“นายบอกว่าไอ้ลูเซียสมันท้าให้ฉันไปหามันที่บ้านเหรอ”
“ครับคุณลูเซียสบอกว่าหากคุณอาร์มีอะไรข้องใจให้ไปพบที่บ้านได้เลย ตอนนี้เขามาเมืองไทยพอดี” ริชาร์ตรายงานความคืบหน้าเรื่องที่เขาตามอยู่ซึ่ง ลูเซียส เวอร์เลนติโน นักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อชาวอิตาเลี่ยนทายาทอดีตมาเฟียใหญ่ซึ่ง เวอร์เลนติโน นั้นเป็นตระกูลเก่าแก่และร่ำรวยที่สุดในอิตาลีด้วยและลูเซียสก็เป็นหนึ่งในหนุ่มหล่อผู้ร่ำรวยและทรงอิทธิพอๆ กับอาเธอร์
“ดี งั้นฉันจะไปตามคำท้า” อาเธอร์กล่าวเสียงเข้มดวงตาคมกล้าทอดมองไปนอกหน้าต่างซึ่งภายนอกนั้นมืดมิด ดวงดาวนับล้านสิ่งแสงระยิบเต็มท้องฟ้า
“ให้ผมเตรียมอาวุธพร้อมเลยมั้ยครับ”
“ไม่ต้อง ฉันจะไปแต่ตัว ฉันเชื่อว่าไอ้ลูเซียสมันมีศักดิ์ศรีพอไม่ลอบกัดแน่นอน นายไปจัดการตามหาร่องรอยของแพรดาวมาให้ฉันที”
“ครับ” ริชาร์ตรับคำแล้วเดินออกไปพอดีกับที่พลอยไพลินเดินเข้ามา
“คุณมีอะไรจะใช้ฉันหรือคะ” หญิงสาวกล่าวอย่างอ่อนเพลีย เพลียใจกับเจ้านายอารมณ์แปรปรวนที่ชอบฉีกสัญญาเป็นว่าเล่นอย่างเขานัก
“ทำเหมือนเบื่อเลยนะ นี่เธอเพิ่งเริ่มงานได้ไม่ถึงสองวันเลยนะพลอยไพลิน”
“เป็นใครก็ต้องเบื่อทั้งนั้นล่ะค่ะ” พลอยไพลินตอบเบาๆ หลบสายตาคมที่หันมาจ้องมองเหมือนเยาะหยัน เธอไม่ชอบสายตาแบบนี้ของเขาเลย
หากเขาเกลียดเธอขยะแขยงเธอเขาจะมากอดจูบเธอทำไม โอ๊ย คิดอีกก็หน้าร้อนผ่าวๆ อีกแล้ว หญิงสาวคิดอย่างฉุนตัวเอง...
“ไปเตรียมเสื้อผ้าให้ฉันสักสามชุดฉันจะไปธุระสักสองวัน”
“ค่ะ” หญิงสาวรับคำแล้วกำลังจะเดินออกไปหากเขาเรียกเธอไว้
“เดี๋ยวก่อน เธอก็เตรียมของเธอไปด้วยเพราะเธอต้องไปรับใช้ฉัน”
“ค่ะ”
“ค่ะแค่นั้นเหรอ พูดได้แค่นี้...” เขาถามด้วยน้ำเสียงยียวนใบหน้าคมเข้มที่มีเคราเข้มหนาจนเธอมองไม่เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขานั้นดูเหมือนโจรสลัดเจ้าเล่ห์เสียเหลือเกิน พลอยไพลินถอนหายใจอย่างระอาและนึกหมั่นไส้ว่าทำไมเขาไม่โกนหนวดเคราเสียบ้างนะ
“ก็แล้วคุณจะให้ฉันพูดอะไรล่ะคะ ขอบคุณนะคะคุณอาเธอร์ผู้แสนดีที่ให้เกียรติดิฉันได้เป็นสาวใช้ส่วนตัว แบบนี้เหรอคะ”
“เธอกำลังจะลองดีกับฉันหรือพลอยไพลิน”
