Share

ตอน 3

Author: 橙花
last update Last Updated: 2024-12-09 08:25:01

       ฮ่องเต้หลังจากอ่านจดหมายฮองเฮาแล้วก็มานั่งคิดเรื่องที่พระสนมร้องขอ  เขาเองก็ใช่ว่าจะไว้ใจนางมากนัก  เขาจึงให้องครักษ์คนสนิทพาคนไปปล้นจวนตระกูลหนิงเสีย  โดยพยายามอย่าฆ่าใครให้้มากเกินไปนัก  ไม่เช่นนั้นเขาคงชดใช้ให้ตระกูลหนิงไม่ได้แน่

       ตระกูลหนิงไม่รู้เลยว่าจะมีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้น  พวกเขาเป็นเพียงช่างหลวงจึงไม่มีคนคุ้มกันอันใดในจวน  ทำให้องครักษ์ที่เข้าไปขโมยแบบแปลนจำต้องฆ่าคนที่เห็นเหตุการณ์  ไม่เช่นนั้นฝ่าบาทคงต้องถูกสงสัยเป็นแน่  ด้านหนิงซวนหยวนผู้นำตระกูลได้แต่บอกให้คนสนิทไปแจ้งข่าวเจ้าหน้าที่ว่าพวกเขาถูกโจรปล้นฆ่าที่จวนตอนนี้

       ไม่ถึงสองเค่อทหารก็มาปราบปรามโจรเหล่านี้แต่ไม่สามารถจับตัวการได้สักคนเดียว  ด้วยว่าฝีมือพวกเขาเป็นรองพวกโจรมากโข  พวกเขายังสงสัยว่าร้อยวันพันปีไม่เคยมีการปล้นแบบนี้มาก่อน จู่ ๆ ก็มาเกิดเหตุกับตระกูลหนิงซึ่งฝ่าบาทไว้วางใจได้อย่างไรกัน

       หนิงซวนหยวนได้แต่ตรวจสอบความเสียหายแล้วก็พบว่าลูกชายและลูกสะใภ้ทั้งสองของเขาถูกฆ่าเสียแล้ว  ตอนนี้เขาเหลือเพียงหลานชายสองคนเท่านั้นที่เป็นลูกของลูกชายทั้งสองคน  น่าเสียดายที่ตอนนี้คนในจวนเขาเหลือเพียงแค่เขากับภรรยาและหลาน ๆ เท่านั้น  หนิงซวนหยวนขอลาฮ่องเต้เพื่อจัดงานศพให้ลูก ๆ อย่างเศร้าสร้อย  เขายังขอลาออกจากราชการเพื่อกลับบ้านเกิดที่เมืองชายแดนตะวันออกที่อยู่ติดทะเล

       เรื่องนี้ฮ่องเต้ยังไม่อนุมัติให้เขาลาออก  ด้วยฮ่องเต้อุตส่าห์สั่งแล้วว่าอย่าฆ่าคนมากเกินไป  แต่องครักษ์ของเขากลับฆ่าช่างหลวงของเขาไปถึงสองคน  แถมคนที่เก่งที่สุดอย่างหนิงซวนหยวนยังจะขอลาออกอีก  เขาได้แต่โกรธพระสนมที่มาขอร้องเรื่องแปลนกับเขา  ทั้งที่จริงแล้วแปลนนี้อย่างไรหนิงซวนหยวนก็จะนำมามอบให้เขาอยู่แล้ว เพราะเขาเคยบอกเอาไว้ว่ากำลังเขียนอยู่และจะนำมาถวายเขาก่อนเข้าสู่กระบวนการสร้างจริง

       ฮ่องเต้ที่คาดการณ์ผิดพลาดไปแล้วได้แต่แสดงความเสียใจกับหนิงซวนหยวนแต่ยังไม่พูดถึงเรื่องให้เขาลาออกได้  กว่าที่งานศพจะเสร็จสิ้นฮ่องเต้เพียงส่งคนมาแสดงความเสียใจและให้สมบัติเป็นการขออภัยไม่น้อยกับครอบครัวหนิง  ซึ่งหนิงซวนหยวนไม่ได้สนใจสมบัติพวกนี้แม้แต่น้อย เขาดูเหมือนจะชราลงไปเป็นสิบปีหลังเกิดเรื่องคนผมขาวต้องส่งคนผมดำเช่นนี้  ตอนนี้เขาอยากใช้ชีวิตเป็นคนธรรมดาเพื่อให้หลาน ๆ อยู่รอดปลอดภัยเท่านั้น

       ส่วนแปลนของตระกูลหนิงที่ฮ่องเต้รับปากจะให้กับพระสนม เขาก็ให้คนคัดลอกไปอย่างไม่สมบูรณ์และนำไปให้นางเสีย  ส่วนฮ่องเต้ได้แต่ไปปรึกษาเรื่องราวกับฮองเฮาแทนว่าองครักษ์ของเขาทำเกินไปจริง ๆ ฮองเฮาเห็นใจตระกูลหนิงที่ต้องเสียเสาหลักไปทีเดียวถึงสองคน  นางจึงขอร้องฮ่องเต้ให้อนุญาตให้หนิงซวนหยวนลาออกจากราชการเสีย อย่างไรตอนนี้เขาคงไม่มีอารมณ์พอที่จะช่วยงานราชสำนักนอกจากอยากเลี้ยงดูหลาน ๆ ให้เติบใหญ่เท่านั้นเอง

       ฮ่องเต้คิดตามที่ฮองเฮาบอกก็เห็นเป็นเช่นนั้นจริง  แต่เขายังคงประวิงเวลาเอาไว้อยู่เพื่อลองใจหนิงซวนหยวนว่าเขาต้องการออกจากราชการจริงหรือไม่

