แชร์

ตอน 8

ผู้เขียน: 橙花
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-09 11:59:23

       หนึ่งปีต่อมา  หลานจิวที่หมั้นหมายกับหนิงเจิ้งก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีที่เรือนของหนิงเจิ้ง  เขาทำพิธีโดยมีท่านปู่กับพ่อแม่ของฝ่ายหญิงเป็นพยาน  รวมทั้งคนในหมู่บ้านที่มาร่วมสนุกในงานแต่งงานครั้งนี้  พวกเขารู้ดีว่าบ้านหนิงซวนหยวนไม่เคยตระหนี่ของกิน  พวกเขาจึงนำเงินเล็กน้อยมาเป็นขวัญถุงให้กับบ่าวสาวตามธรรมเนียม  ทั้งที่หนิงซวนหยวนบอกแล้วว่าไม่รับของหรือเงิน  แต่ก็ต้องจนใจที่ชาวบ้านบอกว่ามันเป็นธรรมเนียมที่พวกเขาทำสืบทอดกันมา  หนิงซวนหยวนจึงได้ให้บ่าวรับเอาไว้ให้หลานชายเขาทีหลัง

       หลานจิวที่ตอนแรกไม่อยากแต่งงาน  แต่พอเห็นว่าบ้านนี้ใหญ่โตเพียงใดนางก็เกิดโลภขึ้นมาจึงได้ทำตัวดีให้ทุกคนเห็นเป็นฉากหน้า  นางคิดว่านางจะได้นั่งเป็นฮูหยินที่สุขสบายในเรือนนี้แน่ ๆ โดยที่นางไม่รู้เลยว่าอีกไม่นานท่านปู่ผู้เป็นญาติคนเดียวของสามีจะสิ้นไป

       หนิงเจิ้งเองก็มีความสุขไม่น้อย ภรรยาของเขาไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อย่างที่เคยคิดเอาไว้  นางดูเป็นคนอ่อนหวานและช่างเอาใจไม่น้อย ทำให้หนิงเจิ้งหลงใหลนางเข้าจริง ๆ

       หนิงซวนหยวนเห็นว่าทั้งคู่เข้ากันได้ดีก็วางใจ  อย่างน้อยหากเขาเป็นอันใดไปก็ยังคงวางใจได้ว่าทั้งสองจะยังมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันอยู่  เขาไม่รู้ว่าตนเองจะได้อยู่เห็นหน้าเหลนหรือไม่ด้วยซ้ำ  เพราะเขาฝืนตัวเองมามากในช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา  ตอนนี้ร่างกายของเขาเขารู้ดีว่าอาจเหลือเวลาไม่มากแล้ว

       โชคดีที่หนิงซวนหยวนยังรักษาตนเองอยู่บ้าง  เขาเริ่มหวังที่จะเลี้ยงเหลนที่กำลังจะคลอดออกมาในอีกไม่กี่เดือน  นับว่าหลานชายเขาทำหน้าที่สามีได้ดีจริง ๆ หนิงเจิ้งเองก็รู้ดีว่าท่านปู่อยากเห็นหน้าเหลน เขาจึงให้กำลังใจท่านปู่บ่อย ๆ ว่าให้อยู่ช่วยเขาดูแลลูกด้วย

       ส่วนหลานจิวที่กำลังอุ้มท้องก็ไม่กล้าทำสิ่งใดเมื่อยังมีหนิงซวนหยวนอยู่  นางรู้ดีว่าสามีหลงใหลตนเองเข้าจริง ๆ นางเพียงรอให้ปู่ของสามีสิ้นไปเสียก่อน กิจการในเรือนนี้นางจึงจะเป็นคนจัดการเอง โดยอ้างกับสามีว่าเขาเหนื่อยปลูกสมุนไพรแล้ว นางเองก็อยากช่วยเหลืองานเขาในเรือนเช่นกัน

       หนิงเจิ้งมองภรรยาที่กำลังท้องอยู่และเห็นว่างานในเรือนไม่มีอันใดต้องทำมากมายนัก  เขาคนเดียวก็สามารถดูแลได้จึงไม่ได้พูดสิ่งใดกับนางอีก  เขายังจำคำเตือนของท่านปู่ได้ว่าอย่าไว้ใจใครมากเกินไป  ถึงแม้คนคนนั้นจะเป็นภรรยาของเขาก็ตาม

       หลานจิวเห็นว่าสามีไม่พูดอันใดนางจึงไม่กล้ารบเร้าต่อ  ด้วยนางพอจะรู้ว่าสามีนางถึงจะหลงใหลนางแต่เขาก็ฉลาดมากเช่นกัน  เขาคงไม่คิดว่านางน่าไว้ใจกระมัง  หลานจิวได้แต่รอวันที่จะได้เป็นเจ้าของเรือนใหญ่หลังนี้เท่านั้นเอง

       หลังจากหลานจิวคลอดลูกแล้ว หนิงซวนหยวนก็มีกำลังใจมากขึ้น  ตอนนี้เขามีเหลนเอาไว้ให้เลี้ยงดูแล้วจึงมีสิ่งกระตุ้นให้เขาอยากมีชีวิตอยู่นานขึ้นอีกหน่อย  กระทั่งหลานจิวคลอดบุตรคนที่สอง  หนิงซวนหยวนก็ยิ่งดีใจที่มีเหลนหัวปีท้ายปีเช่นนี้

