แชร์

สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ
สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ
ผู้แต่ง: กะปอมพ่นไฟ

บทที่ 1 กองทัพพยัคฆ์ทมิฬ

ผู้เขียน: กะปอมพ่นไฟ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-04 12:19:53

บทที่ 1

กองทัพพยัคฆ์ทมิฬ

“คุณหนู คุณหนูเจ้าคะ แย่แล้วเจ้าค่ะ”

เสียงสาวใช้ประจำตัวของคุณหนูใหญ่แห่งจวนเสนาบดีกรมคลัง ตะโกนลั่นไปทั่วทั้งจวน นางนั้นหาได้สนใจธรรมเนียมปฏิบัติอันควรของสาวใช้ไม่ ด้วยความตกใจปนตื่นตระหนกเมื่อได้รับข่าวสารจากภายนอก

“มีอะไร ไยต้องตะโกนเสียงดังด้วยเจินเจิน” เสียงสตรีหวานละมุนที่นั่งอยู่บนตั่งภายในเรือนของตนดังขึ้นมาด้วยความสงสัย

“คุณหนูเจ้าคะบ่าวไปตลาดมาเจ้าค่ะ ได้ยินพวกชาวเมืองพูดกันไปทั่วว่าแคว้นเซี่ยของเรามีชัยชนะเหนือแคว้นศัตรูได้แล้วเจ้าค่ะ” เสียงกระหืดกระหอบเอ่ยตอบกลับออกมา

“นี่ช่างเป็นข่าวดียิ่งนัก แล้วเหตุใดไยเจ้าถึงทำตัวดั่งมีข่าวร้ายด้วยเล่า”

“นอกจากบ่าวจะได้ยินข่าวดีที่แคว้นเราได้รับชัยชนะกลับมา แต่บ่าวยังได้ยินชาวเมืองเขาลือกันให้ทั่วว่าเมื่อท่านอ๋องทรงเสด็จกลับมา ฮ่องเต้จะทรงพระราชทานรางวัลเป็นสมรสพระราชทานให้กับท่านอ๋องเจ้าค่ะ”

“เจ้าคงไม่ได้หมายความว่า...” คิ้วเรียวดั่งคันศรเริ่มขมวดกันเป็นปม เมื่อสังหรณ์ในใจของนางกำลังร้องเตือนขึ้นมา

“คุณหนูคิดไม่ผิดหรอกเจ้าค่ะ บุตรีที่สามารถจะแต่งเข้าจวนของท่านอ๋องได้ หากนับดูในเมืองหลวงแล้วเห็นจะมีเพียงสตรีแค่สามคนเท่านั้นเจ้าค่ะ คุณหนูหม่าลี่เหมยแห่งจวนเสนาบดี คุณหนูจ้าวเหมยอิงแห่งจวนแม่ทัพ และคุณหนูหยางมี่ของบ่าวอย่างไรเล่าเจ้าคะ”

เจินเจินอธิบายให้เจ้านายสาวฟัง พร้อมกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

หยางซูมี่ที่ได้ยินเช่นนั้นก็ถึงกับตาขวากระตุกถี่ยิบ สังหรณ์ในใจของนางไม่คลาดเคลื่อนเลยแม้แต่น้อย ร่างบางได้แต่ตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตนด้วยความกลัดกลุ้มใจ

หลังจากนั้นเพียงหนึ่งเดือน กองทัพของท่านอ๋องเซี่ยเหวินหรงก็ได้เดินทางมาถึงเมืองหลวงแคว้นเซี่ย บุรุษร่างสูงใหญ่ในชุดเกราะสีดำเงาวาววับนั่งอยู่บนหลังอาชาสีขาว จะเป็นผู้ใดไปไม่ได้เขาคือ ท่านอ๋องเซี่ยเหวินหรง ผู้บัญชาการทหารกองทัพพยัคฆ์ทมิฬ ผู้กุมกำลังพลทหารกว่าสองแสนนายที่สามารถเอาชนะแคว้นฉินได้ภายในระยะเวลาเพียงแค่หกเดือนเท่านั้น

ตลอดสองข้างฝั่งถนนล้วนมีราษฎรชาวแคว้นเซี่ยออกมายืนรอต้อนรับกองทัพพยัคฆ์ทมิฬของท่านอ๋องเซี่ยเหวินหรงกันอย่างล้นหลาม บ้างก็ตะโกนเรียกขานพระนามของท่านอ๋องเซี่ยเหวินหรง บ้างก็พากันโยนดอกไม้

ทั้งยังมีหญิงสาวใจกล้าบางคนโยนผ้าเช็ดหน้ามาให้ ขณะที่เซี่ยเหวินหรงขี่ม้าผ่านหน้าไป ช่างน่าเสียดายที่สายตาคู่คมนี้ไม่ได้แยแสต่อสิ่งรอบข้างเลยแม้แต่น้อย เพราะในใจของเขากำลังหนักอึ้งกับรางวัลที่เสด็จพี่ผู้เป็นฮ่องเต้แห่งแคว้นเซี่ยจะพระราชทานให้เขาเสียมากกว่า ซึ่งรางวัลนี้เขาไม่ได้ปรารถนาเลยแม้แต่น้อย

เซี่ยเหวินหรงเดินทางมาเข้าเฝ้า ฮ่องเต้เซี่ยเฟยหลง ยังท้องพระโรงของพระราชวัง ภายในท้องพระโรงล้วนเต็มไปด้วยบรรดาขุนนางที่มาเข้าเฝ้าเพื่อมาประชุมเช้ากันอย่างพร้อมเพรียงหน้าพระพักตร์ของฮ่องเต้

“กระหม่อมเซี่ยเหวินหรง ถวายพระพรฝ่าบาทขอพระองค์ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่น หมื่นปีพ่ะย่ะค่ะ”

