1
ความสูญเสีย
“มาวิน วันนี้ไข่มุกไม่มาเรียนอีกแล้วเหรอ” อลิสถามถึงเพื่อนรักด้วยความเป็นห่วง
“ไม่มาอีกแล้วล่ะมั้ง นี่ก็สายมากแล้ว เดือนนี้ทั้งเดือน เห็นไข่มุกเอาแต่เงียบ ถามอะไรก็ไม่อยากจะคุย ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าเป็นอะไร ”
มาวินเริ่มรู้สึกหงุดหงิด กับการที่ไข่มุก อยู่ดีๆก็เปลี่ยนไป จากสาวน้อยสดใส พูดเก่ง กลายเป็นคนเงียบ แววตาเศร้าตลอดเวลา แต่ยิ่งเงียบ ก็ยิ่งไม่มีเพื่อนคนไหนกล้าถาม
“ไข่มุกมันจะทะเลาะกับพี่ตะวันหรือเปล่าวะ ถึงได้เปลี่ยนไปเป็นคนนิ่งเงียบแบบนี้”
ไข่มุกเล่าให้เพื่อนๆของเธอฟังว่า เธอกับพี่ตะวันซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยและเป็นนายแบบชื่อดัง ทั้งคู่แอบคบหากันอยู่ แต่ก็ยังไม่มีใครเคยเห็นทั้งคู่ไปไหนมาไหนด้วยกัน นอกจากเห็นจากภาพถ่ายในโทรศัพท์ของไข่มุก ที่เธอชอบจะเอามาให้เพื่อนได้ดูกันเสมอ
ตะวันขอร้องให้ไข่มุกเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ เพราะกลัวมีผลต่อเรื่องาน อาจจะเป็นเพราะเหตุผลนี้ เพื่อนๆถึงไม่เคยมีโอกาสเจอทั้งคู่พร้อมกัน
คำบอกเล่าเหตุผลที่ไข่มุกบอกกับมาวินและอลิส เวลาที่ทั้งคู่ถาม ว่าทำไมถึงไม่เคยเห็นตะวันมาหาไข่มุกบ้างเลย ทั้งที่อยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน
“ทะเลาะเหรอ ไม่เคยเห็นเล่าว่าทะเลาะกันเลยนะ ทุกวันเราก็ได้ยินแต่เรื่องที่พี่ตะวัน ทำนู่นนั่นนี่ให้เพื่อนเรา มีแต่หวานกันจะตายไป”
มาวินคิดว่าไม่น่าจะใช่เรื่องทะเลาะกับตะวัน เพราะเพื่อนเคยแต่เล่า ว่ารุ่นพี่รักและคอยเอาใจเธอแค่ไหน
“ไลน์ไปถาม ก็อ่านแต่ไม่ยอมตอบ หรือเราจะไปหาที่บ้านกันเลยไหม”
อลิสอยากไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนกันแน่ ไม่อยากต้องมานั่งคาดเดาไปทั่วแบบนี้
“ไม่เอาหรอก จำไม่ได้หรือไงอลิส ไข่มุกเคยบอกไว้ ว่าที่บ้านของเธอไม่ชอบการที่มีเพื่อนไปหาที่บ้าน ถ้าเราไป แล้วเกิดทำให้ไข่มุกโดนดุขึ้นมา เพื่อนจะพาลมาโกรธเราเอานะ”
มาวินเตือนความจำให้เพื่อน ชายหนุ่มรู้ว่าอลิสเป็นห่วงไข่มุกมากแค่ไหน เพราะทั้งสองคนเป็นเพื่อนที่รักกันมาก แต่เขาก็ไม่อยากให้ความเป็นห่วงทำให้ไข่มุกต้องเดือดร้อน
“เออ...ใช่ ถ้าเราไปมีหวัง ไข่มุกโดนดุแน่ๆ ถ้าอย่างนั้น เราก็คงทำได้แค่รอ รอให้เพื่อนเราติดต่อมาเองเท่านั้น เฮ้อ...ไม่สบายใจเลย”
อลิสเกิดในครอบครัวที่มีฐานะยากจน เธอสามารถเข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยได้ เพราะความขยัน สมองดี หน้าตาเพราะเธอเป็นลูกครึ่งไทยเยอรมัน และที่สำคัญคือเธอมีเสียงที่ไพเราะ จนมีอาชีพเสริมเป็นนักร้อง ตามงาน ทำให้อลิสพอมีเงินมาใช้จ่ายค่าเล่าเรียน
ความลำบากของหญิงสาว ค่อยๆน้อยลง เมื่อไข่มุกยื่นมือเข้ามาช่วย ไม่ว่าจะเป็นการให้ยืมคอมพิวเตอร์ หางานรับจ้าง จากบริษัทของบิดามาให้ทำ หยิบยื่นเงินให้ยืมทุกครั้งที่อลิสมีปัญหา
ค่าเทอมที่เพิ่งจ่ายไป ไข่มุกก็เป็นหยิบยื่นให้อลิสยืมไปจ่ายก่อน ความดี ความมีน้ำใจของไข่มุก ทำให้สำหรับอลิสแล้ว เพื่อนคนนี้เป็นมากกว่าเพื่อน เพราะไข่มุกเป็นคนที่มีบุญคุณกับเธอ ช่วยให้เธอสามารถมีวันนี้ได้
“คิดในแง่ดีเข้าไว้ ไข่มุกอาจจะแค่ มีเรื่องเครียดแบบส่วนตัว ที่ไม่อยากให้คนอื่นรู้ อย่าคิดมากสิอลิส เรารู้ว่าไข่มุกเป็นเพื่อนที่เธอรักที่สุด และเราก็รู้ว่าไข่มุกก็รักเธอมากเหมือนกัน แต่อย่ามองโลกในแง่ร้าย เพราะถึงเธอทั้งคู่จะสนิทกันแค่ไหน แต่ก็ไม่ใช่ทุกเรื่องหรอก ที่ไข่มุกจะเล่าให้เธอฟัง คนเราก็ต้องมีคำว่าส่วนตัวบ้าง”
มาวินรับรู้เรื่องราว ในชีวิตของอลิสมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของครอบครัว ที่หญิงสาวเกิดมาในครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยว พ่อของเธอเป็นเพียงนักท่องเที่ยว ที่มาเที่ยวที่เมืองไทย และเกิดมีความสัมพันธ์กับแม่ของเธอ
