ลู่สือเยี่ยนนิ่งันไปชั่วขณะเขายกมือขึ้นหมายจะเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของเธอ แต่เธอกลับหลบหลีกหลินเซียงยกมือขึ้นปาดน้ำตามั่วซั่ว "อย่ามาแตะฉัน"ลู่สือเยี่ยนกลืนน้ำลายลงคอ แล้วจ้องมองเธออย่างจริงจัง "หลินเซียง คุณ..."เขาเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่จนแล้วจนรอดก็พูดไม่ออก ได้แต่จ้องมองเธอนิ่ง ๆ อยู่อย่างนั้นความเจ็บปวดที่หน้าอกทำให้เขารู้สึกอึดอัด เมื่อเห็นความน้อยใจและความโศกเศร้าในดวงตาเธอ เขาทั้งรู้สึกสับสนและตื่นตระหนกหลินเซียงสูดหายใจเข้าลึก "ลู่สือเยี่ยน เราหย่ากันดี ๆ ได้ไหม ขอร้องล่ะ คุณมีคนเก่ง ๆ รอบตัวมากมาย พวกเขาต้องปกป้องเซี่ยหว่านได้แน่ ๆ ฉันแค่อยากใช้ชีวิตที่สงบสุข ชีวิตของฉันสามารถอยู่ได้โดยที่ไม่มีคุณ"ริมฝีปากบางของลู่สือเยี่ยนเม้มเป็นเส้นตรงกลับกัน ถ้าชีวิตของเขาไม่มีเธอล่ะ จะเป็นยังไง?จู่ ๆ ภาพความทรงจำเกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับเธอในปีที่ผ่านมาก็ผุดขึ้นในหัวเธอเป็นผู้บริสุทธิ์แต่เธอบริสุทธิ์อย่างที่เห็นจริง ๆ เหรอ?ตอนแรกที่รู้ตัวตนของเขา ทำไมเธอถึงไม่ยอมหย่า?อารมณ์ฟุ้งซ่านในดวงตาของลู่สือเยี่ยนค่อย ๆ กลับมาสงบ เขายืดตัวตรงแล้วปิดปร
เมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่หน้าประตู เธอก็ชะงักไปทำไมเป็นเขาอีกแล้ว?หลินเซียงกำไม้เบสบอลในมือแน่น แล้วหันหลังเดินหนีไปเป็นไปไม่ได้ที่จะเปิดประตู ไม่มีทางที่จะเปิดประตูให้เขาไปตลอดชีวิตแต่พอเห็นหน้าผู้ชายเฮงซวยคนนี้แล้วก็รู้สึกหงุดหงิดหลินเซียงเข้าไปในครัว ต้มมาม่า ก่อนจะหยิบแท็บเล็ตขึ้นมาแล้วหาซีรีส์ดูความคิดของเธอถูกดึงดูดไปที่ซีรีส์ทันที ไม่สนใจเลยว่าคนที่รออยู่หน้าประตูจะเป็นอย่างไรเวลาผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมงเสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้นอีกครั้งหลินเซียงคิดว่าเป็นลู่สือเยี่ยนอีก จึงไม่สนใจ เดินไปล้างหน้าล้างตาแล้วเตรียมตัวเข้านอนแต่คราวนี้เสียงกริ่งประตูกลับดังไม่หยุดหลินเซียงรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก จึงเดินไปเปิดประตูด้วยความหงุดหงิด "ฉันบอกคุณแล้วไงว่า..."แต่เธอยังพูดไม่จบ พอเห็นตำรวจสองคนที่สวมเครื่องแบบเจ้าพนักงานยืนอยู่หน้าประตู เธอถึงกับอึ้งไปทันที"พวกคุณ..."ตำรวจทั้งสองมองหน้ากัน แล้วเบี่ยงตัวหลบไปคนละนิด ตำรวจคนหนึ่งชี้ไปทางผู้ชายที่นั่งกองอยู่บนพื้นแล้วถาม "เขาเป็นสามีคุณหรือเปล่า?"หลินเซียงงงเล็กน้อย "ไม่ใช่ค่ะ""ผมเอง"ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงอ่อย แล้ว
