“อืม จริงสินะ ถ้าอย่างนั้น ฉันมีข้อแลกกับการไปจากที่นี่” อาเธอร์บอกอย่างใจดี ซ่อนความเจ้าเล่ห์ร้ายกาจไว้มิดชิด ชนิดที่ว่าพลอยไพลิน ไม่มีโอกาสได้รู้หรือตามเขาทันแน่นอน
“ยังไงคะ” พลอยไพลินถามอย่างตื่นเต้น แต่เมื่อเขาหันมาเผชิญหน้า ความตื่นเต้นของเธอลดลงครึ่งต่อครึ่งอย่างช่วยไม่ได้ ไม่รู้ทำไมแววตาของเขาทำให้รู้สึกหวิวๆ เหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจ...
“ก็แค่ทำงานเป็นแม่บ้านให้ฉันสักเดือน ทำทุกอย่าง... เมื่อได้เงินเดือนเธอก็สามารถกลับบ้านได้ เธอคงไม่คิดว่าฉันจะใจดีส่งเธอกลับบ้านเฉยๆ หรอกนะ ฉันเป็นนักธุรกิจนะ อีกอย่างฉันก็ไม่รู้ว่าเธอจะปากโป้ง เรื่องที่ฉันยิงไอ้ดอนมันรึเปล่า ดังนั้นหนึ่งเดือนเธออยู่ที่นี่ เป็นแม่บ้านให้ฉัน”
“แต่ฉันทำสัญญากับคุณไปแล้วนี่คะ สัญญาที่ฉันจะทำหน้าที่ติดตามหาพี่สาวฉัน”
“ฉันฉีกมันทิ้งไปแล้ว อย่าลืมสิฉันเป็นคนที่มีอำนาจยกเลิกสัญญาเมื่อไหร่ก็ได้นะ ฉันทำสัญญาและหน้าที่ใหม่ให้เธอแล้วเพราะฉันเพิ่งเก็บคำพูดเธอไปคิดว่า ถึงไม่มีเธอฉันก็ตามหาแพรดาวได้ ฉันเห็นตามนั้นเลยล่ะ... ตกลงจะเอาไง”
เขาถามเสียงเข้มจ้องหน้าอ่อนใสนั้นอย่างคาดคั้นและเหนือกว่า รู้อยู่แล้วว่าพลอยไพลินไม่อาจจะปฏิเสธสิ่งที่เขาเสนอให้ไม่ว่าอะไรก็ตาม...
“คุณนี่มัน...” พลอยไพลินพูดไม่ออก ไม่รู้จะว่าเขาอย่างไรดี หมดคำพูดจะมาต่อว่าเขา จริงอยู่แม้เธอจะเป็นแม่ค้าขายขนมแต่ไม่ใช่แม่ค้าปากตลาดด่าไฟแลบนี่นา เธอเคยด่าว่าใครเขาเสียที่ไหนล่ะ แต่ อ้อ.. เมื่อครู่ใหญ่ๆ เธอว่าเขาไอ้ฝรั่งบ้า... ไปคำหนึ่งเท่านั้นเอง
“เอาล่ะ ถ้าตกลง ก็มาทำหน้าที่แรกของเธอก่อน...”
อาเธอร์กล่าวด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ที่เขาก็ยังแปลกใจตนเองเช่นกันที่ทำน้ำเสียงแบบนั้นได้อย่างไร ซ้ำยังทำอะไรบ้าๆ โง่ๆ อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนด้วย นั่นก็เพราะหญิงสาวหน้าตาจืดๆ ตัวเล็กๆ อย่างพลอยไพลินคนเดียว
อาเธอร์คิดอย่างไม่สบอารมณ์นัก ตั้งแต่ที่พลอยไพลินเข้ามาในชีวิตของเขา ก็ดูเหมือนว่าระเบียบกฎเกณฑ์ต่างๆ ของเขาเริ่มสั่นคลอน ผู้หญิงไทยตัวเล็กๆ คนนี้ เริ่มทำให้เขาไม่เป็นตัวของตัวเองอย่างไม่น่าเชื่อ แต่เสียงเล็กๆ ในหัวก็กระซิบอย่างเจ้าเล่ห์ว่า เขาน่าจะลองหาอะไรสนุกๆ แปลกใหม่เล่นดูบ้าง ในเมื่อมีเหยื่อหลงเข้ามาแล้ว แค่เดือนเดียวเท่านั้น แล้วพลอยไพลินจะหมดความหมายสำหรับเขา
ใช่... เขาน่าจะลองเล่นเกมสนุกๆ ดูสักตั้ง...
