หลังจากที่กลับมาในตอนหัวค่ำพาลินก็เอาแต่นิ่งเงียบ ภาพที่ปีเตอร์เดินควงกับหญิงสาวสวยคนนั้นกลับผุดขึ้นมาในหัวครั้งแล้วครั้งเล่า พาลินนั่งขดตัวอยู่บนโซฟา มือทั้งสองข้างกุมไหล่ที่เหน็บหนาวเอาไว้ เธอไม่ควรจะคิดเรื่องนี้ด้วยซ้ำไป เพราะไม่เกี่ยวด้วยสักหน่อย ไม่ว่าเขาจะทำอะไรจะไปกับใครก็ตามแต่...
“บ้า! บ้าที่สุด” เธอพึมพำกับตัวเองเป็นสิ่งที่ไม่ชินเพราะปกติแล้วเขาไม่เคยเดินไปไหนมาไหนกับผู้หญิงคนอื่นยกเว้นกับเธอ ความรู้สึกนี้เหมือนกับตอนที่พี่แทนรักคุณขวัญ จนไม่สนใจเธอ เจ็บ!เธอเกลียดความรู้สึกแบบนี้ที่สุดเสียงออดดังขึ้นติดต่อกันหลายครั้ง พาลินสะดุ้งจากภวังค์พร้อมกับมองไปที่ประตู หญิงสาวลุกขึ้นเดินไปที่ประตูก่อนจะมองว่าเป็นใคร มือนั้นลังเลใจที่จะเปิด สุดท้ายแล้วก็เปิดและมองหน้าเขาที่ยิ้มให้กับเธอ“ยังไม่นอนใช่ไหม?” ชายหนุ่มเอ่ยถามขึ้น พาลินส่ายหน้าเป็นคำตอบ“เข้าไปข้างในได้ไหม?”“อืม” เธอหลีกทางให้เขาเดินเข้ามาในห้องก่อนที่จะปิดประตูลงพาลินสบสายตามองแววตาคู่ที่อบอุ่น หัวใจ ของเธอระทวยลงเมื่อเห็นเขามองแบบทนำปึก!เสียงหนังสือพิมพ์ทั้งฉบับถูกวางลงบนโต๊ะตรงหน้าอย่างแรง หญิงสาวเจ้าของใบหน้าเรียวรูปไข่ที่นั่งทำงานอยู่ถอนหายใจพร้อมเงยหน้าขึ้นมามองด้วยความสงสัยและแปลกใจ“นี่ไงที่แกบอกว่าเขาหล่อนักหล่อหนา” วรรณรดาผู้เป็นเพื่อนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจ ครั้นเมื่อมองใบหน้าของณัฐกฤตาที่รู้จักกันมาเกือบสิบปีที่ยังทำหน้าตาไม่รู้ร้อนรู้ร้อนหนาวก็ยิ่งโมโหใหญ่“ก็แล้วไงล่ะ? ฉันชอบเขา”ณัฐกฤตาพูดด้วยน้ำเสียงไม่ใส่ใจกับข่าวตรงหน้าที่เพื่อนสาวนำมาให้“แกชอบเขา แต่ฉันไม่ชอบ ฉันบอกแกเลยว่าอย่าไปคบเด็ดขาด!” วรรณรดาเอ่ยขึ้นอย่างฉุนเฉียวเพราะเธอรู้ดีว่าน้องนิสัยเป็นอย่างไร แล้วอย่างนี้คนพี่จะเหลือหรือไง!“จะอะไรนักหนากันยัยดา แกรู้ได้ไงว่าคบด้วยไม่ได้ ฉันว่าเขาเป็นผู้ชายที่อ่อนโยนและเพอร์เฟ็กต์ จนฉันอยากอยู่ใกล้ทุกวันเลย”ณัฐกฤตาลุกขึ้นพร้อมกับลุกขึ้นยืนมองใบหน้าเพื่อนสาว“ก็...ก็อยู่กับผู้ชายที่เป็นเกย์เนี่ยนะ แกพูดออกมาได้ยังไง” วรรณรดาถามพลางมองใบหน้าของผู้เป็นเพื่อนสนิทที่ยิ้มระรื้อออกมาอย่างมีความสุข ก่อนจะส่ายหน้าถอนหายใจออกมา ถ้าไม่เป็นเพราะเจอโดยบังเอิญในวันนั้นอย่างที่เล่าให้ฟังป่านนี้คงไ
