แชร์

บทที่ 2 แสดงอำนาจ 1/2

ผู้เขียน: กะปอมพ่นไฟ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-03 15:53:05

บทที่ 2

แสดงอำนาจ

อวี้เฉินฟู่ไปทำงานด้วยอารมณ์ที่แจ่มใสเบิกบาน ทั้งก่อนที่จะไปเขาได้มอบตั๋วเงินกว่า 1,000 ตำลึงทองให้กับบุตรสาว เพื่อเอาไปซื้อของที่ต้องการนำไปยังอารามเป่าซานด้วย สองแม่ลูกจ้องมองตั๋วเงินตาแทบไม่กะพริบ โดยเฉพาะอวี้ซูเยว่ที่ไม่ต้องการให้อวี้หลันได้รับสิ่งดี ๆ ไป

เมื่ออวี้เฉินฟู่จากไปแล้ว และโจวลี่เฟยได้แยกตัวไปจัดการบัญชีร้านค้าของตระกูล อวี้ซูเยว่พลันตรงเข้ามาดึงตั๋วเงินจากมือของอวี้หลันทันที รั่วซีที่ยืนอยู่ด้านหลังรีบออกมาเผชิญหน้า นางรู้สึกจะทนรับไหวกับนิสัยของคุณหนูรองแล้ว

"คุณหนูรองเจ้าคะ ตั๋วเงินนี้เป็นของคุณหนูใหญ่นะเจ้าคะ"

"แล้วอย่างไร เป็นบ่าวอย่าได้มาเสนอหน้า"

อวี้หลันมองน้องสาวด้วยความขบขัน แค่ตั๋วเงินเพียงเท่านี้ยังต้องมาแย่งชิงราวกับเป็นของมีค่ามากมายเช่นนั้นแหละ

"ช่างเถอะรั่วซี หากน้องรองอยากได้ก็เอาไปเถิด" อวี้หลันหันมายิ้มอ่อนหวาน "เงินของน้องรองมีไม่พอให้จับจ่ายซื้อของ พี่ใหญ่เช่นข้าย่อมต้องยินดีมอบเงินจำนวนเล็กน้อยให้กับน้องรองอยู่แล้วล่ะ"

อวี้ซูเยว่ได้ยินพลันหน้าเปลี่ยนเสีย นังพี่สาวตัวดีกำลังด่าว่านางยากจนเป็นขอทานหรือ ถึงได้ต้องการตั๋วเงินเป็นเพียงแค่นี้ ช่างกล้าดีนักนะ!

"พี่ใหญ่เข้าใจผิดแล้วเจ้าค่ะ ข้ามีเงินมากมายจนนับแทบไม่ไหวเลยล่ะ"

"เช่นนั้นหรือ...แล้วเหตุใดคนที่บอกว่ามีเงินมากมายถึงได้มาแย่งชิงเงินเพียงเท่านี้กันเล่า หรือว่าไม่มีใครสั่งสอนว่าการที่เจ้าทำเช่นนี้ มันเรียกว่าการขโมย ทำตัวราวหญิงที่ไร้การอบรมสั่งสอน ไม่รู้ว่าถ้าท่านพ่อรู้เข้าจะทำสีหน้าอย่างไร ที่บุตรสาวคนรองมาแย่งชิงตั๋วเงินจากบุตรสาวคนโตกันนะ"

อวี้หลันดึงตั๋วเงินกลับมา แล้วอมยิ้มพลางมองน้องสาวที่เวลานี้ใบหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ

"เจ้า!! กล้าดีอย่างไรมาว่าข้า นังคนชั้นต่ำ"

"ข้าหรือคนชั้นต่ำ น้องรอง...เจ้าควรรู้ฐานะของตัวเองนะ ข้าเกิดจากภรรยาเอก ส่วนเจ้าเกิดจากภรรยารอง เพียงแค่นี้ก็รู้แล้วว่าใครกันแน่ที่ฐานะต่ำกว่า!"

อวี้หลันหัวเราะขำ แล้วจึงเดินจากมาทิ้งให้อวี้ซูเยว่กรีดร้องอยู่เบื้องหลังด้วยความโกรธจัด

"กรี๊ดดดด!! กลับมานี่นะ นังแพศยา!"

อวี้ซูเยว่กระทืบขาด้วยความขัดใจ นางโกรธแค้นอวี้หลันเป็นอย่างมาก อยากจะฉีกทึ้งร่างของอวี้หลันให้แหลกเป็นพันชิ้นหมื่นชิ้นเลย คอยดูเถิดว่านางจะจัดการนังคนอวดดีนี้อย่างไร!

เรือนหลันหลัน

หลังจากที่ทั้งสองกลับมาที่เรือนแล้ว อวี้หลันมองตั๋วเงินที่อยู่ในมือด้วยความดีใจ ยกแรกที่ได้ปะทะกับอวี้ซูเยว่นั้นนางชนะ แต่นางจะย่ามใจตอนนี้ก็คงจะเร็วเกินไป เพราะคนที่ร้ายกาจที่สุดคือโจวลี่เฟยต่างหาก อวี้ซูเยว่ก็แค่นางร้ายฝึกหัดเท่านั้น นางไม่สามารถเทียบชั้นกับมารดาของนางได้อยู่แล้ว

"เมื่อครู่นี้คุณหนูใหญ่เก่งมากเลยเจ้าค่ะ บ่าวนี่หัวใจเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาจากอกอยู่แล้ว ครั้งแรกเลยนะเจ้าคะที่ได้เห็นคุณหนูรองร้องกรี๊ดเช่นนี้"

อวี้หลันหัวเราะขำพลางจับมือของรั่วซีเอาไว้แน่น

"นี่เพิ่งแค่เริ่มต้นเท่านั้นนะรั่วซี ต่อไปเราสองคนอาจจะต้องตกที่นั่งลำบากก็ได้ เจ้ายอมที่จะอยู่เคียงข้างข้าเช่นนั้นหรือ"

