"แล้วไง"ลู่สือเยี่ยนเอนหลังลงพิงพนักโซฟา รัศมีแห่งความสง่างามและเย็นชาแผ่ซ่านไปทั่วตัวเขา ใบหน้าหล่อเหลาและคมคายแสดงออกถึงความเฉยเมยและห่างเหิน ทำให้คนอื่นไม่อาจมองทะลุถึงอารมณ์ของเขาซ่งซ่งกัดฟัน แต่เมื่อเผชิญหน้ากับเขาแบบนี้ เธอกลับคิดคำด่าอะไรไม่ออกไร้ยางอายสิ้นดี!หลินเซียงจับมือซ่งซ่ง "ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร..."เหมือนกำลังปลอบโยนซ่งซ่ง และเหมือนกำลังปลอบโยนตัวเองด้วยเธอหันไปมองลู่สือเยี่ยน "จากนี้มีอะไรก็มาลงที่ฉัน อย่าหาเรื่องทำร้ายซ่งซ่งอีก"เมื่อพูดจบ เธอก็หันหลังแล้วพาซ่งซ่งเดินจากไปลู่สือเยี่ยนมองตามแผ่นหลังของเธอ ดวงตาเริ่มมีความซับซ้อนแฝงอยู่ ก่อนจะปกคลุมด้วยความเย็นชาเมื่อทั้งสองออกจากห้องไปอากาศในห้องยังคงเต็มไปด้วยความอึดอัด ฟู่จิ่นซิ่วทำเสียง "จุ๊ จุ๊" "ฉันว่านะ นายน่ะทำตัวแปลกไปรึเปล่า?"ลู่สือเยี่ยนมองเขา "นายจะรู้อะไร"ฟู่จิ่นซิ่ว "เหอะ... คิดว่าฉันมองไม่ออกเหรอ? ตั้งแต่เข้ามาที่นี่ สายตานายก็ไม่เคยละไปจากเธอเลย เมื่อกี้ที่นายทำไปทั้งหมดก็แค่ต้องการให้เธออ้อนวอนขอร้องด้วยถ้อยคำอ่อนหวาน แต่สุดท้ายเธอดื้อรั้นกว่าที่คิด ทรมานตัวเองให้ตายไม่ยอมพูดออกมา พว
หลินเซียงเงยหน้าขึ้นมองไปที่ฉินโหย่วหาน แล้วส่งยิ้มให้เขา "เจอซ่งซ่งแล้วค่ะ เราเตรียมตัวกลับบ้านกันแล้ว"ฉินโหย่วหานกล่าวว่า "พอดีเลย งั้นผมขอไปส่งพวกคุณแล้วกัน"หลินเซียงส่ายหน้า "ไม่เป็นไร ฉันเรียกรถแล้ว ขอบคุณนะคะ"ซ่งซ่งพูดขัด "เรียกแล้วก็ยกเลิกได้ ให้คุณฉินไปส่งเราก็ไม่ใช่เรื่องลำบากอะไรซะหน่อย ขอบคุณคุณฉินมากเลยค่ะ"ฉินโหย่วหานทำหน้าเจ้าเล่ห์ ใบหน้าหล่อเหลามีเลศนัย "ซ่งซ่งพูดถึงขนาดนี้แล้ว คุณยังจะปฏิเสธผมอยู่เหรอ?"หลินเซียงมองไปที่ซ่งซ่งด้วยสีหน้าสิ้นหวังแต่ซ่งซ่งกลับขยิบตาให้เธอ สายตาของเธอมีความหมายบางอย่างแอบแฝงเมื่อพวกเขาก้าวขึ้นรถหลินเซียงพิงหัวกับหน้าต่าง จ้องมองออกไปที่ท้องฟ้ายามค่ำคืนอย่างเหม่อลอยจนนิ่งงันฉินโหย่วหานขับรถ มองเธอผ่านกระจกมองหลังแล้วถามว่า "เกิดอะไรขึ้น? เล่าให้ผมฟังได้นะ บางทีผมอาจจะช่วยคุณได้"ซ่งซ่งมองไปที่เขา ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามว่า "คุณฉินพอจะรู้จักทนายความที่ไว้ใจได้ไหมคะ โดยเฉพาะทนายที่เก่งเรื่องทำคดีหย่าร้าง?""ซ่งซ่ง!"หลินเซียงได้ยินคำพูดเธอแล้วก็รีบจับมือเธอไว้ "อย่าพูดมั่วซั่ว ฉันไม่ได้มีความคิดแบบนั้น"ซ่งซ่งมองเธอแล้