บทที่ 1บรรยากาศภายในห้องรับแขกที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด หญิงสาววัยกลางคนนั่งอยู่บนโซฟา ใบหน้าซีดเซียวแทบจะเป็นลมจับเมื่อได้อ่านข่าวของ ลูกชายที่ออกหนังสือพิมพ์พาดหัวหน้าหนึ่ง“ยาดม ๆ อยู่ไหน” นิตยลัภย์พูดเสียงเหนื่อย ๆ ในขณะที่สาวใช้ คนสนิทก็รีบวิ่งไปนำยาดมมาให้ทันที“ใจเย็น ๆ นะคะ คุณผู้หญิง” แก้วใจพูดปลอบ ซึ่งไม่ได้ทำให้รู้สึกดีขึ้นแม้แต่น้อย แต่ยิ่งทำให้คนฟังเดือดเข้าไปอีก“ใจเย็น !” นิตยลัภย์ลุกขึ้นพูดมองลูกชายคนโตด้วยสายตาเดือดพล่านแสดงถึงอารมณ์ขุ่นมัว จนคำด่าบรรยายออกมาแทบไม่ถูก“รู้ไหม แกทำอะไรลงไป !” นิตยลัภย์ตวาดลั่นด้วยความโกรธเกรี้ยว ใบหน้าสวยที่เริ่มมีริ้วรอยแดงก่ำด้วยความขุ่นเคือง“ผมไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ครับ”แทนไทตอบและมองด้วยสีหน้ารู้เครียด เขาไม่ได้ทำอะไรผิดแต่เป็นเพราะพวกนักข่าวชอบทำความวุ่นวายให้ต้องเดือดร้อน ทั้งที่จริงแล้วแทบจะไม่ไปยุ่งกับเรื่องวงการบันเทิงเลยสักนิด“ไม่ผิด ! นี่แกยังจะมาพูดแบบนี้อีกเหรอ !” นิตยลัภย์ตวาดเสียงเข้ม สีหน้าแสดงถึงการรับไม่ได้ของข่าวที่ออกมา“พวกนักข่าวชอบเสือก ตีไข่ใส่สี”ชายหนุ่มสบถออกมาด้วยความหงุดหงิดใจ“เสือกนั่นแหละดีแล้ว ฉันจะได้
หญิงสาวนั่งจ้องมองหนังสือพิมพ์เป็นเวลานานเกือบชั่วโมงหลังจากที่เพื่อนสาวนำข่าวเข้ามาบอกในตอนสาย วินาทีนี้หัวใจแทบแตกสลายลง เขาจะไม่เป็นอย่างที่ในข่าวบอกออกมาใช่ไหม ?ณัฐกฤตาถอนหายใจจนนับครั้งไม่ถ้วน ครั้นเมื่อชำเลืองสายตามองภาพที่ทนรับไม่ได้ แค่ข่าวออกมาก็พอว่าอยู่ แต่นี่เล่นมีภาพหลุดออกมาว่าเขาจับมือกับวศินพระเอกชื่อดังอีก เธออยากจะร้องไห้จริงๆ“ไม่จริง ! ข่าวที่ออกมาต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ ๆ เลย คุณแทนของฉันไม่ได้เป็นเกย์...” ณัฐกฤตาบ่นพร่ำออกมาด้วยความเสียใจวรรณรดาปาปารัสซี่สาวมองหน้าตาของเพื่อนที่แสดงถึงความเศร้าเสียใจเมื่อผู้ชายที่แอบปลื้มแอบชอบดันมีข่าวว่าเป็นเกย์ แถมทั้งภาพที่ออกมาก็บอกอยู่เต็มตาว่าคือ แทนไท !“ยอมรับความจริงซะ ถึงยังไงแกก็ไม่มีทางสู้ผู้ชายได้หรอกนะ”ดูเหมือนจะเป็นคำปลอบใจที่แทงใจคนฟังน่าดู“แกพูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง แกว่าฉันสวยสู้ผู้ชายไม่ได้หรือไง !” ณัฐกฤตาขึงตามองเพื่อนสาวที่ส่ายหน้าให้อย่างหมดหวัง“เปล่า ๆ ฉันก็แค่บอกว่าแกจะใช้ความสวยไปสู้กับผู้ชายเนี่ยนะ มันดูไม่แปลกไปหน่อยหรือไง”“ไม่ ! ฉันเชื่อว่าคุณแทนยังมีจิตใจที่เป็นชายอยู่...บ้าง”คำว่า บ้าง ช่างแ
