แชร์

ตอน 6

ผู้เขียน: 橙花
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-09 11:57:30

       เด็ก ๆ พากันขึ้นเขาเกือบสิบคน  พวกเขาช่วยกันถือกับดักหลายอันที่หนิงจิ้งทดลองทำแล้วนำไปวางเอาไว้ตามจุดต่าง ๆ ที่คิดว่าสัตว์ป่าจะเข้ามาติดกับดัก  หลังจากวางแล้วพวกเขาก็ลงจากเขาไปแล้วตอนเย็นค่อยมาดูว่ามีกับดักอันใดล่าเหยื่อได้บ้าง

       เด็ก ๆ ที่เคยชินกับการหาของป่ายังชวนหนิงจิ้งไปหาผลไม้อร่อย ๆ กินกันก่อนลงเขาด้วย  หนิงจิ้งกับหนิงเจิ้งตัวน้อยที่มาด้วยต่างก็แปลกใจไม่น้อยที่เด็ก ๆ ทุกคนยอมเล่นกับพวกเขาเช่นนี้  หนิงจิ้งจึงพาน้องชายเดินตามพวกเขาไปเก็บผลไม้ได้มาไม่น้อย  พวกเขานัดกันช่วงบ่ายว่าจะมาดูกับดักกันอีกครั้ง  ให้พวกเขามาตามที่เรือนได้เลยหากจะขึ้นเขา  เด็ก ๆ รับปากกับหนิงจิ้งว่าจะไปเรียกเขาแน่นอน

       หลังจากแยกย้ายกันกลับบ้านแล้วหนิงจิ้งกับหนิงเจิ้งก็นำผลไม้อร่อยๆ ไปให้กับท่านปู่ท่านย่า  ทั้งสองคนต่างชมเชยหลานชายเสียมากมายเพื่อให้กำลังใจพวกเขา  โชคดีที่ทั้งสองคนยอมเล่นกับเด็ก ๆ ในหมู่บ้าน  ไม่อย่างนั้นเขาคงจะเป็นห่วงพวกเขามากไปกว่านี้แน่

       กระทั่งถึงช่วงบ่ายที่พวกเขานัดกัน หนิงจิ้งกับหนิงเจิ้งก็มารอทุกคนอยู่หน้าประตูเรือนแล้ว  พวกเขาพากันขึ้นเขาไปดูกับดักก็พบว่าแต่ละอันนั้นมีทั้งไก่ป่า หมูป่าตัวน้อย ไหนจะกระต่ายป่าอีกหลายตัว  นับว่ากับดักของหนิงจิ้งนั้นใช้ได้ดีจริง ๆ พวกเขาต่างช่วยกันขนสัตว์ป่าหลากหลายกลับลงเขาไปอย่างมีความสุข  ส่วนหนิงจิ้งกับหนิงเจิ้งนำมาเพียงกระต่ายป่าสองตัวเพื่อเลี้ยงไว้เล่นเท่านั้น  พวกเขาไม่อยากกินมันด้วยความสงสาร

       หนิงซวนหยวนยังสอนหลาน ๆ ด้วยว่าหากไม่มีสิ่งใดทดแทนเนื้อเหล่านี้  พวกหลานก็ต้องจำใจกินมันในสักวันอยู่ดี  แต่ในเมื่อตอนนี้พวกเขาไม่อยากที่จะกินมันเขาก็จะไม่บังคับหลาน ๆ ให้กินสิ่งที่พวกเขาล่ามาได้

สิบปีผ่านไป

       หนิงซวนหยวนที่เห็นว่าหลานชายโตแล้วก็อยากหาคู่หมั้นคู่หมายให้กับหนิงจิ้ง  เพียงแต่เขาไม่ชอบหญิงสาวในหมู่บ้าน  ความจริงหนิงจิ้งนั้นชอบพอกับลูกสาวสำนักคุ้มภัยในเมืองได้สักพักแล้ว แต่เขาไม่กล้าบอกท่านปู่  ในเมื่อตอนนี้ท่านปู่อยากให้เขาแต่งงานเขาจึงบอกความจริงท่านปู่ไปเพื่อที่ท่านจะได้เป็นผู้ใหญ่ไปสู่ขอนางให้กับเขาได้นั่นเอง  เขายังวางแผนที่จะกลับไปแก้แค้นให้กับพ่อแม่ที่เมืองหลวง  ดังนั้นคนที่จะช่วยปกป้องเขาได้ดีที่สุดคือภรรยาของเขานั่นเอง

       เรื่องนี้เขาเคยคุยกับนางก่อนที่จะเริ่มศึกษานิสัยใจคอกันและกันว่าเขามีความแค้นที่จะต้องกลับเมืองหลวง  หากนางไม่กล้าไปด้วยเขาก็จะไม่โทษนางเลย  แต่กลับกลายเป็นว่านางอยากไปกับเขาทุกที่ และสัญญาว่าจะช่วยเขาทุกทางที่นางทำได้  หนิงจิ้งฝึกวรยุทธกับนางได้หลายท่าแล้ว ท่าที่พวกสำนักคุ้มกันเคยสอนเมื่อก่อนเขาก็ฝึกร่างกายมาโดยตลอดจนกระทั่งบังเอิญรู้จักนางที่กำลังถูกลูกชายเจ้าของบ่อนกำลังจะลวนลามเขาจึงเข้าไปช่วย  แต่กลับกลายเป็นนางจัดการคนพวกนั้นเสียจนไม่กล้ากลับมาพบนางอีก  นับตั้งแต่วันนั้นทั้งสองก็ติดต่อกันมาตลอด  เขายังขอท่านปู่ไปฝึกวรยุทธกับสำนักคุ้มภัยในเมืองด้วยตนเอง  ส่วนน้องชายของเขากลับไม่ชอบเรื่องพวกนี้  แต่ชอบทำสวนสมุนไพรกับท่านปู่แทน