พลอยไพลินทำหน้าเหมือนกินยาขม เมื่องานแรกที่เขายัดเยียดให้ แม่บ้านส่วนตัว เช่นเธอทำ ดวงตากลมโตมองคนที่นอนรอให้เธอไปบีบนวดท่าทางราวเจ้าชาย ร่างสูงใหญ่นอนเหยียดยาวหลับตาพริ้มอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ ที่สามารถปรับเป็นเตียงนอนเล่นขนาดใหญ่ได้เลยทีเดียว ในห้องรับรองหรูหราท่าทางเขาดูสบายๆ แต่เธอสิหนักใจจนไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว...
“นี่เธอจะยืนเซ่ออยู่อีกนานมั้ย...” เสียงห้าวห้วนดังขึ้นจนเธอสะดุ้งหน้าซีดตกใจ แล้วเดินเข้าไปหาเขาแข้งขาสั่น แต่ไม่ใช่แค่ขาหรอกนะที่สั่นแต่เธอสั่นไปทั้งตัวเลยล่ะ
“จะ... จะให้ฉันทำอะไรคะ” หญิงสาวถามเสียงสั่นเล็กน้อยแล้วนั่งลงข้างๆ ร่างแกร่ง
“เธอความจำสั้นหรือโง่จนไม่เข้าใจคำสั่งของฉันหา..” เขาลืมตาขึ้นมองหน้าใสๆ อย่างไม่สบอารมณ์ หญิงสาวหลบตาเขาอย่างหวาดหวั่นกับสายตาเข้มๆ นั้น ซึ่งท่าทางของเธอทำให้เขาพอใจมาก ของเล่นชิ้นใหม่ของเขาช่างน่า...?
“ฉัน... เอ่อ”
“เอาล่ะฉันเมื่อยมากนวดให้ฉันหน่อยซิ” เขาสั่งแล้วหลับตาลงอีกครั้ง ร่างหนานอนคว่ำรอการบริการจากหมอนวดจำเป็น ซ่อนยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต
ให้ตายสิ คนอย่างเขาไม่เคยใช้เล่ห์กลหลอกล่อผู้หญิงคนไหนเลยสักครั้ง โดยเฉพาะผู้หญิงไทยที่เขานึกรังเกียจและไม่คิดจะคว้าเอามาข้างกายหรือแม้แต่จะควงเล่นๆ ด้วยซ้ำ
แต่พลอยไพลินกลับทำให้เขาเกิดความคิดอย่างนี้ขึ้นมา เธอทำให้เขากลืนน้ำลายตัวเอง ดังนั้นเธอก็ต้องรับผิดชอบสิ่งที่ทำกับเขา ชายหนุ่มคิดเข้าข้างตนเองหน้าตาเฉย...
พลอยไพลินกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคออย่างลำบากเพราะรู้สึกเหมือนลำคอแห้งผากจนเจ็บแสบไปหมด มือบางสั่นระริกค่อยๆ แตะลงบนบ่ากว้างของเขาช้าๆ แล้วออกแรงบีบบ่าแกร่งของเขาอย่างที่คิดว่าแรงที่สุดแล้ว แต่ดูเหมือนเขาไม่ได้รับรู้ถึงแรงราวกับมดของเธอเลยสักนิด แต่หญิงสาวก็ตั้งหน้าตาบีบนวดให้เขาอย่างตั้งใจ จนใบหน้านวลแดงก่ำเพราะออกแรงเยอะแต่คนหนังหนาอย่างเขา ก็ยังดูไม่สะเทือน ซ้ำยังสำเสียงหงุดหงิดในลำคอ
“นี่เธอออกแรงแล้วเหรอ...”