“เปล่าเลยค่ะ ไม่เคยคิด... แค่นี้ใช่มั้ยคะที่คุณจะใช้ฉัน” หญิงสาวเชิดหน้าขึ้นถามเขามองเขาอย่างไม่สบอารมณ์และแน่นอนเขาต้องไม่พอใจ แต่จะให้ทำอย่างไรล่ะ เขาเป็นเจ้านายที่ไม่มีสัจจะแบบนี้เธอจะทำดีหรือไม่ดีเขาก็สามารถฉีกสัญญาได้เสมอและเธอก็เสียเปรียบเขาทุกที
เธออยากกลับบ้านไปให้พ้นหน้าเขาแต่การจะไปจากที่นี่มันไม่ใช่เรื่องง่าย รู้แต่เพียงว่าเธออยู่ในจังหวัดหนึ่งทางภาคใต้เพราะท้องทะเลเบื้องหน้าและได้ยินลูกน้องของเขาพูดกัน เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าตนจะมาไกลราวคนละฟากประเทศอย่างนี้ เธอมาไกลและไม่มีของมีค่าอะไรติดตัวมาเลยสักนิด เธอจะไปจากที่นี่ได้อย่างไรกัน แต่เอ๊ะ เขาจะไปธุระนี่นา นั่นก็หมายความว่าต้องมีโอกาสออกไปจากที่นี่และเธอจะมีโอกาสหลบหนีเขาด้วย อีตาฝรั่งหน้าเลือด... ชาตินี้อย่าได้เจอกันอีกเลย พลอยไพลินคิดในใจแล้วเดินสะบัดหน้าออกมาอย่างฉุนเฉียวที่เธอไม่เคยแสดงอาการแบบนี้กับใครเลยเพราะปรกติแล้วเธอจะเป็นคนใจเย็นและอ่อนโยน แต่ในตอนนี้เธอกำลังจะกลายร่างเป็นนางมารอยู่แล้ว...
อาเธอร์มองตามแผ่นหลังบางไปอย่างรู้ทันความคิดของหญิงสาว เขาอยากรู้นักว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเธอที่เสียเปรียบเขาทุกทางอย่างพลอยไพลินจะทำอย่างไร เกมนี้เริ่มสนุกแล้วสิ...
คฤหาสน์หลังงามที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนื้อที่กว่าหนึ่งร้อยไร่นั้นแวดล้อมด้วยสวนผลไม้และทุ่งหญ้าซึ่งที่มองเห็นอยู่ลิบๆ และมีม้ากำลังเล็มหญ้าอยู่หลายตัว ที่นี่คงเป็นทั้งสวนผลไม้และฟาร์มม้ากระมัง พลอยไพลินมองดูรอบๆ กายมาตลอดเส้นทางที่ร่วมทางกับเจ้านายหนุ่มหน้าเข้มที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารตรงหน้าและโทรศัพท์ติดต่องานของเขาอย่างคร่ำเคร่ง เธอพบว่าอาเธอร์เป็นคนที่จริงจังกับงานมากทีเดียวและคงดุมากด้วยเพราะได้ยินเขาต่อว่าลูกน้องอยู่หลายครั้ง ใบหน้าเข้มรกครึ้มนั้นก็ดูดุดันจนเธอต้องมานั่งตัวลีบเบียดชิดประตูอีกด้านของรถยนต์คันหรูราคาหลายสิบล้านของเขา หากเธอกับเขาเจอกันอย่างปรกติทั่งๆ ไป เธอก็คงคิดว่าเธอช่างมีบุญเสียเหลือเกินที่มีโอกาสนั่งรถราคาแพงและหากมารดากับพี่สาวเธอรู้ว่า นังลิน ได้นั่งรถหรูหราราคาแพงกับฝรั่งหน้าเข้มผู้ร่ำรวยจะว่าอย่างไรนะ...
