Share

สตรีใบ้ยอดภรรยา
สตรีใบ้ยอดภรรยา
Author: ไห่ถาง

ตอนที่ 1 มิติคู่ขนาน

ถนนเส้นรอบเมือง

          อวิ๋นชีกำลังขับรถพร้อมเปิดเพลงเบา ๆ เธอพักร้อนยาวจากกองทัพ ซึ่งมันไม่ง่ายเลยสำหรับหน่วยรบพิเศษ และมีตำแหน่งสูงแบบเธอที่จะได้หยุดพักยาว ๆ

หญิงสาวเลือกที่จะไปหาครอบครัวที่อยู่นอกเมือง เพื่อใช้เวลาทั้งหมดกับพ่อแม่และน้องสาว ผู้พันสาวเอื้อมมือไปปิดเพลง เมื่อเห็นได้ถึงความผิดปกติจากรถคันหลัง

“วันพักผ่อนของฉันแท้ ๆ”

หญิงสาวเอื้อมไปหยิบปืนที่อยู่เบาะข้างคนขับ มาวางไว้บนตักเพื่อเป็นการไม่ประมาท ถึงเธอจะไม่ได้เปิดเผยเรื่องหน้าที่การงานให้ใครรู้มากนัก แต่จะว่าไปแล้วคนในมักมีเกลือเป็นหนอน

ตัวตนของเธออาจถูกเปิดเผย กับพวกธุรกิจสีมืดไปบ้างแล้วก็ได้ หญิงสาวเลือกที่จะเปลี่ยนเส้นทาง เพราะไม่อยากนำอันตรายไปหาครอบครัว

และดูเหมือนกับว่าสิ่งที่เธอคิดอยู่นั้น จะเป็นเรื่องจริงเสียซะแล้ว เพราะรถสองคันด้านหลังเปลี่ยนทิศทางตามเธอมาติด ๆ ปิ๊ด! ปิ๊ด! ปิ๊ด! ปี๊ดดดด!!! เสียงแตรรถจากสั้น ๆ เปลี่ยนเป็นลากยาว เพื่อให้รถบรรทุกสองคันด้านหน้า ที่กำลังขับคู่กันมารู้ว่ามีรถอยู่ด้านหน้า

ตูม! โครม! ทว่ามันกลับไม่เป็นผล รถของผู้พันสาวหักหลบรถบรรทุกเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ใหญ่ข้างทาง ตูม! รถบรรทุกหนึ่งในสองคัน พุ่งเข้าชนรถของผู้พันสาวเต็มแรงอีกครั้ง

เรียกว่าเหมือนการซ้ำไม่ให้คนที่อยู่ภายในรถมีโอกาสรอด อวิ๋นชีทำได้แค่กระพริบตาปริบ ๆ ตลอดทั้งตัวของเธอไม่อาจขยับได้เลย กลิ่นควันเหม็นไห้โชยเข้ามาในจมูก ทำให้เธอรู้ว่าไม่มีทางรอดสำหรับเธอแล้วในตอนนี้

“ช่วยด้วย! ช่วยข้าด้วย!”

อวิ๋นชีได้แต่ยิ้มน้อย ๆ เมื่อเธอคิดไปเองว่าได้ยินเสียงของใครเรียกให้ช่วย แค่ตัวเอในตอนนี้ ยังยากที่จะช่วยเหลือตัวเองได้ แล้วเธอจะไปช่วยใครได้อีก เสียงนั้นชัดขึ้นในหัวของเธอ ก่อนที่ทุกอย่างจะดับมืดไป พร้อมร่างกายที่สิ้นไร้เรี่ยวแรง

มิติคู่ขนาน

            “อือ ๆ”

            หญิงสาวใบหน้าเปื้อนคราบน้ำตา กำลังวิ่งหนีกลุ่มชายฉกรรจ์หลายคนอย่างสุดกำลัง นางไม่อาจเปล่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากใครได้ มีเพียงแค่เสียงในลำคอเท่านั้น ที่ดังออกมาพอให้ได้ยิน

            วันนี้สาวใช้ของนาง ได้พาออกมาเก็บผลท้อที่อยู่ในสวนห่างจากจวนของท่านอาพอสมควร เหมือนในทุกครั้งที่ผลท้อสุก แต่อยู่ ๆ สาวใช้ของนางก็ขอไปปลดทุกข์ ปล่อยให้นางรอมากว่าครึ่งก้านธูป

            เสียงของคนเดินเข้ามาหา นางคิดว่าเป็นสาวใช้ ทว่ามันกลับเป็นชายฉกรรจ์กว่าห้าคน ไม่มีการพูดคุยอันใดมากความ คนพวกนั้นตั้งใจที่จะล้วงเกินนาง จนถึงกับลงมือทำร้ายนาง

            และตอนนี้นางกำลังหนี แต่จะหนีไปที่ใดเล่า ในเมื่อเส้นทางกลับจวนไม่อาจย้อนไปได้ นางเลือกที่จะวิ่งไปข้างหน้าเพียงอย่างเดียว ต่อให้ต้องตายนางก็ไม่ยอมให้ตนเอง ต้องได้รับความอัปยศเป็นอันขาด

            “ฮ่า ๆ ข้าอยากเป็นเขยท่านเสนาบดียิ่งนัก อย่าหนีไปไหนอีกเลยคุณหนูใหญ่ มีพวกข้าเป็นสามีในคราเดียวถึงห้าคน นับว่าวาสนาของท่านมากแล้ว”

