ดวงตางามภายใต้ขนตางามงอนค่อยๆ กระพือขึ้นช้าๆ แล้วหลับลงไปอีกครั้ง เมื่อแสงจ้ารอบกายทำให้รู้สึกแสบตาจนลืมตาไม่ขึ้น พลอยไพลินพยายามลืมตาขึ้นอีกครั้ง แล้วก็ต้องเบิกตากว้างอย่างตื่นตระหนก... เธออยู่ในห้องที่แสนจะหรูหรา เพดานห้องประดับด้วยโคมไฟระย้างดงาม ผนังห้องสีน้ำตาลอ่อนๆ เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นจะออกโทนน้ำตาล ข้าวของทุกชิ้นในห้องนี้ล้วนแล้วแต่ราคาแพงลิบลิ่ว ซึ่งเธอคงไม่มีโอกาสได้ใช้ของแพงๆ เหล่านี้ และโทนสีอบอุ่นนั้นก็ไม่ได้ช่วยให้ความหวาดกลัวของเธอลดลง
เธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ครั้งสุดท้ายที่รู้สึกตัวเธอกำลังคุยอยู่กับแพรดาวเรื่องจะไปทำธุระจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ที่เดือนนี้พี่สาวของเธอใจดีเป็นคนออกเงินเอง สุดท้ายเธอก็ถูกพี่สาวหลอกไปให้ผู้ชายผมทองคนนั้นปู้ยี่ปู้ยำ แค่คิดน้ำตาก็ไหลอาบแก้ม...
“โอ๊ย อูย... เจ็บไปหมดทั้งตัวเลย...” พลอยไพลินพยายามยันกายจากที่นอนอย่างยากลำบาก เมื่อความเจ็บแปลบแล่นไปทั้งร่าง ความหวาดกลัวว่าตนเองจะถูกย่ำยีก็ลดลงไปด้วย เมื่อเธอสวมใส่เสื้อผ้าอยู่ นั่นคือเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งแม้มันจะมีเพียงแค่ชิ้นเดียวบนร่างกาย แต่ทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจอย่างประหลาด และเธอก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดตรงบริเวณนั้นด้วย...
“ฟื้นแล้วเหรอ..”
เสียงห้าวทุ้มด้วยภาษาอังกฤษชัดเจนทำให้พลอยไพลินหันไปมองทันที ใบหน้าเขียวช้ำซีดลงเมื่อเห็นคนที่เดินเข้ามาในห้อง ใบหน้าที่เรียบเฉยเต็มไปด้วยหนวดเครารกครึ้มกับเรือนร่างสูงใหญ่ดูน่าเกรงขาม และแววตาของเขาก็น่ากลัวยิ่งนัก เขาคงไม่ได้เป็นคนที่พาเธอมาที่นี่หรอกนะ หรือบางทีเขาก็อาจเป็นพลเมืองดีก็ได้... พลอยไพลินคิดไปต่างๆ นานา มองคนตัวโตตรงหน้าอย่างหวาดระแวง
“พูดภาษาอังกฤษได้มั้ย”
เขาถามซ้ำแล้วเดินเข้ามาใกล้พลอยไพลินขยับกายชิดหัวเตียง ดึงผ้าห่มมาคลุมกายเหมือนมันจะสามารถปกป้องเธอจากชายคนนี้ได้กระนั้น อาเธอร์มองหญิงสาวที่พยักหน้าช้าๆ อย่างนึกเหยียดๆ ว่าผู้หญิงหน้าตาจืดๆ บ้านๆ เหมือนสาวบ้านนอกมากกว่าสาวเมืองกรุงพูดภาษาอังกฤษได้ด้วยหรือ
