ดวงตางามภายใต้ขนตางามงอนค่อยๆ กระพือขึ้นช้าๆ แล้วหลับลงไปอีกครั้ง เมื่อแสงจ้ารอบกายทำให้รู้สึกแสบตาจนลืมตาไม่ขึ้น พลอยไพลินพยายามลืมตาขึ้นอีกครั้ง แล้วก็ต้องเบิกตากว้างอย่างตื่นตระหนก... เธออยู่ในห้องที่แสนจะหรูหรา เพดานห้องประดับด้วยโคมไฟระย้างดงาม ผนังห้องสีน้ำตาลอ่อนๆ เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นจะออกโทนน้ำตาล ข้าวของทุกชิ้นในห้องนี้ล้วนแล้วแต่ราคาแพงลิบลิ่ว ซึ่งเธอคงไม่มีโอกาสได้ใช้ของแพงๆ เหล่านี้ และโทนสีอบอุ่นนั้นก็ไม่ได้ช่วยให้ความหวาดกลัวของเธอลดลง
เธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ครั้งสุดท้ายที่รู้สึกตัวเธอกำลังคุยอยู่กับแพรดาวเรื่องจะไปทำธุระจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ที่เดือนนี้พี่สาวของเธอใจดีเป็นคนออกเงินเอง สุดท้ายเธอก็ถูกพี่สาวหลอกไปให้ผู้ชายผมทองคนนั้นปู้ยี่ปู้ยำ แค่คิดน้ำตาก็ไหลอาบแก้ม...
“โอ๊ย อูย... เจ็บไปหมดทั้งตัวเลย...” พลอยไพลินพยายามยันกายจากที่นอนอย่างยากลำบาก เมื่อความเจ็บแปลบแล่นไปทั้งร่าง ความหวาดกลัวว่าตนเองจะถูกย่ำยีก็ลดลงไปด้วย เมื่อเธอสวมใส่เสื้อผ้าอยู่ นั่นคือเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งแม้มันจะมีเพียงแค่ชิ้นเดียวบนร่างกาย แต่ทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจอย่างประหลาด และเธอก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดตรงบริเวณนั้นด้วย...
“ฟื้นแล้วเหรอ..”
เสียงห้าวทุ้มด้วยภาษาอังกฤษชัดเจนทำให้พลอยไพลินหันไปมองทันที ใบหน้าเขียวช้ำซีดลงเมื่อเห็นคนที่เดินเข้ามาในห้อง ใบหน้าที่เรียบเฉยเต็มไปด้วยหนวดเครารกครึ้มกับเรือนร่างสูงใหญ่ดูน่าเกรงขาม และแววตาของเขาก็น่ากลัวยิ่งนัก เขาคงไม่ได้เป็นคนที่พาเธอมาที่นี่หรอกนะ หรือบางทีเขาก็อาจเป็นพลเมืองดีก็ได้... พลอยไพลินคิดไปต่างๆ นานา มองคนตัวโตตรงหน้าอย่างหวาดระแวง
“พูดภาษาอังกฤษได้มั้ย”
เขาถามซ้ำแล้วเดินเข้ามาใกล้พลอยไพลินขยับกายชิดหัวเตียง ดึงผ้าห่มมาคลุมกายเหมือนมันจะสามารถปกป้องเธอจากชายคนนี้ได้กระนั้น อาเธอร์มองหญิงสาวที่พยักหน้าช้าๆ อย่างนึกเหยียดๆ ว่าผู้หญิงหน้าตาจืดๆ บ้านๆ เหมือนสาวบ้านนอกมากกว่าสาวเมืองกรุงพูดภาษาอังกฤษได้ด้วยหรือ
“ค่ะ ฉันพูดได้” พลอยไพลินตอบไปตามความจริง ซึ่งจริงๆ แล้ว เธอสามารถพูดภาษาอังกฤษได้เก่งและดีกว่าแพรดาวที่พยายามจะพูดเพื่อสื่อสารกับหนุ่มต่างชาติ เพราะอยากได้สามีฝรั่งรวยๆ เพราะสมัยที่เธอเรียนอยู่นั้นอาจารย์ที่สอนวิชาภาษาอังกฤษนั้นเอ็นดูเธอ และสอนภาษาให้ฟรีโดยไม่ต้องไปร่ำเรียนให้เปลืองเงิน จนเธอสามารถพูดได้คล่องสื่อสารได้ทั้งพูดและเขียน ซึ่งชื่อของอาจารย์คนนั้น เธอก็ยังคงจำได้ดีไม่มีลืม แม้จะไม่ได้เจอท่านมาเกือบห้าปีแล้วก็ตาม
“ดี งั้นตอบฉันมาว่าเธอรู้อะไรบ้าง”
พลอยไพลินงงกับคำถามของเขานัก อะไรคือ รู้อะไรบ้าง เธอจะไปรู้อะไรล่ะนอกจากโดนพี่สาวหลอกมาขาย หญิงสาวมองเขาอย่างงงๆ และไม่รู้จะตอบอย่างไรกับคำถามนั้นดี
“ไม่รู้ค่ะ... ลิน เอ่อ ฉันไม่รู้ ว่าคุณหมายถึงอะไร”
“พลอยไพลิน พรเกษม อายุยี่สิบสามปี อาชีพค้าขาย สถานะโสด จบการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงจากโรงเรียนพาณิชยการ... อ้อ เคยทำงานในโรงแรมของคิงส์คอปอเรชั่น หลังเรียนจบอยู่หนึ่งปีก่อนจะลาออกไปขายขนม... พี่สาวชื่อแพรดาว อยากได้ผัวฝรั่งมาก จนหลวมตัวเสียท่าให้ไอ้ดอนและคิดขายน้องสาวให้มันด้วย... ไม่มีอะไรที่ฉันไม่รู้ถ้าฉันอยากจะรู้ แล้วเธอล่ะรู้อะไรบ้าง”
อาเธอร์พูดเรื่อยๆ เหมือนกำลังพูดเรื่องดินฟ้าอากาศ แต่มันทำให้คนฟังหน้าซีดลง เพราะนึกกลัวเขา ผู้ชายคนนี้เป็นใคร...
