"แล้วไง"ลู่สือเยี่ยนเอนหลังลงพิงพนักโซฟา รัศมีแห่งความสง่างามและเย็นชาแผ่ซ่านไปทั่วตัวเขา ใบหน้าหล่อเหลาและคมคายแสดงออกถึงความเฉยเมยและห่างเหิน ทำให้คนอื่นไม่อาจมองทะลุถึงอารมณ์ของเขาซ่งซ่งกัดฟัน แต่เมื่อเผชิญหน้ากับเขาแบบนี้ เธอกลับคิดคำด่าอะไรไม่ออกไร้ยางอายสิ้นดี!หลินเซียงจับมือซ่งซ่ง "ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร..."เหมือนกำลังปลอบโยนซ่งซ่ง และเหมือนกำลังปลอบโยนตัวเองด้วยเธอหันไปมองลู่สือเยี่ยน "จากนี้มีอะไรก็มาลงที่ฉัน อย่าหาเรื่องทำร้ายซ่งซ่งอีก"เมื่อพูดจบ เธอก็หันหลังแล้วพาซ่งซ่งเดินจากไปลู่สือเยี่ยนมองตามแผ่นหลังของเธอ ดวงตาเริ่มมีความซับซ้อนแฝงอยู่ ก่อนจะปกคลุมด้วยความเย็นชาเมื่อทั้งสองออกจากห้องไปอากาศในห้องยังคงเต็มไปด้วยความอึดอัด ฟู่จิ่นซิ่วทำเสียง "จุ๊ จุ๊" "ฉันว่านะ นายน่ะทำตัวแปลกไปรึเปล่า?"ลู่สือเยี่ยนมองเขา "นายจะรู้อะไร"ฟู่จิ่นซิ่ว "เหอะ... คิดว่าฉันมองไม่ออกเหรอ? ตั้งแต่เข้ามาที่นี่ สายตานายก็ไม่เคยละไปจากเธอเลย เมื่อกี้ที่นายทำไปทั้งหมดก็แค่ต้องการให้เธออ้อนวอนขอร้องด้วยถ้อยคำอ่อนหวาน แต่สุดท้ายเธอดื้อรั้นกว่าที่คิด ทรมานตัวเองให้ตายไม่ยอมพูดออกมา พว
หลินเซียงเงยหน้าขึ้นมองไปที่ฉินโหย่วหาน แล้วส่งยิ้มให้เขา "เจอซ่งซ่งแล้วค่ะ เราเตรียมตัวกลับบ้านกันแล้ว"ฉินโหย่วหานกล่าวว่า "พอดีเลย งั้นผมขอไปส่งพวกคุณแล้วกัน"หลินเซียงส่ายหน้า "ไม่เป็นไร ฉันเรียกรถแล้ว ขอบคุณนะคะ"ซ่งซ่งพูดขัด "เรียกแล้วก็ยกเลิกได้ ให้คุณฉินไปส่งเราก็ไม่ใช่เรื่องลำบากอะไรซะหน่อย ขอบคุณคุณฉินมากเลยค่ะ"ฉินโหย่วหานทำหน้าเจ้าเล่ห์ ใบหน้าหล่อเหลามีเลศนัย "ซ่งซ่งพูดถึงขนาดนี้แล้ว คุณยังจะปฏิเสธผมอยู่เหรอ?"หลินเซียงมองไปที่ซ่งซ่งด้วยสีหน้าสิ้นหวังแต่ซ่งซ่งกลับขยิบตาให้เธอ สายตาของเธอมีความหมายบางอย่างแอบแฝงเมื่อพวกเขาก้าวขึ้นรถหลินเซียงพิงหัวกับหน้าต่าง จ้องมองออกไปที่ท้องฟ้ายามค่ำคืนอย่างเหม่อลอยจนนิ่งงันฉินโหย่วหานขับรถ มองเธอผ่านกระจกมองหลังแล้วถามว่า "เกิดอะไรขึ้น? เล่าให้ผมฟังได้นะ บางทีผมอาจจะช่วยคุณได้"ซ่งซ่งมองไปที่เขา ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามว่า "คุณฉินพอจะรู้จักทนายความที่ไว้ใจได้ไหมคะ โดยเฉพาะทนายที่เก่งเรื่องทำคดีหย่าร้าง?""ซ่งซ่ง!"หลินเซียงได้ยินคำพูดเธอแล้วก็รีบจับมือเธอไว้ "อย่าพูดมั่วซั่ว ฉันไม่ได้มีความคิดแบบนั้น"ซ่งซ่งมองเธอแล้