“ค่ะ ฉันพูดได้” พลอยไพลินตอบไปตามความจริง ซึ่งจริงๆ แล้ว เธอสามารถพูดภาษาอังกฤษได้เก่งและดีกว่าแพรดาวที่พยายามจะพูดเพื่อสื่อสารกับหนุ่มต่างชาติ เพราะอยากได้สามีฝรั่งรวยๆ เพราะสมัยที่เธอเรียนอยู่นั้นอาจารย์ที่สอนวิชาภาษาอังกฤษนั้นเอ็นดูเธอ และสอนภาษาให้ฟรีโดยไม่ต้องไปร่ำเรียนให้เปลืองเงิน จนเธอสามารถพูดได้คล่องสื่อสารได้ทั้งพูดและเขียน ซึ่งชื่อของอาจารย์คนนั้น เธอก็ยังคงจำได้ดีไม่มีลืม แม้จะไม่ได้เจอท่านมาเกือบห้าปีแล้วก็ตาม
“ดี งั้นตอบฉันมาว่าเธอรู้อะไรบ้าง”
พลอยไพลินงงกับคำถามของเขานัก อะไรคือ รู้อะไรบ้าง เธอจะไปรู้อะไรล่ะนอกจากโดนพี่สาวหลอกมาขาย หญิงสาวมองเขาอย่างงงๆ และไม่รู้จะตอบอย่างไรกับคำถามนั้นดี
“ไม่รู้ค่ะ... ลิน เอ่อ ฉันไม่รู้ ว่าคุณหมายถึงอะไร”
“พลอยไพลิน พรเกษม อายุยี่สิบสามปี อาชีพค้าขาย สถานะโสด จบการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงจากโรงเรียนพาณิชยการ... อ้อ เคยทำงานในโรงแรมของคิงส์คอปอเรชั่น หลังเรียนจบอยู่หนึ่งปีก่อนจะลาออกไปขายขนม... พี่สาวชื่อแพรดาว อยากได้ผัวฝรั่งมาก จนหลวมตัวเสียท่าให้ไอ้ดอนและคิดขายน้องสาวให้มันด้วย... ไม่มีอะไรที่ฉันไม่รู้ถ้าฉันอยากจะรู้ แล้วเธอล่ะรู้อะไรบ้าง”
อาเธอร์พูดเรื่อยๆ เหมือนกำลังพูดเรื่องดินฟ้าอากาศ แต่มันทำให้คนฟังหน้าซีดลง เพราะนึกกลัวเขา ผู้ชายคนนี้เป็นใคร...
“คุณ... เป็นใคร”
“เป็นคนที่กุมชะตาชีวิตเธอไง ฉันช่วยเธอออกมาจากการโดนไอ้ดอนมันข่มขืน และเธอก็เป็นหนี้ชีวิตฉัน ที่สำคัญฉันรู้มาว่ามันใช้พี่สาวเธอไปส่งของสำคัญ ซึ่งมันเป็นของของฉัน...”
“ไม่เห็นจะเกี่ยวกับฉันเลยนี่คะ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร”
“เกี่ยวสิ เพราะเธอต้องรู้ว่าพี่สาวของเธอติดต่อกับใครบ้างและไปหลบอยู่ที่ไหน เพราะตอนนี้ที่บ้านมีเพียงแม่ของเธออยู่คนเดียว และฉันก็เฝ้าแม่ของเธอไว้ทุกฝีก้าว หากพวกเธอตุกติก แม่ของเธอคือคนที่จะรับผลทั้งหมด” เขาพูดอย่างเลือดเย็น
“คุณเป็นพวกค้ามนุษย์เหมือนไอ้คนสารเลวนั้นใช่มั้ย เลวที่สุดเลย”
พลอยไพลินเอ่ยอออกมาอย่างอัดอั้น เมื่อเธอไม่รู้อะไรเลยว่าตนเองกำลังเจอกับอะไร และใคร เพราะเมื่อฟื้นขึ้นมาเธอก็เจอเขาผู้ชายที่มีหนวดเคราครึ้มดุดันน่ากลัว ที่สำคัญเธอจำได้ลางๆ ว่าเขายิงดอนจนนอนจมกองเลือด แล้วยังยัดเยียดข้อหาต่างๆ มากมายให้เธออีกด้วย...
“เอาไว้เธอจะรู้ว่าฉันสามารถเป็นได้มากกว่านั้น เอาล่ะลุกขึ้นได้แล้ว รีบจัดการธุระส่วนตัวซะ ออกไปทานข้าวแล้วเธอจะได้รู้ว่าจะต้องทำอะไรบ้าง...”
