พลอยไพลินลอบมองชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่พอๆ กับอาเธอร์อย่างชื่นชม ลูเซียส เวอร์เลนติโน่ เป็นชายหนุ่มรูปงามใบหน้าหล่อเหลานั้นขาวสะอาดค่อนข้างคมหวานดวงตายาวใหญ่สีน้ำตาลเข้มนั้นดูมีแววรื่นรมย์อยู่เสมอ จมูกโด่งเป็นสันงดงามรับกับริมฝีปากหยักสวยได้รูปอย่างชายชาตรี เรือนผมสีน้ำตาลเข้มนั้นยาวระบ่ากว้าง โดยรวมแล้วลูเซียสดูเหมือนพวกศิลปินหรือคนทำงานเกี่ยวกับศิลปะมากกว่าเป็นนักธุรกิจหรือมาเฟีย และลูเซียสก็น่าเข้าใกล้มากกว่าคนที่เธอมาด้วยมากมายเลยทีเดียว...
“ฉันว่านายน่าจะมองคนอื่นบ้างนะอาร์ คนที่ต้องการของของนายไม่ได้มีแค่ฉันคนเดียว”
“แต่ฉันรู้ว่าเธอมาที่นี่”
“ใช่... เธอมาที่นี่ แต่ฉันไม่เห็นเธอเลยและไม่ได้เห็นของที่นายตามหาเลยแม้แต่น้อย แต่หากนายอยากให้ฉันช่วยตามก็ขอร้องให้ช่วยดีๆ ก็ได้ไม่ต้องใช้กำลังกับคนของฉันเหมือนหมาลอบกัด” ลูเซียสกล่าวเสียงจริงจังดวงตาสีน้ำตาลเข้มสบมองท้าทายดวงตาสีฟ้าจัดอย่างไม่เกรงกลัว...
“ฉันไม่เคยลอบกัดใคร อีกอย่างนายก็น่าจะมองคนอื่นบ้างเพราะมีหลายคนที่จ้องจะกัดนายไม่ใช่มีแค่ฉัน...” อาเธอร์กล่าวสวนกลับไปบ้าง ชายหนุ่มทั้งสองจ้องหน้ากันนิ่งอย่างไม่มีใครยอมหลบแล้วทั้งสองก็ต้องหันมาตามเสียงสดใสของใครบางคน
“อาหารว่างมาแล้วค่า เลิกเขม่นกันแล้วมาทานคุกกี้ฝีมือน้องโรสดีกว่า อุ้ย...สวัสดีค่ะพี่อาร์ เชิญค่ะๆ แหม ไม่อยากเชื่อเลยว่าพี่อาร์จะมาเยี่ยมพี่ลูซที่รักของโรสถึงที่นี่”
“มาอีกแล้วยายน้องโรสตัวยุ่ง ใครให้เด็กมาดื้อมาวุ่นวายตอนผู้ใหญ่คุยกัน ฮึ” ลูเซียสพูดอย่างหงุดหงิดเมื่อเห็นหน้าสาวน้อยที่ดูจะชะงักไปกับคำพูดของเขา
“น้องโรส พี่บอกกี่ครั้งแล้วว่าเวลาผู้ใหญ่คุยกันอย่ามาวุ่นวาย หากวุ่นวายมากๆ พี่จะให้ไอ้อาร์มันพาเรากลับไปส่งที่บ้านแล้วห้ามหนีมาหาพี่อีก เด็กอะไรน่ารำคาญที่สุดเลย”
ลูเซียสกล่าวเสียงเข้มกับสาวน้อยหน้าใสที่ยืนมองเขาตาแป๋ว...
น้องโรส หรือ รสิตา เรืองโรจน์ คิงส์ สาวน้อยลูกครึ่งไทย อเมริกัน วัยยี่สิบที่แอบชอบลูเซียสมานานแอบหนีบิดาออกจากบ้าน มาอยู่ที่บ้านของลูเซียสเพียงเพื่อจะได้ทำหน้าที่ดูแลชายหนุ่ม ในขณะที่เขามาพักที่เมืองไทย รสิตาเป็นบุตรสาวของบิดาบุญธรรมของอาเธอร์ด้วย ซึ่งบ้านของรสิตาก็มีอาณาเขตติดกับคฤหาสน์ของลูเซียสนี่เอง
“น้องโรส พี่บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่ามาบ้านไอ้ขี้เก็กนี่ แล้วคุณพ่อเรารู้รึเปล่าว่ามาที่นี่ ทำไมเกเรอย่างนี้นะ” อาเธอร์ต่อว่าสาวน้อยบ้าง และน้องโรสก็ทำหน้าจ๋อยๆ ตาแดงๆ เหมือนจะร้องไห้ด้วย ดวงตากลมโตสีเขียวมรกตนั้นเอ่อคลอด้วยน้ำตา ใบหน้าเรียวได้รูปขาวใสอมชมพูนั้นดูเศร้าสลดลงทันตา...
“พี่อาร์ไม่เข้าใจน้องโรสเลย คุณพ่อก็ด้วยพี่ลูซก็ด้วย ไม่ต้องกินแล้วไอ้คุกกี้นี่ น้องโรสเกลียดพี่อาร์ เกลียดพี่ลูซ คำก็ไล่สองคำก็ไล่น้องโรส เกลียดๆ...” รสิตาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสะอื้นแล้วปาจานคุกกี้ทิ้งต่อหน้าทุกคนจนจานกระเบื้องลายสวยแตกกระจายอย่างฉุนเฉียว ก่อนจะวิ่งหายเข้าไปในบ้าน...
พลอยไพลินมองตามร่างระหงของสาวน้อยไปอย่างนึกเห็นใจ ที่โดนผู้ชายทั้งสองคนต่อว่า หญิงสาวลุกขึ้นมองหน้าทั้งสองหนุ่มอย่างไม่พอใจ...
