Share

ตอน 2

Author: 橙花
last update Last Updated: 2024-12-09 08:24:03

       ย้อนกลับมาเมื่อเกือบร้อยปีก่อน  ในเมืองหลวงมีตระกูลหนิงที่เป็นช่างหลวงมาตั้งแต่บรรพบุรุษ  พวกเขาใช้ความรู้ความสามารถที่มีเฉพาะคนในตระกูลหนิงเท่านั้นที่รู้  รับใช้ราชสำนักมาตลอดเวลากว่าร้อยปีจนทำให้ตระกูลหนิงเจิรญรุ่งเรืองมาจนปัจจุบัน  แต่ยิ่งพวกเขาได้รับความไว้วางใจมากเท่าไหร่  ความปลอดภัยของคนในครอบครัวพวกเขายิ่งลดน้อยลงเท่านั้น

       ยิ่งการแข่งขันในราชสำนักที่มีมานานหลายปี  พวกเขาก็ยิ่งต้องระมัดระวังตนเองและคนในครอบครัวไม่ให้เผลอทำสิ่งใดผิดพลาดไปจนต้องถูกลงโทษจากฮ่องเต้

       ตระกูลหนิงที่มีหน้าที่ออกแบบอาวุธและสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับราชสำนักต่างทำงานอย่างขยันขันแข็ง  พวกเขามีระเบียบในการทำงานมาโดยตลอดจนไม่มีใครสามารถจับผิดพวกเขาได้เลย

       ความรู้ความสามารถเฉพาะของตระกูลหนิงยิ่งไปเข้าตาฮ่องเต้มากขึ้น ฝ่าบาทถึงขั้นมอบรางวัลให้ตระกูลหนิงไม่น้อยที่สร้างสิ่งประดิษฐ์ที่มีประโยชน์ให้กับแคว้นมากมาย

       เสนาบดีฝ่ายต่าง ๆ ถึงจะอิจฉาแต่ก็ไม่สามารถทำได้เหมือนขุนนางหนิง  พวกเขาได้แต่ติชมไปตามเรื่องตามราวเพื่อลดความโปรดปรานของฝ่าบาทที่มีให้กับตระกูลหนิง

       ซึ่งหนิงซวนหยวนผู้นำตระกูลต่างสอนให้คนในครอบครัวเก็บงำความสามารถเอาไว้บ้าง  เนื่องจากความรู้สึกของเขาบอกว่าหากเขายังได้รับความโปรดปรานเช่นนี้ต่อไป  อาจมีคนคิดไม่ซื่อกับครอบครัวเขาก็เป็นได้

       ทุกคนในตระกูลหนิงจึงเปลี่ยนพฤติกรรมที่เคยเชิดหน้าชูคอเปลี่ยนเป็นนิ่งสงบไม่สนใจเรื่องราวอื่น ๆ นอกจากการทำงานให้ราชสำนักเท่านั้น พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของคนในตระกูลหนิงทำให้ฮ่องเต้แปลกใจไม่น้อย แต่ในเมื่อไม่มีผลกระทบกับการทำงานให้ราชสำนัก  ฝ่าบาทเองก็ไม่ได้สนใจสิ่งใดมากนัก

       นอกจากพระสนมกุ้ยอิงที่ครอบครัวนางพยายามเลียนแบบครอบครัวหนิงแต่ก็ไม่สามารถทำได้ดีกว่าตระกูลหนิงทราบเรื่องเข้า  นางเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้มาแต่ไหนแต่ไร  ทำให้ฮองเฮาที่อยู่ในวังยังไม่อาจทำสิ่งใดนางได้แม้แต่น้อย

       พระสนมกุ้ยอิงเมื่อมีเวลาได้อยู่กับฝ่าบาทก็ได้แต่พูดจาอย่างน้อยเนื้อต่ำใจที่ครอบครัวนางไม่สามารถสู้กับครอบครัวหนิงได้เพราะไม่มีความสามารถในการออกแบบแปลนต่าง ๆ เหมือนตระกูลหนิงที่มีความรู้นับร้อยปี

       ฮ่องเต้ที่อยากเอาใจพระสนมจึงสอบถามความต้องการของนางว่านางต้องการให้ฝ่าบาททำอย่างไรกับเรื่องนี้  พระสนมได้แต่ออดอ้อนว่านางอยากได้แปลนของครอบครัวหนิงมาศึกษาบ้างเท่านั้นเอง  หากเรียนรู้แล้วก็สามารถส่งคืนให้ครอบครัวหนิงได้ในภายหน้า

       ฮ่องเต้ฟังแล้วก็ได้แต่จนใจ  ความจริงเขาที่นั่งอยู่ในตำแหน่งสูงสุดเองก็ไม่ค่อยไว้วางใจตระกูลหนิงมากนัก  เพราะตระกูลนี้มักแต่งงานกับพ่อค้ามากกว่าจะแต่งกับลูกขุนนางด้วยกัน  แถมครอบครัวยังไม่มีการรับอนุใด ๆ มาตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว  เขาคิดจะส่งคนเข้าไปก็ทำไม่ได้เพราะถูกปฏิเสธอยู่ตลอด  แต่คราวนี้พระสนมรักของเขาต้องการสิ่งของของคนอื่น  เขาเองต้องคิดหาวิธีว่าจะทำอย่างไรจึงจะได้แบบแปลนมาให้พระสนมรักของตนเอง

       พระสนมพอรู้ว่าฝ่าบาทจะจัดการเรื่องนี้ให้นางก็ยิ่งเอาอกเอาใจฮ่องเต้จนมีความสุขแทบไม่อยากไปว่าราชการในตอนเช้า  แต่ด้วยหน้าที่ฮ่องเต้จึงต้องจำใจไปเตรียมตัวว่าราชการแล้วเขาจะกลับมาหานางใหม่ในเร็ว ๆ นี้  ทำเอาพระสนมมีความสุขไม่น้อย  นางยังจะได้เยาะเย้ยฮองเฮาที่นอนเดียวดายมาหลายปีตั้งแต่นางได้เข้ามาเป็นพระสนม  ถึงแม้ฮองเฮาจะมีลูกแล้วถึงสามคน  นางเองก็ไม่สนใจ  อย่างไรลูก ๆ นางก็เป็นที่รักของฝ่าบาทเช่นกัน

