แชร์

บทที่ 3 อารามเป่าซาน 2/2

ผู้เขียน: กะปอมพ่นไฟ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-03 15:54:48

เบื้องหน้าของทุกคนคืออารามขนาดใหญ่ซึ่งก่อสร้างจากไม้เนื้อดีที่ส่องประกายเงางาม แสงแดดที่ตกกระทบลงมายิ่งทำให้อารามเป่าซานส่องประกายเจิดจ้าสว่างไสว โดยรอบของอารามล้อมรอบไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ที่ให้ความร่มรื่นต่อผู้ที่มายังสถานที่แห่งนี้ อวี้หลันเหม่อมองด้วยหัวใจที่รู้สึกสงบ นางสูดลมหายใจเข้าออกช้า ๆ ก่อนจะเดินขึ้นไปยังบันไดสูงชันที่ทอดตัวลงมาเบื้องล่าง

สองคนนายบ่าวเดินขึ้นไปพร้อมกัน โดยด้านหลังมีบ่าวรับใช้และสารภีช่วยกันยกของขึ้นมาด้านบน กว่าจะเดินมาถึงด้านบนก็รู้สึกได้ถึงลมหายใจที่หอบกระชั้นเพราะความเหนื่อย เมื่อทั้งหมดเดินขึ้นมาถึงตัวอารามเป่าซาน ด้านหน้าก็ได้มีหลวงจีนรูปหนึ่งที่ออกมายืนต้อนรับด้วยใบหน้าที่สงบนิ่ง

"คุณหนูใหญ่อวี้ เดินทางมาถึงที่นี่ลำบากหรือไม่"

น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามด้วยความโอบอ้อมอารี

"คารวะท่านหลวงจีน ข้าน้อยมีนามว่าอวี้หลันเจ้าค่ะ การเดินทางมาที่อารามเป่าซานไม่ลำบากเลยเจ้าค่ะ คงจะเป็นเพราะความตั้งใจจริงของข้ากระมังเจ้าคะ ทำให้ความเหนื่อยหายเป็นปลิดทิ้งเลยเจ้าค่ะ"

อวี้หลันเอ่ยตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม นางยอบการคารวะหลวงจีนรูปนี้ด้วยความนอบน้อม แต่ภายในใจกลับนึกสงสัยว่าผู้ใดเป็นคนคิดให้สร้างอารามบนภูเขา บันไดก็ทั้งชันทั้งสูงกว่าจะเดินมาถึงที่นี่เล่นเอาแทบตายเลยทีเดียว กล้ามขาของนางคงขึ้นเป็นสองลูกแล้วกระมัง

"คุณหนูใหญ่อวี้กล่าวได้ดี อารามเป่าซานของเรายินดีต้อนรับผู้ที่มาหวังพึ่งความสงบ เชิญคุณหนูใหญ่อวี้ทางด้านในเถิด ท่านไต้ซือได้รออยู่ก่อนแล้ว"

"รบกวนท่านหลวงจีนนำทางด้วยเจ้าค่ะ"

หลวงจีนผู้นั้นคลี่ยิ้มอย่างอ่อนโยน แล้วจึงได้ออกเดินนำอวี้หลันไปอีกทาง ส่วนคนที่เหลือได้มีเด็กรับใช้นำทางไปยังเรือนพักที่อยู่ทางด้านหลังของอารามเป่าซาน

หลวงจีนนำทางมายังห้องสวดมนต์อีกห้องหนึ่ง ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปกลิ่นธูปหอมพลันลอยออกมาปะทะใบหน้าของอวี้หลัน หญิงสาวได้เผลอกลั้นหายใจไปชั่วครู่ ก่อนจะค่อย ๆ ปรับลมหายใจของตนเองช้า ๆ ฉับพลันดวงตาทั้งสองข้างพลันสว่างวาบขึ้นมาทันที!

"ท่านไต้ซือขอรับ คุณหนูใหญ่อวี้หลันมาถึงแล้วขอรับ"

ผู้ทรงศีลที่กำลังนั่งวิปัสสนากรรมฐานได้ลืมตาขึ้นมามองอวี้หลัน พลางคลี่ยิ้มอันแสนอบอุ่นออกมา ดวงตาทั้งสองข้างกำลังมองมาอย่างพิจารณา คุณหนูใหญ่ผู้นี้จะสามารถสร้างผลประโยชน์ให้แก่เขามากใดเพียงใดกันหนอ?

"ขอบใจเจ้ามาก เจ้าออกไปได้แล้วล่ะ"

"ขอรับ"

หลวงจีนก้มศีรษะลงพร้อมกับเดินก้าวถอยหลังจากไป ทิ้งให้อวี้หลันอยู่ภายในห้องสวดมนต์กับท่านไต้ซือเพียงลำพัง

อวี้หลันอยู่คุยกับท่านไต้ซือเกือบหนึ่งชั่วยาม เมื่อนางได้รับในสิ่งที่ต้องการแล้วจึงเดินออกมาอย่างอารมณ์ดี ผิดกับท่านไต้ซือที่รู้สึกราวกับฟ้ากำลังจะถล่มลงมาตรงหน้า เขาทำได้แค่พยักหน้ารับในสิ่งที่หญิงสาวต้องการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คราแรกเขาหวังใช้ประโยชน์จากนาง แต่กลับกลายเป็นเขาเสียเอง...

หรือนี่จะเป็นด่านเคราะห์กรรมที่สวรรค์ส่งคุณหนูใหญ่อวี้หลันมาให้เขากัน?

ท่านไต้ซือได้แต่คิดอย่างคนปลงตก...