“ก็คุณตัวใหญ่นี่คะ ลินก็บีบไม่ไหว” พลอยไพลินเผลอตัวว่าเขาและแทนตัวเองอย่างที่เคยชิน อาเธอร์พลิกตัวกลับมาเผชิญหน้ากับเธอใบหน้าที่มีเคราครึ้มดูบึ้งตึงไม่พอใจจนหญิงสาวใจเสียถอยห่างเขาไปเล็กน้อย...
“ไหนเอามือมาซิ” เขาบอกเสียงห้วน พลอยไพลินจึงค่อยๆ ยื่นมือมาให้เขาช้าๆ มือบางเล็กจ้อยสั่นระริกจนเขาสังเกตได้ อาเธอร์กระชากมือเธอย่างไม่เบานัก จนร่างที่ถอยห่างไปเซถลากลับมาที่เดิม และแทบจะเกยทับร่างเขาที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่
“มือเล็กแค่นี้ออกแรงให้ตายฉันก็ไม่หายเมื่อย”
“ก็ลินไม่ได้ตัวใหญ่เหมือนคุณนี่” หญิงสาวแย้งอย่างอดไม่ได้
“แล้วฉันจะสอนการนวดให้ แล้วก็จำไว้ว่าต้องทำแบบไหนฉันจึงจะหายเมื่อย...” เขาพูดเสียงเข้มอย่างที่เธอไม่เข้าใจ แล้วก็ต้องมองเขาตาโต เมื่อเขารั้งให้เข้าไปใกล้จนพลอยไพลินต้องขืนตัวไว้ แต่สุดท้ายก็แพ้แรงคนตัวโตเสียหลักล้มลงมาเกยทับเขาเกือบทั้งตัว...
“อุ้ย คุณอาเธอร์ จะทำอะไรคะ... อื้มมม...” เสียงหวานที่กำลังจะเอ่ยทัดทานการสาธิตการบีบนวดของเขา หายไปในลำคอเมื่อริมฝีปากหยักสวยของเขาทาบลงมาบนกลีบปากระเรื่อ อีกทั้งมือหนาก็ช้อนใต้ศีรษะบังคับให้เธอยอมจำนนกับจุมพิตของเขา ลิ้นหนาฉวยฉกเข้าไปในโพรงปากสาว เกี่ยวรัดหยอกเย้าลิ้นเล็กๆ ที่ตื่นตระหนกให้โอนอ่อนผ่อนตามได้ไม่ยาก
คนอ่อนเดียงสาอย่างเธอรึจะหาญสู้ ผู้มากประสบกาม เอ๊ย ประสบการณ์อย่างเขาได้...
บทที่7.อาเธอร์คิดอย่างกระหยิ่มใจ พลางจูบไซ้ซอกซอนหาความหวานจากโพรงปากนุ่ม ที่หวานล้ำอย่างที่เขาไม่เคยสัมผัสได้จากหญิงสาวคนไหนมาก่อน พลอยไพลินทำให้เขาอยากจะจูบ อยากจะลูบไล้เรือนกายงามของเธอได้โดยที่ไม่ต้องยั่วยวนเขาสักนิด และพลอยไพลินเป็นหญิงไทยคนแรก ที่เขาจูบเธอเสียด้วยริมฝีปากร้อนผ่าวจูบซับความหวานจากปากสาวอย่างหิวกระหายค่อยๆ ไล้ละเรื่อยมายังแก้มแดงจัด และใบหูบางที่แดงไม่แพ้กัน ก่อนจะจูบไซ้ลงมาที่ซอกคอขาวผ่องขบเม้มเล่นทั้งดอมดมกลิ่นเนื้อสาวเข้าปอดอย่างพอใจ ริมฝีปากร้ายร้อนระอุไม่หยุดเท่านั้น แต่กำลังเลื่อนต่ำลงมายังร่องอกอวบอิ่มที่ซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อชีฟองลายสวยแขนกุดเผยไหล่มนผุดผ่อง ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนทรวงสาวจะเบ่งบานรอคอยบางอย่าง ยอดอกเครียดคัดไหวระริกอยู่ใต้บราเซียตัวสวยยั่วให้ดูดดึงดื่มกินยิ่งนัก...