“พวกคุณเป็นผู้ชายที่น่าเกลียดที่สุดเลย โดยเฉพาะคุณมิสเตอร์เวอร์เลนติโน่ ตอนแรกฉันชื่นชมคุณนะคะ คิดว่าคุณน่าจะเป็นคนดี อ่อนโยน มีน้ำใจ แต่ตอนนี้ฉันคิดว่าคุณก็ร้ายกาจพอๆ กับคุณคิงส์นั่นล่ะ”
พลอยไพลินโพล่งออกมาอย่างเหลืออดโดยไม่ทันนึกว่าตนอยู่ในฐานะอะไร ตอนนี้เธอต้องการปกป้องศักดิ์ศรีของลูกผู้หญิงด้วยกัน เธอดูออกว่าน้องโรสนั้นรักลูเซียสแน่นอน และลูเซียสไม่น่าตอบแทนความรักของสาวน้อยน่ารักอย่างน้องโรสอย่างนี้เลยพลอยไพลินเสียมารยาท เดินหนีชายหนุ่มทั้งสองคนตามน้องโรสไป...
อาเธอร์กับลูเซยสหันมาสบตากันแล้วมองตามพลอยไพลินไปอย่างงงๆ แล้วก็หันมามองหน้ากันอีกครั้ง...
“นี่คู่ขาใหม่ของนายหรือวะไอ้อาร์ ปากร้ายชะมัด”
“ไม่ใช่ อย่ามาเสือกรู้ดี ฉันไม่มีวันเอาผู้หญิงไทยมาเป็นเมียหรือแม้แต่คู่ขา”
อาเธอร์ปฏิเสธเสียงแข็ง ใบหน้าคมเข้มด้วยหนวดเคราดูไม่สบอารมณ์ หากเขาไม่มีหนวดเคราพรางตาลูเซียสคงได้เห็นปื้นแดงๆ ที่กระจายไปทั้งใบหน้าเขาแน่ๆ
“เออ... ขอให้จริง แต่คนไทยเขาว่าเกลียดอะไรได้อย่างนั้นนะเว้ย”
“นายก็เหมือนกันนั่นล่ะ อย่ามาปากดี และอย่ามาหลงรักน้องสาวฉันก็แล้วกัน เพราะฉันจะขัดขวางให้ถึงที่สุด”
“ไม่มีทาง ฉันไม่มีวันรักยายเด็กกะโปโลร้ายกาจนั่นแน่ๆ” ถึงคราวที่ลูเซียสจะปฏิเสธบ้าง
“เออ... แล้วฉันจะคอยดู...” ชายหนุ่มทั้งสองมองสบตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร และไม่ยอมรับในสิ่งที่อีกฝ่ายเอ่ยมา โดยที่พวกเขาไม่รู้เลยว่าสิ่งที่ตนพูดมานั้นมันจะย้อนมามัดใจของพวกเขาจนดิ้นไม่หลุด และพวกเขาจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่กับผู้หญิงที่พวกตนต่างตั้งแง่ปฏิเสธ..
“เอ่อ ขอโทษนะคะ เมื่อกี้เห็นน้องโรสมั้ยคะว่าไปทางไหนคะ” พลอยไพลินเดินงงอยู่ในห้องโถงโอ่อ่าของคฤหาสน์หลังงาม ทำไมมันถึงได้กว้างขวางขนาดนี้ และมีประตูที่ไปได้หลายที่ซึ่งเธอไม่รู้ว่ารสิตาไปทางไหน
“อ๋อ คุณหนูโรสไปที่สวนด้านหลังค่ะที่นั่นมีสระว่ายน้ำและสวนดอกไม้สวยๆ เธอชอบไปที่นั่นค่ะยามทะเลาะกับคุณลูเซียส” ป้านิ่ม แม่บ้านวัยกลางคนบอกกับเธอเป็นภาษาไทยเมื่อมองใบหน้าเรียบๆ หญิงสาวตรงหน้า แล้วมั่นใจว่าเธอเป็นคนไทยเหมือนๆ กับนาง แม้ค่อนข้างแปลกใจที่เห็นพลอยไพลินมากับอาเธอร์
“ขอบคุณนะคะ แหม ลินดีใจจังที่เจอคนไทยเหมือนกันบ้าง” หญิงสาวบอกอย่างยินดี
“ค่ะ ป้าก็ดีใจ อ้อ ป้าชื่อป้านิ่มนะคะ”
“ค่ะ ขอบคุณค่ะป้านิ่มลินขอตัวไปหาน้องโรสก่อนนะคะ” พลอยไพลินขอตัวอย่างอ่อนน้อมสร้างความชื่นชมให้แก่ป้านิ่มเป็นอย่างมาก แล้วร่างอวบอ้วนของนางก็เดินไปหาผู้เป็นนาย
บทที่11.“คุณลูเซียสทำร้ายจิตใจคุณหนูโรสอีกแล้วนะคะ”นางกล่าวตำหนิคนที่เป็นทั้งเจ้านายและเป็นเสมือนบุตรชายเพราะนางเลี้ยงดูลูเซียสมาตั้งแต่เด็กๆ“สวัสดีครับป้านิ่ม”อาเธอร์กล่าวทักทายหญิงสูงวัยอย่างเคารพ นับว่าป้านิ่มเป็นผู้หญิงไทยคนเดียวที่เขาให้ความเคารพอย่างไร้อคติ“สวัสดีค่ะคุณอาร์ นี่พวกคุณสองคนยังไม่เลิกทะเลาะกันเหมือนเด็กๆ อีกหรือคะ สามสิบกว่าปีกันแล้วนะคะ ไม่ใช่เด็กๆ อายุสิบสาม อย่าให้ป้ารู้อีกเชียวว่าทะเลาะกันเรื่องไร้สาระเหมือนเดิมอีก” ป้านิ่มคาดโทษ “ครับป้านิ่ม” สองหนุ่มรับคำพร้อมกัน ลูเซียสเข้ามาโอบบ่าของอาเธอร์เหมือนจะยืนยันคำสัญญา อาเธอร์เองก็โอบตอบเช่นกันแต่มือที่ไขว่หลังอยู่ของทั้งสองกำลังซัดกันนัวเนีย