       แน่นอนว่าพระสนมไม่สามารถต่อสู้กับฮองเฮาซึ่งหน้าได้  นางเฝ้าวางแผนการจัดการฮองเฮามาตลอดแต่ไม่เคยสำเร็จเลย  รวมทั้งนางเองยังถูกดาบนั้นคืนสนองจนไม่สามารถมีลูกได้อีกต่างหาก  เรื่องนี้ทำให้นางเจ็บแค้นใจฮองเฮาไม่น้อย  ดีที่นางมีลูกชายแล้วหนึ่งคน  นางจึงยิ่งรักและตามใจลูกชายจนแทบเสียคนไปแล้ว  นอกจากลูกของฮองเฮา  ลูกของพระสนมกุ้ยอิงกลับวางอำนาจบาตรใหญ่ใส่ลูก ๆ คนอื่น ๆ ของฮ่องเต้  เขาไม่กล้าทำเกินไปกับลูก ๆ ของฮองเฮาทั้งสามคน  แต่กับคนอื่นเขามักจะรังแกพวกเขาเสมอ  อย่างไรคนพวกนี้ก็มีความสำคัญน้อยกว่าเขานั่นเอง  บรรดาพระสนมคนอื่นที่ถูกรังแกได้แต่ฟ้องฮองเฮาเพื่อให้เอาผิดลูกชายพระสนมกุ้ย  แต่ถึงแม้ฮองเฮาจะลงโทษอย่างไร  เขาก็ยิ่งกลั่นแกล้งคนอื่นมากขึ้นเหมือนเคย

       เรื่องนี้ฮองเฮาเคยขอเข้าเฝ้าฮ่องเต้มาหลายครั้งแล้วว่าให้หาอาจารย์มาสอนลูกชายของพระสนมกุ้ยอิงเพื่อให้เขาอยู่ในร่องในรอย  แต่ฮ่องเต้ที่กำลังหลงใหลพระสนมกุ้ยอิงกลับบอกว่าลูกยังเด็กนักทั้งที่เขาอายุมากกว่า 7 ขวบแล้ว  ตามธรรมเนียมเขาจะต้องเข้าเรียนในโรงเรียนหลวงได้แล้ว เพียงแต่พระสนมกุ้ยอิงขอเอาไว้เท่านั้นจึงทำให้ฝ่าบาทไม่อนุญาตให้ลูกชายคนนี้เข้าเรียน  โดยพระสนมขอให้อาจารย์มาสอนเขาที่ตำหนักแทนการไปเรียนที่โรงเรียนหลวงเนื่องจากกลัวว่าลูกนางจะถูกรังแก

       ฮองเฮาได้แต่โกรธฮ่องเต้ที่หลงใหลพระสนมจนไม่สนใจกฎเกณฑ์ต่างๆ ทำให้วังหลังวุ่นวายมากเช่นนี้  นางยังมีสายสืบมากมายที่พอจะรู้เรื่องตระกูลหนิง  แต่จนใจที่นางไม่สามารถเตือนพวกเขาได้  ไม่เช่นนั้นหากฝ่าบาทรู้เข้า  นางและลูกจะยิ่งมีความผิดมากขึ้น

       ฮองเฮาได้แต่เฝ้าอธิษฐานให้ครอบครัวหนิงอยู่รอดปลอดภัยไปให้ได้ในคราวนี้  นางไม่อยากให้พระสนมกุ้ยสมหวังเช่นกัน  ฮองเฮาจึงเขียนจดหมายวางเอาไว้ให้กับฮ่องเต้เรื่องนี้ว่านางไม่อยากให้ฝ่าบาทไว้ใจพระสนมกุ้ยอิงมากเกินไป  หากเกิดสิ่งใดขึ้นหลังจากได้แบบแปลนแล้วฝ่าบาทเองที่จะเป็นคนลำบาก  ฮองเฮายังแนะนำให้ฝ่าบาทเก็บแบบแปลนเอาไว้เองดีกว่าที่จะส่งให้กับพระสนม  ไม่เช่นนั้นหากนางได้แปลนอาวุธดี ๆ ไปแล้วก่อกบฏขึ้นจะทำอย่างไร

       ฮ่องเต้เห็นจดหมายของฮองเฮาเข้าก็คิดอีกครั้งว่าเขาจะทำอย่าไรดี ท้ายที่สุดแล้วฮ่องเต้ก็คิดที่จะทำตามที่ฮองเฮาบอกเขา  เป็นการกันเอาไว้ดีกว่าแก้ไขทีหลัง  เขาจะให้คนลอกแบบไม่สมบูรณ์ให้กับพระสนมกุ้ยอิงเพื่อดูว่านางจะทำอย่างที่ฮองเฮาคิดหรือไม่  ถึงเขาจะหลงใหลนาง แต่กับเรื่องบัลลังก์เขาก็ไม่ไว้ใจใครทั้งนั้นนอกจากฮองเฮา