หลินเซียงลงจากรถ แต่เธอดื่มมากไป จึงรู้สึกว่าอาการไม่ดี เมื่อเงยหน้าขึ้นก็รู้สึกเวียนหัว ร่างกายก็ซวนเซไปเล็กน้อยฉินโหย่วหานเห็นดังนั้นจึงรีบเข้ามาประคองเธอไว้"ไหวหรือเปล่า?"หลินเซียงทรงตัว ก่อนจะตระหนักว่าระยะห่างระหว่างเธอกับฉินโหย่วหานใกล้กันเกินไปเธอรีบดึงมือตัวเองออก แล้วหัวเราะ "ไม่เป็นไรค่ะ แค่เวียนหัวนิดหน่อย"ฉินโหย่วหานขมวดคิ้ว "แล้วแบบนี้คุณจะกลับห้องยังไง ให้ผมไปส่งดีกว่าไหม?""ไม่เป็นไร..."หลินเซียงส่ายหัว ขณะกำลังจะพูดอะไรต่อ ก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นไม่ไกลนัก"ที่นี่ประเจิดประเจ้อเกินไปมั้ง สู้ขึ้นห้องไปเลยดีกว่าไหม?"หลินเซียงและฉินโหย่วหานหันไปพร้อมกัน เห็นลู่สือเยี่ยนนั่งอยู่ในรถไม่ไกลนัก หน้าต่างรถเปิดออก เผยให้เห็นใบหน้าเย็นชาและมืดมนของเขาดวงตาเรียวยาวคู่นั้นจ้องมองพวกเขาอย่างไร้ความปรานีหลินเซียงเม้มริมฝีปาก รีบละสายตา แล้วพูดกับฉินโหย่วหาน "ฉันกลับก่อนนะคะ"ฉินโหย่วหานเป็นห่วง "หลินเซียง หรือว่า...""ไม่เป็นไรจริง ๆ ค่ะ"หลินเซียงยิ้มให้เขาเล็กน้อย แล้วหันหลังเดินขึ้นไปยังอาคารที่พักฉินโหย่วหานมองตามหลังเธออยู่นาน ก่อนจะถอนสายตากลับไปมองลู
“จะทำอะไร!”หลินเซียงตกใจสะดุ้งถอยหลัง แต่พื้นในอ่างอาบน้ำลื่น ทำให้เธอเกาะตัวไม่อยู่ สุดท้ายก็ต้องนั่งลงไปตามเดิมลู่สือเยี่ยนเอามือข้างหนึ่งวางบนไหล่ของเธอ โน้มตัวลงมามองเธอด้วยดวงตาเรียวเล็กที่ฉายแววแดงก่ำ ราวกับกำลังอดกลั้นอารมณ์บางอย่างเอาไว้“หลินเซียง คุณชอบฉินโหย่วหานเหรอ?”เขาถามด้วยเสียงทุ้มต่ำหลินเซียงอึ้งไปชั่วขณะ รู้สึกหมดคำจะพูดเขามีสิทธิ์อะไรมาถามคำถามแบบนี้?เธอชอบใคร เขาไม่รู้หรือไง?อย่างไรก็ตาม เขาเข้ามาในบ้านของเธอแบบนี้โดยไม่ได้รับความยินยอม แถมยังมาถามเธอด้วยน้ำเสียงแบบนี้ แล้วยังทำร้ายเธออีก เธอจะบอกว่าชอบเขาได้ยังไง?“ฉันจะชอบใคร แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณ?”หลินเซียงจ้องมองเขาด้วยดวงตาใสแจ๋ว ไม่กลัวความเย็นชาของเขาเลยแม้แต่น้อย “ทำไม? ทีคุณยังชอบเซี่ยหว่านได้ จะไม่ให้ฉันชอบผู้ชายคนอื่นเลยเหรอ?”“ใช่ ห้าม!”ลู่สือเยี่ยนคำรามออกมา แล้วจับคางของเธอไว้แน่น บดจูบลงไปอย่างรุนแรงหลินเซียงตกใจ พยายามต่อสู้ขัดขืนน้ำในอ่างกระเซ็นกระเด็นไปทั่ว แต่เธอก็ไม่สามารถออกแรงได้เต็มที่ เพราะร่างกายจำกัดอยู่ในอ่างในขณะที่เขานั้นอยู่ข้างนอก สามารถควบคุมเธอได้อย่างง่
ลู่สือเยี่ยนนั่งบนเก้าอี้ด้วยสีหน้าไว้ตัวและเย็นชา “กินก่อนเถอะ”หลินเซียงเดินไปคว้าตะเกียบจากมือแล้วตบลงบนโต๊ะ“ลู่สือเยี่ยน คุณเข้ามาได้ยังไง?”ลู่สือเยี่ยนเงยหน้ามองเธอด้วยท่าทีเฉยเมย เมื่อเห็นท่าทางโกรธของเธอก็รู้สึกมีความสุขอย่างอธิบายไม่ถูก“คุณคิดว่าหลังจากเปลี่ยนรหัสล็อกแล้วผมจะเข้ามาไม่ได้เหรอ? ผมสามารถเข้ามาได้ทุกเมื่อ ตราบใดที่ต้องการ”เขาจ้องมองเธอ เสียงของเขาทุ้มต่ำกังวานแต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง หลินเซียงรู้สึกว่าเขากำลังพูดถึงเรื่องอื่นเมื่อคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ เธอก็ยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีก!“หิวก็ไปหากินที่อื่น! ห้ามกิน นี่ของฉันทั้งหมด!”หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็คว้าชามและตะเกียบที่อยู่ตรงหน้าเขาออกมา จากนั้นจึงนั่งลงตรงตำแหน่งที่ห่างจากเขามากที่สุด และเริ่มก้มหน้าก้มตากินลู่สือเยี่ยนมองไปที่เธอแล้วหัวเราะเบา ๆ “หลินเซียง ทำไมทำตัวเป็นเด็กแบบนี้ล่ะ?”หลินเซียงไม่ได้ตอบอะไรเธอทำอะไรได้บ้าง?ใช้ไม้แข็งก็แล้ว ไม้อ่อนก็แล้ว ก็ยังทำอะไรเขาไม่ได้ตอนนี้เธอทำอะไรลู่สือเยี่ยนไม่ได้จริง ๆ!ลู่สือเยี่ยนไม่ได้โกรธ แค่มองเธอด้วยความขบขัน หลังจากที่เธอกินเสร็จ
“นี่ ซ่งซ่ง เธอพอจะรู้จักช่างติดตั้งที่ล็อกประตูดิจิทัลเจ้าอื่นบ้างไหม?”ซ่งซ่งตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งเมื่อได้ยินสิ่งที่เธอพูด “เธอไม่ได้เพิ่งเปลี่ยนที่ล็อกไปเองเหรอ? ทำไมจะเปลี่ยนอีกแล้วล่ะ?”หลินเซียงตอบ “ในเมื่อมันยังป้องกันคนนอกเข้ามาไม่ได้ ฉันทำได้แค่เปลี่ยนวิธีล็อกต่อไปเรื่อย ๆ”ซ่งซ่ง “...”เธอเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “ทำไมเราไม่เปลี่ยนบ้านซะเลยล่ะ?”ดวงตาของหลินเซียงเป็นประกาย “เธอพูดถูก ย้ายบ้านไปเลยดีกว่า”ซ่งซ่ง “ฉันพอจะแนะนำเธอให้รู้จักกับคนที่ชำนาญในเรื่องนี้ได้นะ ทำเลที่ตั้งของเฟิงหลินหย่วนดีจะตายไป ถ้าเธอขายในราคาที่ถูกลงมาหน่อย ต้องมีคนเต็มใจซื้อแน่”หลินเซียง “เอาล่ะ ฉันไปทำงานก่อน แล้วค่อยคุยกันหลังเลิกงานเย็นนี้”“โอเค”…เมื่อมาถึงบริษัทหลินเซียงใช้เวลาหนึ่งวันทำงานที่คั่งค้างทั้งหมด ติดต่อกับเฉิงต๋าเกี่ยวกับเรื่องที่เกี่ยวข้อง และออกไปยังไซต์งานก่อสร้างเพื่อตรวจสอบอีกไม่มีเวลาให้เกียจคร้านเลยกว่าจะกลับมาถึงบริษัท ทุกคนก็ทยอยกลับบ้านไปเกือบหมดแล้วเธอมานั่งที่โต๊ะทำงาน จิบน้ำแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อโทรหาซ่งซ่ง“ไง เซียงเซียง งานเสร็จแล้วเหร
ลู่สือเยี่ยนเหลือบมองซ่งซ่งด้วยสายตาเย็นชาซ่งซ่งรู้สึกหนาวสั่นขึ้นมา จนต้องเบือนหน้าหนีโดยไม่รู้ตัวจากนั้นสายตาที่เย็นชาของลู่สือเยี่ยนก็เลื่อนมองไปที่ใบหน้าของฉินโหย่วหานอีกครั้ง แต่เขาแค่เหลือบมองแวบเดียว แล้วมองไปที่หลินเซียง ก่อนจะถามว่า “ไม่เกินไปหน่อยเหรอที่พาผู้ชายแปลกหน้ากลับมาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผม”หลินเซียงหัวเราะด้วยความโกรธ “นี่มันบ้านฉัน ฉันจะพาเพื่อนกลับมา ทำไมต้องขออนุญาตจากคุณด้วย?”