“คุณ... เป็นใคร”
“เป็นคนที่กุมชะตาชีวิตเธอไง ฉันช่วยเธอออกมาจากการโดนไอ้ดอนมันข่มขืน และเธอก็เป็นหนี้ชีวิตฉัน ที่สำคัญฉันรู้มาว่ามันใช้พี่สาวเธอไปส่งของสำคัญ ซึ่งมันเป็นของของฉัน...”
“ไม่เห็นจะเกี่ยวกับฉันเลยนี่คะ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร”
“เกี่ยวสิ เพราะเธอต้องรู้ว่าพี่สาวของเธอติดต่อกับใครบ้างและไปหลบอยู่ที่ไหน เพราะตอนนี้ที่บ้านมีเพียงแม่ของเธออยู่คนเดียว และฉันก็เฝ้าแม่ของเธอไว้ทุกฝีก้าว หากพวกเธอตุกติก แม่ของเธอคือคนที่จะรับผลทั้งหมด” เขาพูดอย่างเลือดเย็น
“คุณเป็นพวกค้ามนุษย์เหมือนไอ้คนสารเลวนั้นใช่มั้ย เลวที่สุดเลย”
พลอยไพลินเอ่ยอออกมาอย่างอัดอั้น เมื่อเธอไม่รู้อะไรเลยว่าตนเองกำลังเจอกับอะไร และใคร เพราะเมื่อฟื้นขึ้นมาเธอก็เจอเขาผู้ชายที่มีหนวดเคราครึ้มดุดันน่ากลัว ที่สำคัญเธอจำได้ลางๆ ว่าเขายิงดอนจนนอนจมกองเลือด แล้วยังยัดเยียดข้อหาต่างๆ มากมายให้เธออีกด้วย...
“เอาไว้เธอจะรู้ว่าฉันสามารถเป็นได้มากกว่านั้น เอาล่ะลุกขึ้นได้แล้ว รีบจัดการธุระส่วนตัวซะ ออกไปทานข้าวแล้วเธอจะได้รู้ว่าจะต้องทำอะไรบ้าง...”
ชายหนุ่มบอกเธอเสร็จสรรพแล้วก็เดินออกไป ทำให้พลอยไพลินมองตามอย่างไม่เข้าใจ
นี่มันอะไรกัน มัดมือชกชัดๆ บ้าไปแล้ว...
หลังจากอาบน้ำทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว พลอยไพลินก็ออกมาหาเสื้อผ้าชุดใหม่ มาใส่แทนชุดเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งที่เธอสวมอยู่ก่อนหน้านี้ แล้วก็ต้องตาโตกับชุดสวยที่วางพาดอยู่บนเตียง มือบางลูบเนื้อผ้านั้นอย่างไม่อยากเชื่อว่าเธอจะมีโอกาสสวมใส่เสื้อผ้าสวยๆ แบบนี้ แล้วพลอยไพลินก็ต้องหน้าแดงก่ำเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ข้างๆ กัน นั่นคือชุดชั้นในขนาดเท่ากับที่เธอใส่อยู่พอดี...
“หึ คงรวยน่าดูสินะ ดูสิยี่ห้อดังเสียด้วยไม่รู้เป็นบุญหรือเวรกรรมนะยายลิน...” หญิงสาวบ่นเบาๆ กับตัวเองแล้วรีบสวมใส่ชุดสวยทันที และทันทีที่เธอสวมเสื้อเสร็จเสียงประตูห้องก็ดังขึ้นพร้อมด้วยเสียงร้องเรียกของคน ที่ยังไม่รู้จักแม้แต่ชื่อของเขาแต่เธอกลับจำน้ำเสียงเขาได้ขึ้นใจ
“เธอแต่งตัวเสร็จแล้วใช่มั้ย” เขาถามเสียงห้วนพลอยไพลินพยักหน้าช้าๆ
“ดี งั้นตามฉันมา” เขาสั่งอีกเช่นเคย... ตั้งแต่เจอหน้า เขาก็สั่งๆ อย่างเดียวจริงๆ พลอยไพลินแอบแลบลิ้นใส่แผ่นหลังกว้างของคนตัวโต ซึ่งเดินนำหน้าไปอย่างหมั่นไส้เหลือแสน แล้วเดินตามเขาไปเงียบๆ
บทที่4.หญิงสาวมองกระดาษในมืออย่างไม่เข้าใจว่าทำไมเธอต้องลงชื่อในสิ่งที่เรียกว่า สัญญา กับเขาด้วยอาเธอร์ คิงส์ ในที่สุดเธอก็รู้จักชื่อของเขา แต่ชื่อนี้เธอเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนนะ แต่เธอไม่เข้าใจว่าเธอตกเป็นเชลยของเขาได้อย่างไร ซ้ำอาเธอร์ยังทำท่าราวกับเธอคือตัวอะไรสักอย่างที่น่ารังเกียจ สายตาของเขาที่มองมา มันไม่เป็นมิตร และเธอรู้สึกได้ถึงความเกลียดชังเขาเกลียดเธอหรือ เกลียดด้วยเรื่องอะไรล่ะ เธอไปทำอะไรให้เขา... พลอยไพลินคิดอย่างวิตกและอยากรู้“ในสัญญานั้นจะทำให้เธออยู่ในสายตาฉัน และยังได้เงินเดือนอีกด้วยแค่ช่วยฉันตามหาพี่สาวเธอ”“แต่ฉันไม่ต้องการ ฉันแค่อยากกลับบ้าน คุณยิ่งใหญ่ขนาดนั้นแค่พี่สาวฉันคนเดียว คุณก็คงจัดการได้ ปล่อยฉันไปเถอะนะคะ ฉันไม่รู้อะไรเลยจริงๆ”หญิงสาวบอกเขาอย่างไม่พอใจเล็กน้อย แต่ก็พยายามเก็บอาการอย่างที่สุด ตอนนี้เธออยู่ในถิ่นของคนที่เรียกได้ว่าเข้าใกล้คำว่ามาเฟียมาก ดูสิลูกน้องเขาเต็มบ้านหน้าตาไม่ยินดียินร้ายกับใคร และทุกคนก็มองเธอด้วยความเฉยเมย เหมือนเธอไม่มีตัวตน ดวงตากลมโตกวาดมองรอบๆ บ้านหลังงาม ที่นึกนิยมในใจว่ามันงดงามน่าอยู่ ร่มรื่นติดภูเขาและทะเล แต่คนที่นี