เซี่ยเหวินหรงก้าวเท้าออกมายืนข้างหน้าพร้อมกับคุกเข่าถวายพระพรฮ่องเต้เต็มพิธีการ

“รีบลุกขึ้นเร็ว รีบรายงานข่าวการศึกกับแคว้นฉินให้เจิ้นฟังเร็วเข้า”

เซี่ยเฟยหลงเอ่ยอย่างเร่งเร้า พระองค์นั้นอยากจะทรงทราบข่าวการศึกว่าแท้จริงนั้นเรื่องราวเป็นอย่างไรบ้าง แต่นอกจากอยากจะทรงทราบข่าวการศึก พระองค์ก็กำลังทรงรอคอยที่จะเอ่ยโอฐรีบพระราชทานรางวัลความดีความชอบให้กับน้องชายของพระองค์เสียมากกว่า แผนการทุกอย่างพระองค์ได้จัดเตรียมไว้หมดแล้ว เพียงรอให้ถึงวันพรุ่งนี้ในงานเลี้ยงฉลองชัยชนะ พระองค์จะทรงพระราชทานรางวัลให้กับน้องชายอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง ทั้งในส่วนลึกของจิตใจพระองค์ยังทรงรู้สึกติดค้างกับน้องชายผู้นี้มากเหลือเกิน

“ทูลฝ่าบาทตามที่ม้าเร็วส่งสาสน์มาแจ้งก่อนหน้านี้พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมตัดศีรษะของแม่ทัพแคว้นฉินได้สำเร็จพ่ะย่ะค่ะ ยึดเอาดินแดนทางทิศเหนือที่อยู่ติดกับแคว้นเซี่ยของเรา หลังจากนั้นฮ่องเต้แคว้นฉินก็ได้ทรงยกธงขาวยอมแพ้ เนื่องจากแคว้นฉินขาดเสบียงที่ทหารของฝ่ายเราลักลอบเข้าไปเผาถึงในค่ายทหารแคว้นฉินได้สำเร็จพ่ะย่ะค่ะ

ตอนนี้ทางแคว้นฉินกำลังเร่งจัดเตรียมคณะราชทูตเพื่อเดินทางมาเจรจาสงบศึก และชดใช้ค่าสินสงครามแก่แคว้นเซี่ยพ่ะย่ะค่ะ ทหารฝั่งเราบาดเจ็บกว่าพันนาย พิการห้าสิบนาย ตายในสนามรบอีกหนึ่งพันนาย รายนามชื่อของทหารกับรายละเอียดในส่วนที่เหลือ กระหม่อมจะเขียนฎีกาถวายพ่ะย่ะค่ะ”

เซี่ยเหวินหรงเอ่ยด้วยน้ำเสียงดังฟังชัดทุกถ้อยคำทั้งหมด เขาหมายอยากจะให้ทุกคนในท้องพระโรงแห่งนี้ตระหนักได้ว่า สงครามครั้งนี้แม้ว่าแคว้นเซี่ยจะได้รับชัยชนะกลับมา แต่ก็ต้องสูญเสียทั้งกำลังคนและกำลังทรัพย์ไปเป็นจำนวนมากเช่นกัน

“ดียิ่งนัก ครั้งนี้เจ้าทำผลงานไว้ได้ดีมาก ทหารทุกนายที่พลีชีพและเสียสละเพื่อแคว้นเซี่ย เจิ้นจะมอบรางวัลและตอบแทนความเสียสละครั้งนี้ของพวกเขาทุกคนอย่างเหมาะสมแน่นอน วันพรุ่งนี้เจิ้นจะจัดงานเลี้ยงเพื่อฉลองชัยชนะในครั้งนี้ เจ้ารีบกลับไปเตรียมตัวเถอะ”

เซี่ยเหวินหรงเมื่อเอ่ยถวายรายงานจบ ได้กลับไปยืนยังตำแหน่งของตนเอง เซี่ยเฟยหลงและขุนนางต่างถกราชการเช้ากันต่อไป หลังจากที่ประชุมเช้าเสร็จ เซี่ยเหวินหรงได้เดินทางไปขอเข้าเฝ้าไทเฮามู่อิงฮวา พระราชมารดาของฮ่องเต้เซี่ยเฟยหลง และเป็นพระมารดาเลี้ยงของเขาด้วย

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   บทที่ 2 เซี่ยเหวินหรง

    เซี่ยเหวินหรงนั้นถือกำเนิดมาจากฮ่องเต้รัชกาลก่อนกับพระสนมเอกเว่ยกุ้ยเฟย พระมารดาของเซี่ยเหวินหรงสิ้นพระชนม์ตั้งแต่เขาอายุได้เพียง 5 หนาวเท่านั้น มู่อิงฮวาที่ ณ เวลานั้นดำรงตำแหน่งฮองเฮาได้ทูลขอกับฮ่องเต้ขอรับเซี่ยเหวินหรงมาเลี้ยงดูคู่กันกับเซี่ยเฟยหลงซึ่งในเวลานั้นได้รับการแต่งตั้งเป็นรัชทายาทแล้วเซี่ยเหวินหรงอายุห่างกับเซี่ยเฟยหลงถึง 15 ปี ทำให้เซี่ยเฟยหลงอดจะเอ็นดูน้องชายคนนี้ไม่ได้ เช่นเดียวกับเซี่ยเหวินหรงเองก็มีความรักความผูกพันกับเซี่ยเฟยหลงและมู่อิงฮวามากเช่นกัน ทุกครั้งที่เขากลับมาจากสนามรบจะต้องแวะเวียนไปเยือนยังตำหนักหย่งเหิงซึ่งเป็นที่ประทับของไทเฮามู่อิงฮวาเสมอ“ท่านอ๋องเซี่ยเหวินหรงมาขอเข้าเฝ้าเพคะ”นางกำนัลหน้าตำหนักหย่งเหิงเอ่ยคำรายงาน เมื่อได้รับอนุญาตจากเจ้าของตำหนัก จึงได้ทูลเชิญเสด็จเซี่ยเหวินหรงให้เข้าไปยังด้านในทันทีภายนอกของตำหนักหย่งเหิงตกแต่งด้วยดอกไม้นานาพันธุ์จากทั่วทั้งแคว้น งดงามดั่งสวนสวรรค์ก็ไม่ปาน ด้านหลังยังมีสระน้ำขนาดเล็กที่มีปลาตัวน้อยหางสีสวยสดงดงามที่ได้รับมาจากต่างแดน ร่มเงาของตำหนักมีต้นท้อที่กำลังออกดอกบานสะพรั่งไปทั่วทั้งตำหนัก กล่าวได้ว่าตำห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   บทที่ 3 สมรสพระราชทาน

