บทที่ 1
บรรยากาศภายในห้องรับแขกที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด หญิงสาววัยกลางคนนั่งอยู่บนโซฟา ใบหน้าซีดเซียวแทบจะเป็นลมจับเมื่อได้อ่านข่าวของ ลูกชายที่ออกหนังสือพิมพ์พาดหัวหน้าหนึ่ง “ยาดม ๆ อยู่ไหน” นิตยลัภย์พูดเสียงเหนื่อย ๆ ในขณะที่สาวใช้ คนสนิทก็รีบวิ่งไปนำยาดมมาให้ทันที “ใจเย็น ๆ นะคะ คุณผู้หญิง” แก้วใจพูดปลอบ ซึ่งไม่ได้ทำให้รู้สึกดีขึ้นแม้แต่น้อย แต่ยิ่งทำให้คนฟังเดือดเข้าไปอีก “ใจเย็น !” นิตยลัภย์ลุกขึ้นพูดมองลูกชายคนโตด้วยสายตาเดือดพล่านแสดงถึงอารมณ์ขุ่นมัว จนคำด่าบรรยายออกมาแทบไม่ถูก “รู้ไหม แกทำอะไรลงไป !” นิตยลัภย์ตวาดลั่นด้วยความโกรธเกรี้ยว ใบหน้าสวยที่เริ่มมีริ้วรอยแดงก่ำด้วยความขุ่นเคือง “ผมไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ครับ” แทนไทตอบและมองด้วยสีหน้ารู้เครียด เขาไม่ได้ทำอะไรผิดแต่เป็นเพราะพวกนักข่าวชอบทำความวุ่นวายให้ต้องเดือดร้อน ทั้งที่จริงแล้วแทบจะไม่ไปยุ่งกับเรื่องวงการบันเทิงเลยสักนิด “ไม่ผิด ! นี่แกยังจะมาพูดแบบนี้อีกเหรอ !” นิตยลัภย์ตวาดเสียงเข้ม สีหน้าแสดงถึงการรับไม่ได้ของข่าวที่ออกมา “พวกนักข่าวชอบเสือก ตีไข่ใส่สี” ชายหนุ่มสบถออกมาด้วยความหงุดหงิดใจ “เสือกนั่นแหละดีแล้ว ฉันจะได้รู้ว่าแกไปทำอะไรไว้บ้าง ลูกชายฉันแต่ละคน งามหน้าทั้งนั้น โอ๊ย ๆ ฉันอยากจะเป็นลม” นิตยลัภย์บ่นพร้อมยกมือขึ้นกุมขมับ ลูกชายคนโต...แทนไทที่เธออุตส่าห์เลี้ยงมาเป็นอย่างดีหวังพึ่งให้ สืบทอดกิจการต่อจากสามี แต่ที่ไหนได้ดันไปมีข่าวกับดาราซะงั้น แถมยังเป็นดาราผู้ชายซะด้วย แล้วแบบนี้เธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ! ส่วนเตชินท์ลูกชายคนเล็กที่อายุห่างจากคนโตเพียงปีกว่าๆ จะให้เธอหวังอะไรได้ แค่เดินออกนอกเส้นทางที่เธอให้เรียนก็มากพอแล้ว แต่นี่วันๆ ไปมั่วอยู่กับผู้หญิงทั้งวันทั้งคืนไม่กลับบ้าน ทั้งมีข่าวหน้าหนึ่งขึ้นควงนางแบบดาราแทบทุกวัน “คุณแม่ก็อย่าไปเชื่อตามข่าวสิครับ” แทนไทพูดขึ้น “อย่าไปเชื่อ ! แกพูดออกมาได้ยังไง แล้วในข่าวจะไม่ให้ฉันคิดได้ยังไง” “เรื่องโกหกครับ” เขาตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “โกหก ! ภาพถ่ายชัดเจนแบบนี้แกยังจะเรียกว่าโกหกอีกเหรอ !” นิตยลัภย์ชี้นิ้วลงไปที่หน้าหนังสือพิมพ์ แทนไทลุกขึ้นไปหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมา นัยน์ตาคมจ้องมองข่าวพร้อมรูปข้าง ๆ ข่าวด้วยความโกรธและโมโห “ภาพนี้ไม่ใช่ผม!” เขาปฏิเสธเสียงแข็ง “ไม่ใช่ ! จับมือถือแขนนี่หรือว่าไม่ใช่ !” นิตยลัภย์ตวาดด่าลูกชายด้วยอารมณ์โกรธอย่างหยาบคาย “ไม่ใช่ ผมมั่นใจว่าไม่ใช่ผม !” แทนไทตอบเหมือนเดิมทั้งที่ภาพนั้นแสดงออกมาอย่างชัดเจน ชายหนุ่มมองหนังสือพิมพ์ที่วางอยู่ตรงหน้าด้วยความไม่พอใจ เขากัดฟันกรอด กำหมัดแน่นด้วยความเจ็บใจ เขาจะต้องรู้ให้ได้ว่าใครเป็นคนคิดข่าวขึ้น ! มือของนิตยลัภย์ยังคงถือยาดมสูดดมเพื่อระบายความเครียดจากอกให้หายไป แต่ก็ไม่ลดลงไปได้ หัวใจแทบวาย ดีไม่พามาแนะนำตัวเธอคงอกแตกตายพอดีเมื่อรู้ว่าลูกชายตัวเองชอบผู้ชายด้วยกัน ! “งามหน้า จับมือถือแขนผู้ชายจนออกเป็นข่าว ฮึ ! อีกคนก็หายไปนอนกับผู้หญิงทั้งวันทั้งคืน ฉันอยากจะบ้าตาย” นิตยลัภย์นั่งลงบนโซฟาก่อนยกแขนขึ้นวางพนักพิงพร้อมกับส่ายหน้าสูดยาดม แทนไทลุกขึ้นจากโซฟาในขณะที่เตชินท์เดินเข้ามาพอดี ชายหนุ่มมองใบหน้ากะล่อนของน้องชายเจ้าเล่ห์ที่ยิ้มให้เขาแบบขำ ๆ คงจะเห็นข่าวแล้วสินะ ถึงได้รีบกลับมาที่บ้าน ไม่อย่างนั้นวันนี้คงไม่กลับมาที่บ้านอย่างแน่นอน “สวัสดีครับพี่ชายสุดแมนของผม” เตชินท์ชายหนุ่มใบหน้าหล่อเข้มเอ่ยทักพร้อมกับหัวเราะออกมา “สวัสดีครับคุณแม่สุดสวย วันนี้ผมกลับมาแล้วครับ” ลูกชายคนเล็กเดินเข้ามานั่งข้าง ๆ พร้อมหอมแก้มของมารดาด้วยความชื่นใจก่อนจะหันไปยิ้มเยาะเย้ยให้กับพี่ชายคนโตที่เหล่ตามองด้วยความขุ่นเคืองก่อนเดินจากไป “กลับมาได้แล้วเหรอ หรือว่าไปทิ้งไข่ไว้ที่ไหนอีกล่ะ” นิตยลัภย์พูดประชด พลางมองหน้าลูกชายคนเล็กด้วยความไม่พอใจเช่นเดียวกัน “โธ่ คุณแม่ครับ ผมไม่กล้าอีกแล้วละครับ” เตชินท์พูดคำหวานพร้อมยิ้มแก้มป่องทำท่าออดอ้อน “ฮึ ! พอกันเลย ฉันไม่น่าภูมิใจที่มีลูกชายเลยสักนิด” นิตยลัภย์บ่นด้วยเสียงเครียด ชายหนุ่มมองใบหน้าของมารดาพร้อมยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาอย่างมีแผน เมื่อปีที่แล้วเขาเกือบจะต้องสละโสดเพราะผู้หญิงคนหนึ่งที่อ้างว่าเขาเป็นพ่อเด็กในท้อง เรื่องวันนั้นทำให้เขาเครียดแทบเป็นแทบตายจนต้องไปขอความช่วยเหลือจากพี่ชายทั้งที่ใจจริงไม่เต็มใจสักนิด แต่ถ้าไม่ได้พี่ชายช่วยเอาไว้ป่านนี้คงกลายเป็นพ่อคนโดยที่ไม่รู้เรื่องว่าจริง ๆ แล้วผู้หญิงที่ควงอยู่ก็ควงผู้ชายคนอื่นนอกจากเขาเหมือนกัน แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็เถอะเรื่องผู้หญิงเขายังเหมือนเดิม ควงด้วย นอนด้วย เที่ยวด้วย แต่ไม่มีใครที่เขามอบหัวใจให้จริงจังสักคน เพราะใช้ชีวิตโสดมีความสุขมากกว่าเยอะ ! นิตยลัภย์มองใบหน้าของลูกชายคนเล็กที่เอาแต่ใจจนเคยตัว