       หนิงซวนหยวนเพิ่งรู้ว่าหลานชายชอบพออยู่กับลูกสาวสำนักคุ้มภัยจึงได้แต่ทำตามที่เขาต้องการ  เขาส่งแม่สื่อไปขอแลกวันเดือนปีเกิดพร้อมกับส่งของหมั้นไปให้  ด้านสำนักคุ้มภัยเองเพิ่งรู้ว่าหนิงจิ้งเป็นคนรวยก็ตอนนี้ คราแรกพวกเขาคิดว่าเขาเป็นเพียงคุณชายบ้านนอกคนหนึ่งเท่านั้น  แต่ตอนนี้ในเมื่อเรื่องราวมาถึงขั้นนี้แล้วและลูกสาวเขาเองก็ต้องการแต่งงานกับหนิงจิ้ง  พวกเขาที่เป็นครอบครัวจึงได้ส่งวันเดือนปีเกิดแลกกันกับแม่สื่อและรับของหมั้นมาไว้เป็นสินเดิมให้ลูกสาวคนเดียวของเขา  โดยไม่รู้เลยว่าเด็กทั้งสองคนอยากไปอยู่ที่เมืองหลวงหลังแต่งงาน

       หลังหมั้นหมายแล้ว  หนิงจิ้งก็ยังคงฝึกฝนวรยุทธที่เรียนมาอย่างไม่ว่างเว้น  เขาไม่อยากเป็นตัวถ่วงให้ภรรยา  รวมทั้งสิ่งประดิษฐ์เพื่อปกป้องตัวเองในหลายปีนี้ที่เขาสร้างขึ้นมาก็สามารถใช้งานได้ดี  เขายังสร้างเผื่อภรรยาเอาไว้ด้วยไม่น้อยเช่นกัน  ครานี้เขาจะใช้แซ่ฮวงของภรรยาแทนแซ่หนิงของเขาอีกด้วยเพื่อป้องกันความผิดพลาดหากว่าเรื่องราวลุกลาม ท่านปู่กับน้องชายจะได้ไม่มีผลกระทบไปด้วย  ซึ่งเรื่องนี้ฮวงเหมยอี้เห็นด้วยกับเขา  นางพร้อมที่จะสู้ไปกับเขาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่แรก

       หลังแต่งงานได้สามวัน  พวกเขากลับไปเยี่ยมบ้านเดิมของภรรยาและบอกว่าจะเดินทางไปเมืองหลวงในอีกไม่กี่วันนี้  ด้านฮวงผานผู้เป็นพ่อจึงได้ส่งคนคุ้มกันให้ลูกสาวไปสิบคนเพื่อที่จะได้ช่วยเหลือนางกับสามีที่เมืองหลวง  หากมีสิ่งใดเขายังให้นางส่งจดหมายมาบอกแล้วเขาจะรีบไปช่วย

ฮวงเหมยอี้ร้องไห้อย่างดีใจที่พ่อของนางรักนางมากขนาดนี้  นางยังสัญญาว่าจะดูแลตัวเองและสามีให้ดีรวมทั้งจะกลับมาเยี่ยมท่านบ่อย ๆ เท่าที่ทำได้

       ส่วนหนิงซวนหยวนพอรู้ว่าหลานชายจะไปเมืองหลวงเขาก็มอบหยกพกที่ญาติฝ่ายแม่ของหนิงจิ้งเคยให้เอาไว้ให้กับเขาเพื่อแสดงตัวเป็นเจ้าของทรัพย์สิน  ส่วนป้ายหยกตระกูลหนิงนั่นเอาไว้สำหรับเข้าไปพักในจวนหนิงเท่านั้น  ความจริงหนิงซวนหยวนไม่อยากให้หลานชายไป  เพียงแต่หลานเขาโตแล้วย่อมมีความคิดเป็นของตนเอง  เขายังกำชับหลานชายว่าหากมีสิ่งใดให้ส่งจดหมายมาบอกเขาจะช่วยเหลือหลานชายอย่างแน่นอน

       สามวันหลังจากนั้นหนิงจิ้งและฮวงเหมยอี้ก็ออกเดินทางพร้อมคนคุ้มกันสิบคนไปยังเมืองหลวง  สิ่งของพวกเขามีเพียงไม่มากนัก อย่างไรที่จวนตระกูลหนิงก็มีของมากมายที่พวกเขาไม่ได้นำมาด้วย  พวกเขายังได้รับคำอวยพรและการส่งพวกเขาออกจากเมืองของฮวงผานและหนิงซวนหยวนอีกด้วย  ใช่ว่าพวกเขาไม่ห่วงเด็กทั้งสองคน  เพียงแต่พวกเขาโตแล้วย่อมอยากที่จะไปเปิดหูเปิดตาที่อื่นบ้างในความคิดของฮวงผาน  หากลูกสาวเขาอยากกลับมาเมื่อไหร่นางก็คงมาเองนั่นแหละ

