สามี(39)
(คบกันไหม?)
คำนี้ที่ยังดังก้องกระหึ่มอยู่ในหูตั้งแต่ที่ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นในขณะขับรถ สายตาคมเข้มของชายหนุ่มพรางหันมามองในบางจังหวะ เพราะสายตาต้องมองถนนไปด้วย...แต่สิ่งที่อยู่ในใจเขาก็อยากรีบพูดเช่นกัน
"พี่เจ~~" หญิงสาวเอื้อนเอ่ยอย่างแผ่วเบา ไม่คิดว่าคำขอนี้จะได้ยินในเวลาอันรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน สายตาหวานมองชายหนุ่มด้วยแววตาที่ไม่อาจคาดเดา บางคราก็เหมือนจะซาบซึ้งแต่ในบางครั้งก็เหมือนเศร้าสร้อย ความรู้สึกของแววตาที่ชายหนุ่มนั้นสัมผัสได้
"แนนไม่โอเคใช่ไหม?" ชายหนุ่มที่บังคับพวงมาลัยเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เหมือนหมดหวัง สีหน้าที่แสดงออกมานั้นมีรอยยิ้มแต่มันเป็นรอยยิ้มที่ฝืน ๆ
"พี่เจ...คือว่า....." หญิงสาวนั่งก้มหน้าคำพูดที่อยู่ในลำคอมันไม่สามารถกลั่นกรองออกมาได้ แม้ความรู้สึกข้างในของเธอมันจะรู้สึกดีไม่น้อยกับการขอคบหาที่ได้ยิน
"อย่างที่เคยบอกความรู้สึกแนนไป พี่ยังยืนยันคำเดิมนะ" ชายหนุ่มพูดบอกพร้อมกับหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าสู่บริเวณที่พักของหญิงสาว
.....เด็กหญิงที่นั่งฟังผู้ใหญ่ทั้งสองพูดคุยกันเธอหันมองหน้าสลับไปมาอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่ผู้ใหญ่กำลังคุยกัน แต่ก็ตั้งใจที่จะฟังเงียบ ๆ โดยไม่แทรกแต่อย่างใด แม้จะสงสัยอยู่ก็ตามที
"แนนไม่ใช่คนอย่างที่พี่เจเห็นตอนนี้หรอกนะคะ....แนนไม่มีอะไรคู่ควรกับพี่สักนิด....แนนคงไม่กล้าที่จะเอื้อมมือไปจับพี่เจหรอกค่ะ" เสียงเงยหน้ามองชายหนุ่มแล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้า บรรยายความรู้สึกข้างในที่เธอนั้นมี เมื่อชีวิตที่เธอเป็นนั้นไม่มีสิ่งใดคู่ควรกับชายที่นั่งเคียงข้างแม้แต่น้อย
"อะไรที่แนนบอกไม่คู่ควร ฐานะ? หน้าตาทางสังคม? หรืออะไรที่แนนเอามาตัดสินพี่..." ชายหนุ่มจอดรถยนต์สนิทแล้วหันมาย้อนถามหญิงสาว ที่ตอนนี้สีหน้าเศร้าหมองดวงตากลมสวยเริ่มสั่นระริก
"พี่แนนอย่าร้องไห้ค่ะ...คูมพ่อยังไม่ได้ดุเลยนะคะ" เด็กหญิงไอติมที่นั่งเงียบมองผู้ใหญ่ทั้งสองนั้นคุยกันด้วยท่าทางจริงจัง เธอเอ่ยขึ้นเมื่อเริ่มเห็นอาการผิดปกติของหญิงสาว ดวงตาที่เริ่มแดงดั่งคนกำลังจะร้องไห้
"เปล่าค่ะน้องไอติม....พี่แนนไม่ได้ร้องไห้" หญิงสาวไม่สนใจในสิ่งที่ชายหนุ่มย้อนถาม เมื่อมีเสียงเล็ก ๆ ดังแทรกขึ้นจึงสนใจเด็กหญิงมากกว่า เพราะว่าเธอนั้นก็ไม่สามารถอธิบายได้เช่นกันกับคำถามของเขา
"น้องไอติมพ่อขอคุยกับพี่แนนหน่อยนะคะ" ผู้เป็นพ่อบอกกล่าวลูกสาว เมื่อตอนนี้เขาต้องการความจริงจังเพราะสิ่งที่อยู่ในใจมันล้นอกออกมาแล้วจนไม่อาจเก็บกั้น
.....เด็กหญิงเข้าใจในสิ่งที่ผู้เป็นพ่อว่ากล่าว เธอขยับตัวเองย้ายไปนั่งที่เบาะหลังอย่างว่าง่าย ไร้การงอแงใด ๆ เมื่อเห็นสีหน้าของผู้เป็นพ่อและน้ำเสียงพูดที่เข้มจริงจัง เธอได้แต่นั่งนิ่งมองผู้ใหญ่ทั้งสองจ้องหน้ากันแต่ยังไม่มีใครพูดอะไร
"อะไรที่แนนตัดสินว่าไม่คู่ควรกับพี่อย่างนั้นเหรอ....แนนบอกพี่ได้ไหม?" ชายหนุ่มปลดเข็มขัดนิรภัย เอียงตัวเล็กน้อยให้ถนัดที่จะมองหน้าหญิงสาวที่ตอนนี้ดวงตาของเธอสั่นระริกเหมือนจะร้องไห้ แต่ยังเก็บกั้นอาการไว้อย่างพยายาม