แม่ของอลิสทำงานในสถานบันเทิง ย่านพัทยา แต่พอท้อง มณีแม่ของอลิส ก็หันหลังให้กับอาชีพเดิม และมาทำงานก่อสร้างแทน
บิดาของหญิงสาวเดินทางกลับไปยังประเทศเยอรมันโดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า มณีกำลังตั้งท้อง มารดาของเธอตั้งใจที่จะเลี้ยงลูกสาวคนเดียวของเธอให้ดีที่สุด แต่ดีที่สุดของคนที่ทำงานเพียงแค่รับจ้างก่อสร้างไปวันๆ มณีก็ไม่สามารถทำให้อลิส มีชีวิตที่ดีเหมือนเด็กคนอื่นได้ หญิงสาวจึงออกมาหาอาชีพเสริม โดยการเป็นนักร้องรับจ้าง ตั้งแต่มัธยมศึกษาตอนปลาย
ความขยัน ใฝ่ดีของอลิสทำให้เธอสอบเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐได้ ค่าเทอมในเทอมแรก มณีขอหยิบยืมจากนายจ้าง และอลิสก็ได้ไข่มุก เพื่อนที่เธอเพิ่งจะมารู้จักที่มหาวิทยาลัย เป็นคนใช้หนี้แทน เพื่อที่แม่ของอลิสจะได้ไม่ต้องไปเสียดอกเบี้ย
เวลาผ่านไปเกือบปีเหมือนกัน กว่าสองคนแม่ลูกจะหาเงินมาใช้ไข่มุกได้หมด แต่ไข่มุกก็ไม่เคยทวงถามสักคำ แถมยังคอยหางานรับจ้างต่างๆ มาให้แม่และอลิสทำ เพื่อหารายได้
การช่วยเหลือ เกื้อกูลในหลายๆอย่างที่ไข่มุกมีต่ออลิส มาวินรับรู้ด้วยตลอด เขาไม่สามารถช่วยอะไรอลิสได้ เพราะครอบครัวเขาเอง ก็แค่พอมีพอกิน ชายหนุ่มจึงรู้ว่า อลิสรักและเป็นห่วงไข่มุกแค่ไหน
“เฮ้ย!..มาวิน ไข่มุกส่งข้อความมาในไลน์กลุ่มเรา” อลิส ทั้งตกใจและดีใจ ที่มีการเคลื่อนไหวของเพื่อนสาว
‘เขาไม่รักฉันแล้ว ไม่แคล้วฉันคงต้องตาย ชีวิตขาดเขาเหมือนไร้จุดหมาย จะขอลาตายดีกว่าอยู่ให้ช้ำใจ’
อลิสอ่านข้อความ ที่จริงๆแล้วมันอ่านดูจะเป็นกลอนมากกว่า หญิงสาวอ่านออกเสียงเพื่อให้มาวินได้รู้ด้วย
“เฮ้ย!”
ทั้งอลิสและมาวิน ต่างร้องอุทานพร้อมกันด้วยความตกใจ เพราะจากข้อความ มันเหมือนเพื่อนของเธอกำลังพูดถึงความตายอยู่
“โทร มาวินลองโทรหาไข่มุกสิ เผื่อเธอจะรับ”
อลิสให้มาวินโทรศัพท์ไปหาไข่มุก เพราะหญิงสาวโทรไปหลายครั้งแล้ว ตั้งแต่เช้า เธอหวังว่า ไข่มุกอาจจะรับโทรศัพท์ของมาวินก็ได้
“ไม่รับ แถมตัดสายทิ้งด้วย”
มาวินหันมาบอก หลังจากเขาโทรศัพท์ไปหาไข่มุกหลายสาย
“เราไปที่บ้านไข่มุกกันเถอะ นะ...นะ ถ้าให้รอแล้วเอาแต่นั่งมองโลกในแง่ดี เราทำไม่ได้ได้แล้วมาวิน.”
อลิสจับแขนเพื่อนชายมาเขย่า เพราะเธอเองก็ไม่กล้าไปคนเดียว ถ้ามาวินไม่ไปเป็นเพื่อน
“เออๆ ไปก็ไป แต่เอาแบบนี้นะ เราเรียนวิชาแรกก่อน จะได้ลาอาจารย์ให้ไข่มุกด้วย แล้วค่อยไป วิชาตอนบ่าย เดี๋ยวฝากเพื่อลาอาจารย์ให้”
หัวใจของอลิส มันรู้สึกใจคอไม่ดีเลย แต่เธอรู้ว่า มาวินต้องการให้เธอใจเย็นแล้วเรียนก่อน เพราะชายหนุ่มคิดว่า ถึงจะไปตอนนี้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับไข่มุก พวกเขาทั้งคู่ก็ช่วยอะไรไม่ทัน เพราะบ้านของหญิงงสาวกับมหาวิทยาลัยอยู่ไกลกันมาก และทั้งคู่ต้องขึ้นรถโดยสารประจำทางไป
“เฮ้ย! มาวิน ไข่มุกส่งอะไรมาอีกแล้ว” อลิสเสียงดังด้วยความตกใจ
“ทุกเรื่องที่เราเล่า ให้เธอสองคนฟัง มันคือความลับ ที่จะเป็นความลับตลอดไป สัญญานะ อลิส มาวิน”
ทั้งสองคนอ่านข้อความที่ไข่มุกส่งมาพร้อมกัน พร้อมกับส่งสติกเกอร์ตอบกับไปว่าตกลง และไข่มุกก็ส่งสติกเกอร์รอยยิ้มสดใส เพื่อแสดงว่าเธอพอใจในคำตอบของเพื่อนๆ
“เห็นไหมอลิส ไข่มุกมันส่งสติกเกอร์มาแบบนี้ แปลว่าไม่มีอะไรหรอก ดูแล้วน่าจะทะเลาะกับพี่ตะวัน และก็กังวลว่าเราจะเอาเรื่องของพี่ตะวันกับตัวเองไปพูดให้ใครฟัง ”
มาวินคิดว่า คนที่ยังสาวมารถส่งสติกเกอร์ได้ แปลว่าต้องไม่ได้กำลังทุกข์มาก อย่างที่อลิสคิดหรอก
“แต่เรายังจะไปบ้านไข่มุกกันอยู่ใช่ไหม” อลิสยังไม่สบายใจ
“ไปแน่นอน เรียนแค่ไม่กี่ชั่วโมง ไปเรียน! …คิดมากไปได้”
ชายหนุ่มเดินจับมืออลิสเข้าห้องเรียน เพราะกลัวหญิงสาวจะยืนเป็นห่วงไข่มุกไปไหนอยู่ตรงหน้าห้องอย่างนั้น
“มาวิน พวกข้างหน้าเรา ตื่นเต้นข่าวอะไรกัน เห็นกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่”
อลิสชี้ไปที่กลุ่มของเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างหน้า แต่อยู่ห่างจากเธอสองคน ที่นั่งอยู่เกือบท้ายห้อง
