Share

ตอนที่8. ว่าได้หรือ?

            อี้หรูเคาะประตูเบา ๆ ก่อนจะเปิดประตูเข้ามา หญิงสาวรอจนท่านแม่ทัพจากไป แล้วค่อยเข้ามาพบผู้เป็นนาย โดยให้ผู้ติดตามอีกสองคนเฝ้าดูความปลอดภัยอยู่ในเงามืดด้านนอก

“หึ ๆ เจ้าก็ทำเสียเหมือนตัวข้าเป็นโจร ต้องดูลาดเลาก่อนออกปล้น”

            เชียวอวิ๋นเย้าอี้หรู ซึ่งนางพอใจกับความรอบคอบของอี้หรูยิ่งนัก นางไม่ต้องมีองครักษ์มากมาย แค่อี้หรูกับชายหนุ่มทั้งสองด้านนอกก็มากพอแล้ว

            “ว่าได้หรือเจ้าคะ สกุลแม่ทัพหูตาราวสับปะรด นี่เจ้าค่ะท่านผู้คุ้มร้านขายข่าวเพิ่งส่งมาเจ้าค่ะ”

            เชียวอวิ๋นรับจดหมายจากอี้หรู ก่อนจะคลี่กระดาษออกอ่านอย่างใจเย็น สายตาคู่งามไล่ไปตามตัวอักษรที่สั้นกระชับ แต่ครบถ้วนในสิ่งที่นางต้องรู้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง

            “เขาส่งคนไปแล้วใช่ไหม”

            “เจ้าค่ะ”

            “หมากกระดานนี้ไม่ยากไม่ง่ายเลยจริง ๆ”

            “ฮูหยินไม่เห็นต้องช่วยพวกเขาเลยนะเจ้าคะ”

            “เอาไว้เจ้าแต่งงานเข้าสกุลใหญ่ แล้วจะรู้ว่ามันยุ่งยากวุ่นวายแค่ไหน เขาตายข้าก็ต้องตาย ต่อให้ข้ามิได้ทำสิ่งใดผิดก็ตาม”

            “ใครว่าบ่าวคิดจะแต่งงาน บ่าวจะอยู่กับฮูหยินไปเช่นนี้แหละเจ้าค่ะ”

            “แน่รึ!”

            “มาเจ้าค่ะ บ่าวจะเช็ดผมให้”

            อี้หรูเปลี่ยนเรื่องในทันที เมื่อสายตามีความนัยของผู้เป็นนายส่งมาให้ เชียวอวิ๋นจ่อจดหมายในมือกับเทียนที่กำลังลุกโซน หมากกระดานนี้มันเริ่มขึ้นนานแล้ว แค่เหมือนคนในเงามืดกำลังรอบางอย่างอยู่เช่นกัน

            และนั่นนับว่าเป็นจังหวะที่นางต้องรีบฉวยเอาไว้ เพื่อเพิ่มทางรอดให้แก่ตัวนางและสกุลกวง ในเมื่อสกุลเชียวทิ้งขว้างเบี้ยเช่นนาง ก็ไม่จำเป็นที่นางต้องแบกสกุลเดิมไว้บนบ่าให้หนัก

            เสียงนกกลางคืนขับขาน ทำให้สองนายบ่าวหยุดการสนทนา ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่กระดาษจดหมาย กลายเป็นเถ้าหมดแล้วเช่นกัน เสียงเคาะประตูจะดังขึ้น อี้หรูจึงเดินไปเปิดตามหน้าที่ กวงฮูหยินก้าวเข้ามาด้านใน ด้วยใบหน้าแย้มยิ้ม

            “อวิ๋นเอ๋อร์ แม่ต้องขอโทษแทนเฉินหลางด้วย ที่ทำให้เจ้าต้องอับอายเยี่ยงนี้”