ในแต่ละวันของอวี้หลันเป็นไปอย่างเรียบง่าย นางตื่นตั้งแต่เช้าแล้วออกไปเดินจงกรม จากนั้นก็ทานมื้อเช้า สวดมนต์ และช่วยกวาดลานวัด พอตกบ่ายก็ไปอ่านหนังสือธรรมะที่ห้องหนังสือของวัด กิจวัตรประจำวันของนางวนเวียนอยู่เช่นนี้ทุกวัน

จนกระทั่งวันที่หกอวี้หลันได้สั่งให้รั่วซีเตรียมรถม้า นางต้องการไปยังสถานที่แห่งหนึ่งเพื่อเริ่มแผนการของตนเอง!

ในขณะที่รถม้ากำลังแล่นไปตามเส้นทางที่อวี้หลันบอก นางก็ได้ย้อนนึกถึงวันที่เพิ่งฟื้นจากไข้ โดยที่ครั้งนี้สติสัมปชัญญะครบเต็มสิบส่วน

"รั่วซีที่นี่คือแคว้นเจิ้งใช่หรือไม่?"

"เจ้าค่ะ คุณหนูจำสิ่งใดไม่ได้หรือเจ้าคะ ให้บ่าวไปตามท่านหมอมาดีหรือไม่"

รั่วซีมองมาด้วยความกังวลใจ ตั้งแต่คุณหนูใหญ่ฟื้นจากไข้ คุณหนูใหญ่ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ทั้งท่าทาง การพูด กิริยามารยาท หรือแม้กระทั่งความทรงจำบางส่วน คุณหนูใหญ่ของนางก็เหมือนจะจดจำได้บ้างไม่ได้บ้าง นางคล้ายกับรู้สึกว่าสตรีที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ไม่ใช่คุณหนูใหญ่ของนาง แต่ในทางกลับกันรั่วซีกลับรู้สึกชอบคุณหนูใหญ่ตรงหน้ามากกว่า เพราะรู้สึกได้ว่าคุณหนูใหญ่เข้มแข็งขึ้น และสดใสขึ้นกว่าแต่ก่อนมากนัก!

"ความทรงจำของข้ามันขาด ๆ หาย ๆ เจ้าอย่าได้เอ่ยเรื่องนี้กับใครเป็นอันขาดเล่า"

"เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ บ่าวจะไม่เอ่ยเรื่องนี้แม้แต่ครึ่งคำเลยเจ้าค่ะ"

"ว่าแต่ฮ่องเต้กับฮองเฮาทรงพระนามว่าอะไรนะ?"

มีสิ่งหนึ่งที่อวี้หลันสงสัยเป็นอย่างมาก นางจะต้องไขข้อข้องใจนี้ให้ได้

"ฮ่องเต้ทรงพระนามว่าเจิ้งชุนฟงเจ้าค่ะ ส่วนฮองเฮาทรงพระนามว่าโจวซูหลิ่งเจ้าค่ะ"

"ว่าอย่างไรนะ!" ใบหน้าของอวี้หลันซีดเผือดด้วยความตกตะลึง "อะ องค์รัชทายาทใช่เจิ้งไห่ถังหรือไม่?"

อวี้หลันมองรั่วซีอย่างรอคอยคำตอบ นางหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคำตอบจะไม่ใช่

"ใช่แล้วเจ้าค่ะ องค์รัชทายาททรงพระนามว่าเจิ้งไห่ถังเจ้าค่ะ"

อ๊ากกก!!

'ใครก็ได้ส่งฉันกลับไปที ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว ฮือ ๆ นี่ฉันดันเข้ามาอยู่ในโลกของนิยายเหรอนี่ สวรรค์จะใจร้ายกับเมรีคนนี้เกินไปแล้วนะ!!'

อวี้หลันคร่ำครวญในใจอย่างคนปลงตก ก็ว่าอยู่ว่าชื่อแคว้น ชื่อตระกูลอวี้ และชื่อเจ้าของร่างที่เข้ามาอยู่นั้นมันช่างคุ้นหูนัก ที่แท้ก็เป็นชื่อของตัวประกอบที่แทบจะไม่มีบทเลย มีการกล่าวถึงแค่ว่าเป็นพี่สาวของตัวร้าย และต้องตายยกตระกูลเพราะความผิดของอวี้ซูเยว่ที่ได้ก่อไว้กับมารดา

ถ้าไม่อยากจะตายเหมือนในนิยายก็ต้องเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่อง และขัดขวางอวี้ซูเยว่ให้ถึงที่สุด!

งานหยาบเลยสิคราวนี้ จะต้องเริ่มจากตรงก่อนดีล่ะเนี่ย แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว!!

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สามีข้าคือองค์ชายจอมเสเพล   บทที่ 4 ตัวประกอบ 1/2

    บทที่ 4ตัวประกอบรถม้ากลางเก่ากลางใหม่ได้เคลื่อนเข้ามายังหมู่บ้านที่อยู่ไม่ห่างจากอารามเป่าซานมากนัก ตั้งแต่รถม้าที่เคลื่อนเข้ามาก็ได้ตกเป็นเป้าสายตาของทุกคนในหมู่บ้าน เพราะไม่บ่อยมากนักที่ในหมู่บ้านจะมีรถม้าขับเข้ามาเช่นนี้ รถม้ายังคงเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดพัก จนกระทั่งรถม้าได้จอดสนิทหน้าบ้านไม้หลังหนึ่งที่อยู่ท้ายหมู่บ้าน "ท่านพี่ขอรับมีรถม้ามาที่บ้านเราขอรับ"เด็กชายที่อายุน่าจะเท่ากับน้องชายของอวี้หลันเอ่ยเรียกคนในบ้าน ด้วยตอนนี้เขากำลังนั่งถอนผักอยู่ที่แปลงหน้าบ้าน เด็กชายชะเง้อมองรถม้าหน้าบ้านด้วยความสนใจใคร่รู้"ใครมากันอาหวง"น้ำเสียงแว่วหวานที่ฟังเปล่งหูเอ่ยถามมาจากในบ้าน พร้อมกับร่างของสตรีนางหนึ่งที่หน้าตามอมแมมเดินออกมาจากในบ้าน นางมองอวี้หลันที่ก้าวลงมาจากรถม้าด้วยความประหลาดใจ"คุณหนูใหญ่อวี้?" หญิงสาวเอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจ "ไม่ได้พบกันนานเลยนะคุณหนูหลัน""ได้โปรดอย่าเรียกข้าว่าคุณหนูเลยเจ้าค่ะ ตอนนี้ข้าหาใช่ชนชั้นสูงแล้วไม่ เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาเท่านั้น"ในน้ำเสียงของ 'หลันหนิงเหมย' มีความเศร้าซ่อนอยู่ภายใต้ใบหน้าที่เรียบเฉยเย็นชา จากคุณหนูสูงศักดิ์ที่มีพร้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-03
  • สามีข้าคือองค์ชายจอมเสเพล   บทที่ 4 ตัวประกอบ 2/2

