ยนที่จากไปด้วยสีหน้าสิ้นหวัง ในดวงตาเต็มไปด้วยความเสียใจ!…หลินเซียงออกมา
สวีซินหรานหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรออก ในระหว่างนั้น สายตาของเธอมองไปยังหลินเซียงที่อยู่ไม่ไกลนัก ในดวงตาปรากฏความเคียดแค้น“ฮัลโหล คุณเซี่ย ช่วยฉันหน่อยได้ไหม? ฉันอยากฆ่าหลินเซียง นังสารเลวนั่น!”…ซืออวี่สังเกตเห็นความผิดปกติของหลินเซียงเธอเย็นชามาก ไม่สนใจอะไรเลย แต่ก็ยังคงทำงานที่ได้รับมอบหมายได้เป็นอย่างดีซืออวี่บอกข่าวนี้กับลู่สือเยี่ยนในขณะนั้น ลู่สือเยี่ยนกำลังดูสิ่งที่ซ่งจั่วได้มาจากการสืบสวน คิ้วขมวดแน่นฉินโหย่วหานจับเซี่ยหว่านขังไว้ในตู้คอนเทนเนอร์ ถือเป็นการแก้แค้นแทนหลินเซียง แต่สิ่งนี้เกี่ยวข้องอะไรกับการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเธอกัน?ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงต่ำ “จับตาดูซือเยี่ยนไว้ เขาดูไม่ปกติ”ซ่งจั่วชะงัก “คงไม่ใช่มั้งครับ เขาคอยปกป้องคุณหลินมาตลอดไม่ใช่เหรอ?”ลู่สือเยี่ยนพูดอย่างเย็นชา “บอกให้ไปก็ไป ทำไมต้องพูดมาก?”ซ่งจั่ว “ครับ”การตรวจสอบพฤติกรรมของซือเยี่ยนเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา แต่เมื่อเขาเห็นสิ่งที่ได้จากการตรวจสอบ เขาก็ตกใจมากช่วงเย็น ซ่งจั่วก็นำหลักฐานที่ได้มาส่งให้ลู่สือเยี่ยนเขามองลู่สือเยี่ยนอย่างหวาดหวั่น มือที่กำแน่นมีเหงื่อออกลู่สือเยี่ย
เขามองซ่งจั่วอย่างเย็นชา “เธอเป็นอะไรไป?”ซ่งจั่วทำหน้างง “ผม ผมไม่รู้ครับ”ตอนเจอหลินเซียงที่โรงพยาบาลก่อนหน้านี้ เธอยังไม่เป็นแบบนี้ แต่หลินเซียงตอนนี้ เรียกได้ว่าเย็นชาและไม่เป็นมิตรอย่างมากช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นกับเธอ?ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงเย็น “ไปสืบมาให้ชัดเจน”“ครับ” ซ่งจั่วพยักหน้าลู่สือเยี่ยนไม่ออกไป แต่ไปที่ชั้นใต้ดิน ราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้จึงพูดว่า “เรียกซือเยี่ยนมาพบฉัน”“ครับ”ดีเค กรุ๊ปทันทีที่ลู่สือเยี่ยนเข้าไปในห้องส่วนตัวของประธาน ซือเยี่ยนก็เคาะประตูห้อง“เข้ามา”ซือเยี่ยนเปิดประตูเข้าไป สีหน้าค่อนข้างเกร็ง “ท่านประธานลู่”ลู่สือเยี่ยนนั่งลงบนเก้าอี้ ถามด้วยเสียงเย็นชา “นายติดตามหลินเซียงมาตลอด เห็นความผิดปกติของเธอบ้างไหม?”ดวงตาของซือเยี่ยนกะพริบเล็กน้อย เมื่อคืนเขาไม่ได้ติดตามหลินเซียงตลอดเวลา แต่เรื่องก่อนหน้านี้ก็ยังพอจะตอบคำถามได้“ฉินโหย่วหานไปรับคุณหลิน แล้วทั้งสองคนไปที่ชายหาด ที่เดียวกับที่ที่คุณหลินถูกจับตัวไปครั้งก่อน” ซือเยี่ยนเริ่มเล่าเมื่อได้ยินดังนั้น ลู่สือเยี่ยนก็หรี่ตาลงเล็กน้อย “พวกเขาไปที่นั่นทำไม?”ซือเยี่ยน “ผม ผมไม่ทราบครับ ผมอย
สีหน้าของหลินเซียงชะงักไปเล็กน้อย นิ้วที่กำโทรศัพท์แน่นขึ้น เสียงพูดแห้งผาก “ฉันเหมือนจะไม่เคยพูดว่าเขารักฉันนี่คะ”เซี่ยซือซือถอนหายใจ “หลินเซียง พวกเราแพ้แล้ว”หลินเซียงหลับตาลง “ขอโทษนะคะ คุณเซี่ย แผนการฉันดันไปดึงคุณลงมาซวยด้วย ถ้ามันสร้างความเสียหายอะไรให้คุณ คุณบอกฉันได้เลย”เซี่ยซือซือหัวเราะขมขื่น “ไม่ ไม่มีอะไรเสียหาย ฉันเต็มใจร่วมมือกับคุณเอง ไม่ว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง ฉันก็ต้องรับผิดชอบ”หลินเซียงพูดอะไรไม่ออก เพราะพวกเขาไม่เคยคิดว่าเรื่องราวจะดำเนินไปในทิศทางนี้ไม่เคยคิดเลยว่าลู่สือเยี่ยนจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเซี่ยหว่านทำไมกัน?คำถามนี้ เธอคิดไม่ตกมาตลอดทำไมเขาต้องช่วยเซี่ยหว่าน?ในใจของหลินเซียง ตอนนี้มีความรู้สึกอยากจะไปหาลู่สือเยี่ยน ถามเขาว่านี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่เสียงของเซี่ยซือซือดังขึ้น “หลินเซียง ฉันขอจัดการเรื่องของตัวเองก่อน มีความคืบหน้าอะไร เราค่อยติดต่อกันใหม่”“ค่ะ”หลังจากวางสายหลินเซียงยังคงอยู่ในสภาพเหม่อลอยไม่รู้ทำไม เสียงของเซี่ยซือซือถึงดังก้องอยู่ในหูเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าลู่สือเยี่ยนรักเธอจริงเหรอ?เคยรักจริง ๆ บ้างหรือเปล่า?