            กวงฮูหยินรู้สึกอับอายต่อสิ่งที่บุตรชายกระทำ แต่ก็ไม่อาจจะสอดแทรกเรื่องภาระหน้าที่ของลูกได้ นางจึงต้องมาพบลูกสะใภ้เพื่อปลอบประโลม ในฐานะผู้หญิงด้วยกัน ย่อมเข้าใจดีว่าคืนแรกของการแต่งงานมันสำคัญแค่ไหน

            เชียวอวิ๋นส่งภาษามือเรียกอี้หรู เพื่อช่วยแปลคำพูดของนางให้แก่แม่สามี อี้หรูรีบเดินมาหยุดยืนข้างกายผู้เป็นนาย เพื่อถ่ายทอดคำพูดให้แก่กวงฮูหยินได้รับรู้

            “ฮูหยินน้อยรู้สึกขอบคุณ กวงฮูหยินมากเจ้าค่ะที่เป็นห่วงเจ้าค่ะ”

            “หากต้องการสิ่งใดบอกแม่ได้ทุกเมื่อนะจ๊ะ ดึกแล้วเจ้าพักผ่อนเถิด แม่จะกลับไปนอนแล้วเช่นกัน”

            เชียวอวิ๋นย่อกายให้แก่แม่สามี แล้วช่วยประคองหญิงสูงวัยไปส่งยังหน้าประตู เชียวอวิ๋นมองไปยังลานด้านหน้าเรือน สมกับเป็นเรือนของแม่ทัพ ทุกอย่างล้วนไร้สีสันยิ่งนัก

            “พรุ่งนี้เปลี่ยนสีที่นี่ให้สมกับมีนายหญิงด้วยล่ะ” หญิงสาวเอ่ยกระซิบกับอี้หรูเบา ๆ หลังแม่สามีลับสายตาไปแล้ว

            “เจ้าค่ะ”

            สองนายบ่าวกลับเข้าไปภายในห้อง ปล่อยให้การเฝ้ายามด้านนอก เป็นของสองผู้ติดตามที่ซ่อนตัวอยู่ภายในเงามืด ชีวิตนางมีสิ่งใดต้องหวาดกลัวอีกเล่า ขนาดอยู่ต่างโลกยังมายืนตรงนี้ได้เลย แม้ว่าจะไม่ใช่ด้วยร่างกายตัวเอง แต่นี่ก็นับว่าเหนือความเป็นจริงมากแล้ว

เจ็ดวันถัดมา ณ เรือนหลาง

            เรือนที่เคยไร้สีสัน บัดนี้มันปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ดอกไม้นานาพันธุ์ถูกนำมาปลูกและจัดวางอย่างงดงาม โดยมีน้องสาวของสามีคอยมาพูดเจื้อยแจ้วอยู่ไม่ห่าง

แม้พี่สะใภ้ของนางจะพูดไม่ได้ แต่การได้อ่านข้อความผ่านตัวอักษร มันทำให้นางเพลิดเพลินอยู่ไม่น้อย การเป็นน้องสาวแม่ทัพ ทำให้นางมักถูกล้อเลียนว่าคงหยาบกระด้างเช่นพี่ชาย ทำให้นางไม่ชื่นชอบการออกไปพบปะสหายนอกจวน

ทว่าตลอดเจ็ดวันมานี้ นางคลุกอยู่กับพี่สะใภ้แทบจะตลอดเวลา ทำให้นางมีความสุขกว่าที่ผ่านมามากนัก กวงหลิวหลีถามนั่นนี่ เมื่อเห็นสมุนไพรที่ไม่เคยรู้จัก

“พี่สะใภ้ เบื่อข้าแล้วหรือไม่เจ้าคะ”

กวงหลิวหลีเอ่ยถามเสียงอ่อย เมื่อเห็นพี่สะใภ้ทำคิ้วขมวด ตอนที่สาวใช้ของพี่สะใภ้เข้ามากระซิบกระซาบอยู่ครู่หนึ่ง เชียวอวิ๋นคลี่ยิ้มละมุน ก่อนจะส่ายหน้าน้อย ๆ พร้อมจูงมือของน้องสามีไปดูปลาสวยงามที่อยู่ในอ่างบัว