“คุณแม่หมายถึงคุณแทนไทเหรอคะ”เธอถามทั้งที่ในใจก็แอบลุ้นให้เป็นเขาอยู่รอมร่อ“ใช่แล้วล่ะ” เทพทัตตอบแทนที่ณัฐกฤตาจะดูเศร้าเสียใจ แต่กลับยิ้มออกมาอย่างมีความสุข สวรรค์โปรด ! ใครจะโง่ไม่แต่งงาน ต่อให้เขาเป็นเกย์คิดหรือว่าจะยอมให้เป็นไม่มีทาง !“ขวัญจะแต่งงานค่ะ !” หญิงสาวพูดโพล่งขึ้น เล่นเอาคนเป็นพ่อเป็นแม่ถึงกับมองด้วยความประหลาดใจ เพราะเมื่อครู่ยังปฏิเสธอยู่เลย“ขวัญจะเเต่งกับ....”“ใช่ค่ะ” น้ำเสียงตั้งมั่นจนคนเป็นพ่อเป็นแม่ฟังดูแล้วรู้สึกแปลกขึ้นมาทันที เทพทัตและทัสนันทน์มองหน้ากัน ในใจคงคิดไม่ต่างกันสักเท่าไหร่“ขวัญลองคิดดูก่อนก็ได้ไม่ต้องรีบตอบหรอกลูก ใจจริงแม่ก็ไม่ได้อยากจะให้แต่ง แต่แค่บอกให้เราตัดสินใจ แม่กับพ่อไม่ได้บังคับนะ” ทัสนันทน์พูดขึ้นเพื่อให้ลูกสาวของเธอนั้นได้ใช้เวลาทบทวนก่อนตัดสินใจอีกครั้งหนึ่ง“พ่อไม่รีบเอาคำตอบหรอกนะ คิดดูเอาเองถ้าไม่แต่งพ่อจะได้โทรไปบอกทางฝ่ายนั้น เพื่อความสบายใจของลูก...”“ขวัญตัดสินใจจะแต่งงานกับคุณแทนไทจริง ๆ ค่ะ”แทนไทเดินออกจากห้องภายในคอนโด ฯ ที่วศินอยู่ เขาใช้เวลาคุยกันไม่ถึงห้านาทีด้วยซ้ำไปแต่ทว่ากลับไม่ได้ความอะไรเลย ครั้นจะโทร. ไปคุยอ
“ก็คุณแม่กลัวพี่ชายสุดที่รักของผมเผลอใจไปรักกับผู้ชายไม้ป่าเดียวกัน ก็เลยจะให้แต่งงานซะเลยเพื่อลบข่าวแถมยังไม่ต้องกลัวว่าพี่ชายจะไปคว้าผู้ชายที่ไหนมาเป็นสะใภ้น่ะครับ” เตชินท์ร่ายยาว แต่สุดท้ายความหมายเดิมคือ ลบข่าวออกโดยการแต่งงาน ! แทนไทมองหน้าน้องชายที่ยิ้มเจ้าเล่ห์ให้อย่างมีความสุข เขาอยากจะชกสักหมัดไปที่หน้าของเตชินท์สักทีสองทีจริงๆ “เพราะแกใช่ไหมที่แม่ต้องทำแบบนี้” ชายหนุ่มกัดฟันถาม มือแกร่ง กำหมัดแน่นเพื่อระงับอารมณ์โกรธที่อยู่ในใจ “เปล่า คุณแม่นั่งกลุ้มใจเครียดแทบจะเป็นลม ผมก็เลยเป็นที่ปรึกษาให้น่ะ” น้ำเสียงของเตชินท์ตอบโดยไม่คิดอะไร “ออกไปซะ” เขาออกปากไล่ เตชินท์ยิ้มรับพร้อมกับหลุดขำออกมา “ผมหวังดีนะ ไม่อยากให้พี่ชายเดินทางผิดคิดเป็นเกย์” แทนไทฟังคำพูดทิ้งท้ายของน้องชายที่เดินออกไปจากห้อง แต่เสียงหัวเราะก็ยังคงดังก้องอยู่ในหูเขา “บ้าเอ๊ย !” แทนไทสบถออกมา เขาเดินมานั่งลงที่ปลายเตียงพร้อมกับถอนหายใจออกมาอย่างแรง นี่เจ้าน้องชายตัวแสบถึงกลับเสนอวิธีแบบนี้ให้แม่เลยอย่างนั้นเหรอ...เขาไม่ใช่เกย์สักหน่อย ! แต่ถึงจะบังคับให้แต่งงานยังไงก็ไม่มีทางสำเร็จเพราะจะมีผู้หญิงค
ณัฐกฤตาออกมาพบวรรณรดาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งหลังจากที่เมื่อตอนเที่ยงอีกฝ่ายได้โทร. มานัดเพราะต้องการคุยเรื่องการแต่งงานของเธอกับแทนไทให้กระจ่างรู้เรื่องหญิงสาวเดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้าพร้อมกวาดสายตามองหาร้านอาหารที่เพื่อนของเธอนัดพบก่อนจะเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว“มาแล้วเหรอ นึกว่ากำลังเพ้อฝันถึงคุณแทนไทจนลืมเพื่อนซะแล้ว” วรรณรดาแซวพลางมองใบหน้าของณัฐกฤตาที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่“บ้า ใครจะเพ้อถึงขนาดนั้น” หญิงสาวร้องด้วยน้ำเสียงเขินอาย“จะแต่งจริง ๆ เหรอ” สายตาของวรรณรดามองมาเหมือนกับบอกว่า...