พลอยไพลินลอบมองชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่พอๆ กับอาเธอร์อย่างชื่นชม ลูเซียส เวอร์เลนติโน่ เป็นชายหนุ่มรูปงามใบหน้าหล่อเหลานั้นขาวสะอาดค่อนข้างคมหวานดวงตายาวใหญ่สีน้ำตาลเข้มนั้นดูมีแววรื่นรมย์อยู่เสมอ จมูกโด่งเป็นสันงดงามรับกับริมฝีปากหยักสวยได้รูปอย่างชายชาตรี เรือนผมสีน้ำตาลเข้มนั้นยาวระบ่ากว้าง โดยรวมแล้วลูเซียสดูเหมือนพวกศิลปินหรือคนทำงานเกี่ยวกับศิลปะมากกว่าเป็นนักธุรกิจหรือมาเฟีย และลูเซียสก็น่าเข้าใกล้มากกว่าคนที่เธอมาด้วยมากมายเลยทีเดียว...
“ฉันว่านายน่าจะมองคนอื่นบ้างนะอาร์ คนที่ต้องการของของนายไม่ได้มีแค่ฉันคนเดียว”
“แต่ฉันรู้ว่าเธอมาที่นี่”
“ใช่... เธอมาที่นี่ แต่ฉันไม่เห็นเธอเลยและไม่ได้เห็นของที่นายตามหาเลยแม้แต่น้อย แต่หากนายอยากให้ฉันช่วยตามก็ขอร้องให้ช่วยดีๆ ก็ได้ไม่ต้องใช้กำลังกับคนของฉันเหมือนหมาลอบกัด” ลูเซียสกล่าวเสียงจริงจังดวงตาสีน้ำตาลเข้มสบมองท้าทายดวงตาสีฟ้าจัดอย่างไม่เกรงกลัว...
“ฉันไม่เคยลอบกัดใคร อีกอย่างนายก็น่าจะมองคนอื่นบ้างเพราะมีหลายคนที่จ้องจะกัดนายไม่ใช่มีแค่ฉัน...” อาเธอร์กล่าวสวนกลับไปบ้าง ชายหนุ่มทั้งสองจ้องหน้ากันนิ่งอย่างไม่มีใครยอมหลบแล้วทั้งสองก็ต้องหันมาตามเสียงสดใสของใครบางคน
“อาหารว่างมาแล้วค่า เลิกเขม่นกันแล้วมาทานคุกกี้ฝีมือน้องโรสดีกว่า อุ้ย...สวัสดีค่ะพี่อาร์ เชิญค่ะๆ แหม ไม่อยากเชื่อเลยว่าพี่อาร์จะมาเยี่ยมพี่ลูซที่รักของโรสถึงที่นี่”
“มาอีกแล้วยายน้องโรสตัวยุ่ง ใครให้เด็กมาดื้อมาวุ่นวายตอนผู้ใหญ่คุยกัน ฮึ” ลูเซียสพูดอย่างหงุดหงิดเมื่อเห็นหน้าสาวน้อยที่ดูจะชะงักไปกับคำพูดของเขา
“น้องโรส พี่บอกกี่ครั้งแล้วว่าเวลาผู้ใหญ่คุยกันอย่ามาวุ่นวาย หากวุ่นวายมากๆ พี่จะให้ไอ้อาร์มันพาเรากลับไปส่งที่บ้านแล้วห้ามหนีมาหาพี่อีก เด็กอะไรน่ารำคาญที่สุดเลย”
ลูเซียสกล่าวเสียงเข้มกับสาวน้อยหน้าใสที่ยืนมองเขาตาแป๋ว...
