ใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่นั้นดูเคร่งเครียดจัด ดวงตาคมวาวโรจน์ด้วยความโกรธเมื่อของสำคัญได้หายไปจากงานแสดงเครื่องเพชรของ คิงส์คอปอเรชั่น และเครื่องเพชรชุดนั้นก็มีมูลค่ามหาศาลทั้งยังเป็นของรักของมารดาผู้ล่วงลับของเขา ชายหนุ่มหันมามองคนที่อยู่เบื้องหน้าด้วยแววตาขึ้งเครียด เมื่อรู้แน่แล้วว่าของสำคัญของเขานั้นอยู่ที่ไหนและกับใคร
อาเธอร์ คิงส์ นักธุรกิจหนุ่มลูกครึ่งแม็กซิกัน อเมริกันผู้หล่อเหลาและร่ำรวยมหาศาล ชายหนุ่มเจ้าของร่างสูงใหญ่ 188 เซนติเมตร ผิวสีแทนคร้ามใบหน้าเรียวยาวได้รูปซึ่งประกอบด้วยดวงตาสีฟ้าสดคมเข้มภายใต้คิ้วหนายาว จมูกโด่งเป็นสันสวยไม่งองุ้มรับกับริมฝีปากหยักสีเข้ม ร่างแกร่งอุดมด้วยมัดกล้ามตึงแน่นอย่างที่เราเรียกกันว่าซิกแพ็กนั้น น่าลูบไล้สัมผัสด้วยปุยขนสีอ่อนนุ่มนวลสีเดียวกันกับเส้นผมสีน้ำตาลเข้มออกแดงเล็กน้อยที่ตัดเล็มอย่างดีเยี่ยมรับกับรูปหน้าหล่อเหลาคมเข้ม เขาเพียบพร้อมสมบูรณ์แบบอย่างที่สาวๆ ใฝ่ฝัน แต่ก็ยังไม่มีใครสามารถครอบครองหัวใจหนุ่มโสดเนื้อหอมคนนี้ได้ ในวัยสามสิบสามปีอาเธอร์ก็ยังคงเป็นหนุ่มโสดเนื้อหอมอันดับต้นๆ ของวงการนักธุรกิจ หนุ่มหล่อ รวย ชื่อเสียงโด่งดัง ช่างเป็นอะไรที่หญิงสาวทุกคนอยากเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขา...
ในชีวิตของอาเธอร์ไม่เคยขาดหญิงงามข้างกาย พวกเธอทุกคนก็ล้วนแล้วแต่สวยโดดเด่นมีส่วนสัดที่ยั่วใจ และมีลีลารักที่เร่าร้อนช่ำชอง แน่นนอนเขาชอบสนุกกับพวกเธอ แต่ก็ไม่ได้จริงจังกับใครเป็นพิเศษ เพราะอาเธอร์คิดว่าไม่มีหญิงสาวคนไหนรักเขาที่ตัวตนที่แท้จริง ส่วนใหญ่พวกเจ้าหล่อนเหล่านั้นก็รักที่หน้าตาชื่อเสียงเงินทองของเขาเท่านั้น...
“แกแน่ใจนะว่าไอ้ดอนมันกบดานอยู่ที่นั่น” ชายนุ่มถามบอดีการ์ดคนสนิทของตนเสียงเครียด เมื่อกล่าวถึง ดอน ดักลัส นักธุรกิจมืดที่บังอาจมาลูบคมอาเธอร์ คิงส์
“ครับ ผมแน่ใจมันต้องการเอาเครื่องเพชรชุดนั้นไปแลกกับของบางอย่าง ตามสั่ง..” ริชาร์ต บอดีการ์ดหนุ่มคู่ใจของเขาตอบกลับมาอย่างหนักแน่น
“ดี ถ้าอย่างนั้นคืนนี้เราไปเอาของเราคืน... ไปเตรียมทุกอย่างให้พร้อม...” ชายหนุ่มสั่งเสียงเข้มแววตากร้าวจัด ก่อนร่างสูงองอาจจะนั่งลงบนเก้าอี้ผู้บริหารตัวใหญ่หรูหรา แล้วถอนหายใจออกมาดังๆ เมื่อบอดีการ์ดคนสนิทออกไปแล้วมือหนายกขึ้นลูบใบหน้าคมอย่างนึกโล่งอก
“แม่ครับ ผมตามหาของสำคัญของเราเจอแล้วและคราวนี้ผมจะไม่ให้มันหายไปอีก ผมสัญญา ผมคิดถึงคุณแม่นะครับ...”