ผู้สูงวัยก็ได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอา กับความร้ายกาจของเด็กชายอาเธอร์กับเด็กชายลูเซียส... พลอยไพลินกับรสิตาคุยกันอย่างออกรสเมื่อได้ทำความรู้จักกันแล้ว รสิตารู้สึกถูกชะตากับพี่สาวคนนี้มากๆ แล้วขอเรียกพลอยไพลินว่า พี่ลิลลี่ และยังแอบคาดหวังว่าพลอยไพลินจะรักษาใจด้านชาของพี่ชายได้ สองสาวหย่อนขาลงไปในสระว่ายน้ำใสแจ๋วแกว่งเล่นไปมาอย่างปลอดโปร่งมากขึ้น“น้องโรสดีใจนะคะที่พี่ลิลลี
ตอนที่12.เวลารับประทานอาหารเย็นที่คฤหาสน์หลังงามของลูเซียสผ่านพ้นไปด้วยดี สองหนุ่มต่างตั้งใจรับประทานอาหารโดยไม่ได้แขวะหรือเขม่นกัน ทำให้ป้านิ่มมองพวกเขาอย่างพอใจพลางนึกถึงสาเหตุที่ทำให้อาเธอร์กับลูเซียสผิดใจกันอาเธอร์และลูเซียสนั้นเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่เด็กๆ แต่เมื่อเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัย และมีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาในชีวิตของพวกเขาก็ทำให้ทั้งสองผิดใจกัน เพราะต่างก็ชอบพอและพยายามแข่งขันกันเพื่อเอาชนะใจ คริสทิน่า มาร์ติน นางแบบสาวสวยไฮโซ ซึ่งปัจจุบันเธอเป็นนางแบบแถวหน้าของวงการนางแบบชั้นนำของโลก และเธอก็ไม่ได้ตกลงปลงใจกับทั้งสองหนุ่มด้วย แต่แม้ว่าคริสทิน่าไม่ได้เลือกพวกเขา แต่มิตรภาพที่ขาดสะบั้นของอาเธอร์กับลูเซียส ก็ยังไม่กลับเข้าที่ แม้ว่าจะผ่านมาสิบกว่าปีแล้วก็ตาม ทั้งสองหนุ่มก็ยังมึนๆ ตึงๆ ใส่กันเสมอ...“กลับบ้านกับพี่มั้ยน้องโรส” อาเธอร์ถามน้องสาวบุญธรรมที่นั่งทำหน้างออยู่ตรงหน้า“ไม่ค่ะ น้องโรสยังปฏิบัติภารกิจไม่เสร็จสมบูรณ์”“ภารกิจอะไรกัน เราน่ะควรกลับบ้านได้แล้ว อยู่ให้ไอ้ลูเซียสมันรังแกรึไง”“หากพี่ลูซรังแกน้องโรสก็ดีสิคะ น้องโรสยอมมม... อิอิ” รสิตาหัวเราะคิกคักอย่างถ
ตอนที่13.รสิตาสวมเสื้อนอนซึ่งเป็นเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งของลูเซียสที่เธอแอบขโมยมาใส่นอนเพราะให้มันเสมือนตัวแทนของชายหนุ่มที่ตนแอบรัก โดยไม่ได้สวมอะไรภายใต้เสื้อตัวใหญ่นอกจากกางเกงชั้นในตัวบาง เพื่อความสบายตัวเวลานอน รสิตาหัวเราะอย่างมีความสุขแล้วล้มตัวลงนอน หลังจากที่ล้างหน้าแปรงฟันเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยไม่ทันได้สังเกตว่าในขณะที่เธอเข้าห้องน้ำท่ามกลางแสงสลัวๆ ภายในห้องที่เปิดเพียงไฟหัวเตียงดวงเดียวนั้น ได้มีแขกไม่ได้รับเชิญยืนหน้าเข้มอยู่ข้างๆ ตู้เสื้อผ้าหลังใหญ่“ว้ายยย... อุ้บส์...”รสิตากรีดร้องอย่างตกใจเมื่อจู่ๆ ก็มีใครสักคนมากระชากเธอขึ้นจากเตียง พร้อมกับวงแขนแกร่งตวัดรัดรอบเอวบาง ดวงตากลมโตที่เบิกกว้างค่อยๆ หลับลงอย่างโล่ง อกเมื่อเห็นหน้าเจ้าของมือปริศนา“ตกใจหรือดีใจกันแน่ที่พี่เข้ามาหาในห้อง นี่คือแผนหลอกล่อให้พี่เข้ามาหารึเปล่าน้องโรส”“อ้ายยย พี่ลูซบ้ามากล่าวหาน้องโรสแบบนี้ได้ไง ใครเขาจะไปยั่วพี่กัน บ้าไปแล้ว” สาวน้อยกรีดเสียงใส่เขา เมื่อลูเซียสละมือหนาออกจากริมฝีปากอวบอิ่มของเธอ“หึ ก็เห็นปรกติยั่วให้พี่ตบะแตกไปไหนก็ตามต้อยๆ เหมือนลูกลิง แต่วันนี้มันแปลกๆ นี่นา ทำไมเราไม่เอานมกั