หญิงสาวพอจะเข้าใจเด็กสาวได้เป็นอย่างดี หลังจากที่นางได้ให้คนสืบเรื่องราวของกวงหลิวหลี ว่าเหตุใดน้องสามีจึงมักเก็บตัวอยู่เพียงลำพัง

นางจึงยอมเป็นเพื่อนเล่นให้แก่เด็กสาว โดยไม่รู้สึกรำคาญอันใด แต่มันเป็นการดีเสียอีก เพราะมันช่วยปกปิดตัวตนอีกด้านของนาง จากสายตาผู้อื่นได้อย่างดีเยี่ยม

“ข้าอยากให้เรือนของข้าสวยแบบนี้บ้าง”

‘ได้สิ!’

เชียวอวิ๋นเขียนลงไปในกระดานไม้ ที่หรูอี้คอยถือเดินติดตาม เพื่อให้นางสื่อสารกับทุกคนได้อย่างสะดวก แน่นอนว่าอุปกรณ์เช่นนี้นางสั่งทำขึ้นมาโดยเฉพาะ ทำแท่งสีจากส่วนผสมพิเศษ เอาไว้สำหรับเขียนบนกระดานไม้ที่ลบได้

“แต่ท่านพ่อคงไม่ยอมจ่ายค่าของพวกนี้ให้ข้า”

‘เด็กโง่! ไยต้องขอท่านพ่อเล่า ของพี่ชายเจ้าออกจะมีมากมาย’

“พี่ใหญ่จะไม่ว่าเอารึเจ้าคะ ข้ายังเด็กหากใช้เงินเกินตัวจะถูกลงโทษเอาได้นะเจ้าคะ”

‘ข้าจัดการให้เอง พรุ่งนี้เราไปเลือกของที่เจ้าต้องการกัน’

“ขอบคุณพี่สะใภ้”

รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของกวงหลิวหลี ทำให้สองสามีภรรยาที่ยืนอยู่ห่างออกไปอีกด้าน รู้สึกดีขึ้นมามากทีเดียว หลายอย่างที่ทำให้บุตรสาวไม่อยากพูดคุยกับใคร ทว่าเวลานี้นางกลับมาสดใสตามวัยอีกครั้ง มันจะมีสุขใดเท่าสิ่งนี้อีกเล่า

“นางรู้จักเอาใจผู้คนเสียจริง ขนาดพูดไม่ได้”

“เจ้ามองอย่างไรว่านางเอาใจ นางแค่เป็นตัวเองก็เท่านั้น ตั้งแต่นางมาอยู่ที่จวนของเรา มีครั้งไหนไหมที่นางมาประจบประแจงกับเราสองคน เงินทองที่ใช้ตกแต่งเรือน ล้วนเป็นของนางทั้งสิ้น”

“ไหนว่าท่านเสนาบดี ไม่ได้มอบสินเดิมให้นางมากนักนี่เจ้าคะ”

“เจ้าคิดว่าอย่างไรเล่า บุตรสาวที่พ่อแม่แทบไม่ให้สินเดิม แต่กลับมีเงินทองใช้มากมาย เหมือนกับว่ามันมีมากเสียจนจะใช้อย่างไรก็ได้โดยไม่ต้องคิดคำนวณ นางทำอะไรอยู่ที่ฮั่วโจวถึงได้ร่ำรวยได้ขนาดนี้”

กวงเจี้ยนครุ่นคิดพร้อมกับมองไปที่ลูกสะใภ้ การที่เขาไม่ปฏิเสธเชียวอวิ๋นในตอนที่รู้เรื่องเปลี่ยนตัวเจ้าสาว เพราะเขาไม่อยากที่จะบาดหมางกับสกุลเชียว ด้วยถือเป็นคำมั่นของคนรุ่นพ่อแม่

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status