อาเธอร์พูดเบาๆ กับรูปของมารดา ซึ่งใส่กรอบงดงามที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทำงานของตน ใบหน้าสวยหวานกับเรือนผมสีทองอร่ามในวัยห้าสิบปี แต่ยังดูงดงามไม่สร่างนั้นยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน
อาเธอร์ชอบรูปนี้ของมารดาเพราะมันดูเหมือนกับว่าท่านนั้นมีความสุขและมีชีวิตชีวา ซึ่งในความจริงแล้วมารดาของเขาไม่เคยมีช่วงเวลาที่มีความสุขเลยตั้งแต่บิดาได้ทิ้งเขากับมารดาไปกับหญิงสาวคราวลูกอย่างไร้เยื่อใย ปล่อยให้มารดาเลี้ยงดูเขาลำพัง... ในตอนนั้นเขาอายุเพียงสิบขวบ ความทุกข์ใจของมารดาทำให้เขาฝังใจมาตลอดเวลา และนึกโทษหญิงสาวชาวไทยหน้าด้านคนนั้นที่แย่งบิดาไปจากเขากับแม่ และมันคือสาเหตุที่ทำให้เขาเกลียด ผู้หญิงไทย เป็นที่สุด...
แพรดาวรีบวิ่งเข้าห้อง แล้วปิดประตูเงียบเมื่อกลับมาจากดินเนอร์สุดหรูของเธอกับชายหนุ่มชาวต่างชาติ ที่เธอพบกับเขาทางอินเตอร์เน็ต แล้วคบกันได้สามเดือนอย่างเร่งรีบ ไม่ให้มารดากับน้องสาวเห็นแล้วรีบลงกลอนประตูด้วยความโล่งใจ ร่างระหงเดินไปทรุดนั่งบนเตียงอย่างหมดแรง แล้วครุ่นคิดถึงสิ่งที่ตนเองกำลังเผชิญ
เธอไม่น่าหลงกลไอ้ฝรั่งชั่วนั่นเลย แล้วทีนี้จะทำอย่างไรดีล่ะมารู้ตัวก็เมื่อสายเกินไป ว่าตัวเองถูกหลอกจนไม่เหลืออะไรแล้ว และจริงๆ แล้วเธอก็ไม่ได้ไปดินเนอร์ด้วยแต่ไปทำงานบางอย่างให้ มัน
“ดาว... ลูกดาว ทำอะไรอยู่ให้แม่เข้าไปหน่อยลูก” เสียงเคาะประตูเบาๆ แต่ทำให้แพรดาวสะดุ้งอย่างหวาดระแวง ทำอะไรไม่ถูก ตอนนี้เธอยังไม่พร้อมเผชิญหน้าใครทั้งนั้น...
“ดาวอยากพักน่ะแม่ จะนอนแล้วพรุ่งนี้ค่อยคุยกันนะ”
“แต่ลูกดาวคะ คุณดอนเขาว่าไงบ้างลูกจะมาสู่ขอลูกดาวเมื่อไหร่ แม่จะได้ไปประกาศให้พวกชาวบ้านปากหอยปากปูมันฟังว่าแม่จะได้เขยฝรั่ง ทั้งหล่อทั้ง รวย...”
นางเดือนพูดพร่ำอยู่หน้าห้องบุตรสาวคนโปรดอย่างเพ้อฝัน ในขณะที่แพรดาวนอนนิ่งอยู่บนเตียงคิดหาทางเอาตัวรอดจากผู้ชายหน้าเนื้อใจเสือคนนั้น ไม่สนใจเสียงของแม่ที่ร้องเรียก
พลอยไพลินมองมารดาที่เดินกลับเข้าห้องของตนไปอย่างผิดหวังเล็กน้อย เมื่อแพรดาวไม่เปิดประตูให้ หญิงสาวถอนหายใจแล้วนั่งมองซึ้งนึ่งขนมถ้วยของตนอย่างไม่ใส่ใจว่ามารดากับพี่สาวจะทำอะไร ในหัวสมองของเธอคิดอย่างเดียวว่า พรุ่งนี้จะทำขนมอะไร และจะขายอะไรที่ได้เงินมาให้มารดากับพี่สาวใช้ ชีวิตของเธอวันๆ ก็วนเวียนอยู่แค่นี้ แต่พลอยไพลินไม่รู้หรอกว่าในอนาคตอันใกล้ ชีวิตของเธอจะเปลี่ยนไปตลอดกาล เพราะความโลภและเห็นแก่ตัวของคนที่เธอรักที่สุด...