"แนน...แนนกลัวคนมองพี่ไม่ดี หากแนนคบกับพี่ภาพลักษณ์ของพี่อาจจะหมองหม่นเพราะคนแบบแนนก็ได้" หญิงสาวให้เหตุผลในสิ่งที่เธอคิด แต่กับเขานั้นไม่ใช่สักนิด เขาไม่เคยคิดเรื่องภาพลักษณ์ภายนอกกาย เขายึดมั่นสิ่งที่อยู่ในใจและความรู้สึกที่มีต่อกัน ขอแค่รักกัน รักลูกสาวของเขาและยอมรับผู้ชายลูกติดเช่นเขาได้เท่านี้มันก็เพียงพอแล้ว
"แนนพี่จริงจังนะ.....พี่ไม่เคยคิดแบบนั้นสักนิด.....อ๋อ พี่เข้าใจแล้วล่ะ สิ่งที่แนนพูดออกมาแท้จริงแล้วคงรับผู้ชายลูกติดมีตำหนิแบบพี่ไม่ได้สินะ...." ชายหนุ่มพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เศร้าสร้อยและตัดพ้อตัวเอง ผู้ชายมีตำหนิแถมมีลูกติดเช่นเขาสาวแรกรุ่นที่ไหนจะมาเหลียวแล
"ไม่ใช่นะคะ....แนนไม่ได้คิดแบบนั้น" หญิงสาวพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ตระหนก เมื่อได้ยินคำพูดที่แสนจะตัดพ้อความรู้สึก ในใจของเธอก็รู้สึกไม่ต่างกันกับเขา เธอมีใจให้เช่นกันด้วยความรู้สึกที่มีแต่แรกเริ่มแค่ไม่กล้าแสดงออกมาด้วยเจียมตนว่าไม่คู่ควรกับเขา เพราะเธอนั้นด้อยค่า เป็นเด็กกำพร้าที่เติบโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จนเติบโตมาพอที่จะหาเลี้ยงและส่งตัวเองเรียนได้นั้นลำบากแทบขาดใจ แต่ด้วยความใฝ่ดีและสอบชิงทุนได้ เธอจึงได้เรียนในระดับปริญญา ทำงานพาร์ทไทม์ในวันหยุดหรือเวลาเลิกจากฝึกงานเลี้ยงชีพ
"พี่ก็ไม่ได้คิดแบบที่แนนพูดเช่นกัน" ชายหนุ่มย้อนแย้งขึ้นด้วยน้ำเสียงเข้ม เอี้ยวตัวนั่งมองตรงไม่สบตาหรือมองหน้าเธอ เมื่อเขานั้นเหมือนจะสิ้นหนทางเพราะเธอนั้นเอาแต่ปฏิเสธความรู้สึกที่เขามีให้
"พี่เจ อึก ฮึก....แนน อึก แนนไม่มีพ่อแม่...แนนโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แนนไม่ได้มีค่าคู่ควรกับพี่เลยสักนิด" น้ำเสียงเศร้าเคล้าเสียงสะอื้นไห้ น้ำตาพร้อมรินไหลเสมอชีวิตที่เธอประสบพบเจอทำให้ไม่สามารถเก็บกั้น....เธอชอบชายหนุ่มตรงหน้าเช่นกันรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ ..... แต่คำว่าไม่คู่ควรมันสะกิดให้เธอนั้นย้ำเตือนตัวเองว่าเธอกับเขานั้นแตกต่างกัน....ชายหนุ่มที่ได้ยินน้ำเสียงผิดแปลกไปจำต้องหันมามอง เขามองเธอด้วยแววตาที่ต้องการปลอบประโลม สิ่งที่เธอบอกเล่ามาทำให้หัวใจของเขานั้นสั่นระรัว และน้ำเสียงร้องไห้ น้ำตาที่รินไหลทำให้เขาอยากจะกอดปลอบ
....สองแขนแกร่งไม่รีรอต่อการกระทำ หัวใจมันสั่งว่าให้โอบกอดหญิงตรงหน้าที่ร้องไห้มือปิดหน้าด้วยความเศร้า ฝ่ามือหนาลูบหลังหญิงสาวอย่างแผ่วเบา เป็นสัมผัสของการปกป้องที่อบอุ่นหัวใจ มันยิ่งทำให้หญิงสาวนั้นร้องไห้หนักด้วยความซาบซึ้ง
"พี่ไม่เคยตำหนิชีวิตใครว่าเป็นยังไง....สิ่งที่พี่ใช้ตัดสินนั้นคือหัวใจ พี่ใช้หัวใจมองคนที่รักไม่ใช่ดวงตา...พี่จะไม่บังคับให้แนนตอบรับตอนนี้ แต่อย่าเพิ่งปฏิเสธพี่ได้ไหมครับ" ชายหนุ่มโอบกอดหญิงสาวพร้อมพูดสาธยายความรู้สึกลึก ๆ ข้างใน ละกอดจากหญิงสาวพร้อมกับนิ้วมือลูบเช็ดน้ำตาให้เธอเบา ๆ ดวงตาสองคู่มองกันด้วยความหวั่นไหว หัวใจก็เต้นแรงอย่างไม่อาจหักห้ามความรู้สึกได้เมื่อสองใจนั้นตรงกัน
"งืออออ ฮืออออ งื้ออออ" อยู่ ๆ เสียงแหลมเล็กก็ร้องขึ้น ทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสองที่กำลังซึ้งใจหันมามองด้วยความตกใจ
"น้องไอติมหนูเป็นอะไรลูก....ร้องไห้ทำไมคะ?" ผู้เป็นพ่อเอ่ยถามกับอาการของลูกสาวตัวกลม
"พี่แนนร้องไห้ค่ะคูมพ่อ...อึก ฮึก ฮือออ" เด็กหญิงบอกกล่าว
"แล้วยังไง พ่อไม่เข้าใจ?"
