Share

ตอนที่10.  มิต้องเกรงใจ

ต้วนเหนียงก้าวตรงไปยังหน้าประตูใหญ่ นางอยากที่จะไปหาเชียวอวิ๋นสักครั้ง คราก่อนมัวปะทะคารมกันจนมิได้ทันได้ทักทาย หากเทียบกับบุตรสาวของนางที่แต่งไปอยู่ถึงชายแดนเหนือแล้ว เชียวอวิ๋นน่าเห็นใจกว่าหลายเท่านัก

เวลาผ่านไปกว่าหนึ่งก้านธูป รถม้าสกุลเชียวได้หยุดอยู่หน้าจวนแม่ทัพ ก่อนที่ฮูหยินรองจะเดินเข้าไปภายในจวน โดยมีพ่อบ้านสกุลกวงเป็นผู้นำทางเพื่อไปพบกับเจ้าของบ้าน

“ต้วนเหนียงคารวะใต้เท้ากวง ฮูหยินกวงเจ้าค่ะ”

ต้วนเหนียงทักทายเจ้าของบ้าน ก่อนจะหันไปรับของฝากจากสาวใช้ ซึ่งได้แวะซื้อมาระหว่างทาง

“ขอบคุณเจ้าค่ะสำหรับของฝาก ฮูหยินรองมาพบอวิ๋นเอ๋อร์ใช่หรือไม่เจ้าคะ”

กวงฮูหยินรับของจากมือแขกผู้มาเยือน ก่อนถามถึงจุดประสงค์ของอีกฝ่าย จะชอบหรือไม่นี่คือแขกนางหาได้คิดปฏิเสธไมตรี

“เจ้าค่ะ”

“เช่นนั้นรอสักครู่นะเจ้าคะ อวิ๋นเอ๋อร์คงอยู่ในครัวกับหลิวหลี”

การสนทนาของสตรีทั้งสอง ต่างเป็นสัพเพเหระตามประสาแม่บ้าน ส่วนกวงเจี้ยนขอตัวไปทำงาของตน ต้วนเหนียงรับรู้ได้ว่าสองสามีเมตตาต่อเชียวอวิ๋นอยู่ไม่น้อย

“อวิ๋นเอ๋อร์ ฮูหยินรองเชียวมาเยี่ยมเจ้า”

เชียวอวิ๋นย่อกายให้แก่ฮูหยินรองเชียว นางแปลกใจเล็กน้อย ที่อยู่ ๆ ภรรยารองของบิดามาพบนางถึงที่นี่ หญิงสาวพร้อมน้องสามีพากันเข้ามานั่งร่วมกับมารดาทั้งสอง

“ข้ามาในวันนี้ก็เพียงห่วงใย เจ้าอยู่ต่างเมืองมาเสียนาน เกรงว่าจะทำเรื่องขายหน้า จนเป็นที่ตำหนิของจวนแม่ทัพเอาได้”

‘ท่านแม่รองอย่าได้กังวล ท่านพ่อท่านแม่เมตตาต่อข้ายิ่งนักเจ้าค่ะ’

เชียวอวิ๋นยื่นส่งกระดานไม้ให้แก่แม่รองของตน ดวงตาที่มองกันในวันนี้มันแตกต่างกว่าวันแรกที่พบหน้า นางไม่เข้าใจว่าทำไมใจลึก ๆ ถึงได้อบอุ่นนัก

หรือเพราะนางไกลบ้าน คิดถึงแม่จากอีกโลกกระมัง แต่ใจดวงนี้เป็นของเชียวอวิ๋น นางอาจสุขใจที่มีคนห่วงหา จากทุกคำพูดบอกชัดว่ามารดารองมาที่นี่ โดยไม่มีจุดประสงค์อื่นใดแอบแฝง นอกจากการมาเยี่ยมเยียนทั่ว ๆ ไป

“ขอบคุณฮูหยินกวงที่เมตตาบุตรสาวของข้า แม้ว่านางจะมิได้กำเนิดจาดครรภ์ของข้า แต่อย่างไรก็เอ็นดูกันมาตั้งแต่เล็ก”

“มิต้องเกรงใจไป อวิ๋นเอ๋อร์คือครอบครัวของเราเจ้าค่ะ”

‘ท่านแม่รอง กินขนมฝีมือข้าสักหน่อยไหมเจ้าคะ’

“ได้สิ!”

หลังจากอ่านข้อความจากกระดานไม้ ต้วนเหนียงรีบตอบรับ ก่อนจะหยิบขนมขึ้นมาพินิจ รูปลักษณ์อาจไม่งดงามเท่าใดนัก แต่กลิ่นอันหอมหวนชวนให้ลิ้มลองนัก

ต้วนเหนียงถึงกับทำตาโต เมื่อขนมคำแรกผ่านเขาไปในปาก ความหอมหวานละมุนลงตัวนัก ทั้งยังเป็นขนมที่นางไม่เคยกินมาก่อนเลย เชียวอวิ๋นคลี่ยิ้มน้อย ๆ

นางทำขนมนี้ตามที่ผู้เป็นอาจารย์เคยสอน เพื่อให้กวงหลิวหลีและพ่อแม่สามีได้กินสมุนไพรบำรุงร่างกาย โดยไม่ต้องทนกลืนยาขม ๆ ซึ่งยากนักที่ทุกคนจะทนกินมันได้จนหมด

เหมือนการหลอกเด็กกินยา ต้องหาวิธีทำให้กินง่ายแต่คงประโยชน์ เห็นทีนางต้องทำให้แม่รองได้กินบ้างแล้ว จากสีหน้าแล้วนางคิดว่าแม่รองคงไม่ค่อยสบายเท่าใดนัก