คิดให้ดีอีกครั้งเถอะ !“ก็บอกแล้วไงว่าคุณแทนเขาไม่ใช่เกย์” หญิงสาวแก้ตัวแทนชายหนุ่มแม้จะเคยคุยกับเขาเพียงไม่กี่ครั้ง แต่ก็รับรู้ว่าเขาต้องไม่ใช่ในแบบที่ทุกคนคิดอย่างแน่นอน“มีออกรับแทนด้วย เป็นหนักนะเนี่ย” วรรณรดาพูดด้วยความหมั่นไส้“เปล๊า” คนตอบทำเสียงสูงยิ้มแก้มบาน“ช่างเถอะ แกแต่งฉันไม่ได้แต่ง แล้วกำหนดวันแต่งหรือยังว่าวันไหน”“ยังหรอก เห็นว่าจะดูฤกษ์แต่งงานกัน
ไม่มีข้อแม้ ยังไงซะงานแต่งงานจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน !”นั่นเป็นคำพูดที่เขาไม่มีทางปฏิเสธได้อีกแล้ว ชายหนุ่มเดินกลับมาที่ห้องทิ้งตัวลงที่นอนด้วยความอ่อนล้าพร้อมถอนหายใจออกมาอย่างหนัก เมื่อรู้ว่าหญิงสาวที่จะแต่งงานด้วยไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นณัฐกฤตาเครียด ! เขาเครียดมากกว่าเดิมอีกเป็นหลายสิบเท่าตัวทำไมหล่อนถึงตกลงแต่งงาน !เขารู้จักกับหญิงสาวเพราะร่วมงานกันเมื่อหลายเดือนก่อน เธอเป็นคนออกแบบชุดนางแบบโฆษณาให้กับเขา พบเจอและคุยงานกับเธอไม่กี่ครั้งเท่านั้น ครั้งแรกที่เจอคงจะเป็นเมื่อปีที่แล้วที่เขามาดูการถ่ายแบบโฆษณาน้ำหอมพอดีกับที่เธอเป็นผู้ออกแบบเสื้อผ้านักแสดงที่ต้องใช้ในกองถ่ายที่เตชินท์ทำงานอยู่หลังจากนั้นหลายเดือนก็ไม่ได้พบอีกแต่แล้วอยู่ ๆ กำลังจะมาเป็นเจ้าสาวทั้งที่เขาไม่รู้สึกอะไรเลยย่างนั้นเหรอ ทำไม่ได้ ! เขาจะไม่มีวันยอมแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักเด็ดขาด แทนไทลุกขึ้นจากเตียง เดินเข้าไปในห้องน้ำด้วยความหงุดหงิดและสับสนกระวนกระวายใจ...ให้ตายเถอะ !หลังจากที่รับประทานอาหารมื้อเย็นเสร็จ เตชินท์ขับรถออกจากบ้านอย่างรวดเร็ว เรื่องทุกอย่างกำลังสนุก
แทนไทรีบใส่ชุดคลุมให้เรียบร้อยก่อนจะหันมามองณัฐกฤตาที่นั่งอยู่บนเตียงแล้วส่งสายตาหื่นมองมาที่เขา“อย่ามองผมด้วยสายตาหื่นแบบนี้” เขาพูดก่อนจะเดินออกห่าง“เปล่านะ” เธอรีบปฏิเสธ ทั้งที่ยังจ้องมองร่างของชายหนุ่มไม่วางตา อกแบนราบเห็นกล้ามเนื้อเป็นมัดทุกสัดส่วนคุณพระ ! นี่มันหุ่นว่าที่พ่อของลูกเธอชัด ๆ“ออกไปจากห้องผมซะ ผมจะเปลี่ยนเสื้อผ้า” ชายหนุ่มกล่าว“ไม่ค่ะ ฉันยังไม่รู้เลยว่าคุณเป็นเกย์จริง ๆ หรือเปล่า” หญิงสาวส่ายหน้าพร้อมลุกขึ้นขยับเข้ามาใกล้ สายตาส่งมองเขาอย่างยั่วยวนทั้งที่ใจกลับกลัวเขาอยู่รอมร่อ“ออกไปซะ ถ้ามีใครมาเห็นมันจะไม่ดี” แทนไทตอบพร้อมเดินถอยออกห่างจนชิดติดกำแพงอีกข้าง“ดีเลยค่ะ ฉันช๊อบชอบ” หญิงสาวพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงร่าเริ่ง“ผม-เป็น-เกย์” เขาพูดเน้นย้ำชัดทุกคำ“ฉันไม่เชื่อว่าผู้ชายอย่างคุณจะเป็น !” ณัฐกฤตาพูดอย่างมั่นใจ“ผมเป็น และเสียใจด้วย” แทนไทยิ้มหญิงสาวส่ายหน้ามองเขาราวกับรับความจริงไม่ได้“
หลังจากที่กลับมาในตอนหัวค่ำพาลินก็เอาแต่นิ่งเงียบ ภาพที่ปีเตอร์เดินควงกับหญิงสาวสวยคนนั้นกลับผุดขึ้นมาในหัวครั้งแล้วครั้งเล่า พาลินนั่งขดตัวอยู่บนโซฟา มือทั้งสองข้างกุมไหล่ที่เหน็บหนาวเอาไว้ เธอไม่ควรจะคิดเรื่องนี้ด้วยซ้ำไป เพราะไม่เกี่ยวด้วยสักหน่อย ไม่ว่าเขาจะทำอะไรจะไปกับใครก็ตามแต่...“บ้า! บ้าที่สุด” เธอพึมพำกับตัวเองเป็นสิ่งที่ไม่ชินเพราะปกติแล้วเขาไม่เคยเดินไปไหนมาไหนกับผู้หญิงคนอื่นยกเว้นกับเธอ ความรู้สึกนี้เหมือนกับตอนที่พี่แทนรักคุณขวัญ จนไม่สนใจเธอ เจ็บ!เธอเกลียดความรู้สึกแบบนี้ที่สุดเสียงออดดังขึ้นติดต่อกันหลายครั้ง พาลินสะดุ้งจากภวังค์พร้อมกับมองไปที่ประตู หญิงสาวลุกขึ้นเดินไปที่ประตูก่อนจะมองว่าเป็นใคร มือนั้นลังเลใจที่จะเปิด สุดท้ายแล้วก็เปิดและมองหน้าเขาที่ยิ้มให้กับเธอ“ยังไม่นอนใช่ไหม?” ชายหนุ่มเอ่ยถามขึ้น พาลินส่ายหน้าเป็นคำตอบ“เข้าไปข้างในได้ไหม?”“อืม” เธอหลีกทางให้เขาเดินเข้ามาในห้องก่อนที่จะปิดประตูลงพาลินสบสายตามองแววตาคู่ที่อบอุ่น หัวใจ ของเธอระทวยลงเมื่อเห็นเขามองแบ
“ไปหาเจฟน่ะ เขาชวนฉันไปเดินเที่ยว”“งั้นเหรอ” เขาขานรับแบบไม่พอใจ แต่ก็ไม่อยากไปขัดขวางจึงตัดสินใจลุกขึ้นแล้วพูดว่า “งั้นผมกลับก่อน เที่ยวให้สนุกล่ะ” ขณะที่พาลินเดินเข้าไปในห้องนอนทำนองว่า เธอฟังแต่ไม่ได้สนใจมากเท่าไหร่ชายหนุ่มหัวเราะให้ตนเองอย่างสมเพช ทั้งที่ก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นไปไม่ได้...“คุณดูไม่มีความสุขนะเวลาที่อยู่กับผม” เจฟพูดขึ้น เพราะตั้งแต่เดินซื้อของก็ไม่เห็นเธอปริปากพูดสักคำ มีเพียงแค่เขาถามและเธอตอบเท่านั้น“เปล่าสักหน่อย แค่รู้สึกไม่สบาย” พาลินโกหก“งั้นเหรอ ให้ผมไปส่งดีไหม”หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่ต้องหรอก”“งั้นก็แล้วแต่นะ ถ้ามีเรื่องอะไรอยากให้ผมช่วยบอกได้นะ ยินดีเสมอ” ชายหนุ่มบอกพร้อมกับยิ้มให้“ขอบคุณนะ”เจฟ คือเพื่อนที่เรียนอยู่มหา’ ลัยเดียวกับเธอแต่คนละสาขาวิชา เธอรู้มาตลอดว่าตั้งแต่เรียนอยู่หลายครั้งที่ชายหนุ่มแสดงออกกับความรู้สึกที่มีต่อเธอ...ทว่าคงเป็นไปไม่ได้“โอ้นั่น! ปีเตอร์นี่มากับสาว