       หลังจากฝังศพคนในครอบครัวทั้งหมดแล้ว หนิงซวนหยวนก็เขียนฎีกาขอลาออกเพื่อออกเดินทางไปยังบ้านเกิดในตอนที่เขายังคงมีเรี่ยวแรงเหลือพอจะเดินทางได้อยู่  ไม่เช่นนั้นหากปล่อยเวลาไปอีกหลายปีเขาคงไม่สามารถเดินทางไกลได้แน่

       ฮ่องเต้เห็นว่าหนิงซวนหยวนไม่เปลี่ยนใจจริง ๆ เขาจึงอนุญาตให้ลาออกได้ตามที่หนิงซวนหยวนต้องการ  อีกทั้งฮ่องเต้ยังมอบทรัพย์สินอีกไม่น้อยให้กับหนิงซวนหยวนใช้ในบั้นปลายชีวิต

       หนิงซวนหยวนขอบพระทัยฮ่องเต้ที่ยังเห็นแก่คุณงามความดีจึงได้มอบทรัพย์สินให้พวกเขาเพิ่มเติมอีก  ความจริงแล้วพวกเขามีเงินอยู่ไม่น้อยที่สะสมมาตั้งแต่บรรพบุรุษ เพียงแต่ไม่ได้บอกใครให้รู้  ไหนจะร้านรวงต่าง ๆ ที่สะใภ้ทั้งสองของเขาเป็นคนดูแลอีก ตอนนี้เขาได้แต่ให้พ่อบ้านไปแจ้งเรื่องต่าง ๆ กับญาติของสะใภ้ทั้งสองแล้ว  ส่วนพวกเขาจะทำสิ่งใดกับร้านรวงเหล่านี้เขาก็จะไม่ยุ่งเกี่ยว  อย่างไรนี่ก็เป็นสินเดิมที่สะใภ้เขานำมาด้วย

       ครอบครัวสะใภ้ของเขามาหาหนิงซวนหยวนในวันต่อมาหลังจากร่วมกันจัดการงานศพแล้ว  พวกเขาบอกให้เหลือทรัพย์สินเดิมให้กับหลาน ๆ ทั้งสอง  ส่วนเรื่องการดูแลร้านพวกท่านจะช่วยดูแลเองก่อนที่ทั้งสองคนจะถึงวัยที่จะรับผิดชอบร้านของตนเองได้  เพราะพวกเขารู้ข่าวแล้วว่าหนิงซวนหยวนจะพาหลาน ๆ ไปเลี้ยงที่เมืองชายแดนแทนการอยู่กับความเจ็บปวดที่เมืองหลวง

       หลังการตกลงเรื่องทรัพย์สินต่าง ๆ แล้ว  พวกเขายังมอบหยกพกให้หลานแต่ละคนเพื่อให้มารับทรัพย์สินในตอนที่หนิงจิ้งกับหนิงเจิ้งโตแล้ว เรื่องนี้หนิงซวนหยวนไม่คัดค้าน  เขายังขอโทษที่ดูแลลูกสะใภ้ไม่ดีจนเกิดเรื่องเหล่านี้ขึ้น  ซึ่งครอบครัวของพวกนางก็ไม่ได้โทษว่าหนิงซวนหยวน พวกเขาเพียงโทษโจรร้ายพวกนั้นมากกว่า  เพียงแค่แบบแปลนอันเดียวก็ถึงกับฆ่าคนเป็นผักปลาเช่นนี้  ไหนจะหนิงซวนหยวนขอลงโทษตนเองที่รักษาแปลนไว้ไม่ได้ด้วยการลาออกจากราชการอีก  ครอบครัวพวกเขาที่มีเพียงขุนนางตัวเล็ก ๆ ไม่สามารถเกลี้ยกล่อมให้เขาอยู่ต่อได้

       หนิงจิ้งที่โตกว่าหนิงเจิ้งรู้เรื่องทุกอย่างเป็นอย่างดี  เขาได้ยินพ่อพูดก่อนตายว่าคนพวกนี้เป็นองครักษ์เงาของฮ่องเต้  แต่เหตุใดพวกเขาจึงได้ทำเช่นนี้ทั้งที่ครอบครัวเขาสู้อุตส่าห์ทำงานให้กับราชสำนักอย่างดี

       หนิงจิ้งได้แต่คิดในใจว่ารอให้เขาโตขึ้นเสียก่อน  เขาจะกลับมาแก้แค้นที่ฮ่องเต้ฆ่าพ่อแม่ของเขาและลูกพี่ลูกน้อง  เพียงแต่เรื่องนี้เขาจะยังไม่บอกท่านปู่  ด้วยว่าตอนนี้ปู่เขายังคงเสียใจเรื่องการจากไปของพ่อแม่เขาอยู่นั่นเอง  ซึ่งตัวหนิงจิ้งเองก็ไม่รู้ว่าการเดินทางไปยังชายแดนตะวันออกจะราบรื่นดีหรือไม่ด้วย  เนื่องจากตั้งแต่เกิดมาเขาก็ไม่เคยเดินทางออกนอกเมืองหลวงเลยแม้แต่ครั้งเดียว