       หลานจิวเห็นว่าท่านปู่สามีดูจะชอบเด็กมาก  นางจึงอดทนคลอดเด็กๆ ออกมาเพื่อหวังจะได้ทรัพย์สินของบ้านบ้าง  นางเคยได้ข่าวว่าตอนที่พี่ชายเขาแต่งสะใภ้จากสำนักคุ้มภัยนั้นมีสินสอดถึงสิบหีบ  แต่งานแต่งงานของนางกลับไม่มีแม้แต่หีบเดียว  แม่สื่อให้มาเพียงแค่เงินไม่กี่ตำลึงกับผ้าไม่กี่พับเท่านั้น  นางยังนึกอิจฉาพี่สะใภ้ที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน  จนทำให้นางคิดมากว่าสามีนางเหตุใดไม่ให้เหมือนกับพี่สะใภ้  หรือว่าทรัพย์สินทั้งหมดหมดไปเพราะเรื่องนี้แล้วนางก็ไม่อาจทราบได้  ถึงแม้ว่านางจะอยู่ดีกินดีมีบ่าวรับใช้แต่นางก็ยังไม่พอใจ

       จนกระทั่งวันหนึ่งนางสอบถามสามีถึงเรื่องนี้  สามีของนางยังถามกลับว่านางรู้ได้อย่างไรและถามไปเพื่ออะไร  ในเมื่อนั่นเป็นทรัพย์สินของพี่ชายของเขาเอง  ส่วนเขาก็มีเพียงเงินเก็บจากการขายสมุนไพรเท่านั้น  หากนางอยากได้อะไรก็แค่บอกมา  เขาจะให้บ่าวไปซื้อให้  แต่เรื่องในเรือนนี้เขาจะเป็นคนจัดการเอง

       ตั้งแต่วันนั้นที่ภรรยาของหนิงเจิ้งสอบถามเรื่องทรัพย์สินกับเขา เขาก็รู้แล้วว่าภรรยาคนนี้ไม่ดีเท่าภรรยาพี่ใหญ่  นางมีความละโมบโลภมากกับทรัพย์สินของเขาจริง ๆ โชคดีที่ท่านปู่เตือนเขาเอาไว้ก่อนหน้านี้  เขาจึงไม่ได้บอกสิ่งใดกับนาง

       ความห่างเหินของหนิงเจิ้งทำให้หลานจิวสังเกตเห็น  นางได้แต่เสียใจที่ตนเองสอบถามเขาจนทำให้เขาตีตัวออกห่างนาง  กระทั่งนางท้องลูกคนที่สามนั่นแหละ  หนิงเจิ้งจึงคอยดูแลนางอย่างดีดังเดิม  แต่ก็ยังเว้นระยะห่างระหว่างนางกับเขาไม่น้อยเช่นเดียวกัน  หลานจิวเห็นว่าลูกคนนี้ช่างไร้ประโยชน์นัก  ขนาดว่านางท้องสามียังไม่ค่อยสนใจเลย  ส่วนหนิงซวนหยวนก็ยุ่งอยู่กับการเลี้ยงดูหลานชายสองคนของเขา  เขาจึงไม่ได้สนใจว่าหลานสะใภ้กับหลานชายจะเป็นอย่างไร

       วัน ๆ หลานจิวก็ชักจะอารมณ์เสียเพราะลูกไม่ช่วยให้นางมีความสัมพันธ์ดีขึ้นกับสามี  นางแทบไม่อยากจะคลอดเด็กคนนี้เสียด้วยซ้ำไป จนใจที่ก่อนถึงกำหนดคลอด หลานจิวที่เดินไปมาสำรวจที่ทางในเรือนกลับสะดุดล้มจากท้องที่ใหญ่โตจนต้องคลอดก่อนกำหนด  ในวันนั้นนางเกือบต้องตายไปพร้อมกับลูกชายเสียแล้ว หากสามีพาหมอมาไม่ทัน  เรื่องนี้ยิ่งทำให้หลานจิวโกรธและเกลียดลูกในท้องคนนี้ยิ่งขึ้นไปอีก

       หนิงเจิ้งไม่รู้เลยว่าภรรยาจะมีความคิดเช่นนี้  เขาเร่งตามหมอมาจนนางคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัยเป็นชายอีกคนหนึ่ง  เขาคิดว่าแค่นี้ตระกูลหนิงก็คงจะมีคนสืบทอดหลายคนแล้วจึงได้พักเรื่องมีลูกกับภรรยา  เขากลัวว่าหากผิดพลาดไปแล้วนางท้องอีก รายได้ที่เขาขายสมุนไพรคงไม่พอเลี้ยงดูทุกคนแน่ ๆ การกระทำที่เปลี่ยนไปของหนิงเจิ้งทำให้หลานจิวไม่พอใจ  นางเอาแต่ตวาดว่าลูกชายคนที่สามที่ยังไม่รู้เรื่องรู้ราวว่าเป็นตัวซวยทำให้นางกับสามีห่างเหินกันไปอีก

กระทั่งหนิงซวนหยวนได้ยินเข้าก็สั่งสอนหลานสะใภ้ให้รู้จักรักลูกของตนเองบ้าง  ไม่ใช่เห็นแก่ความสบาย  เขาเปรียบเทียบนางกับสะใภ้บ้านอื่นจนทำเอานางขายหน้าบ่าวไพร่ไปเสียหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หนิงชิง   ตอน 9