"พูดอะไรเช่นนั้นเจ้าคะ คุณหนูมีบุญคุณกับบ่าวมากมายนัก ถ้าไม่ได้คุณหนูป่านนี้บ่าวคงกลายเป็นหญิงคณิกาไปแล้ว ไม่ว่าคุณหนูจะเดินไปยังเส้นทางไหน บ่าวจะขอติดตามรับใช้คุณหนูจนตัวตายเจ้าค่ะ"

อวี้หลันถึงกับพูดสิ่งใดไม่ออก คนในยุคนี้ถือเรื่องบุญคุณต้องทดแทน แค้นต้องชำระสินะ ในเมื่อเป็นเช่นนี้นางก็จะถือว่าสองแม่ลูกนั่นมีความแค้นกับนาง และนางย่อมต้องตอบแทนคืนเป็นเท่าทวีคูณเลย!!

"เข้าใจแล้ว ขอบใจเจ้ามากนะรั่วซี ก่อนอื่นเจ้าไปสั่งให้คนเตรียมรถม้าให้ข้าที ข้าอยากจะออกไปซื้อของสักหน่อย"

"เจ้าค่ะ"

รั่วซีส่งยิ้มละมุนแล้วจึงได้ปลีกตัวจากไปทำตามคำสั่งของเจ้านายสาว

ยังไม่ทันที่ทั้งสองจะก้าวขึ้นไปรถม้า สาวใช้คนสนิทของโจวลี่เฟยพลันเข้ามาขวางทางเสียก่อน นางเอ่ยเรียกทั้งสองด้วยน้ำเสียงไม่ดีนัก ทั้งยังไร้ความยำเกรงต่ออวี้หลันผู้เป็นเจ้านายด้วย

"คุณหนูใหญ่ ฮูหยินเรียกเจ้าค่ะ" 

'หลี่อี้' บ่าวรับใช้คนสนิทของโจวลี่เฟยที่ติดตามมาตั้งแต่บ้านเดิม เดินนวยนาดเข้ามาหาทั้งสองคนอย่างถือดี นางเหยียดยิ้มมุมปากแล้วมองอวี้หลันด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย เรื่องที่นางต่อปากต่อคำกับคุณหนูรองอวี้ซูเยว่ยังคงเป็นสิ่งที่นางกังขา เพราะที่ผ่านมาคุณหนูใหญ่มักเจียมตัวเสมอมา ขนาดนางที่เป็นบ่าวคุณหนูใหญ่ยังต้องนอบน้อมกับนางเลย

"แม่รองเรียกข้าเช่นนั้นหรือ"

อวี้หลันเน้นย้ำคำว่ารองเสียงดัง สายตาของนางมองประเมินสตรีสูงวัยตรงหน้าไปด้วย

"เจ้าค่ะ คุณหนูใหญ่รีบไปเถิดเจ้าค่ะ ตอนนี้ฮูหยินอารมณ์ไม่ใคร่จะดีนักด้วยรู้เรื่องที่คุณหนูใหญ่ทำเอาไว้หมดแล้ว"

"เจ้าคือหลี่อี้สินะ"

"เจ้าคะ?"

หลี่อี้ไม่เข้าใจคำถามของอีกฝ่าย

"หลี่อี้ ในฐานะที่เจ้าเป็นบ่าวอาวุโสและเป็นคนสนิทข้างกายของแม่รอง ข้าจะเอ่ยเตือนเจ้าสักครั้งหนึ่ง" อวี้หลันก้าวขึ้นมาเผชิญหน้ากับหลี่อี้ สายตาของนางจับจ้องหลี่อี้ไม่วางตา "ข้าคือคุณหนูใหญ่ที่เกิดจากภรรยาเอก บิดาคือเสนาบดีใหญ่แห่งราชสำนัก เจ้าที่เป็นบ่าวกล้ามาตีตนเสมอข้าหรือ ทั้งไม่เคารพและไม่แม้แต่จะทำความเคารพข้า ไม่รู้ว่าเจ้าใจกล้าหรือว่ามีใครให้ท้ายกันแน่ ช่างอวดดียิ่งนัก! ข้าควรจะทำโทษบ่าวที่มันเหิมเกริมอย่างไรดีนะ"

อวี้หลันปรายตามองหลี่อี้ราวกับมองมดปลวกที่แสนไร้ค่า

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สามีข้าคือองค์ชายจอมเสเพล   บทที่ 2 แสดงอำนาจ 2/2

    "คะ คุณหนูใหญ่"หลี่อี้ผงะถอยหลังด้วยความตื่นตระหนก สายตาที่มุ่งร้ายของคุณหนูใหญ่ทำให้แผ่นหลังของนางเย็นเฉียบด้วยความหวาดกลัว"คุกเข่า!!""จะ เจ้าค่ะ"หลี่อี้ทรุดกายลงตรงหน้าของอวี้หลันทันที เนื้อตัวของนางสั่นเทาด้วยความขลาดกลัวอำนาจของคุณหนูใหญ่นางไม่ควรดูแคลนเลย หากเรื่องที่นางทำกิริยาไม่เหมาะสมล่วงรู้ไปถึงหูของท่านเสนาบดีแล้วละก็...นางคงถูกโบยจนหลังขาดเป็นแน่ มีใครไม่รู้บ้าง ท่านเสนาบดีรักและเอ็นดูคุณหนูใหญ่มากมายนัก ถ้าไม่ใช่เพราะฮูหยินรองและคุณหนูรองคอยกดข่มคุณหนูใหญ่ตั้งแต่ยังเด็กจนไม่กล้ามีปากมีเสียง ป่านนี้อำนาจในจวนคงตกเป็นของคุณหนูใหญ่ไปแล้ว แต่เพราะเหตุใดคุณหนูใหญ่ผู้ถึงได้ลุกขึ้นมาต่อกรกับพวกนางเล่า!เรื่องนี้ยังคงเป็นสิ่งที่ค้างคาใจของหลี่อี้"เห็นแก่แม่รอง ข้าจะให้เจ้าคุกเข่าอยู่ตรงนี้สักหนึ่งชั่วยามก็แล้วกัน ต่อไปอย่าได้มาท้าทายข้าอีกเล่า เพราะครั้งหน้าข้าจะไม่ใจดีแบบนี้อีก""จะ เจ้าค่ะ ขอบคุณคุณหนูใหญ่ที่เมตตาเจ้าค่ะ"หลี่อี้โขกศีรษะขอบคุณเป็นการใหญ่ แต่ใบหน้าของนางกลับซีดเผือดจนกลายเป็นสีขาว แค่คุกเข่าหนึ่งก้านธูปนางก็เกินจะทนไหวแล้ว แต่นี่นางกลับถูกสั่งให้คุกเข่านาน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-03
  • สามีข้าคือองค์ชายจอมเสเพล   บทที่ 3 อารามเป่าซาน 1/2