Related chapters

  • หนิงชิง   ตอน 3

    ฮ่องเต้หลังจากอ่านจดหมายฮองเฮาแล้วก็มานั่งคิดเรื่องที่พระสนมร้องขอ เขาเองก็ใช่ว่าจะไว้ใจนางมากนัก เขาจึงให้องครักษ์คนสนิทพาคนไปปล้นจวนตระกูลหนิงเสีย โดยพยายามอย่าฆ่าใครให้้มากเกินไปนัก ไม่เช่นนั้นเขาคงชดใช้ให้ตระกูลหนิงไม่ได้แน่ ตระกูลหนิงไม่รู้เลยว่าจะมีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้น พวกเขาเป็นเพียงช่างหลวงจึงไม่มีคนคุ้มกันอันใดในจวน ทำให้องครักษ์ที่เข้าไปขโมยแบบแปลนจำต้องฆ่าคนที่เห็นเหตุการณ์ ไม่เช่นนั้นฝ่าบาทคงต้องถูกสงสัยเป็นแน่ ด้านหนิงซวนหยวนผู้นำตระกูลได้แต่บอกให้คนสนิทไปแจ้งข่าวเจ้าหน้าที่ว่าพวกเขาถูกโจรปล้นฆ่าที่จวนตอนนี้ ไม่ถึงสองเค่อทหารก็มาปราบปรามโจรเหล่านี้แต่ไม่สามารถจับตัวการได้สักคนเดียว ด้วยว่าฝีมือพวกเขาเป็นรองพวกโจรมากโข พวกเขายังสงสัยว่าร้อยวันพันปีไม่เคยมีการปล้นแบบนี้มาก่อน จู่ ๆ ก็มาเกิดเหตุกับตระกูลหนิงซึ่งฝ่าบาทไว้วางใจได้อย่างไรกัน หนิงซวนหยวนได้แต่ตรวจสอบความเสียหายแล้วก็พบว่าลูกชายและลูกสะใภ้ทั้งสองของเขาถูกฆ่าเสียแล้ว ตอนนี้เขาเหลือเพียงหลานชายสองคนเท่านั้นที่เป็นลูกของลูกชายทั้งสองคน น่าเสียดายที่ตอนนี้คนในจวนเขาเหลือเพียงแ

    Last Updated : 2024-12-09
  • หนิงชิง   ตอน 4

    สามวันต่อมาหลังจากขนของใช้จำเป็นต่าง ๆ เต็มเกวียนและรถม้าแล้ว หนิงซวนหยวนก็พาครอบครัวที่เหลืออยู่เดินทางไปที่ชายแดนตะวันออก เขาให้พ่อบ้านช่วยดูแลจวนเอาไว้ให้เผื่อวันใดวันหนึ่งหลานชายของเขาอยากกลับไปเยี่ยมหลุมฝังศพพ่อแม่ของพวกเขาในอนาคต ขบวนของหนิงซวนหยวนมีเกวียนสี่เล่มพร้อมรถม้าอีกสองคัน เขายังจ้างผู้คุ้มกันไปส่งยังเมืองชายแดนตะวันออกด้วยกลัวว่าจะมีคนมาปล้นทรัพย์สินของเขาระหว่างทางอีก เรื่องนี้ฮ่องเต้ที่ทำให้ครอบครัวหนิงต้องล่มสลายไปยังส่งองครักษ์เงาติดตามช่วยเหลือพวกเขาและดูความเป็นอยู่ของพวกเขาที่เมืองชายแดนก่อนจะกลับมารายงานให้ฝ่าบาททราบ อย่างไรเขาก็เป็นคนทำเรื่องนี้ขึ้นมา เขาจึงไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ การเดินทางไกลครั้งนี้หนิงเจิ้งไม่งอแงเลยแม้แต่น้อย ทำให้หนิงซวนหยวนกับภรรยาเบาใจไปไม่น้อย ส่วนหนิงจิ้งเองก็เงียบขรึมลงไปมากตั้งแต่เกิดเรื่อง เขารู้ดีว่าหนิงจิ้งยังคงมีความคิดแค้นพวกโจรอยู่จึงไม่อยากว่าอันใดหลานชายนัก สาเหตุที่เขาพาทุกคนย้ายไปยังชายแดนเป็นเพราะเบื่อหน่ายการแข่งขันกันในราชสำนัก ตอนนี้ลูก ๆ เขาก็ไม่เหลือแล้ว เขาจึงอยากให้หลาน ๆ อยู่อย่างสงบ

    Last Updated : 2024-12-09
  • หนิงชิง   ตอน 5

    หลังมาถึงหมู่บ้านหนิงไค่แล้ว หนิงซวนหยวนแวะที่บ้านผู้ใหญ่บ้านก่อน เขายังไม่รู้ว่าบ้านเดิมของเขายังว่างอยู่หรือไม่“สวัสดีท่านผู้ใหญ่บ้าน ข้าหนิงซวนหยวนที่ส่งจดหมายมาหาท่านก่อนหน้านี้ ไม่ทราบท่านได้ตรวจดูบ้านเก่าให้ข้าหรือยัง” ผู้ใหญ่บ้านมองคนตรงหน้าที่แต่งตัวดีเหมือนขุนนางในเมือง เขาได้แต่ตกใจจนไม่คิดว่าจะมีคนเช่นนี้เข้ามาอยู่ในหมู่บ้านตระกูลหนิง แต่เขาก็ต้องทำหน้าที่ของตนเองให้ดี“บ้านเดิมของท่านผุพังไปหมดแล้วขอรับ ไม่ทราบว่าท่านจะจัดการสร้างใหม่หรือทำอย่างไร ส่วนที่ดินของท่านที่ขอซื้อเพิ่มรอบ ๆ บ้านนั้นข้าจัดการให้ท่านเรียบร้อยแล้วขอรับ” ผู้ใหญ่บ้านมอบตั๋วเงินที่เหลือให้กับหนิงซวนหยวนอย่างซื่อสัตย์ เขาไม่กล้าที่จะยักยอกเงินขุนนางใหญ่เช่นนี้หรอก“เจ้ามีใครพอจะแนะนำให้ข้าได้บ้างเรื่องสร้างเรือน ข้าจะได้จ้างช่างมาทำเสียให้เสร็จสิ้น” ผู้ใหญ่บ้านแนะนำช่างที่เป็นเพื่อนบ้านในหมู่บ้านรวมทั้งคนในหมู่บ้านที่ว่างจากการทำนาแล้วมาช่วยสร้างบ้านให้หนิงซวนหยวน ส่วนครอบครัวพวกเขาจะเช่าบ้านในหมู่บ้านอยู่ไปก่อนเพื่อรอให้บ้านเสร็จเรียบร้อย ส่วนผู้คุ้มกันที่มาด้วยเขาก