    หลังจากวันที่หลานจิวถูกท่านปู่สามีสั่งสอน นางก็ทำตัวดีขึ้นทันที ด้วยกลัวว่าจะถูกเพ่งเล็งจนต้องหย่ากับสามี ส่วนหนิงเจิ้งนั้นไม่ได้สนใจภรรยา เขากับปู่ช่วยกันเลี้ยงดูเด็ก ๆ อย่างสนุกสนาน ในเมื่อแม่ของพวกเขาใจจืดใจดำนัก ทั้งสองปู่หลานจึงได้ช่วยกันเลี้ยงแทน หนิงซวนหยวนที่ช่วยเลี้ยงจนหลานชายคนโตอายุได้ห้าขวบ เขาก็เริ่มเจ็บป่วยออด ๆ แอด ๆ ตามประสาคนสูงวัย ทำให้หนิงเจิ้งยิ่งห่างเหินกับภรรยา เขาคอยดูแลท่านปู่และส่งจดหมายบอกพี่ชายแล้วว่าหากกลับมาดูใจท่านได้ก็ให้กลับมา ถ้ามาไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เขาจะดูแลท่านปู่จนถึงวาระสุดท้ายเอง ด้านหนิงจิ้งที่ได้รับจดหมายจากน้องชายได้แต่นึกเสียใจ แต่ตอนนี้เขาได้สอบเข้าเป็นขุนนางในราชสำนักแล้ว การจะไปไหนมาไหนย่อมเป็นเรื่องยาก แถมตอนนี้ลูก ๆ ของเขาเองก็อายุมากพอที่จะเข้าเรียนแล้ว เขาจึงไม่อาจจากไปได้ หนิงจิ้งได้แต่ส่งจดหมายตอบกลับน้องชายอย่างเสียใจ คราแรกภรรยาเขาจะเดินทางกลับไปเอง แต่หนิงจิ้งไม่ไว้วางใจให้นางเดินทางคนเดียว เขาจึงไม่ให้นางไปด้วยความเป็นห่วง ฮวงเหมยอี้รู้ดีว่าสามีเป็นห่วง แต่เขาลืมไปหรือเปล่าว่านางเป็นลูกสาว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • หนิงชิง   ตอน 10

    หนิงเจิ้งที่ยิ่งอยู่กับภรรยานานเข้าก็ยิ่งรู้ว่านางเป็นคนเช่นไร เขาไม่นำพาว่านางจะมีนิสัยอย่างไร เพียงแค่ไม่ทำให้ลูก ๆ ลำบากเขาก็พอใจแล้ว ขนาดว่าหนิงกวานเรียนเก่งกว่าพี่ ๆ นางยังไม่เคยจะคิดชมเชยลูกเลยสักนิด นางกลับเอาอกเอาใจแต่ลูกคนโตกับคนรองของเขา มีแค่เขาเท่านั้นที่คอยส่งเสริมลูกชายคนเล็กให้ขยันเรียนให้มาก และเรียนรู้เรื่องสมุนไพรกับเขาให้ดี เผื่อว่าในอนาคตเขาจะได้มีวิชาติดตัวไว้บ้าง นับวันหลานจิวจะยิ่งแสดงออกถึงนิสัยที่แท้จริงของนางที่ทั้งตระหนี่ถี่เหนียว ไหนจะเอาแต่ด่าทอลูกคนเล็กให้เขาได้ยินบ่อย ๆ จนเขาต้องทะเลาะกับนางมาตลอดเรื่องนี้ หลานจิวเปรียบเทียบตนเองกับครอบครัวพี่ใหญ่ของหนิงเจิ้งมาตลอดว่าเขาไม่เอาไหน ไม่เหมือนพี่ชายที่เป็นขุนนางเลยแม้แต่น้อย เรื่องนี้ยิ่งทำให้หนิงเจิ้งไม่พอใจ เขาชอบที่จะใช้ชีวิตสงบๆ เหตุใดเขาจึงได้มีภรรยาเช่นนี้ ความจริงแล้วเขาอยากหย่ากับนางมานานแล้ว เพียงแต่ลูก ๆ ยังเล็กอยู่เขาจึงจำใจอดทน รอให้ลูก ๆ โตกว่านี้ก่อนแล้วเขาจึงจะหย่านาง อย่างไรนางก็คงไม่ต้องการลูกคนเล็กของเขาแน่ ๆ หากนางคิดว่าสามารถเลี้ยงดูลูกชายสองคนเองได้เขาก็จะไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • หนิงชิง   ตอน 11

    หนิงกวานที่ยังไม่รู้เรื่องรู้ราวด้วยอายุเขายังน้อยก็ได้แต่ไม่เข้าใจว่าเหตุใดท่านแม่จึงไม่รักเขาเหมือนพี่ ๆ ความจริงแล้วที่หลานจิวเกลียดหนิงกวานก็เพราะนางไม่สามารถมีลูกได้อีกหลังจากคลอดหนิงกวานนางจึงเกลียดเขาที่ทำให้นางมีลูกได้แค่สามคน ทั้งที่นางอยากได้ลูกสาวสักคนเพื่อจะได้เลี้ยงดูนางให้ดี สิบปีต่อมาหนิงกวานที่โตแล้วรู้ว่าแม่ของเขาเป็นอย่างไรก็หาได้ถือสา อย่างไรเขาก็ยังกตัญญูกับนางเหมือนเดิม ถึงแม้ท่านพ่อจะพยายามไม่ให้เขาเกิดความเกลียดชังแม่ตัวเอง แต่เขาก็มีเพียงความคิดน้อยใจเท่านั้น เมื่อถึงวัยแต่งงาน พี่ชายทั้งสองของเขาไปสู่ขอภรรยาก็ได้รับเงินจากท่านแม่ไปคนละไม่น้อย ส่วนเขาที่มีคนรักอยู่ในอีกหมู่บ้านหนึ่งนั้นกลับไม่ได้รับเงินจากนางแม้แต่อีแปะเดียว แถมนางยังไม่ยอมให้เขารับนางเข้าบ้านอีกต่างหาก จนท่านพ่อต้องเข้ามาจัดการเรื่องราวให้เขาเอง ท่านพ่อให้เงินทองและของหมั้นมากมายกับหนิงกวานจนทำให้หลานจิวยิ่งไม่พอใจที่สามีลำเอียง หนิงเจิ้งให้เหตุผลว่าเป็นเพราะหนิงกวานช่วยเขาทำสวนสมุนไพรมาตลอด การที่เขาจะตอบแทนลูกรักก็ไม่แปลก ทำเอาคนอื่น ๆ ในบ้านไม่กล้าพูดสิ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • หนิงชิง   ตอน 12