ลู่สือเยี่ยนสอดมือข้างหนึ่งไว้ในกระเป๋ากางเกง สีหน้าเคร่งขรึมจริงจัง “เราหย่ากันแล้วเหรอ?”หลินเซียงเม้มริมฝีปากลู่สือเยี่ยนพูดต่อ “ในเมื่อเรายังไม่ได้หย่ากัน คุณก็ยังเป็นภรรยาของผม และบ้านของคุณก็ถือเป็นสินสมรส พูดอีกนัยหนึ่ง อะไรที่เป็นของคุณ ก็ถือว่าเป็นของผมเหมือนกัน”หลินเซียงระงับอารมณ์และพูดอย่างเย็นชา “หยุดพูดอะไรน่าเกลียดสักทีได้ไหม?”ลู่สือเยี่ยนมองเธอด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน “ทำไม? คิดจะทะเลาะกับผมต่อหน้าคนนอกเหรอ? แน่ใจเหรอว่าพวกเขาควรรู้เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างสามีและภรรยา?”หลินเซียง “...”ไร้ยางอาย!คนอย่างเขายังจำได้อยู่เหรอว่าพวกเขาเป็นสามีภรรยากัน?ซ่งซ่ง
“ทำอะไรน่ะ? ปล่อยฉันลงนะ!” หลินเซียงตกใจ ผู้ชายคนนี้เป็นบ้าอะไรอีกแล้ว?ลู่สือเยี่ยนรีบเดินเข้าไปในห้องนอน แล้วโยนเธอลงบนเตียง ก่อนที่เธอจะลุกขึ้น เขาก็ทิ้งร่างกายหนัก ๆ ของเขาทับลงไปบนตัวเธอ สายตามองเธอด้วยแววตาที่ลึกซึ้ง“ลู่สือเยี่ยน ทำอะไร?”หลินเซียงโกรธจนหน้าอกกระเพื่อมแรง ดวงตาคู่สวยของเธอเต็มไปด้วยความโกรธลู่สือเยี่ยนมองเธออย่างเย็นชา “ผมบอกคุณแล้วใช่ไหมว่าอยู่ให้ห่างจากฉินโหย่วหาน? แล้ววันนี้คุณหมายความว่ายังไง จะพาเขามาที่บ้านงั้นเหรอ? ถ้าผมไม่มาเจอพวกคุณพอดี พวกคุณจะเข้ามาทำอะไรกันที่นี่?”หลินเซียงรู้สึกว่าไร้เหตุผลสิ้นดี!เธอพยายามดิ้นรนอย่างแรง “ลู่สือเยี่ยน อย่าบ้าให้มันมากได้ไหม? ฉันกับฉินโหย่วหานเป็นแค่เพื่อนกัน ฉันพาเพื่อนมาเยี่ยมบ้าน ผิดตรงไหน?”เธอไม่กล้าบอกว่าเธอกำลังจะขายบ้านเพราะถ้าเขารู้ความคิดของเธอ เขาอาจจะควักหัวใจเธอออกมาเดี๋ยวนี้เลยก็ได้!ผู้ชายคนนี้ถ้าเป็นบ้าขึ้นมา เขาจะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น!ลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธออย่างแน่วแน่ เพราะการดิ้นรนอย่างแรง ใบหน้าขาวของเธอจึงแดงเรื่อขึ้นมาเล็กน้อยเธอไม่ได้แต่งหน้า สีแดงนี้จึงเหมือนเพิ่มสีสันให้กับใบห
ซ่งซ่ง “สบายใจได้เลย ไอ้บ้านั่นแกล้งฉันไม่ลงหรอก พอฉันเบื่อก็จะถีบหัวส่งเอง”หลินเซียงรู้สึกไม่ค่อยดีกลัวที่สุดคือซ่งซ่งจะเล่นจนพลาด ทำให้ฟู่จิ่นซิ่วน้อยใจ เขาอาจจะเลวร้ายกว่าลู่สือเยี่ยนเสียอีกหลินเซียงบอกความกังวลของเธอ “ยังไงก็ระวังตัวด้วยนะ”ซ่งซ่ง “ได้ ๆ รู้แล้ว”หลินเซียง “งั้นฉันไม่รบกวนเวลาทำงานแล้ว ไปก่อนนะ บาย”“จุ๊บ จุ๊บ”…หลินเซียงกลับไปที่สตูดิโอโดยตรงสภาพจิตใจของเธอเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงสวี่ซิงเย่เป็นคนแรกที่สังเกตเห็น จึงถามด้วยรอยยิ้มว่า “เรื่องอะไรทำให้คุณมีความสุขขนาดนี้ครับ?”