    บทที่ 3อารามเป่าซานหลังจากนั้นบรรยากาศภายในจวนตระกูลอวี้ก็เปลี่ยนไป บ่าวรับใช้ที่เคยดูหมิ่นอวี้หลันไม่กล้าแม้แต่จะสบตาด้วย เมื่อได้เห็นอวี้หลันเดินผ่านมา พวกนางเป็นต้องก้มหัวจนปลายคางชิดหน้าอก ไม่กล้าแม้แต่จะสบตาด้วย ขนาดบ่าวรับใช้อย่างหลี่อี้ยังถูกลงโทษ จนตอนนี้ขาของนางยังไม่สามารถกลับมาเดินได้ปกติ พวกนางที่เป็นเพียงบ่าวรับใช้ต่ำต้อยจะกล้าอาจหาญไปหาเรื่องคุณหนูใหญ่ได้อย่างไรกันฮูหยินรองและคุณรองเองก็อยู่กันอย่างสงบเงียบกันมาก ทุกทีจะต้องมีคำสั่งจากทั้งสองให้ไปเรียกคุณหนูใหญ่มาพบ และไม่นานพวกนางก็จะเห็นว่าคุณหนูใหญ่กำลังถูกลงโทษอย่างครานั้นที่คุณหนูใหญ่ล้มป่วยอยู่สามวัน นั่นก็เป็นเพราะคุณหนูรองเข้ามาหยิบปิ่นปักผมของคุณหนูใหญ่ไป แต่รั่วซีกลับเอ่ยทักท้วง ทำให้คุณหนูรองโมโหเป็นอย่างมาก เมื่อเรื่องรู้ไปถึงหูฮูหยินรอง นางกลับสั่งลงโทษให้คุณหนูใหญ่คุกเข่าสำนึกผิดหน้าเรือน โทษฐานที่เป็นพี่สาวแล้วไม่เสียสละให้แก่น้องสาว วันนั้นเป็นวันที่แดดแรงราวกับจะแผดเผาทุกสิ่ง แต่เมื่อเวลาผ่านไปจนบ่ายคล้อย ฝนกลับตกลงมาอย่างหนักราวกับฟ้าพิโรธ นั่นจึงทำให้คุณหนูใหญ่ต้องคุกเข่าตากฝนกว่าหนึ่งชั่วยาม กว่าจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-03
  • สามีข้าคือองค์ชายจอมเสเพล   บทที่ 3 อารามเป่าซาน 2/2

    เบื้องหน้าของทุกคนคืออารามขนาดใหญ่ซึ่งก่อสร้างจากไม้เนื้อดีที่ส่องประกายเงางาม แสงแดดที่ตกกระทบลงมายิ่งทำให้อารามเป่าซานส่องประกายเจิดจ้าสว่างไสว โดยรอบของอารามล้อมรอบไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ที่ให้ความร่มรื่นต่อผู้ที่มายังสถานที่แห่งนี้ อวี้หลันเหม่อมองด้วยหัวใจที่รู้สึกสงบ นางสูดลมหายใจเข้าออกช้า ๆ ก่อนจะเดินขึ้นไปยังบันไดสูงชันที่ทอดตัวลงมาเบื้องล่างสองคนนายบ่าวเดินขึ้นไปพร้อมกัน โดยด้านหลังมีบ่าวรับใช้และสารภีช่วยกันยกของขึ้นมาด้านบน กว่าจะเดินมาถึงด้านบนก็รู้สึกได้ถึงลมหายใจที่หอบกระชั้นเพราะความเหนื่อย เมื่อทั้งหมดเดินขึ้นมาถึงตัวอารามเป่าซาน ด้านหน้าก็ได้มีหลวงจีนรูปหนึ่งที่ออกมายืนต้อนรับด้วยใบหน้าที่สงบนิ่ง"คุณหนูใหญ่อวี้ เดินทางมาถึงที่นี่ลำบากหรือไม่"น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามด้วยความโอบอ้อมอารี"คารวะท่านหลวงจีน ข้าน้อยมีนามว่าอวี้หลันเจ้าค่ะ การเดินทางมาที่อารามเป่าซานไม่ลำบากเลยเจ้าค่ะ คงจะเป็นเพราะความตั้งใจจริงของข้ากระมังเจ้าคะ ทำให้ความเหนื่อยหายเป็นปลิดทิ้งเลยเจ้าค่ะ"อวี้หลันเอ่ยตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม นางยอบการคารวะหลวงจีนรูปนี้ด้วยความนอบน้อม แต่ภายในใจกลับนึกสงสัยว่าผู้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-03
  • สามีข้าคือองค์ชายจอมเสเพล   บทที่ 4 ตัวประกอบ 1/2