"กลัวพี่แนนไม่มีเพื่อน น้องไอติมเลยร้องไห้เป็นเพื่อนพี่แนนค่ะ อึก ฮึก" เด็กหญิงคลายความสงสัยให้แก่ผู้ใหญ่ทั้งสองที่จ้องมองมาทางเธออย่างรอคำตอบ
((ฮ่าฮ่า...อึก ฮึก...คิก คิก ฮ่า))
คำตอบที่ได้ยินทำให้ทั้งเขาและเธอรวมถึงเจ้าของเสียงร้องไห้หัวเราะร่ากับความเดียงสาของเด็กหญิงที่แสนจะน่ารัก
"คบกับพี่นะครับ" เมื่อหัวเราะจนพอใจและเด็กหญิงมีรอยยิ้ม ชายหนุ่มจึงหันหน้ากลับมาแล้วเอ่ยร้องขอต่อหญิงสาวด้วยสีหน้าจริงจัง แต่น้ำเสียงที่เอื้อนเอ่ยนั้นละมุนเหลือแสน
"อืม" หญิงสาวตอบรับทั้งน้ำตาด้วยความเต็มใจและซาบซึ้งอย่างมาก คำพูดที่หนักแน่นความอบอุ่นละมุนที่เขาแสดงต่อเธอมันทำให้อคติในใจนั้นมลายหายไป
"ขอบคุณนะครับ...ที่ไม่รังเกียจผู้ชายลูกติดอย่างพี่" ชายหนุ่มโผเข้ากอดหญิงสาวด้วยความดีใจ กอดแน่นเพื่อให้เธอนั้นสัมผัสได้ถึงหัวใจของเขาที่มี
"รักกัน ๆ ....น้องไอติมกอดด้วยค่ะ" เด็กหญิงที่หยุดร้องไห้กระโจนกอดคอผู้ใหญ่ทั้งสองด้วยความประสา ไม่รู้ความหมายของการโอบกอดนี้ด้วยซ้ำ แต่เธอก็อยากที่จะมีส่วนร่วมในกิจกรรมความรักนี้
"น้องไอติมเรียกแม่แนนสิ" ชายหนุ่มพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มของความปลื้มใจ
"เย้ ๆ เรียกแม่แนนได้แล้ว.....คูมแม่แนนขา"
สามี (40)หลายวันผ่านไป....กับการที่ชายและหญิงตกลงคบหาดูใจกัน แนนยังคงสถานะเด็กฝึกงานเช่นเดิมเมื่ออยู่ในพื้นที่สำนักงาน ไม่มีอภิสิทธิ์อื่นใดที่มากกว่า ทุกอย่างยังเสมอภาคต่อพนักงานคนอื่น...จะมีแค่หลังเลิกงานเท่านั้นที่ได้อภิสิทธิ์นั่งรถกลับบ้านพร้อมกัน"แนนขี้กั๊กอ่ะ เมื่อไหร่จะบอกพี่สักทีผู้ชายคนนั้นเป็นใคร?...รอฟังคำตอบมาหลายวันแล้วนะ...เดี๋ยวสั่งไอติมจัดการเสียนี่" ชายหนุ่มพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง เมื่อคำถามนี้เขาถามอยู่หลายรอบ แต่ยังไม่ได้คำตอบเสียที"จัดการอะไรเหรอคะคูมพ่อ" เด็กหญิงที่ได้ยินผู้เป็นพ่อเอ่ยถึง เธอดีดตัวกระตือรือร้นโผล่หัวแทรกกลางระหว่างเบาะคนขับทันที"คริ คิก คิก....แนนต้องบอกด้วยเหรอคะ" หญิงสาวหันหน้าไปถามเสียงใสอย่างยอกย้อน ไร้การเกรงกลัวใด ๆ เมื่อเริ่มคุ้นเคยมากขึ้น"บอกพี่เถอะนะ .... นอนไม่หลับมาหลายวันแล้วเนี้ย" ชายหนุ่มโอดครวญด้วยความอยากรู้กับสิ่งที่ยังไม่คลาย"ไม่อยากบอก""ไอติมจัดการพี่แนนให้พ่อที พ่อจัดการไม่ถนัดขับรถอยู่ เอาให้แก้มช้ำไปเลยนะคะ...." ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นเสียงทะเล้นสั่งการลูกสาวที่กำลังชะโงกคอมองและยิ้มอย่างสดใสน่ารัก"ได้เลยค่ะ น้องไอติมจะจ
สามี (41)22.55 น."...แนน ตื่นได้แล้วถึงแล้วครับ" ชายหนุ่มปลุกหญิงสาวที่นอนหลับให้ลุกตื่นเมื่อถึงที่หมาย"อื้อ.....ถึงแล้วเหรอคะ""อื้อออ ง่ำ ๆ" เป็นเสียงงัวเงียของเด็กหญิงตัวกลมที่นอนน้ำลายยืดแต่ยังไม่ลืมตาตื่น เพราะคงเพลียจากการใช้กำลังในการวิ่งเล่นที่โรงเรียนทั้งวัน"ส่งไอติมมาให้พี่....วานแนนจัดหมอนตรงที่นอนเป่าลมให้พี่ที" ชายหนุ่มเอื้อมแขนแกร่งไปช้อนตัวลูกสาวหลังจากลงรถแล้วอ้อมมายังอีกฝั่ง"อ้อ ได้ค่ะ" หญิงสาวทำตามที่ชายหนุ่มบอกกล่าวอย่างว่าง่าย .... ชายหนุ่มวางเด็กหญิงตัวกลมให้นอนราบกับที่นอนอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวลูกสาวจะรู้สึกตัวตื่น"ไม่บอกพี่จริงเหรอ....ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร?" ชายหนุ่มที่ยังคงค้างคาใจเอ่ยถามอย่างใครรู้ เมื่อหญิงสาวนั้นยืนตรงหน้า"อยากรู้จริงอ่ะ" หญิงสาวย้อนยียวนพร้อมกับยิ้มกริ่ม"จริงดิ....อยากรู้จะตายอยู่แล้วเนี้ย แนนไม่ยอมบอกพี่สักที ตกลงคบกันมาจะเป็นอาทิตย์อยู่แล้ว...ชอบแกล้งให้พี่นอนไม่หลับมาหลายคืนแล้วนะ" ชายหนุ่มโอดครวญกล่าวขึ้นอย่างคนน้อยใจ......ท่าทางที่ชายหนุ่มแสดงออกมาทำให้หญิงสาวยืนส่งยิ้มนั้นขยับขาเข้ามาใกล้ จ้องมองหน้าคนที่ตัวสูงกว่าพร้อมอมยิ้ม