“คุณแน่ใจนะว่าจะไม่ทำร้ายน้องสาวของฉัน” แพรดาวถามชายหนุ่มผมทองผู้หล่อเหลา ร่างสูงสมาร์ตเต็มตึงด้วยมัดกล้ามน่าหลงใหล แต่นิสัยขัดกับหน้าตาลิบลับอย่างเป็นกังวลเล็กน้อย จริงอยู่แม้ว่าเธอไม่เคยเห็นพลอยไพลินอยู่ในสายตา แต่การที่หลอกพลอยไพลินมาอย่างนี้เธอก็อดรู้สึกผิดไม่ได้...
“ทำไมล่ะสตาร์ หรือว่านึกห่วงน้องสาวที่เธอไม่เคยสนใจเลยคนนี้ขึ้นมา” ดอนถามหญิงสาวคู่ขาคนล่าสุด ด้วยภาษาไทยชัดเจน
แพรดาวเป็นคู่ขาที่ร้อนแรง และยังเป็นเหยื่ออันโอชะให้เขาหากำไรจากร่างกายเธอได้มากโขอย่างเยาะหยัน ผู้หญิงไทย นี่โง่จริงๆ เห็นแก่เงินอยากได้สามีฝรั่งต่างชาติแห่แหนใคร่จะมีกันเหลือเกิน และนั่นล่ะคือช่องทางทำมาหากินของเขา ชายหนุ่มผู้คร่ำหวอดในการหากินบนเรือนร่างของผู้หญิงมานาน คิดอย่างสาแก่ใจ
“แล้วเงินในส่วนที่ฉันจะได้ล่ะ”
“เธอได้แน่นอนอยู่แล้ว และหากเธอหาผู้หญิงไทยหน้าโง่มาให้ฉันได้อีกเธอก็จะได้เงินเพิ่มอีกนะ สนใจมั้ยล่ะ งานง่ายๆ แต่รายได้งาม”
“ไม่ล่ะ ฉันคิดว่าพอแค่นี้ก่อน..” แพรดาวตอบเสียงเบานึกหวั่นใจกับงานที่เธอหลวมตัวทำไปแล้ว แต่หญิงสาวก็ไม่มีโอกาสได้คิดอะไรต่อ เมื่อร่างสูงของดอนเดินเข้ามาหาด้วยแววตากระหายหื่น และเธอรู้ตัวเองดีว่าไม่สามารถหนีพ้นเพลิงพิศวาสอันรุนแรงของเขาไปได้ เมื่อเขาจูงเธอเข้าไปยังอีกห้องหนึ่งซึ่งอยู่ติดกับห้องที่พลอยไพลินนอนหลับใหลไม่ได้สติ เพื่อรับทัณฑ์สวาทของเขาอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง...