    หลันหนิงเหมยออกจากภวังค์ความคิดของตน นางกลับมาสนใจกับเหตุการณ์ตรงหน้า"เจ้าคงไม่รู้ว่าข้าเองก็ถูกโจวลี่เฟยทำร้ายมาเช่นเดียวกัน ซึ่งข้าย่อมไม่คิดจะยอมให้ศัตรูเสวยสุขอยู่บนความทุกข์ของข้าหรอกนะ"หลันหนิงเหมยหันกลับมามองทันที นางเริ่มสนใจในสิ่งที่อวี้หลันต้องการจะเอ่ย"ท่านต้องการสิ่งใดก็พูดมาตรง ๆ เถิด อย่าได้อ้อมค้อมอีกเลย""ข้าจะช่วยให้เจ้าได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างสุขสบายเหมือนเมื่อก่อน น้องชายของเจ้าจะได้เข้าเรียนสำนักศึกษาหลวง และเจ้าจะได้แก้แค้นคนที่ทำกับครอบครัวของเจ้าด้วย""แลกกับอะไร?""ชีวิตของเจ้า...เจ้าจะต้องเข้ามาเป็นฮูหยินรองของบิดาข้า เพื่อแลกกับการแก้แค้นเอาคืนโจวลี่เฟย ข้าให้สัญญาว่าคนที่ทำให้ครอบครัวเจ้าต้องพบเจอเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ จะต้องมีจุดจบที่เลวร้ายยิ่งกว่าอย่างแน่นอน ""อะไรนะ!! ท่านบ้าไปแล้วหรือคุณหนูใหญ่อวี้ บิดาของท่านอายุเกือบเท่าบิดาของข้าเลยนะ""แต่บิดาของข้าหนุ่มกว่า และหล่อเหลากว่าบิดาของเจ้านะ บิดาของข้าเพิ่งจะอายุ 40 เอง ยังหนุ่มยังแน่น ทั้งยังมีอำนาจที่เจ้าต้องการ และการที่เจ้าเข้ามาเป็นฮูหยินรองของบิดาข้า โจวลี่เฟยย่อมต้องโกรธแค้นจนแทบกระอักเลือดเป็นแน่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-03
  • สามีข้าคือองค์ชายจอมเสเพล   บทที่ 5 สร้างเรื่อง 1/2

    บทที่ 5สร้างเรื่อง อวี้หลันกลับมาที่จวนตระกูลอวี้พร้อมกับรั่วซี โดยนางได้ให้หลันหนิงเหมยและหลันหนิงหวงพักอยู่ที่อารามเป่าซานก่อน เมื่อถึงเวลาทั้งสองจะได้ย้ายเข้ามาอยู่ที่จวนตระกูลอวี้อย่างแน่นอน ตอนนี้นางจะต้องลับไปพูดคุยกับบิดาเสียก่อน"ท่านพ่อเจ้าคะ ลูกกลับมาแล้วเจ้าค่ะ"อวี้หลันตรงเข้ามาหาอวี้เฉินฟู่ยังห้องหนังสือ ทันทีที่นางกลับมาถึงจวนก็ตรงมาที่นี่ทันที"โอ้ กลับมาแล้วหรือเป็นอย่างไรบ้างเล่า?""ท่านไต้ซือดีกับลูกมากเลยเจ้าค่ะ ท่านไต้ซือยังกล่าวกับลูกอีกนะเจ้าคะ เพราะผลบุญที่ลูกทำในครั้งนี้ ทำให้ท่านแม่สามารถปล่อยวางได้ จนสามารถเดินทางเข้าสู่แดนเซียนได้แล้ว แต่ก่อนไปท่านแม่ได้ทิ้งดวงจิตหนึ่งเสี้ยวไว้ให้คอยดูแลท่านพ่อด้วยเจ้าค่ะ"อวี้เฉินฟู่ที่กำลังนั่งอ่านรายงานรีบลุกขึ้นมาจับแขนของบุตรสาวแน่น แววตาที่ผ่านโลกมามากมองมาด้วยความกังขา"หมายความว่าอย่างไรหลันเอ๋อร์ ท่านไต้ซือว่าอย่างไรนะ?"

