อาเธอร์คิดอย่างกระหยิ่มใจ พลางจูบไซ้ซอกซอนหาความหวานจากโพรงปากนุ่ม ที่หวานล้ำอย่างที่เขาไม่เคยสัมผัสได้จากหญิงสาวคนไหนมาก่อน พลอยไพลินทำให้เขาอยากจะจูบ อยากจะลูบไล้เรือนกายงามของเธอได้โดยที่ไม่ต้องยั่วยวนเขาสักนิด และพลอยไพลินเป็นหญิงไทยคนแรก ที่เขาจูบเธอเสียด้วย
ริมฝีปากร้อนผ่าวจูบซับความหวานจากปากสาวอย่างหิวกระหายค่อยๆ ไล้ละเรื่อยมายังแก้มแดงจัด และใบหูบางที่แดงไม่แพ้กัน ก่อนจะจูบไซ้ลงมาที่ซอกคอขาวผ่องขบเม้มเล่นทั้งดอมดมกลิ่นเนื้อสาวเข้าปอดอย่างพอใจ ริมฝีปากร้ายร้อนระอุไม่หยุดเท่านั้น แต่กำลังเลื่อนต่ำลงมายังร่องอกอวบอิ่มที่ซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อชีฟองลายสวยแขนกุดเผยไหล่มนผุดผ่อง ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนทรวงสาวจะเบ่งบานรอคอยบางอย่าง ยอดอกเครียดคัดไหวระริกอยู่ใต้บราเซียตัวสวยยั่วให้ดูดดึงดื่มกินยิ่งนัก...
“เธอหวานเหลือเกินพลอยไพลิน หวานอย่างไม่น่าเชื่อ...” อาเธอร์ ครางเหมือนเพ้อละเมอไม่รู้ตัว ในขณะผ่อนร่างอ่อนระทวยของหญิงสาวลงบนโซฟาตัวใหญ่ แล้ววกกลับมาจุมพิตริมฝีปากแดงปลั่งอย่างเร่าร้อนอีกครั้ง มือร้อนระอุราวเปลวไฟลูบไล้สอดซุกเข้าไปในชายเสื้อตัวบาง เสาะหาสิ่งที่เขาปรารถนาจะจับต้อง และเมื่อพบมันเขาก็ไม่รอช้าที่จะสัมผัส...
“อุ้ย คุ คุณ อาเธอร์ อย่า...” หญิงสาวเอ่ยห้ามอย่างตื่นตระหนก เมื่อมือร้อนๆ ทาบลงบนทรวงอวบอิ่มเต็มตึงของตน
เขาปลดตะขอบราออกตอนไหนกัน และเธอมานอนระทวยอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร... ทำไมเขาทำทุกอย่างได้รวดเร็วปานนี้
พลอยไพลินคิดอย่างมึนงง ทั้งยังไม่หายหวามไหวจากจุมพิตเร่าร้อนของเขา และไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวเหมือนตอนที่ดอนจะจูบเธอ... สิ่งที่อาเธอร์ทำไม่ได้ทำให้เธอหวาดกลัวหรือขยะแขยงด้วยซ้ำ แต่กลับทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน...
“ไม่ทันแล้วจ้ะคนสวย ฉันอยากสัมผัสเธอ... โอ สวยเหลือเกินพลอยไพลิน...”