หลินเซียงลงจากรถ แต่เธอดื่มมากไป จึงรู้สึกว่าอาการไม่ดี เมื่อเงยหน้าขึ้นก็รู้สึกเวียนหัว ร่างกายก็ซวนเซไปเล็กน้อยฉินโหย่วหานเห็นดังนั้นจึงรีบเข้ามาประคองเธอไว้"ไหวหรือเปล่า?"หลินเซียงทรงตัว ก่อนจะตระหนักว่าระยะห่างระหว่างเธอกับฉินโหย่วหานใกล้กันเกินไปเธอรีบดึงมือตัวเองออก แล้วหัวเราะ "ไม่เป็นไรค่ะ แค่เวียนหัวนิดหน่อย"ฉินโหย่วหานขมวดคิ้ว "แล้วแบบนี้คุณจะกลับห้องยังไง ให้ผมไปส่งดีกว่าไหม?""ไม่เป็นไร..."หลินเซียงส่ายหัว ขณะกำลังจะพูดอะไรต่อ ก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นไม่ไกลนัก"ที่นี่ประเจิดประเจ้อเกินไปมั้ง สู้ขึ้นห้องไปเลยดีกว่าไหม?"หลินเซียงและฉินโหย่วหานหันไปพร้อมกัน เห็นลู่สือเยี่ยนนั่งอยู่ในรถไม่ไกลนัก หน้าต่างรถเปิดออก เผยให้เห็นใบหน้าเย็นชาและมืดมนของเขาดวงตาเรียวยาวคู่นั้นจ้องมองพวกเขาอย่างไร้ความปรานีหลินเซียงเม้มริมฝีปาก รีบละสายตา แล้วพูดกับฉินโหย่วหาน "ฉันกลับก่อนนะคะ"ฉินโหย่วหานเป็นห่วง "หลินเซียง หรือว่า...""ไม่เป็นไรจริง ๆ ค่ะ"หลินเซียงยิ้มให้เขาเล็กน้อย แล้วหันหลังเดินขึ้นไปยังอาคารที่พักฉินโหย่วหานมองตามหลังเธออยู่นาน ก่อนจะถอนสายตากลับไปมองลู
“จะทำอะไร!”หลินเซียงตกใจสะดุ้งถอยหลัง แต่พื้นในอ่างอาบน้ำลื่น ทำให้เธอเกาะตัวไม่อยู่ สุดท้ายก็ต้องนั่งลงไปตามเดิมลู่สือเยี่ยนเอามือข้างหนึ่งวางบนไหล่ของเธอ โน้มตัวลงมามองเธอด้วยดวงตาเรียวเล็กที่ฉายแววแดงก่ำ ราวกับกำลังอดกลั้นอารมณ์บางอย่างเอาไว้“หลินเซียง คุณชอบฉินโหย่วหานเหรอ?”เขาถามด้วยเสียงทุ้มต่ำหลินเซียงอึ้งไปชั่วขณะ รู้สึกหมดคำจะพูดเขามีสิทธิ์อะไรมาถามคำถามแบบนี้?เธอชอบใคร เขาไม่รู้หรือไง?อย่างไรก็ตาม เขาเข้ามาในบ้านของเธอแบบนี้โดยไม่ได้รับความยินยอม แถมยังมาถามเธอด้วยน้ำเสียงแบบนี้ แล้วยังทำร้ายเธออีก เธอจะบอกว่าชอบเขาได้ยังไง?“ฉันจะชอบใคร แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณ?”หลินเซียงจ้องมองเขาด้วยดวงตาใสแจ๋ว ไม่กลัวความเย็นชาของเขาเลยแม้แต่น้อย “ทำไม? ทีคุณยังชอบเซี่ยหว่านได้ จะไม่ให้ฉันชอบผู้ชายคนอื่นเลยเหรอ?”“ใช่ ห้าม!”ลู่สือเยี่ยนคำรามออกมา แล้วจับคางของเธอไว้แน่น บดจูบลงไปอย่างรุนแรงหลินเซียงตกใจ พยายามต่อสู้ขัดขืนน้ำในอ่างกระเซ็นกระเด็นไปทั่ว แต่เธอก็ไม่สามารถออกแรงได้เต็มที่ เพราะร่างกายจำกัดอยู่ในอ่างในขณะที่เขานั้นอยู่ข้างนอก สามารถควบคุมเธอได้อย่างง่