"เซียงเซียง"ลมหายใจร้อนผ่าวราดรดซอกคอของเธอ ผิวหนังบริเวณนั้นบอบบางและไวต่อความรู้สึก ความรู้สึกเสียวซ่าปรากฏขึ้นมา ราวกับมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านหลินเซียงดิ้นรนอย่างหนัก "ลู่สือเยี่ยน ปล่อยฉัน!"คำพูดที่เธอพูดไปก่อนหน้านี้ เขาไม่ได้สนใจเลยเหรอ?ปล่อยให้เดือนนี้ผ่านไปอย่างสงบไม่ได้หรือไง?ทำไมต้องมาวุ่นวายกับเธออีก?ทำให้เธอคิดว่าเขายังรักเธออยู่หลินเซียงยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ ดิ้นรนออกแรงมากขึ้น แต่ลู่สือเยี่ยนเองก็กอดเธอแน่นขึ้น เช่นเดียวกัน ลมหายใจร้อนผ่าวประทับลงบนผิวหนังหลินเซียงเหนื่อยแล้ว เริ่มหายใจหอบ "ทำแบบนี้หมายความว่าไง?"แต่ลู่สือเยี่ยนเอาแต่กอดเธอไว้เฉย ๆ ไม่ยอมพูดอะไรหลินเซียงผ่อนลมหายใจออกช้า ๆ แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์เขาลู่สือเยี่ยนถามเสียงอ่อน "เซียงเซียง คุณเอามือถือผมไปทำไม?"แต่หลินเซียงไม่พูดอะไร พอหาโทรศัพท์เขาเจอก็คว้าเอานิ้วของเขามาปลดล็อกหน้าจอ หาเบอร์ของเซี่ยหว่านแล้วกดโทรออกลู่สือเยี่ยนเห็นดังนั้นก็รีบแย่งโทรศัพท์คืนแล้ววางสายทันที ก่อนจะโยนโทรศัพท์ออกไปไกล ๆ"คุณ..."หลินเซียงเห็นดังนั้นก็โกรธมาก"ลู่สือเยี่ยน คุณไม่ได้ชอบเซี่ยหว่านหรอกเหรอ?
หลินเซียงหลับตาลงและพูดต่อ "ถ้าคุณไม่อยากหย่า งั้นก็ลุกขึ้นก่อน เดี๋ยวฉันไปทำซุปแก้เมาค้างมาให้"เสียงพึมพำของลู่สือเยี่ยนหยุดชะงัก เขาเงยหน้าขึ้นมองเธอ ราวกับจะทบทวนว่าคำพูดของเธอเป็นจริงหรือเท็จหลินเซียงจ้องมองเขาอย่างสงบหลังจากนั้นไม่นาน ปลายจมูกของลู่สือเยี่ยนก็แตะลงบนตัวเธออย่างแผ่วเบา “ไม่หย่าจริงนะ?”"อืม"หลินเซียงอดทนต่อความสั่นไหวภายในใจ พยายามตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาดูเหมือนลู่สือเยี่ยนจะโล่งใจเมื่อได้ยินอย่างนั้น จึงยอมปล่อยเธอแต่โดยดีหลินเซียงยืนขึ้น เดินตรงไปที่ห้องครัวลู่สือเยี่ยนเอื้อมมือออกไปนวดขมับพร้อมกับขมวดคิ้ว“ลู่สือเยี่ยน ซุปแก้เมาได้แล้ว”ทันใดนั้น เสียงของหลินเซียงก็ดังขึ้นการแสดงออกของลู่สือเยี่ยนแข็งค้าง เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?เขาเงยหน้าขึ้น วินาทีต่อมา น้ำเย็นจัดจากกะละมังก็ถูกเทราดลงบนตัวเขาโดยตรงลู่สือเยี่ยนหลับตาลงทันที ปล่อยให้น้ำไหลลงมาตามร่างกาย โซฟาและพรมเปียกโชกไปหมดหลินเซียงถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา "หายเมาหรือยังล่ะ?"หากคิดว่าทำตัวเมาแล้วบุกมาหาเธอถึงที่บ้าน เธอจะถือเสียว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นงั้นเหรอ?เธอจำทุกสิ่งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ได้