“นก มีข่าวอะไรกัน เห็นตื่นเต้นกันน่าดู”
ยังไม่ทันที่มาวินหรืออลิสจะลุกขึ้นไปถาม ทามหนุ่มสวยประจำห้อง ก็ถามเสียงดังแทน เพราะอยากรู้ว่าสิ่งที่กลุ่มใหญ่ของห้องกำลังฮือฮากัน คือเรื่องอะไร
“ก็โยเกิร์ตนางเอกหน้าใหม่ ที่เพิ่งแสดงได้เรื่องเดียว ก็ปังเหว่อ นางออกมาบอกว่ากำลังคบหากับพระเอกรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยเรา และอาจจะมีข่าวดีทันที ที่พี่ตะวันเรียนจบ”
หัวหน้าห้อง ผู้รู้เรื่องทุกอย่างของของบรรดาดารานักร้องทุกคน รายงานด้วยสีหน้าที่เหมือนกำลังหมั่นไส้นางเอกที่เป็นข่าวอยู่
“ผู้หญิงอะไรออกมาพูดเอง ผู้ชายเขายังไม่เคยพูดถึงนางสักคำ”
ทามนางเป็นผู้ชาย ที่สวยจนผู้หญิงยังอาย และรู้จักบรรดาช่างแต่งหน้า ที่อยู่ใวงการบันเทิงหลายคนพูดด้วยความหมั่นไส่ เช่นเดียวกับนก ผู้เป็นหัวหน้าห้อง
“ทาม แกมาฟังนี่ นางบอกพี่ตะวันเรียนจบ อาจจะมีข่าวดีเร็วๆนี้ นางกล้าพูดเนาะ นี่ออกมาเปิดตัวเองแถมประกาศจะมีข่าวดี หน้าด้านที่สุด”
บรรดาเพื่อนที่กำลังวิจารณ์เรื่องนี้กันอยู่ ต่างพากันรู้สึกไม่เชื่อในสิ่งที่โยเกิร์ตนักแสดงหน้าใหม่ให้สัมภาษณ์
มาวินกับอลิสต่างมองหน้ากัน เหมือนทั้งสองคนจะได้คำตอบ ว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ไข่มุกเป็นแบบนี้
“มาวิน นายว่าจริงไหมวะข่าวเรื่องพี่ตะวัน” อลิสถาม
“ไม่รู้เหมือนกัน แต่ทามก็อยู่ในแวดวงนี้ นางยังไม่เชื่อเลย อาจเป็นแค่การสร้างกระแสก็ได้”
มาวินไม่อยากให้อลิสว้าวุ่นใจไปมากกว่านี้ เขาจึงพยายามพูดให้เธอสบายใจ ถึงแม้จะไม่ได้คิดแบบที่พูดก็ตาม
เลิกเรียนวิชาในช่วงเช้าแล้ว ทั้งสองคนเดินออกจากมหาวิทยาลัย เพื่อไปนั่งโดยสารรถประจำทาง ไปบ้านของไข่มุกตามที่ตกลงกันไว้
“อลิส เราไม่ต้องไปบ้านไข่มุกแล้ว”
มาวินหยุดเดิน สายตายังจับจ้องอยู่ที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือ ที่เขาเดินเขี่ยไปเขี่ยมาระหว่างเดินมาหน้ามหาวิทยาลัย
“ทำไม เกิดอะไรขึ้น เฮ้ย!พูดสิ”
อลิสทนไม่ไหว เมื่อถามแต่มาวินไม่ตอบ กลับแสดงสีหน้า ที่เหมือนคนกำลังตกใจสุดขีด
“อย่าเป็นอะไรนะน้องสาวพี่ ทำไมทำแบบนี้”
อลิสอ่านทุกตัวอักษรที่พี่สาวของไข่มุกโพสและแท็กชื่อไข่มุกในเฟซบุ๊กพร้อมกับบอกว่าเธอกำลังอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนใกล้บ้าน
“มาวิน ไหนนายบอกว่า มันจะไม่มีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นกับไข่มุก ทำไมเป็นแบบนี้”
อลิสโวยวายเสียงดัง ตีมือเล็กของเธอไปที่ตัวของมาวิน อย่างลืมตัว
ชายหนุ่มเองก็ยืนนิ่ง ตัวแข็ง ทำอะไรไม่ถูก ถึงแม้จะเป็นผู้ชายแต่มาวินก็ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์อะไรแบบนี้
“อลิส เราไปโรงพยาบาลกัน”
พอเริ่มตั้งสติได้ มาวินก็คว้ามือของเพื่อสาว มาจับไว้แน่น มองหน้าและส่งสายตาที่เข้มแข้งไปสู่ ตากลมคู่สวยที่ตอยนี้เต็มไปด้วยน้ำใสๆ ที่ไหลออกมาอย่างเกินจะหยุดมันได้
กว่าจะถึงโรงพยายาบาลใช้เวลาเกือบชั่วโมง ทั้งคู่ต่างวิ่งกันไปที่ห้องฉุกเฉิน หลังจากสอบถามเจ้าหน้าที่ ว่าเพื่อนของเธอตอนนี้อยู่ที่ไหน
“มาวิน อลิส ไข่มุกไม่อยู่แล้ว เขาทิ้งพี่ไปแล้ว”
ลูกแก้วพี่สาวคนเดียวของไข่มุก บอกข่าวร้ายให้กับทั้งคู่ที่เพิ่งมาถึงให้รู้
“พี่ลูกแก้ว”
อลิสตะโกนสุดเสียงเมื่อได้ยินคำพูดของหญิงสาวตรงหน้า ที่เพิ่งแจ้งข่าวร้ายให้เธอฟัง เธอทรุดตัวลงเกือบกองลงกับพื้น ถ้ามาวินวิ่งเข้ามารับไว้ไม่ทัน
เสียงร้องไห้จนแทบจะขาดใจ ของพ่อกับแม่ของไข่มุก ดังมาจากเก้าอี้ด้านหน้าของห้องฉุกเฉิน อลิสมองภาพทุกอย่างด้วยความรู้สึกที่บอกกับตัวเอง ว่ามันไม่จริง ทุกอย่างที่เธอกำลังมองเห็น ทุกสิ่งที่เพิ่งได้ยิน มันเป็นแค่ความฝันเท่านั้น
“ตื่นสิอลิส แกแค่ฝันไป”
หญิงสาวพูดกับตัวเอง ซ้ำไปซ้ำมา ก่อนจะเดินไปนั่งเก้าอี้ ที่อยู่ตรงข้ามกับห้องฉุกเฉิน และยังคงพูดกับตัวเอง เหมือนคนที่เสียสติไปแล้ว