    Last Updated : 2024-12-09
  • หนิงชิง   ตอน 6

    เด็ก ๆ พากันขึ้นเขาเกือบสิบคน พวกเขาช่วยกันถือกับดักหลายอันที่หนิงจิ้งทดลองทำแล้วนำไปวางเอาไว้ตามจุดต่าง ๆ ที่คิดว่าสัตว์ป่าจะเข้ามาติดกับดัก หลังจากวางแล้วพวกเขาก็ลงจากเขาไปแล้วตอนเย็นค่อยมาดูว่ามีกับดักอันใดล่าเหยื่อได้บ้าง เด็ก ๆ ที่เคยชินกับการหาของป่ายังชวนหนิงจิ้งไปหาผลไม้อร่อย ๆ กินกันก่อนลงเขาด้วย หนิงจิ้งกับหนิงเจิ้งตัวน้อยที่มาด้วยต่างก็แปลกใจไม่น้อยที่เด็ก ๆ ทุกคนยอมเล่นกับพวกเขาเช่นนี้ หนิงจิ้งจึงพาน้องชายเดินตามพวกเขาไปเก็บผลไม้ได้มาไม่น้อย พวกเขานัดกันช่วงบ่ายว่าจะมาดูกับดักกันอีกครั้ง ให้พวกเขามาตามที่เรือนได้เลยหากจะขึ้นเขา เด็ก ๆ รับปากกับหนิงจิ้งว่าจะไปเรียกเขาแน่นอน หลังจากแยกย้ายกันกลับบ้านแล้วหนิงจิ้งกับหนิงเจิ้งก็นำผลไม้อร่อยๆ ไปให้กับท่านปู่ท่านย่า ทั้งสองคนต่างชมเชยหลานชายเสียมากมายเพื่อให้กำลังใจพวกเขา โชคดีที่ทั้งสองคนยอมเล่นกับเด็ก ๆ ในหมู่บ้าน ไม่อย่างนั้นเขาคงจะเป็นห่วงพวกเขามากไปกว่านี้แน่ กระทั่งถึงช่วงบ่ายที่พวกเขานัดกัน หนิงจิ้งกับหนิงเจิ้งก็มารอทุกคนอยู่หน้าประตูเรือนแล้ว พวกเขาพากันขึ้นเขาไปดูกับดักก็พบว่าแต่ละอ

    Last Updated : 2024-12-09
  • หนิงชิง   ตอน 7

    ส่วนหลานชายคนรองของหนิงซวนหยวนที่ชอบสมุนไพรนั้นเขาก็เตรียมหาหญิงชาวบ้านมาเป็นภรรยาให้เท่านั้น เพื่อที่หลานชายจะได้ไม่จากไปไหน ตอนนี้ภรรยาของเขาตายไปก่อนแล้วทำให้เขาเหงาไม่น้อย เขาจึงได้ชดเชยความคิดถึงภรรยาโดยการสั่งสอนหนิงเจิ้งให้เป็นชาวบ้านเหมือนคนอื่น ๆ เพื่อที่เขาจะได้เข้ากับคนอื่น ๆ ได้ในอนาคตหากเขาไม่อยู่แล้วนั่นเอง หนิงเจิ้งยังรู้ด้วยว่าหากมีเรื่องเดือดร้อนอันใด เขาสามารถส่งจดหมายไปหาพี่ใหญ่ได้เช่นกัน พี่ใหญ่ให้ที่ติดต่อเอาไว้ให้กับเขาแล้วเรื่องการส่งจดหมาย เพียงแต่หนิงเจิ้งผู้ชอบใช้ชีวิตเรียบง่ายเหมือนที่ท่านปู่สอนนั้นไม่มีสิ่งใดที่เขาต้องการนอกจากการปลูกสมุนไพรขายเท่านั้น เรื่องนี้ทำให้หนิงซวนหยวนพอใจไม่น้อยที่หลานชายได้ดั่งใจ เขายังกำชับให้หนิงเจิ้งตั้งใจปลูกสมุนไพรเป็นอาชีพจะได้เลี้ยงดูครอบครัวในภายภาคหน้าได้ หนิงเจิ้งที่อายุเพียง 14 ปีก็ตั้งใจที่จะดูแลท่านปู่ตามที่พี่ใหญ่ขอร้องเอาไว้ก่อนจากไป เขายังคงคิดไม่ออกว่าเหตุใดพี่ชายจึงอยากไปเมืองหลวง เพราะตอนเขาจากมาเขายังเด็กนักจึงไม่รู้เรื่องรู้ราวใดเกี่ยวกับครอบครัวเหมือนกับหนิงจิ้ง แต่เขาก็ยังคงรับปากพี่ชายว่าเ

    Last Updated : 2024-12-09
  • หนิงชิง   ตอน 8

    หนึ่งปีต่อมา หลานจิวที่หมั้นหมายกับหนิงเจิ้งก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีที่เรือนของหนิงเจิ้ง เขาทำพิธีโดยมีท่านปู่กับพ่อแม่ของฝ่ายหญิงเป็นพยาน รวมทั้งคนในหมู่บ้านที่มาร่วมสนุกในงานแต่งงานครั้งนี้ พวกเขารู้ดีว่าบ้านหนิงซวนหยวนไม่เคยตระหนี่ของกิน พวกเขาจึงนำเงินเล็กน้อยมาเป็นขวัญถุงให้กับบ่าวสาวตามธรรมเนียม ทั้งที่หนิงซวนหยวนบอกแล้วว่าไม่รับของหรือเงิน แต่ก็ต้องจนใจที่ชาวบ้านบอกว่ามันเป็นธรรมเนียมที่พวกเขาทำสืบทอดกันมา หนิงซวนหยวนจึงได้ให้บ่าวรับเอาไว้ให้หลานชายเขาทีหลัง หลานจิวที่ตอนแรกไม่อยากแต่งงาน แต่พอเห็นว่าบ้านนี้ใหญ่โตเพียงใดนางก็เกิดโลภขึ้นมาจึงได้ทำตัวดีให้ทุกคนเห็นเป็นฉากหน้า นางคิดว่านางจะได้นั่งเป็นฮูหยินที่สุขสบายในเรือนนี้แน่ ๆ โดยที่นางไม่รู้เลยว่าอีกไม่นานท่านปู่ผู้เป็นญาติคนเดียวของสามีจะสิ้นไป หนิงเจิ้งเองก็มีความสุขไม่น้อย ภรรยาของเขาไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อย่างที่เคยคิดเอาไว้ นางดูเป็นคนอ่อนหวานและช่างเอาใจไม่น้อย ทำให้หนิงเจิ้งหลงใหลนางเข้าจริง ๆ หนิงซวนหยวนเห็นว่าทั้งคู่เข้ากันได้ดีก็วางใจ อย่างน้อยหากเขาเป็นอันใดไปก็ยังคงวางใจได้