    หลายปีต่อมา หนิงเจิ้งที่ทำงานมาตั้งแต่เด็ก ๆ ก็เริ่มเจ็บป่วยออด ๆ แอด ๆ ตามประสาคนสูงวัย ยังดีที่มีเสี่ยวชุ่ยและลูก ๆ อีกสามคนช่วยกันดูแล หนิงกวานจึงได้ปลูกสมุนไพรได้อย่างสบายใจและดูแลครอบครัวเล็ก ๆ ของเขาเป็นอย่างดี หนิงเจิ้งยังกำชับหนิงกวานว่าหากเขาเป็นอะไรไปก็อย่าให้หลานจิวกับลูกๆ เข้ามาอยู่ที่เรือนอีก เขารู้ดีว่าหนิงกวานเป็นคนใจอ่อนขนาดไหน หนิงกวานเองก็ไม่ได้รับปากอันใด เขาเพียงแต่บอกว่านางเป็นแม่เขาหากเขาไม่กตัญญูแล้วคนอื่นครหาจะทำเช่นใด หนิงเจิ้งฟังแล้วจึงได้บอกให้ลูกชายนำทรัพย์สินทั้งหมดที่เขาเคยบอกเอาไว้ไปฝังเก็บไว้ที่อื่นเสียเพื่อที่จะได้ไม่ตกเป็นของหลานจิวกับลูกอีกสองคน เขารู้ดีว่าทรัพย์สินเหล่านี้หากอยู่ในมือคนพวกนี้คงไม่สามารถงอกเงยขึ้นมาได้ มีเพียงหนิงกวานเท่านั้นที่เขาเชื่อใจ หนิงกวานเองก็ได้แต่ต้องยอมทำตามที่ท่านพ่อบอก เขาหาสถานที่ฝังทรัพย์สินเอาไว้บนภูเขาห่างไกลจากที่ผู้คนเดินไปมาไม่น้อย เขายังทำสัญลักษณ์เอาไว้เพื่อที่ตนเองจะได้จดจำได้ว่าฝังไว้ที่ใดหากเกิดเหตุการณ์อย่างที่ท่านพ่อคาดเดาเอาไว้ หลังจากดูแลหนิงเจิ้งได้เกือบปีเขาก็จากไปด้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • หนิงชิง   ตอน 13

    วันหนึ่งหนิงกวานไปขายสมุนไพร ขากลับฝนกลับตกลงมาอย่างแรง เขาจึงขอขึ้นเกวียนกลับหมู่บ้านทั้งที่ปกติเขาจะเดินเอา ด้วยถนนหนทางที่ไม่ดี ทำให้เกวียนเสียหลักคว่ำไปทับหนิงกวานที่กระโดดลงไม่ทัน ส่วนคนอื่นที่ขึ้นเกวียนมาด้วยก็บาดเจ็บมากน้อยต่างกันไป เพียงแต่หนิงกวานเจ็บหนักที่สุดเพราะเขาช่วยเด็กเอาไว้ไม่ให้ถูกเกวียนทับเหมือนเขา กว่าที่จะมีคนมาช่วยหนิงกวานกลับบ้าน อาการของเขาก็หนักมากแล้ว เสี่ยวชุ่ยไปขอเงินหลานจิวเพื่อจะพาสามีไปหาหมอ“ฮึก.. ท่านแม่ ข้าขอร้องท่าน ขอเงินให้ข้าพาหนิงกวานไปหาหมอด้วยเถิดเจ้าค่ะ ไม่อย่างนั้นเขาต้องทนไม่ไหวแน่”“ฮึ! เรื่องอะไรข้าจะช่วยมัน ถ้ามันตายได้ก็ดี ข้าจะได้ไม่ต้องเปลืองข้าวปลาอาหารอีก ไหนมันจะอกตัญญูกับข้าบ่อย ๆ เจ้าเองก็เห็น”“ท่านแม่ แต่นี่หนิงกวานเป็นลูกชายท่านนะเจ้าคะ ท่านไม่คิดจะช่วยเหลือเขาหรืออย่างไร ทั้งที่เขาหาเลี้ยงคนทั้งครอบครัว”“มันเป็นลูกข้าแล้วยังไง ข้าเกลียดที่มันทำให้ข้าไม่สามารถมีลูกได้อีก สามีก็ห่างเหินจากข้าจนหย่ากับข้า เจ้าไม่รู้อะไรเลยจริง ๆ ไป ไป จะไปไหนก็ไป อย่าให้มันมาตายที่บ้านข้าให้อัปมงคล” เสี่ยวชุ่ยไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • หนิงชิง   ตอน 14