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-06
  • สามีข้าคือองค์ชายจอมเสเพล   บทที่ 5 สร้างเรื่อง 2/2

    ท้องพระโรง'ฮ่องเต้เจิ้งชุนฟง' ได้ออกว่าราชกิจช่วงเช้าตามปกติ แต่ครานี้กลับมีเรื่องที่พระองค์คิดไม่ตก และต้องการให้เหล่าขุนนางช่วยแก้ปัญหานี้ด้วย"เจิ้นมีเรื่องหนึ่งที่อยากจะให้พวกเจ้าช่วยเจิ้นคิดเสียหน่อย"พระสุรเสียงทรงอำนาจเอ่ยขึ้นเสียงดัง หลังจากการประชุมเรื่องงานราชกิจช่วงเช้าจบลง เหล่าขุนนางที่ยืนกันเต็มท้องพระโรงต่างยืดแผ่นหลังตรง เพื่อตั้งใจฟังในสิ่งที่ฮ่องเต้กำลังจะตรัส เรื่องใดหนอที่ฮ่องเต้ถึงกลับทรงคิดไม่ตก"ฝ่าบาททรงตรัสมาได้เลยพ่ะย่ะค่ะ พวกกระหม่อมจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้ฝ่าบาทเองพ่ะย่ะค่ะ"เสนาบดีกู้แห่งกรมยุติธรรมเอ่ยขึ้นมาด้วยท่าทางกระตือรือร้น"ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เพียงแต่เจิ้นต้องการหาสตรีที่จะมาเป็นพระชายาองค์ชายสามเท่านั้นเอง"ทั่วท้องพระโรงพลันเงียบเสียงลงทันใด แค่ได้ยินชื่อขององค์ชายสามทุกคนก็อยากจะรีบถอยหนี ไม่มีผู้ใดอยากจะไปข้องเกี่ยวกับองค์ชายสามที่ได้ชื่อว่า 'เป็นจอมเสเพลแห่งเมืองหลวงหรอก'"เอ่อ...องค์ชายสามทรงมีสตรีที่พึงใจอยู่แล้วหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ""ไม่มี แต่องค์

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-06
  • สามีข้าคือองค์ชายจอมเสเพล   บทที่ 6 รนหาเรื่อง 1/2

    บทที่ 6รนหาเรื่อง จวนตระกูลอวี้อวี้เฉินฟู่กลับมาถึงจวนก็เรียกให้โจวลี่เฟยมาพบที่ห้องหนังสือทันที ใบหน้าของเขาอึมครึมด้วยความไม่พอใจในตัวภรรยาและครอบครัวของนาง รองเสนาบดีโจวคิดจะกำจัดบุตรสาวของเขาให้พ้นทางใช่หรือไม่ กลอุบายขลาดเขลาเช่นนี้เขาจะดูไม่ออกเลยหรือ ดูท่าว่าหลังจวนของเขาคงจะไม่ได้เงียบง่าย และสุขสงบอย่างที่ตาของเขาเห็นไม่"ท่านพี่เรียกหาข้าหรือเจ้าคะ"โจวลี่เฟยเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มหวาน นางคิดว่าสามีคงจะคิดถึงนางเป็นแน่ แต่หารู้ไม่ว่าบิดาของนางได้สร้างเรื่องเสียแล้ว "ใช่ ข้าอยากรู้ว่าเจ้าได้พบบิดาของเจ้าหรือไม่ ข้าอยากจะมอบของขวัญให้ท่านพ่อตาเสียหน่อย"อวี้เฉินฟู่ปั้นสีหน้าให้กลับมาสุขุมดังเดิม"ข้าเพิ่งพบท่านพ่อเมื่อสองวันก่อนเจ้าค่ะ ท่านพ่อยังบ่นคิดถึงหลันเอ๋อร์อยู่เลยเจ้าค่ะ และท่านพ่อยังกล่าวว่าหลันเอ๋อร์อายุไม่น้อยแล้ว เราสมควรหาสามีดี ๆ ให้กับนาง เรื่องนี้ข้าเองก็เห็นดีด้วย อยากจะมาปรึกษ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-07
  • สามีข้าคือองค์ชายจอมเสเพล   บทที่ 6 รนหาเรื่อง 2/2

    การสมรสระหว่างองค์ชายสามเจิ้งจื่อห้าวและคุณหนูใหญ่อวี้หลันถูกประกาศออกมาในสามวันให้หลัง ทุกคนที่ได้ทราบข่าวนี้ต่างพากันสงสารคุณหนูใหญ่ผู้นี้เป็นอย่างมาก แม้ว่าหลายคนจะไม่เคยเห็นหน้าอวี้หลัน แต่ต่างพากันเทใจว่านางช่างโชคร้ายนัก เป็นถึงคุณหนูตระกูลใหญ่แต่กลับต้องมาแต่งงานกับองค์ชายจอมเสเพลเสียได้ ช่างน่าสงสารนัก!นอกจากจะมีคนสงสารก็ยังมีคนที่รู้สึกสาสมใจด้วย อย่างเช่นอวี้ซูเยว่ และโจวลี่เฟยที่ต่างหัวเราะขบขันด้วยความสะใจ หลังจากที่ขันทีข้างกายของฮ่องเต้มาประกาศราชโองการที่จวนเมื่อวันก่อน โดยนับจากนี้อีกสองเดือนอวี้หลันจะต้องแต่งงานกับองค์ชายสาม ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทั้งสองวาดฝันไว้ล้วนเป็นไปอย่างราบรื่น"ท่านแม่กับท่านตาเก่งที่สุดเลยเจ้าค่ะ ในที่สุดนังอวี้หลันก็จะได้ออกไปจากจวนนี้เสียที ฮ่าฮ่าฮ่า""เยว่เอ๋อร์ รักษากิริยาด้วยสิลูก ถึงเจ้าจะดีใจแค่ไหนแต่ก็อย่าได้หัวเราะจนเห็นไรฟันเช่นนี้"อวี้ซูเยว่ฉีกยิ้มกว้าง พลางยกมือขึ้นมาปิดปากอย่างสงวนท่าที"ก็ลูกดีใจนี่เจ้าคะท่านแม่""เด็กคนนี้นี่"โจวลี่เฟยคลี่ยิ้มหวาน พลางยก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-07
  • สามีข้าคือองค์ชายจอมเสเพล   บทที่ 7 ร่วมมือกัน 1/2

