Share

ตอนที่ 4 ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ

            คำถามของผู้เป็นอา หาได้ละมุนหูแม้แต่น้อย คนพวกนี้อาศัยเงินทองจากบิดาของนาง แต่กลับไม่เคยใยดีนางเท่าที่ควร สายตาที่เปลี่ยนไปของหลานสาว ทำให้เชียวหลางขมวดคิ้วจนชิดกัน

            เขากลับมาจากการค้า ก็ได้ยินว่าหลานสาวหนีออกไปเที่ยวเล่นยังไม่กลับบ้านมาหลายวัน แน่นอนว่าเขาย่อมต้องมีโทสะอยู่แล้ว แต่จากที่เขาเห็นในตอนนี้เห็นทีต้องสืบสาวราวเรื่องให้ดี หาไม่แล้วคงต้องมีเรื่องใหญ่โตเกิดข้นเป็นแน่

            กระดาษกับพู่กันถูกนำมาให้แก่เชียวอวิ๋น เพื่ออธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นแก่ผู้เป็นอา หญิงสาวมองเลยไปยังอาสะใภ้ ก่อนจะจรดปลายพู่กันเขียนสิ่งที่เกิดขึ้นลงไป

แน่นอนว่าก่อนกลับมา นางเตรียมความพร้อมมาเป็นอย่างดี พยานที่มีย่อมยากที่ใครจะชนะได้ เพราะตัวนางยังต้องก้มหัวให้แก่เขา หญิงสาวยื่นส่งกระดาษให้แก่ผู้เป็นอา ก่อนจะมองไปยังห่อผ้าที่อยู่บนพื้นตรงหน้าของสาวใช้

เมื่อเห็นสายตาของคุณหนู สาวใช้รีบคว้าห่อผ้าแล้วซ่อนไว้ในแขนเสื้อ ทุกการกระทำหาได้รอดพ้นสายตาของเชียวหลาง เขาได้พยักหน้าให้แก่คนสนิทเข้าคุมตัวสาวใช้เอาไว้

“เจ้ารู้หรือไม่ว่าบ่าวที่ละเลยต่อนาย จะต้องรับโทษเช่นไร”

“นายท่านบ่าวมิได้ทำนะเจ้าคะ คุณหนูแอบหนีไปเที่ยวกับชายหนุ่มในเมืองเองนะเจ้าคะ” สาวใช้ละล่ำละลักแก้ตัวในทันที

“เจ้าว่าอะไรนะ! ท่านพี่เรื่องนี้เห็นทีท่านต้องจัดการให้ดีนะเจ้าคะ หลานสาวของท่านไยทำเรื่องเสื่อมเสียเยี่ยงนี้ได้”

เชียวหลางเหลือบมองภรรยาด้วยสายตาแข็งกระด้าง สิ่งที่เขาพยายามมองข้ามมาตลอดหลายปี ซึ่งดูเหมือนเขาจะแสร้งตาบอดอีกต่อไปไม่ได้แล้ว เพราะครั้งนี้เหมือนจะมีคนร้อนตัวเผยออกมาให้เห็นเสียก่อน

“ชายหนุ่มอันใดกัน อวิ๋นเอ๋อร์ไม่ได้เอ่ยถึงแม้แต่น้อยเลย”

สาวใช้ของเชียวอวิ๋นถึงกลับสิ้นเรี่ยวแรง ก่อนจะเงยหน้ามองไปที่ฮูหยินของนายท่านเชียวหลาง แค่นี้เชียวหลางก็มีคำตอบในใจแล้ว ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกับหลานสาว

            “สกุลเชียวเมตตาเจ้าไม่มากพอหรือ เจ้าถึงได้กล้าทำร้ายสายเลือดของสกุลเชียวได้ลงคอ”

            “ท่านพี่! ท่านคิดจะเชื่อในสิ่งที่คนใบ้พูด มากกว่าข้าที่ร่วมหมอนกับท่านเช่นนั้นรึ!”

            “ข้าแสร้งหูหนวกตาบอดมาตลอดหลายปี เพื่อความสงบสุขในบ้าน อีกอย่างอวิ๋นเอ๋อร์ก็ไม่เคยถือสากับการกระทำของเจ้าสักครั้ง แต่ครั้งนี้ข้าไม่อาจช่วยสิ่งใดเจ้าได้เลย”

            “ท่านพี่หมายความว่าอย่างไรเจ้าคะ”

            เชียวหลางหันไปยังด้านหน้าประตูจวน คนที่กำลังเดินเข้ามา ทำให้เชียวฮูหยินถึงกับเข่าอ่อน ท่านเจ้าเมืองผู้ตรงฉินเดินมาหยุดอยู่ต่อหน้าของทุกคน

            “ท่านเจ้าเมือง เรื่องนี้ข้าขอเป็นคนจัดการเองได้หรือไม่ขอรับ”

            แน่นอนว่าเรื่องนี้เขาเองก็เพิ่งรู้ก่อนหน้านี้เพียงครึ่งชั่วยาม ก่อนที่หลานสาวจะกลับเข้ามาในจวน ซึ่งคนที่มาแจ้งข่าวนี้คือที่ปรึกษาของท่านเจ้าเมือง

และคนผู้นั้นก็แฝงตัวควบคุมมิให้เขาช่วยเหลือภรรยา ซึ่งถ้าเขาช่วยภรรยา มันเท่ากับว่าเขาร่วมมือกับนางทำร้ายหลานสาว นั่นเท่ากับเขาดับทั้งชีวิตลงเพียงเพราะเห็นผิดเป็นชอบ