2ทุกอย่างมันแค่เริ่มต้น “ฉันดีใจที่เธอยอมมานะอลิส ง้อเสียหลายรอบกว่าจะยอมใจอ่อนได้” ทามดีใจ ที่วันนี้เพื่อนของเขา ยอมมาเจอกับ รุ่นพี่ของทาม ที่เป็นช่างแต่งหน้า และยังเป็นคนที่คอยหานักแสดงหน้าใหม่ ไปแจ้งเกิดในวงการบันเทิงด้วย “ความจริงแล้วเราอยากมาตั้งนานแล้ว แต่ติดเรื่องเรียน” อลิสให้เหตุผล “ไม่จริงมั้ง ถ้าวันนี้ไข่มุกยังอยู่ เธอคงโดนห้ามแน่ๆ เฮ้อ ! พูดแล้วก็คิดถึง ชีวิตดี เกิดมาพร้อมทุกอย่าง แต่ทำไม เพื่อนเราถึงได้มาคิดสั้นแบบนี้” ทุกคนที่รู้จักไข่มุกต่างก็คิดไม่ออกว่าสาเหตุที่ทำให้เด็กสาว หน้าตาน่ารักเรียบร้อย เกิดมาในครอบครัวที่พร้อมทุกอย่าง ทำไมถึงได้ตัดสินใจ ฆ่าตัวตายแบบนั้น “หนังเรื่องนี้ แน่ใจแล้วใช่ไหม ว่าพี่ตะวันจะมาเล่นเป็นพระเอก”อลิสเปลี่ยนเรื่องพูด เพราะเธอไม่อยากได้ยินเรื่องนี้แล้ว ถึงแม้จะไม่อยากได้ยิน แต่เธอก็ไม่เคยลืม และจำได้ดี ว่าไข่มุก ตายเพราะใคร“แน่ใจสิ แล้วเขาอยากได้นางเอกหน้าลูกครึ่งแบบเธอด้วย ฉันว่าเธอผ่านแน่ๆ” ทามชื่นชมเพื่อน“ดูสนับสนุนจริงได้ค่าหัวคิวไหม ถามจริงๆ” อลิสส่งยิ้มแบบรู้ทันให้
3ทอดสะพาน “จำวันแรกที่เราเจอกันได้ไหมครับ”ตะวันถามหญิงสาวตรงหน้า ที่กว่าเธอจะยอมมาดินเนอร์กับเขา ชายหนุ่มต้องใช้เวลาอ้อนวอนอยู่หลายครั้ง“วันไหน อลิสจำไม่ได้ พี่ตะวันจำได้เหรอคะ ไหนเล่าให้ อลิสฟังหน่อย”หญิงสาวในชุดสีขาวแขนกุด คอเสื้อของเธอผ่าลงเป็นรูปตัววีจนถึงร่องอก โชว์เนินอกอิ่ม ที่ทั้งขาวและดูอวบเต็มมือ จนชายหนุ่มในร้านต่างพากันมองอลิสเธอแกล้งจำในสิ่งที่ตะวันพูดถึงไม่ได้ เพราะอยากให้ชายหนุ่มตรงหน้า เล่าให้เธอฟัง“พี่คงไม่มีอะไรสะดุดตาพอ ให้อลิสจำได้แน่ๆ แต่สำหรับพี่ ตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกันพี่ก็จำผู้หญิงสวยที่เกือบล้มเพราะถูกพี่เดินชนได้ตลอด”ชายหนุ่มเอื้อมือไปวางทับมือหญิงสาวที่วางไว้บนโต๊ะอาหาร ก่อนที่อลิสจะดึงมือของเธอกลับ“พี่ตะวันความจำดีจังเลยค่ะ ส่วนอลิสจะเลือกจำเฉพาะคนที่ทำอะไรให้อลิสอยากจำเท่านั้น”น้ำเสียงที่อ้อนหวานของอลิส นางเอกดังในเวลานี้ ที่ใครๆ ต่างก็พากันชื่นชอบและติดตามผลงานของเธอ ฟังแล้วดูอ่อนหวานแต่เหมือนมีบางอย่างซ่อนอยู่ในเสียงนั้น ตะวันสัมผัสได้ แต่เขาไม่แน่ใจว่ามันคืออะไรกันแน่“แล้วพี่ต้องทำยังไง ถึงจะได้เป็นคนที่อลิสจำได้”ชายหนุ่มปากหวาน ค
4มือที่สาม “วันนี้มากองถ่ายแต่เช้าเลยนะคะ” โยเกิร์ตนัดแสดงรุ่นพี่ เดินมาทักทายนางเอกคนใหม่ ด้วยท่าทีที่เป็นมิตร ทั้งที่หัวใจของเธอชังน้ำหน้า อลิสยิ่งนัก ละครเรื่องนี้ตอนแรกโยเกิร์ตกำลังจะได้เป็นนางเอก แต่ทางผู้จัด อยากได้นางเอกหน้าตาลูกครึ่ง และอลิสก็เหมาะกับบทนี้ โยเกร์ตจึงเป็นได้แค่รองนางเอกอีกทีหนึ่ง “เมื่อคืน ไม่ต้องกลับเองเลยถึงคอนโดไวหน่อยค่ะ” อลิสตอบไม่ตรงตามความจริง ใบหน้าก็แสดงเหมือนเมื่อคืนคนที่ไปส่งเธอคือคนสำคัญ “ใครกันนะ...ไปส่งนางเอกคนใหม่ของเราถึงคอนโด เพิ่งเข้าวงการใหม่ๆ ระวังจะดับโดยที่ยังไม่ทันดังนะจ๊ะ ไปไหนมาไหนก็ระวังตัวด้วย เลือกๆหน่อยจะไปกับใคร” รอยยิ้มที่ดูหวังดี และเป็นห่วงเป็นใยแต่บาดใจยิ่งกว่ามีดโกน ทำเอาอลิสต้องพยายามหายใจลึกๆเพื่อควบคุมอารมณ์ “ขอบคุณพี่โยเกิร์ตมากนะคะ แต่คนที่ไปส่งอลิส เขาต่างหากที่เลือก อลิส อลิสไม่ได้เลือกเขา” คำตอบของหญิงสาว แสดงให้เห็นว่าคนที่ไปส่งเธอไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน เมื่อรู้ว่ากำลังได้เปรียบอลิสก็เดินออกจากตรงการสนทนากับโยเกิร์ตทันที