    สามวันต่อมาหลังจากหนิงกวานฟื้นตัวได้ดี เขาก็บอกให้เสี่ยวชุ่ยเก็บของทุกอย่างให้เรียบร้อย ส่วนเงินเก็บเขาก็นำออกมาให้หนิงชิงไปจัดการเรื่องการหาบ้านเช่าที่หมู่บ้านอื่น เสี่ยวชุ่ยแนะนำลูกสาวให้ไปเช่าที่หมู่บ้านนางซึ่งไม่ไกลจากเมืองนัก อีกทั้งเวลาจะพาหนิงกวานไปหาหมอจะได้สะดวกหน่อย หนิงชิงได้แต่กำชับให้น้อง ๆ ดูแลท่านพ่อให้ดี นางกับแม่จะรีบกลับมาหลังจากได้บ้านเช่าแล้ว ครอบครัวเล็ก ๆ ได้แต่อยู่ในห้องเฝ้าพ่อของพวกเขา ตอนนี้สวนสมุนไพรไม่มีใครดูแล ใช่ว่าหนิงกวานจะไม่เป็นห่วงสมุนไพรพวกนั้น แต่จนใจที่ลูก ๆ กลัวว่าหลานจิวจะมาทำร้ายเขาขณะที่ยังบาดเจ็บอยู่จึงไม่ยอมออกไปไหน หนิงชิงยังกำชับไม่ให้เขาเคลื่อนไหวอีกด้วย เพราะกระดูกของเขายังไม่หายดี หนิงชิงเดินตามท่านแม่ของนางไปที่หมู่บ้านคังที่เป็นบ้านเดิมของท่านแม่นาง ซึ่งความจริงแล้วนางไม่ได้กลับบ้านมานานแล้วตั้งแต่แต่งงาน เป็นเพราะนางท้องต่อ ๆ กันนั่นเองจึงไม่ได้มาเยี่ยมที่บ้านเลย อีกทั้งหลานจิวที่มาอยู่ก็ไม่ยอมให้นางออกไปไหน นางจำเป็นจะต้องรองมือรองเท้าของหลานจิวอยู่ตลอดเวลา วันนี้เมื่อมีโอกาสนางจึงจะแวะเยี่ยมครอบครัว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • หนิงชิง   ตอน 15

    ช่วงสองสามวันมานี้พวกหนิงชิงไม่สนใจเสียงก่นด่าของหลานจิว พวกนางกินข้าวที่เรือนของพวกนางเองอย่างไม่ไว้หน้าหลานจิว หากพวกเขาหิวก็ให้พวกเขาทำกันเอง พวกนางไม่สนใจจะเป็นที่รองมือรองเท้าของคนพวกนี้อีก นางยังนัดให้ท่านลุงผู้ใหญ่บ้านมาช่วยเรื่องการแยกบ้านในวันพรุ่งนี้ด้วย ช่วงนี้พวกนางต้องเก็บของที่จำเป็นก่อนที่จะย้ายออกจากเรือนนี้ในวันพรุ่งนี้ หลานจิวเองก็ไม่อยากไปเหยียบเรือนของคนพวกนี้ นางจึงได้แต่ใช้สะใภ้ทั้งสองให้ทำอาหารให้พวกนางกินแทน ถึงแม้ฝีมืออาหารจะไม่อร่อยเท่าเสี่ยวชุ่ยทำแต่ก็พอที่จะกินได้บ้าง ทำให้หลานจิวค่อยสบายใจขึ้นหน่อยที่นางไม่มีคนพวกนี้นางก็ยังอยู่ได้ วันทั้งวันครอบครัวของหนิงชิงไม่คิดไปเหยียบเรือนใหญ่ของท่านย่าแม้แต่นิดเดียว ด้วยยังยุ่งอยู่ว่าจะเอาสิ่งใดไปบ้างในการย้ายบ้านครั้งนี้ พวกหม้อไหต่าง ๆ ก็เป็นของที่บ้านเก่า“ท่านพ่อจะให้ขนสิ่งใดไปบ้างเจ้าคะ ข้าเห็นว่าของพวกนั้นเก่าเก็บมานานแล้ว หากท่านพ่อพอจะมีเงินเหลือบ้างข้าจะได้หาซื้อเอาใหม่ ตอนไปดูบ้านข้าก็ลืืมดูเครื่องครัวว่ามีหรือไม่ด้วยเจ้าค่ะ”“หากเจ้าคิดเช่นนี้ก็ซื้อใหม่เอาเถิดหนิงชิง พ่อเองก็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • หนิงชิง   ตอน 16

    ไม่นานนักเกวียนของผู้ใหญ่บ้านก็มาถึง ทุกคนช่วยกันยกเสื้อผ้าและที่นอนขึ้นไปวางไว้ก่อน จากนั้นพยุงหนิงกวานไปนั่งที่เกวียน ส่วนคนอื่น ๆ ก็ขึ้นเกวียนกันไปรอแล้ว เหลือแค่หนิงชิงที่ยังคงผูกรถเข็นเข้ากับเกวียนเพื่อเดินทางในครั้งนี้ เมื่อผูกเสร็จแล้วนางก็ขอให้ท่านปู่ผู้ใหญ่บ้านออกเดินทางได้ โชคดีที่พวกนางไม่มีของมากนักจึงขนของได้อย่างรวดเร็ว หลานจิวเห็นพวกมันเตรียมตัวอย่างดีก็ถึงได้รู้ว่าเรื่องแยกบ้านนี้พวกมันคิดกันเอาไว้ดีแล้ว ต่อไปนางจะหาเงินได้จากที่ใดถ้าไม่มีหนิงกวานคอยไปขายสมุนไพร นางได้แต่เสียใจที่ไม่ให้ลูก ๆ เรียนรู้เรื่องการปลูกสมุนไพรเหมือนหนิงกวาน ยังดีที่นางยังพอมีเงินเหลืออยู่บ้าง แต่นางต้องคิดหาทางให้ได้เงินมากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นแค่ค่าอาหารพวกนางก็คงอยู่ได้ไม่กี่เดือนแน่ ๆ ส่วนเงินที่หนิงเจิ้งเคยให้นางเอาไว้นางก็ใช้หมดไปนานแล้ว หลานจิวให้ลูก ๆ ไปดูแปลงสมุนไพรว่าพอจะมีเหลือขายอีกหรือไม่ หากมีก็ให้พวกเขาเก็บไปขายเสียขณะที่หนิงกวานยังไม่สบายอยู่ บ้านนั้นคงไม่มีใครขายสมุนไพรได้กระมัง นางจะได้มีรายได้เพิ่มขึ้นบ้าง ลูก ๆ ที่ขี้เกียจของนางคราแรกจะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09