    “น้องหญิงรองรีบเกินไปหรือไม่ งานเลี้ยงจัดปลายยามอู่ นี่เพิ่งจะต้นยามเซิ่นเท่านั้นเอง น้องหญิงรองคงจะตื่นเต้นมากเกินไปเป็นแน่อายุ 17 หนาวแล้วแต่พึ่งจะเคยได้ออกงานใหญ่เป็นครั้งแรก”หยางซูมี่เหยียดยิ้มหวานปานน้ำผึ้ง แต่คำพูดนั้นกลับทำให้คนฟังรู้สึกเจ็บปวดใจ ด้วยฐานะของหยางเจียลี่เป็นเพียงแค่บุตรีที่ถือกำเนิดมาจากฮูหยินรองการที่หยางเจียลี่จะได้รับเทียบเชิญให้ไปร่วมงานเลี้ยงนั้นมีจนนับนิ้วได้ และโดยเฉพาะงานเลี้ยงในพระราชวังนั้น นี่ถือเป็นครั้งแรกที่นางจะได้ร่วมงานเลี้ยง นางจึงอดจะตื่นเต้นตามที่หยางซูมี่เอ่ยมิได้จริงๆ หยางเจียลี่ได้แต่กัดฟันยิ้มหวานเอ่ยตอบไป“เป็นเช่นนั้นเจ้าค่ะ น้องตื่นเต้นมากเกินไป ต้องขออภัยพี่หญิงใหญ่ด้วยนะเจ้าคะ”หยางซูมี่ทำเพียงโบกมือไปมาอย่างไม่ถือสา แล้วก้าวเดินขึ้นไปนั่งบนรถม้าโดยมีซินซินช่วยประคองเมื่อรถม้าตระกูลหยางจอดที่ด้านหน้าพระราชวัง ผู้คนโดยรอบต่างเมียงมองกันมาทางนี้ ภายในแคว้นเซี่ยนั้นตระกูลหยางนับเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ที่มีอำนาจอีกสามตระกูลคือ ตระกูลจ้าวของท่านแม่ทัพจ้าวซีซวน ตระกูลหม่าของฮองเฮาหม่าลี่อิง และตระกูลมู่ของไทเฮามู่อิงฮวา ทั้งสี่ตระกูลล้ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   บทที่ 4 คำสัญญา

    บทที่ 4คำสัญญา เมื่องานเลี้ยงเลิกราทุกคนต่างพากันแยกย้ายกลับจวน เหตุการณ์ในวันนี้นั้นทำให้ภายในรถม้าตระกูลหยางที่กำลังเดินทางกลับรู้สึกกังวลและอึดอัดใจ หยางหมิงนั้นรักฮูหยินเอกจ้าวอ้ายฉิงมาก แม้ว่านางจะจากไปได้หลายปีแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยคิดจะยกใครขึ้นมาแทนที่จ้าวอ้ายฉิงเลย บุตรชายหญิงที่เกิดจากจ้าวอ้ายฉิงเขาก็รักมากกว่าบุตรธิดาที่เกิดจากเสิ่นอี๋นั่วผู้เป็นภรรยารองของเขาเสียอีก สิ่งใดที่บอกว่าดีเขาล้วนสรรหามามอบให้หยางเฟยเทียนกับหยางซูมี่ก่อนเสมอ แต่นี่ฮ่องเต้กลับทรงมอบสมรสพระราชทานให้หยางซูมี่แต่งเข้าจวนชินอ๋อง ตัวเขาในฐานะที่เป็นขุนนางผู้เป็นข้ารองบาทจะกล้าเอ่ยปากปฏิเสธได้อย่างไรกัน แค่คิดว่าบุตรสาวของเขาจะต้องออกเรือนไป ใจของเขาก็พลันรู้สึกหนักอึ้งขึ้นมา “ท่านพ่ออย่าเพิ่งคิดมากเลยขอรับ การสมรสในครั้งนี้ของมี่เอ๋อร์อาจจะผลดีกับตัวนางก็เป็นได้”หยางเฟยเทียนเอ่ยปลอบผู้เป็นบิดา แม้เขาจะรู้สึกว่าการแต่งงานครั้งนี้เหมือนกับฮ่องเต้ทรงกำลังบีบคั้นตระกูลหยางก็ตามที แต่ว่าที่น้องเขยผู้เป็นถึงชินอ๋องนั้นเป็นคนที่อุปนิสัยใช้ได้เลยทีเดียว แม้ใบหน้าจะเงียบขรึมเย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   บทที่ 5 งานมงคล