    บทที่ 7ร่วมมือกัน หลายวันที่ผ่านมาอวี้เฉินฟู่แทบจะไม่ได้นอนเลย ยิ่งได้เห็นเทียบเชิญจากวังเจียวจินเขายิ่งนอนไม่หลับ เขารู้สึกแย่ที่ตัวเองไม่สามารถหาบุรุษดี ๆ ให้กับบุตรสาวได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโหพ่อตาของตนที่สอดไม่เข้าเรื่อง ทำให้ตอนนี้เขายังคงไม่พอใจโจวลี่เฟยอยู่มาก ไม่แม้แต่จะไปนอนค้างที่เรือนของนางเลย"ท่านพ่อเจ้าคะ ลูกขอเข้าไปได้หรือไม่เจ้าคะ?""เข้ามาสิหลันเอ๋อร์"อวี้หลันเดินเข้ามาพร้อมกับถือถ้วยยาบำรุงเข้ามาด้วย นางส่งยิ้มอ่อนหวานให้กับบิดา ก่อนจะเอ่ยธุระที่นางมาหาเขาถึงห้องหนังสือ"ท่านพ่อเจ้าคะ มีเรื่องหนึ่งที่ลูกอยากมาขอร้องท่านพ่อเจ้าค่ะ""เรื่องแต่งงานของเจ้าหรือ""ไม่ใช่เจ้าค่ะ เรื่องของหลันหนิงเหมย ลูกอยากให้ท่านพ่อรับนางกับน้องชายมาอยู่ที่จวนอวี้ของเราเจ้าค่ะ""เรื่องนั้น...มันก็ได้อยู่หรอก แต่ชื่อเสียงของนางจะไม่มัวหมองหรือหลันเอ๋อร์ อย่างไรนางก็เคยเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่มาก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-07
  • สามีข้าคือองค์ชายจอมเสเพล   บทที่ 7 ร่วมมือกัน 2/2

    "เชิญเสด็จทางด้านนี้เพคะ"อวี้หลันผายมือไปทิศทางที่ตั้งของสวนด้านหลัง ที่นั่นมีศาลาไม้ตั้งอยู่ตรงกลางสวน โดยรอบมีดอกไม้นานาพันธุ์ที่กำลังออกดอกบานสะพรั่งเต็มไปหมด ชวนให้รู้สึกสดชื่น"คุณหนูใหญ่อวี้ยินดีหรือไม่ที่จะต้องแต่งงานกับข้า"ระหว่างที่เดินไปยังศาลา เจิ้งจื่อห้าวเอ่ยปากขึ้นมาทันที เขาอยากจะรู้ความคิดของอวี้หลันว่าคิดเห็นอย่างไรกับการแต่งงานของพวกเขา"ยินดีหรือไม่นี่ก็เป็นสมรสพระราชทาน หม่อมฉันมิอาจจะขัดราชโองการได้หรอกเพคะ"อวี้หลันหยุดเดินแล้วหันไปมองเจิ้งจื่อห้าว บุรุษผู้นี้กำลังหยั่งเชิงนางสินะ"หากเจ้าไม่ต้องการ ข้าสามารถทูลขอเสด็จพ่อได้นะ อย่างไรเสด็จพ่อก็คงไม่บังคับฝืนใจผู้ใดหรอก"อวี้หลันคลี่ยิ้มหวาน แค่ประโยคเดียวนางก็สามารถอ่านความคิดของเขาได้แล้ว"ไม่ต้องลำบากองค์ชายสามหรอกเพคะ หม่อมฉันไม่ได้รู้สึกว่าการแต่งงานครั้งนี้จะลำบากอะไร หม่อมฉันก็แค่ย้ายจากจวนตระกูลอวี้ไปวังเจียวจินเท่านั้นเอง"ท่าทีที่ไม่แยแสของอวี้หลัน ทำให้เจิ้งจื่อห้าวถึงกับพูดไม่ออกอะไรคือไม่ลำบาก? อะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-07

บทล่าสุด

  • สามีข้าคือองค์ชายจอมเสเพล   บทที่ 15 บุรุษผู้นี้คือสามีของข้า 2/2

    "ส่วนเรื่องหอเดือนดับ คราวหลังพาพี่ไปด้วยได้หรือไม่ พี่อยากจะไปศึกษาอะไรเพิ่มเสียหน่อย"น้ำเสียงที่แผ่วเบาอยู่แล้วยิ่งเบาลงไปอีก แต่กระนั้นเจิ้งจื่อห้าวที่นั่งอยู่ไม่ไกลก็คอยเงี่ยหูฟังตลอดว่าทั้งสองคุยอะไรกัน แม้ว่าตรงหน้าเขากำลังพูดคุยกับเจิ้งลู่เหอเกี่ยวกับการสร้างถนนก็ตาม"ศึกษาอะไรหรือเพคะ?""ท่วงท่าการร่วมรักของหญิงคณิกาอย่างไรเล่า"พรวด!!"แค่ก ๆ"เจิ้งจื่อห้าวที่กำลังดื่มน้ำชาพลันสำลักน้ำชาออกมาทันที"เป็นอะไรเจ้าสาม เหตุใดถึงได้สำลักน้ำชาได้เล่า""เสด็จพี่อย่าได้ทรงกังวลเลยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว"ขณะตอบเจิ้งไห่ถัง สายตาของเขาก็ได้สบประสานกับสายตาของอวี้หลันเข้าพอดี นางยกยิ้มมุมปากพลางแสร้งเลียริมฝีปากของตนช้า ๆ โดยที่ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็น เจิ้งจื่อห้าวที่เห็นเช่นนั้น แทบอยากจะอุ้มพระชายาของตนกลับไปลงโทษที่วังเจียวจินเสียเดี๋ยวนี้เลยนางรู้ว่าเขาแอบฟังอยู่สินะ!"เสด็จพี่สามนี่ไม่ไหวเลยนะเจ้าคะ แค่ดื่มน้ำชาก็สำลักขึ้นมาเสียได้ ดีที่ข้าไม่ได้นั่งอยู่ใกล้ ๆ หากน้ำชา