Related chapters

  • หนิงชิง   ตอน 4

    สามวันต่อมาหลังจากขนของใช้จำเป็นต่าง ๆ เต็มเกวียนและรถม้าแล้ว หนิงซวนหยวนก็พาครอบครัวที่เหลืออยู่เดินทางไปที่ชายแดนตะวันออก เขาให้พ่อบ้านช่วยดูแลจวนเอาไว้ให้เผื่อวันใดวันหนึ่งหลานชายของเขาอยากกลับไปเยี่ยมหลุมฝังศพพ่อแม่ของพวกเขาในอนาคต ขบวนของหนิงซวนหยวนมีเกวียนสี่เล่มพร้อมรถม้าอีกสองคัน เขายังจ้างผู้คุ้มกันไปส่งยังเมืองชายแดนตะวันออกด้วยกลัวว่าจะมีคนมาปล้นทรัพย์สินของเขาระหว่างทางอีก เรื่องนี้ฮ่องเต้ที่ทำให้ครอบครัวหนิงต้องล่มสลายไปยังส่งองครักษ์เงาติดตามช่วยเหลือพวกเขาและดูความเป็นอยู่ของพวกเขาที่เมืองชายแดนก่อนจะกลับมารายงานให้ฝ่าบาททราบ อย่างไรเขาก็เป็นคนทำเรื่องนี้ขึ้นมา เขาจึงไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ การเดินทางไกลครั้งนี้หนิงเจิ้งไม่งอแงเลยแม้แต่น้อย ทำให้หนิงซวนหยวนกับภรรยาเบาใจไปไม่น้อย ส่วนหนิงจิ้งเองก็เงียบขรึมลงไปมากตั้งแต่เกิดเรื่อง เขารู้ดีว่าหนิงจิ้งยังคงมีความคิดแค้นพวกโจรอยู่จึงไม่อยากว่าอันใดหลานชายนัก สาเหตุที่เขาพาทุกคนย้ายไปยังชายแดนเป็นเพราะเบื่อหน่ายการแข่งขันกันในราชสำนัก ตอนนี้ลูก ๆ เขาก็ไม่เหลือแล้ว เขาจึงอยากให้หลาน ๆ อยู่อย่างสงบ

    Last Updated : 2024-12-09
  • หนิงชิง   ตอน 5

    หลังมาถึงหมู่บ้านหนิงไค่แล้ว หนิงซวนหยวนแวะที่บ้านผู้ใหญ่บ้านก่อน เขายังไม่รู้ว่าบ้านเดิมของเขายังว่างอยู่หรือไม่“สวัสดีท่านผู้ใหญ่บ้าน ข้าหนิงซวนหยวนที่ส่งจดหมายมาหาท่านก่อนหน้านี้ ไม่ทราบท่านได้ตรวจดูบ้านเก่าให้ข้าหรือยัง” ผู้ใหญ่บ้านมองคนตรงหน้าที่แต่งตัวดีเหมือนขุนนางในเมือง เขาได้แต่ตกใจจนไม่คิดว่าจะมีคนเช่นนี้เข้ามาอยู่ในหมู่บ้านตระกูลหนิง แต่เขาก็ต้องทำหน้าที่ของตนเองให้ดี“บ้านเดิมของท่านผุพังไปหมดแล้วขอรับ ไม่ทราบว่าท่านจะจัดการสร้างใหม่หรือทำอย่างไร ส่วนที่ดินของท่านที่ขอซื้อเพิ่มรอบ ๆ บ้านนั้นข้าจัดการให้ท่านเรียบร้อยแล้วขอรับ” ผู้ใหญ่บ้านมอบตั๋วเงินที่เหลือให้กับหนิงซวนหยวนอย่างซื่อสัตย์ เขาไม่กล้าที่จะยักยอกเงินขุนนางใหญ่เช่นนี้หรอก“เจ้ามีใครพอจะแนะนำให้ข้าได้บ้างเรื่องสร้างเรือน ข้าจะได้จ้างช่างมาทำเสียให้เสร็จสิ้น” ผู้ใหญ่บ้านแนะนำช่างที่เป็นเพื่อนบ้านในหมู่บ้านรวมทั้งคนในหมู่บ้านที่ว่างจากการทำนาแล้วมาช่วยสร้างบ้านให้หนิงซวนหยวน ส่วนครอบครัวพวกเขาจะเช่าบ้านในหมู่บ้านอยู่ไปก่อนเพื่อรอให้บ้านเสร็จเรียบร้อย ส่วนผู้คุ้มกันที่มาด้วยเขาก

    Last Updated : 2024-12-09
  • หนิงชิง   ตอน 6

    เด็ก ๆ พากันขึ้นเขาเกือบสิบคน พวกเขาช่วยกันถือกับดักหลายอันที่หนิงจิ้งทดลองทำแล้วนำไปวางเอาไว้ตามจุดต่าง ๆ ที่คิดว่าสัตว์ป่าจะเข้ามาติดกับดัก หลังจากวางแล้วพวกเขาก็ลงจากเขาไปแล้วตอนเย็นค่อยมาดูว่ามีกับดักอันใดล่าเหยื่อได้บ้าง เด็ก ๆ ที่เคยชินกับการหาของป่ายังชวนหนิงจิ้งไปหาผลไม้อร่อย ๆ กินกันก่อนลงเขาด้วย หนิงจิ้งกับหนิงเจิ้งตัวน้อยที่มาด้วยต่างก็แปลกใจไม่น้อยที่เด็ก ๆ ทุกคนยอมเล่นกับพวกเขาเช่นนี้ หนิงจิ้งจึงพาน้องชายเดินตามพวกเขาไปเก็บผลไม้ได้มาไม่น้อย พวกเขานัดกันช่วงบ่ายว่าจะมาดูกับดักกันอีกครั้ง ให้พวกเขามาตามที่เรือนได้เลยหากจะขึ้นเขา เด็ก ๆ รับปากกับหนิงจิ้งว่าจะไปเรียกเขาแน่นอน หลังจากแยกย้ายกันกลับบ้านแล้วหนิงจิ้งกับหนิงเจิ้งก็นำผลไม้อร่อยๆ ไปให้กับท่านปู่ท่านย่า ทั้งสองคนต่างชมเชยหลานชายเสียมากมายเพื่อให้กำลังใจพวกเขา โชคดีที่ทั้งสองคนยอมเล่นกับเด็ก ๆ ในหมู่บ้าน ไม่อย่างนั้นเขาคงจะเป็นห่วงพวกเขามากไปกว่านี้แน่ กระทั่งถึงช่วงบ่ายที่พวกเขานัดกัน หนิงจิ้งกับหนิงเจิ้งก็มารอทุกคนอยู่หน้าประตูเรือนแล้ว พวกเขาพากันขึ้นเขาไปดูกับดักก็พบว่าแต่ละอ