อาเธอร์กล่าวเสียงแหบพร่าปัดมือที่พยายามปิดป้องทรวงสาวของตนออกเบาๆ ชายหนุ่มมองดวงตากลมโตสีนิลไหวระริกเหมือนกำลังสับสนหวั่นไหว ใบหน้านวลใสที่ดูจืดชืดแดงปลั่งน่ามอง ดวงตากลมโตที่มีแววไม่มั่นใจในตนเองหรี่ปรือเหมือนกำลังเคลิบเคลิ้ม ริมฝีปากบวมเจ่อแดงเรื่อน่าจุมพิต และทรวงอกอวบใหญ่เกินตัวขาวผ่อง ยอดอกสีชมพูหดเกร็งที่ไหวระริกอยู่ตรงหน้าของเขา ช่างงดงามเหนือสิ่งอื่นใดเมื่อเสื้อตัวสวยพ้นจากร่างงาม
“อื้มมม มะ ไม่นะ อย่า อ๊า...” พลอยไพลินห้ามอาเธอร์เสียงแผ่ว แล้วก็ต้องครางเสียงดังอย่างไม่อาจทานทนกับความเสียดเสียวที่พุ่งเข้าใส่ร่างเล็กๆ ของเธอ ซึ่งพลอยไพลินไม่รู้จะทำอย่างไร ให้ความร้อนระอุและเสียวรัญจวนนี้หายไป จึงได้แต่ครวญครางระงม มือบางดึงทึ้งเรือนผมหยักศกนุ่มสลวยของเขาเพื่อระบายความเสียวซ่าน เมื่อเขาก้มลงดูดกลืนยอดอกและเคล้นคลึงทรวงสาวของเธออย่างเมามันเอร็ดอร่อย
เสียงลิ้นและริมฝีปากที่บรรเลงเพลงชิวหากับทรวงอวบใหญ่ดังไม่ขาดสาย ไม่แพ้เสียงครางกระเส่าของเธอยิ่งสร้างความพอใจให้อาเธอร์ มากยิ่งขึ้น เธอช่างหวาน เร่าร้อน และช่างมีชีวิตชีวาอย่างไม่น่าเชื่อ ว่าผู้หญิงแสนธรรมดาเช่นพลอยไพลินจะสามารถทำให้เขาหลงใหลไปกับเธอได้ขนาดนี้ เขาต้องการเธออย่างไม่ต้องสงสัย เขาอยากจะถอดเสื้อผ้าของเธอออกให้หมดรวมถึงเสื้อผ้าของเขาด้วย แล้วโจนจ้วงเข้าไปในร่างงามควบขับเธออย่างเร่าร้อนถึงใจ...
เขาต้องการเธอมากมายได้อย่างไม่น่าเชื่อ ว่าเขาจะต้องการผู้หญิงสักคนได้ถึงเพียงนี้ พลอยไพลินทำได้อย่างไร... ผู้หญิงไทยที่เขาแสนรังเกียจทำให้เขาต้องการเธอมากมายขนาดนี้ได้อย่างไร...
อาเธอร์คิดอย่างมึนงงและเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ ตอนนี้เขาอยากดื่มกินเธอและเร็วเท่าความคิดกางเกงขาสั้นสีเดียวกันกับเสื้อก็มีอันถูกรูดลงมาพร้อมๆ กับบิกินีตัวจ้อย ซึ่งปกปิดความงดงามแห่งอิสตรีก็เลื่อนลงมาด้วย
และแล้วความงดงามของสตรีเพศปรากกฎอยู่ตรงหน้ากลิ่นหอมเย้ายวนรวยรินออกมาจากผกาช่องามฉ่ำเยิ้มด้วยฝีมือโอ้โลมของเขา ความงามของดอกไม้ช่อสวยทำให้ลำคอแกร่งแห้งผากราวขาดน้ำหล่อเลี้ยงมานับสิบปี และตอนนี้เขากระหายน้ำเหลือเกิน ตอนนี้เขาไม่สนว่าพลอยไพลินจะเป็นใครมาจากไหน หากเขาไม่ได้ดื่มกินเธอเขาต้องขาดใจตายแน่ๆ