ชายหนุ่มบอกเธอเสร็จสรรพแล้วก็เดินออกไป ทำให้พลอยไพลินมองตามอย่างไม่เข้าใจ
นี่มันอะไรกัน มัดมือชกชัดๆ บ้าไปแล้ว...
หลังจากอาบน้ำทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว พลอยไพลินก็ออกมาหาเสื้อผ้าชุดใหม่ มาใส่แทนชุดเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งที่เธอสวมอยู่ก่อนหน้านี้ แล้วก็ต้องตาโตกับชุดสวยที่วางพาดอยู่บนเตียง มือบางลูบเนื้อผ้านั้นอย่างไม่อยากเชื่อว่าเธอจะมีโอกาสสวมใส่เสื้อผ้าสวยๆ แบบนี้ แล้วพลอยไพลินก็ต้องหน้าแดงก่ำเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ข้างๆ กัน นั่นคือชุดชั้นในขนาดเท่ากับที่เธอใส่อยู่พอดี...
“หึ คงรวยน่าดูสินะ ดูสิยี่ห้อดังเสียด้วยไม่รู้เป็นบุญหรือเวรกรรมนะยายลิน...” หญิงสาวบ่นเบาๆ กับตัวเองแล้วรีบสวมใส่ชุดสวยทันที และทันทีที่เธอสวมเสื้อเสร็จเสียงประตูห้องก็ดังขึ้นพร้อมด้วยเสียงร้องเรียกของคน ที่ยังไม่รู้จักแม้แต่ชื่อของเขาแต่เธอกลับจำน้ำเสียงเขาได้ขึ้นใจ
“เธอแต่งตัวเสร็จแล้วใช่มั้ย” เขาถามเสียงห้วนพลอยไพลินพยักหน้าช้าๆ
“ดี งั้นตามฉันมา” เขาสั่งอีกเช่นเคย... ตั้งแต่เจอหน้า เขาก็สั่งๆ อย่างเดียวจริงๆ พลอยไพลินแอบแลบลิ้นใส่แผ่นหลังกว้างของคนตัวโต ซึ่งเดินนำหน้าไปอย่างหมั่นไส้เหลือแสน แล้วเดินตามเขาไปเงียบๆ
บทที่4.หญิงสาวมองกระดาษในมืออย่างไม่เข้าใจว่าทำไมเธอต้องลงชื่อในสิ่งที่เรียกว่า สัญญา กับเขาด้วยอาเธอร์ คิงส์ ในที่สุดเธอก็รู้จักชื่อของเขา แต่ชื่อนี้เธอเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนนะ แต่เธอไม่เข้าใจว่าเธอตกเป็นเชลยของเขาได้อย่างไร ซ้ำอาเธอร์ยังทำท่าราวกับเธอคือตัวอะไรสักอย่างที่น่ารังเกียจ สายตาของเขาที่มองมา มันไม่เป็นมิตร และเธอรู้สึกได้ถึงความเกลียดชังเขาเกลียดเธอหรือ เกลียดด้วยเรื่องอะไรล่ะ เธอไปทำอะไรให้เขา... พลอยไพลินคิดอย่างวิตกและอยากรู้“ในสัญญานั้นจะทำให้เธออยู่ในสายตาฉัน และยังได้เงินเดือนอีกด้วยแค่ช่วยฉันตามหาพี่สาวเธอ”“แต่ฉันไม่ต้องการ ฉันแค่อยากกลับบ้าน คุณยิ่งใหญ่ขนาดนั้นแค่พี่สาวฉันคนเดียว คุณก็คงจัดการได้ ปล่อยฉันไปเถอะนะคะ ฉันไม่รู้อะไรเลยจริงๆ”หญิงสาวบอกเขาอย่างไม่พอใจเล็กน้อย