“ตอนนั้นโกรธค่ะ โกรธมากด้วยแต่ตอนนี้ไม่แล้วค่ะ เพราะฉันก็มีส่วนที่ทำให้คุณเป็นแบบนี้”“ไม่หรอกครับ ผมต่างหาก ถ้าผมไม่คิดจะทำร้ายคุณผมคงไม่ต้องมาทรมานอยู่แบบนี้ คุณเป็นผู้หญิงที่ดี ผมดีใจที่คุณแทนรักคุณ” วศินพูดพร้อมกับยิ้มให้หญิงสาวสำหรับเขาแล้วความรักของเขาคงจะเป็นเพียงได้แค่การมองดูและแอบชอบต่อไป ไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็จะไม่เคยลืม เพราะว่ารักไม่จำเป็นต้องได้อยู่ด้วยกัน สำหรับเขาขอแค่มองห่าง ๆ ต่อไปก็พอ…แทนไทเดินออกจากห้องน้ำพร้อมส่งสายตามองภรรยาที่นอนดูทีวีอยู่บนเตียงก็อดที่จะยิ้มขำออกมาไม่ได้ สองเท้าก้าวย่างเข้าไปหาแล้วนั่งลงที่ปลายเตียงก่อนขยับเข้าไปหาอย่างช้าๆชายหนุ่มหันไปมองซีรีส์เกาหลีที่ภรรยาสาวกำลังดูอยู่นั้น คู่พระนางกำลังกอดกันอย่างหวานซึ้ง ก่อนหันมามองหญิงสาวที่กำลังจิกหมอนดูเพลินพลางหัวเราะยิ้มเขิน ๆ ออกมา เขาเอื้อมมือไปหยิบรีโมตที่ข้างตัวเธอขึ้นมาพร้อมเลื่อนนิ้วไปที่ปุ่มสีแดงเพื่อกดปิดจอให้ดับลงทันทีที่จอภาพดับสนิทเป็นสีดำณัฐกฤตาหันมามองสามีด้วยความไม่พอใจ พลางเอื้อมมือไปเพื่อแย่งรีโมตคืน“เอาคืนฉันมาเล
“แพงไม่กล้าหรอกค่ะ...ในเมื่อพี่แทนพูดอยู่เสมอว่าแพงเป็นน้องสาวคนเดียวของเขา แม่คิดว่าแพงจะกล้าเหรอคะ แพงกลัว กลัวว่าพี่แทนเขาจะรังเกียจ กลัวว่าพี่แทนจะไม่คุยกับแพง...แต่ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว เป็นเพราะแพงทำให้พี่แทนเกลียด แพงทำร้ายคุณขวัญ แพงเลวใช่ไหมคะคุณแม่”พาลินระบายความทุกข์ในใจออกมาให้ฟัง“ลูกผู้หญิงทุกคนก็อยากอยู่กับคนที่ตัวเองรัก แล้วลูกได้ไปพูดกับ ตาแทนหรือยัง เราควรที่จะพูดทำความเข้าใจนะ” กรพรรณพูดอย่างเห็นใจ“ไม่ดีกว่าค่ะ แพงไม่อยากทำให้พี่แทนเกลียดไปมากกว่านี้” เธอส่ายหน้าพลางยกมือขึ้นปาดน้ำตาบนใบหน้า“แทนไม่เกลียดลูกหรอก เขาก็แค่โกรธที่ลูกทำร้ายเขา ถึงแม้จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจแต่เราก็ผิดนะแพง แม่ว่าควรไปคุยกับเขาให้รู้เรื่อง”“แพงคุยแล้วค่ะ แต่คงไม่มีประโยชน์ค่ะ”“แล้วเราจะหลบหน้าไม่คุยกับตาแทนไปทั้งชีวิตยังงั้นเหรอ แม่ว่ามันอึดอัดนะ” กรพรรณมองลูกสาวด้วยความห่วงใย“เป็นแบบนี้ดีแล้วค่ะ เพราะแพงเป็นคนก่อ แพงก็ต้องเป็นคนยอมรับผลที่แพงก่อ”พาลินยอมรับ