หลินเซียงประหลาดใจ “เห็นได้ชัดขนาดนั้นเลยเหรอ?”สวี่ซิงเย่พยักหน้า “ชัดแจ๋วเลย ก่อนหน้านี้คุณทำงานไม่เคยยิ้ม วันนี้ยิ้มตลอดเวลา”หลินเซียงลูบหน้า แล้วพูดว่า “อืม ปิดการขายได้น่ะ เซ็นสัญญาเสร็จเรียบร้อย ใกล้จะรวยแล้ว ก็เลยมีความสุข”สวี่ซิงเย่ “งั้นก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ”“ขอบคุณ”หลินเซียงยิ้มเล็กน้อย แล้วหันไปเปิดคอมพิวเตอร์เธอมองไปรอบ ๆ ออฟฟิศ พบว่าวันนี้ซืออวี่ไม่ได้มา แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจ แล้วเริ่มทำงานทันทีที่โรงพยาบาลลู่สือเยี่ยนโยนใบหย่าลงตรงหน้าคุณย่าลู่ ดึ
หลินเซียงรู้สึกสงสัยเล็กน้อย “ทำไมจดล็อบบี้ไม่ได้เหรอคะ?”เจ้าหน้าที่กล่าวว่า “คุณผู้หญิง วันนี้ที่ล็อบบี้คนเยอะ เชิญทั้งสองท่านไปชั้นบนดีกว่า”หลินเซียงเหลือบมองไปที่เคาน์เตอร์รับเรื่องหย่า เห็นว่าคนแน่นจริง ๆอย่างนี้นี่เอง สมัยนี้การแต่งงานส่วนใหญ่คงไปกันไม่รอดสินะ?เธอไม่คิดอะไรมาก รีบตามเจ้าหน้าที่ขึ้นไปชั้นบนในห้องทำงานของนายทะเบียน ทั้งสองคนกรอกเอกสารเพิ่มเติม แล้วก็เข้าสู่เรื่องการแบ่งทรัพย์สินลู่สือเยี่ยนหยิบสัญญาฉบับหนึ่งให้เธอ “นี่คือค่าชดเชยให้คุณ”หลินเซียงรับมาดู พอเห็นชื่อบางชื่อ ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างบ้านที่เฟิงหลินหย่วน เขากลับยกให้เธอบ้านหลังนั้นเธอขายไปแล้วไม่ใช่เหรอ?เขาซื้อคืนมาเมื่อไหร่?หรือว่าเป็นอีกหลังหนึ่ง?นั่นเป็นบ้านหลังใหญ่หลังแรกที่เขาให้เธอ มีความทรงจำดี ๆ เธอยังคงชอบมันอยู่เธอมองลงไปด้านล่าง ยังมีค่าชดเชยการหย่าอีกห้าสิบล้านเยี่ยมไปเลย เธอกลายเป็นมหาเศรษฐีแล้วลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธออย่างลึกซึ้ง “มีอะไรสงสัยไหม?”หลินเซียงส่ายหัว “ไม่มีค่ะ”จากนั้นก็ถึงขั้นตอนการเซ็นชื่อไม่นาน นายทะเบียนก็มอบใบหย่าให้ทั้งสองคนแต่ลู่สือเยี่ยนไม
หลินเซียงกลับไปที่สตูดิโอสวี่ซิงเย่เห็นสีหน้าที่ผิดปกติของเธอ จึงถามว่า “หลินเซียง คุณไม่สบายหรือเปล่าครับ?”หลินเซียงส่ายหัว “เปล่า อาจจะแค่พักผ่อนไม่เพียงพอ”สวี่ซิงเย่กังวลเล็กน้อย “ยังมีอะไรที่ยังทำไม่เสร็จอยู่ไหมครับ? ให้ผมช่วยก็ได้ ผมจะช่วยคุณเอง”หลินเซียง “ไม่มีแล้ว ขอบคุณมาก”สวี่ซิงเย่ยังอยากจะพูดอะไรอีก ซืออวี่ก็เดินเข้ามา “เสี่ยวสวี่ ออกไปข้างนอกกับฉันหน่อย!”สวี่ซิงเย่พยักหน้า “ได้ครับ”ช่วงนี้ ซืออวี่มักจะพาสวี่ซิงเย่ออกไปข้างนอก เขามีความสามารถ แถมยังดื่มเหล้าเก่ง ถนัดการเข้าร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ทางธุรกิจมากมาย ด้วยความสามารถของเขาทำให้ดึงดูดทรัพยากรได้มาก ตอนนี้เริ่มทำแบบร่างโครงการด้วยตัวเองแล้วหลินเซียงมองตามพวกเขาออกไป ในใจเกิดความสงสัยเล็กน้อยช่วงนี้งานเลี้ยงเยอะเกินไปหรือเปล่า?