บทล่าสุด

  • หนิงชิง   ตอน 91

    ก่อนวันแต่งงานหนึ่งวันหลังปิดร้านอาหารเช้าแล้ว ต้าเจียงพาเหล่าบ่าวแซ่เจิ้งมาทำความสะอาดและตกแต่งร้านให้เหมาะสมกับงานแต่งงานที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ โดยห้องหอจะอยู่ที่สุดทางของห้องอื่น เพราะห้องของหนิงกุ้ยนั้นติดกับห้องของหนิงชิง พวกเขาจึงกลัวว่าเสียงดังจะทำให้หนิงชิงตกใจเอาได้จึงได้เปลี่ยนห้องให้หนิงกุ้ย กว่าที่ทุกคนจะตกแต่งร้านด้วยสิ่งของสีแดงเสร็จก็เกือบเย็นแล้ว หนิงชิงมองดูผ้าสีแดงด้วยความรู้สึกแปลก ๆ หากตอนนางแต่งงานก็คงจะต้องมีแต่ของสีแดงเช่นนี้หมดสินะ งานแต่งนี้ไม่เหมือนยุคที่นางจากมาที่จะใส่ชุดอันใดก็ได้ รุ่งเช้าวันต่อมาร้านทั้งสามปิดทำการ ด้านหนิงกุ้ยเองถูกแม่ปลุกให้ตื่นมาอาบน้ำแต่งตัวตั้งแต่ยังไม่รุ่งสางด้วยซ้ำ ส่วนหนิงชิงนั้นปล่อยให้แม่ของนางกับแม่ของต้าเป่าช่วยกันจัดการหนิงกุ้ย เพราะนางเองก็ไม่รู้ว่าต้องแต่งตัวอย่างไร แต่งหน้าอย่างไรในยุคสมัยนี้

  • หนิงชิง   ตอน 90

    ฮุ่ยหลางได้รับจดหมายจากฮ่องเต้ในอีกห้าวันถัดมา เขารีบไปหาแม่สื่อเพื่อให้ไปคุยเรื่องงานแต่งงานของเขากับหนิงกุ้ยทันที โชคดีที่ฝ่าบาทอนุญาต แถมยังสั่งให้เขาอยู่คุ้มครองหนิงกุ้ยให้ดีด้วย ไม่จำเป็นต้องกลับเมืองหลวง เรื่องนี้ทำให้เขาดีใจมากที่จะได้อยู่กับภรรยาและดูแลนาง แม่สื่อได้รับค่าจ้างไม่น้อยจากฮุ่ยหลาง นางพาฮุ่ยหลางไปแลกเปลี่ยนวันเดือนปีเกิดตามธรรมเนียม รวมทั้งของหมั้นที่ฮุ่ยหลางแอบซื้อเอาไว้ก่อนหน้านี้ เขาเป็นองครักษ์มาตั้งแต่เด็กทำให้มีเงินสะสมไม่น้อย จึงสามารถจัดการเรื่องพวกนี้เองได้ พ่อแม่ของหนิงกุ้ยพอเห็นของหมั้นก็ได้แต่ตกตะลึง พวกเขาไม่คิดว่าเขยแต่งเข้าของบ้านพวกเขาจะมีเงินมากมายขนาดนี้ เฉพาะตั๋วแลกเงินที่ให้มาก็เป็นพันตำลึงแล้ว ไหนจะผ้าไหมชั้นดีพร้อมเครื่องประดับอีกเล่า มูลค่าสิ่งของหมั้นนับว่าไม่น้อยเลยทีเดียว พวกเขาส่งวันเดือนปีเกิดของหนิงกุ้ยให้กับแม่สื่อตามธรรมเนียมแล้วจ

  • หนิงชิง   ตอน 89

    หนิงชิงนั่งเขียนจดหมายบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้เจียงเฉิงรู้ นางไม่รู้ว่าที่เมืองหูกุ้ยมีพันธมิตรของตระกูลเจียงหรือไม่ นางอยากให้พวกเขาช่วยดูแลคนงานในร้านของนางด้วย เนื่องจากนางไม่รู้จักใครที่เมืองหูกุ้ยเลย หากเกิดสิ่งใดขึ้นกับคนของนางนางคงรู้สึกผิดเป็นแน่ เมื่อเขียนจดหมายเสร็จแล้วหนิงชิงก็รอทหารที่มักจะมาถามหาจดหมายจากนางในช่วงบ่ายของวันอยู่เป็นประจำ และไม่นานก็มีทหารมาจริง ๆ หนิงชิงจึงยื่นจดหมายให้กับเขา ตอนนี้ร้านข้าวเช้าปิดไปนานแล้ว หนิงชิงไม่รู้ตัวเลยว่าตนเองใช้เวลาเขียนจดหมายนานมากถึงขนาดนี้ อาหารเที่ยงนางก็ลืมออกมากินเสียด้วยซ้ำ เป็นปกติที่แม่ของนางจะไม่มาเรียกเผื่อว่านางกำลังออกแบบงานอยู่จะเสียสมาธิได้ เรื่องนี้ทุกคนต่างรู้กันมานานหลายปีแล้ว ทหารที่มาส่งจดหมายและรับจดหมายเห็นหนิงชิงอยู่เสียที เขาส่งจดหมายที่แม่ทัพใหญ่เขียนมาให้นางก่อนที่จะรับจดหมายจากนางเพื่อนำไปส่งให้กับแม่ทัพใหญ่ที่เ