บทที่14.“อุ้ย พี่ลูซไม่ได้นะคะ อื้มมม...” เสียงคัดค้านอย่างตระหนกเล็กน้อย เมื่อลิ้นร้อนลากผ่านสะดืองามมาเลียไล้ที่หน้าท้องเนียน ก่อนใบหน้าหล่อเหลาของเขาจะเลื่อนต่ำลง...ลูเซียสเกี่ยวชั้นในตัวน้อยบางเฉียบลงมาตามเรียวขาเสลาก่อน จะจับเข่ามนที่พยายามขืนแรงมือหนาของเขาไว้ สุดท้ายก็แพ้แรงชาย อีกทั้งเธอรู้สึกอ่อนเปลี้ยไปหมดแล้วตอนนี้ ทำได้เพียงแยกเรียวขาออกกว้างตามบัญชาการของเขา และเมื่อชั้นในตัวน้อยพ้นจากร่างงาม ร่างเปลือยเปล่างดงามราวสลักด้วยประติมากรมือฉมัง ก็ปรากฏตรงหน้า ความงดงามของเธอให้คนที่เคยวิ่งหนีถึงกับตะลึงมอง ลอบกลืนน้ำลายลงคอ รู้สึกแสบร้อนไปทั้งลำคอ เหมือนรู้สึกหิวกระหายอย่างบอกไม่ถูก ความงดงามของกลีบดอกไม้สาวช่างยั่วใจ น้ำหวานใสเอ่อนองฉ่ำชื้นก็ยั่วลิ้นให้ลิ้มลอง ตอนนี้เขารู้สึกหิวกระหายน้ำหวานจากดอกไม้ช่อนี้เหลือเกิน... และเร็วเท่าความคิดใบหน้าหล่อเหลาก็ก้มลงมาซุกไซ้หาความหวานทันที“อ๊า... อื้มมม... พี่ลูซ ทำอะไรน้องโรส”รสิตาครางเสียงดังอย่างเสียวสุดใจ เมื่อลิ้นร้อนระอุของเขาปาดเลียกลีบผกาที่หวงแหนของ
บทที่15.“อ๊า... โอว นิ่งๆ ไว้คนดี เดี๋ยวน้องโรสจะไม่เจ็บอีกต่อไป พี่สัญญา”ลูเซียสกัดฟันพูดเสียงหอบพร่าทั้งรู้สึกถึงการบีบรัดที่แน่นราวปลอกเหล็กของเนื้อนางจนแทบจะหายใจไม่ออก ซ้ำยังต้องมาปลอบใจเด็กน้อยขี้แย ที่ตอนนี้นอนน้ำตาซึมอยู่ใต้ร่างแกร่งของเขา“ฮืออ พี่ลูซใจร้ายรังแกน้องโรส... น้องโรสเจ็บเอาออกไปได้มั้ยคะ”“ไม่จ้ะเด็กดี เชื่อพี่ลูซนะครับว่ามันจะผ่านไปด้วยดีแล้วน้องโรสจะขอให้พี่ลูซทำแบบนี้บ่อยๆ”ไม่วายที่เขาจะยิ้มล้อเลียน มือหนาลูบไล้กายสาวนุ่มมือแผ่วเบาราวปลอบโยน ก้มลงร่ายจุมพิตหลอกล่อให้สาวน้อยหลงเพริดไปกับเรียวลิ้นหนาที่เกี่ยวยกระกวัดหยอกเย้า ความเจ็บปวดเริ่มคลายลงไปแต่ความอึดอัดเข้ามาแทนที่ ทำให้รสิตตาขยับกายช้าๆ เพื่อให้ตนพ้นจากความอึดอัดที่ไม่เข้าใจ แต่การขยับส่ายจากเธอนั้นส่งผลให้ชายหนุ่มถึงกับกัดกรามกรอด พยายามอย่างยิ่งที่จะนุ่มนวลที่สุดกับครั้งแรกของเธอ แต่สุดท้ายก็ทานทนแรงเสียดส่ายของเธอไม่ไหว ร่างแกร่งจึงขยับนำทางช้าๆ กระซิบสั่งให้สาวน้อยเคลื่อนไหวตามที่เ
บทที่16.คุณอีธานถามอย่างไม่เข้าใจ ตอนนี้พวกเขาคุยกันอยู่ในห้องทำงาน ในขณะที่พลอยไพลินได้ไปพักผ่อนก่อน และหลับไปแล้วโดยที่เธอยังไม่ได้พบกับคุณอีธานเลย เพราะว่าพวกเขามาถึงบ้านหลังงามของคุณอีธาน ซึ่งก็คือ บ้านไร่เรืองโรจน์ ในเวลาดึกแล้ว เพราะอาเธอร์แวะทำธุระอยู่หลายที่ หากแต่คุณอีธานในวัยหกสิบปี ก็สายตาดีและแหลมคม ท่านเห็นแผ่นหลังของพลอยไพลินไวๆ ก่อนที่เธอจะถูกอาเธอร์สั่งให้เข้าไปในห้อง เพื่อจัดของให้เจ้านายหนุ่ม และพลอยไพลินก็คงเหนื่อยกับการเดินทางเพราะหลังจากที่เขาให้แม่บ้านไปตามหญิงสาว แม่บ้านก็กลับมารายงานว่าพลอยไพลินหลับไปแล้ว และที่ทำให้อาเธอร์แปลกใจระคนทึ่งจัดที่พลอยไพลินกับบิดาบุญธรรมของเขา รู้จักสนิทสนมกันมาก่อน เพราะคุณอีธานคือครูสอนภาษาของเธอ เมื่อมาถึงตอนนี้ เขาจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพลอยไพลินถึงพูดภาษาอังกฤษได้ดีนัก ก็เพราะมีครูที่ดีอย่างคุณอีธานนี่เอง“พ่ออยากให้อาร์ปล่อยเธอกลับบ้าน หากไม่ได้คิดอะไรกับเธอมากกว่าเหยื่อ”“ครับ..” ชายหนุ่มรับคำสั้นๆ ซึ่งคุณอีธานรู้ดีว่าม