    Last Updated : 2024-12-09
  • หนิงชิง   ตอน 9

    หลังจากวันที่หลานจิวถูกท่านปู่สามีสั่งสอน นางก็ทำตัวดีขึ้นทันที ด้วยกลัวว่าจะถูกเพ่งเล็งจนต้องหย่ากับสามี ส่วนหนิงเจิ้งนั้นไม่ได้สนใจภรรยา เขากับปู่ช่วยกันเลี้ยงดูเด็ก ๆ อย่างสนุกสนาน ในเมื่อแม่ของพวกเขาใจจืดใจดำนัก ทั้งสองปู่หลานจึงได้ช่วยกันเลี้ยงแทน หนิงซวนหยวนที่ช่วยเลี้ยงจนหลานชายคนโตอายุได้ห้าขวบ เขาก็เริ่มเจ็บป่วยออด ๆ แอด ๆ ตามประสาคนสูงวัย ทำให้หนิงเจิ้งยิ่งห่างเหินกับภรรยา เขาคอยดูแลท่านปู่และส่งจดหมายบอกพี่ชายแล้วว่าหากกลับมาดูใจท่านได้ก็ให้กลับมา ถ้ามาไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เขาจะดูแลท่านปู่จนถึงวาระสุดท้ายเอง ด้านหนิงจิ้งที่ได้รับจดหมายจากน้องชายได้แต่นึกเสียใจ แต่ตอนนี้เขาได้สอบเข้าเป็นขุนนางในราชสำนักแล้ว การจะไปไหนมาไหนย่อมเป็นเรื่องยาก แถมตอนนี้ลูก ๆ ของเขาเองก็อายุมากพอที่จะเข้าเรียนแล้ว เขาจึงไม่อาจจากไปได้ หนิงจิ้งได้แต่ส่งจดหมายตอบกลับน้องชายอย่างเสียใจ คราแรกภรรยาเขาจะเดินทางกลับไปเอง แต่หนิงจิ้งไม่ไว้วางใจให้นางเดินทางคนเดียว เขาจึงไม่ให้นางไปด้วยความเป็นห่วง ฮวงเหมยอี้รู้ดีว่าสามีเป็นห่วง แต่เขาลืมไปหรือเปล่าว่านางเป็นลูกสาว

    Last Updated : 2024-12-09
  • หนิงชิง   ตอน 10

    หนิงเจิ้งที่ยิ่งอยู่กับภรรยานานเข้าก็ยิ่งรู้ว่านางเป็นคนเช่นไร เขาไม่นำพาว่านางจะมีนิสัยอย่างไร เพียงแค่ไม่ทำให้ลูก ๆ ลำบากเขาก็พอใจแล้ว ขนาดว่าหนิงกวานเรียนเก่งกว่าพี่ ๆ นางยังไม่เคยจะคิดชมเชยลูกเลยสักนิด นางกลับเอาอกเอาใจแต่ลูกคนโตกับคนรองของเขา มีแค่เขาเท่านั้นที่คอยส่งเสริมลูกชายคนเล็กให้ขยันเรียนให้มาก และเรียนรู้เรื่องสมุนไพรกับเขาให้ดี เผื่อว่าในอนาคตเขาจะได้มีวิชาติดตัวไว้บ้าง นับวันหลานจิวจะยิ่งแสดงออกถึงนิสัยที่แท้จริงของนางที่ทั้งตระหนี่ถี่เหนียว ไหนจะเอาแต่ด่าทอลูกคนเล็กให้เขาได้ยินบ่อย ๆ จนเขาต้องทะเลาะกับนางมาตลอดเรื่องนี้ หลานจิวเปรียบเทียบตนเองกับครอบครัวพี่ใหญ่ของหนิงเจิ้งมาตลอดว่าเขาไม่เอาไหน ไม่เหมือนพี่ชายที่เป็นขุนนางเลยแม้แต่น้อย เรื่องนี้ยิ่งทำให้หนิงเจิ้งไม่พอใจ เขาชอบที่จะใช้ชีวิตสงบๆ เหตุใดเขาจึงได้มีภรรยาเช่นนี้ ความจริงแล้วเขาอยากหย่ากับนางมานานแล้ว เพียงแต่ลูก ๆ ยังเล็กอยู่เขาจึงจำใจอดทน รอให้ลูก ๆ โตกว่านี้ก่อนแล้วเขาจึงจะหย่านาง อย่างไรนางก็คงไม่ต้องการลูกคนเล็กของเขาแน่ ๆ หากนางคิดว่าสามารถเลี้ยงดูลูกชายสองคนเองได้เขาก็จะไ