“คุณวศินตอนนี้เป็นอัมพาตครับ เพราะตอนกระแทกฝั่งคนขับถูกกระแทกเข้าอย่างแรงครับ”“เป็นเพราะฉันที่ทำให้...”“ไม่ใช่ความผิดคุณ แต่เป็นความผิดของวศินต่างหากละครับ ถ้าไม่คิดจะทำร้ายคุณคงไม่ต้องพบจุดจบแบบนี้หรอกครับ ดีนะที่ยังไม่พาคุณเข้าโรงแรมไม่ยังงั้นผมจะเป็นคนอัดคุณวศินเอง” แทนไทพูดตามความจริง เพราะถ้าวศินไม่คิดจะทำร้ายภรรยาเขาทุกอย่างก็ไม่ต้องเป็นแบบนี้ เวรกรรมตามทันเร็วราวกับติดปีก ก็ต้องให้วศินรับกรรมที่ก่อไว้“แล้วทำไมถึงรู้ว่าคุณวศินจะพาฉันเข้าโรงแรมล่ะคะ ในเมื่อฉันก็ไม่ได้โทร. บอก หรือว่าคุณไปเยี่ยมเขามาแล้ว ?” หญิงสาวถามด้วยความแปลกใจ“เปล่าครับ ผมไม่ได้ไปเยี่ยม แต่แพงเป็นคนบอกผม...เธอร่วมมือกับคุณวศิน” น้ำเสียงของแทนไทดูหมองเศร้าลงเมื่อพูดถึงพาลิน“คุณพาลิน ? เธอทำแบบนั้นทำไมคะ” ณัฐกฤตาเอ่ยขึ้น“แพงชอบผม เธอเลยทำแบบไม่ทันคิด”“แล้วคุณได้คุยกับคุณแพงหรือยังคะ?” หญิงสาวเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง สายตาคู่สวยมองชายหนุ่มที่ก้มหน้าลง เธอรู้ว่าเขาคิดกับพาลินเหมือ
สามวันแล้วที่ณัฐกฤตายังไม่ฟื้นขึ้นมา ทำให้แทนไทเริ่มเป็นห่วงว่าหญิงสาวจะเป็นอะไรไป เขาไม่ได้เข้าทำงานตลอดสามวัน เพราะว่าจิตใจตอนนี้ไม่อยู่กับงานเลยแม้แต่น้อย ส่วนวศินนั้นอาการสาหัสเพราะเป็นอัมพาตส่วนล่างโดยทั้งหมดเพราะถูกแรงกระแทกอย่างแรง จะกลับมาเดินได้ใหม่คงต้องใช้เวลาอีกสักปีหรือสองปีตามที่หมอบอกแทนไทเอื้อมมือไปลูบที่เส้นผมบางของภรรยาด้วยความรักแล้วความห่วง ส่งสายตามองหญิงสาวในยามหลับ เขาอยากจะให้เธอตื่นขึ้นมาคุย นี่ก็ผ่านมาแล้วสามวันช่างทรมานใจเขาเหลือเกิน คิดถึง...จนแทบปวดใจ“ที่รัก ตื่นขึ้นมานะครับ ผมคิดถึงคุณ” แทนไทพูดพร่ำพร้อมพรมจูบไปทั่วมือสวยของภรรยา“ได้เวลาเช็ดตัวคนไข้แล้วนะคะ”ชายหนุ่มพยักหน้ารับอย่างเข้าใจก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ เมื่อพยาบาลเดินเข้ามาพร้อมกับถาดเช็ดตัวคนไข้แทนไทเดินออกจากห้อง ขณะที่พยาบาลเลื่อนผ้าม่านปิดล้อมเตียงไว้ เขาเดินออกมาตามทางเดินเรื่อย ๆ ก่อนหยุดเดินลงเมื่อเห็นพาลินเดินเข้ามาหา“พี่แทน”พาลินเรียกชายหนุ่มในสรรพนามที่เหมือนเดิม แต่แววตาที่เขามองแตกต่างออกไปอย่างชัดเจ
“ผมรักคุณแทน !”เพียงเท่านี้ก็ไขกระจ่างทุกเรื่องที่อยู่ในใจของหญิงสาวได้หมดคุณวศินเป็น…!“คะ...คุณ...”“ใช่ ! แต่ถ้าไม่เพราะคุณตกลงแต่งงานกับคุณแทนป่านนี้เรื่องคงไม่เป็นแบบนี้ ! ผมวางแผนเพื่อสร้างข่าวให้ผมและคุณแทนกลายเป็นคู่จิ้นในวงการบันเทิงแต่คุณก็ดันมาปิดข่าว และแต่งงานกับคุณแทน...”“แล้วจะจับฉันมาทำไม ทำไมไม่ไปหาคุณแทนล่ะ !”เหมือนจะเข้าใจว่าเขาทำแบบนี้เพื่ออะไร แต่ทำไมไม่ไปบอกคุณแทนไทโดยตรง ทำไมต้องลากเธอเข้ามาเกี่ยวด้วย !