ดีที่ไม่ไปทำใครท้องมาจนต้องพากันเดือดร้อนอีก “อะไรกันครับ ก็พี่ชายสุดที่รักของคุณแม่ไง” เตชินท์เอ่ยขึ้น “พี่ชายแก ! ฉันจะปวดหัวตายอยู่แล้ว เลี้ยงมาให้เป็นผู้ชาย...” “พี่แทนก็เป็นผู้ชายนะครับ เพียงแต่เป็นผู้ชายที่ชอบผู้ชายด้วยกันเท่านั้นเอง” เตชินท์พูดพร้อมหัวเราะขำออกมาอย่างสนุก ไม่น่าเชื่อว่าพี่ชายจะเป็น ประเภทชอบป่าไม้เดียวกัน ต่อให้ไม่เป็นแบบที่ข่าวลงก็ขอขำให้สนุกหน่อย “แม่ไม่ยอมเด็ดขาด มีลูกชายทั้งทีจะให้มีคนรักเป็นพวกไม้ป่าเดียวกัน รับไม่ได้ !” นิตยลัภย์ประกาศออกมาลั่นห้อง “แม่จะทำยังไงเหรอครับ ผมว่าพี่แทนอาจจะไม่กลับบ้านเลยก็ได้นะครับ ถ้าหากติดใจพระเอกดังคนนั้น” เตชินท์ใส่ไฟเพิ่มจากเดิมที่มีอยู่แล้วให้ลามลุกขึ้นไปอีก “แกคิดว่าแม่จะยอมให้ตาแทนอยู่กับพ่อพระเอกขวัญใจหรือยังไง ฮะ !” นิตยลัภย์หันมามองลูกชายคนเล็กที่ยิ้มให้ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมา “เปล่าครับ ผมว่าคุณแม่ต้องรีบจัดการหน่อยละครับ เรื่องแบบนี้รอช้าไม่ได้” ยิ่งพูดยิ่งใส่ไฟให้พี่ชาย ถึงไม่ใช่เกย์แต่ก็รู้ว่าพี่ชายเขาไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนเป็นพิเศษเลย “พูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง ?” นิตยลัภย์หันไปมองลูกชาย แววตาของเตชินท์เปล่งประกายแวววาวพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปากอย่างมีเลศนัย “เปล่าครับคุณแม่ ผมหมายถึงว่าถ้าปล่อยเอาไว้นานพี่แทนจะล้ำเส้นจนแก้ไม่ทันนะครับ” เตชินท์เอ่ยขึ้น นิตยลัภย์ฟังที่ลูกชายคนเล็กพูดพร้อมกับคิดตาม ใช่แล้ว ยิ่งปล่อยไว้จะแก้ไขไม่ทัน แล้วเธอจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไงดีล่ะ “นี่ตาเต เราว่าแม่ควรจัดการเรื่องนี้ยังไงดี” เสียงเคร่งเครียดของ นิตยลัภย์เอ่ยถาม และน้อยครั้งที่เธอจะถามความคิดเห็นจากเตชินท์ เพราะว่าส่วนใหญ่มีแต่เรื่องมักมากทั้งนั้น เธอจึงไม่ค่อยอยากเอามาใช้สักเท่าไหร่ “คุณแม่แน่ใจเหรอครับว่าอยากฟังความคิดเห็นของผมน่ะครับ” “รีบ ๆ บอกมาเร็ว แม่จะได้จัดการได้” “ก็ง่าย ๆ ครับ ไม่มีอะไรมาก” เขาพูดพร้อมยิ้มออกมาจนนิตยลัภย์สังเกตถึงรอยยิ้มที่มุมปากเรียวแสนเจ้าเล่ห์ของลูกชายตัวเอง “ว่าไง ?” “แม่ก็หาสะใภ้เข้าบ้านสักคนสิครับ” นิตยลัภย์เมื่อได้ฟังก็พยักหน้าด้วยความเข้าใจพลางคิดตาม หาคู่ให้ ลูกชายของเธออย่างนั้นเหรอ ? แต่ว่า... “จะมีใครยอมรับตาแทนล่ะ ข่าวออกซะขนาดนี้” นิตยลัภย์ท้อใจ “เรื่องนั้นเดี๋ยวก็มีคนมาแก้ข่าวเองละครับ เพราะยังไงอีกฝ่ายก็เป็นถึง