สามี(42)หนึ่งเดือนผ่านไป...อะไร ๆ ก็ดีขึ้นตามลำดับ ทั้งเรื่องความรักและเรื่องงาน ผู้ชายที่เลี้ยงลูกมาเพียงลำพังเริ่มมีชีวิตชีวาที่สดใส ตั้งแต่ได้คบหากับหญิงสาวที่อายุห่างกันมาก แต่มันก็ทำให้เขานั้นมีรอยยิ้มมากกว่าแต่ก่อน ลูกสาวตัวน้อยไม่ต้องอ้อนวอนร้องขอหาความรักจากคนเป็นแม่แท้ ๆ เมื่อเธอนั้นผูกพันธ์และรักใคร่กับมนพิชชาเสมือนแม่ลูกแท้ ๆ ก็ไม่ปาน“คูมพ่อขา วันแม่น้องไอติมได้ขึ้นไปอ่านกลอนด้วยนะคะ” เด็กหญิงบอกผู้เป็นพ่อในกิจกรรมที่จะถึงในวันพรุ่งนี้“ว๊าว จริงเหรอคะลูกสาวพ่อเก่งจังเลย” ผู้เป็นพ่อเอ่ยชมพรางสูดดมพวงแก้มกลมนั้นอย่างรักใคร่เด็กหญิงเล่าสู่ผู้เป็นพ่อฟังเมื่อได้เธอนั้นได้รับมอบหมาย ให้เป็นผู้ถ่ายทอดบทกลอนในวันสำคัญที่ทางโรงเรียนจัดกิจกรรมขึ้น"แต่คูมครูไอซ์กับครูไม้บอกว่าให้คูมแม่ไปด้วยค่ะ ไปไหว้บนเวที" เด็กหญิงเอ่ยบอกผู้เป็นพ่อ ซึ่งมันทำให้เขาค่อนข้างหนักใจกับสิ่งนี้ การคบหาดูใจแม้หญิงสาวจะรักใคร่และเอ็นดู แต่สถานะของคำว่าแม่นั้นมันยังห่างไกลและเขาก็เกรงใจหากไหว้วาน"เดี๋ยวพ่อไปเป็นแม่ให้เนอะ พรุ่งนี้คุณย่าไม่ว่างเลย" ผู้เป็นพ่อบอกลูกสาว ด้วยรอยยิ้มกว้างแต่ลึกภายในใจนั้นพะว
สามี (43)"คูมพ่อขา...น้องไอติมมัดผมสวยหรือยังคะ โอ๊ะ! ไม่ใช่มัดผม ถักเปียฉองข้าง...พี่จอยบอกว่าถักเปีย ลืม ๆ " เด็กหญิงเดินเข้าไปหาผู้เป็นพ่อที่นั่งรอบนโต๊ะอาหารในยามเช้า เพื่อรอไปร่วมกิจกรรมวันแม่ที่เด็กหญิงบอกไว้"อรุณสวัสดิ์ค่ะ....มาทานข้าวก่อนเร็ว" ผู้เป็นพ่อเดินไปอุ้มเด็กหญิงลอยขึ้นสู่อากาศก่อนจะวางเธอนั่งลงบนเก้าอี้"ว๊าว มีกุ้งตัวเบ่อเร่อเลย" เด็กหญิงตาโตวาวใสเมื่อเห็นของโปรดตัวใหญ่อยู่ในถ้วยข้าวต้ม...เอ่ยขึ้นด้วยความตื่นตาดีใจกับของกินที่โปรดปราน"ยายปริก เอากุ้งตัวใหญ่ให้น้องไอติม....น้องไอติมรักยายปริก" เด็กหญิงพูดขึ้นอย่างเอาใจคนแก่ จนอดที่จะยิ้มและเอ็นดูเด็กหญิงไม่ได้"ยายปริกก็รักคุณหนูไอติมค่ะ ทานเยอะ ๆ นะคะถ้าไม่อิ่มยายปริกมีอีกหม้อใหญ่เลย" หญิงชราเดินขยับขาเข้ามาใกล้ลูบหัวเด็กหญิงด้วยความเอ็นดู คำพูดที่สร้างสรรค์ การเสวนาต่อผู้ใหญ่ที่น่ารักไร้การหยาบคาย ทำให้ใครต่อใครในบ้านและที่ทำงานนั้นรักเธอ"คูมพ่อขา....ต้องมีพวงมาลัยไปไหว้คูมแม่" เด็กหญิงเอ่ยย้ำทำให้ผู้เป็นพ่อนั้นวางสีหน้านิ่ง พะวงกลุ้มสุมอยู่ในอกเมื่อได้ยินคำว่าแม่จากปากลูกสาว เขาจะต้องรักษาหัวใจของลูกสาวคนนี้ยั
สามี (44)โรงเรียนอนุบาล....กิจกรรมวันแม่...เสียงเจี๊ยวจ๊าวของเหล่าเด็ก ๆ ที่นั่งประจำเคียงข้างผู้ปกครองพูดคุยหยอกล้อกันอย่างร่าเริง เด็กหญิงไอติมที่เดินจับมือกับคุณพ่อเจและแม่แนนของเธออย่างมีความสุข ใบหน้าเธอดูมีชีวิตชีวากว่าทุกวัน"เดินดี ๆ ลูกเดี๋ยวหนูจะล้มนะคะ" เสียงของผู้เป็นพ่อเอ่ยขึ้น เมื่อเด็กหญิงนั้นเดินจับมือพ่อเจและแม่แนนอยู่ตรงกลาง ทิ้งตัวโยนอย่างไม่คิดกลัวล้มเพราะคิดว่าจับมือคนเป็นพ่อดีแล้ว"วันนี้ไอติมดีใจ อยากให้แม่แนนมาส่งโรงเรียนทุกวันเลยค่ะ" เด็กหญิงดีดตัวเดินในท่าปกติหลังจากผู้เป็นพ่อนั้นตำหนิเธอ"พ่อมาส่งหนูคนเดียวก็ได้" คนเป็นพ่อมองหน้าหญิงสาวด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะพูดขึ้นกับลูกสาว"....แต่บ้านแม่แนนอยู่ไกล น้องไอติมให้คูมพ่อมาส่งก็พอค่ะ" เด็กหญิงก้าวขาสั้น ๆ เดินไป พรางเงยหน้ามองหญิงสาวและส่งยิ้มสดใส"เป็นเด็กดีจังเลย..." หญิงสาวหยิบพวงแก้มกลมเบา ๆ อย่างเอ็นดูกับคำพูดที่แสนน่ารัก"น้องไอติมกลัวแม่แนนไม่รักเลยต้องเป็นเด็กดี" เด็กหญิงพูดด้วยความใสซื่อ ดวงตากลมสดใสเงยมองหน้าหญิงสาวอย่างเปี่ยมสุขในใจ((ไอติม)) เสียงเรียกขานระหว่างเดินไปอาคารที่จัดกิจกรรม เด็กชายผมสีทองเด