    Last Updated : 2024-12-09
  • หนิงชิง   ตอน 7

    ส่วนหลานชายคนรองของหนิงซวนหยวนที่ชอบสมุนไพรนั้นเขาก็เตรียมหาหญิงชาวบ้านมาเป็นภรรยาให้เท่านั้น เพื่อที่หลานชายจะได้ไม่จากไปไหน ตอนนี้ภรรยาของเขาตายไปก่อนแล้วทำให้เขาเหงาไม่น้อย เขาจึงได้ชดเชยความคิดถึงภรรยาโดยการสั่งสอนหนิงเจิ้งให้เป็นชาวบ้านเหมือนคนอื่น ๆ เพื่อที่เขาจะได้เข้ากับคนอื่น ๆ ได้ในอนาคตหากเขาไม่อยู่แล้วนั่นเอง หนิงเจิ้งยังรู้ด้วยว่าหากมีเรื่องเดือดร้อนอันใด เขาสามารถส่งจดหมายไปหาพี่ใหญ่ได้เช่นกัน พี่ใหญ่ให้ที่ติดต่อเอาไว้ให้กับเขาแล้วเรื่องการส่งจดหมาย เพียงแต่หนิงเจิ้งผู้ชอบใช้ชีวิตเรียบง่ายเหมือนที่ท่านปู่สอนนั้นไม่มีสิ่งใดที่เขาต้องการนอกจากการปลูกสมุนไพรขายเท่านั้น เรื่องนี้ทำให้หนิงซวนหยวนพอใจไม่น้อยที่หลานชายได้ดั่งใจ เขายังกำชับให้หนิงเจิ้งตั้งใจปลูกสมุนไพรเป็นอาชีพจะได้เลี้ยงดูครอบครัวในภายภาคหน้าได้ หนิงเจิ้งที่อายุเพียง 14 ปีก็ตั้งใจที่จะดูแลท่านปู่ตามที่พี่ใหญ่ขอร้องเอาไว้ก่อนจากไป เขายังคงคิดไม่ออกว่าเหตุใดพี่ชายจึงอยากไปเมืองหลวง เพราะตอนเขาจากมาเขายังเด็กนักจึงไม่รู้เรื่องรู้ราวใดเกี่ยวกับครอบครัวเหมือนกับหนิงจิ้ง แต่เขาก็ยังคงรับปากพี่ชายว่าเ

    Last Updated : 2024-12-09
  • หนิงชิง   ตอน 8

    หนึ่งปีต่อมา หลานจิวที่หมั้นหมายกับหนิงเจิ้งก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีที่เรือนของหนิงเจิ้ง เขาทำพิธีโดยมีท่านปู่กับพ่อแม่ของฝ่ายหญิงเป็นพยาน รวมทั้งคนในหมู่บ้านที่มาร่วมสนุกในงานแต่งงานครั้งนี้ พวกเขารู้ดีว่าบ้านหนิงซวนหยวนไม่เคยตระหนี่ของกิน พวกเขาจึงนำเงินเล็กน้อยมาเป็นขวัญถุงให้กับบ่าวสาวตามธรรมเนียม ทั้งที่หนิงซวนหยวนบอกแล้วว่าไม่รับของหรือเงิน แต่ก็ต้องจนใจที่ชาวบ้านบอกว่ามันเป็นธรรมเนียมที่พวกเขาทำสืบทอดกันมา หนิงซวนหยวนจึงได้ให้บ่าวรับเอาไว้ให้หลานชายเขาทีหลัง หลานจิวที่ตอนแรกไม่อยากแต่งงาน แต่พอเห็นว่าบ้านนี้ใหญ่โตเพียงใดนางก็เกิดโลภขึ้นมาจึงได้ทำตัวดีให้ทุกคนเห็นเป็นฉากหน้า นางคิดว่านางจะได้นั่งเป็นฮูหยินที่สุขสบายในเรือนนี้แน่ ๆ โดยที่นางไม่รู้เลยว่าอีกไม่นานท่านปู่ผู้เป็นญาติคนเดียวของสามีจะสิ้นไป หนิงเจิ้งเองก็มีความสุขไม่น้อย ภรรยาของเขาไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อย่างที่เคยคิดเอาไว้ นางดูเป็นคนอ่อนหวานและช่างเอาใจไม่น้อย ทำให้หนิงเจิ้งหลงใหลนางเข้าจริง ๆ หนิงซวนหยวนเห็นว่าทั้งคู่เข้ากันได้ดีก็วางใจ อย่างน้อยหากเขาเป็นอันใดไปก็ยังคงวางใจได้

    Last Updated : 2024-12-09
  • หนิงชิง   ตอน 9

    หลังจากวันที่หลานจิวถูกท่านปู่สามีสั่งสอน นางก็ทำตัวดีขึ้นทันที ด้วยกลัวว่าจะถูกเพ่งเล็งจนต้องหย่ากับสามี ส่วนหนิงเจิ้งนั้นไม่ได้สนใจภรรยา เขากับปู่ช่วยกันเลี้ยงดูเด็ก ๆ อย่างสนุกสนาน ในเมื่อแม่ของพวกเขาใจจืดใจดำนัก ทั้งสองปู่หลานจึงได้ช่วยกันเลี้ยงแทน หนิงซวนหยวนที่ช่วยเลี้ยงจนหลานชายคนโตอายุได้ห้าขวบ เขาก็เริ่มเจ็บป่วยออด ๆ แอด ๆ ตามประสาคนสูงวัย ทำให้หนิงเจิ้งยิ่งห่างเหินกับภรรยา เขาคอยดูแลท่านปู่และส่งจดหมายบอกพี่ชายแล้วว่าหากกลับมาดูใจท่านได้ก็ให้กลับมา ถ้ามาไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เขาจะดูแลท่านปู่จนถึงวาระสุดท้ายเอง ด้านหนิงจิ้งที่ได้รับจดหมายจากน้องชายได้แต่นึกเสียใจ แต่ตอนนี้เขาได้สอบเข้าเป็นขุนนางในราชสำนักแล้ว การจะไปไหนมาไหนย่อมเป็นเรื่องยาก แถมตอนนี้ลูก ๆ ของเขาเองก็อายุมากพอที่จะเข้าเรียนแล้ว เขาจึงไม่อาจจากไปได้ หนิงจิ้งได้แต่ส่งจดหมายตอบกลับน้องชายอย่างเสียใจ คราแรกภรรยาเขาจะเดินทางกลับไปเอง แต่หนิงจิ้งไม่ไว้วางใจให้นางเดินทางคนเดียว เขาจึงไม่ให้นางไปด้วยความเป็นห่วง ฮวงเหมยอี้รู้ดีว่าสามีเป็นห่วง แต่เขาลืมไปหรือเปล่าว่านางเป็นลูกสาว