แต่ก็พยายามเก็บอาการอย่างที่สุด ตอนนี้เธออยู่ในถิ่นของคนที่เรียกได้ว่าเข้าใกล้คำว่ามาเฟียมาก ดูสิลูกน้องเขาเต็มบ้านหน้าตาไม่ยินดียินร้ายกับใคร และทุกคนก็มองเธอด้วยความเฉยเมย เหมือนเธอไม่มีตัวตน ดวงตากลมโตกวาดมองรอบๆ บ้านหลังงาม ที่นึกนิยมในใจว่ามันงดงามน่าอยู่ ร่มรื่นติดภูเขาและทะเล แต่คนที่นี
บทที่5.หญิงสาวบ่นกับตัวเอง เธอไม่ได้โง่พอที่จะไม่เข้าใจความหมายในแววตาของเขา ผู้หญิงไทยก็คงเป็นโสเภณีในสายตาของเขาสินะ อาเธอร์จึงได้มองเธอด้วยแววตาเหยียดหยันอยู่เสมอ... และนี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่เธอด่าใครสักคน หญิงสาวยันกายลุกขึ้น สูดลมหายใจลึกๆ บอกตัวเองให้พร้อมเผชิญกับทุกสิ่ง...ในขณะที่คนตัวเล็กกำลังทำอาหารอยู่ในครัว จนกลิ่นอาหารหอมฟุ้งไปทั้งบ้านหลังงาม ทำให้ทุกคนซึ่งอยู่ในที่แห่งนี้หันมองไปตามกลิ่นและเห็นร่างเล็กๆ ของพลอยไพลินกำลังทำอาหารอยู่ในครัวหรู ซึ่งพวกเขาทำได้แค่มอง ผู้หญิงของเจ้านาย ที่กำลังทำอาหารเงียบๆ ริชาร์ตมองร่างบางผ่านกระจกใสอย่างครุ่นคิด พลางเหลือบสายตาไปยังห้องนอนของเจ้านายหนุ่ม“พวกแกไปทำงานได้แล้วไป ส่งคนของเราไปดูความเคลื่อนไหวของคุณลูเซียส แล้วแกสามคนไปดูลาดเลาที่คาสิโนที่ไอ้ดอนมันเข้าออกบ่อยๆ ส่วนแกไปตามดูที่บ้านของคุณพลอยไพลินว่าพี่สาวของเธอติดต่อกลับมาบ้างมั้ย”ชายหนุ่มสั่งงานแทนเจ้านายอย่างรู้หน้าที่ บรรดาชายหนุ่มวัยฉกรรจ์ ซึ่งเป็นลูกน้องฝีมือดีของอาเธอร์รับคำอย่างเสียดายเล็กน้อย ที่จะไม่ได้อยู่รับประทานอาหารกลิ่นหอมฟุ้งนั้น ใช่ว่าพวกเขาจะเห็นแก่กิน แต่กล
บทที่6.“อืม จริงสินะ ถ้าอย่างนั้น ฉันมีข้อแลกกับการไปจากที่นี่” อาเธอร์บอกอย่างใจดี ซ่อนความเจ้าเล่ห์ร้ายกาจไว้มิดชิด ชนิดที่ว่าพลอยไพลิน ไม่มีโอกาสได้รู้หรือตามเขาทันแน่นอน“ยังไงคะ” พลอยไพลินถามอย่างตื่นเต้น แต่เมื่อเขาหันมาเผชิญหน้า ความตื่นเต้นของเธอลดลงครึ่งต่อครึ่งอย่างช่วยไม่ได้ ไม่รู้ทำไมแววตาของเขาทำให้รู้สึกหวิวๆ เหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจ...“ก็แค่ทำงานเป็นแม่บ้านให้ฉันสักเดือน ทำทุกอย่าง... เมื่อได้เงินเดือนเธอก็สามารถกลับบ้านได้ เธอคงไม่คิดว่าฉันจะใจดีส่งเธอกลับบ้านเฉยๆ หรอกนะ ฉันเป็นนักธุรกิจนะ อีกอย่างฉันก็ไม่รู้ว่าเธอจะปากโป้ง เรื่องที่ฉันยิงไอ้ดอนมันรึเปล่า ดังนั้นหนึ่งเดือนเธออยู่ที่นี่ เป็นแม่บ้านให้ฉัน”“แต่ฉันทำสัญญากับคุณไปแล้วนี่คะ สัญญาที่ฉันจะทำหน้าที่ติดตามหาพี่สาวฉัน”“ฉันฉีกมันทิ้งไปแล้ว อย่าลืมสิฉันเป็นคนที่มีอำนาจยกเลิกสัญญาเมื่อไหร่ก็ได้นะ ฉันทำสัญญาและหน้าที่ใหม่ให้เธอแล้วเพราะฉันเพิ่งเก็บคำพูดเธอไปคิดว่า ถึงไม่มีเธอฉันก็ตามหาแพรดาวได้ ฉันเห็นตามนั้นเลยล่ะ... ตกลงจะเอาไง”เขาถามเสียงเข้มจ้องหน้าอ่อนใสนั้นอย่างคาดคั้นและเหนือกว่า รู้อยู่แล้วว่าพลอยไพลิน
บทที่7.อาเธอร์คิดอย่างกระหยิ่มใจ พลางจูบไซ้ซอกซอนหาความหวานจากโพรงปากนุ่ม ที่หวานล้ำอย่างที่เขาไม่เคยสัมผัสได้จากหญิงสาวคนไหนมาก่อน พลอยไพลินทำให้เขาอยากจะจูบ อยากจะลูบไล้เรือนกายงามของเธอได้โดยที่ไม่ต้องยั่วยวนเขาสักนิด และพลอยไพลินเป็นหญิงไทยคนแรก ที่เขาจูบเธอเสียด้วยริมฝีปากร้อนผ่าวจูบซับความหวานจากปากสาวอย่างหิวกระหายค่อยๆ ไล้ละเรื่อยมายังแก้มแดงจัด และใบหูบางที่แดงไม่แพ้กัน ก่อนจะจูบไซ้ลงมาที่ซอกคอขาวผ่องขบเม้มเล่นทั้งดอมดมกลิ่นเนื้อสาวเข้าปอดอย่างพอใจ ริมฝีปากร้ายร้อนระอุไม่หยุดเท่านั้น แต่กำลังเลื่อนต่ำลงมายังร่องอกอวบอิ่มที่ซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อชีฟองลายสวยแขนกุดเผยไหล่มนผุดผ่อง ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนทรวงสาวจะเบ่งบานรอคอยบางอย่าง ยอดอกเครียดคัดไหวระริกอยู่ใต้บราเซียตัวสวยยั่วให้ดูดดึงดื่มกินยิ่งนัก...“เธอหวานเหลือเกินพลอยไพลิน หวานอย่างไม่น่าเชื่อ...” อาเธอร์ ครางเหมือนเพ้อละเมอไม่รู้ตัว ในขณะผ่อนร่างอ่อนระทวยของหญิงสาวลงบนโซฟาตัวใหญ่ แล้ววกกลับมาจุมพิตริมฝีปากแดงปลั่งอย่างเร่าร้อนอีกครั้ง มือร้อนระอุราวเปลวไฟลูบไล้สอดซุกเข้าไปในชายเสื้อตัวบาง เสาะหาสิ่งที่เขาปรารถนาจะจับต้อง และเ