สามี(45)"หิวข้าวหรือยังคะไอติม" หญิงสาวเอ่ยถามเด็กหญิงที่นั่งบนตัก เมื่อกิจกรรมของลูกสาวจบลงพากันปลีกตัวออกมามุ่งหน้าเดินทางกลับบ้าน"ยังไม่หิวค่ะ" เด็กหญิงที่นั่งคร่อมหันเข้าหาใบหน้ากลมแนบซบลงอกหญิงสาว เเขนเล็ก ๆ กอดเอวคอดไว้อย่างหวงแหนและหญิงสาวก็กอดตอบอย่างห่วงใยกลัวเด็กหญิงนั้นตกจากตัก"พี่เจล่ะคะหิวไหม?....ซื้อของไปทำกินมื้อเที่ยงที่บ้านพี่เจดีไหมคะ" หญิงสาวหันไปถามชายหนุ่มที่กำลังขับรถอย่างเสนอความคิด"ก็ดีนะ...พี่อยากชิมฝีมือกับข้าวแนนอีก" ชายหนุ่มหันหน้ามาพูดชั่วครู่พร้อมด้วยรอยยิ้มทรงเสน่ห์ก่อนจะสนใจมองถนน"น้องไอติมก็อยากชิมกับข้าวแม่แนนด้วย" เด็กหญิงดีดตัวอย่างตื่นตัวเมื่อผู้เป็นพ่อเห็นตามกับสิ่งที่หญิงสาวเสนอ เพราะเธอไม่อยากน้อยหน้าผู้เป็นพ่อ"อ้าว~~ไหนบอกไม่หิว" ผู้เป็นพ่อทักท้วง"หิวเมื่อกี้ค่ะ...น้องไอติมก็อยากหิว อยากหิวเป็นเพื่อนคูมพ่อไงคะ" เด็กหญิงให้เหตุผลในสิ่งที่เธอคิดแท้จริงแล้วเธอแค่ต้องการให้หญิงสาวสนใจเธอเท่านั้น......ซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ผู้คนเดินเพ่นพ่านจับจ่ายซื้อของล้นมือ รถเข็นที่มีชายหนุ่มแข็งแรงเข็นตามหลังหญิงสาว และมีเด็กหญิงที่ช่างพูดนั่งอยู่ในรถ สิ่ง
สามี(46)"เดี๋ยวพี่เอาไปไว้ที่ครัวให้นะ" ชายหนุ่มบอกกล่าวเมื่อก้าวขาเดินเข้ามาในบ้าน พร้อมของที่ซื้อมาประกอบอาหารสำหรับมื้อเย็น"ขอบคุณค่ะ...มาค่ะแนนช่วยถือ" หญิงสาวว่าพรางเดินเข้าไปใกล้ เอื้อมมือลงต่ำหวังหิ้วของในมือชายหนุ่ม"มาช่วยเป็นแม่ของลูกได้ไหม?" ชายหนุ่มโน้มตัวกระซิบลงข้างหูหญิงสาว น้ำเสียงพูดละมุนที่ได้ยินเพียงสองคน...คำพูดที่ทำให้หญิงสาวนั้นถึงกับสะดุ้ง ดีดตัวยืนตรงทันทีที่ได้ยิน"พูดอะไรของพี่เจคะเนี้ย...เดี๋ยวมีใครมาได้ยินเข้า" หญิงสาวที่เขินอายต่อว่าอย่างกลบเกลื่อน"เขินเหรอ""ไม่คุยกับพี่เจแล้ว....อะไก็ไม่รู้ชอบหยอดให้เขินอยู่เรื่อย" หญิงสาวหน้าแดงก่ำเขินอายพึมพำเสียงเบาแต่เขาก็ได้ยิน เดินเข้าไปในครัวพร้อมรอยยิ้มบางเบา...เธออายไม่กล้าสู้หน้าด้วยวาจาที่เขาใช้หยอดเธอบ่อย ๆ ชายหนุ่มที่มองตามหลังลอบยิ้มอย่างชอบใจ ท่าทางที่เธอเขินมันน่ามองในสายตาของเขา"มีอะไรให้พี่ช่วยไหม?" ชายหนุ่มเสนอตัวเมื่อวางของเข้าที่เรียบร้อย"ไม่เป็นไรค่ะ...เดี๋ยวแนนเตรียมของไว้ตอนเย็นค่อยมาปรุง" หญิงสาวพูดบอกพร้อมกับล้างทำความสะอาดวัตถุดิบไปพราง"มาค่ะ.....เดี๋ยวป้าช่วยคุณแนนเองค่ะ" แม่บ้านอาวุโสร่
สามี - พิเศษ 1"พี่เจคะ แนนว่าจะถามแต่เช้าละ" ในมื้อเย็นที่กำลังทานข้าวกันอย่างเอร็ดอร่อย หญิงสาวที่นึกขึ้นได้เอ่ยถามทันที"ถามอะไรเหรอ" ชายหนุ่มละความสนใจจากจานข้าวแล้วเงยหน้าขึ้นมอง"พี่เลี้ยงน้องไอติมไปไหนเหรอคะ...เมื่อเช้าแนนเดินเข้ามาก็ไม่เห็น" หญิงสาวเอ่ยถามพลางฉีกเนื้อไก่ทอดให้เด็กหญิง"อ๋อ...จอยขอลาออกตั้งแต่เมื่อวานแล้วล่ะ" ชายหนุ่มให้คำตอบในสิ่งที่เธอสงสัย...การขอลาออกกะทันหันจนชายหนุ่มก็ตั้งตัวไม่ทัน เมื่ออยู่ ๆ พี่เลี้ยงเด็กมาขอลาออกบอกว่าจะกลับบ้านต่างจังหวัดไปดูแลแม่ที่เจ็บป่วย เขาไม่ได้ขัดหรือยังแถมยังช่วยเหลือด้วยการให้เงินเดือนสุดท้ายมากกว่าทุกครั้งด้วยน้ำใจ"ลาออก?...แล้วไอติมล่ะคะใครดูแล" หญิงสาวขมวดคิ้วสงสัยหากไม่มีพี่เลี้ยงแล้วใครกันจะช่วยดูแลเด็กหญิงตัวน้อยคนนี้"ช่วงนี้พี่ก็คงต้องดูแลไปก่อน มีป้าปริกช่วยอีกแรง...แต่ถ้าแนนมาอยู่ด้วย....." ชายหนุ่มพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มและประโยคสุดท้ายจึงเว้นวรรคไว้พร้อมสายตาเจ้าเล่ห์มองหน้าหญิงสาว"น้องไอติมอร่อยไหมคะ?" หญิงสาวรีบพูดเบี่ยงเบนเมื่อเธอคาดเดาคำพูดเขาล่วงหน้าว่าจะออกมารูปแบบไหน"อร่อยสุด ๆ ค่ะ" เด็กหญิงยิ้มตาหยีปากเล็กเค