    Last Updated : 2024-12-09
  • หนิงชิง   ตอน 10

    หนิงเจิ้งที่ยิ่งอยู่กับภรรยานานเข้าก็ยิ่งรู้ว่านางเป็นคนเช่นไร เขาไม่นำพาว่านางจะมีนิสัยอย่างไร เพียงแค่ไม่ทำให้ลูก ๆ ลำบากเขาก็พอใจแล้ว ขนาดว่าหนิงกวานเรียนเก่งกว่าพี่ ๆ นางยังไม่เคยจะคิดชมเชยลูกเลยสักนิด นางกลับเอาอกเอาใจแต่ลูกคนโตกับคนรองของเขา มีแค่เขาเท่านั้นที่คอยส่งเสริมลูกชายคนเล็กให้ขยันเรียนให้มาก และเรียนรู้เรื่องสมุนไพรกับเขาให้ดี เผื่อว่าในอนาคตเขาจะได้มีวิชาติดตัวไว้บ้าง นับวันหลานจิวจะยิ่งแสดงออกถึงนิสัยที่แท้จริงของนางที่ทั้งตระหนี่ถี่เหนียว ไหนจะเอาแต่ด่าทอลูกคนเล็กให้เขาได้ยินบ่อย ๆ จนเขาต้องทะเลาะกับนางมาตลอดเรื่องนี้ หลานจิวเปรียบเทียบตนเองกับครอบครัวพี่ใหญ่ของหนิงเจิ้งมาตลอดว่าเขาไม่เอาไหน ไม่เหมือนพี่ชายที่เป็นขุนนางเลยแม้แต่น้อย เรื่องนี้ยิ่งทำให้หนิงเจิ้งไม่พอใจ เขาชอบที่จะใช้ชีวิตสงบๆ เหตุใดเขาจึงได้มีภรรยาเช่นนี้ ความจริงแล้วเขาอยากหย่ากับนางมานานแล้ว เพียงแต่ลูก ๆ ยังเล็กอยู่เขาจึงจำใจอดทน รอให้ลูก ๆ โตกว่านี้ก่อนแล้วเขาจึงจะหย่านาง อย่างไรนางก็คงไม่ต้องการลูกคนเล็กของเขาแน่ ๆ หากนางคิดว่าสามารถเลี้ยงดูลูกชายสองคนเองได้เขาก็จะไ

    Last Updated : 2024-12-09
  • หนิงชิง   ตอน 11

    หนิงกวานที่ยังไม่รู้เรื่องรู้ราวด้วยอายุเขายังน้อยก็ได้แต่ไม่เข้าใจว่าเหตุใดท่านแม่จึงไม่รักเขาเหมือนพี่ ๆ ความจริงแล้วที่หลานจิวเกลียดหนิงกวานก็เพราะนางไม่สามารถมีลูกได้อีกหลังจากคลอดหนิงกวานนางจึงเกลียดเขาที่ทำให้นางมีลูกได้แค่สามคน ทั้งที่นางอยากได้ลูกสาวสักคนเพื่อจะได้เลี้ยงดูนางให้ดี สิบปีต่อมาหนิงกวานที่โตแล้วรู้ว่าแม่ของเขาเป็นอย่างไรก็หาได้ถือสา อย่างไรเขาก็ยังกตัญญูกับนางเหมือนเดิม ถึงแม้ท่านพ่อจะพยายามไม่ให้เขาเกิดความเกลียดชังแม่ตัวเอง แต่เขาก็มีเพียงความคิดน้อยใจเท่านั้น เมื่อถึงวัยแต่งงาน พี่ชายทั้งสองของเขาไปสู่ขอภรรยาก็ได้รับเงินจากท่านแม่ไปคนละไม่น้อย ส่วนเขาที่มีคนรักอยู่ในอีกหมู่บ้านหนึ่งนั้นกลับไม่ได้รับเงินจากนางแม้แต่อีแปะเดียว แถมนางยังไม่ยอมให้เขารับนางเข้าบ้านอีกต่างหาก จนท่านพ่อต้องเข้ามาจัดการเรื่องราวให้เขาเอง ท่านพ่อให้เงินทองและของหมั้นมากมายกับหนิงกวานจนทำให้หลานจิวยิ่งไม่พอใจที่สามีลำเอียง หนิงเจิ้งให้เหตุผลว่าเป็นเพราะหนิงกวานช่วยเขาทำสวนสมุนไพรมาตลอด การที่เขาจะตอบแทนลูกรักก็ไม่แปลก ทำเอาคนอื่น ๆ ในบ้านไม่กล้าพูดสิ่