“อย่านะคะ ไม่ได้ อ๊ะ อุ๊ย... อา...” เสียงหวานครางห้ามเพราะเสียวกระสัน เมื่อลิ้นหนาร้อนผ่าวของเขาแตะแต้มลงบนยอดเกสร พร้อมนิ้วแกร่งลูบไล้ซอกซอนกลีบผกาสีสดที่หลั่งรินน้ำหวานแห่งความรัญจวนออกมาให้เขาได้ดื่มกินอย่างแสนอร่อย เรียวขางามเสลาถูกรั้งให้ตั้งชันบนโซฟาตัวใหญ่ ที่ตอนนี้ได้ปรับเป็นเตียงกว้างพอที่คนสองคนจะขึ้นไปนอนกอดก่ายกันได้ ในขณะที่อาเธอร์คุกเข่าอยู่ตรงหน้าร่างงาม และก้มหน้าก้มตาดูดกลืนยอดเกสรสาวอย่างลุ่มหลงมึนเมาในความหวานหอม ทั้งบีบเฟ้นทรวงอกอวบอย่างหนักมือ สร้างความเสียวซ่านหวั่นไหวให้แก่ผู้อ่อนด้อยในเกมกาม ให้หลงเตลิดไปกับรสสวาทที่เขาหลอกล่อ พลอยไพลินได้แค่ครางกระเส่าจิกทึ้งเรือนผมและบ่าแกร่งของเขาอย่างหวามไหว
“อืม หวาน หวานที่สุด โอว ฉันอยากทำมากกว่านี้เหลือเกินลินจ๋า” ชายหนุ่มครางอย่างพลุ่งพล่าน แล้วระรัวลิ้นให้หนักและเร็วขึ้นแรงขึ้นลึกขึ้น เข้าไปในโพรงดอกไม้สดฉ่ำ จนหญิงสาวครางพลิ้ว ส่ายร่อนสะโพกเข้าโรมรันลิ้นร้อนอย่างลืมตัว ในขณะที่พลอยไพลินรู้สึกเหมือนว่าตนกำลังลอยขึ้นสูง สูงขึ้นๆ ขึ้นไปในอากาศ ร่างกายร้อนระอุอัดแน่นด้วยบางอย่างที่เธอไม่เข้าใจ จนในที่สุดเธอก็ระเบิดพร่างพรายออกมาพร้อมด้วยสะโพกมนเกร็งค้างอยู่ในอุ้งมือหนา และริมฝีปากร้ายกาจที่กำลังเล็มเลียหยาดน้ำหวานหยาดสุดท้ายจากกลีบกายสาวสดฉ่ำ...
พลอยไพลินปรือตามองเขาอย่างเหนื่อยหอบ ทั้งสับสนทั้งอับอายที่ทำอะไรแบบนั้น ทั้งไม่เข้าใจว่าเขาทำอะไรกับตน แต่ก็เป็นสุขอย่างประหลาด และไม่เข้าใจว่าทำไมเขาจับมือเธอไปหาบางสิ่งที่แข็งแกร่ง และร้อนระอุราวกับว่ากำลังจับท่อนฟืนร้อนๆ พลอยไพลินก้มมองสิ่งที่อยู่ในมือตาโต และไม่อาจจะละสายตาจากมันได้ทั้งๆ ที่เธอบอกตัวเองว่าอย่ามองอย่าจับ มัน..
บทที่8.“ลินจ๋า ช่วยฉันหน่อย ฉันต้องการให้เธอช่วย...”น้ำเสียงนั้นฟังดูออดอ้อนนัก จนคนฟังหัวใจละลายและพลอยไพลินก็ไม่อยากเชื่อเลยว่าอาเธอร์จะพูดอย่างนั้นกับตน ก็เพราะท่าทางของเขาก่อนหน้านี้ มันไม่ใช่แบบนี้นี่นา หญิงสาวคิดในใจ แต่ความคิดของเธอก็ต้องติดๆ ขัดๆ นึกอะไรไม่ค่อยออกเสียด้วยสิ “ชะ ช่วย อะไรคะ... ลิน หนาว...”พลอยไพลินพูดตะกุกตะกักไม่เข้าใจที่เขาพูด และพยายามจะดึงมือหนี และลุกขึ้นหาผ้ามาสวมใส่ เธออายเหลือเกินที่นั่งเปลือยเปล่าต่อหน้าเขาแบบนี้ แล้วตอนนี้เธอก็รู้สึกหนาวขึ้นมาจับใจ พลอยไพลินมองเขายังซึ่งสวมเสื้อผ้าครบชุด มีเพียงตรงกลางร่างแกร่งเท่านั้นที่เขาปลดกระดุมกางเกงยีนจนหมดแถวพร้อมกับปลดปล่อยบางสิ่งออกมาให้เธอกอบกุมอยู่ในตอนนี้...