  • สามีข้าคือองค์ชายจอมเสเพล   บทที่ 15 บุรุษผู้นี้คือสามีของข้า 1/2

    บทที่ 15บุรุษผู้นี้คือสามีของข้า ในวันที่สามหลังจากวันแต่งงาน เจิ้งจื่อห้าวได้พาอวี้หลันมายกน้ำชาที่ท้องพระโรง โดยด้านในมีฮองเฮา องค์รัชทายาท องค์ชายสี่ และองค์หญิงห้ามารออยู่ก่อนแล้ว การแต่งงานเข้าราชวงศ์ของอวี้หลันได้รับความสนใจจากเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงทุกคน โดยเฉพาะองค์หญิงห้าซึ่งเป็นพระขนิษฐาร่วมอุดรขององค์ชายสาม"พี่สามมาแล้วเพคะเสด็จพ่อ เอ๋...ทำไมท่าทางการเดินของพี่สะใภ้ถึงได้แปลกพิกลจังเลยล่ะเพคะ"องค์หญิงห้าผู้พระนามว่า 'เจิ้งไป๋ฮวา' หันไปเอ่ยถามเจิ้งชุนฟงด้วยความสงสัย คำถามของนางได้ยินไปทั่วทุกคน พวกเขาทำได้แค่กลั้นเสียงหัวเราะแล้วหันหน้าไปทางอื่นเสีย ส่วนเจิ้งชุนฟงได้แต่นึกขันกับความไร้เดียงสาของพระธิดาองค์โปรดเพราะนางเพิ่งจะอายุแค่ 15 หนาวจึงยังไม่ประสีประสาเรื่องระหว่างชายหญิงนัก เห็นทีพระองค์จะต้องให้หมัวมามาอาวุโสมาสั่งสอนนางในเรื่องนี้เสียแล้ว"พี่สะใภ้ของเจ้าคงจะเจ็บขา เจ้าอย่าได้ใส่ใจเลยรีบไปนั่งที่เถิด""เพคะ"เจิ้งไป๋ฮวาแย้มยิ้มอย่างอ่อนหวาน รอยยิ้มของนางเกลื่อนไปทั่วใบหน้าอันงดงามห

  • สามีข้าคือองค์ชายจอมเสเพล   บทที่ 14 สำลักความสุข 2/2

    เจิ้งจื่อห้าวตื่นขึ้นมาหลังจากที่เขาหลับไปเพียงหนึ่งชั่วยาม เพราะเสียงดังด้านนอกของหลีกงกงทำให้เขาไม่อาจจะฝืนข่มตาหลับลงได้ ยิ่งมองหญิงสาวในอ้อมแขนที่นอนหลับตาพริ้ม แต่คิ้วเรียวกลับขมวดมุ่นเพราะรำคาญใจ เขาจึงต้องรีบลุกจากเตียงนอนไปจัดการประเดี๋ยวนี้"ข้าจะไปดูหลีกงกงเสียหน่อย เจ้านอนต่อเถิด"ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงมาจุมพิตที่หน้าผากมน แล้วไล้ริมฝีปากลงมาที่จมูกโด่งเล็ก ก่อนจะหยุดที่ริมฝีปากอวบอิ่มอย่างแผ่วเบาราวกับปีกผีเสื้ออวี้หลันอมยิ้มเล็กน้อยแล้วจึงพยักหน้าหงึก ๆ ก่อนจะผล็อยหลับไปอีกครั้ง ราตรีที่ผ่านมาเจิ้งจื่อห้าวสูบพลังชีวิตของนางไปจนหมด แค่จะลืมตาขึ้นมานางยังไม่มีแรงเลย พิธียกน้ำชาของวันนี้คงจะต้องเลื่อนเสียแล้ว ประตูห้องหอถูกผลักออกอย่างเบามือ ตามด้วยร่างกายสูงใหญ่ที่มีผ้าคลุมตัวปกปิดร่างกายเอาไว้อย่างหมิ่นเหม่ ทำให้ปรากฏร่องรอยฝากรักสีเข้มทั่วลำคอหนาลามไปจนถึงหน้าอกแกร่งอย่างชัดเจน เหล่านางกำนัลและรั่วซีพากันก้มหน้าลงต่ำด้วยความเขินอายส่วนหลีกงกงได้แต่มองบนกับการกระทำของผู้เป็นนาย เขาเลี้ยงดูองคืชายสามมาตั้งแต่แบเบาะจะด