สามี - (พิเศษ) ส่งท้าย(("อ้วก แอะ โอก"))"แม่แนน...แม่แนนเป็นอะไรคะ" เสียงแหลมใสของเด็กหญิงไอติม วิ่งตามแม่แนนเข้ามายังห้องน้ำ เธอตกใจกับการผลีผลามวิ่งแจ้นมือปิดปากของผู้เป็นแม่(("อ้วก อ้วก")) แม้จะได้ยินเสียงของลูกสาวร้องไห้ อยากจะกอดปลอบแทบขาดใจแต่ก็ไม่สามารถทำได้ เมื่ออาการที่เป็นยังไม่บรรเทา"ฮือ แม่แนน...งือ แม่แนนไม่ฉบาย" เด็กหญิงร้องไห้โฮเมื่อเห็นอาการของผู้เป็นแม่...เธอสงสารเมื่อแม่นั้นเอาแต่อาเจียนตัวโยน"แม่ไม่เป็นไรลูก...อ้วก โอก" เธอยังคงอาเจียนต่อ แม้จะพยายามอดทนกลั้นใจพูดกับลูกสาว"น้องไอติมจะไปตามคูมพ่อ" เด็กหญิงพูดจบทั้งน้ำตา ก็ก้าวขาสั้น ๆ ของเธอวิ่งไปด้วยความเร็ว((คูมพ่อขา อึก ฮือ...คูมพ่อ!...คูมพ่อได้ยินน้องไอติมไหม...คูมพ่ออยู่ไหนคะ ฮือ)) เด็กหญิงเดินน้ำตานองหน้า จับราวบันไดก้าวขาสั้น ๆ อย่างระมัดระวังทั้งที่ในใจนั้นห่วงใหญ่ผู้เป็นแม่เหลือแสน น้ำเสียงแหลมเล็กตะโกนเรียกผู้เป็นพ่อเน้นเสียงสูง เมื่อเรียกยังไงพ่อก็ไม่ขานรับเสียที ห่วงแม่แนนจะแย่"ไอติมเป็นอะไรลูก!" ผู้เป็นพ่อที่ยืนคุยโทรศัพท์ต้องรีบวางสาย ปรี่เข้าหาลูกสาวที่กำลังเดินร้องไห้มาหา"ฮึก อึก คูมพ่อแม่แนน
สามี - พิเศษ 10สองปีผ่านไป....เด็กหญิงไอติมผู้แสบสันเลื่อนชั้นขึ้นอนุบาลสาม และยังมีเพื่อนร่วมชั้นที่สนิทใจกันเล่นด้วยกันเพียงคนเดียวนั่นคือเจท เด็กชายผมสีทองที่คอยปกป้องและอยู่เคียงข้างมาเสมอตั้งแต่ที่ได้พบเจอกัน"เจท!" เด็กหญิงไอติมเรียกขานเพื่อนชายคนสนิท ที่นั่งเล่นตรงม้าหินอ่อนหลังจากที่ทานมื้อกลางวันเสร็จสิ้น"ไอติม" เด็กชายมองหน้าเพื่อนหญิงแล้วยิ้ม มือที่หมุนลูกคิวบิกเล่นต้องหยุดชะงักเมื่อเพื่อนหญิงนั้นเรียกหา"ไอติมมีขนม...เจทมากินด้วยกัน" เด็กหญิงใบหน้ากลมมนพูดบอกและปีนป่ายขึ้นม้าหินอ่อนนั่งเคียงข้างกับเด็กชายเจท"ไอติมไปซื้อมาเหรอ?" เด็กชายหันไปย้อนถาม"ใช่...ไอติมเดินไปซื้อที่โรงอาหาร วันนี้คูมพ่อให้เงินมาเหรียญทองกับใบสีเขียว แต่ไอติมเอาไปฝากออมทรัพย์กับครูไอซ์เหลือใบสีเขียว ไอติมก็เลยไปซื้อขนมแล้วก็ซื้อมาเผื่อเจทด้วย...กินสิ" เด็กหญิงเล่ายาวเป็นฉาก ๆ แม้เพื่อนจะไม่ได้เอ่ยถามก็ตามทีวันเวลาแม้จะยังผ่านเลยไปนานเป็นปีการพูดจาของเด็กหญิงไอติมก็ยังไม่ค่อยชัดถ้อยคำสักเท่าไหร่ แต่บางคำเธอก็พูดชัดเจนแล้ว ยังมีหลงเหลือแค่บางคำที่ยังไม่ชัดและหลัก ๆ คงเป็นคำว่า คุณพ่อ ที่เธอมักจะเอ่
สามี - พิเศษ 9"ตื่นแล้วได้แล้วครับแนน...เขาบอกว่าโดนน้ำแล้วจะสดชื่น นี่พี่ให้แนนทั้งคืนเลยนะทำไมนอนไม่ยอมตื่นอีกล่ะ" ชายหนุ่มที่ตื่นนอนในยามเช้าก่อนใครทั้งแฟนสาวและลูกสาวก็ยังนอนจมเตียงอยู่ หลังจากที่จัดการชำระร่างกายจนแล้วเสร็จ เขาเดินมานั่งบนพื้นเตียงนอนเคียงข้างหญิงสาวที่ยังคงหลับใหล อีกฟากฝั่งเตียงก็เป็นลูกสาวตัวน้อยนอนกอดตุ๊กตาหมีตัวโปรดหลับตาสนิทอ้าปากหว๋อ"อื้อ...แนนง่วง" หญิงสาวตอบอย่างงัวเงียและพลิกตัวหนี เมื่อมือหนาของชายหนุ่มนั้นลูกหัวของเธอ"เช้าแล้วนะ ไม่สิสายแล้วไม่หิวเหรอ" เขายังคงถามต่อพร้อมขยับตัวเข้าหา เอนร่างหนานอนเคียงแล้วดึงร่างเสลานั้นเข้ามากอด"ยังไม่หิว...นอนง่วงพี่เจอย่ากวน" หญิงสาวต่อว่าเมื่อเริ่มหงุดหงิดกับการที่ถูกก่อกวนเวลานอน ก็ชายหนุ่มเล่นบรรเลงเพลงรักกับเธอตั้งสามรอบกว่าจะได้นอนเล่นเอาเกือบฟ้าสราง ที่ริมหาดยังไม่พอ แถมมาต่อที่ห้องน้ำอีกสองรอบ ร่างกายบอบบางก็เพลียแรงแทบยืนไม่ไหว สุดท้ายต้องเป็นเขาที่ชำระร่างกายให้ และอุ้มเธอมาส่งที่เตียงนอนในถัดมา เล่นเธอซะขาอ่อนขาล้ายังมีหน้ามาปลุก"ขี้เซาทั้งแม่ทั้งลูกเลย" ชายหนุ่มยังคงพูดต่อชิดหูไม่ขยับปล่อยกอดตามที่