            คำพูดที่ดังไล่หลังมา ทำให้หญิงสาวไม่อาจหยุดเท้าได้เลย ปึก! ตุบ! ร่างบางกลิ้งหลุน ๆ ไปชนกับต้นไม้ เมื่อเท้าของนางสะดุดกับรากไม้ทำให้เสียหลัก

            “อือ ๆ”

            หญิงสาวทำได้เพียงส่งเสียงร้องในลำคอ สองมือพยายามที่จะยันกายเพื่อลุกขึ้นก้าวต่อ แต่มันไม่ทันเสียแล้ว เมื่อร่างสูงใหญ่ของชายฉกรรจ์ทั้งห้า ได้มาหยุดยืนล้อมนางเอาไว้

            ใบหน้างามที่เปรอะเปื้อน ทำได้เพียงส่ายไปมาเพื่อปฏิเสธสิ่งที่ทั้งห้าเสนอแก่ตน ไยชะตาชีวิตของนางโหดร้ายถึงเพียงนี้ ห้าขวบเกิดเจ็บป่วยจนทำให้ไร้เสียงพูดจนกลายเป็นใบ้ และถูกส่งมาอยู่ไกลจนเกือบถึงชายแดนกับท่านลุงท่านป้า

            นี่นางเพิ่งพ้นวัยปักปิ่นมาได้เพียงสองเดือน ความหวังของนางที่จะได้กลับเมืองหลวง ไยมันถึงลิบหรี่ยิ่งนักเล่า ถ้านางแปดเปื้อนจากคนทั้งห้านี้ ชีวิตนางคงหมดสิ้นแล้วทุกอย่าง

            “งดงามบริสุทธิ์จริง ๆ มันคงได้อารมณ์ยิ่งนัก ในยามที่เจ้าส่งเสียงครางใต้ร่างของพวกข้า ฮ่า ๆ”

            “นั่นสิ! นางเป็นใบ้เวลาครางออกมา คงน่าตื่นเต้นและได้อารมณ์มากทีเดียว”

            ถ้อยคำจาบจ้วงของคนทั้งห้า ทำให้ร่างบางสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว หากนางต้องอยู่อย่างอัปยศ นางเลือกที่จะสู้จนตัวตายเสียจะยังดีกว่า

            เมื่อคิดได้ดังนั้น หญิงสาวดึงปิ่นปักผมออกมากำเอาไว้แน่น ก่อนจะกวัดแกว่งใส่หนึ่งในห้าที่ย่างสามขุมเข้าหานาง

“โอ้ย! นังบ้า!”

ผั๊วะ! ตึก! ฝ่ามือใหญ่ตบเข้าที่ใบหน้าของหญิงสาวเต็มแรง จนศีรษะของเชียนอวิ๋นกระแทกเข้ากับต้นไม้อย่างจัง ร่างบางทรุดลงแน่นิ่งกับพื้น โดยไม่รู้เลยว่าต่อให้นางไร้ซึ่งสติรับรู้ ชายหนุ่มทั้งห้าก็ไม่คิดที่จะปล่อยนางไป

เชียวอวิ๋นถูกช้อนอุ้มร่าง ก้าวหายไปยังอีกด้านของป่า ซึ่งมีวัดร้างตั้งอยู่ ใช้เวลาเพียงครู่เดียวคนทั้งห้า ได้พาร่างไร้สติมาถึงที่หมาย พร้อมพากันหัวเราะอย่างชอบใจ ที่พวกเขากำลังจะได้เชยชมคุณหนูสกุลใหญ่

            เชียวอวิ๋นถูกวางลงบนพื้นที่มีเพียงหญ้าแห้ง ก่อนที่ชายหนุ่มทั้งห้าจะตกลงกันถึงลำดับก่อนหลัง ที่จะได้เสพสุขกับร่างงาม แน่นอนว่ามันยากนักที่จะตกลงกันได้

โดยพวกเขาไม่รู้เลยว่าสิ่งที่กำลังถกเถียงกันอยู่นั้น คนที่นอนสิ้นสติอยู่ได้รับรู้มันทั้งหมด และคนที่หลับตานิ่งเองก็กำลังสับสนกับเรื่องราวที่พรั่งพรูเข้ามาในหัวเช่นกัน

ทว่าทุกอย่างต้องหยุดลง เมื่อคนทั้งห้าหาข้อสรุปกับลำดับก่อนหลังกันได้แล้วอย่างลงตัว ชายหนุ่มคนแรกได้ก้าวเข้ามาภายในห้อง โดยคนที่เหลือเฝ้าดูต้นทางอยู่ด้านนอก

            “หากเจ้าว่าง่าย คงไม่ต้องเจ็บตัวขนาดนี้”

            หมับ! ยังไม่ทันที่มือหยาบกร้านจะได้แตะต้องหญิงสาว มือบางของคนที่สิ้นสติ กลับคว้าจับข้อมือเขาเอาไว้แน่น ดวงตาที่ปิดสนิทได้เปิดขึ้นสบตากับชายหนุ่ม

            ความหวาดกลัวที่เคยมีของนาง ไยต้อนนี้มันถึงแปรเปลี่ยนไปราวกับมิใช้คนเดิมเสียแล้วล่ะ! ชายหนุ่มคิดอยู่ในใจ เมื่อเห็นถึงความไม่เหมือนเดิมของหญิงสาว ก่อนความสงสัยจะหายไป เมื่อเรียวปากอิ่มคลี่ออกเล็กน้อย

‘คนถ่อยพวกนี้ ในหัวคิดมุ่งหวังเพียงเรื่องต่ำช้าเสียจริง ๆ’ หญิงสาวคิดหยันอยู่ภายในใจ สภาพในตอนนี้ทำอะไรมากไม่ได้ นอกจากแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status