“มองหาทางหนีกลับบ้านหรือไง..” เสียงห้าวถามขึ้นลอยๆ ซึ่งทำให้คนที่กำลังคิดอะไรเพลินๆ ถึงกับสะดุ้งหันมามองเขาหน้าตื่น
“ปละ เปล่านะคะ”
“เหรอ ก็ดีที่ไม่คิดหนี เพราะหากเธอคิดหนีแม่ของเธอแย่แน่ๆ”
“ไม่ต้องมาขู่กันมากก็ได้ค่ะ ฉันรู้ค่ะว่าคุณยิ่งใหญ่คับฟ้า” หญิงสาวกล่าวประชดแล้วหันหน้าหนีเขาอย่างไม่อยากคุยด้วยพลางนึกในใจว่าของอะไรของเขาหายไปมันสำคัญมากแค่ไหนถึงได้ต้องตามล่าคนที่ขโมย แต่เขาก็ได้ตัวคนขโมยแล้วเพียงแต่ไม่ได้ของของเขาเท่านั้นเองเพราะพี่สาวของเธอเป็นคนส่งของชิ้นนั้นไปให้ใครอีกคนซึ่งได้ยินแว่วๆ ว่าเป็นมาเฟียข้ามชาติตัวร้าย
จะใช่คนที่กำลังจะมาพบหรือเปล่านะ ถ้าอย่างนั้นพี่สาวเธอก็ต้องอยู่ที่นี่สิ... พลอยไพลินคิดไปต่างๆ นานาจนรถแล่นมาจอดหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ซึ่งมีคนรอต้อนรับและชายสามคนสวมสูทสีดำอีกทั้งยังใส่แว่นตาดำอีกด้วยทำให้เธอคิดถึงแก๊งของมาเฟียในภาพยนตร์ที่เคยดู นี่เธอกำลังอยู่ในดงมาเฟียหรือผู้ก่อการร้ายรึเปล่านะ...
“เชิญคุณคิงส์ที่เรือนรับรองเลยครับ” ชายหนึ่งในสามกล่าวขึ้น น้ำเสียงและสีหน้าเรียบเฉยทำเหมือนหุ่นยนต์ อาเธอร์พยักหน้าช้าๆ แล้วเดินตามชายคนนั้นไป พลอยไพลินทำท่าลังเลไม่รู้จะทำตัวอย่างไรดีท่าทางเงอะๆ งะๆ ของเธอทำให้อาเธอร์ชักสีหน้าแล้วเดินกลับมากระชากแขนเรียวให้เดินตามเขาไป ส่วนเจ้าของแขนเรียวก็ได้แต่มองตามเขางงๆ และหน้าแดงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เธอรู้สึกถึงความร้อนที่แผ่ซ่านมาจากมือหนาลามไปทั้งแขนและลามไปทั้งตัว...
บทที่10.พลอยไพลินลอบมองชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่พอๆ กับอาเธอร์อย่างชื่นชม ลูเซียส เวอร์เลนติโน่ เป็นชายหนุ่มรูปงามใบหน้าหล่อเหลานั้นขาวสะอาดค่อนข้างคมหวานดวงตายาวใหญ่สีน้ำตาลเข้มนั้นดูมีแววรื่นรมย์อยู่เสมอ จมูกโด่งเป็นสันงดงามรับกับริมฝีปากหยักสวยได้รูปอย่างชายชาตรี เรือนผมสีน้ำตาลเข้มนั้นยาวระบ่ากว้าง โดยรวมแล้วลูเซียสดูเหมือนพวกศิลปินหรือคนทำงานเกี่ยวกับศิลปะมากกว่าเป็นนักธุรกิจหรือมาเฟีย และลูเซียสก็น่าเข้าใกล้มากกว่าคนที่เธอมาด้วยมากมายเลยทีเดียว...