    บทที่ 5งานมงคลนับจากพบหน้ากันครั้งนั้น หยางซูมี่ก็ไม่ได้พบเซี่ยเหวินหรงอีกเลย นางเพียงใช้ชีวิตไปอย่างปกติที่เพิ่มขึ้นมาคงจะมีเพียงการเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวเท่านั้นฮ่องเต้ทรงส่งหมัวมามาให้มาอบรมมารยาท และแจ้งลำดับขั้นตอนพิธีการแก่นาง ส่วนเรื่องพิธีการต่างๆ นั้น จะมีขันทีจากในวังมากำกับดูแลอีกที เรื่องสินสอด สินเจ้าสาวนั้นท่านพ่อให้พ่อบ้านหยางเป็นผู้จัดการแทนฮูหยินรองทั้งหมด โดยทุกเรื่องจะต้องแจ้งให้หยางหมิงทราบก่อน นี่คงเป็นโชคดีของร่างนี้ที่มีท่านพ่อและพี่ชายที่รักใคร่อย่างใจจริงจวนชินอ๋อง ไป๋เย่องครักษ์คนสนิทของเซี่ยเหวินหรงเดินถือม้วนกระดาษเข้ามาในห้องหนังสือ โดยไม่รอให้เจ้าของห้องรอนาน เขารีบยื่นม้วนกระดาษให้ทันที แล้วเดินถอยหลังเพื่อรอคอยคำสั่งต่อไป เซี่ยเหวินหรงนั่งอ่านอยู่ครู่ใหญ่กว่าจะเงยหน้าออกมาจากม้วนกระดาษ ในใจให้ขบคิดสงสัยถึงสิ่งที่เขียนอยู่ในนี้"ไป๋เย่ บุรุษที่ถอนหมั้นหวางเฟยของข้า มันมาจากตระกูลใด" เสียงทุ้มเข้มเอ่ยถามปลายเสียงติดเย็นชาเล็กน้อย"คุณชายใหญ่เสิ่นอวี้เหยาขอรับ""ตระกูลของฮูหยินรองหรือ" คิ้วคมเลิกขึ้นอย่างแปลกใจ"ขอรับ คุณชายใหญ่เสิ่นอวี้เหยาเป็นบุตรชายข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   บทที่ 6 คืนเข้าหอมีค่าดั่งทองพันชั่ง

    บทที่ 6คืนเข้าหอมีค่าดั่งทองพันชั่ง หยางหมิงประคองหยางซูมี่ให้ขึ้นขี่หลังหยางเฟยเทียนด้วยความระมัดระวัง เมื่อแน่ใจว่าปลอดภัยดีแล้ว หยางเฟยเทียนจึงลุกขึ้นเต็มความสูงของตนเอง แล้วเดินแบกหยางซูมี่เพื่อขึ้นไปนั่งที่เกี้ยว เซี่ยเหวินหรงลงมาจากหลังม้าเข้ามาเพื่อช่วยประคองหยางซูมี่ขึ้นเกี้ยวเจ้าสาว เมื่อเจ้าสาวเข้าไปนั่งในเกี้ยวเรียบร้อยแล้ว ขบวนเจ้าสาวก็ออกเดินทางเพื่อไปยังจวนชินอ๋องเซี่ยเหวินหรงขี่ม้านำขบวน ตามด้วยเกี้ยวเจ้าสาวที่มี 8 คนหาม นอกจากนี้ยังมีทหารจากกองทัพพยัคฆ์ทมิฬ 1,000 นายคอยอารักขาขบวนเจ้าสาว สินสอดที่เจ้าบ่าวมอบให้เจ้าสาวนั้นมีมากถึง 50 หีบท่านเสนาบดีหยางมอบให้หยางซูมี่ทั้งหมด รวมกับสินเดิมที่ท่านเสนาบดีหยางหมิงจัดเตรียมมาให้ด้วยนั้น อีก 50 หีบ รวมกันมากถึง 100 หีบ สร้างความตกตะลึงแก่ผู้ที่พบเห็น ตระกูลหยางนั้นให้ความสำคัญกับบุตรีผู้นี้จริงๆสองข้างทางล้วนเต็มไปด้วยฝูงชนที่มารอดูขบวนเจ้าสาว กว่าที่จะเดินทางมาถึงจวนชินอ๋องต้องใช้เวลาถึงครึ่งชั่วยามเมื่อถึงหน้าจวนชินอ๋อง เซี่ยเหวินหรงกระโดดลงมาจากหลังม้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-06
  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   บทที่ 7 มู่เหลียนฮวา

    บทที่ 7มู่เหลียนฮวา "อื้อ หนักจัง ต้าปิงเจ้าแมวอ้วนลุกออกไปจากท้องเลยนะ"หยางซูมี่พึมพำอย่างงัวเงีย คิ้วเรียวขมวดเพราะความอึดอัดที่ช่วงท้อง รู้สึกเหมือนมีอะไรทับ คิดว่าเป็นต้าปิงแมวอ้วนแสนรัก เอ๊ะ! แต่ต้าปิงไม่ได้ย้อนกลับมานี่น่าแล้วนางก็คือหยางซูมี่ไม่ใช่ไผ่หลิว แล้วอะไรทับท้องนัยน์ตากลมโตค่อยๆ ปรือตาขึ้นมอง แม้จะยังง่วงงุนอยู่มากแต่สิ่งที่เห็นก็คือแขนผู้ชายที่มาทับท้อง เมื่อเลื่อนสายตาไปพบหน้าอกแกร่ง ไล่ลงไปเป็นคอ ถัดไปเป็นปลายคาง ปากหยักหนา จมูกโด่งเป็นสัน และสายตาคมที่กำลังมองลงมา"ชินอ๋อง!"หยางซูมี่อุทานด้วยความตกใจจึงรีบลุกขึ้นนั่ง แต่ติดที่แขนแกร่งไม่ยอมปล่อยเอวคอดของนาง"เรียกท่านพี่"เซี่ยเหวินหรงเอ่ยเสียงเข้มเล็กน้อยที่ร่างบางเรียกยังเขาว่าชินอ๋อง"มี่มี่ลุกไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวจะต้องเข้าวังไปพบเสด็จพี่กับเสด็จแม่"เซี่ยเหวินหรงลุกขึ้นไปเรียกสาวใช้หน้าห้องให้มาปรนนิบัติ แล้วเดินหายเข้าไปหลังฉากกั้นเพื่ออาบน้ำหยางซูมี่ได้แต่มองตามเซี่ยเหวินหรงที่เดินหายเข้าไปหลังฉ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-06
  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   บทที่ 8 พบหน้าไทเฮา