น้องโรส หรือ รสิตา เรืองโรจน์ คิงส์ สาวน้อยลูกครึ่งไทย อเมริกัน วัยยี่สิบที่แอบชอบลูเซียสมานานแอบหนีบิดาออกจากบ้าน มาอยู่ที่บ้านของลูเซียสเพียงเพื่อจะได้ทำหน้าที่ดูแลชายหนุ่ม ในขณะที่เขามาพักที่เมืองไทย รสิตาเป็นบุตรสาวของบิดาบุญธรรมของอาเธอร์ด้วย ซึ่งบ้านของรสิตาก็มีอาณาเขตติดกับคฤหาสน์ของลูเซียสนี่เอง
“น้องโรส พี่บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่ามาบ้านไอ้ขี้เก็กนี่ แล้วคุณพ่อเรารู้รึเปล่าว่ามาที่นี่ ทำไมเกเรอย่างนี้นะ” อาเธอร์ต่อว่าสาวน้อยบ้าง และน้องโรสก็ทำหน้าจ๋อยๆ ตาแดงๆ เหมือนจะร้องไห้ด้วย ดวงตากลมโตสีเขียวมรกตนั้นเอ่อคลอด้วยน้ำตา ใบหน้าเรียวได้รูปขาวใสอมชมพูนั้นดูเศร้าสลดลงทันตา...
“พี่อาร์ไม่เข้าใจน้องโรสเลย คุณพ่อก็ด้วยพี่ลูซก็ด้วย ไม่ต้องกินแล้วไอ้คุกกี้นี่ น้องโรสเกลียดพี่อาร์ เกลียดพี่ลูซ คำก็ไล่สองคำก็ไล่น้องโรส เกลียดๆ...” รสิตาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสะอื้นแล้วปาจานคุกกี้ทิ้งต่อหน้าทุกคนจนจานกระเบื้องลายสวยแตกกระจายอย่างฉุนเฉียว ก่อนจะวิ่งหายเข้าไปในบ้าน...
พลอยไพลินมองตามร่างระหงของสาวน้อยไปอย่างนึกเห็นใจ ที่โดนผู้ชายทั้งสองคนต่อว่า หญิงสาวลุกขึ้นมองหน้าทั้งสองหนุ่มอย่างไม่พอใจ...
“พวกคุณเป็นผู้ชายที่น่าเกลียดที่สุดเลย โดยเฉพาะคุณมิสเตอร์เวอร์เลนติโน่ ตอนแรกฉันชื่นชมคุณนะคะ คิดว่าคุณน่าจะเป็นคนดี อ่อนโยน มีน้ำใจ แต่ตอนนี้ฉันคิดว่าคุณก็ร้ายกาจพอๆ กับคุณคิงส์นั่นล่ะ”
พลอยไพลินโพล่งออกมาอย่างเหลืออดโดยไม่ทันนึกว่าตนอยู่ในฐานะอะไร ตอนนี้เธอต้องการปกป้องศักดิ์ศรีของลูกผู้หญิงด้วยกัน เธอดูออกว่าน้องโรสนั้นรักลูเซียสแน่นอน และลูเซียสไม่น่าตอบแทนความรักของสาวน้อยน่ารักอย่างน้องโรสอย่างนี้เลยพลอยไพลินเสียมารยาท เดินหนีชายหนุ่มทั้งสองคนตามน้องโรสไป...
อาเธอร์กับลูเซยสหันมาสบตากันแล้วมองตามพลอยไพลินไปอย่างงงๆ แล้วก็หันมามองหน้ากันอีกครั้ง...
“นี่คู่ขาใหม่ของนายหรือวะไอ้อาร์ ปากร้ายชะมัด”
“ไม่ใช่ อย่ามาเสือกรู้ดี ฉันไม่มีวันเอาผู้หญิงไทยมาเป็นเมียหรือแม้แต่คู่ขา”
อาเธอร์ปฏิเสธเสียงแข็ง ใบหน้าคมเข้มด้วยหนวดเคราดูไม่สบอารมณ์ หากเขาไม่มีหนวดเคราพรางตาลูเซียสคงได้เห็นปื้นแดงๆ ที่กระจายไปทั้งใบหน้าเขาแน่ๆ
“เออ... ขอให้จริง แต่คนไทยเขาว่าเกลียดอะไรได้อย่างนั้นนะเว้ย”
“นายก็เหมือนกันนั่นล่ะ อย่ามาปากดี และอย่ามาหลงรักน้องสาวฉันก็แล้วกัน เพราะฉันจะขัดขวางให้ถึงที่สุด”
“ไม่มีทาง ฉันไม่มีวันรักยายเด็กกะโปโลร้ายกาจนั่นแน่ๆ” ถึงคราวที่ลูเซียสจะปฏิเสธบ้าง
“เออ... แล้วฉันจะคอยดู...” ชายหนุ่มทั้งสองมองสบตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร และไม่ยอมรับในสิ่งที่อีกฝ่ายเอ่ยมา โดยที่พวกเขาไม่รู้เลยว่าสิ่งที่ตนพูดมานั้นมันจะย้อนมามัดใจของพวกเขาจนดิ้นไม่หลุด และพวกเขาจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่กับผู้หญิงที่พวกตนต่างตั้งแง่ปฏิเสธ..