    บทที่ 4ตัวประกอบรถม้ากลางเก่ากลางใหม่ได้เคลื่อนเข้ามายังหมู่บ้านที่อยู่ไม่ห่างจากอารามเป่าซานมากนัก ตั้งแต่รถม้าที่เคลื่อนเข้ามาก็ได้ตกเป็นเป้าสายตาของทุกคนในหมู่บ้าน เพราะไม่บ่อยมากนักที่ในหมู่บ้านจะมีรถม้าขับเข้ามาเช่นนี้ รถม้ายังคงเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดพัก จนกระทั่งรถม้าได้จอดสนิทหน้าบ้านไม้หลังหนึ่งที่อยู่ท้ายหมู่บ้าน "ท่านพี่ขอรับมีรถม้ามาที่บ้านเราขอรับ"เด็กชายที่อายุน่าจะเท่ากับน้องชายของอวี้หลันเอ่ยเรียกคนในบ้าน ด้วยตอนนี้เขากำลังนั่งถอนผักอยู่ที่แปลงหน้าบ้าน เด็กชายชะเง้อมองรถม้าหน้าบ้านด้วยความสนใจใคร่รู้"ใครมากันอาหวง"น้ำเสียงแว่วหวานที่ฟังเปล่งหูเอ่ยถามมาจากในบ้าน พร้อมกับร่างของสตรีนางหนึ่งที่หน้าตามอมแมมเดินออกมาจากในบ้าน นางมองอวี้หลันที่ก้าวลงมาจากรถม้าด้วยความประหลาดใจ"คุณหนูใหญ่อวี้?" หญิงสาวเอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจ "ไม่ได้พบกันนานเลยนะคุณหนูหลัน""ได้โปรดอย่าเรียกข้าว่าคุณหนูเลยเจ้าค่ะ ตอนนี้ข้าหาใช่ชนชั้นสูงแล้วไม่ เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาเท่านั้น"ในน้ำเสียงของ 'หลันหนิงเหมย' มีความเศร้าซ่อนอยู่ภายใต้ใบหน้าที่เรียบเฉยเย็นชา จากคุณหนูสูงศักดิ์ที่มีพร้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-03
  • สามีข้าคือองค์ชายจอมเสเพล   บทที่ 4 ตัวประกอบ 2/2

    หลันหนิงเหมยออกจากภวังค์ความคิดของตน นางกลับมาสนใจกับเหตุการณ์ตรงหน้า"เจ้าคงไม่รู้ว่าข้าเองก็ถูกโจวลี่เฟยทำร้ายมาเช่นเดียวกัน ซึ่งข้าย่อมไม่คิดจะยอมให้ศัตรูเสวยสุขอยู่บนความทุกข์ของข้าหรอกนะ"หลันหนิงเหมยหันกลับมามองทันที นางเริ่มสนใจในสิ่งที่อวี้หลันต้องการจะเอ่ย"ท่านต้องการสิ่งใดก็พูดมาตรง ๆ เถิด อย่าได้อ้อมค้อมอีกเลย""ข้าจะช่วยให้เจ้าได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างสุขสบายเหมือนเมื่อก่อน น้องชายของเจ้าจะได้เข้าเรียนสำนักศึกษาหลวง และเจ้าจะได้แก้แค้นคนที่ทำกับครอบครัวของเจ้าด้วย""แลกกับอะไร?""ชีวิตของเจ้า...เจ้าจะต้องเข้ามาเป็นฮูหยินรองของบิดาข้า เพื่อแลกกับการแก้แค้นเอาคืนโจวลี่เฟย ข้าให้สัญญาว่าคนที่ทำให้ครอบครัวเจ้าต้องพบเจอเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ จะต้องมีจุดจบที่เลวร้ายยิ่งกว่าอย่างแน่นอน ""อะไรนะ!! ท่านบ้าไปแล้วหรือคุณหนูใหญ่อวี้ บิดาของท่านอายุเกือบเท่าบิดาของข้าเลยนะ""แต่บิดาของข้าหนุ่มกว่า และหล่อเหลากว่าบิดาของเจ้านะ บิดาของข้าเพิ่งจะอายุ 40 เอง ยังหนุ่มยังแน่น ทั้งยังมีอำนาจที่เจ้าต้องการ และการที่เจ้าเข้ามาเป็นฮูหยินรองของบิดาข้า โจวลี่เฟยย่อมต้องโกรธแค้นจนแทบกระอักเลือดเป็นแน่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-03
  • สามีข้าคือองค์ชายจอมเสเพล   บทที่ 5 สร้างเรื่อง 1/2

    บทที่ 5สร้างเรื่อง อวี้หลันกลับมาที่จวนตระกูลอวี้พร้อมกับรั่วซี โดยนางได้ให้หลันหนิงเหมยและหลันหนิงหวงพักอยู่ที่อารามเป่าซานก่อน เมื่อถึงเวลาทั้งสองจะได้ย้ายเข้ามาอยู่ที่จวนตระกูลอวี้อย่างแน่นอน ตอนนี้นางจะต้องลับไปพูดคุยกับบิดาเสียก่อน"ท่านพ่อเจ้าคะ ลูกกลับมาแล้วเจ้าค่ะ"อวี้หลันตรงเข้ามาหาอวี้เฉินฟู่ยังห้องหนังสือ ทันทีที่นางกลับมาถึงจวนก็ตรงมาที่นี่ทันที"โอ้ กลับมาแล้วหรือเป็นอย่างไรบ้างเล่า?""ท่านไต้ซือดีกับลูกมากเลยเจ้าค่ะ ท่านไต้ซือยังกล่าวกับลูกอีกนะเจ้าคะ เพราะผลบุญที่ลูกทำในครั้งนี้ ทำให้ท่านแม่สามารถปล่อยวางได้ จนสามารถเดินทางเข้าสู่แดนเซียนได้แล้ว แต่ก่อนไปท่านแม่ได้ทิ้งดวงจิตหนึ่งเสี้ยวไว้ให้คอยดูแลท่านพ่อด้วยเจ้าค่ะ"อวี้เฉินฟู่ที่กำลังนั่งอ่านรายงานรีบลุกขึ้นมาจับแขนของบุตรสาวแน่น แววตาที่ผ่านโลกมามากมองมาด้วยความกังขา"หมายความว่าอย่างไรหลันเอ๋อร์ ท่านไต้ซือว่าอย่างไรนะ?"