    บทที่ 8พบหน้าไทเฮา เซี่ยเหวินหรงและหยางซูมี่เดินทางมาถึงตำหนักหย่งเหิงของไทเฮา เมื่อได้รับอนุญาตให้เข้าไปพบได้ ทั้งสองถวายความเคารพไทเฮาอย่างเต็มพิธีการ ฉีกงกงขันทีข้างกายของไทเฮาเดินถือถาดที่มีถ้วยน้ำชา 2 ใบ ยื่นให้ชินอ๋องกับพระชายาเซี่ยเหวินหรงกำลังยื่นถ้วยน้ำชาให้ไทเฮา แต่หันไปเห็นหยางซูมี่ถือถ้วยน้ำชาด้วยมืออันสั่นเทา อีกทั้งยังมีควันลอยกรุ่นออกมาจากถ้วยน้ำชา เห็นได้ชัดว่าถ้วยน้ำชาของหยางซูมี่นั้นร้อนมากเซี่ยเหวินหรงใช้มืออีกข้างหยิบถ้วยน้ำชาของหยางซูมี่ แล้วจงใจวางลงในถาดที่ฉีกงกงถือไว้อย่างแรง จนทำให้น้ำชาที่ร้อนนั้นกระเด็นไปโดนมือของฉีกงกง จนเผลอปล่อยถาดร่วงตกลงมา น้ำชาร้อนหกรดลวกขาฉีกงกงเซี่ยเหวินหรงเพียงปรายตามองฉีกงกงด้วยรอยยิ้ม บังอาจนักกล้ามาแตะต้องมี่มี่ของเขา“ลูกต้องขอประทานอภัยเสด็จแม่ด้วยพ่ะย่ะค่ะ น้ำชาในถ้วยของหวางเฟยนั้นร้อนมาก ฉีกงกงคงชราเกินไปจนไม่ทันได้ตรวจดูให้ดีก่อน หวางเฟยของลูกมีความอดทนจึงไม่ทำให้น้ำชาร้อนพลาดไปหกใส่เสด็จแม่มิเช่นนั้นคงอาจจะทำให้ผิวของเสด็จแม่มีรอยแผลเป็นได้”เซี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-07
  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   บทที่ 9 กลับบ้านเดิม

    บทที่ 9กลับบ้านเดิม สามวันหลังแต่งงาน หนึ่งวันก่อนออกเดินทางไปชายแดนเหนือเซี่ยเหวินหรงพาหยางซูมี่มาเยี่ยมบ้านเดิมหลังจากแต่งงานได้สามวัน ซึ่งเป็นธรรมเนียมของคู่บ่าวสาวที่เจ้าบ่าวต้องพาเจ้าสาวกลับมาเยี่ยมบ้านเดิม ทั้งสองเดินทางมาถึงจวนตระกูลหยางตั้งแต่ยามเฉิน ทุกคนในจวนตระกูลหยางต่างออกมารอต้อนรับชินอ๋องกับพระชายาหยางหมิงยืนอยู่ด้านหน้า ถัดมาเป็นหยางเฟยเทียน เสิ่นอี๋นั่ว หยางฟางหรง หยางเจียลี่ และบรรดาบ่าวรับใช้ทั้งหมด เมื่อทั้งสองลงมาจากรถม้า ทุกคนต่างยอบกายถวายความเคารพตามบรรดาศักดิ์ฐานะหยางซูมี่รีบเข้าไปประคองท่านพ่อและพี่ชายให้รีบลุกขึ้น นางไม่ชินกับการที่ทุกคนต้องมาถวายความเคารพเช่นนี้เลยแม้จะทำตามตำแหน่งฐานะพระชายาชินอ๋องก็ตาม“เชิญเสด็จเข้าไปด้านในดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ”หยางหมิงเสนอให้ทั้งสองเข้าไปด้านในจะดีกว่า เพราะในเวลานี้ที่ด้านนอกจวนล้วนมีชาวบ้านที่มามุงดูกันหลายคนนัก เซี่ยเหวินหรงตรงเข้าไปจูงมือหยางซูมี่เดินเข้าไปในเรือนหลักคล้อยหลังทั้งสองคนเดินจากไป มีสายตาริษยาที่มองมาด้วยความร้อนรุ่ม ย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-07

บทล่าสุด

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   ตอนพิเศษ 4 (ตอนปลาย)

    ตอนพิเศษ 4 (ตอนปลาย) “คุณหนูกู่เกรงใจเกินไปแล้ว ในฐานะตัวแทนของฝ่าบาทพวกข้าต้องมาร่วมยินดีอยู่แล้ว”หยางซูมี่เดินเข้างานไปเลย ไม่ได้สนใจสตรีนางนี้มากนัก ทำเพียงเหมือนกับว่านางไม่คู่ควรที่จะให้พระชายาเช่นนางต้องมาเสวนาด้วย กู่เจียอีได้แต่ลอบกำมือแน่น คอยดูเถอะวันนี้ข้าจะเหยียบหน้าจมให้จมดิน และจะกลายมาเป็นพระชายาของชินอ๋องให้จงได้“เจ้าอยากเล่นกับนางหรือไม่” เซี่ยเหวินหรงหันมาเอ่ยถามภรรยาคนงาม“ให้บทเรียนกับนางเบาๆ ก็พอเจ้าค่ะ” หยางซูมี่หันมายิ้มเจ้าเล่ห์ใส่พระสวามีงานเลี้ยงในจวนเจ้าเมืองวันนี้ กลับพบว่าขณะที่ทั้งหมดกำลังสนุกสนานกันภายในงานเลี้ยงนั้น กลับพบว่าคุณหนูกู่เจียอีผลัดตกลงไปในสระน้ำ แต่โชคดีที่มีคุณชายท่านหนึ่งช่วยเอาไว้ได้ แต่เพราะตอนเปียกน้ำทำให้ทั้งสองได้แนบชิดกัน และด้วยอาภรณ์ของกู่เจียอีนั้นที่เป็นสีขาว ทำให้มองเห็นเรือนร่างของนาง จนมองเห็นไปถึงเอี๊ยมตัวใน และคุณชายผู้นี้ก็ได้แตะต้องนางไปแล้วแม้ว่าจะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม ด้วยเหตุนี้ในหนึ่งเดือนต่อมาจึงได้เกิดงานมงคลขึ้นกู่เจียอีได้แต่งเข้าไปเป็นฮูหยินรอง เน