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หนิงชิง   ตอน 7

    ส่วนหลานชายคนรองของหนิงซวนหยวนที่ชอบสมุนไพรนั้นเขาก็เตรียมหาหญิงชาวบ้านมาเป็นภรรยาให้เท่านั้น เพื่อที่หลานชายจะได้ไม่จากไปไหน ตอนนี้ภรรยาของเขาตายไปก่อนแล้วทำให้เขาเหงาไม่น้อย เขาจึงได้ชดเชยความคิดถึงภรรยาโดยการสั่งสอนหนิงเจิ้งให้เป็นชาวบ้านเหมือนคนอื่น ๆ เพื่อที่เขาจะได้เข้ากับคนอื่น ๆ ได้ในอนาคตหากเขาไม่อยู่แล้วนั่นเอง หนิงเจิ้งยังรู้ด้วยว่าหากมีเรื่องเดือดร้อนอันใด เขาสามารถส่งจดหมายไปหาพี่ใหญ่ได้เช่นกัน พี่ใหญ่ให้ที่ติดต่อเอาไว้ให้กับเขาแล้วเรื่องการส่งจดหมาย เพียงแต่หนิงเจิ้งผู้ชอบใช้ชีวิตเรียบง่ายเหมือนที่ท่านปู่สอนนั้นไม่มีสิ่งใดที่เขาต้องการนอกจากการปลูกสมุนไพรขายเท่านั้น เรื่องนี้ทำให้หนิงซวนหยวนพอใจไม่น้อยที่หลานชายได้ดั่งใจ เขายังกำชับให้หนิงเจิ้งตั้งใจปลูกสมุนไพรเป็นอาชีพจะได้เลี้ยงดูครอบครัวในภายภาคหน้าได้ หนิงเจิ้งที่อายุเพียง 14 ปีก็ตั้งใจที่จะดูแลท่านปู่ตามที่พี่ใหญ่ขอร้องเอาไว้ก่อนจากไป เขายังคงคิดไม่ออกว่าเหตุใดพี่ชายจึงอยากไปเมืองหลวง เพราะตอนเขาจากมาเขายังเด็กนักจึงไม่รู้เรื่องรู้ราวใดเกี่ยวกับครอบครัวเหมือนกับหนิงจิ้ง แต่เขาก็ยังคงรับปากพี่ชายว่าเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • หนิงชิง   ตอน 8

    หนึ่งปีต่อมา หลานจิวที่หมั้นหมายกับหนิงเจิ้งก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีที่เรือนของหนิงเจิ้ง เขาทำพิธีโดยมีท่านปู่กับพ่อแม่ของฝ่ายหญิงเป็นพยาน รวมทั้งคนในหมู่บ้านที่มาร่วมสนุกในงานแต่งงานครั้งนี้ พวกเขารู้ดีว่าบ้านหนิงซวนหยวนไม่เคยตระหนี่ของกิน พวกเขาจึงนำเงินเล็กน้อยมาเป็นขวัญถุงให้กับบ่าวสาวตามธรรมเนียม ทั้งที่หนิงซวนหยวนบอกแล้วว่าไม่รับของหรือเงิน แต่ก็ต้องจนใจที่ชาวบ้านบอกว่ามันเป็นธรรมเนียมที่พวกเขาทำสืบทอดกันมา หนิงซวนหยวนจึงได้ให้บ่าวรับเอาไว้ให้หลานชายเขาทีหลัง หลานจิวที่ตอนแรกไม่อยากแต่งงาน แต่พอเห็นว่าบ้านนี้ใหญ่โตเพียงใดนางก็เกิดโลภขึ้นมาจึงได้ทำตัวดีให้ทุกคนเห็นเป็นฉากหน้า นางคิดว่านางจะได้นั่งเป็นฮูหยินที่สุขสบายในเรือนนี้แน่ ๆ โดยที่นางไม่รู้เลยว่าอีกไม่นานท่านปู่ผู้เป็นญาติคนเดียวของสามีจะสิ้นไป หนิงเจิ้งเองก็มีความสุขไม่น้อย ภรรยาของเขาไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อย่างที่เคยคิดเอาไว้ นางดูเป็นคนอ่อนหวานและช่างเอาใจไม่น้อย ทำให้หนิงเจิ้งหลงใหลนางเข้าจริง ๆ หนิงซวนหยวนเห็นว่าทั้งคู่เข้ากันได้ดีก็วางใจ อย่างน้อยหากเขาเป็นอันใดไปก็ยังคงวางใจได้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • หนิงชิง   ตอน 9

    หลังจากวันที่หลานจิวถูกท่านปู่สามีสั่งสอน นางก็ทำตัวดีขึ้นทันที ด้วยกลัวว่าจะถูกเพ่งเล็งจนต้องหย่ากับสามี ส่วนหนิงเจิ้งนั้นไม่ได้สนใจภรรยา เขากับปู่ช่วยกันเลี้ยงดูเด็ก ๆ อย่างสนุกสนาน ในเมื่อแม่ของพวกเขาใจจืดใจดำนัก ทั้งสองปู่หลานจึงได้ช่วยกันเลี้ยงแทน หนิงซวนหยวนที่ช่วยเลี้ยงจนหลานชายคนโตอายุได้ห้าขวบ เขาก็เริ่มเจ็บป่วยออด ๆ แอด ๆ ตามประสาคนสูงวัย ทำให้หนิงเจิ้งยิ่งห่างเหินกับภรรยา เขาคอยดูแลท่านปู่และส่งจดหมายบอกพี่ชายแล้วว่าหากกลับมาดูใจท่านได้ก็ให้กลับมา ถ้ามาไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เขาจะดูแลท่านปู่จนถึงวาระสุดท้ายเอง ด้านหนิงจิ้งที่ได้รับจดหมายจากน้องชายได้แต่นึกเสียใจ แต่ตอนนี้เขาได้สอบเข้าเป็นขุนนางในราชสำนักแล้ว การจะไปไหนมาไหนย่อมเป็นเรื่องยาก แถมตอนนี้ลูก ๆ ของเขาเองก็อายุมากพอที่จะเข้าเรียนแล้ว เขาจึงไม่อาจจากไปได้ หนิงจิ้งได้แต่ส่งจดหมายตอบกลับน้องชายอย่างเสียใจ คราแรกภรรยาเขาจะเดินทางกลับไปเอง แต่หนิงจิ้งไม่ไว้วางใจให้นางเดินทางคนเดียว เขาจึงไม่ให้นางไปด้วยความเป็นห่วง ฮวงเหมยอี้รู้ดีว่าสามีเป็นห่วง แต่เขาลืมไปหรือเปล่าว่านางเป็นลูกสาว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • หนิงชิง   ตอน 10