“เอ่อ ขอโทษนะคะ เมื่อกี้เห็นน้องโรสมั้ยคะว่าไปทางไหนคะ” พลอยไพลินเดินงงอยู่ในห้องโถงโอ่อ่าของคฤหาสน์หลังงาม ทำไมมันถึงได้กว้างขวางขนาดนี้ และมีประตูที่ไปได้หลายที่ซึ่งเธอไม่รู้ว่ารสิตาไปทางไหน
“อ๋อ คุณหนูโรสไปที่สวนด้านหลังค่ะที่นั่นมีสระว่ายน้ำและสวนดอกไม้สวยๆ เธอชอบไปที่นั่นค่ะยามทะเลาะกับคุณลูเซียส” ป้านิ่ม แม่บ้านวัยกลางคนบอกกับเธอเป็นภาษาไทยเมื่อมองใบหน้าเรียบๆ หญิงสาวตรงหน้า แล้วมั่นใจว่าเธอเป็นคนไทยเหมือนๆ กับนาง แม้ค่อนข้างแปลกใจที่เห็นพลอยไพลินมากับอาเธอร์
“ขอบคุณนะคะ แหม ลินดีใจจังที่เจอคนไทยเหมือนกันบ้าง” หญิงสาวบอกอย่างยินดี
“ค่ะ ป้าก็ดีใจ อ้อ ป้าชื่อป้านิ่มนะคะ”
“ค่ะ ขอบคุณค่ะป้านิ่มลินขอตัวไปหาน้องโรสก่อนนะคะ” พลอยไพลินขอตัวอย่างอ่อนน้อมสร้างความชื่นชมให้แก่ป้านิ่มเป็นอย่างมาก แล้วร่างอวบอ้วนของนางก็เดินไปหาผู้เป็นนาย
บทนำ“ลูกดาวจ๊ะ ลูกต้องจำไว้นะลูกต้องมีผัวฝรั่งเหมือนบ้านนั้นเห็นมั้ย เขามีผัวฝรั่งกลับมาร่ำรวยฟู่ฟ่า ดูนังแมวสิพอลูกสาวมันได้ผัวฝรั่งกลับมาร่ำรวย มันก็คุ้ยฟุ้งไปทั้งหมู่บ้าน แม่ล่ะหมั่นไส้มันนัก หาผัวฝรั่งรวยๆ นะลูกดาว แม่จะได้สบายรู้มั้ย” “ค่ะแม่ แล้วดาวจะหาผัวฝรั่งรวยๆ นะแม่นะ แต่ว่าตอนนี้ดาวขอเงินไปเรียนภาษาไปก่อนได้มั้ยคะแม่ขา อีกอย่างดาวจะไปจ่ายค่าเนตด้วย คืนนี้ดาวจะแชทคุยกับคุณดอนให้ฉ่ำใจไปเลย...”แพรดาว หญิงสาววัยยี่สิบห้าใบหน้าสะสวยหาตัวจับยาก เรือนร่างสูงระหงทว่าอวบอิ่มอกเป็นอก เอวเป็นเอว สะโพกเป็นสะโพก อย่างที่ทำให้ชายหนุ่มมองกันเหลียวหลัง ผิวสีน้ำผึ้งเปล่งปลั่งอีกทั้งการแต่งกายที่เปิดเผยสัดส่วนอวบอิ่มของเธอก็ทำให้แพรดาวดูสวยเย้ายวนมากขึ้น หญิงสาวเอ่ยออดอ้อน นางเดือน ผู้เป็นมารดาซึ่งอยู่ในวัยสี่สิบปลายๆ แต่นางยังคงสวยพริ้งเพราเพราะชอบแต่งตัวและดูแลตัวเองดีมาเสมอ“ได้เลยค่ะ ดาวลูกรักของแม่” เรื่องสนับสนุนลูกให้หา สามีฝรั่งรวยๆ นี่นางสนับสนุนเต็มที่“ขอบคุณค่ะแม่ขา แม่ช่างเป็นแม่ที่ทั้งสวยและใจดีมากๆ เลยค่ะ”แพรดาวเสียงหวานเอาอกเอาใจ ริมฝีปากที่ทาลิปสติกสีแดงจัดจ้านย