บทที่2.“อย่าทำอะไรลินเลยนะคะ ได้โปรดปล่อยลินไปเถอะ”พลอยไพลินตื่นขึ้นมาในห้องกว้างดูหรูหรางดงามพร้อมกับเจอหน้าของชายหนุ่มต่างชาติผู้หล่อเหลา แต่สายตาของเขากลับทำให้เธอนึกกลัว และเมื่อรู้ตัวว่าจะต้องเจอกับอะไร พลอยไพลินถึงกับเข่าอ่อนหวาดหวั่นอย่างที่สุด ไม่นึกเลยว่าพี่สาวแท้ๆ จะทำกับเธอได้ถึงเพียงนี้“ฉันไม่ทำให้เธอเจ็บหรือผิดหวังหรอกน่าสาวน้อย แต่ฉันจะทำให้เธอมีความสุขที่สุด มีผัวฝรั่งมันดีนะ แล้วเธอจะติดใจเหมือนพี่สาวเธอ”“ไม่ค่ะ ปล่อยลินไปเถอะ ลินไม่ได้อยากมีผัวหรือต้องการผัวฝรั่งเลย..” พลอยไพลินพูดลนลาน พลางเดินถอยห่างจากเขาที่สืบเท้าเข้ามาหาด้วยแววตาที่น่าขยะแขยงนัก“เธอไม่มีทางไปจากที่นี่ได้หรอกพลอยไพลิน หรือหากเธอก้าวออกจากห้องนี้ไป โดยที่ฉันไม่ได้อนุญาต เธออาจจะมีผัวทีเดียวหลายคน ฮ่าๆ” ดอนกล่าวพลางหัวเราะด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียม จนพลอยไพลินขนหัวลุกด้วยความกลัว และขยะแขยง ดวงตากลมโตดำขลับราวนิลเนื้อดี กวาดมองหาช่องทางหนีแต่มันไม่มีเสียเลย...“กรี๊ดดดด ปล่อยนะ ปล่อยฉันนน...” พลอยไพลินกรีดร้อง เมื่อร่างสูงของดอนกระโดดเข้ามาคว้าตัวของเธอไว้ได้ ก่อนจะโยนเธอลงบนเตียงกว้างอย่างไม่ปรา
บทที่3.ดวงตางามภายใต้ขนตางามงอนค่อยๆ กระพือขึ้นช้าๆ แล้วหลับลงไปอีกครั้ง เมื่อแสงจ้ารอบกายทำให้รู้สึกแสบตาจนลืมตาไม่ขึ้น พลอยไพลินพยายามลืมตาขึ้นอีกครั้ง แล้วก็ต้องเบิกตากว้างอย่างตื่นตระหนก... เธออยู่ในห้องที่แสนจะหรูหรา เพดานห้องประดับด้วยโคมไฟระย้างดงาม ผนังห้องสีน้ำตาลอ่อนๆ เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นจะออกโทนน้ำตาล ข้าวของทุกชิ้นในห้องนี้ล้วนแล้วแต่ราคาแพงลิบลิ่ว ซึ่งเธอคงไม่มีโอกาสได้ใช้ของแพงๆ เหล่านี้ และโทนสีอบอุ่นนั้นก็ไม่ได้ช่วยให้ความหวาดกลัวของเธอลดลงเธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ครั้งสุดท้ายที่รู้สึกตัวเธอกำลังคุยอยู่กับแพรดาวเรื่องจะไปทำธุระจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ที่เดือนนี้พี่สาวของเธอใจดีเป็นคนออกเงินเอง สุดท้ายเธอก็ถูกพี่สาวหลอกไปให้ผู้ชายผมทองคนนั้นปู้ยี่ปู้ยำ แค่คิดน้ำตาก็ไหลอาบแก้ม...“โอ๊ย อูย... เจ็บไปหมดทั้งตัวเลย...” พลอยไพลินพยายามยันกายจากที่นอนอย่างยากลำบาก เมื่อความเจ็บแปลบแล่นไปทั้งร่าง ความหวาดกลัวว่าตนเองจะถูกย่ำยีก็ลดลงไปด้วย เมื่อเธอสวมใส่เสื้อผ้าอยู่ นั่นคือเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งแม้มันจะมีเพียงแค่ชิ้นเดียวบนร่างกาย แต่ทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจอย่างประหลาด และเธอก็ไม่ได้รู้สึกเ