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-06
  • สามีข้าคือองค์ชายจอมเสเพล   บทที่ 5 สร้างเรื่อง 2/2

    ท้องพระโรง'ฮ่องเต้เจิ้งชุนฟง' ได้ออกว่าราชกิจช่วงเช้าตามปกติ แต่ครานี้กลับมีเรื่องที่พระองค์คิดไม่ตก และต้องการให้เหล่าขุนนางช่วยแก้ปัญหานี้ด้วย"เจิ้นมีเรื่องหนึ่งที่อยากจะให้พวกเจ้าช่วยเจิ้นคิดเสียหน่อย"พระสุรเสียงทรงอำนาจเอ่ยขึ้นเสียงดัง หลังจากการประชุมเรื่องงานราชกิจช่วงเช้าจบลง เหล่าขุนนางที่ยืนกันเต็มท้องพระโรงต่างยืดแผ่นหลังตรง เพื่อตั้งใจฟังในสิ่งที่ฮ่องเต้กำลังจะตรัส เรื่องใดหนอที่ฮ่องเต้ถึงกลับทรงคิดไม่ตก"ฝ่าบาททรงตรัสมาได้เลยพ่ะย่ะค่ะ พวกกระหม่อมจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้ฝ่าบาทเองพ่ะย่ะค่ะ"เสนาบดีกู้แห่งกรมยุติธรรมเอ่ยขึ้นมาด้วยท่าทางกระตือรือร้น"ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เพียงแต่เจิ้นต้องการหาสตรีที่จะมาเป็นพระชายาองค์ชายสามเท่านั้นเอง"ทั่วท้องพระโรงพลันเงียบเสียงลงทันใด แค่ได้ยินชื่อขององค์ชายสามทุกคนก็อยากจะรีบถอยหนี ไม่มีผู้ใดอยากจะไปข้องเกี่ยวกับองค์ชายสามที่ได้ชื่อว่า 'เป็นจอมเสเพลแห่งเมืองหลวงหรอก'"เอ่อ...องค์ชายสามทรงมีสตรีที่พึงใจอยู่แล้วหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ""ไม่มี แต่องค์

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-06
  • สามีข้าคือองค์ชายจอมเสเพล   บทที่ 6 รนหาเรื่อง 1/2

    บทที่ 6รนหาเรื่อง จวนตระกูลอวี้อวี้เฉินฟู่กลับมาถึงจวนก็เรียกให้โจวลี่เฟยมาพบที่ห้องหนังสือทันที ใบหน้าของเขาอึมครึมด้วยความไม่พอใจในตัวภรรยาและครอบครัวของนาง รองเสนาบดีโจวคิดจะกำจัดบุตรสาวของเขาให้พ้นทางใช่หรือไม่ กลอุบายขลาดเขลาเช่นนี้เขาจะดูไม่ออกเลยหรือ ดูท่าว่าหลังจวนของเขาคงจะไม่ได้เงียบง่าย และสุขสงบอย่างที่ตาของเขาเห็นไม่"ท่านพี่เรียกหาข้าหรือเจ้าคะ"โจวลี่เฟยเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มหวาน นางคิดว่าสามีคงจะคิดถึงนางเป็นแน่ แต่หารู้ไม่ว่าบิดาของนางได้สร้างเรื่องเสียแล้ว "ใช่ ข้าอยากรู้ว่าเจ้าได้พบบิดาของเจ้าหรือไม่ ข้าอยากจะมอบของขวัญให้ท่านพ่อตาเสียหน่อย"อวี้เฉินฟู่ปั้นสีหน้าให้กลับมาสุขุมดังเดิม"ข้าเพิ่งพบท่านพ่อเมื่อสองวันก่อนเจ้าค่ะ ท่านพ่อยังบ่นคิดถึงหลันเอ๋อร์อยู่เลยเจ้าค่ะ และท่านพ่อยังกล่าวว่าหลันเอ๋อร์อายุไม่น้อยแล้ว เราสมควรหาสามีดี ๆ ให้กับนาง เรื่องนี้ข้าเองก็เห็นดีด้วย อยากจะมาปรึกษ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-07

บทล่าสุด

  • สามีข้าคือองค์ชายจอมเสเพล   บทที่ 15 บุรุษผู้นี้คือสามีของข้า 2/2

    "ส่วนเรื่องหอเดือนดับ คราวหลังพาพี่ไปด้วยได้หรือไม่ พี่อยากจะไปศึกษาอะไรเพิ่มเสียหน่อย"น้ำเสียงที่แผ่วเบาอยู่แล้วยิ่งเบาลงไปอีก แต่กระนั้นเจิ้งจื่อห้าวที่นั่งอยู่ไม่ไกลก็คอยเงี่ยหูฟังตลอดว่าทั้งสองคุยอะไรกัน แม้ว่าตรงหน้าเขากำลังพูดคุยกับเจิ้งลู่เหอเกี่ยวกับการสร้างถนนก็ตาม"ศึกษาอะไรหรือเพคะ?""ท่วงท่าการร่วมรักของหญิงคณิกาอย่างไรเล่า"พรวด!!"แค่ก ๆ"เจิ้งจื่อห้าวที่กำลังดื่มน้ำชาพลันสำลักน้ำชาออกมาทันที"เป็นอะไรเจ้าสาม เหตุใดถึงได้สำลักน้ำชาได้เล่า""เสด็จพี่อย่าได้ทรงกังวลเลยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว"ขณะตอบเจิ้งไห่ถัง สายตาของเขาก็ได้สบประสานกับสายตาของอวี้หลันเข้าพอดี นางยกยิ้มมุมปากพลางแสร้งเลียริมฝีปากของตนช้า ๆ โดยที่ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็น เจิ้งจื่อห้าวที่เห็นเช่นนั้น แทบอยากจะอุ้มพระชายาของตนกลับไปลงโทษที่วังเจียวจินเสียเดี๋ยวนี้เลยนางรู้ว่าเขาแอบฟังอยู่สินะ!"เสด็จพี่สามนี่ไม่ไหวเลยนะเจ้าคะ แค่ดื่มน้ำชาก็สำลักขึ้นมาเสียได้ ดีที่ข้าไม่ได้นั่งอยู่ใกล้ ๆ หากน้ำชา