บทที่ 1ใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่นั้นดูเคร่งเครียดจัด ดวงตาคมวาวโรจน์ด้วยความโกรธเมื่อของสำคัญได้หายไปจากงานแสดงเครื่องเพชรของ คิงส์คอปอเรชั่น และเครื่องเพชรชุดนั้นก็มีมูลค่ามหาศาลทั้งยังเป็นของรักของมารดาผู้ล่วงลับของเขา ชายหนุ่มหันมามองคนที่อยู่เบื้องหน้าด้วยแววตาขึ้งเครียด เมื่อรู้แน่แล้วว่าของสำคัญของเขานั้นอยู่ที่ไหนและกับใคร อาเธอร์ คิงส์ นักธุรกิจหนุ่มลูกครึ่งแม็กซิกัน อเมริกันผู้หล่อเหลาและร่ำรวยมหาศาล ชายหนุ่มเจ้าของร่างสูงใหญ่ 188 เซนติเมตร ผิวสีแทนคร้ามใบหน้าเรียวยาวได้รูปซึ่งประกอบด้วยดวงตาสีฟ้าสดคมเข้มภายใต้คิ้วหนายาว จมูกโด่งเป็นสันสวยไม่งองุ้มรับกับริมฝีปากหยักสีเข้ม ร่างแกร่งอุดมด้วยมัดกล้ามตึงแน่นอย่างที่เราเรียกกันว่าซิกแพ็กนั้น น่าลูบไล้สัมผัสด้วยปุยขนสีอ่อนนุ่มนวลสีเดียวกันกับเส้นผมสีน้ำตาลเข้มออกแดงเล็กน้อยที่ตัดเล็มอย่างดีเยี่ยมรับกับรูปหน้าหล่อเหลาคมเข้ม เขาเพียบพร้อมสมบูรณ์แบบอย่างที่สาวๆ ใฝ่ฝัน แต่ก็ยังไม่มีใครสามารถครอบครองหัวใจหนุ่มโสดเนื้อหอมคนนี้ได้ ในวัยสามสิบสามปีอาเธอร์ก็ยังคงเป็นหนุ่มโสดเนื้อหอมอันดับต้นๆ ของวงการนักธุรกิจ หนุ่มหล่อ รวย
บทที่2.“อย่าทำอะไรลินเลยนะคะ ได้โปรดปล่อยลินไปเถอะ”พลอยไพลินตื่นขึ้นมาในห้องกว้างดูหรูหรางดงามพร้อมกับเจอหน้าของชายหนุ่มต่างชาติผู้หล่อเหลา แต่สายตาของเขากลับทำให้เธอนึกกลัว และเมื่อรู้ตัวว่าจะต้องเจอกับอะไร พลอยไพลินถึงกับเข่าอ่อนหวาดหวั่นอย่างที่สุด ไม่นึกเลยว่าพี่สาวแท้ๆ จะทำกับเธอได้ถึงเพียงนี้“ฉันไม่ทำให้เธอเจ็บหรือผิดหวังหรอกน่าสาวน้อย แต่ฉันจะทำให้เธอมีความสุขที่สุด มีผัวฝรั่งมันดีนะ แล้วเธอจะติดใจเหมือนพี่สาวเธอ”“ไม่ค่ะ ปล่อยลินไปเถอะ ลินไม่ได้อยากมีผัวหรือต้องการผัวฝรั่งเลย..” พลอยไพลินพูดลนลาน พลางเดินถอยห่างจากเขาที่สืบเท้าเข้ามาหาด้วยแววตาที่น่าขยะแขยงนัก“เธอไม่มีทางไปจากที่นี่ได้หรอกพลอยไพลิน หรือหากเธอก้าวออกจากห้องนี้ไป โดยที่ฉันไม่ได้อนุญาต เธออาจจะมีผัวทีเดียวหลายคน ฮ่าๆ” ดอนกล่าวพลางหัวเราะด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียม จนพลอยไพลินขนหัวลุกด้วยความกลัว และขยะแขยง ดวงตากลมโตดำขลับราวนิลเนื้อดี กวาดมองหาช่องทางหนีแต่มันไม่มีเสียเลย...“กรี๊ดดดด ปล่อยนะ ปล่อยฉันนน...” พลอยไพลินกรีดร้อง เมื่อร่างสูงของดอนกระโดดเข้ามาคว้าตัวของเธอไว้ได้ ก่อนจะโยนเธอลงบนเตียงกว้างอย่างไม่ปรา