บทที่5.หญิงสาวบ่นกับตัวเอง เธอไม่ได้โง่พอที่จะไม่เข้าใจความหมายในแววตาของเขา ผู้หญิงไทยก็คงเป็นโสเภณีในสายตาของเขาสินะ อาเธอร์จึงได้มองเธอด้วยแววตาเหยียดหยันอยู่เสมอ... และนี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่เธอด่าใครสักคน หญิงสาวยันกายลุกขึ้น สูดลมหายใจลึกๆ บอกตัวเองให้พร้อมเผชิญกับทุกสิ่ง...ในขณะที่คนตัวเล็กกำลังทำอาหารอยู่ในครัว จนกลิ่นอาหารหอมฟุ้งไปทั้งบ้านหลังงาม ทำให้ทุกคนซึ่งอยู่ในที่แห่งนี้หันมองไปตามกลิ่นและเห็นร่างเล็กๆ ของพลอยไพลินกำลังทำอาหารอยู่ในครัวหรู ซึ่งพวกเขาทำได้แค่มอง ผู้หญิงของเจ้านาย ที่กำลังทำอาหารเงียบๆ ริชาร์ตมองร่างบางผ่านกระจกใสอย่างครุ่นคิด พลางเหลือบสายตาไปยังห้องนอนของเจ้านายหนุ่ม“พวกแกไปทำงานได้แล้วไป ส่งคนของเราไปดูความเคลื่อนไหวของคุณลูเซียส แล้วแกสามคนไปดูลาดเลาที่คาสิโนที่ไอ้ดอนมันเข้าออกบ่อยๆ ส่วนแกไปตามดูที่บ้านของคุณพลอยไพลินว่าพี่สาวของเธอติดต่อกลับมาบ้างมั้ย”ชายหนุ่มสั่งงานแทนเจ้านายอย่างรู้หน้าที่ บรรดาชายหนุ่มวัยฉกรรจ์ ซึ่งเป็นลูกน้องฝีมือดีของอาเธอร์รับคำอย่างเสียดายเล็กน้อย ที่จะไม่ได้อยู่รับประทานอาหารกลิ่นหอมฟุ้งนั้น ใช่ว่าพวกเขาจะเห็นแก่กิน แต่กล
บทที่6.“อืม จริงสินะ ถ้าอย่างนั้น ฉันมีข้อแลกกับการไปจากที่นี่” อาเธอร์บอกอย่างใจดี ซ่อนความเจ้าเล่ห์ร้ายกาจไว้มิดชิด ชนิดที่ว่าพลอยไพลิน ไม่มีโอกาสได้รู้หรือตามเขาทันแน่นอน“ยังไงคะ” พลอยไพลินถามอย่างตื่นเต้น แต่เมื่อเขาหันมาเผชิญหน้า ความตื่นเต้นของเธอลดลงครึ่งต่อครึ่งอย่างช่วยไม่ได้ ไม่รู้ทำไมแววตาของเขาทำให้รู้สึกหวิวๆ เหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจ...“ก็แค่ทำงานเป็นแม่บ้านให้ฉันสักเดือน ทำทุกอย่าง... เมื่อได้เงินเดือนเธอก็สามารถกลับบ้านได้ เธอคงไม่คิดว่าฉันจะใจดีส่งเธอกลับบ้านเฉยๆ หรอกนะ ฉันเป็นนักธุรกิจนะ อีกอย่างฉันก็ไม่รู้ว่าเธอจะปากโป้ง เรื่องที่ฉันยิงไอ้ดอนมันรึเปล่า ดังนั้นหนึ่งเดือนเธออยู่ที่นี่ เป็นแม่บ้านให้ฉัน”“แต่ฉันทำสัญญากับคุณไปแล้วนี่คะ สัญญาที่ฉันจะทำหน้าที่ติดตามหาพี่สาวฉัน”“ฉันฉีกมันทิ้งไปแล้ว อย่าลืมสิฉันเป็นคนที่มีอำนาจยกเลิกสัญญาเมื่อไหร่ก็ได้นะ ฉันทำสัญญาและหน้าที่ใหม่ให้เธอแล้วเพราะฉันเพิ่งเก็บคำพูดเธอไปคิดว่า ถึงไม่มีเธอฉันก็ตามหาแพรดาวได้ ฉันเห็นตามนั้นเลยล่ะ... ตกลงจะเอาไง”เขาถามเสียงเข้มจ้องหน้าอ่อนใสนั้นอย่างคาดคั้นและเหนือกว่า รู้อยู่แล้วว่าพลอยไพลิน