5เสียชื่อเสียง หลังจากการสัมภาษณ์ในครั้งนั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง ข่าวของตะวันกับโยเกิร์ตก็ถูกพูดถึงไปทั่วในโลกโซเชียลมีเดีย “ตะวันเห็นข่าวหรือยัง ทำอะไรลงไป” ผู้จัดการส่วนตัวหยิบโทรศัพท์มาให้พระเอกหนุ่มดู “เอ้าทำไมกลายเป็นผมเป็นคนไม่ดีไปเสียล่ะ ทั้งที่เรื่องนี้ผมไม่ได้เริ่มเลย โยเกิร์ตพูดเองเออเองคนเดียว” ตะวันตกใจเมื่อได้เห็นคนในโซเชียลรุมด่าว่าเขา ว่าเป็นผู้ชายเห็นแก่ตัวเจ้าชู้ หลายใจ และต่างพากันให้กำลังใจโยเกิร์ต “ตะวันแกทำอะไรไม่คิด ตะวันไม่ผิดที่พูดความจริง แต่ผิดที่พูดช้าไป และมาพูดเอาตอนนี้” ชิงชิงไม่อยากต่อว่าอะไรนักแสดงหนุ่มให้มากกว่านี้ เพราะกลัวจะทำให้ตะวันยิ่งเครียดเข้าไปใหญ่ “ผมขอโทษด้วยครับพี่ แต่ผมแค่อยากให้เรื่องนี้มันจบๆเสียที” ตะวันยกมือขอโทษผู้จัดการส่วนตัว “ตะวันเอ๋ย เตรียมรับบทหนักได้เลย ผู้จัดคงต้องเรียกแกเข้าไปคุยแน่ๆ” ชิงชิงเป็นคนที่ดูแลตะวันตั้งแต่วันแรกที่เข้าวงการ เธอเป็นสาวประเภทสองที่มีความสามารถรอบด้าน ตอนนี้เธอก็กำลังหาวิธีที่จะช่วยกู้ชื่อเสียงของตะวันกลับคืนมาให้ได้
6เริ่มก่อตัวของความผูกพัน “อลิสทำกับข้าวเป็นด้วยเหรอ” ชายหนุ่มเดินมาจากข้างหลัง โอบกอดหญิงสาวไว้ ด้วยความรู้สึกชื่นชม ที่อลิสเป็นผู้หญิงสมัยใหม่แต่สามารถทำกับข้าวเป็น “เป็นสิคะ ตอนเด็กๆ แม่สอนทำตั้งหลายอย่าง ครอบครัวเราไม่ได้เกิดมาร่ำรวย ถ้าต้องซื้อเขากินทุกมื้อคงแย่แน่ๆค่ะ” หญิงสาวยังคงไม่วางมือจากการหั่นผักคะน้าและหมู ที่เธอกำลังจะผัด “พี่ฟังอลิสพูด พี่รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นของครอบครัวเรา บางครั้งเงินอาจไม่ใช่สาเหตุของความสุขก็ได้นะ” พระเอกคนดัง เอาคางวางตรงไหล่ของนางเอกสาว จนคนโดนกอดสัมผัสได้ ถึงความอ่อนแอของคนที่กำลังกอดเธอ “พี่ตะวันพูดเหมือน ครอบครัวของพี่ไม่มีความสุข เท่าที่อลิสรู้มา พี่ตะวันเกิดมาในครอบครัวที่คุณพ่อ คุณแม่อยู่ด้วยกัน ฐานะก็ร่ำรวย แล้วทำถึงพูดเหมือนไม่มีความสุขล่ะคะ” มือที่กำลังถือมีดหั่นผัก วางมีดลง และหันหน้ามาหาชายหนุ่มที่กอดเธอจากด้านหลัง“บางอย่างมันก็ไม่เหมือนอย่างที่คนภายนอกเห็นหรอก”มือหนาลูบผมหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าด้วยแววตาที่ดูเศร้าจนอลิสเองมองแล้วรู้สึกสงสารขึ้นมาอย่
7แก้แค้น “ไข่มุก เราแก้แค้นให้เธอแล้วนะ” อลิสยืนองชายหนุ่มที่นอนหลับอยู่บนโซฟาอีกครั้ง ก่อนที่เธอจะแต่งตัวและรีบออกจากห้องของเขาอย่างรวดเร็ว “มาวินทุกอย่างเรียบร้อยใช่ไหม” หญิงสาวโทรศัพท์ถามความเรียบร้อย ในการปล่อยภาพที่เธอส่งให้มาวินทำหน้าที่กระจาย ว่าสำเร็จตามแผนไหม “ทุกอย่างเรียบร้อย อลิสเธอแน่ใจแล้วนะ” มาวินถามเพื่อนอีกครั้ง ถึงแม้จะเป็นการถามหลังจากที่ทำทุกอย่างไปแล้ว “เราไปหาไข่มุกกัน เจอกันที่บ้านไข่มุกนะ” อลิสเธอไม่จำเป็นต้องตอบอะไรแล้ว เพราะทุกอย่างเดินหน้ามาเกินจะกลับย้อนไปเดินกลับหลังแล้ว ตั้งแต่เสร็จสิ้นจากงานศพของไข่มุก ทั้งสองคนยังไม่เคยได้ไปหาไข่มุกที่เหลือเพียงแค่กระดูกที่บ้านอีกเลย วันนี้อลิสตั้งใจ จะไปบอกไข่มุกว่าเธอได้แก้แค้นให้เพื่อนได้สำเร็จแล้ว “สวัสดีค่ะคุณแม่” อลิสกับมาวินมาถึงบ้านของไข่มุก ก็เจอกับแม่ของเพื่อนกำลังนั่งเล่นอยู่หน้าบ้าน “สวัสดีจ๊ะ มาหาไข่มุกกันเหรอ” แววตาและน้ำเสียงของคนพูด ยังคงมีความเศร้าอยู่ภายในหัวใจ
8เกือบหมดอนาคต “มาถึงแล้วอลิส” มูมู่หันไปบอกทุกคนในที่ประชุม “ขอโทษทีนะคะ ที่มาช้า” หญิงสาวมองสบตาทุกคนในห้องประชุม ยกเว้นตะวัน “นั่งลงก่อน ระหว่างรอเธอพวกเราก็ประชุมกันไปเรื่อยๆ ก็พอได้ข้อสรุป” พี่อ้อยผู้จัดละคร เรื่องที่ตะวันและอลิสแสดงเป็นพระเอกและนางเอกร่วมกัน ชี้แจง “อลิสเพิ่งมาแสดงเป็นนางเอกเรื่องแรกแท้ๆ ไม่นาต้องมาเจอเรื่องแบบนี้เลย” มูมู่ค้อนตาใส่ชิชิงผู้จัดการของตะวันที่นั่งตาซีดเซียวอย่างหมั่นไส้“ผมผิดเอง ผมไม่น่าไปซื้อบริการผู้หญิงแบบนั้นเลย จนทำให้อลิสและทุกคนต้องเดือดร้อน”ตะวันยกมือไหว้ทุกคน อย่างสำนึก และหันมาสบตาอลิสเหมือนเมื่อคืนนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น“คืนนี้ตะวันจะต้องไปงานเปิดตัวสินค้า พี่จะไปด้วย เราจะแถลงข่าวกันที่นั่น ในเมื่อทำผิด ตะวันก็ยอมรับผิด เราจะพูดความจริงกัน ส่วนผลที่ตามมาจะเป็นแบบไหน เราค่อยมาหาทางแก้ปัญหากันอีกที ”พี่อ้อยเป็นผู้จัดที่อยู่ในวงการมานาน เธอจะสอนนักแสดงในสังกัดทุกคนว่า การแก้ตัวที่ดีที่สุดคือการขอโทษและไม่ทำอีก ไม่ใช่การหาเหตุผล หรือการโยนความผิดให้ใคร“อลิส หน้าที่ของเธอ คือการให้สัมภาษณ