“เธอหวานเหลือเกินพลอยไพลิน หวานอย่างไม่น่าเชื่อ...” อาเธอร์ ครางเหมือนเพ้อละเมอไม่รู้ตัว ในขณะผ่อนร่างอ่อนระทวยของหญิงสาวลงบนโซฟาตัวใหญ่ แล้ววกกลับมาจุมพิตริมฝีปากแดงปลั่งอย่างเร่าร้อนอีกครั้ง มือร้อนระอุราวเปลวไฟลูบไล้สอดซุกเข้าไปในชายเสื้อตัวบาง เสาะหาสิ่งที่เขาปรารถนาจะจับต้อง และเ
บทที่8.“ลินจ๋า ช่วยฉันหน่อย ฉันต้องการให้เธอช่วย...”น้ำเสียงนั้นฟังดูออดอ้อนนัก จนคนฟังหัวใจละลายและพลอยไพลินก็ไม่อยากเชื่อเลยว่าอาเธอร์จะพูดอย่างนั้นกับตน ก็เพราะท่าทางของเขาก่อนหน้านี้ มันไม่ใช่แบบนี้นี่นา หญิงสาวคิดในใจ แต่ความคิดของเธอก็ต้องติดๆ ขัดๆ นึกอะไรไม่ค่อยออกเสียด้วยสิ “ชะ ช่วย อะไรคะ... ลิน หนาว...”พลอยไพลินพูดตะกุกตะกักไม่เข้าใจที่เขาพูด และพยายามจะดึงมือหนี และลุกขึ้นหาผ้ามาสวมใส่ เธออายเหลือเกินที่นั่งเปลือยเปล่าต่อหน้าเขาแบบนี้ แล้วตอนนี้เธอก็รู้สึกหนาวขึ้นมาจับใจ พลอยไพลินมองเขายังซึ่งสวมเสื้อผ้าครบชุด มีเพียงตรงกลางร่างแกร่งเท่านั้นที่เขาปลดกระดุมกางเกงยีนจนหมดแถวพร้อมกับปลดปล่อยบางสิ่งออกมาให้เธอกอบกุมอยู่ในตอนนี้...“ทำแบบนี้ที่รัก... อา นั่นล่ะ ใช่แล้วดีมาก” อาเธอร์ครางออกมาอย่างอ่อนหวาน ขยับมือหนาของตนสอนสั่งให้เธอทำตามซ้ำนักเรียนหน้าใสก็ยังทำได้ดีเกินคาด แม้จะยังกล้าๆ กลัวๆ ทั้งเคอะเขินในสิ่งที่กำลังทำอยู่ ชายหนุ่มหลับตาลงอย่างซ่านใจเมื่อเขาไม่จำเป็นต้องชักนำมือน้อยแล้ว เสียงครางแหบห้าวหนักหน่วงจึงดังขึ้นในเวลาต่อมา พร้อมกับการได้ปลดปล่อยความอัดอั้นจากเพลิ
บทที่9.“นายบอกว่าไอ้ลูเซียสมันท้าให้ฉันไปหามันที่บ้านเหรอ”“ครับคุณลูเซียสบอกว่าหากคุณอาร์มีอะไรข้องใจให้ไปพบที่บ้านได้เลย ตอนนี้เขามาเมืองไทยพอดี” ริชาร์ตรายงานความคืบหน้าเรื่องที่เขาตามอยู่ซึ่ง ลูเซียส เวอร์เลนติโน นักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อชาวอิตาเลี่ยนทายาทอดีตมาเฟียใหญ่ซึ่ง เวอร์เลนติโน นั้นเป็นตระกูลเก่าแก่และร่ำรวยที่สุดในอิตาลีด้วยและลูเซียสก็เป็นหนึ่งในหนุ่มหล่อผู้ร่ำรวยและทรงอิทธิพอๆ กับอาเธอร์“ดี งั้นฉันจะไปตามคำท้า” อาเธอร์กล่าวเสียงเข้มดวงตาคมกล้าทอดมองไปนอกหน้าต่างซึ่งภายนอกนั้นมืดมิด