Share

บทที่9.

บทที่9.

“นายบอกว่าไอ้ลูเซียสมันท้าให้ฉันไปหามันที่บ้านเหรอ”

“ครับคุณลูเซียสบอกว่าหากคุณอาร์มีอะไรข้องใจให้ไปพบที่บ้านได้เลย ตอนนี้เขามาเมืองไทยพอดี” ริชาร์ตรายงานความคืบหน้าเรื่องที่เขาตามอยู่ซึ่ง ลูเซียส เวอร์เลนติโน นักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อชาวอิตาเลี่ยนทายาทอดีตมาเฟียใหญ่ซึ่ง เวอร์เลนติโน นั้นเป็นตระกูลเก่าแก่และร่ำรวยที่สุดในอิตาลีด้วยและลูเซียสก็เป็นหนึ่งในหนุ่มหล่อผู้ร่ำรวยและทรงอิทธิพอๆ กับอาเธอร์

“ดี งั้นฉันจะไปตามคำท้า” อาเธอร์กล่าวเสียงเข้มดวงตาคมกล้าทอดมองไปนอกหน้าต่างซึ่งภายนอกนั้นมืดมิด ดวงดาวนับล้านสิ่งแสงระยิบเต็มท้องฟ้า

“ให้ผมเตรียมอาวุธพร้อมเลยมั้ยครับ”

“ไม่ต้อง ฉันจะไปแต่ตัว ฉันเชื่อว่าไอ้ลูเซียสมันมีศักดิ์ศรีพอไม่ลอบกัดแน่นอน นายไปจัดการตามหาร่องรอยของแพรดาวมาให้ฉันที”

“ครับ” ริชาร์ตรับคำแล้วเดินออกไปพอดีกับที่พลอยไพลินเดินเข้ามา

“คุณมีอะไรจะใช้ฉันหรือคะ” หญิงสาวกล่าวอย่างอ่อนเพลีย เพลียใจกับเจ้านายอารมณ์แปรปรวนที่ชอบฉีกสัญญาเป็นว่าเล่นอย่างเขานัก

“ทำเหมือนเบื่อเลยนะ นี่เธอเพิ่งเริ่มงานได้ไม่ถึงสองวันเลยนะพลอยไพลิน”    

“เป็นใครก็ต้องเบื่อทั้งนั้นล่ะค่ะ” พลอยไพลินตอบเบาๆ หลบสายตาคมที่หันมาจ้องมองเหมือนเยาะหยัน เธอไม่ชอบสายตาแบบนี้ของเขาเลย

หากเขาเกลียดเธอขยะแขยงเธอเขาจะมากอดจูบเธอทำไม โอ๊ย คิดอีกก็หน้าร้อนผ่าวๆ อีกแล้ว หญิงสาวคิดอย่างฉุนตัวเอง...

“ไปเตรียมเสื้อผ้าให้ฉันสักสามชุดฉันจะไปธุระสักสองวัน”

“ค่ะ” หญิงสาวรับคำแล้วกำลังจะเดินออกไปหากเขาเรียกเธอไว้

“เดี๋ยวก่อน เธอก็เตรียมของเธอไปด้วยเพราะเธอต้องไปรับใช้ฉัน”

“ค่ะ”

“ค่ะแค่นั้นเหรอ พูดได้แค่นี้...” เขาถามด้วยน้ำเสียงยียวนใบหน้าคมเข้มที่มีเคราเข้มหนาจนเธอมองไม่เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขานั้นดูเหมือนโจรสลัดเจ้าเล่ห์เสียเหลือเกิน พลอยไพลินถอนหายใจอย่างระอาและนึกหมั่นไส้ว่าทำไมเขาไม่โกนหนวดเคราเสียบ้างนะ

“ก็แล้วคุณจะให้ฉันพูดอะไรล่ะคะ ขอบคุณนะคะคุณอาเธอร์ผู้แสนดีที่ให้เกียรติดิฉันได้เป็นสาวใช้ส่วนตัว แบบนี้เหรอคะ”

“เธอกำลังจะลองดีกับฉันหรือพลอยไพลิน”

“เปล่าเลยค่ะ ไม่เคยคิด... แค่นี้ใช่มั้ยคะที่คุณจะใช้ฉัน” หญิงสาวเชิดหน้าขึ้นถามเขามองเขาอย่างไม่สบอารมณ์และแน่นอนเขาต้องไม่พอใจ แต่จะให้ทำอย่างไรล่ะ เขาเป็นเจ้านายที่ไม่มีสัจจะแบบนี้เธอจะทำดีหรือไม่ดีเขาก็สามารถฉีกสัญญาได้เสมอและเธอก็เสียเปรียบเขาทุกที 

เธออยากกลับบ้านไปให้พ้นหน้าเขาแต่การจะไปจากที่นี่มันไม่ใช่เรื่องง่าย รู้แต่เพียงว่าเธออยู่ในจังหวัดหนึ่งทางภาคใต้เพราะท้องทะเลเบื้องหน้าและได้ยินลูกน้องของเขาพูดกัน เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าตนจะมาไกลราวคนละฟากประเทศอย่างนี้ เธอมาไกลและไม่มีของมีค่าอะไรติดตัวมาเลยสักนิด เธอจะไปจากที่นี่ได้อย่างไรกัน แต่เอ๊ะ เขาจะไปธุระนี่นา นั่นก็หมายความว่าต้องมีโอกาสออกไปจากที่นี่และเธอจะมีโอกาสหลบหนีเขาด้วย อีตาฝรั่งหน้าเลือด... ชาตินี้อย่าได้เจอกันอีกเลย พลอยไพลินคิดในใจแล้วเดินสะบัดหน้าออกมาอย่างฉุนเฉียวที่เธอไม่เคยแสดงอาการแบบนี้กับใครเลยเพราะปรกติแล้วเธอจะเป็นคนใจเย็นและอ่อนโยน แต่ในตอนนี้เธอกำลังจะกลายร่างเป็นนางมารอยู่แล้ว...