“ทำแบบนี้ที่รัก... อา นั่นล่ะ ใช่แล้วดีมาก” อาเธอร์ครางออกมาอย่างอ่อนหวาน ขยับมือหนาของตนสอนสั่งให้เธอทำตามซ้ำนักเรียนหน้าใสก็ยังทำได้ดีเกินคาด แม้จะยังกล้าๆ กลัวๆ ทั้งเคอะเขินในสิ่งที่กำลังทำอยู่ ชายหนุ่มหลับตาลงอย่างซ่านใจเมื่อเขาไม่จำเป็นต้องชักนำมือน้อยแล้ว เสียงครางแหบห้าวหนักหน่วงจึงดังขึ้นในเวลาต่อมา พร้อมกับการได้ปลดปล่อยความอัดอั้นจากเพลิ
บทที่9.“นายบอกว่าไอ้ลูเซียสมันท้าให้ฉันไปหามันที่บ้านเหรอ”“ครับคุณลูเซียสบอกว่าหากคุณอาร์มีอะไรข้องใจให้ไปพบที่บ้านได้เลย ตอนนี้เขามาเมืองไทยพอดี” ริชาร์ตรายงานความคืบหน้าเรื่องที่เขาตามอยู่ซึ่ง ลูเซียส เวอร์เลนติโน นักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อชาวอิตาเลี่ยนทายาทอดีตมาเฟียใหญ่ซึ่ง เวอร์เลนติโน นั้นเป็นตระกูลเก่าแก่และร่ำรวยที่สุดในอิตาลีด้วยและลูเซียสก็เป็นหนึ่งในหนุ่มหล่อผู้ร่ำรวยและทรงอิทธิพอๆ กับอาเธอร์“ดี งั้นฉันจะไปตามคำท้า” อาเธอร์กล่าวเสียงเข้มดวงตาคมกล้าทอดมองไปนอกหน้าต่างซึ่งภายนอกนั้นมืดมิด ดวงดาวนับล้านสิ่งแสงระยิบเต็มท้องฟ้า“ให้ผมเตรียมอาวุธพร้อมเลยมั้ยครับ”“ไม่ต้อง ฉันจะไปแต่ตัว ฉันเชื่อว่าไอ้ลูเซียสมันมีศักดิ์ศรีพอไม่ลอบกัดแน่นอน นายไปจัดการตามหาร่องรอยของแพรดาวมาให้ฉันที”“ครับ” ริชาร์ตรับคำแล้วเดินออกไปพอดีกับที่พลอยไพลินเดินเข้ามา“คุณมีอะไรจะใช้ฉันหรือคะ” หญิงสาวกล่าวอย่างอ่อนเพลีย เพลียใจกับเจ้านายอารมณ์แปรปรวนที่ชอบฉีกสัญญาเป็นว่าเล่นอย่างเขานัก“ทำเหมือนเบื่อเลยนะ นี่เธอเพิ่งเริ่มงานได้ไม่ถึงสองวันเลยนะพลอยไพลิน” “เป็นใครก็ต้องเบื่อทั้งนั้นล่ะค่ะ” พลอยไพลินตอบเบา
บทที่10.พลอยไพลินลอบมองชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่พอๆ กับอาเธอร์อย่างชื่นชม ลูเซียส เวอร์เลนติโน่ เป็นชายหนุ่มรูปงามใบหน้าหล่อเหลานั้นขาวสะอาดค่อนข้างคมหวานดวงตายาวใหญ่สีน้ำตาลเข้มนั้นดูมีแววรื่นรมย์อยู่เสมอ จมูกโด่งเป็นสันงดงามรับกับริมฝีปากหยักสวยได้รูปอย่างชายชาตรี เรือนผมสีน้ำตาลเข้มนั้นยาวระบ่ากว้าง โดยรวมแล้วลูเซียสดูเหมือนพวกศิลปินหรือคนทำงานเกี่ยวกับศิลปะมากกว่าเป็นนักธุรกิจหรือมาเฟีย และลูเซียสก็น่าเข้าใกล้มากกว่าคนที่เธอมาด้วยมากมายเลยทีเดียว...