  • สามีข้าคือองค์ชายจอมเสเพล   บทที่ 14 สำลักความสุข 1/2

    บทที่ 14สำลักความสุข เจิ้งจื่อห้าวรู้สึกร่างกายของเขามันเบาโหวงราวกับขนนก เพียงแค่การปลดปล่อยแค่ครั้งแรกเขาก็รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก หากว่าได้ปลดปล่อยอีกสักหลาย ๆ ครั้ง ร่างกายของเขาคงจะมีกำลังวังชาเป็นแน่ เลือดลมที่เคยติดขัดเพราะไม่เคยถึงจุดสุดยอดได้ถูกขจัดไปจนสิ้นเพราะอวี้หลันเพียงคนเดียว"ท่านี้หม่อมฉันขอเรียกว่าขย่มมังกรนะเพคะ""อ่า..."เจิ้งจื่อห้าวสบสายตาเข้ากับดวงตากลมโตที่มองมาของอวี้หลันด้วยความระทึกใจ แค่ชื่อท่าก็ทำเอากึ่งกลางกายของเขากลับมาแข็งขืนขึ้นอีกครั้งอวี้หลันจัดท่าทางของตนเอง ในตอนนี้ร่างกายของนางเองก็พร้อมจะลงสนามจริงแล้ว หยาดน้ำหวานสีใสได้เริ่มไหลปริ่มออกมาจากร่องรักของนางราวกับเขื่อนแตก สะโพกกลมกลึงค่อย ๆ บดลงมาที่ท่อนเอ็นอันร้อนผ่าวของเจิ้งจื่อห้าว เพียงแค่ปลายหัวหยักเข้าไปจ่ออยู่หน้าปากถ้ำ ร่างกายของนางพลันสะดุ้งเฮือกด้วยความรู้สึกเจ็บแปลบ"อึก..."สีหน้าของอวี้หลันที่แสดงออก

  • สามีข้าคือองค์ชายจอมเสเพล   บทที่ 13 ค่ำคืนวสันต์อันร้อนแรง 2/2

    "ต้องการหรือเพคะ?"อวี้หลันหยุดชะงักตรงหลุมสะดือของเขา นางเงยใบหน้าขึ้นมาถามเขา พลางชี้นิ้วไปทางแท่งหยกที่กำลังตั้งเด่มาทางใบหน้าของนาง รอยยิ้มหวานปรากฏที่มุมปากเล็กด้วยความเจ้าเล่ห์"อ่า...ใช่""เช่นนั้นก็ตอบคำถามของหม่อมฉันมาก่อนสิเพคะ""คำถามอะไร"อารมณ์ที่กำลังพวยพุ่งพลันหยุดชะงัก เจิ้งจื่อห้าวยันกายขึ้นมามองหน้าคนช่างยั่ว เขาทั้งรู้สึกฉุนและหัวเสียนางจงใจกลั่นแกล้งเขา ให้เขาทรมานเพราะไฟราคานี้!"อนุขององค์ชาย พวกนางเป็นใครเพคะ""แค่สตรีที่ข้าสงสารแล้วรับเลี้ยงไว้""หอเดือนดับใช่ขององค์ชายไหมเพคะ"เจิ้งจื่อห้าวหรี่ตามองพระชายาของตนนิ่ง ความสงสัยและความหวาดระแวงก่อตัวขึ้นมาในใจของชายหนุ่ม"...""ถ้ามันตอบยากไป เช่นนั้นก็ไม่เป็นอะไรหรอกเพคะ"อวี้หลันไม่คิดจะไล่ต้อนเจิ้งจื่อห้าว นางแค่หยัดกายลุกขึ้นยืนแล้วเดินกรีดกรายไปหยิบผ้าคลุมขึ้นมาคลุมกาย แล้วเดินกลับมาล้มตัวลงนอนด้านข้างของเขา ทำราวกับเรื่องเมื่อครู่นี้พวกเขาไม่ได้กำลังจะใช้ค่ำคืนอันร้อนแรงด้วยกัน

  • สามีข้าคือองค์ชายจอมเสเพล   บทที่ 13 ค่ำคืนวสันต์อันร้อนแรง 1/2

    บทที่ 13ค่ำคืนวสันต์อันร้อนแรง "อื้อ...อ่า เจ็บนะเพคะ"อวี้หลันร้องครางเสียงสั่น เมื่อถูกเจิ้งจื่อห้าวดูดดึงที่ยอดอกของนาง ไรฟันของเขามันขบกัดที่ผิวเนื้ออ่อนนุ่ม จนอวี้หลันรู้สึกเจ็บแปลบไปทั่วเนินอกขาวผ่อง ความเสียวกระสันพวยพุ่งเข้ามาไม่ขาดสาย ปลุกเร้าให้นางรู้สึกทรมาน อยากจะให้เขาสัมผัสร่างกายของนางมากกว่านี้เจิ้งจื่อห้าวผละใบหน้าออกมาเล็กน้อย เขายกยิ้มด้วยความพึงพอใจเมื่อได้ยินเสียงร้องครางของอวี้หลัน นั่นหมายความว่าถึงแม้เขาจะไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน แต่เพราะอ่านตำราวสันต์มามาก เมื่อได้ลงสนามจริงเขาก็สามารถทำให้หญิงสาวในอ้อมกอดสุขสมไปกับบทรักของเขาได้"อ๊ะ! หนาวเพคะ"เพราะอวี้หลันแช่ตัวอยู่ในถังอาบน้ำนาน เมื่อเวลาผ่านไปร่างกายของนางก็เริ่มหนาวสั่นขึ้นมา ด้วยร่างกายนี้ไม่สามารถแช่ในน้ำเย็นนานได้ คงสืบผลมาจากเรื่องเมื่อคราวก่อนนั้น ทำให้ตั้งแต่นั้นมาร่างกายของนางจะไวต่ออากาศเย็นมากเป็นพิเศษ"อ่า ไปที่เตียงเถิด"