ดวงดาวนับล้านสิ่งแสงระยิบเต็มท้องฟ้า“ให้ผมเตรียมอาวุธพร้อมเลยมั้ยครับ”“ไม่ต้อง ฉันจะไปแต่ตัว ฉันเชื่อว่าไอ้ลูเซียสมันมีศักดิ์ศรีพอไม่ลอบกัดแน่นอน นายไปจัดการตามหาร่องรอยของแพรดาวมาให้ฉันที”“ครับ” ริชาร์ตรับคำแล้วเดินออกไปพอดีกับที่พลอยไพลินเดินเข้ามา“คุณมีอะไรจะใช้ฉันหรือคะ” หญิงสาวกล่าวอย่างอ่อนเพลีย เพลียใจกับเจ้านายอารมณ์แปรปรวนที่ชอบฉีกสัญญาเป็นว่าเล่นอย่างเขานัก“ทำเหมือนเบื่อเลยนะ นี่เธอเพิ่งเริ่มงานได้ไม่ถึงสองวันเลยนะพลอยไพลิน” “เป็นใครก็ต้องเบื่อทั้งนั้นล่ะค่ะ” พลอยไพลินตอบเบา
บทที่10.พลอยไพลินลอบมองชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่พอๆ กับอาเธอร์อย่างชื่นชม ลูเซียส เวอร์เลนติโน่ เป็นชายหนุ่มรูปงามใบหน้าหล่อเหลานั้นขาวสะอาดค่อนข้างคมหวานดวงตายาวใหญ่สีน้ำตาลเข้มนั้นดูมีแววรื่นรมย์อยู่เสมอ จมูกโด่งเป็นสันงดงามรับกับริมฝีปากหยักสวยได้รูปอย่างชายชาตรี เรือนผมสีน้ำตาลเข้มนั้นยาวระบ่ากว้าง โดยรวมแล้วลูเซียสดูเหมือนพวกศิลปินหรือคนทำงานเกี่ยวกับศิลปะมากกว่าเป็นนักธุรกิจหรือมาเฟีย และลูเซียสก็น่าเข้าใกล้มากกว่าคนที่เธอมาด้วยมากมายเลยทีเดียว...“ฉันว่านายน่าจะมองคนอื่นบ้างนะอาร์ คนที่ต้องการของของนายไม่ได้มีแค่ฉันคนเดียว”“แต่ฉันรู้ว่าเธอมาที่นี่”“ใช่... เธอมาที่นี่ แต่ฉันไม่เห็นเธอเลยและไม่ได้เห็นของที่นายตามหาเลยแม้แต่น้อย แต่หากนายอยากให้ฉันช่วยตามก็ขอร้องให้ช่วยดีๆ ก็ได้ไม่ต้องใช้กำลังกับคนของฉันเหมือนหมาลอบกัด” ลูเซียสกล่าวเสียงจริงจังดวงตาสีน้ำตาลเข้มสบมองท้าทายดวงตาสีฟ้าจัดอย่างไม่เกรงกลัว...“ฉันไม่เคยลอบกัดใคร อีกอย่างนายก็น่าจะมองคนอื
บทนำ“ลูกดาวจ๊ะ ลูกต้องจำไว้นะลูกต้องมีผัวฝรั่งเหมือนบ้านนั้นเห็นมั้ย เขามีผัวฝรั่งกลับมาร่ำรวยฟู่ฟ่า ดูนังแมวสิพอลูกสาวมันได้ผัวฝรั่งกลับมาร่ำรวย มันก็คุ้ยฟุ้งไปทั้งหมู่บ้าน แม่ล่ะหมั่นไส้มันนัก หาผัวฝรั่งรวยๆ นะลูกดาว แม่จะได้สบายรู้มั้ย” “ค่ะแม่ แล้วดาวจะหาผัวฝรั่งรวยๆ นะแม่นะ แต่ว่าตอนนี้ดาวขอเงินไปเรียนภาษาไปก่อนได้มั้ยคะแม่ขา อีกอย่างดาวจะไปจ่ายค่าเนตด้วย คืนนี้ดาวจะแชทคุยกับคุณดอนให้ฉ่ำใจไปเลย...”