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   ตอนพิเศษ 4 (ตอนต้น)

    ตอนพิเศษ 4 (ตอนต้น) หลังจากงานแต่งผ่านไปได้หนึ่งเดือน คนในตระกูลหยางนำโดยท่านเสนาบดีหยางหมิงได้เดินทางกลับเมืองหลวง พวกเขานั้นได้จากเมืองหลวงมานานมากแล้ว สมควรต้องไปจัดการงานที่ค้างคาเอาไว้ แม้จะเสียดายที่หยางซูมี่กับเซี่ยเหวินหรงไม่ได้กลับไปด้วยก็ตาม“ท่านพ่อเดินทางกลับดีๆ นะเจ้าคะ อีก 3 เดือนลูกจะกลับเมืองหลวงพร้อมท่านอ๋องเจ้าค่ะ”“ดูแลตัวเองดีๆ ด้วยมี่เอ๋อร์ ข้าน้อยขอฝากบุตรสาวด้วยพ่ะย่ะค่ะ” ประโยคท้ายหยางหมิงหันไปเอ่ยกับเซี่ยเหวินหรง“ท่านพ่อตาอย่าได้เป็นห่วง มี่เอ๋อร์อยู่กับข้าย่อมต้องปลอดภัย”เซี่ยเหวินหรงให้คำมั่น ทั้งสองยืนส่งจนขบวนรถม้าเคลื่อนตัวห่างไปเรื่อยๆ“พี่ต้องกลับไปยังจวนเจ้าเมืองเพื่อพบหน้ากับเจ้าเมืองคนใหม่ เจ้าอยู่ที่นี่ดีๆ แล้วพี่จะรีบกลับมา” เซี่ยเหวินหรงลูบหัวหยางซูมี่ด้วยความเอ็นดู“เจ้าค่ะท่านพี่”หยางซูมี่พยักหน้ารับ แล้วเขย่งปลายเท้ายื่นหน้าไปจูบแก้มสาก จนใบหูของเขาขึ้นสีแดงก่ำ“รีบกลับมานะเจ้าคะ ข้าจะรออาบน้ำพร้อมกับท่านพี่”หยางซูมี่ขยิบตาใส่เซี่ยเหวินหรง

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   ตอนพิเศษ 3 (ตอนปลาย)

    ตอนพิเศษ 3 (ตอนปลาย) เซี่ยเหวินหรงเองก็รีบปลดอาภรณ์ของเขาออกเช่นกัน ร่างกายสูงใหญ่ไร้อาภรณ์ปกปิดกาย มองเห็นกล้ามหน้าท้องหนั่นแน่นที่เป็นลอนสวยอย่างคนที่ออกกำลังกาย ตรงกึ่งกลางเห็นแท่งหยกที่เริ่มจะขยายตัวอวดความศักดิ์ดาของตน หยางซูมี่ลอบกลืนน้ำลายเมื่อเห็นแท่งหยกของเขาหยางซูมี่เนื้อตัวแดงก่ำด้วยความเขินอาย แม้จะเคยร่วมรักกับเขามาหลายครั้ง แต่นางกับเขาก็ห่างหายกันไป 2 ปีกว่า นางจึงรู้สึกประหม่ามากนัก แต่เพราะไม่อยากจะให้เขารู้ว่านางนั้นเขินอายมากเพียงใด จึงทำใจกล้าเงยหน้ามองร่างสูง ยกยิ้มอ่อนหวานแล้วเอื้อมมือไปปลดสายผูกเอี๊ยมออก ทำให้ปราการชิ้นสุดท้ายหลุดร่วงลงมา มองเห็นก้อนเต้าหู้อวบอิ่มสองก้อนและเม็ดทับทิมสีชมพูระเรื่อเซี่ยเหวินหรงไม่อาจจะอดใจได้อีกต่อไป เขาช้อนร่างบางของหยางซูมี่อุ้มลงไปในถังอาบน้ำด้วยกัน เขานั่งพิงขอบอ่างให้หยางซูมี่นั่งบนตักแกร่ง มือข้างหนึ่งบีบสะโพกกลมกลึง อีกข้างก็ยื่นไปข้างหน้ากอบกุมก้อนเต้าหู้บีบคลึงอย่างอ่อนโยน นิ้วชี้เขี่ยเม็ดทับทิมสีชมพูจนตั้งช่อชูชันขึ้นมา“อ๊าาาา ท่านพี่”เซี่ยเหวินหรงจับร่างบางหั

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   ตอนพิเศษ 3 (ตอนต้น)