    หนิงเจิ้งที่ยิ่งอยู่กับภรรยานานเข้าก็ยิ่งรู้ว่านางเป็นคนเช่นไร เขาไม่นำพาว่านางจะมีนิสัยอย่างไร เพียงแค่ไม่ทำให้ลูก ๆ ลำบากเขาก็พอใจแล้ว ขนาดว่าหนิงกวานเรียนเก่งกว่าพี่ ๆ นางยังไม่เคยจะคิดชมเชยลูกเลยสักนิด นางกลับเอาอกเอาใจแต่ลูกคนโตกับคนรองของเขา มีแค่เขาเท่านั้นที่คอยส่งเสริมลูกชายคนเล็กให้ขยันเรียนให้มาก และเรียนรู้เรื่องสมุนไพรกับเขาให้ดี เผื่อว่าในอนาคตเขาจะได้มีวิชาติดตัวไว้บ้าง นับวันหลานจิวจะยิ่งแสดงออกถึงนิสัยที่แท้จริงของนางที่ทั้งตระหนี่ถี่เหนียว ไหนจะเอาแต่ด่าทอลูกคนเล็กให้เขาได้ยินบ่อย ๆ จนเขาต้องทะเลาะกับนางมาตลอดเรื่องนี้ หลานจิวเปรียบเทียบตนเองกับครอบครัวพี่ใหญ่ของหนิงเจิ้งมาตลอดว่าเขาไม่เอาไหน ไม่เหมือนพี่ชายที่เป็นขุนนางเลยแม้แต่น้อย เรื่องนี้ยิ่งทำให้หนิงเจิ้งไม่พอใจ เขาชอบที่จะใช้ชีวิตสงบๆ เหตุใดเขาจึงได้มีภรรยาเช่นนี้ ความจริงแล้วเขาอยากหย่ากับนางมานานแล้ว เพียงแต่ลูก ๆ ยังเล็กอยู่เขาจึงจำใจอดทน รอให้ลูก ๆ โตกว่านี้ก่อนแล้วเขาจึงจะหย่านาง อย่างไรนางก็คงไม่ต้องการลูกคนเล็กของเขาแน่ ๆ หากนางคิดว่าสามารถเลี้ยงดูลูกชายสองคนเองได้เขาก็จะไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • หนิงชิง   ตอน 11

    หนิงกวานที่ยังไม่รู้เรื่องรู้ราวด้วยอายุเขายังน้อยก็ได้แต่ไม่เข้าใจว่าเหตุใดท่านแม่จึงไม่รักเขาเหมือนพี่ ๆ ความจริงแล้วที่หลานจิวเกลียดหนิงกวานก็เพราะนางไม่สามารถมีลูกได้อีกหลังจากคลอดหนิงกวานนางจึงเกลียดเขาที่ทำให้นางมีลูกได้แค่สามคน ทั้งที่นางอยากได้ลูกสาวสักคนเพื่อจะได้เลี้ยงดูนางให้ดี สิบปีต่อมาหนิงกวานที่โตแล้วรู้ว่าแม่ของเขาเป็นอย่างไรก็หาได้ถือสา อย่างไรเขาก็ยังกตัญญูกับนางเหมือนเดิม ถึงแม้ท่านพ่อจะพยายามไม่ให้เขาเกิดความเกลียดชังแม่ตัวเอง แต่เขาก็มีเพียงความคิดน้อยใจเท่านั้น เมื่อถึงวัยแต่งงาน พี่ชายทั้งสองของเขาไปสู่ขอภรรยาก็ได้รับเงินจากท่านแม่ไปคนละไม่น้อย ส่วนเขาที่มีคนรักอยู่ในอีกหมู่บ้านหนึ่งนั้นกลับไม่ได้รับเงินจากนางแม้แต่อีแปะเดียว แถมนางยังไม่ยอมให้เขารับนางเข้าบ้านอีกต่างหาก จนท่านพ่อต้องเข้ามาจัดการเรื่องราวให้เขาเอง ท่านพ่อให้เงินทองและของหมั้นมากมายกับหนิงกวานจนทำให้หลานจิวยิ่งไม่พอใจที่สามีลำเอียง หนิงเจิ้งให้เหตุผลว่าเป็นเพราะหนิงกวานช่วยเขาทำสวนสมุนไพรมาตลอด การที่เขาจะตอบแทนลูกรักก็ไม่แปลก ทำเอาคนอื่น ๆ ในบ้านไม่กล้าพูดสิ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • หนิงชิง   ตอน 12