9ชดใช้ “ขอบคุณพี่อ้อยมากนะครับ ที่อยู่เคียงข้างผม” ดาราหนุ่มหันมายกมือไหว้ขอบคุณ หยิงวัยกลางคน ที่เป็นทั้งผู้จัดละครและยังเป็นคนที่ปลุกปั้นให้เขาได้เข้ามาอยู่ในวงการเต็มตัว “พี่อยู่ข้างเธอ เพราะเธอเป็นคนดีตะวัน” “ผมดีตรงไหนครับพี่ เพิ่งจะสร้างเรื่องให้พี่อ้อยต้องปวดหัวเอง” ชายหนุ่มนึกไม่ออกเลยว่าดีของพี่อ้อยคืออะไร “พี่ไม่เชื่อเธอหรอกนะ ว่าผู้หญิงที่ปล่อยรูปเธอ จะเป็นผู้หญิงที่เธอซื้อกิน แต่เพราะผู้หญิงคนนั้นจะเสียหาย ถ้าเธอพูดความจริงออกไป และเธอก็เลือกจะยอมโกหก เพื่อปกป้องผู้หญิงคนนั้น นี่แหละความเป็นคนดีของเธอ” พระเอกคนดังเมื่อได้ยินในสิ่งที่ผู้จัดมากประสบการณ์พูด เขาถึงกับพูดไม่ออก พี่อ้อยรู้ทุกอย่างจริงๆ แต่ตะวันก็เลือกที่ยิ้มและเงียบตลอดทาง เพราะเขาตั้งใจเอาไว้แล้ว ว่าเรื่องนี้จะเป็นความลับตลอดไป “พรุ่งนี้ก็พักผ่อนนะ เราจะเริ่มอีกทีมะรืน อยู่แต่ในห้องก็ดี จะได้ไม่มีประเด็นอะไรเพิ่มขึ้นมาอีก” รถของช่องส่งตะวันที่คอนโดก่อน ที่จะไปส่งพี่อ้อย เพราะคอนโดของเธออยู่ไกลกว่าของตะวัน “สวัสดีค่ะ”
9ชดใช้ “ขอบคุณพี่อ้อยมากนะครับ ที่อยู่เคียงข้างผม” ดาราหนุ่มหันมายกมือไหว้ขอบคุณ หยิงวัยกลางคน ที่เป็นทั้งผู้จัดละครและยังเป็นคนที่ปลุกปั้นให้เขาได้เข้ามาอยู่ในวงการเต็มตัว “พี่อยู่ข้างเธอ เพราะเธอเป็นคนดีตะวัน” “ผมดีตรงไหนครับพี่ เพิ่งจะสร้างเรื่องให้พี่อ้อยต้องปวดหัวเอง” ชายหนุ่มนึกไม่ออกเลยว่าดีของพี่อ้อยคืออะไร “พี่ไม่เชื่อเธอหรอกนะ ว่าผู้หญิงที่ปล่อยรูปเธอ จะเป็นผู้หญิงที่เธอซื้อกิน แต่เพราะผู้หญิงคนนั้นจะเสียหาย ถ้าเธอพูดความจริงออกไป และเธอก็เลือกจะยอมโกหก เพื่อปกป้องผู้หญิงคนนั้น นี่แหละความเป็นคนดีของเธอ” พระเอกคนดังเมื่อได้ยินในสิ่งที่ผู้จัดมากประสบการณ์พูด เขาถึงกับพูดไม่ออก พี่อ้อยรู้ทุกอย่างจริงๆ แต่ตะวันก็เลือกที่ยิ้มและเงียบตลอดทาง เพราะเขาตั้งใจเอาไว้แล้ว ว่าเรื่องนี้จะเป็นความลับตลอดไป “พรุ่งนี้ก็พักผ่อนนะ เราจะเริ่มอีกทีมะรืน อยู่แต่ในห้องก็ดี จะได้ไม่มีประเด็นอะไรเพิ่มขึ้นมาอีก” รถของช่องส่งตะวันที่คอนโดก่อน ที่จะไปส่งพี่อ้อย เพราะคอนโดของเธออยู่ไกลกว่าของตะวัน “สวัสดีค่ะ”
8เกือบหมดอนาคต “มาถึงแล้วอลิส” มูมู่หันไปบอกทุกคนในที่ประชุม “ขอโทษทีนะคะ ที่มาช้า” หญิงสาวมองสบตาทุกคนในห้องประชุม ยกเว้นตะวัน “นั่งลงก่อน ระหว่างรอเธอพวกเราก็ประชุมกันไปเรื่อยๆ ก็พอได้ข้อสรุป” พี่อ้อยผู้จัดละคร เรื่องที่ตะวันและอลิสแสดงเป็นพระเอกและนางเอกร่วมกัน ชี้แจง “อลิสเพิ่งมาแสดงเป็นนางเอกเรื่องแรกแท้ๆ ไม่นาต้องมาเจอเรื่องแบบนี้เลย” มูมู่ค้อนตาใส่ชิชิงผู้จัดการของตะวันที่นั่งตาซีดเซียวอย่างหมั่นไส้“ผมผิดเอง ผมไม่น่าไปซื้อบริการผู้หญิงแบบนั้นเลย จนทำให้อลิสและทุกคนต้องเดือดร้อน”ตะวันยกมือไหว้ทุกคน อย่างสำนึก และหันมาสบตาอลิสเหมือนเมื่อคืนนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น“คืนนี้ตะวันจะต้องไปงานเปิดตัวสินค้า พี่จะไปด้วย เราจะแถลงข่าวกันที่นั่น ในเมื่อทำผิด ตะวันก็ยอมรับผิด เราจะพูดความจริงกัน ส่วนผลที่ตามมาจะเป็นแบบไหน เราค่อยมาหาทางแก้ปัญหากันอีกที ”พี่อ้อยเป็นผู้จัดที่อยู่ในวงการมานาน เธอจะสอนนักแสดงในสังกัดทุกคนว่า การแก้ตัวที่ดีที่สุดคือการขอโทษและไม่ทำอีก ไม่ใช่การหาเหตุผล หรือการโยนความผิดให้ใคร“อลิส หน้าที่ของเธอ คือการให้สัมภาษณ