บทที่8.“ลินจ๋า ช่วยฉันหน่อย ฉันต้องการให้เธอช่วย...”น้ำเสียงนั้นฟังดูออดอ้อนนัก จนคนฟังหัวใจละลายและพลอยไพลินก็ไม่อยากเชื่อเลยว่าอาเธอร์จะพูดอย่างนั้นกับตน ก็เพราะท่าทางของเขาก่อนหน้านี้ มันไม่ใช่แบบนี้นี่นา หญิงสาวคิดในใจ แต่ความคิดของเธอก็ต้องติดๆ ขัดๆ นึกอะไรไม่ค่อยออกเสียด้วยสิ “ชะ ช่วย อะไรคะ... ลิน หนาว...”พลอยไพลินพูดตะกุกตะกักไม่เข้าใจที่เขาพูด และพยายามจะดึงมือหนี และลุกขึ้นหาผ้ามาสวมใส่ เธออายเหลือเกินที่นั่งเปลือยเปล่าต่อหน้าเขาแบบนี้ แล้วตอนนี้เธอก็รู้สึกหนาวขึ้นมาจับใจ พลอยไพลินมองเขายังซึ่งสวมเสื้อผ้าครบชุด มีเพียงตรงกลางร่างแกร่งเท่านั้นที่เขาปลดกระดุมกางเกงยีนจนหมดแถวพร้อมกับปลดปล่อยบางสิ่งออกมาให้เธอกอบกุมอยู่ในตอนนี้...“ทำแบบนี้ที่รัก... อา นั่นล่ะ ใช่แล้วดีมาก” อาเธอร์ครางออกมาอย่างอ่อนหวาน ขยับมือหนาของตนสอนสั่งให้เธอทำตามซ้ำนักเรียนหน้าใสก็ยังทำได้ดีเกินคาด แม้จะยังกล้าๆ กลัวๆ ทั้งเคอะเขินในสิ่งที่กำลังทำอยู่ ชายหนุ่มหลับตาลงอย่างซ่านใจเมื่อเขาไม่จำเป็นต้องชักนำมือน้อยแล้ว เสียงครางแหบห้าวหนักหน่วงจึงดังขึ้นในเวลาต่อมา พร้อมกับการได้ปลดปล่อยความอัดอั้นจากเพลิ
บทที่9.“นายบอกว่าไอ้ลูเซียสมันท้าให้ฉันไปหามันที่บ้านเหรอ”“ครับคุณลูเซียสบอกว่าหากคุณอาร์มีอะไรข้องใจให้ไปพบที่บ้านได้เลย ตอนนี้เขามาเมืองไทยพอดี” ริชาร์ตรายงานความคืบหน้าเรื่องที่เขาตามอยู่ซึ่ง ลูเซียส เวอร์เลนติโน นักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อชาวอิตาเลี่ยนทายาทอดีตมาเฟียใหญ่ซึ่ง เวอร์เลนติโน นั้นเป็นตระกูลเก่าแก่และร่ำรวยที่สุดในอิตาลีด้วยและลูเซียสก็เป็นหนึ่งในหนุ่มหล่อผู้ร่ำรวยและทรงอิทธิพอๆ กับอาเธอร์“ดี งั้นฉันจะไปตามคำท้า” อาเธอร์กล่าวเสียงเข้มดวงตาคมกล้าทอดมองไปนอกหน้าต่างซึ่งภายนอกนั้นมืดมิด ดวงดาวนับล้านสิ่งแสงระยิบเต็มท้องฟ้า“ให้ผมเตรียมอาวุธพร้อมเลยมั้ยครับ”“ไม่ต้อง ฉันจะไปแต่ตัว ฉันเชื่อว่าไอ้ลูเซียสมันมีศักดิ์ศรีพอไม่ลอบกัดแน่นอน นายไปจัดการตามหาร่องรอยของแพรดาวมาให้ฉันที”“ครับ” ริชาร์ตรับคำแล้วเดินออกไปพอดีกับที่พลอยไพลินเดินเข้ามา“คุณมีอะไรจะใช้ฉันหรือคะ” หญิงสาวกล่าวอย่างอ่อนเพลีย เพลียใจกับเจ้านายอารมณ์แปรปรวนที่ชอบฉีกสัญญาเป็นว่าเล่นอย่างเขานัก“ทำเหมือนเบื่อเลยนะ นี่เธอเพิ่งเริ่มงานได้ไม่ถึงสองวันเลยนะพลอยไพลิน” “เป็นใครก็ต้องเบื่อทั้งนั้นล่ะค่ะ” พลอยไพลินตอบเบา
บทที่10.พลอยไพลินลอบมองชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่พอๆ กับอาเธอร์อย่างชื่นชม ลูเซียส เวอร์เลนติโน่ เป็นชายหนุ่มรูปงามใบหน้าหล่อเหลานั้นขาวสะอาดค่อนข้างคมหวานดวงตายาวใหญ่สีน้ำตาลเข้มนั้นดูมีแววรื่นรมย์อยู่เสมอ จมูกโด่งเป็นสันงดงามรับกับริมฝีปากหยักสวยได้รูปอย่างชายชาตรี เรือนผมสีน้ำตาลเข้มนั้นยาวระบ่ากว้าง โดยรวมแล้วลูเซียสดูเหมือนพวกศิลปินหรือคนทำงานเกี่ยวกับศิลปะมากกว่าเป็นนักธุรกิจหรือมาเฟีย และลูเซียสก็น่าเข้าใกล้มากกว่าคนที่เธอมาด้วยมากมายเลยทีเดียว...“ฉันว่านายน่าจะมองคนอื่นบ้างนะอาร์ คนที่ต้องการของของนายไม่ได้มีแค่ฉันคนเดียว”“แต่ฉันรู้ว่าเธอมาที่นี่”“ใช่... เธอมาที่นี่ แต่ฉันไม่เห็นเธอเลยและไม่ได้เห็นของที่นายตามหาเลยแม้แต่น้อย แต่หากนายอยากให้ฉันช่วยตามก็ขอร้องให้ช่วยดีๆ ก็ได้ไม่ต้องใช้กำลังกับคนของฉันเหมือนหมาลอบกัด” ลูเซียสกล่าวเสียงจริงจังดวงตาสีน้ำตาลเข้มสบมองท้าทายดวงตาสีฟ้าจัดอย่างไม่เกรงกลัว...“ฉันไม่เคยลอบกัดใคร อีกอย่างนายก็น่าจะมองคนอื
บทนำ“ลูกดาวจ๊ะ ลูกต้องจำไว้นะลูกต้องมีผัวฝรั่งเหมือนบ้านนั้นเห็นมั้ย เขามีผัวฝรั่งกลับมาร่ำรวยฟู่ฟ่า ดูนังแมวสิพอลูกสาวมันได้ผัวฝรั่งกลับมาร่ำรวย มันก็คุ้ยฟุ้งไปทั้งหมู่บ้าน แม่ล่ะหมั่นไส้มันนัก หาผัวฝรั่งรวยๆ นะลูกดาว แม่จะได้สบายรู้มั้ย” “ค่ะแม่ แล้วดาวจะหาผัวฝรั่งรวยๆ นะแม่นะ แต่ว่าตอนนี้ดาวขอเงินไปเรียนภาษาไปก่อนได้มั้ยคะแม่ขา อีกอย่างดาวจะไปจ่ายค่าเนตด้วย คืนนี้ดาวจะแชทคุยกับคุณดอนให้ฉ่ำใจไปเลย...”แพรดาว หญิงสาววัยยี่สิบห้าใบหน้าสะสวยหาตัวจับยาก เรือนร่างสูงระหงทว่าอวบอิ่มอกเป็นอก เอวเป็นเอว สะโพกเป็นสะโพก อย่างที่ทำให้ชายหนุ่มมองกันเหลียวหลัง ผิวสีน้ำผึ้งเปล่งปลั่งอีกทั้งการแต่งกายที่เปิดเผยสัดส่วนอวบอิ่มของเธอก็ทำให้แพรดาวดูสวยเย้ายวนมากขึ้น หญิงสาวเอ่ยออดอ้อน นางเดือน ผู้เป็นมารดาซึ่งอยู่ในวัยสี่สิบปลายๆ แต่นางยังคงสวยพริ้งเพราเพราะชอบแต่งตัวและดูแลตัวเองดีมาเสมอ“ได้เลยค่ะ ดาวลูกรักของแม่” เรื่องสนับสนุนลูกให้หา สามีฝรั่งรวยๆ นี่นางสนับสนุนเต็มที่“ขอบคุณค่ะแม่ขา แม่ช่างเป็นแม่ที่ทั้งสวยและใจดีมากๆ เลยค่ะ”แพรดาวเสียงหวานเอาอกเอาใจ ริมฝีปากที่ทาลิปสติกสีแดงจัดจ้านย