สามี - พิเศษ 8"มานั่งทำอะไรตรงนี้คะ?" หญิงสาวที่พาเด็กหญิงตัวน้อยเข้านอนจนเธอหลับใหลสนิท แต่ไม่เห็นชายวันสามสิบเอ็ดจึงเดินตามหา จนมาพบเขาที่นั่งเล่นตรงโขดหินสูงริมชายชายหาดที่มีม้านั่งตัวยาวสีขาว"เห็นว่าแนนพาไอติมเข้านอนพี่เลยออกมาสูดอากาศเล่น...ทะเลกลางคืนนี่สงบและสวยดีเนอะ" ชายหนุ่มเงยหน้ามองและจับมือหญิงสาวนั่งลงเคียงข้าง"อารมณ์ไหนคะเนี้ย...แนนว่าอากาศเย็นแล้ว เข้าไปนั่งในบ้านดีกว่านะเดี๋ยวจะไม่สบายเอา""อย่าเพิ่งเข้าไปเลยนะ...นั่งเป็นเพื่อนพี่อีกสักพัก" ชายหนุ่มขอร้องด้วยน้ำเสียงละมุน"ก็ได้ค่ะ..." หญิงสาวส่งยิ้มหวานหันหน้ามองชายหนุ่มด้วยแววตาหวานหยด ก่อนที่ร่างหนาจะเอนลงนอนหนุนตักของหญิงสาว จับมือเรียวสวยแนบกับแก้ม แล้วหลับตาพริ้มรับรสความรู้สึกที่มีต่อหญิงตรงหน้า"เป็นอะไรไปคะ" หญิงสาวเอื้อนเอ่ยพลางใช้มือลูบแก้มเขาเบา ๆ ก้มมองหน้าชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มกับท่าทีของเขาที่เป็น"พี่รักแนนนะ...พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันทำไมถึงได้ถูกใจแนนทั้งที่พี่ปิดกั้นตัวเองมาตลอด ไม่มองผู้หญิงคนไหน? แต่พอเห็นแนนเข้ากับลูกพี่ได้ดี มันทำให้พี่รู้เลยว่าแนนจะเข้ามาอยู่ในพื้นที่หัวใจของพี่...พี่รักไอติมมากเธอ
สามี - พิเศษ 7...วันไปทะเล..."ว๊าว ทะเล๊ ทะเล ล่าลั่นลาลั่นลา เย้ ๆ..." น้ำเสียงดีใจของเด็กหญิงไอติมพูดอยู่ในรถที่กำลังขับเคลื่อนไปตามถนน ด้านข้างที่มองเห็นพื้นน้ำสีฟ้าสวยกระทบกับแสงแดดจนระยิบระยับ ร่างกายเล็กที่จัดเต็มด้วยเครื่องแต่งกายน่ารัก เพราะแม่แนนเป็นคนสรรหาใส่ให้เธอ ชุดเดรสกระโปรงสีฟ้าเป็นชั้นกับทรงผมที่ถักเปียสองข้างติดกิ๊บสีฟ้าลายเจ้าหญิงที่เธอชอบ หมวกใบเล็กน่ารักมีหูเหมือนหมีถูกสวมบนหัวเล็ก ทำให้ลับขลับเข้ากับใบหน้ากลมของเด็กหญิงจนน่ารักและสดใส"ดีใจจังเลยนะคะ" เสียงหวาน ๆ ของแนนเอ่ยแซวเมื่อเด็กหญิงนั้นแสดงความดีใจจนออกนอกหน้า"แม่แนนขา...พอไปถึงทะเลเราใส่ชุดว่ายน้ำไปเล่นน้ำกันนะคะ""ไม่ได้!!" เสียงเข้มของพ่อเจดังแทรกระหว่างบทสนทนาของลูกสาวที่พูดชวนแม่แนนของเธอ"คูมพ่อ!! ทำไมต้องเสียงดังน้องไอติมตกใจหมด" เด็กหญิงที่สะดุ้งเฮือกตกใจ จากที่ยิ้มร่าต้องหุบยิ้มทันทีพลางหันไปต่อว่าผู้เป็นพ่อที่พูดกระแทกเสียงดังใส่"นั่นสิคะพี่เจ...ชอบเสียงดังลูกตกใจหมด" หญิงสาวที่ตกใจไม่แพ้เด็กหญิงหันไปต่อว่าเสริมทัพ"ไอติมพ่อขอโทษ...แต่ว่าพ่อไม่ให้แม่แนนใส่ชุดว่ายน้ำนะ" คนเป็นพ่อพูดเสียงด้วยน้
สามี - พิเศษ 6"ตื่นมาทำไมแต่เช้าขนาดนี้" ผู้เป็นพ่อเดินมาเปิดประตูห้องน้ำ ไม่วายบ่นอุบให้ลูกสาวที่ขัดตลอด ขัดดียิ่งกว่าสองขานั่งขัดสมาธิเสียอีก"ก็น้องไอติมปวดฉี่...งื้อคูมพ่อ ถอดกางเกงไม่ได้" เด็กหญิงที่ปวดฉี่หนัก ยืนกระทืบเท้าไปมา พร้อมมือเล็กๆ พยายามถอดกางเกงไปด้วย ความร้อนรนมันจึงทำให้การถอดกางเกงดูยุ่งยาก"มาๆ พ่อช่วย"จ๊าก~~~ แปะ แปะยังไม่ทันที่ผู้เป็นพ่อจะได้ช่วยเหลือถอดกางเกงจนสุดขา เพียงเด็กหญิงยกขาขึ้นข้างเดียว ของเหลวที่ทำให้เด็กหญิงเป็นทุกข์ก็ไหลลงมา อาบตามลำขาบ้างเพราะอดกลั้นไว้ไม่ไหว"ไอติม!" เสียงผู้เป็นพ่อร้องขึ้นตกใจ เมื่อลูกสาวฉี่ราดใส่กางเกงแถมเลอะพื้นหน้าห้องน้ำอีกต่างหาก"งื้อ...คูมพ่อดุ ก็น้องไอติมทนไม่ไหว คูมพ่อเข้าห้องน้ำนาน" เด็กหญิงยืนฉี่ต่อหน้าผู้เป็นพ่อและบอกถึงเหตุผล"พี่เจก็ชอบดุลูก" เสียงหวานของหญิงสาวเอ่ยตามหลัง พร้อมร่างกายที่สวมทับเสื้อผ้าตัวเดิมเรียบร้อย แม้จะมีรอยเปียกชื้นอยู่ประปรายเล็กน้อย"เอ๋??" เด็กหญิงไอติมเอียงคอมองหน้าผู้ใหญ่ทั้งสองอย่างสงสัย กรอกสายตามองหน้าสลับกันไปมา จนทั้งพ่อเจและแม่แนนนั้นเกิดหน้าแดง "ทำไมคูมพ่อกับแม่แนนฉี่พร้อมกัน นั