“ฉันว่านายน่าจะมองคนอื่นบ้างนะอาร์ คนที่ต้องการของของนายไม่ได้มีแค่ฉันคนเดียว”“แต่ฉันรู้ว่าเธอมาที่นี่”“ใช่... เธอมาที่นี่ แต่ฉันไม่เห็นเธอเลยและไม่ได้เห็นของที่นายตามหาเลยแม้แต่น้อย แต่หากนายอยากให้ฉันช่วยตามก็ขอร้องให้ช่วยดีๆ ก็ได้ไม่ต้องใช้กำลังกับคนของฉันเหมือนหมาลอบกัด” ลูเซียสกล่าวเสียงจริงจังดวงตาสีน้ำตาลเข้มสบมองท้าทายดวงตาสีฟ้าจัดอย่างไม่เกรงกลัว...“ฉันไม่เคยลอบกัดใคร อีกอย่างนายก็น่าจะมองคนอื
บทนำ“ลูกดาวจ๊ะ ลูกต้องจำไว้นะลูกต้องมีผัวฝรั่งเหมือนบ้านนั้นเห็นมั้ย เขามีผัวฝรั่งกลับมาร่ำรวยฟู่ฟ่า ดูนังแมวสิพอลูกสาวมันได้ผัวฝรั่งกลับมาร่ำรวย มันก็คุ้ยฟุ้งไปทั้งหมู่บ้าน แม่ล่ะหมั่นไส้มันนัก หาผัวฝรั่งรวยๆ นะลูกดาว แม่จะได้สบายรู้มั้ย” “ค่ะแม่ แล้วดาวจะหาผัวฝรั่งรวยๆ นะแม่นะ แต่ว่าตอนนี้ดาวขอเงินไปเรียนภาษาไปก่อนได้มั้ยคะแม่ขา อีกอย่างดาวจะไปจ่ายค่าเนตด้วย คืนนี้ดาวจะแชทคุยกับคุณดอนให้ฉ่ำใจไปเลย...”แพรดาว หญิงสาววัยยี่สิบห้าใบหน้าสะสวยหาตัวจับยาก เรือนร่างสูงระหงทว่าอวบอิ่มอกเป็นอก เอวเป็นเอว สะโพกเป็นสะโพก อย่างที่ทำให้ชายหนุ่มมองกันเหลียวหลัง ผิวสีน้ำผึ้งเปล่งปลั่งอีกทั้งการแต่งกายที่เปิดเผยสัดส่วนอวบอิ่มของเธอก็ทำให้แพรดาวดูสวยเย้ายวนมากขึ้น หญิงสาวเอ่ยออดอ้อน นางเดือน ผู้เป็นมารดาซึ่งอยู่ในวัยสี่สิบปลายๆ แต่นางยังคงสวยพริ้งเพราเพราะชอบแต่งตัวและดูแลตัวเองดีมาเสมอ“ได้เลยค่ะ ดาวลูกรักของแม่” เรื่องสนับสนุนลูกให้หา สามีฝรั่งรวยๆ นี่นางสนับสนุนเต็มที่“ขอบคุณค่ะแม่ขา แม่ช่างเป็นแม่ที่ทั้งสวยและใจดีมากๆ เลยค่ะ”แพรดาวเสียงหวานเอาอกเอาใจ ริมฝีปากที่ทาลิปสติกสีแดงจัดจ้านย
บทที่ 1ใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่นั้นดูเคร่งเครียดจัด ดวงตาคมวาวโรจน์ด้วยความโกรธเมื่อของสำคัญได้หายไปจากงานแสดงเครื่องเพชรของ คิงส์คอปอเรชั่น และเครื่องเพชรชุดนั้นก็มีมูลค่ามหาศาลทั้งยังเป็นของรักของมารดาผู้ล่วงลับของเขา ชายหนุ่มหันมามองคนที่อยู่เบื้องหน้าด้วยแววตาขึ้งเครียด เมื่อรู้แน่แล้วว่าของสำคัญของเขานั้นอยู่ที่ไหนและกับใคร อาเธอร์ คิงส์ นักธุรกิจหนุ่มลูกครึ่งแม็กซิกัน อเมริกันผู้หล่อเหลาและร่ำรวยมหาศาล ชายหนุ่มเจ้าของร่างสูงใหญ่ 188 เซนติเมตร ผิวสีแทนคร้ามใบหน้าเรียวยาวได้รูปซึ่งประกอบด้วยดวงตาสีฟ้าสดคมเข้มภายใต้คิ้วหนายาว จมูกโด่งเป็นสันสวยไม่งองุ้มรับกับริมฝีปากหยักสีเข้ม