บทที่7.อาเธอร์คิดอย่างกระหยิ่มใจ พลางจูบไซ้ซอกซอนหาความหวานจากโพรงปากนุ่ม ที่หวานล้ำอย่างที่เขาไม่เคยสัมผัสได้จากหญิงสาวคนไหนมาก่อน พลอยไพลินทำให้เขาอยากจะจูบ อยากจะลูบไล้เรือนกายงามของเธอได้โดยที่ไม่ต้องยั่วยวนเขาสักนิด และพลอยไพลินเป็นหญิงไทยคนแรก ที่เขาจูบเธอเสียด้วยริมฝีปากร้อนผ่าวจูบซับความหวานจากปากสาวอย่างหิวกระหายค่อยๆ ไล้ละเรื่อยมายังแก้มแดงจัด และใบหูบางที่แดงไม่แพ้กัน ก่อนจะจูบไซ้ลงมาที่ซอกคอขาวผ่องขบเม้มเล่นทั้งดอมดมกลิ่นเนื้อสาวเข้าปอดอย่างพอใจ ริมฝีปากร้ายร้อนระอุไม่หยุดเท่านั้น แต่กำลังเลื่อนต่ำลงมายังร่องอกอวบอิ่มที่ซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อชีฟองลายสวยแขนกุดเผยไหล่มนผุดผ่อง ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนทรวงสาวจะเบ่งบานรอคอยบางอย่าง ยอดอกเครียดคัดไหวระริกอยู่ใต้บราเซียตัวสวยยั่วให้ดูดดึงดื่มกินยิ่งนัก...“เธอหวานเหลือเกินพลอยไพลิน หวานอย่างไม่น่าเชื่อ...” อาเธอร์ ครางเหมือนเพ้อละเมอไม่รู้ตัว ในขณะผ่อนร่างอ่อนระทวยของหญิงสาวลงบนโซฟาตัวใหญ่ แล้ววกกลับมาจุมพิตริมฝีปากแดงปลั่งอย่างเร่าร้อนอีกครั้ง มือร้อนระอุราวเปลวไฟลูบไล้สอดซุกเข้าไปในชายเสื้อตัวบาง เสาะหาสิ่งที่เขาปรารถนาจะจับต้อง และเ
บทที่8.“ลินจ๋า ช่วยฉันหน่อย ฉันต้องการให้เธอช่วย...”น้ำเสียงนั้นฟังดูออดอ้อนนัก จนคนฟังหัวใจละลายและพลอยไพลินก็ไม่อยากเชื่อเลยว่าอาเธอร์จะพูดอย่างนั้นกับตน ก็เพราะท่าทางของเขาก่อนหน้านี้ มันไม่ใช่แบบนี้นี่นา หญิงสาวคิดในใจ แต่ความคิดของเธอก็ต้องติดๆ ขัดๆ นึกอะไรไม่ค่อยออกเสียด้วยสิ “ชะ ช่วย อะไรคะ... ลิน หนาว...”พลอยไพลินพูดตะกุกตะกักไม่เข้าใจที่เขาพูด และพยายามจะดึงมือหนี และลุกขึ้นหาผ้ามาสวมใส่ เธออายเหลือเกินที่นั่งเปลือยเปล่าต่อหน้าเขาแบบนี้ แล้วตอนนี้เธอก็รู้สึกหนาวขึ้นมาจับใจ พลอยไพลินมองเขายังซึ่งสวมเสื้อผ้าครบชุด มีเพียงตรงกลางร่างแกร่งเท่านั้นที่เขาปลดกระดุมกางเกงยีนจนหมดแถวพร้อมกับปลดปล่อยบางสิ่งออกมาให้เธอกอบกุมอยู่ในตอนนี้...“ทำแบบนี้ที่รัก... อา นั่นล่ะ ใช่แล้วดีมาก” อาเธอร์ครางออกมาอย่างอ่อนหวาน ขยับมือหนาของตนสอนสั่งให้เธอทำตามซ้ำนักเรียนหน้าใสก็ยังทำได้ดีเกินคาด แม้จะยังกล้าๆ กลัวๆ ทั้งเคอะเขินในสิ่งที่กำลังทำอยู่ ชายหนุ่มหลับตาลงอย่างซ่านใจเมื่อเขาไม่จำเป็นต้องชักนำมือน้อยแล้ว เสียงครางแหบห้าวหนักหน่วงจึงดังขึ้นในเวลาต่อมา พร้อมกับการได้ปลดปล่อยความอัดอั้นจากเพลิ
บทที่9.“นายบอกว่าไอ้ลูเซียสมันท้าให้ฉันไปหามันที่บ้านเหรอ”“ครับคุณลูเซียสบอกว่าหากคุณอาร์มีอะไรข้องใจให้ไปพบที่บ้านได้เลย ตอนนี้เขามาเมืองไทยพอดี” ริชาร์ตรายงานความคืบหน้าเรื่องที่เขาตามอยู่ซึ่ง ลูเซียส เวอร์เลนติโน นักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อชาวอิตาเลี่ยนทายาทอดีตมาเฟียใหญ่ซึ่ง เวอร์เลนติโน นั้นเป็นตระกูลเก่าแก่และร่ำรวยที่สุดในอิตาลีด้วยและลูเซียสก็เป็นหนึ่งในหนุ่มหล่อผู้ร่ำรวยและทรงอิทธิพอๆ กับอาเธอร์“ดี งั้นฉันจะไปตามคำท้า” อาเธอร์กล่าวเสียงเข้มดวงตาคมกล้าทอดมองไปนอกหน้าต่างซึ่งภายนอกนั้นมืดมิด ดวงดาวนับล้านสิ่งแสงระยิบเต็มท้องฟ้า“ให้ผมเตรียมอาวุธพร้อมเลยมั้ยครับ”“ไม่ต้อง ฉันจะไปแต่ตัว ฉันเชื่อว่าไอ้ลูเซียสมันมีศักดิ์ศรีพอไม่ลอบกัดแน่นอน นายไปจัดการตามหาร่องรอยของแพรดาวมาให้ฉันที”“ครับ” ริชาร์ตรับคำแล้วเดินออกไปพอดีกับที่พลอยไพลินเดินเข้ามา“คุณมีอะไรจะใช้ฉันหรือคะ” หญิงสาวกล่าวอย่างอ่อนเพลีย เพลียใจกับเจ้านายอารมณ์แปรปรวนที่ชอบฉีกสัญญาเป็นว่าเล่นอย่างเขานัก“ทำเหมือนเบื่อเลยนะ นี่เธอเพิ่งเริ่มงานได้ไม่ถึงสองวันเลยนะพลอยไพลิน” “เป็นใครก็ต้องเบื่อทั้งนั้นล่ะค่ะ” พลอยไพลินตอบเบา
บทที่10.พลอยไพลินลอบมองชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่พอๆ กับอาเธอร์อย่างชื่นชม ลูเซียส เวอร์เลนติโน่ เป็นชายหนุ่มรูปงามใบหน้าหล่อเหลานั้นขาวสะอาดค่อนข้างคมหวานดวงตายาวใหญ่สีน้ำตาลเข้มนั้นดูมีแววรื่นรมย์อยู่เสมอ จมูกโด่งเป็นสันงดงามรับกับริมฝีปากหยักสวยได้รูปอย่างชายชาตรี เรือนผมสีน้ำตาลเข้มนั้นยาวระบ่ากว้าง โดยรวมแล้วลูเซียสดูเหมือนพวกศิลปินหรือคนทำงานเกี่ยวกับศิลปะมากกว่าเป็นนักธุรกิจหรือมาเฟีย และลูเซียสก็น่าเข้าใกล้มากกว่าคนที่เธอมาด้วยมากมายเลยทีเดียว...“ฉันว่านายน่าจะมองคนอื่นบ้างนะอาร์ คนที่ต้องการของของนายไม่ได้มีแค่ฉันคนเดียว”“แต่ฉันรู้ว่าเธอมาที่นี่”“ใช่... เธอมาที่นี่ แต่ฉันไม่เห็นเธอเลยและไม่ได้เห็นของที่นายตามหาเลยแม้แต่น้อย แต่หากนายอยากให้ฉันช่วยตามก็ขอร้องให้ช่วยดีๆ ก็ได้ไม่ต้องใช้กำลังกับคนของฉันเหมือนหมาลอบกัด” ลูเซียสกล่าวเสียงจริงจังดวงตาสีน้ำตาลเข้มสบมองท้าทายดวงตาสีฟ้าจัดอย่างไม่เกรงกลัว...“ฉันไม่เคยลอบกัดใคร อีกอย่างนายก็น่าจะมองคนอื
บทที่11.“คุณลูเซียสทำร้ายจิตใจคุณหนูโรสอีกแล้วนะคะ”นางกล่าวตำหนิคนที่เป็นทั้งเจ้านายและเป็นเสมือนบุตรชายเพราะนางเลี้ยงดูลูเซียสมาตั้งแต่เด็กๆ“สวัสดีครับป้านิ่ม”อาเธอร์กล่าวทักทายหญิงสูงวัยอย่างเคารพ นับว่าป้านิ่มเป็นผู้หญิงไทยคนเดียวที่เขาให้ความเคารพอย่างไร้อคติ“สวัสดีค่ะคุณอาร์ นี่พวกคุณสองคนยังไม่เลิกทะเลาะกันเหมือนเด็กๆ อีกหรือคะ สามสิบกว่าปีกันแล้วนะคะ ไม่ใช่เด็กๆ อายุสิบสาม อย่าให้ป้ารู้อีกเชียวว่าทะเลาะกันเรื่องไร้สาระเหมือนเดิมอีก” ป้านิ่มคาดโทษ “ครับป้านิ่ม” สองหนุ่มรับคำพร้อมกัน ลูเซียสเข้ามาโอบบ่าของอาเธอร์เหมือนจะยืนยันคำสัญญา อาเธอร์เองก็โอบตอบเช่นกันแต่มือที่ไขว่หลังอยู่ของทั้งสองกำลังซัดกันนัวเนีย ผู้สูงวัยก็ได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอา กับความร้ายกาจของเด็กชายอาเธอร์กับเด็กชายลูเซียส... พลอยไพลินกับรสิตาคุยกันอย่างออกรสเมื่อได้ทำความรู้จักกันแล้ว รสิตารู้สึกถูกชะตากับพี่สาวคนนี้มากๆ แล้วขอเรียกพลอยไพลินว่า พี่ลิลลี่ และยังแอบคาดหวังว่าพลอยไพลินจะรักษาใจด้านชาของพี่ชายได้ สองสาวหย่อนขาลงไปในสระว่ายน้ำใสแจ๋วแกว่งเล่นไปมาอย่างปลอดโปร่งมากขึ้น“น้องโรสดีใจนะคะที่พี่ลิลลี
ตอนที่ 59.อาเธอร์กับพลอยไพลินจดทะเบียนกันก่อนที่เธอจะคลอดและเขาก็ขอเธอว่าจะจัดงานแต่งงานหลังจากที่คลอด เพื่อจะให้ลูกชายได้เข้าฉากถ่ายรูปพร้อมๆ กับพวกเขาด้วย ซึ่งหญิงสาวก็ยินดี และงานนี้พลอยไพลินขอร้องให้เขาจัดเล็กๆ ก็พอ เพราะเธอไม่ต้องการอะไรที่เอิกเกริกใหญ่โต สำหรับพลอยไพลินแล้วแค่มีคนที่เธอรัก และครอบครัวที่อบอุ่น พิธีการต่างๆ ไม่สำคัญเลย และพลอยไพลินเอง ก็พอใจแค่ได้อยู่เคียงข้างเขากับลูกก็พอ...“ขอบคุณนะคะพี่อาร์ที่รักลินกับลูก และมอบของขวัญล้ำค่าให้ลิน แต่แค่มีพี่อาร์กับน้องอลัน ลินก็พอใจแล้วค่ะ”“ถ้าอย่างนั้นก็ขอบคุณพี่อีกครั้งสิจ๊ะลิลลี่จ๋า”ออดอ้อนเสียงหวานนัยน์ตาพราวระยับ แล้วก้าวขึ้นมาบนเตียง ตวัดผ้าห่มออกห่างจากกายสาวอวบอิ่มมีน้ำมีนวลของเธออย่างร้อนรน เพราะอาเธอร์พยายามอดกลั้นตั้งหลายนาที เพื่อจะสวมสร้อยให้เธอ และตอนนี้เขาทนไม่ไหวแล้ว“อุ้ย พี่อาร์นี่ล่ะก็ มันสายแล้วนะคะเดี๋ยวทุกคนจะรอ”“งานเลี้ยงของเราเริ่มตอนเย็นจ้ะที่รัก นี่มันเพิ่งสิบโมงเช้าเรามีเวลาเตรียมตัวอีกนาน คุณพ่อกับริค แล้วก็โจรับหน้าที่ดูแลน้องอลันกับน้องเรนนี่แล้ว เรามาทำน้องให้มาเป็นเพื่อนเล่นกับน้องอลันดีกว