ลู่สือเยี่ยนนั่งบนเก้าอี้ด้วยสีหน้าไว้ตัวและเย็นชา “กินก่อนเถอะ”หลินเซียงเดินไปคว้าตะเกียบจากมือแล้วตบลงบนโต๊ะ“ลู่สือเยี่ยน คุณเข้ามาได้ยังไง?”ลู่สือเยี่ยนเงยหน้ามองเธอด้วยท่าทีเฉยเมย เมื่อเห็นท่าทางโกรธของเธอก็รู้สึกมีความสุขอย่างอธิบายไม่ถูก“คุณคิดว่าหลังจากเปลี่ยนรหัสล็อกแล้วผมจะเข้ามาไม่ได้เหรอ? ผมสามารถเข้ามาได้ทุกเมื่อ ตราบใดที่ต้องการ”เขาจ้องมองเธอ เสียงของเขาทุ้มต่ำกังวานแต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง หลินเซียงรู้สึกว่าเขากำลังพูดถึงเรื่องอื่นเมื่อคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ เธอก็ยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีก!“หิวก็ไปหากินที่อื่น! ห้ามกิน นี่ของฉันทั้งหมด!”หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็คว้าชามและตะเกียบที่อยู่ตรงหน้าเขาออกมา จากนั้นจึงนั่งลงตรงตำแหน่งที่ห่างจากเขามากที่สุด และเริ่มก้มหน้าก้มตากินลู่สือเยี่ยนมองไปที่เธอแล้วหัวเราะเบา ๆ “หลินเซียง ทำไมทำตัวเป็นเด็กแบบนี้ล่ะ?”หลินเซียงไม่ได้ตอบอะไรเธอทำอะไรได้บ้าง?ใช้ไม้แข็งก็แล้ว ไม้อ่อนก็แล้ว ก็ยังทำอะไรเขาไม่ได้ตอนนี้เธอทำอะไรลู่สือเยี่ยนไม่ได้จริง ๆ!ลู่สือเยี่ยนไม่ได้โกรธ แค่มองเธอด้วยความขบขัน หลังจากที่เธอกินเสร็จ
“นี่ ซ่งซ่ง เธอพอจะรู้จักช่างติดตั้งที่ล็อกประตูดิจิทัลเจ้าอื่นบ้างไหม?”ซ่งซ่งตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งเมื่อได้ยินสิ่งที่เธอพูด “เธอไม่ได้เพิ่งเปลี่ยนที่ล็อกไปเองเหรอ? ทำไมจะเปลี่ยนอีกแล้วล่ะ?”หลินเซียงตอบ “ในเมื่อมันยังป้องกันคนนอกเข้ามาไม่ได้ ฉันทำได้แค่เปลี่ยนวิธีล็อกต่อไปเรื่อย ๆ”ซ่งซ่ง “...”เธอเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “ทำไมเราไม่เปลี่ยนบ้านซะเลยล่ะ?”ดวงตาของหลินเซียงเป็นประกาย “เธอพูดถูก ย้ายบ้านไปเลยดีกว่า”ซ่งซ่ง “ฉันพอจะแนะนำเธอให้รู้จักกับคนที่ชำนาญในเรื่องนี้ได้นะ ทำเลที่ตั้งของเฟิงหลินหย่วนดีจะตายไป ถ้าเธอขายในราคาที่ถูกลงมาหน่อย ต้องมีคนเต็มใจซื้อแน่”หลินเซียง “เอาล่ะ ฉันไปทำงานก่อน แล้วค่อยคุยกันหลังเลิกงานเย็นนี้”“โอเค”…เมื่อมาถึงบริษัทหลินเซียงใช้เวลาหนึ่งวันทำงานที่คั่งค้างทั้งหมด ติดต่อกับเฉิงต๋าเกี่ยวกับเรื่องที่เกี่ยวข้อง และออกไปยังไซต์งานก่อสร้างเพื่อตรวจสอบอีกไม่มีเวลาให้เกียจคร้านเลยกว่าจะกลับมาถึงบริษัท ทุกคนก็ทยอยกลับบ้านไปเกือบหมดแล้วเธอมานั่งที่โต๊ะทำงาน จิบน้ำแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อโทรหาซ่งซ่ง“ไง เซียงเซียง งานเสร็จแล้วเหร