ร่างแกร่งอุดมด้วยมัดกล้ามตึงแน่นอย่างที่เราเรียกกันว่าซิกแพ็กนั้น น่าลูบไล้สัมผัสด้วยปุยขนสีอ่อนนุ่มนวลสีเดียวกันกับเส้นผมสีน้ำตาลเข้มออกแดงเล็กน้อยที่ตัดเล็มอย่างดีเยี่ยมรับกับรูปหน้าหล่อเหลาคมเข้ม เขาเพียบพร้อมสมบูรณ์แบบอย่างที่สาวๆ ใฝ่ฝัน แต่ก็ยังไม่มีใครสามารถครอบครองหัวใจหนุ่มโสดเนื้อหอมคนนี้ได้ ในวัยสามสิบสามปีอาเธอร์ก็ยังคงเป็นหนุ่มโสดเนื้อหอมอันดับต้นๆ ของวงการนักธุรกิจ หนุ่มหล่อ รวย
บทที่2.“อย่าทำอะไรลินเลยนะคะ ได้โปรดปล่อยลินไปเถอะ”พลอยไพลินตื่นขึ้นมาในห้องกว้างดูหรูหรางดงามพร้อมกับเจอหน้าของชายหนุ่มต่างชาติผู้หล่อเหลา แต่สายตาของเขากลับทำให้เธอนึกกลัว และเมื่อรู้ตัวว่าจะต้องเจอกับอะไร พลอยไพลินถึงกับเข่าอ่อนหวาดหวั่นอย่างที่สุด ไม่นึกเลยว่าพี่สาวแท้ๆ จะทำกับเธอได้ถึงเพียงนี้“ฉันไม่ทำให้เธอเจ็บหรือผิดหวังหรอกน่าสาวน้อย แต่ฉันจะทำให้เธอมีความสุขที่สุด มีผัวฝรั่งมันดีนะ แล้วเธอจะติดใจเหมือนพี่สาวเธอ”“ไม่ค่ะ ปล่อยลินไปเถอะ ลินไม่ได้อยากมีผัวหรือต้องการผัวฝรั่งเลย..” พลอยไพลินพูดลนลาน พลางเดินถอยห่างจากเขาที่สืบเท้าเข้ามาหาด้วยแววตาที่น่าขยะแขยงนัก“เธอไม่มีทางไปจากที่นี่ได้หรอกพลอยไพลิน หรือหากเธอก้าวออกจากห้องนี้ไป โดยที่ฉันไม่ได้อนุญาต เธออาจจะมีผัวทีเดียวหลายคน ฮ่าๆ” ดอนกล่าวพลางหัวเราะด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียม จนพลอยไพลินขนหัวลุกด้วยความกลัว และขยะแขยง ดวงตากลมโตดำขลับราวนิลเนื้อดี กวาดมองหาช่องทางหนีแต่มันไม่มีเสียเลย...“กรี๊ดดดด ปล่อยนะ ปล่อยฉันนน...” พลอยไพลินกรีดร้อง เมื่อร่างสูงของดอนกระโดดเข้ามาคว้าตัวของเธอไว้ได้ ก่อนจะโยนเธอลงบนเตียงกว้างอย่างไม่ปรา
บทที่3.ดวงตางามภายใต้ขนตางามงอนค่อยๆ กระพือขึ้นช้าๆ แล้วหลับลงไปอีกครั้ง เมื่อแสงจ้ารอบกายทำให้รู้สึกแสบตาจนลืมตาไม่ขึ้น พลอยไพลินพยายามลืมตาขึ้นอีกครั้ง แล้วก็ต้องเบิกตากว้างอย่างตื่นตระหนก... เธออยู่ในห้องที่แสนจะหรูหรา เพดานห้องประดับด้วยโคมไฟระย้างดงาม ผนังห้องสีน้ำตาลอ่อนๆ เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นจะออกโทนน้ำตาล ข้าวของทุกชิ้นในห้องนี้ล้วนแล้วแต่ราคาแพงลิบลิ่ว ซึ่งเธอคงไม่มีโอกาสได้ใช้ของแพงๆ เหล่านี้ และโทนสีอบอุ่นนั้นก็ไม่ได้ช่วยให้ความหวาดกลัวของเธอลดลงเธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ครั้งสุดท้ายที่รู้สึกตัวเธอกำลังคุยอยู่กับแพรดาวเรื่องจะไปทำธุระจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ที่เดือนนี้พี่สาวของเธอใจดีเป็นคนออกเงินเอง สุดท้ายเธอก็ถูกพี่สาวหลอกไปให้ผู้ชายผมทองคนนั้นปู้ยี่ปู้ยำ แค่คิดน้ำตาก็ไหลอาบแก้ม...“โอ๊ย อูย... เจ็บไปหมดทั้งตัวเลย...” พลอยไพลินพยายามยันกายจากที่นอนอย่างยากลำบาก เมื่อความเจ็บแปลบแล่นไปทั้งร่าง ความหวาดกลัวว่าตนเองจะถูกย่ำยีก็ลดลงไปด้วย เมื่อเธอสวมใส่เสื้อผ้าอยู่ นั่นคือเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งแม้มันจะมีเพียงแค่ชิ้นเดียวบนร่างกาย แต่ทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจอย่างประหลาด และเธอก็ไม่ได้รู้สึกเ
บทที่4.หญิงสาวมองกระดาษในมืออย่างไม่เข้าใจว่าทำไมเธอต้องลงชื่อในสิ่งที่เรียกว่า สัญญา กับเขาด้วยอาเธอร์ คิงส์ ในที่สุดเธอก็รู้จักชื่อของเขา แต่ชื่อนี้เธอเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนนะ แต่เธอไม่เข้าใจว่าเธอตกเป็นเชลยของเขาได้อย่างไร ซ้ำอาเธอร์ยังทำท่าราวกับเธอคือตัวอะไรสักอย่างที่น่ารังเกียจ สายตาของเขาที่มองมา มันไม่เป็นมิตร และเธอรู้สึกได้ถึงความเกลียดชังเขาเกลียดเธอหรือ เกลียดด้วยเรื่องอะไรล่ะ เธอไปทำอะไรให้เขา... พลอยไพลินคิดอย่างวิตกและอยากรู้“ในสัญญานั้นจะทำให้เธออยู่ในสายตาฉัน และยังได้เงินเดือนอีกด้วยแค่ช่วยฉันตามหาพี่สาวเธอ”“แต่ฉันไม่ต้องการ ฉันแค่อยากกลับบ้าน คุณยิ่งใหญ่ขนาดนั้นแค่พี่สาวฉันคนเดียว คุณก็คงจัดการได้ ปล่อยฉันไปเถอะนะคะ ฉันไม่รู้อะไรเลยจริงๆ”หญิงสาวบอกเขาอย่างไม่พอใจเล็กน้อย แต่ก็พยายามเก็บอาการอย่างที่สุด ตอนนี้เธออยู่ในถิ่นของคนที่เรียกได้ว่าเข้าใกล้คำว่ามาเฟียมาก ดูสิลูกน้องเขาเต็มบ้านหน้าตาไม่ยินดียินร้ายกับใคร และทุกคนก็มองเธอด้วยความเฉยเมย เหมือนเธอไม่มีตัวตน ดวงตากลมโตกวาดมองรอบๆ บ้านหลังงาม ที่นึกนิยมในใจว่ามันงดงามน่าอยู่ ร่มรื่นติดภูเขาและทะเล แต่คนที่นี