    ตอนพิเศษ 3 (ตอนต้น) ขบวนเจ้าบ่าวนำโดยชินอ๋องเซี่ยเหวินหรง พระองค์ขี่อาชาโลหิตสีขาวนำขบวนสินสอดมากกว่า 100 หีบ โดยมีทหารของกองทัพพยัคฆ์ทมิฬคอยดูแล แม้ว่าหยางซูมี่จะเอ่ยว่าต้องการจัดงานแต่งงานแบบเรียบง่ายแต่เมื่อฮ่องเต้เซี่ยเฟยหลงทรงทราบก็รีบส่งม้าเร็วนำราชโองการสมรสพระราชทานมามอบให้ ทั้งยังระบุว่าชินอ๋องจะมีหยางซูมี่เป็นพระชายาแต่เพียงผู้เดียวจวบจนทั้งคู่สิ้นอายุขัยข่าวการแต่งงานครั้งที่สองของทั้งคู่แพร่สะพัดไปทั่วแคว้นเซี่ย บางคนต่างก็ยินดีที่ทั้งสองกลับมาใช้ชีวิตร่วมกัน แต่บางคนก็ค่อนขอดที่ทั้งสองเลิกรากันไปแล้วแต่ยังกลับมาแต่งงานกันอีกครั้ง ไม่ว่าผู้คนจะพูดกันอย่างไร แต่เจ้าบ่าวเจ้าสาวก็หาได้สนใจไม่ เพราะทั้งคู่ได้ตกลงใจที่จะกลับมาใช้ชีวิตร่วมกันอีกครั้ง คำพูดของผู้อื่นหาได้สลักสำคัญกับพวกเขาทั้งสองคนไม่เซี่ยเหวินหรงขี่ม้ามาหยุดที่หน้าประตูบ้านพักของหยางซูมี่ เมื่อเขาเดินเข้าไปยังห้องโถงหลักก็พบว่าหยางซูมี่นั้นยืนรอเขาอยู่ก่อนแล้ว วันนี้นางสวมชุดสีแดงมงคลปักลายหงส์สยายปีก และมีผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวสีแดงสวมทับเอาไว้ที่ศีรษะ ทำให้เขาไม่

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   ตอนพิเศษ 2

    ตอนพิเศษ 2 ริมชายหาดแห่งหมู่บ้านผิงอัน มีสตรีร่างบอบบาง กับบุรุษร่างสูงใหญ่นั่งอิงแอบกันอยู่ใต้ต้นมะพร้าว สายตาทั้งคู่ทอดมองออกไปยังน้ำทะเลใสสีเขียวมรกต หาดทรายสีขาวละเอียด ลมทะเลพัดมาเป็นระยะๆ คล้ายกับกำลังปลอบประโลมคนทั้งคู่ ทั้งสองปล่อยให้จิตใจได้ซึมซับกับธรรมชาติที่สวยงามนี้“เจ้ามาที่นี่ตั้งแต่เมื่อใด” เซี่ยเหวินหรงหันมาเอ่ยถามในสิ่งที่เขาสงสัย“ข้ามาถึงเมื่อสามวันก่อนเจ้าค่ะ ข้าตั้งใจมาทำให้ท่านแปลกใจเล่น” หยางซูมี่เอ่ยพลางหัวเราะ นัยน์ตาพราวระยับดั่งดวงดารา“รู้หรือไม่ว่าทำข้าเป็นห่วง ตอนที่ข้ารู้ว่าเจ้าหายตัวไป”เซี่ยเหวินหรงเอื้อมมือไปบีบจมูกโด่งรั้นอย่างมันเขี้ยว“ข้าเจ็บนะเหวินหรง”หยางซูมี่หันมาดุเขาอย่างไม่จริงจังนัก เซี่ยเหวินหรงเอื้อมมือไปกอบกุมที่มือขาวบางอย่างทะนุถนอม“ข้าไม่คิดว่าจะได้เจอเจ้าเร็วถึงเพียงนี้ ที่นี่มีเรื่องให้ข้าจัดการมากมายนัก ข้ายังคิดว่าอย่างเร็วก็คงอีกสักปีสองปีถึงจะกลับไปหาเจ้าที่เมืองหลวงได้”“ข้ารู้ว่าท่านทำงานหนักมากเพียงได ดูสิชินอ๋องผู้สง่างามกลายร่

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   ตอนพิเศษ 1

    ตอนพิเศษ 1 2 ปีต่อมาชายแดนใต้ของแคว้นเซี่ยที่ติดกับทะเล เมื่อ 2 ปีก่อนมีการค้าเกลือเถื่อนเกิดขึ้น เซี่ยเหวินหลินที่ได้ออกมาจัดการนั้น กลับจัดการแบบปล่อยผ่าน อนึ่งเพราะมีผลประโยชน์ร่วมกับพ่อค้าที่ค้าเกลือเถื่อนแต่หลังจากที่ชินอ๋องเซี่ยเหวินหรงจัดการปราบปรามกบฏได้หมดสิ้น จึงได้ทูลขอฮ่องเต้เซี่ยเฟยหลงมาปราบปรามการค้าเกลือเถื่อน และมาจัดระบบการปกครองใหม่ของชายแดนใต้ ซึ่งฮ่องเต้ก็ได้ออกพระราชโองการมอบอำนาจทุกอย่างให้ชินอ๋องเป็นผู้จัดการทั้งหมดตลอดเวลากว่าสองปีที่ผ่านมานี้เซี่ยเหวินหรงออกรบไปปราบปรามโจรสลัดทั้งในน่านน้ำ และบนเรือ โจรสลัดนั้นชอบขึ้นมาดักปล้นฆ่าชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมชายฝั่ง แต่หลังจากที่ชินอ๋องมาโจรสลัดก็หนีหายไปหมดด้วยหวาดเกรงชินอ๋องนอกจากจะปราบโจรสลัดแล้ว เซี่ยเหวินหรงยังต้องเข้ามาปราบปรามพ่อค้าเกลือเถื่อน และยังต้องมาจัดระเบียบเมืองหนานผิงใหม่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเจ้าเมืองหนานผิงปกครองเมืองชายแดนใต้อย่างไร้ความยุติธรรม กดขี่ข่มเหงชาวเมืองหนานผิง ทหารประจำเมืองก็ชอบรีดไถจากชาวบ้าน เรียกร้องค่าคุ้มครอง หากครอบค

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   บทที่ 67  จุดจบ (ตอนปลาย)