ตอนที่58.“พี่ทำลิลลี่เจ็บเหรอจ๊ะ คนดีอย่าร้องไห้นะ หากลินไม่ อยากให้พี่เข้าใกล้ พี่ไปนอนที่อื่นก็ได้”เขารีบถามเมื่อเงยหน้าขึ้นมาพบว่าเธอกำลังน้ำตาไหลพราก เขารีบมาเช็ดน้ำตาให้เธออย่างอ่อนโยน“หากพี่อาร์ไปนอนที่อื่น ลินจะโกรธและไม่ให้พี่อาร์กลับมาหาพวกเราแม่ลูกอีกเลยคอยดูสิ”“ลิน... ลิลลี่ โอ ที่รักยกโทษให้พี่แล้วใช่มั้ย เย้ ดีใจจังเลย”อาเธอร์ร้องออกมาอย่างยินดี แล้วโผกอดเธออย่างรวดเร็วจูบแก้มซ้ายขวาของคุณแม่คนสวยอย่างแสนรัก จนหญิงสาวต้องผลักอกกว้างออกไปแล้วค้อนเขาอย่างหมั่นไส้“นอนได้แล้วค่ะ ดึกแล้ว”“งั้น พ่อขอนอนกอดหนูได้มั้ยครับลูกพ่อ” ชายหนุ่มกล่าวอย่างเจ้าเล่ห์ ได้คืบจะเอาศอก“ไม่มั้งคะ เพราะคุณแม่ยังไม่หายงอนดีสักเท่าไหร่เลย”“โธ่ พ่อไม่กวนนะครับขอกอดนิดเดียว”อาเธอร์พูดเองเออเอง แล้วล้มตัวลงนอนกอดร่างอวบอิ่ม ที่นอนตะแคงหันหลังให้ด้วยความขัดเขิน แขนแกร่งโอบรอบกายคนตัวอวบอย่างแสนรัก กดจมูกลงบนพวงแก้มนุ่มอีกครั้งก่อนจะค่อยๆ เลื่อนใบหน้าไปหาริมฝีปากนุ่มที่ เผยอค้างอย่างเชิญชวนอย่างไม่อาจหักห้ามใจได้อีกพลอยไพลินเผยอปากรับจุมพิตอ่อนโยนจากเขาโดยดีหัวใจหนุ่มสาวที่แห้งแล้งมานาน พลันช
ตอนที่ 57.“เราออกไปทานข้าวกันได้แล้วค่ะ มิเชลทำอาหารเสร็จแล้ว”มิเชลเดินมาตามทุกคนไปรับประทานอาหารเย็น อาเธอร์ ลูเซียส ไรอัล และรสิตาลุกขึ้นเดินตามมิเชลไป แต่ในขณะที่พลอยไพลินกำลังจะลุกเดินออกไป เสียงคุณอีธานก็ดังขึ้นร้องเรียกเธอเบาๆ “ลิน อยู่คุยกับครูก่อนสิลูก”“ค่ะครู” หญิงสาวรับคำแล้วเดินไปนั่งข้างเตียงของท่าน ส่วนคนอื่นๆ ก็ออกไป แต่อาเธอร์ก็ยังเก้ๆ กังๆ อยากอยู่กับเธอก่อน แต่ลูเซียสกับไรอัลมาดึงเขาออกไปจนได้“ลินคิดอย่างไรกับพี่เขาบ้างล่ะลูก” คุณอีธานเอ่ยถามเมื่ออยู่กันลำพัง“ไม่รู้สิคะ”“ลิน ถามใจตัวเองดีๆ นะลูก ชีวิตคนเรานั้นสั้นนักและครูก็อยากได้ลินมาเป็นสะใภ้ อยากให้หลานของครูเป็นคิงส์โดยสมบูรณ์”“แต่คุณอาร์เคยบอกว่า... เอ่อ...”“สายเลือดของคิงส์จะไม่มีเลือดของผู้หญิงไทยอย่างลินปะปนอยู่” ผู้สูงวัยเอ่ยขึ้น และหญิงสาวก็พยักหน้าช้าๆ อย่างยอมจำนน“แล้วตอนนี้ลินคิดว่าเขายังรู้สึกอย่างนั้นอยู่รึเปล่าล่ะ”“ลินไม่รู้ค่ะ”“อาร์ไม่เคยง้อผู้หญิง และไม่เคยมีความอดทนกับอะไรนานๆ แต่กับลิน อาร์อดทนและยอมรับผิด ลินจะไม่ให้โอกาสเขาหรือลูก อะไรที่ผ่านๆ มาให้มันผ่านไปได้หรือไม่ ลินเองก็รู้ดีว
ตอนที่56.ดวงตาที่เริ่มพร่ามัวของหญิงชราค่อยๆ ปิดลง เมื่อนางได้พูดในสิ่งที่ควรจะพูด พลอยไพลินได้แต่สะอื้นไห้ จนไม่สามารถจะพูดอะไรได้ และเมื่อมือบางของมารดาที่เอื้อมมาลูบใบหน้าเธอด้วยความรักนั้น ทิ้งร่วงลงข้างลำตัว ที่ชุ่มโชกด้วยเลือด พลอยไพลินก็ฟุบหน้าลงกับอกของมารดาด้วยหัวใจที่แตกสลาย...งานศพของแม่ชีเดือนผ่านไปด้วยดี ด้วยความช่วยเหลือของครอบครัววาปีกับคนในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้ แต่เจ้าภาพใหญ่ที่จัดการทุกอย่างและทุกเรื่องนั้นก็คือ หนุ่มฝรั่งตาน้ำข้าวที่ทั้งหล่อและอัธยาศัยดี ที่ชาวบ้านต่างชื่นชม และดูเหมือนว่าชายหนุ่มเองก็ทำตัวตามสบาย และเป็นกันเองกับชาวบ้านทุกคนอย่างที่พลอยไพลินไม่เคยคิดว่า คนที่ถือตัวและค่อนข้างมีอคติกับคนไทยอย่างเขาจะเปลี่ยนไปได้ถึงเพียงนั้น แต่เธอก็ไม่ได้ปักใจเชื่อภาพลักษณ์จอมปลอมที่เขาสร้างขึ้นมา แม้ว่าทุกอย่างที่อาเธอร์ทำนั้น สื่อให้เห็นว่าเขาทำเพื่อเธอก็ตาม และแม้ว่าจะคลายความโศกเศร้าเรื่องมารดาลงบ้างแล้ว แต่เธอก็จะไม่มีวันยอมใจอ่อนกับเขาเด็ดขาด...“ลินจ๋ามาทานข้าวก่อนเร็ว วันนี้พี่อาร์ของลินเขาเข้าครัวทำเองเลยน้า..”วาปีเดินมาหาเพื่อนรักในห้องและพยายามชักชวนให้