แพรดาว หญิงสาววัยยี่สิบห้าใบหน้าสะสวยหาตัวจับยาก เรือนร่างสูงระหงทว่าอวบอิ่มอกเป็นอก เอวเป็นเอว สะโพกเป็นสะโพก อย่างที่ทำให้ชายหนุ่มมองกันเหลียวหลัง ผิวสีน้ำผึ้งเปล่งปลั่งอีกทั้งการแต่งกายที่เปิดเผยสัดส่วนอวบอิ่มของเธอก็ทำให้แพรดาวดูสวยเย้ายวนมากขึ้น หญิงสาวเอ่ยออดอ้อน นางเดือน ผู้เป็นมารดาซึ่งอยู่ในวัยสี่สิบปลายๆ แต่นางยังคงสวยพริ้งเพราเพราะชอบแต่งตัวและดูแลตัวเองดีมาเสมอ“ได้เลยค่ะ ดาวลูกรักของแม่” เรื่องสนับสนุนลูกให้หา สามีฝรั่งรวยๆ นี่นางสนับสนุนเต็มที่“ขอบคุณค่ะแม่ขา แม่ช่างเป็นแม่ที่ทั้งสวยและใจดีมากๆ เลยค่ะ”แพรดาวเสียงหวานเอาอกเอาใจ ริมฝีปากที่ทาลิปสติกสีแดงจัดจ้านย
บทที่ 1ใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่นั้นดูเคร่งเครียดจัด ดวงตาคมวาวโรจน์ด้วยความโกรธเมื่อของสำคัญได้หายไปจากงานแสดงเครื่องเพชรของ คิงส์คอปอเรชั่น และเครื่องเพชรชุดนั้นก็มีมูลค่ามหาศาลทั้งยังเป็นของรักของมารดาผู้ล่วงลับของเขา ชายหนุ่มหันมามองคนที่อยู่เบื้องหน้าด้วยแววตาขึ้งเครียด เมื่อรู้แน่แล้วว่าของสำคัญของเขานั้นอยู่ที่ไหนและกับใคร อาเธอร์ คิงส์ นักธุรกิจหนุ่มลูกครึ่งแม็กซิกัน อเมริกันผู้หล่อเหลาและร่ำรวยมหาศาล ชายหนุ่มเจ้าของร่างสูงใหญ่ 188 เซนติเมตร ผิวสีแทนคร้ามใบหน้าเรียวยาวได้รูปซึ่งประกอบด้วยดวงตาสีฟ้าสดคมเข้มภายใต้คิ้วหนายาว จมูกโด่งเป็นสันสวยไม่งองุ้มรับกับริมฝีปากหยักสีเข้ม ร่างแกร่งอุดมด้วยมัดกล้ามตึงแน่นอย่างที่เราเรียกกันว่าซิกแพ็กนั้น น่าลูบไล้สัมผัสด้วยปุยขนสีอ่อนนุ่มนวลสีเดียวกันกับเส้นผมสีน้ำตาลเข้มออกแดงเล็กน้อยที่ตัดเล็มอย่างดีเยี่ยมรับกับรูปหน้าหล่อเหลาคมเข้ม เขาเพียบพร้อมสมบูรณ์แบบอย่างที่สาวๆ ใฝ่ฝัน แต่ก็ยังไม่มีใครสามารถครอบครองหัวใจหนุ่มโสดเนื้อหอมคนนี้ได้ ในวัยสามสิบสามปีอาเธอร์ก็ยังคงเป็นหนุ่มโสดเนื้อหอมอันดับต้นๆ ของวงการนักธุรกิจ หนุ่มหล่อ รวย
บทที่2.“อย่าทำอะไรลินเลยนะคะ ได้โปรดปล่อยลินไปเถอะ”พลอยไพลินตื่นขึ้นมาในห้องกว้างดูหรูหรางดงามพร้อมกับเจอหน้าของชายหนุ่มต่างชาติผู้หล่อเหลา แต่สายตาของเขากลับทำให้เธอนึกกลัว และเมื่อรู้ตัวว่าจะต้องเจอกับอะไร พลอยไพลินถึงกับเข่าอ่อนหวาดหวั่นอย่างที่สุด ไม่นึกเลยว่าพี่สาวแท้ๆ จะทำกับเธอได้ถึงเพียงนี้“ฉันไม่ทำให้เธอเจ็บหรือผิดหวังหรอกน่าสาวน้อย