  • สามีข้าคือองค์ชายจอมเสเพล   บทที่ 15 บุรุษผู้นี้คือสามีของข้า 1/2

    บทที่ 15บุรุษผู้นี้คือสามีของข้า ในวันที่สามหลังจากวันแต่งงาน เจิ้งจื่อห้าวได้พาอวี้หลันมายกน้ำชาที่ท้องพระโรง โดยด้านในมีฮองเฮา องค์รัชทายาท องค์ชายสี่ และองค์หญิงห้ามารออยู่ก่อนแล้ว การแต่งงานเข้าราชวงศ์ของอวี้หลันได้รับความสนใจจากเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงทุกคน โดยเฉพาะองค์หญิงห้าซึ่งเป็นพระขนิษฐาร่วมอุดรขององค์ชายสาม"พี่สามมาแล้วเพคะเสด็จพ่อ เอ๋...ทำไมท่าทางการเดินของพี่สะใภ้ถึงได้แปลกพิกลจังเลยล่ะเพคะ"องค์หญิงห้าผู้พระนามว่า 'เจิ้งไป๋ฮวา' หันไปเอ่ยถามเจิ้งชุนฟงด้วยความสงสัย คำถามของนางได้ยินไปทั่วทุกคน พวกเขาทำได้แค่กลั้นเสียงหัวเราะแล้วหันหน้าไปทางอื่นเสีย ส่วนเจิ้งชุนฟงได้แต่นึกขันกับความไร้เดียงสาของพระธิดาองค์โปรดเพราะนางเพิ่งจะอายุแค่ 15 หนาวจึงยังไม่ประสีประสาเรื่องระหว่างชายหญิงนัก เห็นทีพระองค์จะต้องให้หมัวมามาอาวุโสมาสั่งสอนนางในเรื่องนี้เสียแล้ว"พี่สะใภ้ของเจ้าคงจะเจ็บขา เจ้าอย่าได้ใส่ใจเลยรีบไปนั่งที่เถิด""เพคะ"เจิ้งไป๋ฮวาแย้มยิ้มอย่างอ่อนหวาน รอยยิ้มของนางเกลื่อนไปทั่วใบหน้าอันงดงามห

  • สามีข้าคือองค์ชายจอมเสเพล   บทที่ 14 สำลักความสุข 2/2

    เจิ้งจื่อห้าวตื่นขึ้นมาหลังจากที่เขาหลับไปเพียงหนึ่งชั่วยาม เพราะเสียงดังด้านนอกของหลีกงกงทำให้เขาไม่อาจจะฝืนข่มตาหลับลงได้ ยิ่งมองหญิงสาวในอ้อมแขนที่นอนหลับตาพริ้ม แต่คิ้วเรียวกลับขมวดมุ่นเพราะรำคาญใจ เขาจึงต้องรีบลุกจากเตียงนอนไปจัดการประเดี๋ยวนี้"ข้าจะไปดูหลีกงกงเสียหน่อย เจ้านอนต่อเถิด"ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงมาจุมพิตที่หน้าผากมน แล้วไล้ริมฝีปากลงมาที่จมูกโด่งเล็ก ก่อนจะหยุดที่ริมฝีปากอวบอิ่มอย่างแผ่วเบาราวกับปีกผีเสื้ออวี้หลันอมยิ้มเล็กน้อยแล้วจึงพยักหน้าหงึก ๆ ก่อนจะผล็อยหลับไปอีกครั้ง ราตรีที่ผ่านมาเจิ้งจื่อห้าวสูบพลังชีวิตของนางไปจนหมด แค่จะลืมตาขึ้นมานางยังไม่มีแรงเลย พิธียกน้ำชาของวันนี้คงจะต้องเลื่อนเสียแล้ว ประตูห้องหอถูกผลักออกอย่างเบามือ ตามด้วยร่างกายสูงใหญ่ที่มีผ้าคลุมตัวปกปิดร่างกายเอาไว้อย่างหมิ่นเหม่ ทำให้ปรากฏร่องรอยฝากรักสีเข้มทั่วลำคอหนาลามไปจนถึงหน้าอกแกร่งอย่างชัดเจน เหล่านางกำนัลและรั่วซีพากันก้มหน้าลงต่ำด้วยความเขินอายส่วนหลีกงกงได้แต่มองบนกับการกระทำของผู้เป็นนาย เขาเลี้ยงดูองคืชายสามมาตั้งแต่แบเบาะจะด