ตอนที่55.คริสทิน่าก็เปิดฉากทันที ไม่จำเป็นต้องอารัมภบทมากมายเพราะคาดว่าพลอยไพลินน่าจะรู้ทุกอย่างแล้ว และยิ่งเธอเห็นว่าพลอยไพลินผู้หญิงหน้าตาธรรมดา ที่เมื่อเทียบกับตนแล้ว ความงดงามของพลอยไพลินนั้นเทียบไม่ติดเลยด้วยซ้ำแต่วันนี้คริสทิน่ารู้แล้วว่าความสวยงามของเธอนั้น เป็นรองพลอยไพลินไปทันที เพราะบัดนี้พลอยไพลินดูงดงามเปล่งปลั่งผิวขาวลอออมชมพู มีน้ำมีนวลผ่องใส ไม่เหมือนเธอที่ดูทรุดโทรมและไม่มีความสุข และหากเธอไม่มีความสุข ใครก็อย่าหวังว่าจะมี... หญิงสาวคิดอย่างเห็นแก่ตัว มองคนตรงหน้าตาขวางพร้อมจะทำร้ายทุกคนที่เธอเกลียด ซึ่งคริสทิน่าเกลียดทุกคนที่ทำท่าว่าจะไปได้ดีกว่าเธอ...“เราไม่ได้มีอะไรบาดหมางกัน คุณทำร้ายพวกเราทำไมคะ..” พลอยไพลินถาม เมื่อมองไม่เห็นเหตุผลเลยว่า ทำไมคริสทิน่าต้องจงเกลียดจงชังอะไรพวกเธอนัก“ทำไมจะไม่มี ก็เพราะแกกับพี่สาวร่านๆ ของแกไง ที่เข้ามาขวางทางฉัน หากไม่มีแกสองคน อาร์อาจจะหันมาสนใจฉัน และหากพี่สาวเธอมันไม่ร่าน คิดอยากมีผัวฝรั่งรวยๆ อย่างอาร์ มันก็คงไม่คิดจะกำจัดฉัน อย่าคิดว่าคนอย่างฉันจะโง่รู้ไม่ทันเกมของพวกแกนะ แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เพราะฉันมีแผนที่จะกำจัดมันก่อน
ตอนที่54.“สวัสดีค่ะแม่ชี” หญิงสาววางผลไม้ลงบนม้านั่งหินอ่อนใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงา ซึ่งใกล้กันนั้น แม่ชีเดือน กำลังกวาดใบไม้ที่ร่วงโรยเกลื่อนลานวัดด้วยกิริยาสงบงาม“มาแล้วเหรอลูก ไม่น่าลำบากมาเองเลยให้เด็กๆ ที่บ้านของหนูวาเอามาให้ก็ได้ เดี๋ยวเป็นลมเป็นแล้งไป”“ไม่เป็นไรค่ะ ลินอยากมาหาแม่ชีทุกวันอยู่แล้ว”พลอยไพลินหยิบไม้กวาดมาช่วยแม่ชีกวาดใบไม้อย่างแข็งขัน ใบหน้าผุดผ่องยิ้มละไมเหมือนเคย ใบหน้าที่แม่ชีเคยเมินเฉยไม่ใส่ใจ ที่เคยละเลยมาแสนนาน...“วันนี้ไม่มีสอนหนังสือหรือลูก”“ไม่ค่ะ วันนี้บังเอิญว่าทางโรงเรียนเขาพานักเรียนไปทัศนศึกษา ลินเลยว่างงานตั้งสองวัน เหงาจะแย่ยายวาก็ไปด้วย”หญิงสาวคุยกับมารดาอย่างมีความสุข ตอนนี้เธอรู้สึกปลดปลงอะไรได้เยอะ หลังจากที่ได้รับรู้เรื่องราวเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับพี่สาวเมื่อแรกพบแม่ชีเดือน พลอยไพลินเองก็รู้สึกตกใจเล็กน้อยที่มาพบมารดาอยู่ในวัด ที่ค่อนข้างห่างไกลสังคมเมือง หมู่บ้านเล็กๆ ที่ไม่ได้มีอะไรศิวิไลซ์อย่างที่มารดาเคยชอบ ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่มารดาเคยมี แต่แม่ชีเดือนที่พบในวันนั้น หาใช่คนที่เธอเคยสัมผัสมาทั้งชีวิตมารดาของเธอเปลี่ยนไปจากเดิมมา