บทที่5.หญิงสาวบ่นกับตัวเอง เธอไม่ได้โง่พอที่จะไม่เข้าใจความหมายในแววตาของเขา ผู้หญิงไทยก็คงเป็นโสเภณีในสายตาของเขาสินะ อาเธอร์จึงได้มองเธอด้วยแววตาเหยียดหยันอยู่เสมอ... และนี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่เธอด่าใครสักคน หญิงสาวยันกายลุกขึ้น สูดลมหายใจลึกๆ บอกตัวเองให้พร้อมเผชิญกับทุกสิ่ง...ในขณะที่คนตัวเล็กกำลังทำอาหารอยู่ในครัว จนกลิ่นอาหารหอมฟุ้งไปทั้งบ้านหลังงาม ทำให้ทุกคนซึ่งอยู่ในที่แห่งนี้หันมองไปตามกลิ่นและเห็นร่างเล็กๆ ของพลอยไพลินกำลังทำอาหารอยู่ในครัวหรู ซึ่งพวกเขาทำได้แค่มอง ผู้หญิงของเจ้านาย ที่กำลังทำอาหารเงียบๆ ริชาร์ตมองร่างบางผ่านกระจกใสอย่างครุ่นคิด พลางเหลือบสายตาไปยังห้องนอนของเจ้านายหนุ่ม“พวกแกไปทำงานได้แล้วไป ส่งคนของเราไปดูความเคลื่อนไหวของคุณลูเซียส แล้วแกสามคนไปดูลาดเลาที่คาสิโนที่ไอ้ดอนมันเข้าออกบ่อยๆ ส่วนแกไปตามดูที่บ้านของคุณพลอยไพลินว่าพี่สาวของเธอติดต่อกลับมาบ้างมั้ย”ชายหนุ่มสั่งงานแทนเจ้านายอย่างรู้หน้าที่ บรรดาชายหนุ่มวัยฉกรรจ์ ซึ่งเป็นลูกน้องฝีมือดีของอาเธอร์รับคำอย่างเสียดายเล็กน้อย ที่จะไม่ได้อยู่รับประทานอาหารกลิ่นหอมฟุ้งนั้น ใช่ว่าพวกเขาจะเห็นแก่กิน แต่กล
บทที่6.“อืม จริงสินะ ถ้าอย่างนั้น ฉันมีข้อแลกกับการไปจากที่นี่” อาเธอร์บอกอย่างใจดี ซ่อนความเจ้าเล่ห์ร้ายกาจไว้มิดชิด ชนิดที่ว่าพลอยไพลิน ไม่มีโอกาสได้รู้หรือตามเขาทันแน่นอน“ยังไงคะ” พลอยไพลินถามอย่างตื่นเต้น แต่เมื่อเขาหันมาเผชิญหน้า ความตื่นเต้นของเธอลดลงครึ่งต่อครึ่งอย่างช่วยไม่ได้ ไม่รู้ทำไมแววตาของเขาทำให้รู้สึกหวิวๆ เหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจ...“ก็แค่ทำงานเป็นแม่บ้านให้ฉันสักเดือน ทำทุกอย่าง... เมื่อได้เงินเดือนเธอก็สามารถกลับบ้านได้ เธอคงไม่คิดว่าฉันจะใจดีส่งเธอกลับบ้านเฉยๆ หรอกนะ ฉันเป็นนักธุรกิจนะ อีกอย่างฉันก็ไม่รู้ว่าเธอจะปากโป้ง เรื่องที่ฉันยิงไอ้ดอนมันรึเปล่า ดังนั้นหนึ่งเดือนเธออยู่ที่นี่ เป็นแม่บ้านให้ฉัน”“แต่ฉันทำสัญญากับคุณไปแล้วนี่คะ สัญญาที่ฉันจะทำหน้าที่ติดตามหาพี่สาวฉัน”“ฉันฉีกมันทิ้งไปแล้ว อย่าลืมสิฉันเป็นคนที่มีอำนาจยกเลิกสัญญาเมื่อไหร่ก็ได้นะ ฉันทำสัญญาและหน้าที่ใหม่ให้เธอแล้วเพราะฉันเพิ่งเก็บคำพูดเธอไปคิดว่า ถึงไม่มีเธอฉันก็ตามหาแพรดาวได้ ฉันเห็นตามนั้นเลยล่ะ... ตกลงจะเอาไง”เขาถามเสียงเข้มจ้องหน้าอ่อนใสนั้นอย่างคาดคั้นและเหนือกว่า รู้อยู่แล้วว่าพลอยไพลิน