บทที่ 17.ความหอมละมุนจางๆ จากกายสาว ความนุ่มเนียนของเนื้อนางและความใกล้ชิดที่ทำให้เขารู้ว่าพลอยไพลินไม่ได้บาง อย่างที่เห็นภายนอกนั้นก็ทำให้เลือดร้อนๆ ของเขาปะทุขึ้นมาอย่างง่ายดาย ยิ่งนึกถึงภาพเธอในชุดว่ายน้ำบิกินีเมื่อตอนบ่ายนี้ยิ่งทำให้เขาร้อนแทบระเบิดรู้สึกถึงความปวดร้าวที่วิ่งมาอัดแน่นอยู่ที่กึ่งกลางกายชาย พลอยไพลินให้เขารู้สึกแบบนี้ได้อย่างไรกัน และนี่มันก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอทำให้เขารู้สึกแบบนี้ด้วย บ้าจริงๆใบหน้าคมเข้มก้มต่ำลงมายังใบหน้าที่เงยขึ้นมองเขาอย่างตระหนกดวงตากลมโตไหวระริก แต่ไม่ใช่จากความหวาดกลัวแต่เพราะความหวั่นไหวในใจอีกต่อไป...“เอ่อ คุณอาร์คะ ปะ ปล่อยลินก็ได้ค่ะ ลินไม่เป็นไรแล้ว...”หญิงสาวบอกเสียงเบาแหบแห้ง ในใจก็เต้นระทึกจนรู้สึกเหนื่อยหอบ เรี่ยวแรงเหือดหายแขนขาอ่อนแรงจนไม่สามารถต้านทานอะไรจากเขาได้แค่จะพูดเธอยังรู้สึกเหมือนใช้พลังงานทั้งหมดที่มีในร่างกาย เพื่อพูดกับเขาและพอพูดแล้วแรงก็หมด...“เธอทำให้ฉันลำบากขนาดนี้เธอไม่คิดจะรับผิดชอบเลยเหรอ..” ชายหนุ่มกล่าวเสียงพ
บทที่18.อาเธอร์เปลี้องปลดเสื้อของตัวเองออกอย่างรวดเร็วแล้วโถมกายลงมาคลุกเคล้ากับร่างเปลือยเปล่า อย่างไม่อาจจะหักห้ามใจ เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย ไม่เคยที่จะหักห้ามใจตัวเองไม่ได้ และไม่เคยสักครั้งที่เขาจะสนใจผู้หญิงตัวเล็กบางอย่างนี้ โดยเฉพาะผู้หญิงเชื้อชาติเดียวกับคนที่แย่งบิดาไปจากเขากับมารดา เขาไม่เคยหวั่นไหวไปกับผู้หญิงคนไหนแต่ทำไมกับพลอยไพลินเขาถึงควบคุมตัวเองไม่ได้นะ...อาเธอร์คิดขณะระดมทั้งปากและจมูกซุกไซ้ดอมดมกลิ่นกายสาวขบเม้มไปตามผิวเนื้อนุ่มอย่างหยอกเย้าอย่าง ที่ไม่เคยทำแบบนี้กับใคร เพราะสำหรับเขาแล้วเซ็กซ์ก็คือเซ็กซ์ ไม่ได้มีอารมณ์จะมาเล้าโลมอ้อยอิ่งอย่างนี้ แต่สำหรับพลอยไพลินทำให้เขาอยากจะค่อยๆ เชยชิมเธอไปช้าๆ อยากดื่มกินความหวานหอมของเธอให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในขณะเดียวกันเขาก็อยากจะกระแทกแทรกกายเข้าไป ฝังอยู่ในกายของเธอให้รู้แล้วรู้รอดไป เพื่อความปวดร้าวทรมานในกายนี้จะได้หมดไปเสียทีในขณะที่อาเธอร์กำลังหลงใหลในความหอมหวานอย่างที่ไม่เคยได้ลิ้มรสจากหญิงสาวคนใด พลอยไพลินก็รู้สึกร้อนวูบวาบหวามไหวไปทั้งกาย รู้สึกเหมื
ตอนที่ 59.อาเธอร์กับพลอยไพลินจดทะเบียนกันก่อนที่เธอจะคลอดและเขาก็ขอเธอว่าจะจัดงานแต่งงานหลังจากที่คลอด เพื่อจะให้ลูกชายได้เข้าฉากถ่ายรูปพร้อมๆ กับพวกเขาด้วย ซึ่งหญิงสาวก็ยินดี และงานนี้พลอยไพลินขอร้องให้เขาจัดเล็กๆ ก็พอ เพราะเธอไม่ต้องการอะไรที่เอิกเกริกใหญ่โต สำหรับพลอยไพลินแล้วแค่มีคนที่เธอรัก และครอบครัวที่อบอุ่น พิธีการต่างๆ ไม่สำคัญเลย และพลอยไพลินเอง ก็พอใจแค่ได้อยู่เคียงข้างเขากับลูกก็พอ...“ขอบคุณนะคะพี่อาร์ที่รักลินกับลูก และมอบของขวัญล้ำค่าให้ลิน แต่แค่มีพี่อาร์กับน้องอลัน ลินก็พอใจแล้วค่ะ”“ถ้าอย่างนั้นก็ขอบคุณพี่อีกครั้งสิจ๊ะลิลลี่จ๋า”ออดอ้อนเสียงหวานนัยน์ตาพราวระยับ แล้วก้าวขึ้นมาบนเตียง ตวัดผ้าห่มออกห่างจากกายสาวอวบอิ่มมีน้ำมีนวลของเธออย่างร้อนรน เพราะอาเธอร์พยายามอดกลั้นตั้งหลายนาที เพื่อจะสวมสร้อยให้เธอ และตอนนี้เขาทนไม่ไหวแล้ว“อุ้ย พี่อาร์นี่ล่ะก็ มันสายแล้วนะคะเดี๋ยวทุกคนจะรอ”“งานเลี้ยงของเราเริ่มตอนเย็นจ้ะที่รัก นี่มันเพิ่งสิบโมงเช้าเรามีเวลาเตรียมตัวอีกนาน คุณพ่อกับริค แล้วก็โจรับหน้าที่ดูแลน้องอลันกับน้องเรนนี่แล้ว เรามาทำน้องให้มาเป็นเพื่อนเล่นกับน้องอลันดีกว