    หลายปีต่อมา หนิงเจิ้งที่ทำงานมาตั้งแต่เด็ก ๆ ก็เริ่มเจ็บป่วยออด ๆ แอด ๆ ตามประสาคนสูงวัย ยังดีที่มีเสี่ยวชุ่ยและลูก ๆ อีกสามคนช่วยกันดูแล หนิงกวานจึงได้ปลูกสมุนไพรได้อย่างสบายใจและดูแลครอบครัวเล็ก ๆ ของเขาเป็นอย่างดี หนิงเจิ้งยังกำชับหนิงกวานว่าหากเขาเป็นอะไรไปก็อย่าให้หลานจิวกับลูกๆ เข้ามาอยู่ที่เรือนอีก เขารู้ดีว่าหนิงกวานเป็นคนใจอ่อนขนาดไหน หนิงกวานเองก็ไม่ได้รับปากอันใด เขาเพียงแต่บอกว่านางเป็นแม่เขาหากเขาไม่กตัญญูแล้วคนอื่นครหาจะทำเช่นใด หนิงเจิ้งฟังแล้วจึงได้บอกให้ลูกชายนำทรัพย์สินทั้งหมดที่เขาเคยบอกเอาไว้ไปฝังเก็บไว้ที่อื่นเสียเพื่อที่จะได้ไม่ตกเป็นของหลานจิวกับลูกอีกสองคน เขารู้ดีว่าทรัพย์สินเหล่านี้หากอยู่ในมือคนพวกนี้คงไม่สามารถงอกเงยขึ้นมาได้ มีเพียงหนิงกวานเท่านั้นที่เขาเชื่อใจ หนิงกวานเองก็ได้แต่ต้องยอมทำตามที่ท่านพ่อบอก เขาหาสถานที่ฝังทรัพย์สินเอาไว้บนภูเขาห่างไกลจากที่ผู้คนเดินไปมาไม่น้อย เขายังทำสัญลักษณ์เอาไว้เพื่อที่ตนเองจะได้จดจำได้ว่าฝังไว้ที่ใดหากเกิดเหตุการณ์อย่างที่ท่านพ่อคาดเดาเอาไว้ หลังจากดูแลหนิงเจิ้งได้เกือบปีเขาก็จากไปด้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • หนิงชิง   ตอน 13

    วันหนึ่งหนิงกวานไปขายสมุนไพร ขากลับฝนกลับตกลงมาอย่างแรง เขาจึงขอขึ้นเกวียนกลับหมู่บ้านทั้งที่ปกติเขาจะเดินเอา ด้วยถนนหนทางที่ไม่ดี ทำให้เกวียนเสียหลักคว่ำไปทับหนิงกวานที่กระโดดลงไม่ทัน ส่วนคนอื่นที่ขึ้นเกวียนมาด้วยก็บาดเจ็บมากน้อยต่างกันไป เพียงแต่หนิงกวานเจ็บหนักที่สุดเพราะเขาช่วยเด็กเอาไว้ไม่ให้ถูกเกวียนทับเหมือนเขา กว่าที่จะมีคนมาช่วยหนิงกวานกลับบ้าน อาการของเขาก็หนักมากแล้ว เสี่ยวชุ่ยไปขอเงินหลานจิวเพื่อจะพาสามีไปหาหมอ“ฮึก.. ท่านแม่ ข้าขอร้องท่าน ขอเงินให้ข้าพาหนิงกวานไปหาหมอด้วยเถิดเจ้าค่ะ ไม่อย่างนั้นเขาต้องทนไม่ไหวแน่”“ฮึ! เรื่องอะไรข้าจะช่วยมัน ถ้ามันตายได้ก็ดี ข้าจะได้ไม่ต้องเปลืองข้าวปลาอาหารอีก ไหนมันจะอกตัญญูกับข้าบ่อย ๆ เจ้าเองก็เห็น”“ท่านแม่ แต่นี่หนิงกวานเป็นลูกชายท่านนะเจ้าคะ ท่านไม่คิดจะช่วยเหลือเขาหรืออย่างไร ทั้งที่เขาหาเลี้ยงคนทั้งครอบครัว”“มันเป็นลูกข้าแล้วยังไง ข้าเกลียดที่มันทำให้ข้าไม่สามารถมีลูกได้อีก สามีก็ห่างเหินจากข้าจนหย่ากับข้า เจ้าไม่รู้อะไรเลยจริง ๆ ไป ไป จะไปไหนก็ไป อย่าให้มันมาตายที่บ้านข้าให้อัปมงคล” เสี่ยวชุ่ยไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • หนิงชิง   ตอน 14

    สามวันต่อมาหลังจากหนิงกวานฟื้นตัวได้ดี เขาก็บอกให้เสี่ยวชุ่ยเก็บของทุกอย่างให้เรียบร้อย ส่วนเงินเก็บเขาก็นำออกมาให้หนิงชิงไปจัดการเรื่องการหาบ้านเช่าที่หมู่บ้านอื่น เสี่ยวชุ่ยแนะนำลูกสาวให้ไปเช่าที่หมู่บ้านนางซึ่งไม่ไกลจากเมืองนัก อีกทั้งเวลาจะพาหนิงกวานไปหาหมอจะได้สะดวกหน่อย หนิงชิงได้แต่กำชับให้น้อง ๆ ดูแลท่านพ่อให้ดี นางกับแม่จะรีบกลับมาหลังจากได้บ้านเช่าแล้ว ครอบครัวเล็ก ๆ ได้แต่อยู่ในห้องเฝ้าพ่อของพวกเขา ตอนนี้สวนสมุนไพรไม่มีใครดูแล ใช่ว่าหนิงกวานจะไม่เป็นห่วงสมุนไพรพวกนั้น แต่จนใจที่ลูก ๆ กลัวว่าหลานจิวจะมาทำร้ายเขาขณะที่ยังบาดเจ็บอยู่จึงไม่ยอมออกไปไหน หนิงชิงยังกำชับไม่ให้เขาเคลื่อนไหวอีกด้วย เพราะกระดูกของเขายังไม่หายดี หนิงชิงเดินตามท่านแม่ของนางไปที่หมู่บ้านคังที่เป็นบ้านเดิมของท่านแม่นาง ซึ่งความจริงแล้วนางไม่ได้กลับบ้านมานานแล้วตั้งแต่แต่งงาน เป็นเพราะนางท้องต่อ ๆ กันนั่นเองจึงไม่ได้มาเยี่ยมที่บ้านเลย อีกทั้งหลานจิวที่มาอยู่ก็ไม่ยอมให้นางออกไปไหน นางจำเป็นจะต้องรองมือรองเท้าของหลานจิวอยู่ตลอดเวลา วันนี้เมื่อมีโอกาสนางจึงจะแวะเยี่ยมครอบครัว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09