บทที่3.ดวงตางามภายใต้ขนตางามงอนค่อยๆ กระพือขึ้นช้าๆ แล้วหลับลงไปอีกครั้ง เมื่อแสงจ้ารอบกายทำให้รู้สึกแสบตาจนลืมตาไม่ขึ้น พลอยไพลินพยายามลืมตาขึ้นอีกครั้ง แล้วก็ต้องเบิกตากว้างอย่างตื่นตระหนก... เธออยู่ในห้องที่แสนจะหรูหรา เพดานห้องประดับด้วยโคมไฟระย้างดงาม ผนังห้องสีน้ำตาลอ่อนๆ เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นจะออกโทนน้ำตาล ข้าวของทุกชิ้นในห้องนี้ล้วนแล้วแต่ราคาแพงลิบลิ่ว ซึ่งเธอคงไม่มีโอกาสได้ใช้ของแพงๆ เหล่านี้ และโทนสีอบอุ่นนั้นก็ไม่ได้ช่วยให้ความหวาดกลัวของเธอลดลงเธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ครั้งสุดท้ายที่รู้สึกตัวเธอกำลังคุยอยู่กับแพรดาวเรื่องจะไปทำธุระจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ที่เดือนนี้พี่สาวของเธอใจดีเป็นคนออกเงินเอง สุดท้ายเธอก็ถูกพี่สาวหลอกไปให้ผู้ชายผมทองคนนั้นปู้ยี่ปู้ยำ แค่คิดน้ำตาก็ไหลอาบแก้ม...“โอ๊ย อูย... เจ็บไปหมดทั้งตัวเลย...” พลอยไพลินพยายามยันกายจากที่นอนอย่างยากลำบาก เมื่อความเจ็บแปลบแล่นไปทั้งร่าง ความหวาดกลัวว่าตนเองจะถูกย่ำยีก็ลดลงไปด้วย เมื่อเธอสวมใส่เสื้อผ้าอยู่ นั่นคือเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งแม้มันจะมีเพียงแค่ชิ้นเดียวบนร่างกาย แต่ทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจอย่างประหลาด และเธอก็ไม่ได้รู้สึกเ
บทที่4.หญิงสาวมองกระดาษในมืออย่างไม่เข้าใจว่าทำไมเธอต้องลงชื่อในสิ่งที่เรียกว่า สัญญา กับเขาด้วยอาเธอร์ คิงส์ ในที่สุดเธอก็รู้จักชื่อของเขา แต่ชื่อนี้เธอเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนนะ แต่เธอไม่เข้าใจว่าเธอตกเป็นเชลยของเขาได้อย่างไร ซ้ำอาเธอร์ยังทำท่าราวกับเธอคือตัวอะไรสักอย่างที่น่ารังเกียจ สายตาของเขาที่มองมา มันไม่เป็นมิตร และเธอรู้สึกได้ถึงความเกลียดชังเขาเกลียดเธอหรือ เกลียดด้วยเรื่องอะไรล่ะ เธอไปทำอะไรให้เขา... พลอยไพลินคิดอย่างวิตกและอยากรู้“ในสัญญานั้นจะทำให้เธออยู่ในสายตาฉัน