    Last Updated : 2024-12-09

Latest chapter

  • หนิงชิง   ตอน 30

    หนึ่งเดือนต่อมา ท่านลุงกับลูกพี่ลูกน้องของนางก็กลับมาถึงเมือง พวกเขาได้รับตำแหน่งกันคนละเมือง ที่ใกล้ที่นี่ที่สุดเป็นพี่ชายเสี่ยวหยวนคือเขาได้ตำแหน่งรองนายอำเภอที่อำเภอติดกันนี้เอง ส่วนคนอื่น ๆ ก็ได้รับหน้าที่ที่อำเภอที่ห่างออกไปอีกไม่น้อย เป็นอย่างที่หนิงชิงคิดเอาไว้ว่าท่านตาท่านยายไม่อยากย้ายที่อยู่ ท่านลุงจึงให้ลูกชายคนโตหมั่นกลับมาเยี่ยมที่บ้านเอา เขาเห็นว่าลูกชายเดินทางง่ายกว่าที่พวกเขาจะเดินทางไปที่เมืองหยางฮุยเอง ส่วนลูกอีกสองคนก็ไม่ต้องลำบากกลับมาบ่อย ๆ พวกเขาบอกว่ารอให้น้องชายหนิงหยางสอบได้เสียก่อนแล้วจะแวะไปเยี่ยมพวกเขาทีหลัง หนิงชิงยังสนใจเมืองกังที่พี่ชายเสี่ยวเจียงได้ย้ายไปอยู่อีกด้วย นางชอบอาหารทะเลจึงอยากไปเยือนเมืองกังดูสักครั้ง หลังพูดคุยกันด้วยความคิดถึงแล้ว ทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำงานตามหน้าที่ตนเอง หนิงชิงกับที่บ้านยังต้องเตรียมของเอาไว้ขายในวันพรุ่งนี้อีก ส่วนท่าน

  • หนิงชิง   ตอน 29

    หนิงชิงเปิดร้านมาได้เดือนกว่าแล้วลูกค้าก็ยิ่งเพิ่มขึ้นทุกวันจนนางต้องทำของออกมามากกว่าปกติเกือบเท่าตัว นางกลัวว่าจะทำมากเกินไปจนของขายไม่หมดและเหลือเยอะเกินไป แต่ท่านแม่ท่านพ่อของนางบอกว่าเหลือเราก็กินกันเองได้ หนิงชิงจึงได้แต่ทำเพิ่มไปตามที่ท่านแม่ท่านพ่อบอก วันต่อ ๆ มาลูกค้าของนางกลับเพิ่มมากขึ้นอีกทำให้ไม่มีอาหารเหลือเลยแม้แต่วันเดียว หนิงชิงดีใจมากที่ชาวบ้านเลือกมากินที่ร้านนางแทนที่จะทำอาหารกินกันเอง เพราะรสชาติที่อร่อยและให้เยอะของร้านนางในราคาย่อมเยา บรรดาคนในเมืองจึงไม่อยากทำอาหารเช้ากินเอง ยังมีบางคนเอาปิ่นโตมาใส่กลับไปด้วยเสียด้วยซ้ำไป พวกเขาบอกว่าไม่อยากทำอาหารให้เปลืองมากกว่ามาซื้อกินที่นี่ ยิ่งขายนานไปร้านของหนิงชิงยิ่งขายดีมากขึ้นทำให้นางมีเงินเก็บจากร้านอาหารไม่น้อยเลยทีเดียว ส่วนสวนสมุนไพรก็มีหนิงกุ้ยที่คอยดูแลไปตามประสา นางชอบของนางทุกคนในบ้านก็ไม่ได้ห้ามปรามอันใด หนิงชิงที่พาพ่อไปตรวจเมื่อต้นเดือนก็ย

  • หนิงชิง   ตอน 28

    หลังกลับมาจากหมู่บ้านคัง ต่างคนต่างยุ่งเรื่องของตนเอง หนิงชิงรู้ว่าท่านลุงจะติดตามลูก ๆ ไปสอบด้วยเพราะเป็นห่วง นางจึงบอกว่าไม่ต้องห่วงเรื่องที่นี่ นางกับน้อง ๆ จะช่วยกันดูแลป้าสะใภ้กับท่านตาท่านยายเอง เสี่ยวเหยาได้ยินหนิงชิงรับปากก็ได้แต่เบาใจ ในครอบครัวนี้หนิงชิงน่าเชื่อถือยิ่งกว่าใคร ไม่ว่าหนิงชิงจะทำสิ่งใดนางจะคิดทุกอย่างอย่างรอบคอบเสมอ เสี่ยวเหยาจึงหายกังวลเสียทีว่าเขาไปต่างเมืองกับลูก ๆ หลายวันที่บ้านจะวุ่นวาย เสี่ยวเหยายังให้เงินภรรยาเอาไว้ทำอาหารให้ท่านพ่อท่านแม่เขากินอีกด้วย ทั้งที่หนิงชิงบอกแล้วว่ามากินกันที่ร้านก็ได้ แต่เสี่ยวเหยาก็ยังเกรงใจนางอยู่ดี เขารู้ดีว่าหลานสาวทำงานหนักแค่ไหน ตอนนี้ลูก ๆ ของเขาสอบผ่านระดับอำเภอแล้ว จึงต้องเดินทางไปที่มณฑลเพื่อสอบต่ออีก ทั้งที่เขาไม่ได้หวังว่าลูก ๆ ทั้งสามจะเก่งกาจเสียขนาดนี้ ลูก ๆ ไม่ทำให้เขาผิดหวังจริง ๆ ตอนนี้เขายังมีเงินอยู่มากไม่น้อย เสี่ยวเหยายังไปบอกเถ้าแก่โรงเตี๊ยมด้วยว่าถ้าต้องการกระต่ายก็ไปที่บ้านเขาได้เลย เพราะเขาจะอ