            “ท่านเชียวโปรดเข้าใจข้าด้วย ในเมื่อคุณหนูเชียวเป็นผู้ร้องทุกข์ต่อข้า มิหนำซ้ำข้าคือคนที่ช่วยเหลือนางมาด้วยตนเอง เรื่องนี้ถือว่าคนอยู่เบื้องหลังมีความผิดต้องรับโทษตามกฎหมาย หากข้าปล่อยผ่าน เช่นนั้นแล้วกฎหมายบ้านเมืองจะศักดิ์สิทธ์ได้หรือ”

            “ไม่นะ! นางปรักปรำข้า ท่านเจ้าเมืองคนใบ้ไม่อาจพูดได้ นางจะเขียนคำโกหกต่อท่านแบบไหนก็ได้ ข้าไม่เกี่ยวนะเจ้าคะ ข้าไม่ได้ทำอันใดเลยจริง ๆ นะเจ้าคะ”

            เชียวฮูหยินร้องไห้ฟูมฟาย พร้อมคำพูดที่พรั่งพรูราวคนเสียสติ ส่วนท่านเจ้าเมืองและเชียวอวิ๋นได้แต่ยิ้มในหน้า เพราะทั้งคู่ไม่ทันได้พูดให้กระจ่าง แต่วัวสันหลังหวะกลับพูดมันออกมาเสียเอง โดยไม่ต้องสืบสาวให้เปลืองแรง

            ท่านอาจารย์ของนางไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ ขนาดท่านเจ้าเมืองยังช่วยเหลือ โดยที่นางไม่ต้องอธิบายอะไร มีเพียงอาจารย์ของนางเป็นคนพูดและสั่งการต่อท่านเจ้าเมือง ผลออกมาเหมือนอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด คนในจวนนี้คือผู้ที่หวังทำลายเจ้าของร่าง

            “คนใบ้ไร้ค่าเยี่ยงนาง ขนาดพ่อแม่แท้ ๆ ยังไม่เอา พวกเขาส่งสวะนี้มาให้เราเลี้ยงดู ทุกอย่างล้วนสิ้นเปลือง...”

            เพี๊ยะ! ใบหน้างามสะบัดตามแรงฝ่ามือ เมื่อเชียวหลางไม่อาจทนฟังคำพูดของภรรยาได้อีกต่อไป

            “เจ้ารู้อะไรไหม! เงินทองเสื้อผ้าเนื้อดีที่เจ้าสวมใส่ มันล้วนมาจากบิดาของอวิ๋นเอ๋อร์ทั้งสิ้น หน้าที่ของเจ้าแค่ดูแลนางให้ดี ไยเจ้าถึงได้มองเพียงแค่นางพูดไม่ได้ แล้วคือปัญหาไปได้เล่า”

            “ถ้านางไม่ใช่ตัวปัญหา ทำไมพี่ชายของท่านถึงต้องส่งนางมาที่นี่ ทำไมไม่ให้นางอยู่เป็นคุณหนูใหญ่เฉิดฉายอยู่ในเมืองหลวง ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขาก็อับอายที่มีนาง”

            เชียวฮูหยินยังคงเถียงสามีคอเป็นเอ็น นางไม่ชอบให้ใครมองว่าลูก ๆ ของนางต้องอาศัยทุกสิ่งอย่างจากเชียวอวิ๋น ในงานปักปิ่นของหลานสาวสามี บอกชัดว่าแม้จะเป็นใบ้ เชียวอวิ๋นก็ยังได้รับความเอ็นดูจากผู้คนไม่น้อย

            อีกทั้งสาสน์สำคัญจากเมืองหลวง ที่นางแอบซ่อนไว้ มันทำให้นางต้องกำจัดเชียวอวิ๋นไปซะ! เพื่ออนาคตอันสดใสของบุตรสาว หญิงใบ้เอาอันใดมาได้ดีกว่าหญิงสาวที่เพียบพร้อมเช่นลูกของนางได้เล่า

            “ท่านพ่อ! โปรดอภัยให้ท่านแม่ด้วยนะเจ้าคะ ข้ามิอยากเป็นพี่อวิ๋นแล้วก็ได้ ไม่แต่งเข้าจวนอ๋องอะไรนั่นด้วย”

            “เงียบปากไปซะ! เจ้าจะพูดทำไมกัน!”

            เชียวฮูหยินตวาดแวดใส่บุตรสาว ที่มิรู้ความอันใดเลย ทุกคำพูดของบุตรสาวมันจะทำให้เรื่องที่ยุ่งยากอยู่แล้ว เพิ่มความยุ่งยากเข้าไปอีกหลายเท่าตัว

            “นี่เจ้าคิดจะให้ลูกของเรา สวมรอยเป็นอวิ๋นเอ๋อร์ เพื่อไปแต่งเข้าจวนอ๋องเช่นนั้นรึ! เจ้ามันโง่เขลานัก”

            “ทำไม! นางเป็นสวะไร้ค่า ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งพระชายาสักนิด อีกอย่างอีกตั้งสามปีกว่าจะถึงเวลานั้น ลูกของเราก็จะเติบโตสมบูรณ์แบบเหมาะแก่ฐานะพระชายา”

            ทุกคนที่ได้ฟังทางถอนหายใจหนัก ๆ ความรักของแม่นับเป็นเรื่องที่ดี แต่มันผิดที่เป้าหมายมันไม่ถูกต้องเท่านั้น แล้วมันยิ่งน่าสมเพชเข้าไปอีก เมื่อต้องมีคนตายเพื่อความเฉิดฉายของใครอีกคน

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status