และยังได้เงินเดือนอีกด้วยแค่ช่วยฉันตามหาพี่สาวเธอ”“แต่ฉันไม่ต้องการ ฉันแค่อยากกลับบ้าน คุณยิ่งใหญ่ขนาดนั้นแค่พี่สาวฉันคนเดียว คุณก็คงจัดการได้ ปล่อยฉันไปเถอะนะคะ ฉันไม่รู้อะไรเลยจริงๆ”หญิงสาวบอกเขาอย่างไม่พอใจเล็กน้อย แต่ก็พยายามเก็บอาการอย่างที่สุด ตอนนี้เธออยู่ในถิ่นของคนที่เรียกได้ว่าเข้าใกล้คำว่ามาเฟียมาก ดูสิลูกน้องเขาเต็มบ้านหน้าตาไม่ยินดียินร้ายกับใคร และทุกคนก็มองเธอด้วยความเฉยเมย เหมือนเธอไม่มีตัวตน ดวงตากลมโตกวาดมองรอบๆ บ้านหลังงาม ที่นึกนิยมในใจว่ามันงดงามน่าอยู่ ร่มรื่นติดภูเขาและทะเล แต่คนที่นี
บทที่5.หญิงสาวบ่นกับตัวเอง เธอไม่ได้โง่พอที่จะไม่เข้าใจความหมายในแววตาของเขา ผู้หญิงไทยก็คงเป็นโสเภณีในสายตาของเขาสินะ อาเธอร์จึงได้มองเธอด้วยแววตาเหยียดหยันอยู่เสมอ... และนี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่เธอด่าใครสักคน หญิงสาวยันกายลุกขึ้น สูดลมหายใจลึกๆ บอกตัวเองให้พร้อมเผชิญกับทุกสิ่ง...ในขณะที่คนตัวเล็กกำลังทำอาหารอยู่ในครัว จนกลิ่นอาหารหอมฟุ้งไปทั้งบ้านหลังงาม ทำให้ทุกคนซึ่งอยู่ในที่แห่งนี้หันมองไปตามกลิ่นและเห็นร่างเล็กๆ ของพลอยไพลินกำลังทำอาหารอยู่ในครัวหรู ซึ่งพวกเขาทำได้แค่มอง ผู้หญิงของเจ้านาย ที่กำลังทำอาหารเงียบๆ ริชาร์ตมองร่างบางผ่านกระจกใสอย่างครุ่นคิด พลางเหลือบสายตาไปยังห้องนอนของเจ้านายหนุ่ม“พวกแกไปทำงานได้แล้วไป ส่งคนของเราไปดูความเคลื่อนไหวของคุณลูเซียส แล้วแกสามคนไปดูลาดเลาที่คาสิโนที่ไอ้ดอนมันเข้าออกบ่อยๆ ส่วนแกไปตามดูที่บ้านของคุณพลอยไพลินว่าพี่สาวของเธอติดต่อกลับมาบ้างมั้ย”ชายหนุ่มสั่งงานแทนเจ้านายอย่างรู้หน้าที่ บรรดาชายหนุ่มวัยฉกรรจ์ ซึ่งเป็นลูกน้องฝีมือดีของอาเธอร์รับคำอย่างเสียดายเล็กน้อย ที่จะไม่ได้อยู่รับประทานอาหารกลิ่นหอมฟุ้งนั้น ใช่ว่าพวกเขาจะเห็นแก่กิน แต่กล
บทที่6.“อืม จริงสินะ ถ้าอย่างนั้น ฉันมีข้อแลกกับการไปจากที่นี่” อาเธอร์บอกอย่างใจดี ซ่อนความเจ้าเล่ห์ร้ายกาจไว้มิดชิด ชนิดที่ว่าพลอยไพลิน ไม่มีโอกาสได้รู้หรือตามเขาทันแน่นอน“ยังไงคะ” พลอยไพลินถามอย่างตื่นเต้น แต่เมื่อเขาหันมาเผชิญหน้า ความตื่นเต้นของเธอลดลงครึ่งต่อครึ่งอย่างช่วยไม่ได้ ไม่รู้ทำไมแววตาของเขาทำให้รู้สึกหวิวๆ เหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจ...“ก็แค่ทำงานเป็นแม่บ้านให้ฉันสักเดือน ทำทุกอย่าง... เมื่อได้เงินเดือนเธอก็สามารถกลับบ้านได้ เธอคงไม่คิดว่าฉันจะใจดีส่งเธอกลับบ้านเฉยๆ หรอกนะ ฉันเป็นนักธุรกิจนะ อีกอย่างฉันก็ไม่รู้ว่าเธอจะปากโป้ง เรื่องที่ฉันยิงไอ้ดอนมันรึเปล่า ดังนั้นหนึ่งเดือนเธออยู่ที่นี่ เป็นแม่บ้านให้ฉัน”“แต่ฉันทำสัญญากับคุณไปแล้วนี่คะ สัญญาที่ฉันจะทำหน้าที่ติดตามหาพี่สาวฉัน”“ฉันฉีกมันทิ้งไปแล้ว อย่าลืมสิฉันเป็นคนที่มีอำนาจยกเลิกสัญญาเมื่อไหร่ก็ได้นะ ฉันทำสัญญาและหน้าที่ใหม่ให้เธอแล้วเพราะฉันเพิ่งเก็บคำพูดเธอไปคิดว่า ถึงไม่มีเธอฉันก็ตามหาแพรดาวได้ ฉันเห็นตามนั้นเลยล่ะ... ตกลงจะเอาไง”เขาถามเสียงเข้มจ้องหน้าอ่อนใสนั้นอย่างคาดคั้นและเหนือกว่า รู้อยู่แล้วว่าพลอยไพลิน
บทที่7.อาเธอร์คิดอย่างกระหยิ่มใจ พลางจูบไซ้ซอกซอนหาความหวานจากโพรงปากนุ่ม ที่หวานล้ำอย่างที่เขาไม่เคยสัมผัสได้จากหญิงสาวคนไหนมาก่อน พลอยไพลินทำให้เขาอยากจะจูบ อยากจะลูบไล้เรือนกายงามของเธอได้โดยที่ไม่ต้องยั่วยวนเขาสักนิด และพลอยไพลินเป็นหญิงไทยคนแรก ที่เขาจูบเธอเสียด้วยริมฝีปากร้อนผ่าวจูบซับความหวานจากปากสาวอย่างหิวกระหายค่อยๆ ไล้ละเรื่อยมายังแก้มแดงจัด และใบหูบางที่แดงไม่แพ้กัน ก่อนจะจูบไซ้ลงมาที่ซอกคอขาวผ่องขบเม้มเล่นทั้งดอมดมกลิ่นเนื้อสาวเข้าปอดอย่างพอใจ ริมฝีปากร้ายร้อนระอุไม่หยุดเท่านั้น แต่กำลังเลื่อนต่ำลงมายังร่องอกอวบอิ่มที่ซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อชีฟองลายสวยแขนกุดเผยไหล่มนผุดผ่อง ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนทรวงสาวจะเบ่งบานรอคอยบางอย่าง ยอดอกเครียดคัดไหวระริกอยู่ใต้บราเซียตัวสวยยั่วให้ดูดดึงดื่มกินยิ่งนัก...“เธอหวานเหลือเกินพลอยไพลิน หวานอย่างไม่น่าเชื่อ...” อาเธอร์ ครางเหมือนเพ้อละเมอไม่รู้ตัว ในขณะผ่อนร่างอ่อนระทวยของหญิงสาวลงบนโซฟาตัวใหญ่ แล้ววกกลับมาจุมพิตริมฝีปากแดงปลั่งอย่างเร่าร้อนอีกครั้ง มือร้อนระอุราวเปลวไฟลูบไล้สอดซุกเข้าไปในชายเสื้อตัวบาง เสาะหาสิ่งที่เขาปรารถนาจะจับต้อง และเ