  • หนิงชิง   ตอน 27

    หลังวันหยุดผ่านไปบ้านของท่านลุงหนิงชิงก็ปรับปรุงเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนหนิงชิงเองก็ไปซื้อของสดมาไว้ทำอาหารเช้าขายในตอนเย็น นางจะขายโจ๊กหมูสับกับซาลาเปาไส้เนื้อเท่านั้น ทั้งครอบครัวช่วยกันเตรียมซาลาเปาเอาไว้นึ่งพรุ่งนี้เช้าก่อนสองร้อยลูก เผื่อว่าจะขายไม่ดี อย่างไรก็เป็นวันแรกที่ร้านเปิด หนิงชิงไม่ได้โลกสวยคิดว่าตนเองจะขายดิบขายดีเหมือนร้านที่เปิดมาก่อนหน้าแน่ ๆ นางคิดเผื่อเอาไว้แล้วว่าถ้าขายไม่ดีพวกนางก็จะได้กินเองแบบไม่เสียดายของที่ทำเอาไว้ เช้าวันต่อมาหลังจากเปิดร้านแล้ว เป็นอย่างที่หนิงชิงนึกเอาไว้ว่าร้านค้าใหม่คนยังไม่ค่อยรู้จัก หนิงชิงให้น้อง ๆ ช่วยกันเรียกลูกค้ามาทดลองชิมก่อนเพื่อที่คนอื่น ๆ จะได้บอกกันปากต่อปากว่าอาหารร้านนางนั้นรสชาติไม่เหมือนใครและใช้วัตถุดิบที่ดีมาทำอาหาร ลูกค้าที่โชคดีได้ทดลองชิมต่างบอกต่อ ๆ กันว่าร้านนี้อร่อยราคาไม่แพงด้วยโจ๊กถ้วยละ 10 อีแปะแต่ได้หมูสับมากมายแ

  • หนิงชิง   ตอน 26

    หลังจากคุยเรื่องปรับปรุงบ้านเสร็จแล้ว นายช่างนัดเริ่มงานพรุ่งนี้เพราะเขาต้องเตรียมอุปกรณ์และคนงานไปช่วยกันทำงาน หนิงชิงกับเสี่ยวเหยาไม่มีปัญหาเรื่องนี้ ทั้งสองลุงหลานจึงกลับเรือนไปหลังวางมัดจำ หนิงชิงยังอาสาไปช่วยลุงของนางไปจับกระต่ายมาไว้ที่บ้านหลังใหม่ด้วย เสี่ยวเหยาเห็นว่าหลายคนน่าจะทำให้เร็วขึ้นเขาจึงไม่คัดค้านอันใดหลานสาวคนเก่ง อีกอย่างตอนนี้ร้านอาหารยังไม่เปิดให้บริการ ทำให้หนิงชิงมีเวลามากมาย สองลุงหลานกลับไปเอาเกวียนแล้วพากันออกเดินทางกลับไปหมู่บ้านคังเพื่อจับกระต่ายมาไว้ที่บ้านใหม่ กว่าที่พวกเขาจะจับกระต่ายจำนวนมากเสร็จก็เที่ยงพอดี โชคดีที่หนิงชิงนำซาลาเปามาด้วย เมื่อเช้าที่บ้านนางทำซาลาเปาเนื้อเอาไว้มากมาย สองคนลุงหลานจึงนั่งกินกันก่อนจะเดินทางกลับเรือนในเมือง เมื่อกลับถึงเรือนแล้วทั้งสองคนจัดกระต่ายเอาไว้ในพื้นที่ซึ่งหนิงชิงเตรียมเอาไว้ให้เป็นอย่างดี กระต่ายทั้งหลา

  • หนิงชิง   ตอน 25

    สองวันต่อมาทั้งสองครอบครัวก็ย้ายบ้านกันเรียบร้อยแล้ว ถึงแม้บ้านของท่านลุงจะยังไม่ได้ปรับปรุง แต่หนิงชิงก็ให้ทุกคนมาพักที่เรือนด้านหลังกันก่อนจะได้ไม่เสียเวลาขนของไปมาบ่อย ๆ อย่างไรท่านลุงก็ยังต้องเตรียมที่สำหรับกระต่ายจำนวนไม่น้อยที่เลี้ยงไว้ที่บ้านซึ่งยังไม่ได้ขนมา ส่วนประตูเชื่อมบ้านสองหลังนั้นท่านลุงของนางก็ทำเสร็จเรียบร้อยแล้วด้วย ทำให้การไปมาหาสู่กันสะดวกยิ่งขึ้น หนิงชิงยังพาน้อง ๆ ไปช่วยท่านลุงปรับปรุงบ้านด้วยอีกต่างหาก ส่วนหนิงชิงปรับพื้นที่เพื่อเตรียมรอกระต่ายที่จะเข้ามาอยู่ที่นี่ในอนาคต เสี่ยวเหยาเห็นหลานสาวปรับพื้นที่รอแล้วเขาจึงขอยืมเกวียนของนางไปเอากระต่ายในวันพรุ่งนี้ หนิงชิงได้แต่จนใจกับความเกรงใจของท่านลุง นางได้แต่บอกว่าท่านลุงใช้ได้ตามสบายเลย อย่างไรบ้านนางตอนนี้ก็ไม่ต้องใช้เกวียนแล้วหลังจากขนของเสร็จ คนอื่น ๆ ฟังที่หนิงชิงพูดก็ได้แต่หัวเราะเสี่ยวเหยาที่ถูกหลานสาวเอ็ดเอา ทุกคนต่างช่วยกันคนละไม้คนละมือและสอบถามหนิงชิงว่าจะทำสิ่งใดขายเป็นอาหารเช้าบ้าง หนิงชิงจึงบอกว่านางจะทำโจ๊กถ้วยละ 10 อีแปะ ส่วนซาลาเปาก็จะเป็นไส้เนื้อเท่านั้น ร้านนางไม่ต้องการขาย