บทที่4.หญิงสาวมองกระดาษในมืออย่างไม่เข้าใจว่าทำไมเธอต้องลงชื่อในสิ่งที่เรียกว่า สัญญา กับเขาด้วยอาเธอร์ คิงส์ ในที่สุดเธอก็รู้จักชื่อของเขา แต่ชื่อนี้เธอเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนนะ แต่เธอไม่เข้าใจว่าเธอตกเป็นเชลยของเขาได้อย่างไร ซ้ำอาเธอร์ยังทำท่าราวกับเธอคือตัวอะไรสักอย่างที่น่ารังเกียจ สายตาของเขาที่มองมา มันไม่เป็นมิตร และเธอรู้สึกได้ถึงความเกลียดชังเขาเกลียดเธอหรือ เกลียดด้วยเรื่องอะไรล่ะ เธอไปทำอะไรให้เขา... พลอยไพลินคิดอย่างวิตกและอยากรู้“ในสัญญานั้นจะทำให้เธออยู่ในสายตาฉัน และยังได้เงินเดือนอีกด้วยแค่ช่วยฉันตามหาพี่สาวเธอ”“แต่ฉันไม่ต้องการ ฉันแค่อยากกลับบ้าน คุณยิ่งใหญ่ขนาดนั้นแค่พี่สาวฉันคนเดียว คุณก็คงจัดการได้ ปล่อยฉันไปเถอะนะคะ ฉันไม่รู้อะไรเลยจริงๆ”หญิงสาวบอกเขาอย่างไม่พอใจเล็กน้อย แต่ก็พยายามเก็บอาการอย่างที่สุด ตอนนี้เธออยู่ในถิ่นของคนที่เรียกได้ว่าเข้าใกล้คำว่ามาเฟียมาก ดูสิลูกน้องเขาเต็มบ้านหน้าตาไม่ยินดียินร้ายกับใคร และทุกคนก็มองเธอด้วยความเฉยเมย เหมือนเธอไม่มีตัวตน ดวงตากลมโตกวาดมองรอบๆ บ้านหลังงาม ที่นึกนิยมในใจว่ามันงดงามน่าอยู่ ร่มรื่นติดภูเขาและทะเล แต่คนที่นี
บทที่5.หญิงสาวบ่นกับตัวเอง เธอไม่ได้โง่พอที่จะไม่เข้าใจความหมายในแววตาของเขา ผู้หญิงไทยก็คงเป็นโสเภณีในสายตาของเขาสินะ อาเธอร์จึงได้มองเธอด้วยแววตาเหยียดหยันอยู่เสมอ... และนี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่เธอด่าใครสักคน หญิงสาวยันกายลุกขึ้น สูดลมหายใจลึกๆ บอกตัวเองให้พร้อมเผชิญกับทุกสิ่ง...ในขณะที่คนตัวเล็กกำลังทำอาหารอยู่ในครัว จนกลิ่นอาหารหอมฟุ้งไปทั้งบ้านหลังงาม ทำให้ทุกคนซึ่งอยู่ในที่แห่งนี้หันมองไปตามกลิ่นและเห็นร่างเล็กๆ ของพลอยไพลินกำลังทำอาหารอยู่ในครัวหรู ซึ่งพวกเขาทำได้แค่มอง ผู้หญิงของเจ้านาย ที่กำลังทำอาหารเงียบๆ ริชาร์ตมองร่างบางผ่านกระจกใสอย่างครุ่นคิด พลางเหลือบสายตาไปยังห้องนอนของเจ้านายหนุ่ม“พวกแกไปทำงานได้แล้วไป ส่งคนของเราไปดูความเคลื่อนไหวของคุณลูเซียส แล้วแกสามคนไปดูลาดเลาที่คาสิโนที่ไอ้ดอนมันเข้าออกบ่อยๆ ส่วนแกไปตามดูที่บ้านของคุณพลอยไพลินว่าพี่สาวของเธอติดต่อกลับมาบ้างมั้ย”ชายหนุ่มสั่งงานแทนเจ้านายอย่างรู้หน้าที่ บรรดาชายหนุ่มวัยฉกรรจ์ ซึ่งเป็นลูกน้องฝีมือดีของอาเธอร์รับคำอย่างเสียดายเล็กน้อย ที่จะไม่ได้อยู่รับประทานอาหารกลิ่นหอมฟุ้งนั้น ใช่ว่าพวกเขาจะเห็นแก่กิน แต่กล