7แก้แค้น “ไข่มุก เราแก้แค้นให้เธอแล้วนะ” อลิสยืนองชายหนุ่มที่นอนหลับอยู่บนโซฟาอีกครั้ง ก่อนที่เธอจะแต่งตัวและรีบออกจากห้องของเขาอย่างรวดเร็ว “มาวินทุกอย่างเรียบร้อยใช่ไหม” หญิงสาวโทรศัพท์ถามความเรียบร้อย ในการปล่อยภาพที่เธอส่งให้มาวินทำหน้าที่กระจาย ว่าสำเร็จตามแผนไหม “ทุกอย่างเรียบร้อย อลิสเธอแน่ใจแล้วนะ” มาวินถามเพื่อนอีกครั้ง ถึงแม้จะเป็นการถามหลังจากที่ทำทุกอย่างไปแล้ว “เราไปหาไข่มุกกัน เจอกันที่บ้านไข่มุกนะ” อลิสเธอไม่จำเป็นต้องตอบอะไรแล้ว เพราะทุกอย่างเดินหน้ามาเกินจะกลับย้อนไปเดินกลับหลังแล้ว ตั้งแต่เสร็จสิ้นจากงานศพของไข่มุก ทั้งสองคนยังไม่เคยได้ไปหาไข่มุกที่เหลือเพียงแค่กระดูกที่บ้านอีกเลย วันนี้อลิสตั้งใจ จะไปบอกไข่มุกว่าเธอได้แก้แค้นให้เพื่อนได้สำเร็จแล้ว “สวัสดีค่ะคุณแม่” อลิสกับมาวินมาถึงบ้านของไข่มุก ก็เจอกับแม่ของเพื่อนกำลังนั่งเล่นอยู่หน้าบ้าน “สวัสดีจ๊ะ มาหาไข่มุกกันเหรอ” แววตาและน้ำเสียงของคนพูด ยังคงมีความเศร้าอยู่ภายในหัวใจ
6เริ่มก่อตัวของความผูกพัน “อลิสทำกับข้าวเป็นด้วยเหรอ” ชายหนุ่มเดินมาจากข้างหลัง โอบกอดหญิงสาวไว้ ด้วยความรู้สึกชื่นชม ที่อลิสเป็นผู้หญิงสมัยใหม่แต่สามารถทำกับข้าวเป็น “เป็นสิคะ ตอนเด็กๆ แม่สอนทำตั้งหลายอย่าง ครอบครัวเราไม่ได้เกิดมาร่ำรวย ถ้าต้องซื้อเขากินทุกมื้อคงแย่แน่ๆค่ะ” หญิงสาวยังคงไม่วางมือจากการหั่นผักคะน้าและหมู ที่เธอกำลังจะผัด “พี่ฟังอลิสพูด พี่รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นของครอบครัวเรา บางครั้งเงินอาจไม่ใช่สาเหตุของความสุขก็ได้นะ” พระเอกคนดัง เอาคางวางตรงไหล่ของนางเอกสาว จนคนโดนกอดสัมผัสได้ ถึงความอ่อนแอของคนที่กำลังกอดเธอ “พี่ตะวันพูดเหมือน ครอบครัวของพี่ไม่มีความสุข เท่าที่อลิสรู้มา พี่ตะวันเกิดมาในครอบครัวที่คุณพ่อ คุณแม่อยู่ด้วยกัน ฐานะก็ร่ำรวย แล้วทำถึงพูดเหมือนไม่มีความสุขล่ะคะ” มือที่กำลังถือมีดหั่นผัก วางมีดลง และหันหน้ามาหาชายหนุ่มที่กอดเธอจากด้านหลัง“บางอย่างมันก็ไม่เหมือนอย่างที่คนภายนอกเห็นหรอก”มือหนาลูบผมหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าด้วยแววตาที่ดูเศร้าจนอลิสเองมองแล้วรู้สึกสงสารขึ้นมาอย่
5เสียชื่อเสียง หลังจากการสัมภาษณ์ในครั้งนั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง ข่าวของตะวันกับโยเกิร์ตก็ถูกพูดถึงไปทั่วในโลกโซเชียลมีเดีย “ตะวันเห็นข่าวหรือยัง ทำอะไรลงไป” ผู้จัดการส่วนตัวหยิบโทรศัพท์มาให้พระเอกหนุ่มดู “เอ้าทำไมกลายเป็นผมเป็นคนไม่ดีไปเสียล่ะ ทั้งที่เรื่องนี้ผมไม่ได้เริ่มเลย โยเกิร์ตพูดเองเออเองคนเดียว” ตะวันตกใจเมื่อได้เห็นคนในโซเชียลรุมด่าว่าเขา ว่าเป็นผู้ชายเห็นแก่ตัวเจ้าชู้ หลายใจ และต่างพากันให้กำลังใจโยเกิร์ต “ตะวันแกทำอะไรไม่คิด ตะวันไม่ผิดที่พูดความจริง แต่ผิดที่พูดช้าไป และมาพูดเอาตอนนี้” ชิงชิงไม่อยากต่อว่าอะไรนักแสดงหนุ่มให้มากกว่านี้ เพราะกลัวจะทำให้ตะวันยิ่งเครียดเข้าไปใหญ่ “ผมขอโทษด้วยครับพี่ แต่ผมแค่อยากให้เรื่องนี้มันจบๆเสียที” ตะวันยกมือขอโทษผู้จัดการส่วนตัว “ตะวันเอ๋ย เตรียมรับบทหนักได้เลย ผู้จัดคงต้องเรียกแกเข้าไปคุยแน่ๆ” ชิงชิงเป็นคนที่ดูแลตะวันตั้งแต่วันแรกที่เข้าวงการ เธอเป็นสาวประเภทสองที่มีความสามารถรอบด้าน ตอนนี้เธอก็กำลังหาวิธีที่จะช่วยกู้ชื่อเสียงของตะวันกลับคืนมาให้ได้
4มือที่สาม “วันนี้มากองถ่ายแต่เช้าเลยนะคะ” โยเกิร์ตนัดแสดงรุ่นพี่ เดินมาทักทายนางเอกคนใหม่ ด้วยท่าทีที่เป็นมิตร ทั้งที่หัวใจของเธอชังน้ำหน้า อลิสยิ่งนัก ละครเรื่องนี้ตอนแรกโยเกิร์ตกำลังจะได้เป็นนางเอก แต่ทางผู้จัด อยากได้นางเอกหน้าตาลูกครึ่ง และอลิสก็เหมาะกับบทนี้ โยเกร์ตจึงเป็นได้แค่รองนางเอกอีกทีหนึ่ง “เมื่อคืน ไม่ต้องกลับเองเลยถึงคอนโดไวหน่อยค่ะ” อลิสตอบไม่ตรงตามความจริง ใบหน้าก็แสดงเหมือนเมื่อคืนคนที่ไปส่งเธอคือคนสำคัญ “ใครกันนะ...ไปส่งนางเอกคนใหม่ของเราถึงคอนโด เพิ่งเข้าวงการใหม่ๆ ระวังจะดับโดยที่ยังไม่ทันดังนะจ๊ะ ไปไหนมาไหนก็ระวังตัวด้วย เลือกๆหน่อยจะไปกับใคร” รอยยิ้มที่ดูหวังดี และเป็นห่วงเป็นใยแต่บาดใจยิ่งกว่ามีดโกน ทำเอาอลิสต้องพยายามหายใจลึกๆเพื่อควบคุมอารมณ์ “ขอบคุณพี่โยเกิร์ตมากนะคะ แต่คนที่ไปส่งอลิส เขาต่างหากที่เลือก อลิส อลิสไม่ได้เลือกเขา” คำตอบของหญิงสาว แสดงให้เห็นว่าคนที่ไปส่งเธอไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน เมื่อรู้ว่ากำลังได้เปรียบอลิสก็เดินออกจากตรงการสนทนากับโยเกิร์ตทันที