ก่อนหน้านี้ไม่เห็นจะเป็นแบบนี้เลยสวี่ซินหรานพูดขึ้นมาทันที “หึ ก่อนหน้านี้บอสมักจะพาเธอออกไป ให้ความสำคัญกับเธอมาก ตอนนี้เป็นไงล่ะ ดูเหมือนความสามารถของสวี่ซิงเย่จะโดดเด่นกว่าเธอนะ”หลินเซียง “งั้นเธอมีดีอะไรบ้างล่ะ?”สวี่ซินหรานอึ้ง ไม่คิดว่าเธอจะโต้กลับหลินเซียงมองเธออย่
คุณย่าลู่ขู่จะตาย! สีหน้าของลู่สือเยี่ยนเปลี่ยนไปทันทีเซี่ยหว่านรีบเข้าไป พร้อมกับร้องไห้พูดว่า “คุณย่าลู่ค่ะ อย่าพูดอย่างนั้นเลย ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าสุขภาพของคุณแล้วค่ะ เราไปตรวจกันก่อนดีไหมคะ?”คุณย่าลู่มองเธอด้วยความปลื้มปิติ “หว่านหว่าน เธอนี่เป็นเด็กดีจริง ๆ ตระกูลลู่เป็นหนี้เธอมากเกินไปแล้ว ถ้าฉันไม่ทำอะไรสักอย่าง สู้ตายไปยังไม่เจ็บช้ำเท่า”เซี่ยหว่านร้องไห้จนพูดไม่ออก!สถานการณ์ตึงเครียดขึ้นมาทันทีลู่สือเยี่ยนไม่ยอม คุณย่าลู่ก็ยิ่งหน้าซีดลงเรื่อย ๆ เธอจับจ้องราวกับจะคาดคั้นรอการตัดสินใจของเขาหลินเซียงเดินเข้าไป มองลู่สือเยี่ยนแล้วพูดว่า “เราไปหย่ากันก่อนเถอะ สุขภาพของย่าสำคัญกว่า”คุณย่าลู่มองลู่สือเยี่ยนด้วยความกระวนกระวายลู่สือเยี่ยนหันไปมองหลินเซียงอย่างรวดเร็ว กระตุกมุมปาก “ผลลัพธ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้ คุณคงพอใจแล้วใช่ไหม?”หลินเซียงเม้มริมฝีปาก พูดว่า “แต่สุขภาพของย่าสำคัญกว่า”ลู่สือเยี่ยนพยักหน้า “ได้ หย่าก็หย่า”คุณย่าลู่ก็โล่งใจขึ้นมาทันที นอนลงบนเตียงแล้วหลับไปหมอและพยาบาลพาคุณย่าลู่ไปห้องตรวจเซี่ยหว่านเช็ดน้ำตาบนใบหน้า มองลู่สือเยี่ยนแล้วพูดว่า “สือเยี่
คุณย่าลู่ “จะมีใครทำร้ายเธอได้ยังไง? นั่นเป็นแค่การคาดเดาของเธอเท่านั้น”“เหอะ!”ลู่สือเยี่ยนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดต่อ “คุณย่าครับ คนคนหนึ่งที่เพิ่งฟื้นขึ้นมาแต่ความจำเสื่อม จะไปอยู่บนถนนได้ยังไง? คนดูแลที่บ้านเราล่ะ? หายหัวไปไหนหมด?”คุณย่าลู่เงียบไปลู่สือเยี่ยนพูดต่อ “ตอนนั้นเธอเป็นคนที่ช่วยผม พาผมกลับบ้าน ถ้าไม่ใช่เธอ วันนี้ย่าก็คงไม่ได้เจอหน้าผมแล้ว”คุณย่าลู่มองหลินเซียง แล้วพูดขึ้นมาทันทีว่า “ความจริงเป็นแค่เรื่องบังเอิญหรือเปล่า ตอนนี้ยังสรุปไม่ได้ ถ้าเกิดเธอรู้ตัวตนของหลานตั้งแต่แรกล่ะ?”“ฉันไม่รู้ค่ะ”หลินเซียงรู้สึกว่าเธอควรจะพูดอะไรสักอย่างเธอมองคุณย่าลู่อย่างสงบ “คุณย่าคะ ฉันไม่รู้ว่าทำไมคุณย่าถึงได้เกลียดฉันขนาดนี้ แต่เมื่อก่อนย่าไม่ใช่แบบนี้ แถมยังชอบฉันมาก ถึงกับบอกเขาว่า ถ้าเขาทำร้ายฉัน คุณย่าจะช่วยฉันตีเขา ฉันยังจำคำพูดพวกนั้นได้อยู่เลย”เธอหายใจออกเบา ๆ แล้วพูดต่อ “แต่แน่นอนค่ะ คุณย่าจำไม่ได้ งั้นก็ไม่สำคัญแล้ว ฉันไม่รู้จักตัวตนของเขาตั้งแต่แรก จนกระทั่งเขาได้ความทรงจำกลับมา แล้วมาเปิดตัวในที่ที่ฉันทำงานอยู่ ฉันถึงได้รู้จักตัวตนของเขา”คุณย่าลู่เงียบไป ใบหน้