  • สามีข้าคือองค์ชายจอมเสเพล   บทที่ 14 สำลักความสุข 1/2

    บทที่ 14สำลักความสุข เจิ้งจื่อห้าวรู้สึกร่างกายของเขามันเบาโหวงราวกับขนนก เพียงแค่การปลดปล่อยแค่ครั้งแรกเขาก็รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก หากว่าได้ปลดปล่อยอีกสักหลาย ๆ ครั้ง ร่างกายของเขาคงจะมีกำลังวังชาเป็นแน่ เลือดลมที่เคยติดขัดเพราะไม่เคยถึงจุดสุดยอดได้ถูกขจัดไปจนสิ้นเพราะอวี้หลันเพียงคนเดียว"ท่านี้หม่อมฉันขอเรียกว่าขย่มมังกรนะเพคะ""อ่า..."เจิ้งจื่อห้าวสบสายตาเข้ากับดวงตากลมโตที่มองมาของอวี้หลันด้วยความระทึกใจ แค่ชื่อท่าก็ทำเอากึ่งกลางกายของเขากลับมาแข็งขืนขึ้นอีกครั้งอวี้หลันจัดท่าทางของตนเอง ในตอนนี้ร่างกายของนางเองก็พร้อมจะลงสนามจริงแล้ว หยาดน้ำหวานสีใสได้เริ่มไหลปริ่มออกมาจากร่องรักของนางราวกับเขื่อนแตก สะโพกกลมกลึงค่อย ๆ บดลงมาที่ท่อนเอ็นอันร้อนผ่าวของเจิ้งจื่อห้าว เพียงแค่ปลายหัวหยักเข้าไปจ่ออยู่หน้าปากถ้ำ ร่างกายของนางพลันสะดุ้งเฮือกด้วยความรู้สึกเจ็บแปลบ"อึก..."สีหน้าของอวี้หลันที่แสดงออก

  • สามีข้าคือองค์ชายจอมเสเพล   บทที่ 13 ค่ำคืนวสันต์อันร้อนแรง 2/2

    "ต้องการหรือเพคะ?"อวี้หลันหยุดชะงักตรงหลุมสะดือของเขา นางเงยใบหน้าขึ้นมาถามเขา พลางชี้นิ้วไปทางแท่งหยกที่กำลังตั้งเด่มาทางใบหน้าของนาง รอยยิ้มหวานปรากฏที่มุมปากเล็กด้วยความเจ้าเล่ห์"อ่า...ใช่""เช่นนั้นก็ตอบคำถามของหม่อมฉันมาก่อนสิเพคะ""คำถามอะไร"อารมณ์ที่กำลังพวยพุ่งพลันหยุดชะงัก เจิ้งจื่อห้าวยันกายขึ้นมามองหน้าคนช่างยั่ว เขาทั้งรู้สึกฉุนและหัวเสียนางจงใจกลั่นแกล้งเขา ให้เขาทรมานเพราะไฟราคานี้!"อนุขององค์ชาย พวกนางเป็นใครเพคะ""แค่สตรีที่ข้าสงสารแล้วรับเลี้ยงไว้""หอเดือนดับใช่ขององค์ชายไหมเพคะ"เจิ้งจื่อห้าวหรี่ตามองพระชายาของตนนิ่ง ความสงสัยและความหวาดระแวงก่อตัวขึ้นมาในใจของชายหนุ่ม"...""ถ้ามันตอบยากไป เช่นนั้นก็ไม่เป็นอะไรหรอกเพคะ"อวี้หลันไม่คิดจะไล่ต้อนเจิ้งจื่อห้าว นางแค่หยัดกายลุกขึ้นยืนแล้วเดินกรีดกรายไปหยิบผ้าคลุมขึ้นมาคลุมกาย แล้วเดินกลับมาล้มตัวลงนอนด้านข้างของเขา ทำราวกับเรื่องเมื่อครู่นี้พวกเขาไม่ได้กำลังจะใช้ค่ำคืนอันร้อนแรงด้วยกัน

  • สามีข้าคือองค์ชายจอมเสเพล   บทที่ 13 ค่ำคืนวสันต์อันร้อนแรง 1/2

    บทที่ 13ค่ำคืนวสันต์อันร้อนแรง "อื้อ...อ่า เจ็บนะเพคะ"อวี้หลันร้องครางเสียงสั่น เมื่อถูกเจิ้งจื่อห้าวดูดดึงที่ยอดอกของนาง ไรฟันของเขามันขบกัดที่ผิวเนื้ออ่อนนุ่ม จนอวี้หลันรู้สึกเจ็บแปลบไปทั่วเนินอกขาวผ่อง ความเสียวกระสันพวยพุ่งเข้ามาไม่ขาดสาย ปลุกเร้าให้นางรู้สึกทรมาน อยากจะให้เขาสัมผัสร่างกายของนางมากกว่านี้เจิ้งจื่อห้าวผละใบหน้าออกมาเล็กน้อย เขายกยิ้มด้วยความพึงพอใจเมื่อได้ยินเสียงร้องครางของอวี้หลัน นั่นหมายความว่าถึงแม้เขาจะไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน แต่เพราะอ่านตำราวสันต์มามาก เมื่อได้ลงสนามจริงเขาก็สามารถทำให้หญิงสาวในอ้อมกอดสุขสมไปกับบทรักของเขาได้"อ๊ะ! หนาวเพคะ"เพราะอวี้หลันแช่ตัวอยู่ในถังอาบน้ำนาน เมื่อเวลาผ่านไปร่างกายของนางก็เริ่มหนาวสั่นขึ้นมา ด้วยร่างกายนี้ไม่สามารถแช่ในน้ำเย็นนานได้ คงสืบผลมาจากเรื่องเมื่อคราวก่อนนั้น ทำให้ตั้งแต่นั้นมาร่างกายของนางจะไวต่ออากาศเย็นมากเป็นพิเศษ"อ่า ไปที่เตียงเถิด"