บทล่าสุด

  • หนิงชิง   ตอน 150

    สองปีผ่านไป หนิงชิงตอนนี้ขยายสาขาเพิ่มอีกหนึ่งมณฑลแล้ว กิจการที่นั่นดำเนินไปได้ด้วยดี หนิงชิงแนะนำเทคนิคการวางขายสินค้าทั่วไปเสียก่อนที่จะวางขายสินค้าสั่งทำ เนื่องจากของใช้ทั่วไปคนธรรมดาเองก็สามารถซื้อได้ มันจะทำให้รายได้ของร้านคงที่ได้ระยะหนึ่งเลยทีเดียว ต้าเจียงเองก็ทำหน้าที่พ่อบ้านใหญ่ได้ดีสมกับที่หนิงชิงหวังเอาไว้เช่นเดียวกัน ไม่ว่างานที่จวนหรือที่ร้านเขาก็เป็นผู้ดูแลอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ตอนนี้ลูก ๆ ของหนิงชิงก็อายุครบสามขวบแล้ว ยิ่งโตพวกเขายิ่งผอมลง ไม่เหมือนตอนเด็กที่อ้วนท้วนกันใหญ่ ฮ่องเต้เองก็มักเรียกหาเหลน ๆ ทั้งสองเข้าวังไปเล่นด้วยอยู่บ่อย ๆ หลัง ๆ มานี้หนิงชิงก็ให้แม่นมพาทั้งสองไปหาเสด็จปู่ของพวกเขาแทนที่นางจะไปเอง เพราะหนิงชิงกลับไปดูงานที่ร้านอีกครั้งแล้ว เมื่อปีก่อนน้องสาวนางก็พาหล

  • หนิงชิง   ตอน 149

    วันนี้กว่าที่พ่อกับแม่ของหนิงชิงจะกลับก็เป็นตอนที่ลูกทั้งสองของนางเข้านอนตอนบ่ายแล้วนั่นเอง พวกท่านยังบอกให้นางดูแลหลานของพวกเขาให้ดี แล้วว่าง ๆ พวกเขาจะมาเยี่ยมใหม่ หลังจากร่ำลากันแล้ว พ่อแม่ของเจียงเฉิงและหนิงชิงก็ส่งพวกเขาขึ้นรถม้าแล้วออกจากจวนไป พ่อกับแม่ของเจียงเฉิงยังเยินยอพ่อแม่ของหนิงชิงเสียมากมายให้นางฟัง ก่อนที่พวกท่านจะไปพักผ่อนยามบ่ายกันตามปกติ ส่วนหนิงชิงที่วันนี้เหน็ดเหนื่อยกับการจับเจ้าลูกชายที่เพิ่งจะเดินได้มากขึ้นก็อยากกลับไปนอนพักผ่อนเช่นเดียวกัน แม่นมทั้งสองเองก็คอยดูแลคุณชายน้อยทั้งสองเป็นอย่างดี หนิงชิงจึงไม่ได้ห่วงอันใดพวกเขานัก สองวันต่อมา ต้าเจียงนำสมุดบัญชีมาให้หนิงชิงหลังจากที่ต้าเจินลูกชายของเขาเดินทางไปตรวจสอบบัญชีที่ร้านสาขาทั้งสองกลับมาเมื่อวานนี้ เขายังนำตั๋วแลกเงินจำนวนนับหลายหมื่นตำลึงกลับมาให้หนิงชิงด้วย ต

  • หนิงชิง   ตอน 148

    ข่าวที่หนิงชิงได้รับแต่งตั้งเป็นฮูหยินอันดับหนึ่งดังไปทั่วเมืองหลวงในเวลาไม่นาน มีบรรดาฮูหยินขุนนางมากหน้าหลายตาเข้ามาส่งของขวัญแสดงความยินดีกับหนิงชิงมากมายในช่วงเวลาเกือบสองสัปดาห์ที่นางต้องปั้นยิ้มรับของที่ไม่อยากได้เข้าจวน กระทั่งเหล่าฮูหยินมอบของขวัญครบทุกคนแล้วนั่นแหละ หนิงชิงจึงได้ถอนหายใจได้เสียที นางเบื่อการเข้าสังคมจอมปลอมเช่นนี้ที่สุด หากให้นางต้องไปนั่งดื่มชานินทาชาวบ้านล่ะก็นางคงทำไม่ได้ การได้รับความโปรดปรานใช่ว่าจะมีแต่ข้อดีเสียหน่อย ข้อเสียก็คือจะมีคนมารบกวนเรามากขึ้นเหมือนที่ผ่านมาอย่างไรเล่า อาหารเย็นวันนี้แม่ของเจียงเฉิงได้สอบถามหนิงชิงว่านางรู้สึกอย่างไรที่มีตำแหน่งสูงที่สุดในเหล่าฮูหยินขุนนางแล้ว หนิงชิงได้แต่ยิ้มแหยตอบกลับไป“ท่านแม่เจ้าคะ ข้าไม่เคยคิดหวังที่จะได้รับตำแหน่งนี้มาก่อน ทุกอย่างที่ข้าทำเพื่อเลี้ยงลูกก็เป็นจิตสำนึกของข้าเอง ข้ารู้ว่าฝ่าบ