    Last Updated : 2024-12-09

Latest chapter

  • หนิงชิง   ตอน 30

    หนึ่งเดือนต่อมา ท่านลุงกับลูกพี่ลูกน้องของนางก็กลับมาถึงเมือง พวกเขาได้รับตำแหน่งกันคนละเมือง ที่ใกล้ที่นี่ที่สุดเป็นพี่ชายเสี่ยวหยวนคือเขาได้ตำแหน่งรองนายอำเภอที่อำเภอติดกันนี้เอง ส่วนคนอื่น ๆ ก็ได้รับหน้าที่ที่อำเภอที่ห่างออกไปอีกไม่น้อย เป็นอย่างที่หนิงชิงคิดเอาไว้ว่าท่านตาท่านยายไม่อยากย้ายที่อยู่ ท่านลุงจึงให้ลูกชายคนโตหมั่นกลับมาเยี่ยมที่บ้านเอา เขาเห็นว่าลูกชายเดินทางง่ายกว่าที่พวกเขาจะเดินทางไปที่เมืองหยางฮุยเอง ส่วนลูกอีกสองคนก็ไม่ต้องลำบากกลับมาบ่อย ๆ พวกเขาบอกว่ารอให้น้องชายหนิงหยางสอบได้เสียก่อนแล้วจะแวะไปเยี่ยมพวกเขาทีหลัง หนิงชิงยังสนใจเมืองกังที่พี่ชายเสี่ยวเจียงได้ย้ายไปอยู่อีกด้วย นางชอบอาหารทะเลจึงอยากไปเยือนเมืองกังดูสักครั้ง หลังพูดคุยกันด้วยความคิดถึงแล้ว ทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำงานตามหน้าที่ตนเอง หนิงชิงกับที่บ้านยังต้องเตรียมของเอาไว้ขายในวันพรุ่งนี้อีก ส่วนท่าน

  • หนิงชิง   ตอน 29

    หนิงชิงเปิดร้านมาได้เดือนกว่าแล้วลูกค้าก็ยิ่งเพิ่มขึ้นทุกวันจนนางต้องทำของออกมามากกว่าปกติเกือบเท่าตัว นางกลัวว่าจะทำมากเกินไปจนของขายไม่หมดและเหลือเยอะเกินไป แต่ท่านแม่ท่านพ่อของนางบอกว่าเหลือเราก็กินกันเองได้ หนิงชิงจึงได้แต่ทำเพิ่มไปตามที่ท่านแม่ท่านพ่อบอก วันต่อ ๆ มาลูกค้าของนางกลับเพิ่มมากขึ้นอีกทำให้ไม่มีอาหารเหลือเลยแม้แต่วันเดียว หนิงชิงดีใจมากที่ชาวบ้านเลือกมากินที่ร้านนางแทนที่จะทำอาหารกินกันเอง เพราะรสชาติที่อร่อยและให้เยอะของร้านนางในราคาย่อมเยา บรรดาคนในเมืองจึงไม่อยากทำอาหารเช้ากินเอง ยังมีบางคนเอาปิ่นโตมาใส่กลับไปด้วยเสียด้วยซ้ำไป พวกเขาบอกว่าไม่อยากทำอาหารให้เปลืองมากกว่ามาซื้อกินที่นี่ ยิ่งขายนานไปร้านของหนิงชิงยิ่งขายดีมากขึ้นทำให้นางมีเงินเก็บจากร้านอาหารไม่น้อยเลยทีเดียว ส่วนสวนสมุนไพรก็มีหนิงกุ้ยที่คอยดูแลไปตามประสา นางชอบของนางทุกคนในบ้านก็ไม่ได้ห้ามปรามอันใด หนิงชิงที่พาพ่อไปตรวจเมื่อต้นเดือนก็ย

  • หนิงชิง   ตอน 28

    หลังกลับมาจากหมู่บ้านคัง ต่างคนต่างยุ่งเรื่องของตนเอง หนิงชิงรู้ว่าท่านลุงจะติดตามลูก ๆ ไปสอบด้วยเพราะเป็นห่วง นางจึงบอกว่าไม่ต้องห่วงเรื่องที่นี่ นางกับน้อง ๆ จะช่วยกันดูแลป้าสะใภ้กับท่านตาท่านยายเอง เสี่ยวเหยาได้ยินหนิงชิงรับปากก็ได้แต่เบาใจ ในครอบครัวนี้หนิงชิงน่าเชื่อถือยิ่งกว่าใคร ไม่ว่าหนิงชิงจะทำสิ่งใดนางจะคิดทุกอย่างอย่างรอบคอบเสมอ เสี่ยวเหยาจึงหายกังวลเสียทีว่าเขาไปต่างเมืองกับลูก ๆ หลายวันที่บ้านจะวุ่นวาย เสี่ยวเหยายังให้เงินภรรยาเอาไว้ทำอาหารให้ท่านพ่อท่านแม่เขากินอีกด้วย ทั้งที่หนิงชิงบอกแล้วว่ามากินกันที่ร้านก็ได้ แต่เสี่ยวเหยาก็ยังเกรงใจนางอยู่ดี เขารู้ดีว่าหลานสาวทำงานหนักแค่ไหน ตอนนี้ลูก ๆ ของเขาสอบผ่านระดับอำเภอแล้ว จึงต้องเดินทางไปที่มณฑลเพื่อสอบต่ออีก ทั้งที่เขาไม่ได้หวังว่าลูก ๆ ทั้งสามจะเก่งกาจเสียขนาดนี้ ลูก ๆ ไม่ทำให้เขาผิดหวังจริง ๆ ตอนนี้เขายังมีเงินอยู่มากไม่น้อย เสี่ยวเหยายังไปบอกเถ้าแก่โรงเตี๊ยมด้วยว่าถ้าต้องการกระต่ายก็ไปที่บ้านเขาได้เลย เพราะเขาจะอ