“ฉันว่านายน่าจะมองคนอื่นบ้างนะอาร์ คนที่ต้องการของของนายไม่ได้มีแค่ฉันคนเดียว”“แต่ฉันรู้ว่าเธอมาที่นี่”“ใช่... เธอมาที่นี่ แต่ฉันไม่เห็นเธอเลยและไม่ได้เห็นของที่นายตามหาเลยแม้แต่น้อย แต่หากนายอยากให้ฉันช่วยตามก็ขอร้องให้ช่วยดีๆ ก็ได้ไม่ต้องใช้กำลังกับคนของฉันเหมือนหมาลอบกัด” ลูเซียสกล่าวเสียงจริงจังดวงตาสีน้ำตาลเข้มสบมองท้าทายดวงตาสีฟ้าจัดอย่างไม่เกรงกลัว...“ฉันไม่เคยลอบกัดใคร อีกอย่างนายก็น่าจะมองคนอื
บทนำ“ลูกดาวจ๊ะ ลูกต้องจำไว้นะลูกต้องมีผัวฝรั่งเหมือนบ้านนั้นเห็นมั้ย เขามีผัวฝรั่งกลับมาร่ำรวยฟู่ฟ่า ดูนังแมวสิพอลูกสาวมันได้ผัวฝรั่งกลับมาร่ำรวย มันก็คุ้ยฟุ้งไปทั้งหมู่บ้าน แม่ล่ะหมั่นไส้มันนัก หาผัวฝรั่งรวยๆ นะลูกดาว แม่จะได้สบายรู้มั้ย” “ค่ะแม่ แล้วดาวจะหาผัวฝรั่งรวยๆ นะแม่นะ แต่ว่าตอนนี้ดาวขอเงินไปเรียนภาษาไปก่อนได้มั้ยคะแม่ขา อีกอย่างดาวจะไปจ่ายค่าเนตด้วย คืนนี้ดาวจะแชทคุยกับคุณดอนให้ฉ่ำใจไปเลย...”แพรดาว หญิงสาววัยยี่สิบห้าใบหน้าสะสวยหาตัวจับยาก เรือนร่างสูงระหงทว่าอวบอิ่มอกเป็นอก เอวเป็นเอว สะโพกเป็นสะโพก อย่างที่ทำให้ชายหนุ่มมองกันเหลียวหลัง ผิวสีน้ำผึ้งเปล่งปลั่งอีกทั้งการแต่งกายที่เปิดเผยสัดส่วนอวบอิ่มของเธอก็ทำให้แพรดาวดูสวยเย้ายวนมากขึ้น หญิงสาวเอ่ยออดอ้อน นางเดือน ผู้เป็นมารดาซึ่งอยู่ในวัยสี่สิบปลายๆ แต่นางยังคงสวยพริ้งเพราเพราะชอบแต่งตัวและดูแลตัวเองดีมาเสมอ“ได้เลยค่ะ ดาวลูกรักของแม่” เรื่องสนับสนุนลูกให้หา สามีฝรั่งรวยๆ นี่นางสนับสนุนเต็มที่“ขอบคุณค่ะแม่ขา แม่ช่างเป็นแม่ที่ทั้งสวยและใจดีมากๆ เลยค่ะ”แพรดาวเสียงหวานเอาอกเอาใจ ริมฝีปากที่ทาลิปสติกสีแดงจัดจ้านย
บทที่ 1ใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่นั้นดูเคร่งเครียดจัด ดวงตาคมวาวโรจน์ด้วยความโกรธเมื่อของสำคัญได้หายไปจากงานแสดงเครื่องเพชรของ คิงส์คอปอเรชั่น และเครื่องเพชรชุดนั้นก็มีมูลค่ามหาศาลทั้งยังเป็นของรักของมารดาผู้ล่วงลับของเขา ชายหนุ่มหันมามองคนที่อยู่เบื้องหน้าด้วยแววตาขึ้งเครียด เมื่อรู้แน่แล้วว่าของสำคัญของเขานั้นอยู่ที่ไหนและกับใคร อาเธอร์ คิงส์ นักธุรกิจหนุ่มลูกครึ่งแม็กซิกัน