ตอนที่53.“ไชโยๆๆ ในที่สุดก็มีเจ้าลูซน้อยแล้ว ฮ่าๆๆ”ลูเซียสร้องอย่างยินดีกระโดดตัวลอย แล้วรีบเข้ามากอดภรรยาคนสวยแน่นแล้วโยกไปมาอย่างแสนรัก ทำให้ทุกคนพลอยหัวเราะดีใจไปกับเขาด้วย“โอ้ยเบาๆ สิคะพี่ลูซ เดี๋ยวลูกตกใจกันพอดี”“น้องโรสมีความลับกับพี่ ต้องได้รับโทษ”“อะไรกัน แค่น้องโรสบอกช้าเท่านั้นเองไม่ได้ปิดบังเสียหน่อย” รสิตาทำเสียงงอนๆ แล้วก็ต้องหน้าแดงเมื่อสบสายตาวาวๆ ของสามี“ไม่รู้ล่ะ น้องโรสต้องไปกับพี่ ไปรับโทษที่ปิดบังผัว ขอตัวนะครับทุกคน”ลูเซียสกล่าวอย่างลิงโลดแล้วอุ้มภรรยาตัวน้อยขึ้นไปบนห้องอย่างรวดเร็ว แต่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนระมัดระวัง ซึ่งรสิตาก็ยอมให้สามีอุ้มไปลงโทษอย่างยินดี... อาเธอร์รู้สึกฉุนเฉียวและโมโหตัวเองที่มัวแต่ทำงาน จนมาไม่ทันที่จะได้พบพลอยไพลิน ทั้งที่เขารีบเคลียร์งานทุกอย่างโดยเร็วเพื่อจะมาหาเธอกับลูก แต่กลายเป็นว่าตอนนี้พลอยไพลินหอบลูกหนีเขาไป โดยที่ไม่มีใครเอะใจเลยว่าเธอจะไป และไม่มีใครคิดว่าอาการนิ่งๆ เฉยๆ และดูปรกติดีของพลอยไพลินนั้นไม่ได้เป็นปรกติอย่างที่คิด“แกดูแลเมียฉันยังไงวะไอ้ลูซ ดูสิเมียฉันหอบลูกหนีไปแล้ว แต่ดูแกสิมีความสุขอยู่พร้อมหน้า แกอิจฉาฉั
ตอนที่52.ก๊อกๆ เสียงประตูดังขึ้นพร้อมกับเสียงร้องเรียกจากพนักงานชาย ที่ใช้ไว้วานไปซื้ออาหารมาให้นั้น ดึงเธอกลับมาสู่ปัจจุบัน ดวงตาสวยคมมองประตูอย่างระแวง แล้วเดินไปมองดูคนที่มาเคาะประตูผ่านช่องตาแมว ก่อนจะเปิดประตูให้พนักงานชายร่างกายกำยำเข้ามา“ขอโทษนะคะที่เปิดช้า พอดีว่าทีน่าหลับไปน่ะค่ะ..”หญิงสาวแสร้งทำเสียงหวาน แล้วขยี้ผมอย่างงัวเงียมองชายหนุ่มผิวคร้ามอย่างยั่วยวน มือเรียวรั้งคอเสื้อให้ต่ำลง จนเห็นเนินอกอิ่มที่ไร้บราห่อหุ้ม ทรวงสาวอวบใหญ่ไหวกระเพื่อมเชิญชวน พนักงานชายวัยฉกรรจ์ตาโตด้วยความตื่นเต้นที่ระงับไม่อยู่ เขาไม่เคยเจอสาวต่างชาติที่สวยสะเด็ดแบบนี้มาก่อนเลย“คะ ครับ ไม่เป็นไร”“ไหนคะซื้ออะไรมาบ้าง..”หญิงสาวเดินเข้าไปใกล้แล้วหยิบของในมือชายหนุ่มออกมา แต่มือเรียวยังคงกุมมือหนาของเขาไว้แล้ว ค่อยๆ ลูบไล้ไปตามต้นแขนกำยำ อีกมือก็ดึงมือของเขามาวางบนเนินอกของตน คริสทิน่าเผยอริมฝีปากอย่างยั่วยวนก่อนจะไล้ลิ้นลงไปบนลำคอแกร่งของพนักงานชาย ที่ยืนตัวสั่นด้วยความรุ่มร้อน...อา... นางฟ้ามาโปรด เขาคิดก่อนจะตอบสนองจุมพิตเร่าร้อนของหญิงสาวแสนสวย โดยไม่รู้ว่าหลังจากที่เริงสวาทกับเธอแล้ว เขาอาจ
ตอนที่ 51.“เธอจะรู้มัยนะลิลลี่ว่าฉันคิดถึงเธอแค่ไหน แต่ก็ยังไปหาเธอไม่ได้ รออีกหน่อยนะ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย แล้วฉันจะรีบไปหาเธอ...” ชายหนุ่มพูดกับตัวเองเบาๆ ด้วยความรู้สึกโหยหาคนไกลอย่างที่สุด...หญิงสาวใบหน้างดงามแต่บัดนี้ดูเศร้าหมองทรุดโทรมเพราะความคลุ้มคลั่งกำลังนั่งเหม่อลอย อย่างไม่สนใจสิ่งรอบข้างในห้องเล็กๆ สีขาวสะอาด และเธอก็นั่งเหม่ออยู่อย่างนี้มาทั้งวัน บางครั้งก็กรีดร้องด้วยความเจ็บปวดหวาดกลัว พูดพร่ำไปต่างๆ นานาจนฟังไม่ได้ศัพท์ แต่หมอและพยาบาลที่รู้ความเป็นมาของเธอก็ได้แต่เฝ้าเอาใจช่วย และพยายามรักษาบำบัดจิตใจของหญิงสาวให้เป็นปรกติหญิงวัยกลางคนซึ่งแต่งกายซอมซ่อผมเผ้าค่อนข้างยุ่งเหยิง แขนผอมๆ ใส่เฝือกสีขาวมอๆ มีเชือกคล้องคอยึดแขนข้างนั้นไว้ยืนมองหญิงสาวที่นั่งน้ำตาไหลพราก ริมฝีปากขมุบขมิบพร่ำเพ้อด้วยความเสียใจสุดซึ้ง ดวงตาฝ้าฟางไปตามวัย เต็มไปด้วยหยาดน้ำตาแห่งความอาดูร หากนางไม่รักลูกผิดๆ แพรดาวก็คงไม่ตกมาอยู่ในสภาพนี้ และนางก็คงไม่เจ็บตัว จนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด...ในคืนวันนั้นคริสทิน่านัดแพรดาวออกไปพบ บอกว่าจะให้รางวัลที่สามารถกำจัดพลอยไพลินออกไปได้ และมีแผนการจะทำให้อา