หลินเซียงมองคุณย่าลู่ด้วยความประหลาดใจไม่เคยคิดมาก่อนว่าคุณย่าที่เคยใจดีกับเธอ ในระดับที่เรียกว่าเอาใจใส่ กลับคิดร้ายกับเธอแบบนี้ แล้วยังมองเธอด้วยสายตาเย็นชาหลินเซียงรู้สึกเจ็บปวดในใจที่แท้ไม่ใช่แค่ตอนที่ลู่สือเยี่ยนทำร้ายเธอเท่านั้นถึงจะรู้สึกเจ็บปวดการถูกคนที่เคยสนิทสนมทำร้าย ใจก็เจ็บปวดเช่นกันเธอเม้มริมฝีปาก แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาลู่สือเยี่ยน“ฮัลโหล?”ไม่นานปลายสายก็รับ ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มดังขึ้นหลินเซียงบอกว่า “คุณย่ามีเรื่องจะพูดกับพวกเรา ตอนนี้คุณช่วยมาโรงพยาบาลหน่อย”ลู่สือเยี่ยนถามว่า “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”หลินเซียง “มาถึงเดี๋ยวก็รู้เอง”พูดจบก็วางสายไปเรื่องหย่าควรจะพูดต่อหน้าทั้งสองคนจะดีกว่าบอกกับเธอแค่คนเดียวมีประโยชน์อะไร?เธออยากหย่า แต่ลู่สือเยี่ยนไม่ยอม คุณย่าลู่ก็ไม่เชื่อเธอทำผิดอะไร?ถึงได้ถูกปฏิบัติแบบนี้?หลินเซียงนั่งลงบนโซฟา ก้มหน้าลง ไม่มองคุณย่าลู่อีกนิสัยของเธอค่อนข้างแปลกถ้าคนคนนั้นทำร้ายเธอ ก็ยากที่จะเข้าไปอยู่ในใจเธอได้อีกคุณย่าลู่ไม่ค่อยชอบท่าทางของหลินเซียง จึงจับมือเซี่ยหว่านแล้วคุยต่อ เพราะชอบท่าทางอ่อนโยนขอ
หลังจากออกจากโรงพยาบาล ลู่สือเยี่ยนมองเธอ “อย่าคิดมาก คุณย่าแค่ลืมความทรงจำไปสองปีเท่านั้นเอง”หลินเซียงมองเขา แล้วถามว่า “แล้วถ้าคุณย่ายืนกรานจะให้คุณแต่งงานกับเซี่ยหว่านล่ะ?”ลู่สือเยี่ยนมองเธออย่างลึกซึ้ง “หลินเซียง เธอควรเลิกคิดเรื่องนี้นะ เพราะผมไม่หย่ากับคุณแน่”หลินเซียงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ แล้วพูดว่า “จริง ๆ แล้ว เราหย่ากันก็ไม่เลวนะ ฉัน…”“หยุด!”ลู่สือเยี่ยนมองเธอด้วยความหงุดหงิด “ฟังที่ผมพูดไม่รู้เรื่องเหรอ? ถ้าพูดถึงเรื่องหย่าอีก ผมจับคุณขังไว้แน่!”ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ รอบตัวเต็มไปด้วยออร่าเย็นชาหลินเซียงหยุดชะงัก ไม่พูดต่อเพราะเขาทำได้จริงเมื่อหันหลังเดินไป ใบหน้าเล็ก ๆ นั้นเย็นชายิ่งกว่าเก่าลู่สือเยี่ยนมองตามหลังเธอไป ริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้นตรงเขาเปิดประตูแล้วก้าวขึ้นรถ สีหน้ามืดครึ้มอย่างที่สุดในขณะนั้น เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์เขาดังขึ้น เขาหยิบขึ้นมาดู เป็นสายจากซืออวี่“พูดมา!”ซืออวี่ตกใจกับน้ำเสียงเย็นชาของเขา ก่อนจะกลืนน้ำลายอึกใหญ่ “พี่ใหญ่ ฉันสืบได้เรื่องบ้างแล้ว แต่คนคนนั้นฉลาดเป็นกรด ปกปิดตัวตนได้ดีมาก รู้แค่ว่าเป็นผู้ชาย”ลู่สือเยี