อเมริกันผู้หล่อเหลาและร่ำรวยมหาศาล ชายหนุ่มเจ้าของร่างสูงใหญ่ 188 เซนติเมตร ผิวสีแทนคร้ามใบหน้าเรียวยาวได้รูปซึ่งประกอบด้วยดวงตาสีฟ้าสดคมเข้มภายใต้คิ้วหนายาว จมูกโด่งเป็นสันสวยไม่งองุ้มรับกับริมฝีปากหยักสีเข้ม ร่างแกร่งอุดมด้วยมัดกล้ามตึงแน่นอย่างที่เราเรียกกันว่าซิกแพ็กนั้น น่าลูบไล้สัมผัสด้วยปุยขนสีอ่อนนุ่มนวลสีเดียวกันกับเส้นผมสีน้ำตาลเข้มออกแดงเล็กน้อยที่ตัดเล็มอย่างดีเยี่ยมรับกับรูปหน้าหล่อเหลาคมเข้ม เขาเพียบพร้อมสมบูรณ์แบบอย่างที่สาวๆ ใฝ่ฝัน แต่ก็ยังไม่มีใครสามารถครอบครองหัวใจหนุ่มโสดเนื้อหอมคนนี้ได้ ในวัยสามสิบสามปีอาเธอร์ก็ยังคงเป็นหนุ่มโสดเนื้อหอมอันดับต้นๆ ของวงการนักธุรกิจ หนุ่มหล่อ รวย
บทที่2.“อย่าทำอะไรลินเลยนะคะ ได้โปรดปล่อยลินไปเถอะ”พลอยไพลินตื่นขึ้นมาในห้องกว้างดูหรูหรางดงามพร้อมกับเจอหน้าของชายหนุ่มต่างชาติผู้หล่อเหลา แต่สายตาของเขากลับทำให้เธอนึกกลัว และเมื่อรู้ตัวว่าจะต้องเจอกับอะไร พลอยไพลินถึงกับเข่าอ่อนหวาดหวั่นอย่างที่สุด ไม่นึกเลยว่าพี่สาวแท้ๆ จะทำกับเธอได้ถึงเพียงนี้“ฉันไม่ทำให้เธอเจ็บหรือผิดหวังหรอกน่าสาวน้อย แต่ฉันจะทำให้เธอมีความสุขที่สุด มีผัวฝรั่งมันดีนะ แล้วเธอจะติดใจเหมือนพี่สาวเธอ”“ไม่ค่ะ ปล่อยลินไปเถอะ ลินไม่ได้อยากมีผัวหรือต้องการผัวฝรั่งเลย..” พลอยไพลินพูดลนลาน พลางเดินถอยห่างจากเขาที่สืบเท้าเข้ามาหาด้วยแววตาที่น่าขยะแขยงนัก“เธอไม่มีทางไปจากที่นี่ได้หรอกพลอยไพลิน หรือหากเธอก้าวออกจากห้องนี้ไป โดยที่ฉันไม่ได้อนุญาต เธออาจจะมีผัวทีเดียวหลายคน ฮ่าๆ” ดอนกล่าวพลางหัวเราะด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียม จนพลอยไพลินขนหัวลุกด้วยความกลัว และขยะแขยง ดวงตากลมโตดำขลับราวนิลเนื้อดี กวาดมองหาช่องทางหนีแต่มันไม่มีเสียเลย...“กรี๊ดดดด ปล่อยนะ ปล่อยฉันนน...” พลอยไพลินกรีดร้อง เมื่อร่างสูงของดอนกระโดดเข้ามาคว้าตัวของเธอไว้ได้ ก่อนจะโยนเธอลงบนเตียงกว้างอย่างไม่ปรา