พระเอกดังคงไม่ปล่อยให้ตัวเองเสียหายหรอก” ชายหนุ่มให้เหตุผล เขารู้ว่าอีกฝ่ายคงไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองพังลงอย่างแน่นอน “ก็จริง แล้วแม่จะไปหาผู้หญิงคนไหนมาแต่งงานกับเจ้าแทนด้วยล่ะ” “เรื่องนั้นผมก็ไม่รู้ครับ” เขายิ้มให้ “งั้นผมไปหาน้องแอนก่อนนะครับ พอดีนัดทานข้าวเย็นไว้” เมื่อพูดจบเตชินท์ก็ลุกขึ้นจากโซฟาเดินออกไปทันที เขามาเพื่อเรื่องแค่นี้นั่นแหละ เรื่องแค่นี้ก็ทำให้พี่ชายเขาแทบอยากจะอัดเขาให้เละได้เลย คิดแล้วสนุกชะมัด ! นิตยลัภย์มองลูกชายคนเล็กเดินออกจากห้องไปพร้อมยกมือที่ถือยาดมขึ้นสูดเข้าปอดลึกๆ ใครจะมาแต่งงานกับลูกชายของเธอในเมื่อข่าวนั้นออกประกาศปาวๆ ว่าลูกชายของเธอเป็น... เว้นแต่ว่าสัญญาครั้งก่อนในอดีตของสามีจะสามารถช่วยให้ลูกชายเธอพ้นจากการเป็นเกย์ได้ ! ถ้าฝ่ายนั้นยอมรับปากแต่งงานด้วย...หญิงสาวนั่งจ้องมองหนังสือพิมพ์เป็นเวลานานเกือบชั่วโมงหลังจากที่เพื่อนสาวนำข่าวเข้ามาบอกในตอนสาย วินาทีนี้หัวใจแทบแตกสลายลง เขาจะไม่เป็นอย่างที่ในข่าวบอกออกมาใช่ไหม ?ณัฐกฤตาถอนหายใจจนนับครั้งไม่ถ้วน ครั้นเมื่อชำเลืองสายตามองภาพที่ทนรับไม่ได้ แค่ข่าวออกมาก็พอว่าอยู่ แต่นี่เล่นมีภาพหลุดออกมาว่าเขาจับมือกับวศินพระเอกชื่อดังอีก เธออยากจะร้องไห้จริงๆ“ไม่จริง ! ข่าวที่ออกมาต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ ๆ เลย คุณแทนของฉันไม่ได้เป็นเกย์...” ณัฐกฤตาบ่นพร่ำออกมาด้วยความเสียใจวรรณรดาปาปารัสซี่สาวมองหน้าตาของเพื่อนที่แสดงถึงความเศร้าเสียใจเมื่อผู้ชายที่แอบปลื้มแอบชอบดันมีข่าวว่าเป็นเกย์ แถมทั้งภาพที่ออกมาก็บอกอยู่เต็มตาว่าคือ แทนไท !“ยอมรับความจริงซะ ถึงยังไงแกก็ไม่มีทางสู้ผู้ชายได้หรอกนะ”ดูเหมือนจะเป็นคำปลอบใจที่แทงใจคนฟังน่าดู“แกพูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง แกว่าฉันสวยสู้ผู้ชายไม่ได้หรือไง !” ณัฐกฤตาขึงตามองเพื่อนสาวที่ส่ายหน้าให้อย่างหมดหวัง“เปล่า ๆ ฉันก็แค่บอกว่าแกจะใช้ความสวยไปสู้กับผู้ชายเนี่ยนะ มันดูไม่แปลกไปหน่อยหรือไง”“ไม่ ! ฉันเชื่อว่าคุณแทนยังมีจิตใจที่เป็นชายอยู่...บ้าง”คำว่า บ้าง ช่างแ