ตอนที่58.“พี่ทำลิลลี่เจ็บเหรอจ๊ะ คนดีอย่าร้องไห้นะ หากลินไม่ อยากให้พี่เข้าใกล้ พี่ไปนอนที่อื่นก็ได้”เขารีบถามเมื่อเงยหน้าขึ้นมาพบว่าเธอกำลังน้ำตาไหลพราก เขารีบมาเช็ดน้ำตาให้เธออย่างอ่อนโยน“หากพี่อาร์ไปนอนที่อื่น ลินจะโกรธและไม่ให้พี่อาร์กลับมาหาพวกเราแม่ลูกอีกเลยคอยดูสิ”“ลิน... ลิลลี่ โอ ที่รักยกโทษให้พี่แล้วใช่มั้ย เย้ ดีใจจังเลย”อาเธอร์ร้องออกมาอย่างยินดี แล้วโผกอดเธออย่างรวดเร็วจูบแก้มซ้ายขวาของคุณแม่คนสวยอย่างแสนรัก จนหญิงสาวต้องผลักอกกว้างออกไปแล้วค้อนเขาอย่างหมั่นไส้“นอนได้แล้วค่ะ ดึกแล้ว”“งั้น พ่อขอนอนกอดหนูได้มั้ยครับลูกพ่อ” ชายหนุ่มกล่าวอย่างเจ้าเล่ห์ ได้คืบจะเอาศอก“ไม่มั้งคะ เพราะคุณแม่ยังไม่หายงอนดีสักเท่าไหร่เลย”“โธ่ พ่อไม่กวนนะครับขอกอดนิดเดียว”อาเธอร์พูดเองเออเอง แล้วล้มตัวลงนอนกอดร่างอวบอิ่ม ที่นอนตะแคงหันหลังให้ด้วยความขัดเขิน แขนแกร่งโอบรอบกายคนตัวอวบอย่างแสนรัก กดจมูกลงบนพวงแก้มนุ่มอีกครั้งก่อนจะค่อยๆ เลื่อนใบหน้าไปหาริมฝีปากนุ่มที่ เผยอค้างอย่างเชิญชวนอย่างไม่อาจหักห้ามใจได้อีกพลอยไพลินเผยอปากรับจุมพิตอ่อนโยนจากเขาโดยดีหัวใจหนุ่มสาวที่แห้งแล้งมานาน พลันช
ตอนที่ 57.“เราออกไปทานข้าวกันได้แล้วค่ะ มิเชลทำอาหารเสร็จแล้ว”มิเชลเดินมาตามทุกคนไปรับประทานอาหารเย็น อาเธอร์ ลูเซียส ไรอัล และรสิตาลุกขึ้นเดินตามมิเชลไป แต่ในขณะที่พลอยไพลินกำลังจะลุกเดินออกไป เสียงคุณอีธานก็ดังขึ้นร้องเรียกเธอเบาๆ “ลิน อยู่คุยกับครูก่อนสิลูก”“ค่ะครู” หญิงสาวรับคำแล้วเดินไปนั่งข้างเตียงของท่าน ส่วนคนอื่นๆ ก็ออกไป แต่อาเธอร์ก็ยังเก้ๆ กังๆ อยากอยู่กับเธอก่อน แต่ลูเซียสกับไรอัลมาดึงเขาออกไปจนได้“ลินคิดอย่างไรกับพี่เขาบ้างล่ะลูก” คุณอีธานเอ่ยถามเมื่ออยู่กันลำพัง“ไม่รู้สิคะ”“ลิน ถามใจตัวเองดีๆ นะลูก ชีวิตคนเรานั้นสั้นนักและครูก็อยากได้ลินมาเป็นสะใภ้ อยากให้หลานของครูเป็นคิงส์โดยสมบูรณ์”“แต่คุณอาร์เคยบอกว่า... เอ่อ...”“สายเลือดของคิงส์จะไม่มีเลือดของผู้หญิงไทยอย่างลินปะปนอยู่” ผู้สูงวัยเอ่ยขึ้น และหญิงสาวก็พยักหน้าช้าๆ อย่างยอมจำนน“แล้วตอนนี้ลินคิดว่าเขายังรู้สึกอย่างนั้นอยู่รึเปล่าล่ะ”“ลินไม่รู้ค่ะ”“อาร์ไม่เคยง้อผู้หญิง และไม่เคยมีความอดทนกับอะไรนานๆ แต่กับลิน อาร์อดทนและยอมรับผิด ลินจะไม่ให้โอกาสเขาหรือลูก อะไรที่ผ่านๆ มาให้มันผ่านไปได้หรือไม่ ลินเองก็รู้ดีว
ตอนที่56.ดวงตาที่เริ่มพร่ามัวของหญิงชราค่อยๆ ปิดลง เมื่อนางได้พูดในสิ่งที่ควรจะพูด พลอยไพลินได้แต่สะอื้นไห้ จนไม่สามารถจะพูดอะไรได้ และเมื่อมือบางของมารดาที่เอื้อมมาลูบใบหน้าเธอด้วยความรักนั้น ทิ้งร่วงลงข้างลำตัว ที่ชุ่มโชกด้วยเลือด พลอยไพลินก็ฟุบหน้าลงกับอกของมารดาด้วยหัวใจที่แตกสลาย...งานศพของแม่ชีเดือนผ่านไปด้วยดี ด้วยความช่วยเหลือของครอบครัววาปีกับคนในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้ แต่เจ้าภาพใหญ่ที่จัดการทุกอย่างและทุกเรื่องนั้นก็คือ หนุ่มฝรั่งตาน้ำข้าวที่ทั้งหล่อและอัธยาศัยดี ที่ชาวบ้านต่างชื่นชม และดูเหมือนว่าชายหนุ่มเองก็ทำตัวตามสบาย และเป็นกันเองกับชาวบ้านทุกคนอย่างที่พลอยไพลินไม่เคยคิดว่า คนที่ถือตัวและค่อนข้างมีอคติกับคนไทยอย่างเขาจะเปลี่ยนไปได้ถึงเพียงนั้น แต่เธอก็ไม่ได้ปักใจเชื่อภาพลักษณ์จอมปลอมที่เขาสร้างขึ้นมา แม้ว่าทุกอย่างที่อาเธอร์ทำนั้น สื่อให้เห็นว่าเขาทำเพื่อเธอก็ตาม และแม้ว่าจะคลายความโศกเศร้าเรื่องมารดาลงบ้างแล้ว แต่เธอก็จะไม่มีวันยอมใจอ่อนกับเขาเด็ดขาด...“ลินจ๋ามาทานข้าวก่อนเร็ว วันนี้พี่อาร์ของลินเขาเข้าครัวทำเองเลยน้า..”วาปีเดินมาหาเพื่อนรักในห้องและพยายามชักชวนให้