บทที่6.“อืม จริงสินะ ถ้าอย่างนั้น ฉันมีข้อแลกกับการไปจากที่นี่” อาเธอร์บอกอย่างใจดี ซ่อนความเจ้าเล่ห์ร้ายกาจไว้มิดชิด ชนิดที่ว่าพลอยไพลิน ไม่มีโอกาสได้รู้หรือตามเขาทันแน่นอน“ยังไงคะ” พลอยไพลินถามอย่างตื่นเต้น แต่เมื่อเขาหันมาเผชิญหน้า ความตื่นเต้นของเธอลดลงครึ่งต่อครึ่งอย่างช่วยไม่ได้ ไม่รู้ทำไมแววตาของเขาทำให้รู้สึกหวิวๆ เหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจ...“ก็แค่ทำงานเป็นแม่บ้านให้ฉันสักเดือน ทำทุกอย่าง... เมื่อได้เงินเดือนเธอก็สามารถกลับบ้านได้ เธอคงไม่คิดว่าฉันจะใจดีส่งเธอกลับบ้านเฉยๆ หรอกนะ ฉันเป็นนักธุรกิจนะ อีกอย่างฉันก็ไม่รู้ว่าเธอจะปากโป้ง เรื่องที่ฉันยิงไอ้ดอนมันรึเปล่า ดังนั้นหนึ่งเดือนเธออยู่ที่นี่ เป็นแม่บ้านให้ฉัน”“แต่ฉันทำสัญญากับคุณไปแล้วนี่คะ สัญญาที่ฉันจะทำหน้าที่ติดตามหาพี่สาวฉัน”“ฉันฉีกมันทิ้งไปแล้ว อย่าลืมสิฉันเป็นคนที่มีอำนาจยกเลิกสัญญาเมื่อไหร่ก็ได้นะ ฉันทำสัญญาและหน้าที่ใหม่ให้เธอแล้วเพราะฉันเพิ่งเก็บคำพูดเธอไปคิดว่า ถึงไม่มีเธอฉันก็ตามหาแพรดาวได้ ฉันเห็นตามนั้นเลยล่ะ... ตกลงจะเอาไง”เขาถามเสียงเข้มจ้องหน้าอ่อนใสนั้นอย่างคาดคั้นและเหนือกว่า รู้อยู่แล้วว่าพลอยไพลิน
บทที่7.อาเธอร์คิดอย่างกระหยิ่มใจ พลางจูบไซ้ซอกซอนหาความหวานจากโพรงปากนุ่ม ที่หวานล้ำอย่างที่เขาไม่เคยสัมผัสได้จากหญิงสาวคนไหนมาก่อน พลอยไพลินทำให้เขาอยากจะจูบ อยากจะลูบไล้เรือนกายงามของเธอได้โดยที่ไม่ต้องยั่วยวนเขาสักนิด และพลอยไพลินเป็นหญิงไทยคนแรก ที่เขาจูบเธอเสียด้วยริมฝีปากร้อนผ่าวจูบซับความหวานจากปากสาวอย่างหิวกระหายค่อยๆ ไล้ละเรื่อยมายังแก้มแดงจัด และใบหูบางที่แดงไม่แพ้กัน ก่อนจะจูบไซ้ลงมาที่ซอกคอขาวผ่องขบเม้มเล่นทั้งดอมดมกลิ่นเนื้อสาวเข้าปอดอย่างพอใจ ริมฝีปากร้ายร้อนระอุไม่หยุดเท่านั้น แต่กำลังเลื่อนต่ำลงมายังร่องอกอวบอิ่มที่ซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อชีฟองลายสวยแขนกุดเผยไหล่มนผุดผ่อง ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนทรวงสาวจะเบ่งบานรอคอยบางอย่าง ยอดอกเครียดคัดไหวระริกอยู่ใต้บราเซียตัวสวยยั่วให้ดูดดึงดื่มกินยิ่งนัก...“เธอหวานเหลือเกินพลอยไพลิน หวานอย่างไม่น่าเชื่อ...” อาเธอร์ ครางเหมือนเพ้อละเมอไม่รู้ตัว ในขณะผ่อนร่างอ่อนระทวยของหญิงสาวลงบนโซฟาตัวใหญ่ แล้ววกกลับมาจุมพิตริมฝีปากแดงปลั่งอย่างเร่าร้อนอีกครั้ง มือร้อนระอุราวเปลวไฟลูบไล้สอดซุกเข้าไปในชายเสื้อตัวบาง เสาะหาสิ่งที่เขาปรารถนาจะจับต้อง และเ