สามี - พิเศษ 5"พี่เจไม่เล่นนะคะ" หญิงสาวทักท้วงเมื่อถูกวางให้ยืนมั่นในห้องน้ำ ที่ชายหนุ่มอุ้มเธอมา ก่อนจะยกตัวเธอนั่งบนแท่นปูนหนาของอ่างล้างหน้า"พี่ก็ไม่ได้จะเล่นนะ...ไหนมาให้พี่ดูหน่อย" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับนั่งยอง ๆ ลงตรงหน้า ยกขาข้างหนึ่งของเธอพาดบ่า"อ๊ะ! พี่เจไม่เอาค่ะ...แนนอาย" หญิงสาวใช้มือปิดส่วนลับที่สวยงาม เมื่อมันเผยต่อสายตาชายตรงหน้า"อายทำไมพี่เห็นมาทั้งคืน" ชายหนุ่มหยัดตัวลุกยืนแทรกกลางตรงหว่างขาหญิงสาว โอบกอดรอบเอวคอดดึงเข้าหาตัว จ้องมองหน้าสวยที่เขินอายด้วยรอยยิ้มเพี๊ยะ!!"พี่เจ!...นี่คือตัวจริงพี่เหรอ" หญิงสาวฟาดฝ่ามือลงอกแกร่ง แต่ไม่ได้แรงจนต้องโอดโอย ทำให้ชายหนุ่มที่มองการกระทำนั้นยิ้มกริ่มชอบใจต่อความเขินอายที่น่ารัก"พี่น่ารักใช่ไหม...หื้ม" ชายหนุ่มพูดออกเซาะและใช้ปลายจมูกถูไถกับจมูกเล็กนั้นอย่างหยอกเย้า“ใครบอกคะ? เอาตาส่วนไหนมองถึงบอกว่าพี่เจน่ารัก” หญิงสาวสวนกลับทันควันยกยิ้มร้ายอย่างไม่ยอมปรน“โห...พูดแบบนี้สงสัยอยากนอนติดเตียง” ชายหนุ่มที่ถูกหยาม พูดขึ้นเสียงเข้ม จ้องมองหน้าหญิงสาวด้วยแววตาแข็งกร้าว ก่อนจะยกยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจดุจคนเจ้าเล่ห์“ดะ เดี๋ยว จะท
สามี - พิเศษ 4ปัง ปัง(คูมพ่อขา! คูมพ่อ ฮือ ฮือ...คูมพ่อ)เสียงเคาะประตูห้องนอนที่ล็อกจากด้านใน เสียงแหลมใสของลูกสาวเรียกสั่นเครือ แต่คนที่นอนในห้องยังไม่รู้สึกตัวเพราะบทรักที่ยาวนานนั้นทำร่างกายเพลีย(คูมพ่อ ช่วยน้องไอติมด้วย)เสียงแหลมตะโกนดังอีกครั้ง และร้องขอการช่วยเหลือ ทำเอาผู้เป็นพ่อนั้นต้องลืมตาตื่นแล้วลุกจากที่นอน ปล่อยให้หญิงสาวนอนหลับพักผ่อนเต็มที่เพราะค่ำคืนที่ผ่านมาใช้ร่างกายเธอหนัก กว่าจะได้นอนก็ตีสามเข้าไปแล้ว"ตื่นมาทำไมคะยังไม่เช้าเลยนะ แล้วร้องไห้ทำไมคะ" ผู้เป็นพ่อเปิดประตูพร้อมอุ้มลูกสาวที่น้ำตานองหน้าขึ้นแนบอก"คูมพ่อขา อึก อึก มะ แม่แนนหายตัวไป น้องไอติมตื่นมาไม่เจอ น้องไอติมเสียใจ ฮึก" เด็กหญิงกอดคอผู้เป็นพ่อร้องไห้ พูดพร่ำออกมาทั้งน้ำตาน้ำเสียงสะอื้นสั่นเครือ"โอ๋ ๆ ไม่ร้องนะคะ...แม่แนนนอนอยู่ตรงนั้น" ผู้เป็นพ่อพูดปลอบพร้อมชี้นิ้วไปยังคนที่นอนหลับสนิท"ทำไมแม่แนนมานอนกับคูมพ่อ...คูมพ่อขโมยแม่แนนของน้องไอติม ฮือ~~~" เด็กหญิงปล่อยโฮร้องไห้พร้อมกับต่อว่าผู้เป็นพ่อ"เอ่อ กะ ก็เมื่อคืนแม่แนนไม่สบาย พ่อกลัวน้องไอติมติดไข้เลยต้องพาแม่แนนมาที่นี่ไงคะ...หยุดร้องนะ ตอนนี
สามี - พิเศษ 3ฝ่ามือหนาลากไล้ไปตามเนื้อผิวและสัดส่วนเว้าโค้งอย่างแผ่วเบา ทำเอาหญิงสาวนั้นหายใจติดขัดไม่เป็นจังหวะกับการสัมผัสนี้ สองขาเรียวถูกดันแยกออกห่าง ร่างกายหนาทาบทับแทรกกลางตรงหว่างขา มือหนาค่อย ๆ ปลดเปลื้องเสื้อผ้าจนหลุดร่วงไม่มีเหลือ หญิงสาวที่นอนราบเปลือยเปล่า ส่วนเว้าโค้งและหน้าท้องแบนราบกระทบกับแสงไฟสลัว ยิ่งทำให้ความเป็นชายนั้นกระสันซ่านเสียวพองตัวอย่างไม่อาจทานทนได้ไหว"พี่เจแนนอาย" หญิงสาวใช้มือปิดคลุมส่วนสงวนและเนินอก เอื้อนเอ่ยด้วยความอายเมื่อสายตาของชายหนุ่มนั้นกำลังโลมเลียเธอ"ไม่จำเป็นต้องอายเพราะเเนนสวยมาก" กายชายที่ไร้เสื้อปิดคลุมค่อย ๆ ทาบทับแนบเนื้อสาวอย่างละมุน กดตรึงข้อมือเล็กกับพื้นที่นอนนุ่ม ก่อนจะใช้ปากครอบครองยอดออกที่อวบอิ่ม ดูดดึงอย่างคลอเคลียจนร่างกายสาวขนลุกชันกับการสัมผัสที่แปลกใหม่ ที่เธอนั้นยังไม่เคยลิ้มลอง"พี่เจ...มัน อื้อ" หญิงสาวที่ถูกปลายลิ้นหนาตวัดยอดปทุมถันที่ชูชัน การสัมผัสที่ลึกซึ้งแบบนี้มันทำให้เธอนั้นปั่นป่วนตรงกายสาวแรกแย้ม"พี่สัญญาจะเบามือ" ชายหนุ่มพูดปลอบโน้มใบหน้าเข้าใกล้และจ้องมองเข้าไปในดวงตาสวยที่มีความหวาดระแวง"อื้อ" เมื่อปลาย