ตอนที่55.คริสทิน่าก็เปิดฉากทันที ไม่จำเป็นต้องอารัมภบทมากมายเพราะคาดว่าพลอยไพลินน่าจะรู้ทุกอย่างแล้ว และยิ่งเธอเห็นว่าพลอยไพลินผู้หญิงหน้าตาธรรมดา ที่เมื่อเทียบกับตนแล้ว ความงดงามของพลอยไพลินนั้นเทียบไม่ติดเลยด้วยซ้ำแต่วันนี้คริสทิน่ารู้แล้วว่าความสวยงามของเธอนั้น เป็นรองพลอยไพลินไปทันที เพราะบัดนี้พลอยไพลินดูงดงามเปล่งปลั่งผิวขาวลอออมชมพู มีน้ำมีนวลผ่องใส ไม่เหมือนเธอที่ดูทรุดโทรมและไม่มีความสุข และหากเธอไม่มีความสุข ใครก็อย่าหวังว่าจะมี... หญิงสาวคิดอย่างเห็นแก่ตัว มองคนตรงหน้าตาขวางพร้อมจะทำร้ายทุกคนที่เธอเกลียด ซึ่งคริสทิน่าเกลียดทุกคนที่ทำท่าว่าจะไปได้ดีกว่าเธอ...“เราไม่ได้มีอะไรบาดหมางกัน คุณทำร้ายพวกเราทำไมคะ..” พลอยไพลินถาม เมื่อมองไม่เห็นเหตุผลเลยว่า ทำไมคริสทิน่าต้องจงเกลียดจงชังอะไรพวกเธอนัก“ทำไมจะไม่มี ก็เพราะแกกับพี่สาวร่านๆ ของแกไง ที่เข้ามาขวางทางฉัน หากไม่มีแกสองคน อาร์อาจจะหันมาสนใจฉัน และหากพี่สาวเธอมันไม่ร่าน คิดอยากมีผัวฝรั่งรวยๆ อย่างอาร์ มันก็คงไม่คิดจะกำจัดฉัน อย่าคิดว่าคนอย่างฉันจะโง่รู้ไม่ทันเกมของพวกแกนะ แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เพราะฉันมีแผนที่จะกำจัดมันก่อน
ตอนที่54.“สวัสดีค่ะแม่ชี” หญิงสาววางผลไม้ลงบนม้านั่งหินอ่อนใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงา ซึ่งใกล้กันนั้น แม่ชีเดือน กำลังกวาดใบไม้ที่ร่วงโรยเกลื่อนลานวัดด้วยกิริยาสงบงาม“มาแล้วเหรอลูก ไม่น่าลำบากมาเองเลยให้เด็กๆ ที่บ้านของหนูวาเอามาให้ก็ได้ เดี๋ยวเป็นลมเป็นแล้งไป”“ไม่เป็นไรค่ะ ลินอยากมาหาแม่ชีทุกวันอยู่แล้ว”พลอยไพลินหยิบไม้กวาดมาช่วยแม่ชีกวาดใบไม้อย่างแข็งขัน ใบหน้าผุดผ่องยิ้มละไมเหมือนเคย ใบหน้าที่แม่ชีเคยเมินเฉยไม่ใส่ใจ ที่เคยละเลยมาแสนนาน...“วันนี้ไม่มีสอนหนังสือหรือลูก”“ไม่ค่ะ วันนี้บังเอิญว่าทางโรงเรียนเขาพานักเรียนไปทัศนศึกษา ลินเลยว่างงานตั้งสองวัน เหงาจะแย่ยายวาก็ไปด้วย”หญิงสาวคุยกับมารดาอย่างมีความสุข ตอนนี้เธอรู้สึกปลดปลงอะไรได้เยอะ หลังจากที่ได้รับรู้เรื่องราวเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับพี่สาวเมื่อแรกพบแม่ชีเดือน พลอยไพลินเองก็รู้สึกตกใจเล็กน้อยที่มาพบมารดาอยู่ในวัด ที่ค่อนข้างห่างไกลสังคมเมือง หมู่บ้านเล็กๆ ที่ไม่ได้มีอะไรศิวิไลซ์อย่างที่มารดาเคยชอบ ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่มารดาเคยมี แต่แม่ชีเดือนที่พบในวันนั้น หาใช่คนที่เธอเคยสัมผัสมาทั้งชีวิตมารดาของเธอเปลี่ยนไปจากเดิมมา