บทที่8.“ลินจ๋า ช่วยฉันหน่อย ฉันต้องการให้เธอช่วย...”น้ำเสียงนั้นฟังดูออดอ้อนนัก จนคนฟังหัวใจละลายและพลอยไพลินก็ไม่อยากเชื่อเลยว่าอาเธอร์จะพูดอย่างนั้นกับตน ก็เพราะท่าทางของเขาก่อนหน้านี้ มันไม่ใช่แบบนี้นี่นา หญิงสาวคิดในใจ แต่ความคิดของเธอก็ต้องติดๆ ขัดๆ นึกอะไรไม่ค่อยออกเสียด้วยสิ “ชะ ช่วย อะไรคะ... ลิน หนาว...”พลอยไพลินพูดตะกุกตะกักไม่เข้าใจที่เขาพูด และพยายามจะดึงมือหนี และลุกขึ้นหาผ้ามาสวมใส่ เธออายเหลือเกินที่นั่งเปลือยเปล่าต่อหน้าเขาแบบนี้ แล้วตอนนี้เธอก็รู้สึกหนาวขึ้นมาจับใจ พลอยไพลินมองเขายังซึ่งสวมเสื้อผ้าครบชุด มีเพียงตรงกลางร่างแกร่งเท่านั้นที่เขาปลดกระดุมกางเกงยีนจนหมดแถวพร้อมกับปลดปล่อยบางสิ่งออกมาให้เธอกอบกุมอยู่ในตอนนี้...“ทำแบบนี้ที่รัก... อา นั่นล่ะ ใช่แล้วดีมาก” อาเธอร์ครางออกมาอย่างอ่อนหวาน ขยับมือหนาของตนสอนสั่งให้เธอทำตามซ้ำนักเรียนหน้าใสก็ยังทำได้ดีเกินคาด แม้จะยังกล้าๆ กลัวๆ ทั้งเคอะเขินในสิ่งที่กำลังทำอยู่ ชายหนุ่มหลับตาลงอย่างซ่านใจเมื่อเขาไม่จำเป็นต้องชักนำมือน้อยแล้ว เสียงครางแหบห้าวหนักหน่วงจึงดังขึ้นในเวลาต่อมา พร้อมกับการได้ปลดปล่อยความอัดอั้นจากเพลิ
บทที่9.“นายบอกว่าไอ้ลูเซียสมันท้าให้ฉันไปหามันที่บ้านเหรอ”“ครับคุณลูเซียสบอกว่าหากคุณอาร์มีอะไรข้องใจให้ไปพบที่บ้านได้เลย ตอนนี้เขามาเมืองไทยพอดี” ริชาร์ตรายงานความคืบหน้าเรื่องที่เขาตามอยู่ซึ่ง ลูเซียส เวอร์เลนติโน นักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อชาวอิตาเลี่ยนทายาทอดีตมาเฟียใหญ่ซึ่ง เวอร์เลนติโน นั้นเป็นตระกูลเก่าแก่และร่ำรวยที่สุดในอิตาลีด้วยและลูเซียสก็เป็นหนึ่งในหนุ่มหล่อผู้ร่ำรวยและทรงอิทธิพอๆ กับอาเธอร์“ดี งั้นฉันจะไปตามคำท้า” อาเธอร์กล่าวเสียงเข้มดวงตาคมกล้าทอดมองไปนอกหน้าต่างซึ่งภายนอกนั้นมืดมิด ดวงดาวนับล้านสิ่งแสงระยิบเต็มท้องฟ้า“ให้ผมเตรียมอาวุธพร้อมเลยมั้ยครับ”“ไม่ต้อง ฉันจะไปแต่ตัว ฉันเชื่อว่าไอ้ลูเซียสมันมีศักดิ์ศรีพอไม่ลอบกัดแน่นอน นายไปจัดการตามหาร่องรอยของแพรดาวมาให้ฉันที”“ครับ” ริชาร์ตรับคำแล้วเดินออกไปพอดีกับที่พลอยไพลินเดินเข้ามา“คุณมีอะไรจะใช้ฉันหรือคะ” หญิงสาวกล่าวอย่างอ่อนเพลีย เพลียใจกับเจ้านายอารมณ์แปรปรวนที่ชอบฉีกสัญญาเป็นว่าเล่นอย่างเขานัก“ทำเหมือนเบื่อเลยนะ นี่เธอเพิ่งเริ่มงานได้ไม่ถึงสองวันเลยนะพลอยไพลิน” “เป็นใครก็ต้องเบื่อทั้งนั้นล่ะค่ะ” พลอยไพลินตอบเบา