  • หนิงชิง   ตอน 88

    หลังจากหนิงชิงจากไปแล้ว ก้านลู่ก็ช่วยกันดูแลหน้าร้านเพราะคุณหนูใหญ่สั่งว่าสิ่งของพวกนี้เป็นตัวอย่าง หากลูกค้าอยากได้ก็ให้สั่งเอาไว้ก่อนพร้อมกับวางมัดจำแล้วค่อยสั่งให้คนงานสร้างออกมา นี่เป็นเทคนิคที่จะไม่ทำให้ทุนจมของหนิงชิง นางสร้างสิ่งของเยอะก็จริง แต่ก็ไม่ได้สร้างออกมาจำนวนมากนอกจากจะมีคนมาสั่งซื้อ ที่เมืองสือมีคนซื้อมากก็เพราะนางทำเช่นนี้เช่นเดียวกัน เรื่องประโยชน์ใช้สอยสิ่งของต่าง ๆ เจิ้งหงกับเจิ้งหย่งก็อธิบายให้หูอ้าย หูกวนและก้านลู่ฟังแล้วก่อนที่จะนำออกมาหน้าร้าน พวกเขาจึงไม่กังวลว่าทั้งสามคนจะดูแลหน้าร้านไม่ได้ หากสงสัยสิ่งใดก็สามารถเข้าไปสอบถามพวกเขาให้มาสาธิตวิธีการใช้งานให้ได้เช่นกัน อย่างไรคุณหนูก็ฝากสาขานี้เอาไว้กับพวกเขา อย่างไรพวกเขาต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุดอยู่แล้ว ด้านหนิงชิงกับต้าเจียงกว่าที่จะเดินทางถึงเมืองกังก็ใช้เวลาเก้าวันเช่นเคย พวกนางมาถึงเมืองกังก็เป็นช่วงบ่ายแล้วเช่นเดียวกับตอนไปที่เมืองหูกุ้ย นับว่าการเดินทางค

  • หนิงชิง   ตอน 87

    หลังจากกินอาหารและทาสใหม่เปลี่ยนชุดกันหมดแล้ว หนิงชิงก็เรียกพวกเขามาคุยกัน“ตอนนี้พวกเจ้าเป็นคนของข้าแล้ว ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะซื่อสัตย์และตั้งใจทำงาน หากใครทำงานดีก็จะได้เงินดีด้วยเช่นกัน ถึงแม้พวกเจ้าจะเป็นทาส แต่บ่าวทุกคนที่อยู่กับข้าก็ได้รับเงินเดือนไม่น้อยเลยสักคนเดียว หากไม่เชื่อพวกเจ้าค่อยลองสอบถามกับเจิ้งหงหรือเจิ้งหย่งก็ได้ ที่สาขานี้จะมีทั้งสองคนคอยดูแลงานแทนข้า ส่วนพ่อบ้านใหญ่อย่างต้าเจียงจะมาตรวจสอบบัญชีทุก ๆ หนึ่งเดือนและจ่ายค่าจ้างให้พวกเจ้า พวกเจ้าเข้าใจหรือไม่”“พวกเราเข้าใจขอรับ” คนทั้งแปดตอบเสียงดังฟังชัด พวกเขาไม่คิดว่าจะโชคดีได้รับใช้ครอบครัวที่ดีเช่นนี้ ตั้งแต่เป็นทาสมาพวกเขาไม่เคยได้เงินเดือนเลยแม้สักครั้งเดียวในชีวิต ตอนนี้พวกเขามีนายที่ดี มีหรือที่จะคิดเป็นอื่น“พวกเจ้าเข้าใจก็ดีแล้ว ทั้งห้าคนที่ทำงานไม้ต้องเรียนรู้และทำงานกับเจิ้งหย่

  • หนิงชิง   ตอน 86

    หลังอาหารเย็นไม่นานนัก ต้าเจียงก็กลับมาถึงร้านค้าพร้อมโฉนดที่ดิน นับว่าเจ้าหน้าที่ทำงานได้รวดเร็วจริง ๆ หนิงชิงให้ต้าเจียงกินข้าวเสียก่อนแล้วค่อยคุยกัน เขาจึงนั่งลงกินข้าวที่เจิ้งหงกับเจิ้งหย่งเหลือเอาไว้ให้ไม่น้อย หนิงชิงคุยกับเจิ้งหงและเจิ้งหย่งเรื่องที่นางจะให้พวกเขาประจำการที่สาขานี้ นางไม่รู้ว่าพวกเขาจะเต็มใจหรือไม่“ได้ขอรับคุณหนู พวกเราจะอยู่ดูแลคนงานที่สาขานี้ให้ขอรับ อย่างไรร้านที่เมืองกังก็มีงานไม่มากนัก พวกเราน่าจะช่วยทางนี้ได้มากกว่าขอรับ”“ขอบใจพวกเจ้ามากนะที่ช่วยกันทำงานและศึกษางานใหม่ ๆ กันมาตลอด ที่นี่ห่างไกลจากเมืองกังไม่น้อย หากต้าเจียงต้องมาตรวจงานก็คงต้องพึ่งพวกเจ้าให้ควบคุมคนงานใหม่ที่ข้าจะซื้อมาให้พวกเจ้าเสียก่อนล่ะนะ”“คุณหนูใหญ่ไม่ต้องกังวลขอรับ พวกเราจะทำงานและดูแลร้านนี้ให้ดีอย่างแน่นอนขอรับ” หนิงชิงค่อยพรูลมหาย