อาเธอร์มองตามแผ่นหลังบางไปอย่างรู้ทันความคิดของหญิงสาว เขาอยากรู้นักว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเธอที่เสียเปรียบเขาทุกทางอย่างพลอยไพลินจะทำอย่างไร เกมนี้เริ่มสนุกแล้วสิ...

คฤหาสน์หลังงามที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนื้อที่กว่าหนึ่งร้อยไร่นั้นแวดล้อมด้วยสวนผลไม้และทุ่งหญ้าซึ่งที่มองเห็นอยู่ลิบๆ และมีม้ากำลังเล็มหญ้าอยู่หลายตัว ที่นี่คงเป็นทั้งสวนผลไม้และฟาร์มม้ากระมัง พลอยไพลินมองดูรอบๆ กายมาตลอดเส้นทางที่ร่วมทางกับเจ้านายหนุ่มหน้าเข้มที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารตรงหน้าและโทรศัพท์ติดต่องานของเขาอย่างคร่ำเคร่ง เธอพบว่าอาเธอร์เป็นคนที่จริงจังกับงานมากทีเดียวและคงดุมากด้วยเพราะได้ยินเขาต่อว่าลูกน้องอยู่หลายครั้ง ใบหน้าเข้มรกครึ้มนั้นก็ดูดุดันจนเธอต้องมานั่งตัวลีบเบียดชิดประตูอีกด้านของรถยนต์คันหรูราคาหลายสิบล้านของเขา หากเธอกับเขาเจอกันอย่างปรกติทั่งๆ ไป เธอก็คงคิดว่าเธอช่างมีบุญเสียเหลือเกินที่มีโอกาสนั่งรถราคาแพงและหากมารดากับพี่สาวเธอรู้ว่า นังลิน ได้นั่งรถหรูหราราคาแพงกับฝรั่งหน้าเข้มผู้ร่ำรวยจะว่าอย่างไรนะ...

“มองหาทางหนีกลับบ้านหรือไง..” เสียงห้าวถามขึ้นลอยๆ ซึ่งทำให้คนที่กำลังคิดอะไรเพลินๆ ถึงกับสะดุ้งหันมามองเขาหน้าตื่น

“ปละ เปล่านะคะ”

“เหรอ ก็ดีที่ไม่คิดหนี เพราะหากเธอคิดหนีแม่ของเธอแย่แน่ๆ”

“ไม่ต้องมาขู่กันมากก็ได้ค่ะ ฉันรู้ค่ะว่าคุณยิ่งใหญ่คับฟ้า” หญิงสาวกล่าวประชดแล้วหันหน้าหนีเขาอย่างไม่อยากคุยด้วยพลางนึกในใจว่าของอะไรของเขาหายไปมันสำคัญมากแค่ไหนถึงได้ต้องตามล่าคนที่ขโมย แต่เขาก็ได้ตัวคนขโมยแล้วเพียงแต่ไม่ได้ของของเขาเท่านั้นเองเพราะพี่สาวของเธอเป็นคนส่งของชิ้นนั้นไปให้ใครอีกคนซึ่งได้ยินแว่วๆ ว่าเป็นมาเฟียข้ามชาติตัวร้าย

จะใช่คนที่กำลังจะมาพบหรือเปล่านะ ถ้าอย่างนั้นพี่สาวเธอก็ต้องอยู่ที่นี่สิ... พลอยไพลินคิดไปต่างๆ นานาจนรถแล่นมาจอดหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ซึ่งมีคนรอต้อนรับและชายสามคนสวมสูทสีดำอีกทั้งยังใส่แว่นตาดำอีกด้วยทำให้เธอคิดถึงแก๊งของมาเฟียในภาพยนตร์ที่เคยดู นี่เธอกำลังอยู่ในดงมาเฟียหรือผู้ก่อการร้ายรึเปล่านะ...

“เชิญคุณคิงส์ที่เรือนรับรองเลยครับ” ชายหนึ่งในสามกล่าวขึ้น น้ำเสียงและสีหน้าเรียบเฉยทำเหมือนหุ่นยนต์ อาเธอร์พยักหน้าช้าๆ แล้วเดินตามชายคนนั้นไป พลอยไพลินทำท่าลังเลไม่รู้จะทำตัวอย่างไรดีท่าทางเงอะๆ งะๆ ของเธอทำให้อาเธอร์ชักสีหน้าแล้วเดินกลับมากระชากแขนเรียวให้เดินตามเขาไป ส่วนเจ้าของแขนเรียวก็ได้แต่มองตามเขางงๆ และหน้าแดงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เธอรู้สึกถึงความร้อนที่แผ่ซ่านมาจากมือหนาลามไปทั้งแขนและลามไปทั้งตัว...

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status