  • หนิงชิง   ตอน 27

    หลังวันหยุดผ่านไปบ้านของท่านลุงหนิงชิงก็ปรับปรุงเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนหนิงชิงเองก็ไปซื้อของสดมาไว้ทำอาหารเช้าขายในตอนเย็น นางจะขายโจ๊กหมูสับกับซาลาเปาไส้เนื้อเท่านั้น ทั้งครอบครัวช่วยกันเตรียมซาลาเปาเอาไว้นึ่งพรุ่งนี้เช้าก่อนสองร้อยลูก เผื่อว่าจะขายไม่ดี อย่างไรก็เป็นวันแรกที่ร้านเปิด หนิงชิงไม่ได้โลกสวยคิดว่าตนเองจะขายดิบขายดีเหมือนร้านที่เปิดมาก่อนหน้าแน่ ๆ นางคิดเผื่อเอาไว้แล้วว่าถ้าขายไม่ดีพวกนางก็จะได้กินเองแบบไม่เสียดายของที่ทำเอาไว้ เช้าวันต่อมาหลังจากเปิดร้านแล้ว เป็นอย่างที่หนิงชิงนึกเอาไว้ว่าร้านค้าใหม่คนยังไม่ค่อยรู้จัก หนิงชิงให้น้อง ๆ ช่วยกันเรียกลูกค้ามาทดลองชิมก่อนเพื่อที่คนอื่น ๆ จะได้บอกกันปากต่อปากว่าอาหารร้านนางนั้นรสชาติไม่เหมือนใครและใช้วัตถุดิบที่ดีมาทำอาหาร ลูกค้าที่โชคดีได้ทดลองชิมต่างบอกต่อ ๆ กันว่าร้านนี้อร่อยราคาไม่แพงด้วยโจ๊กถ้วยละ 10 อีแปะแต่ได้หมูสับมากมายแ

  • หนิงชิง   ตอน 26

    หลังจากคุยเรื่องปรับปรุงบ้านเสร็จแล้ว นายช่างนัดเริ่มงานพรุ่งนี้เพราะเขาต้องเตรียมอุปกรณ์และคนงานไปช่วยกันทำงาน หนิงชิงกับเสี่ยวเหยาไม่มีปัญหาเรื่องนี้ ทั้งสองลุงหลานจึงกลับเรือนไปหลังวางมัดจำ หนิงชิงยังอาสาไปช่วยลุงของนางไปจับกระต่ายมาไว้ที่บ้านหลังใหม่ด้วย เสี่ยวเหยาเห็นว่าหลายคนน่าจะทำให้เร็วขึ้นเขาจึงไม่คัดค้านอันใดหลานสาวคนเก่ง อีกอย่างตอนนี้ร้านอาหารยังไม่เปิดให้บริการ ทำให้หนิงชิงมีเวลามากมาย สองลุงหลานกลับไปเอาเกวียนแล้วพากันออกเดินทางกลับไปหมู่บ้านคังเพื่อจับกระต่ายมาไว้ที่บ้านใหม่ กว่าที่พวกเขาจะจับกระต่ายจำนวนมากเสร็จก็เที่ยงพอดี โชคดีที่หนิงชิงนำซาลาเปามาด้วย เมื่อเช้าที่บ้านนางทำซาลาเปาเนื้อเอาไว้มากมาย สองคนลุงหลานจึงนั่งกินกันก่อนจะเดินทางกลับเรือนในเมือง เมื่อกลับถึงเรือนแล้วทั้งสองคนจัดกระต่ายเอาไว้ในพื้นที่ซึ่งหนิงชิงเตรียมเอาไว้ให้เป็นอย่างดี กระต่ายทั้งหลา

  • หนิงชิง   ตอน 25

    สองวันต่อมาทั้งสองครอบครัวก็ย้ายบ้านกันเรียบร้อยแล้ว ถึงแม้บ้านของท่านลุงจะยังไม่ได้ปรับปรุง แต่หนิงชิงก็ให้ทุกคนมาพักที่เรือนด้านหลังกันก่อนจะได้ไม่เสียเวลาขนของไปมาบ่อย ๆ อย่างไรท่านลุงก็ยังต้องเตรียมที่สำหรับกระต่ายจำนวนไม่น้อยที่เลี้ยงไว้ที่บ้านซึ่งยังไม่ได้ขนมา ส่วนประตูเชื่อมบ้านสองหลังนั้นท่านลุงของนางก็ทำเสร็จเรียบร้อยแล้วด้วย ทำให้การไปมาหาสู่กันสะดวกยิ่งขึ้น หนิงชิงยังพาน้อง ๆ ไปช่วยท่านลุงปรับปรุงบ้านด้วยอีกต่างหาก ส่วนหนิงชิงปรับพื้นที่เพื่อเตรียมรอกระต่ายที่จะเข้ามาอยู่ที่นี่ในอนาคต เสี่ยวเหยาเห็นหลานสาวปรับพื้นที่รอแล้วเขาจึงขอยืมเกวียนของนางไปเอากระต่ายในวันพรุ่งนี้ หนิงชิงได้แต่จนใจกับความเกรงใจของท่านลุง นางได้แต่บอกว่าท่านลุงใช้ได้ตามสบายเลย อย่างไรบ้านนางตอนนี้ก็ไม่ต้องใช้เกวียนแล้วหลังจากขนของเสร็จ คนอื่น ๆ ฟังที่หนิงชิงพูดก็ได้แต่หัวเราะเสี่ยวเหยาที่ถูกหลานสาวเอ็ดเอา ทุกคนต่างช่วยกันคนละไม้คนละมือและสอบถามหนิงชิงว่าจะทำสิ่งใดขายเป็นอาหารเช้าบ้าง หนิงชิงจึงบอกว่านางจะทำโจ๊กถ้วยละ 10 อีแปะ ส่วนซาลาเปาก็จะเป็นไส้เนื้อเท่านั้น ร้านนางไม่ต้องการขาย