ไม่ว่าพูดอะไรไปก็เหมือนพูดให้คนหูหนวกฟังหลินเซียงหลับตาลง ยอมแพ้ไม่สู้ดิ้นรนอีกต่อไปพูดให้ถูก… คือเธอเลิกดิ้นไปตั้งนานแล้วไม่สามารถต้านทานอะไรเขาได้เลยขืนเธอยังคงฝืนดิ้นรนต่อไป รับประกันได้ว่าคนบ้าอย่างเขาคงทำให้เธอขาดใจตายบนเตียงแน่นอนอาการง่วงซึมเริ่มเข้ามาแทนที่ หลินเซียงหลับตาลงทันทีจูบของลู่สือเยี่ยนระเรื่อยมาถึงหู แต่เมื่อเห็นว่าดวงตาของเธอปิดสนิท สายตาของเขาก็ยิ่งลึกลับซับซ้อนตอนนี้ไม่มีหยดน้ำเกาะอยู่บนร่างกายเขาอีกต่อไป มีแต่เหงื่อที่เปียกโฉก พอจ้องมองไปยังริมฝีปากเธอที่ถูกเขาบดจูบจนบวมแดง เขาจับคางเธอไว้แล้วประทับจูบลงไปอีกครั้งในที่สุดหลินเซียงที่ผล็อยหลับไปก็ถูกเขาปลุกให้ตื่น“อื้อ… คนบ้า”หลินเซียงตะคอก ออกแรงมือดันตัวเขาออก แต่เขาก็ยังคงไม่ขยับเขยื้อนลู่สือเยี่ยนจูบเธอหนักหน่วง การเคลื่อนไหวจากดุเดือดเปลี่ยนเป็นอ้อยอิ่ง ราวกับเขาต้องการดูดกลืนเธอเข้าไปดูเหมือนวิธีนี้จะเป็นวิธีเดียวที่สามารถหยุดยั้งไม่ให้เธอพูดในสิ่งที่ทำให้เขาโกรธ และจะไม่พูดเรื่องขอหย่าอย่างง่ายดายวันรุ่งขึ้นเมื่อหลินเซียงตื่นนอน จึงเห็นว่าลู่สือเยี่ยนไม่อยู่ในห้องอีกต่อไปความท
ซ่งซ่งพูดขึ้นทันที "นี่ รู้จักคำว่ามาก่อนได้ก่อนไหม? ฉันเห็นสร้อยคอเส้นนี้ก่อนนะ!"เซี่ยหว่านกะพริบตา ใบหน้ามีรอยยิ้ม หันไปทางหลินเซียง "งั้นคงต้องถามคุณหลินแล้วล่ะ ว่ารู้จักคำว่ามาก่อนได้ก่อนไหม?""เธอ!"ซ่งซ่งระเบิดออกมาทันที ชี้ไปที่จมูกของเซี่ยหว่านแล้วด่ากราด "เธอล่ะ มาทำตัวเป็นนางเอกใสซื่ออะไรตรงนี้ คิดว่าเซียงเซียงของฉันให้ค่าเหรอ ถ้าจะพาลก็ควรพาลใส่คนที่ไม่ยอมหย่าซะทีสิ ไม่ใช่มาที่นี่แล้วทำเป็นเหน็บแนมเซียงเซียงของฉัน!"รอยยิ้มบนใบหน้าของเซี่ยหว่านกลับยิ่งกว้างขึ้น "คุณซ่งยังไม่รู้เหรอ ว่าทำไมสือเยี่ยนถึงไม่ยอมหย่ากับคุณหลิน ก็เพราะสือเยี่ยนกำลังปกป้องฉันไงล่ะ ตราบใดที่คุณหลินยังมีสถานะเป็นภรรยาของสือเยี่ยนอยู่ อันตรายก็จะไม่กล้ำกรายมาหาฉัน""หน้าด้าน!"ซ่งซ่งโกรธจนแทบระเบิด หันไปทางชายหนุ่มที่เงียบอยู่ตลอด แต่มีสีหน้าเย็นชา "ที่เธอพูดมาจริงไหม? นายคิดแบบนั้นจริงเหรอ?"ลู่สือเยี่ยนสวมสูทสีดำ ทั่วทั้งตัวแผ่กลิ่นอายของความเย็นชาและน่ายำเกรง ดวงตาดำขลับมองไปที่ซ่งซ่งโดยไม่แสดงอารมณ์ "แค่สร้อยคอเส้นเดียว พอโดนขัดใจก็ด่ากราดแบบนี้? มารยาทไปไหนหมด"ซ่งซ่งหัวเราะเยาะ "มารยาท