ตอนที่53.“ไชโยๆๆ ในที่สุดก็มีเจ้าลูซน้อยแล้ว ฮ่าๆๆ”ลูเซียสร้องอย่างยินดีกระโดดตัวลอย แล้วรีบเข้ามากอดภรรยาคนสวยแน่นแล้วโยกไปมาอย่างแสนรัก ทำให้ทุกคนพลอยหัวเราะดีใจไปกับเขาด้วย“โอ้ยเบาๆ สิคะพี่ลูซ เดี๋ยวลูกตกใจกันพอดี”“น้องโรสมีความลับกับพี่ ต้องได้รับโทษ”“อะไรกัน แค่น้องโรสบอกช้าเท่านั้นเองไม่ได้ปิดบังเสียหน่อย” รสิตาทำเสียงงอนๆ แล้วก็ต้องหน้าแดงเมื่อสบสายตาวาวๆ ของสามี“ไม่รู้ล่ะ น้องโรสต้องไปกับพี่ ไปรับโทษที่ปิดบังผัว ขอตัวนะครับทุกคน”ลูเซียสกล่าวอย่างลิงโลดแล้วอุ้มภรรยาตัวน้อยขึ้นไปบนห้องอย่างรวดเร็ว แต่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนระมัดระวัง ซึ่งรสิตาก็ยอมให้สามีอุ้มไปลงโทษอย่างยินดี... อาเธอร์รู้สึกฉุนเฉียวและโมโหตัวเองที่มัวแต่ทำงาน จนมาไม่ทันที่จะได้พบพลอยไพลิน ทั้งที่เขารีบเคลียร์งานทุกอย่างโดยเร็วเพื่อจะมาหาเธอกับลูก แต่กลายเป็นว่าตอนนี้พลอยไพลินหอบลูกหนีเขาไป โดยที่ไม่มีใครเอะใจเลยว่าเธอจะไป และไม่มีใครคิดว่าอาการนิ่งๆ เฉยๆ และดูปรกติดีของพลอยไพลินนั้นไม่ได้เป็นปรกติอย่างที่คิด“แกดูแลเมียฉันยังไงวะไอ้ลูซ ดูสิเมียฉันหอบลูกหนีไปแล้ว แต่ดูแกสิมีความสุขอยู่พร้อมหน้า แกอิจฉาฉั
ตอนที่52.ก๊อกๆ เสียงประตูดังขึ้นพร้อมกับเสียงร้องเรียกจากพนักงานชาย ที่ใช้ไว้วานไปซื้ออาหารมาให้นั้น ดึงเธอกลับมาสู่ปัจจุบัน ดวงตาสวยคมมองประตูอย่างระแวง แล้วเดินไปมองดูคนที่มาเคาะประตูผ่านช่องตาแมว ก่อนจะเปิดประตูให้พนักงานชายร่างกายกำยำเข้ามา“ขอโทษนะคะที่เปิดช้า พอดีว่าทีน่าหลับไปน่ะค่ะ..”หญิงสาวแสร้งทำเสียงหวาน แล้วขยี้ผมอย่างงัวเงียมองชายหนุ่มผิวคร้ามอย่างยั่วยวน มือเรียวรั้งคอเสื้อให้ต่ำลง จนเห็นเนินอกอิ่มที่ไร้บราห่อหุ้ม ทรวงสาวอวบใหญ่ไหวกระเพื่อมเชิญชวน พนักงานชายวัยฉกรรจ์ตาโตด้วยความตื่นเต้นที่ระงับไม่อยู่ เขาไม่เคยเจอสาวต่างชาติที่สวยสะเด็ดแบบนี้มาก่อนเลย“คะ ครับ ไม่เป็นไร”“ไหนคะซื้ออะไรมาบ้าง..”หญิงสาวเดินเข้าไปใกล้แล้วหยิบของในมือชายหนุ่มออกมา แต่มือเรียวยังคงกุมมือหนาของเขาไว้แล้ว ค่อยๆ ลูบไล้ไปตามต้นแขนกำยำ อีกมือก็ดึงมือของเขามาวางบนเนินอกของตน คริสทิน่าเผยอริมฝีปากอย่างยั่วยวนก่อนจะไล้ลิ้นลงไปบนลำคอแกร่งของพนักงานชาย ที่ยืนตัวสั่นด้วยความรุ่มร้อน...อา... นางฟ้ามาโปรด เขาคิดก่อนจะตอบสนองจุมพิตเร่าร้อนของหญิงสาวแสนสวย โดยไม่รู้ว่าหลังจากที่เริงสวาทกับเธอแล้ว เขาอาจ
ตอนที่ 51.“เธอจะรู้มัยนะลิลลี่ว่าฉันคิดถึงเธอแค่ไหน แต่ก็ยังไปหาเธอไม่ได้ รออีกหน่อยนะ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย แล้วฉันจะรีบไปหาเธอ...” ชายหนุ่มพูดกับตัวเองเบาๆ ด้วยความรู้สึกโหยหาคนไกลอย่างที่สุด...หญิงสาวใบหน้างดงามแต่บัดนี้ดูเศร้าหมองทรุดโทรมเพราะความคลุ้มคลั่งกำลังนั่งเหม่อลอย อย่างไม่สนใจสิ่งรอบข้างในห้องเล็กๆ สีขาวสะอาด และเธอก็นั่งเหม่ออยู่อย่างนี้มาทั้งวัน บางครั้งก็กรีดร้องด้วยความเจ็บปวดหวาดกลัว พูดพร่ำไปต่างๆ นานาจนฟังไม่ได้ศัพท์ แต่หมอและพยาบาลที่รู้ความเป็นมาของเธอก็ได้แต่เฝ้าเอาใจช่วย และพยายามรักษาบำบัดจิตใจของหญิงสาวให้เป็นปรกติหญิงวัยกลางคนซึ่งแต่งกายซอมซ่อผมเผ้าค่อนข้างยุ่งเหยิง แขนผอมๆ ใส่เฝือกสีขาวมอๆ มีเชือกคล้องคอยึดแขนข้างนั้นไว้ยืนมองหญิงสาวที่นั่งน้ำตาไหลพราก ริมฝีปากขมุบขมิบพร่ำเพ้อด้วยความเสียใจสุดซึ้ง ดวงตาฝ้าฟางไปตามวัย เต็มไปด้วยหยาดน้ำตาแห่งความอาดูร หากนางไม่รักลูกผิดๆ แพรดาวก็คงไม่ตกมาอยู่ในสภาพนี้ และนางก็คงไม่เจ็บตัว จนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด...ในคืนวันนั้นคริสทิน่านัดแพรดาวออกไปพบ บอกว่าจะให้รางวัลที่สามารถกำจัดพลอยไพลินออกไปได้ และมีแผนการจะทำให้อา