3ทอดสะพาน “จำวันแรกที่เราเจอกันได้ไหมครับ”ตะวันถามหญิงสาวตรงหน้า ที่กว่าเธอจะยอมมาดินเนอร์กับเขา ชายหนุ่มต้องใช้เวลาอ้อนวอนอยู่หลายครั้ง“วันไหน อลิสจำไม่ได้ พี่ตะวันจำได้เหรอคะ ไหนเล่าให้ อลิสฟังหน่อย”หญิงสาวในชุดสีขาวแขนกุด คอเสื้อของเธอผ่าลงเป็นรูปตัววีจนถึงร่องอก โชว์เนินอกอิ่ม ที่ทั้งขาวและดูอวบเต็มมือ จนชายหนุ่มในร้านต่างพากันมองอลิสเธอแกล้งจำในสิ่งที่ตะวันพูดถึงไม่ได้ เพราะอยากให้ชายหนุ่มตรงหน้า เล่าให้เธอฟัง“พี่คงไม่มีอะไรสะดุดตาพอ ให้อลิสจำได้แน่ๆ แต่สำหรับพี่ ตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกันพี่ก็จำผู้หญิงสวยที่เกือบล้มเพราะถูกพี่เดินชนได้ตลอด”ชายหนุ่มเอื้อมือไปวางทับมือหญิงสาวที่วางไว้บนโต๊ะอาหาร ก่อนที่อลิสจะดึงมือของเธอกลับ“พี่ตะวันความจำดีจังเลยค่ะ ส่วนอลิสจะเลือกจำเฉพาะคนที่ทำอะไรให้อลิสอยากจำเท่านั้น”น้ำเสียงที่อ้อนหวานของอลิส นางเอกดังในเวลานี้ ที่ใครๆ ต่างก็พากันชื่นชอบและติดตามผลงานของเธอ ฟังแล้วดูอ่อนหวานแต่เหมือนมีบางอย่างซ่อนอยู่ในเสียงนั้น ตะวันสัมผัสได้ แต่เขาไม่แน่ใจว่ามันคืออะไรกันแน่“แล้วพี่ต้องทำยังไง ถึงจะได้เป็นคนที่อลิสจำได้”ชายหนุ่มปากหวาน ค
2ทุกอย่างมันแค่เริ่มต้น “ฉันดีใจที่เธอยอมมานะอลิส ง้อเสียหลายรอบกว่าจะยอมใจอ่อนได้” ทามดีใจ ที่วันนี้เพื่อนของเขา ยอมมาเจอกับ รุ่นพี่ของทาม ที่เป็นช่างแต่งหน้า และยังเป็นคนที่คอยหานักแสดงหน้าใหม่ ไปแจ้งเกิดในวงการบันเทิงด้วย “ความจริงแล้วเราอยากมาตั้งนานแล้ว แต่ติดเรื่องเรียน” อลิสให้เหตุผล “ไม่จริงมั้ง ถ้าวันนี้ไข่มุกยังอยู่ เธอคงโดนห้ามแน่ๆ เฮ้อ ! พูดแล้วก็คิดถึง ชีวิตดี เกิดมาพร้อมทุกอย่าง แต่ทำไม เพื่อนเราถึงได้มาคิดสั้นแบบนี้” ทุกคนที่รู้จักไข่มุกต่างก็คิดไม่ออกว่าสาเหตุที่ทำให้เด็กสาว หน้าตาน่ารักเรียบร้อย เกิดมาในครอบครัวที่พร้อมทุกอย่าง ทำไมถึงได้ตัดสินใจ ฆ่าตัวตายแบบนั้น “หนังเรื่องนี้ แน่ใจแล้วใช่ไหม ว่าพี่ตะวันจะมาเล่นเป็นพระเอก”อลิสเปลี่ยนเรื่องพูด เพราะเธอไม่อยากได้ยินเรื่องนี้แล้ว ถึงแม้จะไม่อยากได้ยิน แต่เธอก็ไม่เคยลืม และจำได้ดี ว่าไข่มุก ตายเพราะใคร“แน่ใจสิ แล้วเขาอยากได้นางเอกหน้าลูกครึ่งแบบเธอด้วย ฉันว่าเธอผ่านแน่ๆ” ทามชื่นชมเพื่อน“ดูสนับสนุนจริงได้ค่าหัวคิวไหม ถามจริงๆ” อลิสส่งยิ้มแบบรู้ทันให้
1ความสูญเสีย “มาวิน วันนี้ไข่มุกไม่มาเรียนอีกแล้วเหรอ” อลิสถามถึงเพื่อนรักด้วยความเป็นห่วง “ไม่มาอีกแล้วล่ะมั้ง นี่ก็สายมากแล้ว เดือนนี้ทั้งเดือน เห็นไข่มุกเอาแต่เงียบ ถามอะไรก็ไม่อยากจะคุย ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าเป็นอะไร ” มาวินเริ่มรู้สึกหงุดหงิด กับการที่ไข่มุก อยู่ดีๆก็เปลี่ยนไป จากสาวน้อยสดใส พูดเก่ง กลายเป็นคนเงียบ แววตาเศร้าตลอดเวลา แต่ยิ่งเงียบ ก็ยิ่งไม่มีเพื่อนคนไหนกล้าถาม “ไข่มุกมันจะทะเลาะกับพี่ตะวันหรือเปล่าวะ ถึงได้เปลี่ยนไปเป็นคนนิ่งเงียบแบบนี้” ไข่มุกเล่าให้เพื่อนๆของเธอฟังว่า เธอกับพี่ตะวันซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยและเป็นนายแบบชื่อดัง ทั้งคู่แอบคบหากันอยู่ แต่ก็ยังไม่มีใครเคยเห็นทั้งคู่ไปไหนมาไหนด้วยกัน นอกจากเห็นจากภาพถ่ายในโทรศัพท์ของไข่มุก ที่เธอชอบจะเอามาให้เพื่อนได้ดูกันเสมอตะวันขอร้องให้ไข่มุกเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ เพราะกลัวมีผลต่อเรื่องาน อาจจะเป็นเพราะเหตุผลนี้ เพื่อนๆถึงไม่เคยมีโอกาสเจอทั้งคู่พร้อมกันคำบอกเล่าเหตุผลที่ไข่มุกบอกกับมาวินและอลิส เวลาที่ทั้งคู่ถาม ว่าทำไมถึงไม่เคยเห็นตะวันมาหาไข่มุกบ้างเลย