  • สามีข้าคือองค์ชายจอมเสเพล   บทที่ 12 จุมพิตครั้งแรก 2/2

    อวี้หลันที่แช่น้ำไปทั้งตัวลุกพรวดขึ้นมา เป็นผลให้ผ้าคลุมที่บางอยู่แล้วแทบจะไม่ปกปิดร่างกายของนางเลย เจิ้งจื่อห้าวที่หันมาเห็นเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึงเลือดบุรุษพลันร้อนรุ่มขึ้นมาทันที กึ่งกลางกายที่เพิ่งสงบไปพลันตั้งตระหง่านขึ้นมาอีกครั้ง"จะ เจ้ารีบนั่งลงไปเดี๋ยวนี้เลย"เจิ้งจื่อห้าวเอ่ยสั่งเสียงสั่น เขารีบหันหลังกลับไปมองทางอื่นทันที"องค์ชายสามเพคะ ได้โปรด...ช่วยหม่อมฉันด้วยเถิดเพคะ"น้ำเสียงแว่วหวานเอ่ยขอร้องอย่างน่าสงสาร แต่เจิ้งจื่อห้าวไม่ได้สงสารนางเลยสักนิด เขาสงสารตัวเองมากกว่าที่ต้องมาเจอสถานการณ์เช่นนี้"ไม่ได้ ในข้อตกลงของเราไม่ได้มีเรื่องนี้นะอวี้หลัน เจ้าสงบสติอารมณ์เสียก่อนเถิด""เช่นนั้นก็เพิ่มเข้าไปสิเพคะ"จบประโยคเสียงของน้ำที่กระเพื่อมทำให้เจิ้งจื่อห้าวหันกลับไปมอง เขาได้แต่นึกเสียใจที่ทำเช่นนั้น เพราะความหวังดีของตัวเองแท้ ๆ เชียวร่างกายที่เปียกชุ่มไปด้วยหยดน้ำถาโถมเข้ามายังร่างกายของบุรุษอันแสนอบอุ่น อวี้หลันที่มีสติอันน้อยนิด และเพราะต้องการจะกลั่นแกล้งเจิ้งจื่อห้าวเป

  • สามีข้าคือองค์ชายจอมเสเพล   บทที่ 12 จุมพิตครั้งแรก 1/2

    บทที่ 12จุมพิตครั้งแรก อวี้หลันยืนยิ้มด้วยความเจ้าเล่ห์ คราแรกนางก็คิดว่าเขาคือเสือผู้หญิงแห่งยุคนี้เสียอีก ที่ไหนได้...ก็แค่ชายหนุ่มที่ไม่ประสีประสา แค่เห็นเรือนร่างที่นางตั้งใจให้เห็นวับ ๆ แวม ๆ เขาก็แทบจะทำสิ่งใดไม่ถูกเสียแล้วใบหน้าที่แดงก่ำราวกับจะคั้นออกมาเป็นน้ำได้ และสายตาที่มองมาด้วยความตกตะลึง นั่นยิ่งทำให้อวี้หลันมั่นใจเต็มสิบส่วนองค์ชายสามผู้นี้ไม่เคยหลับนอนกับสตรี!!อะไรที่ทำให้มั่นใจน่ะหรือ เพราะถ้าหากข่าวลือนั้นคือเรื่องจริงว่าเขามีอนุกว่ายี่สิบนาง เมื่อเขาได้เห็นเรือนร่างนี้แล้ว เขาจะต้องเกิดอาการอยากจะถาโถมเข้ามาจู่โจมนางทันที เสือที่เห็นเหยื่ออยู่ตรงหน้าจะยอมปล่อยให้หลุดรอดไปได้อย่างไรเล่าแต่นี่เขากลับยืนมองนิ่งอย่างคนทำอะไรไม่ถูก ทั้งสายตาที่หลบเลี่ยงนั่นด้วย เช่นนี้แล้วอนุที่อยู่ในเรือนหลังของเขาจะต้องเป็นสตรีที่เขาคอยดูแลไม่ผิดแน่ อาจจะให้ที่พำนักและคอยคุ้มครองอย่างลับ ๆ ก็เป็นได้ เหมือนในซีรีส์จีนที่นางเคยดูมาก่อน ค

  • สามีข้าคือองค์ชายจอมเสเพล   บทที่ 11 สัญญาด้วยชีวิต 2/2

    ทันทีที่เจิ้งชุนฟงเห็นบุตรชายอุ้มเจ้าสาวเข้ามา พระองค์ก็สรวลขึ้นด้วยความชอบใจ"ฮ่ะฮ่า เจ้าสามคงจะร้อนใจแย่แล้ว ฮองเฮาคิดเช่นเดียวกับเจิ้นหรือไม่""หม่อมฉันก็คิดเช่นนั้นเพคะฝ่าบาท หากรู้เช่นนี้หม่อมฉันคงจะรีบจัดงานแต่งงานให้กับลูกสามนานแล้วเพคะ"'ฮองเฮาโจวซูหลิ่ง' ทรงผินพระพักตร์มาแย้มสรวลกับฮ่องเต้ พระนางเองก็อยากจะให้เจ้งจื่อห้าวรีบแต่งงานเสียที อวี้หลันผู้นี้ก็ถือว่าพอใช้ได้ แม้ว่าใจจริงพระนางต้องการให้เขาแต่งกับคุณหนูตระกูลรองซุนมากกว่า"เวลานี้ก็ถือว่าเหมาะสมแล้วล่ะ ฮ่ะฮ่า"เจิ้งชุนฟงยังคงสรวลออกมาไม่ขาดสายเมื่อเจ้าบ่าวและเจ้าสาวมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของทั้งสองพระองค์ แม่สื่อผู้เป็นผู้ทำพิธีก็ได้ก้าวขึ้นมาด้านหน้า นางเอ่ยนำทั้งสองให้ทำตามพิธีอย่างเคร่งครัดต่อไป... พิธีช่วงเช้าได้เสร็จสิ้นลงด้วยดี ลำดับถัดไปแม่สื่อก็ได้นำตัวเจ้าสาวให้ไปรอเจ้าบ่าวที่ห้องหอ ส่วนเจ้าบ่าวก็มีหน้าที่ที่ต้องรับแขกต่อไปภายในห้องหอนั้น อวี้หลันที่รู้สึกปวดเมื่อยต้นคอจนแทบจะทนไม่ไหว จึงได้เรียกรั่วซีที่อยู่ในห้อง

DMCA.com Protection Status