  • หนิงชิง   ตอน 147

    สามวันต่อมา ราชโองการลงโทษจวนอดีตเสนาบดีกรมพิธีการสั่งการให้คนที่กระทำความผิดถูกประหารรวมทั้งบ่าวไพร่ที่ร่วมมือด้วยก็เช่นเดียวกัน ส่วนผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องให้เนรเทศไปชายแดนเหนือและห้ามเข้ารับราชการอีกตลอดชีวิต เสนาบดีกรมอาญาน้อมรับราชโองการและแจ้งวันประหารในอีกสามวันถัดไป เพราะพวกเขาต้องคัดคนที่จะถูกเนรเทศออกไปก่อนจึงต้องใช้เวลาสักหน่อยก่อนที่จะแยกออกได้ เจียงเฉิงที่ทำหน้าที่ของตนเองเสร็จแล้วก็กลับไปทำงานที่ค่ายทหารเช่นเคย หนิงชิงยังเคยบอกเจียงเฉิงว่าดีที่ตอนนี้ไม่มีศึกสงคราม ทำให้แคว้นพัฒนาไปได้มาก อีกทั้งนางยังไม่ต้องแยกจากสามีด้วยสี่เดือนต่อมา ฮ่องเต้ที่คิดถึงเหลนชายตัวอ้วนก็มีรับสั่งให้คนในจวนแม่ทัพเข้าเฝ้าเป็นกรณีพิเศษ วันนี้เจียงเฉิงพอได้รับข่าวก็รีบมาจากค่ายทหารแล้วพาทุกคนในครอบครัวเข้าไปในวัง แ

  • หนิงชิง   ตอน 146

    ไม่ถึงสามวัน คนที่เจียงเฉิงส่งไปสืบเรื่องราวก็รู้ว่าเป็นฮูหยินกับบุตรสาวของเสนาบดีกรมพิธีการที่ทำเรื่องเช่นนี้จริง ๆ เจียงเฉิงพอรู้ว่าเกี่ยวข้องกับเสนาบดีกรมพิธีการก็ยิ่งแค้นนัก เขาหรือก็ไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวที่เสนาบดีกรมพิธีการกระทำมาก่อน ตอนนี้เขากลับกล้ามาแตะเกล็ดย้อนของเขา คนพวกนี้ไม่รู้หรืออย่างไรว่าเขารักภรรยามากจึงได้ทำเช่นนี้ เจียงเฉิงนั่งคิดอยู่พักใหญ่ จากนั้นเขาจึงให้คนของเขาไปหาหลักฐานการทุจริตหรือการทำชั่วต่าง ๆ ที่คนในจวนเสนาบดีเคยทำมาให้หมด ในเมื่อเป็นเสนาบดีดีดีไม่ชอบ เจียงเฉิงก็จะให้เขากลายเป็นนักโทษไปเสียให้สิ้นเรื่องสิ้นราว ถือว่าเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู จะได้ไม่มีใครกล้ามาทำเช่นนี้อีก หลังรับคำสั่งแล้วคนของเจียงเฉิงมากกว่ายี่สิบคนก็แยกกันออกไปตามหาเบาะแสเรื่องของเสนาบดีกรมพิธีการทันที พวกเขารู้ดีว่านายน้อยใจร้อนมากเพียงใด หากพวกเขามัวแต่ชักช้า นายน้อยคงสั่งลงโท

  • หนิงชิง   ตอน 145

    คืนนี้หนิงชิงจึงได้นอนหลับอย่างสบายโดยที่สามีไม่ก่อกวนนางจริง ๆ เจียงเฉิงที่ได้แต่กอดภรรยานอน เขาอดหมั่นเขี้ยวคนตัวเล็กไม่ได้ จึงแอบหอมแก้มนางฟอดใหญ่ก่อนจะหลับไปพร้อมกับความอ่อนเพลียเช่นกัน จวนแม่ทัพเลี้ยงดูเด็ก ๆ ได้เกือบห้าเดือนแล้ว ช่วงนี้กลับมีข่าวลือว่าแม่ทัพใหญ่ไปติดพันลูกสาวเสนาบดีกรมพิธีการเสียได้ หนิงชิงไม่รู้ว่าข่าวนี้ใครเป็นคนปล่อย แต่สามีนางน่าจะรู้เรื่องนี้แล้วกระมัง ขนาดนางที่อยู่แต่ในจวนยังรู้เลย เขาที่ไปทำงานทุกวันจะไม่รู้ได้อย่างไร อีกทั้งข่าวลือยังบอกอีกว่าฮ่องเต้สนับสนุนให้แม่ทัพใหญ่มีฮูหยินรองเพื่อจะได้มีทายาทสืบทอดเพิ่มขึ้นอีก ทั้งสัปดาห์มีแต่ข่าวลือเรื่องนี้ ด้านเจียงเฉิงได้แต่โกรธแค้นว่าใครกันเป็นคนปล่อยข่าวบ้า ๆ นี่ออกมา เขาที่ทำงานที่ค่ายทหารงก ๆ จะเอาเวลาที่ไหนไปยุ่งกับหญิงอื่น อีกทั้งเขายังรักภรรยาคนเดียวด้วย จะมีหญิงใดที่เขาชายตามองในเมืองหลวงบ้างเ