แต่ฉันจะทำให้เธอมีความสุขที่สุด มีผัวฝรั่งมันดีนะ แล้วเธอจะติดใจเหมือนพี่สาวเธอ”“ไม่ค่ะ ปล่อยลินไปเถอะ ลินไม่ได้อยากมีผัวหรือต้องการผัวฝรั่งเลย..” พลอยไพลินพูดลนลาน พลางเดินถอยห่างจากเขาที่สืบเท้าเข้ามาหาด้วยแววตาที่น่าขยะแขยงนัก“เธอไม่มีทางไปจากที่นี่ได้หรอกพลอยไพลิน หรือหากเธอก้าวออกจากห้องนี้ไป โดยที่ฉันไม่ได้อนุญาต เธออาจจะมีผัวทีเดียวหลายคน ฮ่าๆ” ดอนกล่าวพลางหัวเราะด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียม จนพลอยไพลินขนหัวลุกด้วยความกลัว และขยะแขยง ดวงตากลมโตดำขลับราวนิลเนื้อดี กวาดมองหาช่องทางหนีแต่มันไม่มีเสียเลย...“กรี๊ดดดด ปล่อยนะ ปล่อยฉันนน...” พลอยไพลินกรีดร้อง เมื่อร่างสูงของดอนกระโดดเข้ามาคว้าตัวของเธอไว้ได้ ก่อนจะโยนเธอลงบนเตียงกว้างอย่างไม่ปรา
บทที่3.ดวงตางามภายใต้ขนตางามงอนค่อยๆ กระพือขึ้นช้าๆ แล้วหลับลงไปอีกครั้ง เมื่อแสงจ้ารอบกายทำให้รู้สึกแสบตาจนลืมตาไม่ขึ้น พลอยไพลินพยายามลืมตาขึ้นอีกครั้ง แล้วก็ต้องเบิกตากว้างอย่างตื่นตระหนก... เธออยู่ในห้องที่แสนจะหรูหรา เพดานห้องประดับด้วยโคมไฟระย้างดงาม ผนังห้องสีน้ำตาลอ่อนๆ เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นจะออกโทนน้ำตาล ข้าวของทุกชิ้นในห้องนี้ล้วนแล้วแต่ราคาแพงลิบลิ่ว ซึ่งเธอคงไม่มีโอกาสได้ใช้ของแพงๆ เหล่านี้ และโทนสีอบอุ่นนั้นก็ไม่ได้ช่วยให้ความหวาดกลัวของเธอลดลงเธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ครั้งสุดท้ายที่รู้สึกตัวเธอกำลังคุยอยู่กับแพรดาวเรื่องจะไปทำธุระจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ที่เดือนนี้พี่สาวของเธอใจดีเป็นคนออกเงินเอง สุดท้ายเธอก็ถูกพี่สาวหลอกไปให้ผู้ชายผมทองคนนั้นปู้ยี่ปู้ยำ แค่คิดน้ำตาก็ไหลอาบแก้ม...“โอ๊ย อูย... เจ็บไปหมดทั้งตัวเลย...” พลอยไพลินพยายามยันกายจากที่นอนอย่างยากลำบาก เมื่อความเจ็บแปลบแล่นไปทั้งร่าง ความหวาดกลัวว่าตนเองจะถูกย่ำยีก็ลดลงไปด้วย เมื่อเธอสวมใส่เสื้อผ้าอยู่ นั่นคือเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งแม้มันจะมีเพียงแค่ชิ้นเดียวบนร่างกาย แต่ทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจอย่างประหลาด และเธอก็ไม่ได้รู้สึกเ