บทที่3.ดวงตางามภายใต้ขนตางามงอนค่อยๆ กระพือขึ้นช้าๆ แล้วหลับลงไปอีกครั้ง เมื่อแสงจ้ารอบกายทำให้รู้สึกแสบตาจนลืมตาไม่ขึ้น พลอยไพลินพยายามลืมตาขึ้นอีกครั้ง แล้วก็ต้องเบิกตากว้างอย่างตื่นตระหนก... เธออยู่ในห้องที่แสนจะหรูหรา เพดานห้องประดับด้วยโคมไฟระย้างดงาม ผนังห้องสีน้ำตาลอ่อนๆ เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นจะออกโทนน้ำตาล ข้าวของทุกชิ้นในห้องนี้ล้วนแล้วแต่ราคาแพงลิบลิ่ว ซึ่งเธอคงไม่มีโอกาสได้ใช้ของแพงๆ เหล่านี้ และโทนสีอบอุ่นนั้นก็ไม่ได้ช่วยให้ความหวาดกลัวของเธอลดลงเธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ครั้งสุดท้ายที่รู้สึกตัวเธอกำลังคุยอยู่กับแพรดาวเรื่องจะไปทำธุระจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ที่เดือนนี้พี่สาวของเธอใจดีเป็นคนออกเงินเอง สุดท้ายเธอก็ถูกพี่สาวหลอกไปให้ผู้ชายผมทองคนนั้นปู้ยี่ปู้ยำ แค่คิดน้ำตาก็ไหลอาบแก้ม...“โอ๊ย อูย... เจ็บไปหมดทั้งตัวเลย...” พลอยไพลินพยายามยันกายจากที่นอนอย่างยากลำบาก เมื่อความเจ็บแปลบแล่นไปทั้งร่าง ความหวาดกลัวว่าตนเองจะถูกย่ำยีก็ลดลงไปด้วย เมื่อเธอสวมใส่เสื้อผ้าอยู่ นั่นคือเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งแม้มันจะมีเพียงแค่ชิ้นเดียวบนร่างกาย แต่ทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจอย่างประหลาด และเธอก็ไม่ได้รู้สึกเ
บทที่4.หญิงสาวมองกระดาษในมืออย่างไม่เข้าใจว่าทำไมเธอต้องลงชื่อในสิ่งที่เรียกว่า สัญญา กับเขาด้วยอาเธอร์ คิงส์ ในที่สุดเธอก็รู้จักชื่อของเขา แต่ชื่อนี้เธอเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนนะ แต่เธอไม่เข้าใจว่าเธอตกเป็นเชลยของเขาได้อย่างไร ซ้ำอาเธอร์ยังทำท่าราวกับเธอคือตัวอะไรสักอย่างที่น่ารังเกียจ สายตาของเขาที่มองมา มันไม่เป็นมิตร และเธอรู้สึกได้ถึงความเกลียดชังเขาเกลียดเธอหรือ เกลียดด้วยเรื่องอะไรล่ะ เธอไปทำอะไรให้เขา... พลอยไพลินคิดอย่างวิตกและอยากรู้“ในสัญญานั้นจะทำให้เธออยู่ในสายตาฉัน และยังได้เงินเดือนอีกด้วยแค่ช่วยฉันตามหาพี่สาวเธอ”“แต่ฉันไม่ต้องการ ฉันแค่อยากกลับบ้าน คุณยิ่งใหญ่ขนาดนั้นแค่พี่สาวฉันคนเดียว คุณก็คงจัดการได้ ปล่อยฉันไปเถอะนะคะ ฉันไม่รู้อะไรเลยจริงๆ”หญิงสาวบอกเขาอย่างไม่พอใจเล็กน้อย แต่ก็พยายามเก็บอาการอย่างที่สุด ตอนนี้เธออยู่ในถิ่นของคนที่เรียกได้ว่าเข้าใกล้คำว่ามาเฟียมาก ดูสิลูกน้องเขาเต็มบ้านหน้าตาไม่ยินดียินร้ายกับใคร และทุกคนก็มองเธอด้วยความเฉยเมย เหมือนเธอไม่มีตัวตน ดวงตากลมโตกวาดมองรอบๆ บ้านหลังงาม ที่นึกนิยมในใจว่ามันงดงามน่าอยู่ ร่มรื่นติดภูเขาและทะเล แต่คนที่นี