  • หนิงชิง   ตอน 144

    สัปดาห์ต่อมาหลังจากเจียงเฉิงเริ่มจับทางเจ้าอ้วนน้อยทั้งสองได้แล้วว่าจะนอนตอนไหน แผนการเผด็จศึกภรรยาสุดที่รักก็เริ่มขึ้นทันที คืนนั้นเจียงเฉิงอาบน้ำให้ภรรยาพร้อมกับใส่ชุดให้นางแล้วอุ้มไปที่เตียงทันที หนิงชิงเองก็งงกับสามีตัวดีว่าจะทำอันใด ปกตินางก็เดินไปนอนเองอยู่แล้วหลังเขาใส่เสื้อผ้าให้ แต่วันนี้สามีนางมาแปลก เมื่อถึงเตียงแล้วเจียงเฉิงก็เริ่มปฏิบัติการเล้าโลมภรรยาตัวน้อยทันที หนิงชิงที่กว่าจะตั้งสติได้ก็ตอนที่เสื้อผ้าหลุดลุ่ยหมดแล้ว นางเข้าใจแล้วว่าเหตุใดสามีตัวดีจึงได้ทำตัวแปลก ๆ ที่แท้เขาก็กำลังคิดเรื่องบนเตียงอยู่นั่นเอง หนิงชิงได้แต่กลัวว่าลูกจะตื่นจึงได้บอกเขาทั้งที่นางเองก็พร้อมให้กับสามีที่กำลังเล้าโลมนางอยู่ไม่น้อย เจียงเฉิงกระซิบบอกภรรยาที่รักของเขาว่าลูก ๆ จะยังไม่ตื่นจนกว่าจะอีกหนึ่งชั่วยาม เขาที่จับตาดูลูกมาตลอดหนึ่งสัปดาห์มั่นใจมาก หนิงชิงที่ได้ยินเช่นนั้นได้แต่บ่นสามีในใจว่าเขาถึงกับดูกิจวัตรประจำวันของเจ้าอ้วนน้อยทั้งสอ

  • หนิงชิง   ตอน 143

    กว่างานเลี้ยงจะเลิกก็เกือบเย็นแล้ว ครอบครัวเจียงเฉิงกับหนิงชิงพากันส่งแขกร่วมกันที่หน้าจวนจนกระทั่งแขกกลับกันหมดแล้ว หนิงกวานก่อนจะกลับจวนเช่นกันก็มอบของเล่นเอาไว้ให้หลาน ๆ เสียหลายอย่าง พ่อกับแม่ของเจียงเฉิงได้แต่ขอบคุณท่านตาของหลานพวกเขาที่สละเวลาทำของเล่นออกมาเสียมากมาย หนิงกวานได้แต่หัวเราะและบอกว่าพวกเขาเป็นหลานชายตัวอ้วนที่พวกเขามี หากมีสิ่งใดดี ๆ เขาก็อยากมอบให้หลาน ๆ มากกว่าที่จะให้กับคนอื่น หลังจากร่ำลากันได้สักพักพวกหนิงกวานก็ขึ้นรถม้าจากไป ตอนนี้จวนแม่ทัพกลับมาเงียบสงบดังเดิมแล้ว บ่าวไพร่เองต่างก็ช่วยกันเก็บข้าวของเพื่อให้บริเวณงานเลี้ยงสะอาดสะอ้านเหมือนก่อนที่จะจัดงาน พ่อกับแม่ของเจียงเฉิงที่เหนื่อยมาทั้งวันต่างชวนกันไปพักผ่อน วันนี้พวกเขาเสียเรี่ยวแรงไปมากจริง ๆ เอาไว้พรุ่งนี้พวกเขาค่อยไปเล่นกับหลาน ๆ ก็ยังไม่สาย อย่างไรหลานของพวกเขาก็อยู่ด้วยกันที่จวนอยู่แล้วด้วย ฟากฝ

  • หนิงชิง   ตอน 142

    สิ่งของสำหรับเลือกในครั้งนี้มีทั้งอุปกรณ์การช่างที่หนิงชิงเป็นคนวาง ตำราที่ฮ่องเต้ให้ขันทีวางลงไป ก้อนเงินที่ฮองเฮาประทาน ส่วนของไทเฮานั้นเป็นกุญแจอายุยืนที่นางสั่งร้านเครื่องประดับทำขึ้นมา สิ่งของอื่น ๆ ก็ยังมีของเล่นที่หนิงกวานทำมา มีดไม้แกะสลักก็ยังมี ไหนจะดาบของเล่นที่เจียงเฉิงเป็นคนวางอีกเล่า ยังไม่รวมสิ่งของอื่น ๆ อีกนับสิบอย่างที่มีคนมาวางเอาไว้ให้คุณชายน้อยทั้งสองเลือกอีก เมื่อถึงเวลาเลือกของแล้ว หนิงชิงกับเจียงเฉิงก็วางลูกลงบนกองสิ่งของแล้วให้พวกเขาเลือกมาสักหนึ่งอย่าง ด้านโหย่วเฉียงและคงหมิงได้แต่มองกันตาปริบ ๆ พวกเขารู้เพียงว่าอยากได้สิ่งของมาเล่นเท่านั้น จึงทำให้ทั้งคู่คลานต้วมเตี้ยมวน ๆ หาดูว่าจะเอาสิ่งใดมาเล่นดี โหย่วเฉียงที่เห็นดาบของเล่นก็ชอบใจ เขาเลือกดาบและตำราโดยนำดาบมาฟันตำราเล่นเสียอย่างนั้น การกระทำของเขาทำเอาแขกทั้งหลายมีแต่เสียงหัวเราะเอ็นดูเด็กน้อยกันทั้งนั้น ส่วนคงหมิงนั้นเลือกก้อนเงินและอุปกรณ์แปลก ๆ ของหนิงชิง &nb

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status