วันรุ่งขึ้น ทั้งสองคนไปที่โรงพยาบาลคุณย่าลู่ทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว อวิ๋นหลานนั่งคุยกับเธออยู่“คุณย่าครับ”ลู่สือเยี่ยนเดินเข้าไปเรียกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนคุณย่าลู่เห็นเขา ใบหน้าที่แก่ชราพลันมีรอยยิ้ม“สือเยี่ยน เธอมาแล้ว” คุณย่าลู่จับมือเขาไว้ มองใบหน้าหล่อเหลาของเขาแล้วพูดขึ้นมาทันทีว่า “สือเยี่ยน ทำไมดูเปลี่ยนไปจังเลย? ดูเหมือนจะโตขึ้นมากเลยนะ”ริมฝีปากบางของลู่สือเยี่ยนโค้งเป็นรอยยิ้ม “โตขึ้นแล้วไม่ดีเหรอครับ?”คุณย่าลู่พยักหน้า “ดี แน่นอนว่าดี แต่ฉันยังชอบเธอตอนเด็ก ๆ ที่ไร้เดียงสามากกว่า เอาแต่วิ่งตามหลังพี่ชายตลอดเวลา แล้วยังทำหน้าบึ้งใส่เขา มีแต่พี่ชายที่ตามใจ ถ้าเป็นคนอื่นคงตีเธอไปแล้ว”รอยยิ้มที่มุมปากของลู่สือเยี่ยนแข็งทื่อไปชั่วขณะคุณย่าลู่สังเกตเห็นหลินเซียงในตอนนี้ จึงถามว่า “แล้วเธอล่ะ มายังไง?”ลู่สือเยี่ยนบอกว่า “ย่าครับ เธอเป็นภรรยาผม หลินเซียง”หลินเซียงมองคุณย่าลู่ “คุณย่า”คิ้วของคุณย่าลู่ขมวดเข้าหากันทันที เธอปล่อยมือลู่สือเยี่ยน “ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าจะแต่งงานกับหว่านหว่านไม่ใช่เหรอ? ฉันเห็นว่าเด็กคนนั้นก็ใช้ได้นะ ทำไมถึงแต่งงานกับคนอื่นล่ะ?”ท่าทีนั้
ใบหน้าของลู่สือเยี่ยนแสดงออกถึงความซับซ้อนเล็กน้อย เขาพูดอย่างสงบว่า “เรื่องนี้ยังบอกไม่ได้ ต้องรอผลตรวจของแพทย์”หลินเซียงพยักหน้า ตอนนี้คงทำได้แค่นี้ลู่เจิ้งหรงมองหลินเซียงด้วยสายตาไม่เป็นมิตร แล้วพูดกับลู่สือเยี่ยนว่า “อาการของย่าแกดูเหมือนจะดีขึ้น ความคิดของผู้ใหญ่ แกคงรู้ดี น่าจะอยากเห็นแกแต่งงานกับหว่านหว่าน ตอนนั้นแกเป็นคนพาหว่านหว่านไปหาท่านเอง ตอนนี้ถ้าท่านขอร้อง แกก็ปฏิเสธไม่ได้”อวิ๋นหลานกล่าวว่า “เจิ้งหรง แต่สือเยี่ยนกับหลินเซียงรักกันดี ทำแบบนี้ไม่ค่อยดีหรอกมั้ง?”“เหอะ!” ลู่เจิ้งหรงหัวเราะเยาะ “รักกันดี? หลินเซียงไม่ใช่เหรอที่อยากหย่ามาตลอด? ใช้โอกาสนี้หย่ากันไปซะสิ ไม่ต้องมีใครขัดขวางใคร!”อวิ๋นหลานมองหลินเซียงด้วยความกังวล กลัวว่าเธอจะเสียใจแต่หลินเซียงเหมือนไม่ได้ยิน ยืนอยู่มุมห้อง ก้มหน้าลง ปากสวยเม้มเป็นเส้นตรงลู่สือเยี่ยนไม่ได้สนใจคำพูดของลู่เจิ้งหรงเลยเขาตามหาลู่จิ้นหนานจนแทบคลั่ง ยังมีเวลาสนใจเรื่องของเขากับหลินเซียงอีกเหรอ?ดูเหมือนว่าเขาควรหาอะไรให้อีกฝ่ายทำบ้าง!ประมาณสองชั่วโมงผ่านไปผลการตรวจของคุณย่าลู่ออกมาแล้วแพทย์ถือรายงานผลการตรวจแล้วพูด