    บทที่ 67 จุดจบ (ตอนปลาย) “ถ้าเช่นนั้น ท่านก็คงเป็นผู้ที่นำแท่งเหล็กรูปพระอาทิตย์ที่เป็นเครื่องหมายประจำเผ่าหูเจี๋ยน่ามอบให้ไทเฮาเช่นนั้นสินะ”“ใช่แล้ว เป็นข้าเอง นางอยากจะทำให้ร่างกายของเจ้ามีมลทิน ข้าเลยเสนอวิธีนี้และมอบแท่งเหล็กร้อนนั้นให้กับนางเอง ฮ่าฮ่าฮ่า”เซี่ยเฟยหงหัวเราะออกมาด้วยความสาสมใจ ชินอ๋องที่แกร่งกล้ากลับมีตราประทับอยู่บนร่างกาย ช่างน่าอดสู่ยิ่งนัก“ส่วนท่านก็เป็นคนคอยชื่นชมข้า เพื่อหวังให้ไทเฮาหวาดระแวงข้าใช่หรือไม่” เซี่ยเหวินหรงหันไปถามไป๋วั่งซู“ทุกแผนการต้องมีผู้เสียสละเสมอพ่ะย่ะค่ะ”ไป๋วั่งซูเอ่ยตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก เพราะอีกไม่นานศีรษะของเขาก็จะไม่อยู่บนบ่าแล้ว“เช่นนั้นก็ดี ข้าจะได้หมดความสงสัยเสียที ทหาร! นำเข้ามา”เซี่ยเหวินหรงเอ่ยสั่งเสียงเหี้ยม ไม่นานก็มีทหารกว่า 10 นายเดินเข้ามา มีหนึ่งนายถือกระถางไฟ และอีกหนึ่งนายถือแท่งเหล็กที่ตรงปลายหล่อหลอมเป็นรูปพระอาทิตย์เฉกเช่นดั่งรอยแผลเป็นของเซี่ยเหวินหรง“จัดการซะ” เซี่ยเหวินหรงเอ่ยเสียงเหี้ยม“พ่ะย่ะค่ะ

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   บทที่ 66 จุดจบ (ตอนต้น)

    บทที่ 66จุดจบ (ตอนต้น) เหตุการณ์ในท้องพระโรงในวันนี้ ถูกพูดถึงเป็นวงกว้างในหมู่ครอบครัวของขุนนาง เรื่องราวในครั้งนี้หนักหนายิ่งนัก นอกจากจะเป็นเรื่องของกบฏ ยังมีเรื่องการปรากฏตัวของเซี่ยเฟยหงและไป๋วั่งซู เรื่องของไทเฮาสตรีที่ได้ขึ้นชื่อว่าเคยเป็นโฉมงามอันดับหนึ่ง และยังเคยเป็นมารดาของแผ่นดิน ซึ่งตอนนี้ก็เป็นถึงไทเฮาพระมารดาของฮ่องเต้ แต่กลับทำตัวเฉกเช่นหญิงแพศยา สวมหมวกเขียวให้พระสวามี จนถึงขนาดวางยาฆ่าพระสวามีของตนเองผู้เป็นถึงฮ่องเต้เรื่องราวครั้งนี้สะเทือนฟ้าสะเทือนดินเป็นอย่างมาก ลุกลามใหญ่โตจนกระทั่งล่วงรู้ไปถึงราษฎรแห่งแคว้นเซี่ย มีบัณฑิตร่วมออกมาประท้วงเขียนฎีกาเพื่อขอให้ฮ่องเต้ลงโทษไทเฮา จวนตระกูลมู่ตอนนี้ถูกปิดตายไปแล้ว แต่กลับถูกเหล่าชาวบ้านพากันมาโยนก้อนหินและเศษผักเน่าเข้ามาในจวน จนส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วเช่นเดียวกับที่ชายแดนที่คนของตระกูลมู่เองก็ถูกเหล่าทหารและผู้คุมคอยกลั่นแกล้ง ด้วยรังเกียจคนตระกูลมู่ จนกระทั่งมีอดีตเจ้านายหลายคนทนความอัปยศไม่ไหว ตัดสินใจผูกคอฆ่าตัวตายไป รวมถึงมู่เจ๋อจ้านและเจียงเจี๋ยอีมู

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   บทที่ 65 อดีตขององค์ชายผู้สาบสูญ (ตอนปลาย)

    บทที่ 65 อดีตขององค์ชายผู้สาบสูญ (ตอนปลาย) แต่หลังจากนั้นเพียงหนึ่งปีก็มีข่าวออกมาว่าลี่เหมยผูกคอตายที่ตำหนักเย็น เขาเสียใจเป็นอย่างมากด้วยความมึนเมาในฤทธิ์สุราจึงลอบเข้ามาหามู่อิงฮวา เขาเข้ามาตัดพ้อต่อว่ามู่อิงฮวา แต่เพราะความเมาจึงทำให้เขาได้มีความสัมพันธ์กับมู่อิงฮวา นับจากนั้นเป็นต้นมาเขาจึงได้ลอบเสพสังวาสกับมู่อิงฮวาเรื่อยมา ส่วนหนึ่งก็เพื่อแก้แค้นเสด็จพี่ของเขา ลอบสวมหมวกเขียวให้พี่ชายของตนเองหลังจากที่ลี่เหมยตายไป จึงได้กลับไปหานายท่านตระกูลกู้ บอกเพียงว่าตระกูลของเขาได้ตายกันไปหมดแล้ว จึงกลับมาขอนายท่านกู้ทำงาน นายท่านกู้นั้นเห็นว่าเขาฉายแววฉลาดเฉลียวจึงสอนงานทุกอย่างให้แก่เขา เพียงไม่นานก็ได้ขึ้นมาเป็นมือขวาของนายท่านกู้ด้วยรูปโฉมหล่อเหลา และความสุภาพของเขานั้น จึงสามารถทำให้บุตรสาวของนายท่านกู้ ผู้มีนามว่าเฉินเย่วเล่อหลงรักได้ เหตุที่เฉินเย่วเล่อไม่ได้ใช้แซ่กู้เพราะว่ามารดาของนางได้ขอไว้ ด้วยความรักที่นายท่านกู้มีต่อภรรยา เขาจึงได้ยินยอมให้บุตรสาวใช้แซ่ 'เฉิน' ในที่สุดเขาจึงได้แต่งงานกับเฉินเย่วเล่อ มีบุตรสาวด้วยกันหนึ่งคนนามว่า กู

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status