  • หนิงชิง   ตอน 24

    หลังเสร็จธุระที่โรงหมอแล้ว หนิงชิงก็ให้ท่านลุงพาไปที่ร้านของนาง เพื่อที่จะได้รอท่านลุงไปติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อสอบถามเรื่องบ้านของท่านลุงด้วย ส่วนพวกนางจะทำความสะอาดรอก่อนที่จะย้ายมาอยู่ในวันพรุ่งนี้หรือมะรืนนี้ เสี่ยวเหยาจอดเกวียนเอาไว้แล้วเดินไปที่ทำการอำเภอที่อยู่ไม่ไกล เขาไม่อยากขับเกวียนไปขวางทางที่นั่นจึงได้จอดเอาไว้ในบ้านของหลานสาว เมื่อเจ้าหน้าที่เห็นเสี่ยวเหยาก็ได้แต่แปลกใจ เขากำลังจะเอาโฉนดที่ทำเสร็จแล้วไปให้กับหนิงชิงพอดี พอสอบถามกันไปมาปรากฏว่าเสี่ยวเหยาต้องการซื้อบ้านที่ใกล้กับบ้านหลานสาว โชคดีที่ด้านหลังบ้านของหนิงชิงนั้นมีบ้านว่างที่รอขายอยู่พอดี เขาจึงเสนอให้เสี่ยวเหยาในราคา 150 ตำลึง เพราะบ้านไม่ได้มีสภาพดีนัก เขาจึงบอกขายราคานี้ให้ เสี่ยวเหยายินดีที่จะไปดู อย่างไรเขาก็ซ่อมบ้านเองได้ไม่ลำบาก เจ้าหน้าที่เห็นว่าเขาสนใจจริง ๆ จึงบอกให้เสี่ยวเหยารอก่อน เขาขอไปเอาเอกสารกับกุญแจบ้านเหมือนเคย ไม่นานนักพวกเขาก็เดินมาถึงซอยด้านหลังร้านของหนิงชิง นับว่าที่อยู่ไม่ไกลกันเลยจริง ๆ พวกเขาสามารถเจาะประตูเดินไปหากันได้อย่างสบาย ๆ เสี่ยวเหยาดูสภาพบ้านแล้วก

  • หนิงชิง   ตอน 23

    สองลุงหลานต่างพากันดีใจที่ได้เหยื่อใหญ่อีกครั้งก่อนที่หนิงชิงจะย้ายบ้าน ทั้งคู่เอาเกวียนมาใส่สัตว์ป่าลงไปทั้งหมดในคราวเดียว อย่างไรตอนนี้กระต่ายที่เสี่ยวเหยาเลี้ยงไว้ก็มีลูกมากมายให้เขาจับขายได้ตลอดอยู่แล้ว หนิงชิงยังบอกท่านลุงของนางด้วยว่าถ้าอยากซื้อบ้านมาเลี้ยงกระต่ายก็ให้ท่านลุงซื้อบ้านหลังใหญ่หน่อยจะได้มีพื้นที่ให้กระต่ายผ่อนคลายบ้าง เสี่ยวเหยาคิดตามหลานสาวแล้วก็เห็นว่าจริงอย่างที่นางพูด หากเขาไม่ล่าสัตว์เขายังสามารถขายกระต่ายได้อยู่ดี ทำให้เสี่ยวเหยาตัดสินใจที่จะย้ายเข้ามาอยู่ในเมือง เอาไว้พรุ่งนี้เขาค่อยไปหาเจ้าหน้าที่เพื่อสอบถามเรื่องบ้านจะดีกว่า หากได้บ้านใกล้กับร้านของหนิงชิงก็ยิ่งดี วันนี้สองลุงหลานได้เงินค่าสัตว์ป่ามาอีกถึง 400 ตำลึง เนื่องจากน้ำหนักหมูป่าคราวนี้สองร้อยกว่าจิน ไหนจะสัตว์ป่าตัวอื่นในกับดักที่ยังเป็นๆ อยู่ ยิ่งทำให้ได้ราคาดี หนิงชิงต้องการจะแบ่งคนละครึ่งแต่เป็นท่านลุงที่ยอมรับแค่หนึ่งร้อยตำลึงเหมือนเดิมทั้งที่นางบอกแล้วว่ายังมีเงินเหลืออีกมากแต่เขาก็เป็นห่วงน้องสาวจึงยอมรับแค่ร้อยตำลึงเท่านั้น อย่างไรค่าบ้านที่เขาถามกันวันนี้ก็ไ

  • หนิงชิง   ตอน 22

    เมื่อถึงที่ว่าการแล้ว เสี่ยวเหยาก็พาหลานสาวเข้าไปคุยกับเจ้าหน้าที่ทางการที่รับผิดชอบเรื่องการค้าขายบ้าน“ท่านลุงเจ้าหน้าที่เจ้าคะ ไม่ทราบว่ามีบ้านราคาย่อมเยาที่จะขายบ้างหรือเปล่าเจ้าคะ หากเป็นร้านค้าได้ด้วยราคาขั้นต่ำเท่าไหร่หรือเจ้าคะ” เจ้าหน้าที่มองสองคนที่มาสอบถามเขาเห็นทั้งสองคนแต่งตัวไม่เลวจึงคิดว่าทั้งคู่คงเป็นพ่อลูกที่อยากหาที่อยู่ใหม่กระมัง“ถ้าบ้านเปล่าราคาก็ประมาณหนึ่งร้อยถึงสองร้อยตำลึง แต่หากเป็นร้านค้าด้วยก็จะราคาสามร้อยตำลึงพร้อมกับมีบ้านด้านหลังให้พักได้ด้วย เจ้าสนใจแบบใดเล่าแม่หนู ข้าจะได้พาเจ้าไปดู”“เช่นนั้นข้ารบกวนท่านลุงพาข้าไปดูที่ร้านก่อนดีกว่าเจ้าค่ะว่าทำเลพอที่ข้าจะค้าขายได้หรือไม่” เจ้าหน้าที่ขอเวลาไปนำกุญแจกับเอกสารมาก่อนไม่นานนัก ตอนนี้ในมือของหนิงชิงมีเงินถึงห้าร้อยตำลึงจากการขายสัตว์ป่าที่ผ่านมาทั้งอาทิตย์ นางไม่กลัวว่าจะไม่มีเงินจ่ายและปรับปรุงร้านแม้แต่น้อย อีกอย่างท่านลุงยังอาสามาช่วยนางปรับปรุงร้านอีกต่างหาก ในระหว่างที่พ่อของนางยังไม่หายดี เจ้าหน้าที่พาทั้งสองคนไปดูร้านค้าที่อยู่ใกล้ ๆ กับโรงเรียนพอดี ร้านนี้มีคนฝากข

DMCA.com Protection Status