  • หนิงชิง   ตอน 24

    หลังเสร็จธุระที่โรงหมอแล้ว หนิงชิงก็ให้ท่านลุงพาไปที่ร้านของนาง เพื่อที่จะได้รอท่านลุงไปติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อสอบถามเรื่องบ้านของท่านลุงด้วย ส่วนพวกนางจะทำความสะอาดรอก่อนที่จะย้ายมาอยู่ในวันพรุ่งนี้หรือมะรืนนี้ เสี่ยวเหยาจอดเกวียนเอาไว้แล้วเดินไปที่ทำการอำเภอที่อยู่ไม่ไกล เขาไม่อยากขับเกวียนไปขวางทางที่นั่นจึงได้จอดเอาไว้ในบ้านของหลานสาว เมื่อเจ้าหน้าที่เห็นเสี่ยวเหยาก็ได้แต่แปลกใจ เขากำลังจะเอาโฉนดที่ทำเสร็จแล้วไปให้กับหนิงชิงพอดี พอสอบถามกันไปมาปรากฏว่าเสี่ยวเหยาต้องการซื้อบ้านที่ใกล้กับบ้านหลานสาว โชคดีที่ด้านหลังบ้านของหนิงชิงนั้นมีบ้านว่างที่รอขายอยู่พอดี เขาจึงเสนอให้เสี่ยวเหยาในราคา 150 ตำลึง เพราะบ้านไม่ได้มีสภาพดีนัก เขาจึงบอกขายราคานี้ให้ เสี่ยวเหยายินดีที่จะไปดู อย่างไรเขาก็ซ่อมบ้านเองได้ไม่ลำบาก เจ้าหน้าที่เห็นว่าเขาสนใจจริง ๆ จึงบอกให้เสี่ยวเหยารอก่อน เขาขอไปเอาเอกสารกับกุญแจบ้านเหมือนเคย ไม่นานนักพวกเขาก็เดินมาถึงซอยด้านหลังร้านของหนิงชิง นับว่าที่อยู่ไม่ไกลกันเลยจริง ๆ พวกเขาสามารถเจาะประตูเดินไปหากันได้อย่างสบาย ๆ เสี่ยวเหยาดูสภาพบ้านแล้วก

  • หนิงชิง   ตอน 23

    สองลุงหลานต่างพากันดีใจที่ได้เหยื่อใหญ่อีกครั้งก่อนที่หนิงชิงจะย้ายบ้าน ทั้งคู่เอาเกวียนมาใส่สัตว์ป่าลงไปทั้งหมดในคราวเดียว อย่างไรตอนนี้กระต่ายที่เสี่ยวเหยาเลี้ยงไว้ก็มีลูกมากมายให้เขาจับขายได้ตลอดอยู่แล้ว หนิงชิงยังบอกท่านลุงของนางด้วยว่าถ้าอยากซื้อบ้านมาเลี้ยงกระต่ายก็ให้ท่านลุงซื้อบ้านหลังใหญ่หน่อยจะได้มีพื้นที่ให้กระต่ายผ่อนคลายบ้าง เสี่ยวเหยาคิดตามหลานสาวแล้วก็เห็นว่าจริงอย่างที่นางพูด หากเขาไม่ล่าสัตว์เขายังสามารถขายกระต่ายได้อยู่ดี ทำให้เสี่ยวเหยาตัดสินใจที่จะย้ายเข้ามาอยู่ในเมือง เอาไว้พรุ่งนี้เขาค่อยไปหาเจ้าหน้าที่เพื่อสอบถามเรื่องบ้านจะดีกว่า หากได้บ้านใกล้กับร้านของหนิงชิงก็ยิ่งดี วันนี้สองลุงหลานได้เงินค่าสัตว์ป่ามาอีกถึง 400 ตำลึง เนื่องจากน้ำหนักหมูป่าคราวนี้สองร้อยกว่าจิน ไหนจะสัตว์ป่าตัวอื่นในกับดักที่ยังเป็นๆ อยู่ ยิ่งทำให้ได้ราคาดี หนิงชิงต้องการจะแบ่งคนละครึ่งแต่เป็นท่านลุงที่ยอมรับแค่หนึ่งร้อยตำลึงเหมือนเดิมทั้งที่นางบอกแล้วว่ายังมีเงินเหลืออีกมากแต่เขาก็เป็นห่วงน้องสาวจึงยอมรับแค่ร้อยตำลึงเท่านั้น อย่างไรค่าบ้านที่เขาถามกันวันนี้ก็ไ

  • หนิงชิง   ตอน 22

    เมื่อถึงที่ว่าการแล้ว เสี่ยวเหยาก็พาหลานสาวเข้าไปคุยกับเจ้าหน้าที่ทางการที่รับผิดชอบเรื่องการค้าขายบ้าน“ท่านลุงเจ้าหน้าที่เจ้าคะ ไม่ทราบว่ามีบ้านราคาย่อมเยาที่จะขายบ้างหรือเปล่าเจ้าคะ หากเป็นร้านค้าได้ด้วยราคาขั้นต่ำเท่าไหร่หรือเจ้าคะ” เจ้าหน้าที่มองสองคนที่มาสอบถามเขาเห็นทั้งสองคนแต่งตัวไม่เลวจึงคิดว่าทั้งคู่คงเป็นพ่อลูกที่อยากหาที่อยู่ใหม่กระมัง“ถ้าบ้านเปล่าราคาก็ประมาณหนึ่งร้อยถึงสองร้อยตำลึง แต่หากเป็นร้านค้าด้วยก็จะราคาสามร้อยตำลึงพร้อมกับมีบ้านด้านหลังให้พักได้ด้วย เจ้าสนใจแบบใดเล่าแม่หนู ข้าจะได้พาเจ้าไปดู”“เช่นนั้นข้ารบกวนท่านลุงพาข้าไปดูที่ร้านก่อนดีกว่าเจ้าค่ะว่าทำเลพอที่ข้าจะค้าขายได้หรือไม่” เจ้าหน้าที่ขอเวลาไปนำกุญแจกับเอกสารมาก่อนไม่นานนัก ตอนนี้ในมือของหนิงชิงมีเงินถึงห้าร้อยตำลึงจากการขายสัตว์ป่าที่ผ่านมาทั้งอาทิตย์ นางไม่กลัวว่าจะไม่มีเงินจ่ายและปรับปรุงร้านแม้แต่น้อย อีกอย่างท่านลุงยังอาสามาช่วยนางปรับปรุงร้านอีกต่างหาก ในระหว่างที่พ่อของนางยังไม่หายดี เจ้าหน้าที่พาทั้งสองคนไปดูร้านค้าที่อยู่ใกล้ ๆ กับโรงเรียนพอดี ร้านนี้มีคนฝากข

DMCA.com Protection Status