  • สามีข้าคือองค์ชายจอมเสเพล   บทที่ 12 จุมพิตครั้งแรก 2/2

    อวี้หลันที่แช่น้ำไปทั้งตัวลุกพรวดขึ้นมา เป็นผลให้ผ้าคลุมที่บางอยู่แล้วแทบจะไม่ปกปิดร่างกายของนางเลย เจิ้งจื่อห้าวที่หันมาเห็นเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึงเลือดบุรุษพลันร้อนรุ่มขึ้นมาทันที กึ่งกลางกายที่เพิ่งสงบไปพลันตั้งตระหง่านขึ้นมาอีกครั้ง"จะ เจ้ารีบนั่งลงไปเดี๋ยวนี้เลย"เจิ้งจื่อห้าวเอ่ยสั่งเสียงสั่น เขารีบหันหลังกลับไปมองทางอื่นทันที"องค์ชายสามเพคะ ได้โปรด...ช่วยหม่อมฉันด้วยเถิดเพคะ"น้ำเสียงแว่วหวานเอ่ยขอร้องอย่างน่าสงสาร แต่เจิ้งจื่อห้าวไม่ได้สงสารนางเลยสักนิด เขาสงสารตัวเองมากกว่าที่ต้องมาเจอสถานการณ์เช่นนี้"ไม่ได้ ในข้อตกลงของเราไม่ได้มีเรื่องนี้นะอวี้หลัน เจ้าสงบสติอารมณ์เสียก่อนเถิด""เช่นนั้นก็เพิ่มเข้าไปสิเพคะ"จบประโยคเสียงของน้ำที่กระเพื่อมทำให้เจิ้งจื่อห้าวหันกลับไปมอง เขาได้แต่นึกเสียใจที่ทำเช่นนั้น เพราะความหวังดีของตัวเองแท้ ๆ เชียวร่างกายที่เปียกชุ่มไปด้วยหยดน้ำถาโถมเข้ามายังร่างกายของบุรุษอันแสนอบอุ่น อวี้หลันที่มีสติอันน้อยนิด และเพราะต้องการจะกลั่นแกล้งเจิ้งจื่อห้าวเป

  • สามีข้าคือองค์ชายจอมเสเพล   บทที่ 12 จุมพิตครั้งแรก 1/2

    บทที่ 12จุมพิตครั้งแรก อวี้หลันยืนยิ้มด้วยความเจ้าเล่ห์ คราแรกนางก็คิดว่าเขาคือเสือผู้หญิงแห่งยุคนี้เสียอีก ที่ไหนได้...ก็แค่ชายหนุ่มที่ไม่ประสีประสา แค่เห็นเรือนร่างที่นางตั้งใจให้เห็นวับ ๆ แวม ๆ เขาก็แทบจะทำสิ่งใดไม่ถูกเสียแล้วใบหน้าที่แดงก่ำราวกับจะคั้นออกมาเป็นน้ำได้ และสายตาที่มองมาด้วยความตกตะลึง นั่นยิ่งทำให้อวี้หลันมั่นใจเต็มสิบส่วนองค์ชายสามผู้นี้ไม่เคยหลับนอนกับสตรี!!อะไรที่ทำให้มั่นใจน่ะหรือ เพราะถ้าหากข่าวลือนั้นคือเรื่องจริงว่าเขามีอนุกว่ายี่สิบนาง เมื่อเขาได้เห็นเรือนร่างนี้แล้ว เขาจะต้องเกิดอาการอยากจะถาโถมเข้ามาจู่โจมนางทันที เสือที่เห็นเหยื่ออยู่ตรงหน้าจะยอมปล่อยให้หลุดรอดไปได้อย่างไรเล่าแต่นี่เขากลับยืนมองนิ่งอย่างคนทำอะไรไม่ถูก ทั้งสายตาที่หลบเลี่ยงนั่นด้วย เช่นนี้แล้วอนุที่อยู่ในเรือนหลังของเขาจะต้องเป็นสตรีที่เขาคอยดูแลไม่ผิดแน่ อาจจะให้ที่พำนักและคอยคุ้มครองอย่างลับ ๆ ก็เป็นได้ เหมือนในซีรีส์จีนที่นางเคยดูมาก่อน ค

  • สามีข้าคือองค์ชายจอมเสเพล   บทที่ 11 สัญญาด้วยชีวิต 2/2

    ทันทีที่เจิ้งชุนฟงเห็นบุตรชายอุ้มเจ้าสาวเข้ามา พระองค์ก็สรวลขึ้นด้วยความชอบใจ"ฮ่ะฮ่า เจ้าสามคงจะร้อนใจแย่แล้ว ฮองเฮาคิดเช่นเดียวกับเจิ้นหรือไม่""หม่อมฉันก็คิดเช่นนั้นเพคะฝ่าบาท หากรู้เช่นนี้หม่อมฉันคงจะรีบจัดงานแต่งงานให้กับลูกสามนานแล้วเพคะ"'ฮองเฮาโจวซูหลิ่ง' ทรงผินพระพักตร์มาแย้มสรวลกับฮ่องเต้ พระนางเองก็อยากจะให้เจ้งจื่อห้าวรีบแต่งงานเสียที อวี้หลันผู้นี้ก็ถือว่าพอใช้ได้ แม้ว่าใจจริงพระนางต้องการให้เขาแต่งกับคุณหนูตระกูลรองซุนมากกว่า"เวลานี้ก็ถือว่าเหมาะสมแล้วล่ะ ฮ่ะฮ่า"เจิ้งชุนฟงยังคงสรวลออกมาไม่ขาดสายเมื่อเจ้าบ่าวและเจ้าสาวมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของทั้งสองพระองค์ แม่สื่อผู้เป็นผู้ทำพิธีก็ได้ก้าวขึ้นมาด้านหน้า นางเอ่ยนำทั้งสองให้ทำตามพิธีอย่างเคร่งครัดต่อไป... พิธีช่วงเช้าได้เสร็จสิ้นลงด้วยดี ลำดับถัดไปแม่สื่อก็ได้นำตัวเจ้าสาวให้ไปรอเจ้าบ่าวที่ห้องหอ ส่วนเจ้าบ่าวก็มีหน้าที่ที่ต้องรับแขกต่อไปภายในห้องหอนั้น อวี้หลันที่รู้สึกปวดเมื่อยต้นคอจนแทบจะทนไม่ไหว จึงได้เรียกรั่วซีที่อยู่ในห้อง

DMCA.com Protection Status