ลู่สือเยี่ยนเหลือบมองซ่งซ่งด้วยสายตาเย็นชาซ่งซ่งรู้สึกหนาวสั่นขึ้นมา จนต้องเบือนหน้าหนีโดยไม่รู้ตัวจากนั้นสายตาที่เย็นชาของลู่สือเยี่ยนก็เลื่อนมองไปที่ใบหน้าของฉินโหย่วหานอีกครั้ง แต่เขาแค่เหลือบมองแวบเดียว แล้วมองไปที่หลินเซียง ก่อนจะถามว่า “ไม่เกินไปหน่อยเหรอที่พาผู้ชายแปลกหน้ากลับมาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผม”หลินเซียงหัวเราะด้วยความโกรธ “นี่มันบ้านฉัน ฉันจะพาเพื่อนกลับมา ทำไมต้องขออนุญาตจากคุณด้วย?”ลู่สือเยี่ยนสอดมือข้างหนึ่งไว้ในกระเป๋ากางเกง สีหน้าเคร่งขรึมจริงจัง “เราหย่ากันแล้วเหรอ?”หลินเซียงเม้มริมฝีปากลู่สือเยี่ยนพูดต่อ “ในเมื่อเรายังไม่ได้หย่ากัน คุณก็ยังเป็นภรรยาของผม และบ้านของคุณก็ถือเป็นสินสมรส พูดอีกนัยหนึ่ง อะไรที่เป็นของคุณ ก็ถือว่าเป็นของผมเหมือนกัน”หลินเซียงระงับอารมณ์และพูดอย่างเย็นชา “หยุดพูดอะไรน่าเกลียดสักทีได้ไหม?”ลู่สือเยี่ยนมองเธอด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน “ทำไม? คิดจะทะเลาะกับผมต่อหน้าคนนอกเหรอ? แน่ใจเหรอว่าพวกเขาควรรู้เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างสามีและภรรยา?”หลินเซียง “...”ไร้ยางอาย!คนอย่างเขายังจำได้อยู่เหรอว่าพวกเขาเป็นสามีภรรยากัน?ซ่งซ่ง
“ทำอะไรน่ะ? ปล่อยฉันลงนะ!” หลินเซียงตกใจ ผู้ชายคนนี้เป็นบ้าอะไรอีกแล้ว?ลู่สือเยี่ยนรีบเดินเข้าไปในห้องนอน แล้วโยนเธอลงบนเตียง ก่อนที่เธอจะลุกขึ้น เขาก็ทิ้งร่างกายหนัก ๆ ของเขาทับลงไปบนตัวเธอ สายตามองเธอด้วยแววตาที่ลึกซึ้ง“ลู่สือเยี่ยน ทำอะไร?”หลินเซียงโกรธจนหน้าอกกระเพื่อมแรง ดวงตาคู่สวยของเธอเต็มไปด้วยความโกรธลู่สือเยี่ยนมองเธออย่างเย็นชา “ผมบอกคุณแล้วใช่ไหมว่าอยู่ให้ห่างจากฉินโหย่วหาน? แล้ววันนี้คุณหมายความว่ายังไง จะพาเขามาที่บ้านงั้นเหรอ? ถ้าผมไม่มาเจอพวกคุณพอดี พวกคุณจะเข้ามาทำอะไรกันที่นี่?”หลินเซียงรู้สึกว่าไร้เหตุผลสิ้นดี!เธอพยายามดิ้นรนอย่างแรง “ลู่สือเยี่ยน อย่าบ้าให้มันมากได้ไหม? ฉันกับฉินโหย่วหานเป็นแค่เพื่อนกัน ฉันพาเพื่อนมาเยี่ยมบ้าน ผิดตรงไหน?”เธอไม่กล้าบอกว่าเธอกำลังจะขายบ้านเพราะถ้าเขารู้ความคิดของเธอ เขาอาจจะควักหัวใจเธอออกมาเดี๋ยวนี้เลยก็ได้!ผู้ชายคนนี้ถ้าเป็นบ้าขึ้นมา เขาจะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น!ลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธออย่างแน่วแน่ เพราะการดิ้นรนอย่างแรง ใบหน้าขาวของเธอจึงแดงเรื่อขึ้นมาเล็กน้อยเธอไม่ได้แต่งหน้า สีแดงนี้จึงเหมือนเพิ่มสีสันให้กับใบห