  • หนิงชิง   ตอน 85

    บ่าวทั้งสามฟังที่หนิงชิงพูดแล้วก็ได้แต่นึกขอบคุณนางที่ทำทุกสิ่งเพื่อพวกเขา พวกเขายิ่งเคารพนางมากยิ่งขึ้น หากคุณหนูใหญ่ให้ทำสิ่งใด แน่นอนว่าพวกเขาจะไม่ขัดคำสั่ง กว่าที่หนิงชิงกับพวกจะเดินทางถึงมณฑลหูกุ้ยก็เป็นช่วงบ่ายของวันที่เก้าในการเดินทางแล้ว เนื่องจากระยะทางไกลไม่น้อย รวมทั้งพวกเขาไม่รู้ทางไปที่เมืองหูกุ้ยจึงได้สอบถามคนมาตลอดทางกระทั่งมาถึงได้เสียที ต้าเจียงขับรถม้าพาทุกคนเข้าไปในเมืองอย่างช้า ๆ หนิงชิงสั่งให้ต้าเจียงไปที่ที่ว่าการมณฑลเลยเพื่อหาร้านทันที คืนนี้พวกนางจะได้หาที่พักก่อนหากยังซื้อขายไม่ได้ ต้าเจียงสอบถามคนไปจนถึงที่ว่าการ เขาลงจากรถม้าเพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ซื้อขายร้านค้าภายในเมือง ไม่นานนักเจ้าหน้าที่ก็ออกมาคุยกับเขา“คารวะท่านเจ้าหน้าที่ขอรับ ข้าเป็นพ่อบ้านตระกูลหนิง มาติดต่อขอซื้อร้านว่างที่เมืองนี

  • หนิงชิง   ตอน 84

    เมื่อตกลงเรื่องการเดินทางกับพ่อแม่ได้แล้ว หนิงชิงก็ขอบคุณพี่ชายเสี่ยวเจียงที่มาเป็นธุระให้นางอีกครั้ง พวกเขาแยกกันหลังจากทานอาหารเสร็จต่างคนต่างไปพักผ่อน ส่วนหนิงชิงยังต้องจัดเตรียมของสำหรับการเดินทางไกลในครั้งนี้ นางจะต้องเอาเงินไปเพิ่มสักสองหมื่นตำลึง เพราะไปเมืองสือครั้งนี้นางหมดเงินไปหลายพันตำลึง จึงต้องหาเงินไปเผื่อเอาไว้สำหรับการจัดตั้งร้านสาขาใหม่ของนาง หนิงชิงนึกถึงพวกพี่ชายเจิ้ง นางจะให้พี่ชายเจิ้งหงกับพี่ชายเจิ้งหย่งไปด้วยในคราวเดียว รอพรุ่งนี้ออกเดินทางสายหน่อยก็คงไม่เป็นไร อย่างไรนางก็ต้องกินข้าวเช้าก่อนอยู่ดี รุ่งเช้าวันต่อมาหนิงชิงมองหนิงกุ้ยกับชายร่างใหญ่ที่ช่วยกันทำอาหารอย่างแปลกใจ เอาไว้นางกลับมาค่อยสอบถามน้องสาวก็ยังไม่สาย หนิงชิงสั่งต้าเจียงให้พาเจิ้งหงกับเจิ้งหย่งไปด้วยเลย ให้พวกเขาเก็บเสื้อผ้าหลังอาหารเช้าให้เรียบร้อยเพื่อไปประจำที่สาขาใหม่เหมือนตอนที่พวกเขาไปสอนคนที่เมืองสือ ต้าเจียงรับคำสั่งคุณหนูใหญ่

  • หนิงชิง   ตอน 83

    รุ่งเช้าหลังอาหารวันต่อมา หนิงชิง หนิงกวานและเสี่ยวชุ่ยไปส่งหนิงหยางที่โรงเรียนใหม่ของเขา พวกนางซื้อเสื้อผ้าเพิ่มให้กับหนิงหยางอีกนับสิบตัวตั้งแต่เมื่อวานนี้ เพราะหนึ่งปีนี้เขาจะได้ตั้งใจทบทวนตำรา ไม่ต้องห่วงเรื่องเสื้อผ้าหรืออาหารการกินใด ๆ หนิงชิงยังให้เงินเขาเอาไว้อีกห้าร้อยตำลึงนอกจากเงินสามสิบตำลึงที่เขาจะจ่ายให้กับโรงเรียน นางเห็นว่าน้องชายโตแล้วสามารถพิจารณาได้เองว่าสิ่งใดจำเป็นต้องซื้อ หากเป็นครอบครัวทั่วไปเงินห้าร้อยตำลึงสามารถอยู่ได้ไปจนตลอดชีวิต แต่หนิงชิงนึกถึงราคาหนังสือของหนิงหยางที่เจียงเฉิงเคยพานางไปซื้อ นางจึงให้เงินเผื่อเอาไว้กับน้องชายและสั่งว่าถ้าเงินหมดให้ไปรับที่ร้านแล้วส่งจดหมายมาบอกนาง นางจะชดเชยเงินให้ทางร้านเอง หนิงหยางรับฟังพี่สาวเขา เขาไม่เคยจากครอบครัวไปไหนจึงได้แต่น้ำตารื้น ถึงจะบอกว่าเขาโตแล้วก็เถอะ แต่เขาเป็นน้องชายคนเล็กของบ้านอยู่ดี เขาจึงรู้สึกโหวงเหวงไม่น้อยที่จะต้องจากกับครอบครัว หนิงชิง

DMCA.com Protection Status