ริมฝีปากบางเฉียบของลู่สือเยี่ยนเม้มเข้าหากันเป็นเส้นตรง ดวงตาสีดำขลับจมลึกจ้องไปที่หลินเซียง "ไม่ยอมขอโทษเหรอ?"หลินเซียงรู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่กัดกินเข้ามาในหัวใจของเธออย่างไม่ทราบสาเหตุเธอไม่กลัวอะไร ไม่มีอะไรน่ากังวล แต่ซ่งซ่งไม่เหมือนกัน!ก่อนหน้านี้เธอโต้เถียงกับเซี่ยหว่านอย่างดุเดือด แต่ทันทีที่เขาพูดออกมา เธอกลับตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบในทันทีเห็นได้ชัดว่าเธอไม่ใช่คนที่เขาโปรดปรานความเย่อหยิ่งในดวงตาหลินเซียงค่อย ๆ จางหายไป กลายเป็นรอยยิ้มเยาะอันแสนขมขื่น"ลู่สือเยี่ยน แน่ใจเหรอว่าจะทำแบบนี้?"กี่ครั้งแล้วที่เขาทำให้เธอตกอยู่ในสถานะต่ำต้อย ไร้ค่า และอับอายขายหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า?น้ำเสียงของลู่สือเยี่ยนทุ้มต่ำทรงเสน่ห์เช่นเคย แต่กลับเย็นชาและห่างเหิน "ว่าไงล่ะ?"หลินเซียงหลับตาลง ก่อนจะพยักหน้า "ก็ได้ ฉันรู้แล้ว"เธอหันไปทางเซี่ยหว่าน กำลังจะเอ่ยปากขอโทษ แต่ซ่งซ่งขวางไว้"เซียงเซียง อย่าก้มหัวให้คนพรรค์นี้ ให้ตายฉันก็ไม่ขอโทษ อยากรู้เหมือนกันว่าเขาจะฆ่าฉันหรือเปล่า!"ซ่งซ่งโอบไหล่หลินเซียง "ไปกันเถอะ สร้อยคอห่วย ๆ นั่นเราไม่เอาแล้วก็ได้ เดี๋ยวฉันจะซื้อของขวัญท
สีหน้าของลู่สือเยี่ยนเปลี่ยนไป แล้วพูดว่า "ผมจะให้คนไปส่งคุณ"เซี่ยหว่านพยักหน้า "ได้ค่ะ"คนขับรถมาถึงเร็วมาก เมื่อเห็นเซี่ยหว่านขึ้นรถ ลู่สือเยี่ยนก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก"แบ่งคนมาจับตัวซ่งซ่ง"...ทั้งสองคนกินสเต็กเสร็จแล้วก็ไปเดินเล่นต่อที่ตลาดกลางคืน เพื่อคลายความหงุดหงิดลงได้บ้าง หลินเซียงจับแขนซ่งซ่ง ถอนหายใจแล้วพูดว่า "ซ่งซ่ง ฉันว่าเธอกลับไปต่างประเทศเถอะ"ซ่งซ่งส่ายหัว "ไม่ได้ ฉันจะอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนเธอ ปกป้องเธอ ไม่ให้ไอ้ผู้ชายเฮงซวยคนนั้นรังแกเธออีก"หลินเซียง "หรือฉันแต่งงานใหม่กับเธอไปเลยดี?"ซ่งซ่ง "ดีเลย ดีเลย ดีเลย"หลินเซียงหัวเราะ"บังเอิญจัง"ในเวลานี้ เสียงพูดจาหยอกล้อดังขึ้นข้าง ๆ ทั้งสองคนเมื่อหันไปมองพร้อมกัน ก็เห็นฉินโหย่วหานที่ย้อมผมสีฟ้าโดดเด่น เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มหลินเซียงรู้สึกแปลกใจ "คุณฉิน คุณก็มาเดินเล่นที่นี่เหมือนกันเหรอคะ?"แต่ฉินโหย่วหานกลับพูดว่า "ผมเป็นขาประจำที่นี่เลยล่ะ ดูนั่น ก๋วยเตี๋ยวร้านนั้นอร่อยมาก แค่บอกชื่อผมก็ได้ส่วนลดเลย"หลินเซียง "จริงเหรอคะ? งั้นฉันจะลองไปถามดู"พูดจบก็ตั้งท่าจะเดินไปฉินโหย่วหานยิ้มเจ้าเล่ห