“เพราะเมื่อวานไงล่ะที่คุณไปหาผม คุณรู้ไหมว่าคุณแทนตอบว่าอะไร !” วศินยังคงขับรถต่อไปทั้งที่สายตาของเขาสลับมองใบหน้าของณัฐกฤตา“คุณทำแบบนี้คุณแทนก็ไม่ได้หันมาชอบคุณหรอก เขาไม่ได้มีรสนิยมชอบเพศเดียวกันเหมือนกับคุณสักหน่อย”“ชอบไม่ชอบผมไม่สนแล้ว แต่นี้ผมสนแค่ว่าเขาจะเจ็บปวดยังไงบ้าง”“ฉันไม่อยากฟัง ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้ !” หญิงสาวเอื้อมมือไปแย่งพวงมาลัยรถที่ชายหนุ่มบังคับอยู่ให้เขาหยุดจอดรถวศินใช้มือข้างซ้า
“เรื่องอะไรบอกพี่มาพาลิน !”“พี่แทนแพงเจ็บค่ะ ปล่อยแพงก่อน...” หญิงสาวยกมือขึ้นจับมือของเขาที่บีบไหล่เธออยู่ให้ปล่อยออก“บอกพี่มา ขวัญทำไม ?”“พี่แทนรับปากว่าจะไม่เกลียดแพง...”“บอกพี่มา” แทนไทกัดฟันพูด“คุณวศิน...เขาจะวางแผนข่มขืนคุณขวัญ...เลยให้แพงมาถ่วงเวลา...” เพียงแค่ได้ยินหัวใจของแทนไทก็ร้อนรนจนแทบทำอะไรไม่ถูก เขาจ้องมองเธอด้วยสายตาที่ดูแตกต่างไปจากเดิม“บอกมาว่าตอนนี้วศินอยู่ที่ไหน ! ถ้าขวัญเป็นอะไรไป พี่จะโทษแพงคนเดียว !” แทนไทพูดด้วยน้ำเสียงเข้ม มองพาลินตรงหน้าด้วยแววตาโกรธเคือง“คุณวศินจะพาคุณขวัญไปที่โรงแรม...”ทันทีที่ได้ฟังจบแทนไทก็ผลักพาลินออกอย่างไม่แยแส เขาก้าวฉับไวเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้เธอมองชายหนุ่มเดินจากไปทั้งน้ำตา“พี่แทน...แพงขอโทษ” พาลินพูด ขณะมองไปทางประตูพร้อมกับหยดน้ำตาที่เปรอะบนใบหน้าที่ทำไปเพราะรักพี่แทน...แต่แพงทำใจไม่ได้ที่ต้องเห็นพี่แทนเสียใจเกือบเที่ยงหลังจากที่ลูกค้านั้นออกจ
พาลินนั่งอยู่ภายในห้องคนเดียวตั้งแต่ที่กลับมา ในมือกดเปิดและปิดหน้าจอโทรศัพท์อยู่เป็นเวลานาน นั่นเพราะจิตใจสับสนวุ่นวายดูลังเล เบอร์ที่ขึ้นโชว์หน้าจอนั้นไม่ใช่ใครเลยแต่เป็นเบอร์ของวศินพระเอกหนุ่มชื่อดังนั่นเอง ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงต่อไป ถ้าร่วมมือกับวศินแล้วแทนไทจะเกลียดเธอไหม ? พาลินนั่งอยู่นานจนกระทั่งตัดสินใจกดเบอร์ปลายสายนั้นโทรออก[ตัดสินใจได้แล้วหรือครับ]“ค่ะ คุณจะให้ฉันทำอะไรบ้าง” พาลินเอ่ยถามอีกฝ่ายขึ้นทันที[ก็แค่แยกคุณแทนออกจากคุณขวัญก็พอแล้ว]อีกฝ่ายพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก แต่พาลินก็ยังไม่เข้าใจแผนการทั้งหมดของวศินอยู่ดีว่าเขาต้องการทำอะไร“ฉันยังไม่เข้าใจว่าคุณต้องการทำอะไร”[แค่ทำให้คุณขวัญมาเป็นของผม ทีนี้คุณเข้าใจหรือยัง ?]พาลินเริ่มแสดงสีหน้าลังเลและหวาดกลัวออกมา“ได้ แล้วจะให้ฉันแยกพี่แทนออกวันไหน” ในเมื่อเธอตัดสินใจไปแล้วคงจะย้อนกลับไม่ได้อีกต่อไป เธออยากให้เขารู้ว่าเธอยังสำคัญ ดีเหมือนกัน ถ้ารู้ว่าณัฐกฤตามีชู้ เขาคงจะเกลียดผู้หญิงคนนั้นอย่างแน่นอน[พรุ่งนี้ได้ยิ่งดีเลย]&l