“รสชาติหวานละมุน ข้าไม่เคยกินมาก่อน มันทำมาจากสิ่งใดบ้างเล่า”

‘เป็นขนมที่คนแก่ทางฮั่วโจวเคยสอน ข้าเรียกมันว่าบุพผาพร่างพราวเจ้าค่ะ มันทำจากดอกไม้และสมุนไพรล้ำค่าหลายชนิด ส่วนผสมล้วนมีประโยชน์ต่อร่างกายเจ้าค่ะ’

“การอยู่ไกลบ้าน ทำให้เจ้าลำบากไม่น้อยเลยสินะ”

ต้วนเหนียงรู้สึกจุกอยู่ที่อกอย่างไรไม่รู้ มือนุ่มคว้ามือของลูกเลี้ยงมาบีบเบา ๆ สิ่งที่นางสัมผัสได้ ทำให้คนเป็นแม่ที่ต่อให้มิอุ้มท้องมาถึงกับน้ำตารื่น มันควรเนียนนุ่ม ทว่ามือของเชียวอวิ๋นกลับหยาบกระด้างนัก

“ท่านพี่ก็ช่างใจร้าย เจ้าคงลำบามากใช่หรือไม่”

‘ไม่เลยเจ้าค่ะ ข้าสบายกว่าอยู่เมืองหลวงเสียอีก ท่านแม่รองค่อย ๆ กินนะเจ้าคะ เย็นนี้ข้าจะทำอาหารให้ท่านแม่ลองได้ชิม’

ทุกตัวอักษร ที่ต้วนเหนียงไล่อ่านไปตามการเขียนของเชียวอวิ๋น ทำให้นางแทบอยากจะร้องโฮออกมาเสียให้ได้ บุตรสาวของนางตั้งแต่เล็กจนโต มักอยู่ในความดูแลของฮูหยินใหญ่ ไม่เคยแม้แต่จะทำขนมให้นางได้ชิมสักชิ้น

แต่วันนี้บุตรสาวของสตรีผู้นั้น กลับเป็นคนทำให้นางได้ลิ้มรส ทั้งยังเชิญชวนนางร่วมมื้ออาหาร ที่ปกตินางกินเพียงลำพังมาตลอดหลายปี มันรู้สึกอิ่มเอมใจยิ่งนัก

“เย็นนี้กินข้าวด้วยกันนะเจ้าคะฮูหยิน นาน ๆ เราจะได้มีโอกาสได้สนทนากัน อวิ๋นเอ๋อร์มักทำอาหารของฮั่วโจวให้เราได้กินอยู่บ่อยครั้ง ถ้ารสชาติจะแปลกไปก็คงต้องทำใจสักนิด เพราะหลิวหลีช่วยปรุง”

“เช่นนั้นข้ามิเกรงใจแล้วนะเจ้าคะ”

สตรีทั้งสองผูกขาดการสนทนา เสียงหัวเราะสลับการหวีดร้องเบา ๆ ของกวงหลิวหลี ทำให้บรรยากาศภายในจวนสดใสขึ้นกว่าที่เคยหลายเท่า แม้ว่าจะมีเรื่องให้เคร่งเครียดอยู่มาก แต่สตรีในบ้านไม่ควรต้องแบกสิ่งใดให้หนัก นั่นคือความคิดของบุรุษสกุลกวง ที่มักใช้เสมอยามมีเรื่องหนักหนายากแก้ไข

ยามค่ำคืนได้มาเยือน หลังมือค่ำเสร็จสิ้นลง เชียวอวิ๋นขอที่จะเป็นคนไปส่งมารดาเลี้ยงที่จวนด้วยตนเอง การที่ภรรยารองของบิดามาหานาง ย่อมตกเป็นเป้าสายตา และความปลอดภัยคงยากจะมีอยู่เช่นเดิม

“ไม่น่าต้องลำบากเลย ข้ากลับเองได้”

‘ให้ข้าทำหน้าที่ลูกนะจ้าคะ’

“ขอบคุณนะ อวิ๋นเอ๋อร์”

            ทั้งคู่ก้าวขึ้นรถม้าสกุลกวง ก่อนที่จะเคลื่อนตัวออกไปอย่างเชื่องช้า หายเข้าไปในความมืดมดยามค่ำคืน ดวงตาของต้วนเหนียงรู้สึกหนักอึ้งด้วยความง่วง เชียวอวิ๋นประคองใบหน้าของมารดาเลี้ยงให้พิงไหล่ของตนเอง

            ตลอดสองข้างทางที่เริ่มเป็นป่า ทำให้เชียวอวิ๋นและผู้ติดตามทั้งหมดระวังตัวเป็นพิเศษ ศัตรูของพวกนางอาจไม่มี แต่ของสามีนั้นรอบด้านเลยก็ว่าได้

            การที่นางไม่ยินยอมให้พ่อสามีออกมาส่งมารดารอง เพราะถ้าเกิดสิ่งใดขึ้นกับเขา นั่นอาจทำให้สามีของนางขาดสติ และมันจะส่งผลอีกมากต่อสกุลกวง

            ‘ไม่รู้ข้าแต่งงานมาเป็นองครักษ์ หรือแต่งมาเป็นเมียที่ควรอยู่สวย ๆ รวย ๆ เห้อ!’

หญิงสาวได้แต่ถอดถอนหายใจ เมื่อนึกถึงสิ่งที่ต้องพบเจอ นับตั้งแต่ก้าวเข้าจวนสามีแล้ว แต่ทำอย่างไรได้ชีวิตเขาและนางแขวนไว้คู่กัน เขาตายนางก็ตายอยู่ดี หนีได้ก็จะนานสักแค่ไหนกัน แล้วทำไมต้องหนี ในเมื่อนางไม่ได้ทำสิ่งใดผิด

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status