“คุณแม่หมายถึงคุณแทนไทเหรอคะ”เธอถามทั้งที่ในใจก็แอบลุ้นให้เป็นเขาอยู่รอมร่อ“ใช่แล้วล่ะ” เทพทัตตอบแทนที่ณัฐกฤตาจะดูเศร้าเสียใจ แต่กลับยิ้มออกมาอย่างมีความสุข สวรรค์โปรด ! ใครจะโง่ไม่แต่งงาน ต่อให้เขาเป็นเกย์คิดหรือว่าจะยอมให้เป็นไม่มีทาง !“ขวัญจะแต่งงานค่ะ !” หญิงสาวพูดโพล่งขึ้น เล่นเอาคนเป็นพ่อเป็นแม่ถึงกับมองด้วยความประหลาดใจ เพราะเมื่อครู่ยังปฏิเสธอยู่เลย“ขวัญจะเเต่งกับ....”“ใช่ค่ะ” น้ำเสียงตั้งมั่นจนคนเป็นพ่อเป็นแม่ฟังดูแล้วรู้สึกแปลกขึ้นมาทันที เทพทัตและทัสนันทน์มองหน้ากัน ในใจคงคิดไม่ต่างกันสักเท่าไหร่“ขวัญลองคิดดูก่อนก็ได้ไม่ต้องรีบตอบหรอกลูก ใจจริงแม่ก็ไม่ได้อยากจะให้แต่ง แต่แค่บอกให้เราตัดสินใจ แม่กับพ่อไม่ได้บังคับนะ” ทัสนันทน์พูดขึ้นเพื่อให้ลูกสาวของเธอนั้นได้ใช้เวลาทบทวนก่อนตัดสินใจอีกครั้งหนึ่ง“พ่อไม่รีบเอาคำตอบหรอกนะ คิดดูเอาเองถ้าไม่แต่งพ่อจะได้โทรไปบอกทางฝ่ายนั้น เพื่อความสบายใจของลูก...”“ขวัญตัดสินใจจะแต่งงานกับคุณแทนไทจริง ๆ ค่ะ”แทนไทเดินออกจากห้องภายในคอนโด ฯ ที่วศินอยู่ เขาใช้เวลาคุยกันไม่ถึงห้านาทีด้วยซ้ำไปแต่ทว่ากลับไม่ได้ความอะไรเลย ครั้นจะโทร. ไปคุยอ
“ก็คุณแม่กลัวพี่ชายสุดที่รักของผมเผลอใจไปรักกับผู้ชายไม้ป่าเดียวกัน ก็เลยจะให้แต่งงานซะเลยเพื่อลบข่าวแถมยังไม่ต้องกลัวว่าพี่ชายจะไปคว้าผู้ชายที่ไหนมาเป็นสะใภ้น่ะครับ” เตชินท์ร่ายยาว แต่สุดท้ายความหมายเดิมคือ ลบข่าวออกโดยการแต่งงาน !แทนไทมองหน้าน้องชายที่ยิ้มเจ้าเล่ห์ให้อย่างมีความสุข เขาอยากจะชกสักหมัดไปที่หน้าของเตชินท์สักทีสองทีจริงๆ“เพราะแกใช่ไหมที่แม่ต้องทำแบบนี้” ชายหนุ่มกัดฟันถาม มือแกร่ง กำหมัดแน่นเพื่อระงับอารมณ์โกรธที่อยู่ในใจ“เปล่า คุณแม่นั่งกลุ้มใจเครียดแทบจะเป็นลม ผมก็เลยเป็นที่ปรึกษาให้น่ะ” น้ำเสียงของเตชินท์ตอบโดยไม่คิดอะไร“ออกไปซะ” เขาออกปากไล่เตชินท์ยิ้มรับพร้อมกับหลุดขำออกมา“ผมหวังดีนะ ไม่อยากให้พี่ชายเดินทางผิดคิดเป็นเกย์”แทนไทฟังคำพูดทิ้งท้ายของน้องชายที่เดินออกไปจากห้อง แต่เสียงหัวเราะก็ยังคงดังก้องอยู่ในหูเขา“บ้าเอ๊ย !” แทนไทสบถออกมา เขาเดินมานั่งลงที่ปลายเตียงพร้อมกับถอนหายใจออกมาอย่างแรง นี่เจ้าน้องชายตัวแสบถึงกลับเสนอวิธีแบบนี้ให้แม่เลยอย่างนั้นเหรอ...เขาไม่ใช่เกย์สักหน่อย !แต่ถึงจะบังคับให้แต่งงานยังไงก็ไม่มีทางสำเร็จเพราะจะมีผู้หญิงคนไหนยอมมาแต่งงานก
ณัฐกฤตาออกมาพบวรรณรดาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งหลังจากที่เมื่อตอนเที่ยงอีกฝ่ายได้โทร. มานัดเพราะต้องการคุยเรื่องการแต่งงานของเธอกับแทนไทให้กระจ่างรู้เรื่องหญิงสาวเดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้าพร้อมกวาดสายตามองหาร้านอาหารที่เพื่อนของเธอนัดพบก่อนจะเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว“มาแล้วเหรอ นึกว่ากำลังเพ้อฝันถึงคุณแทนไทจนลืมเพื่อนซะแล้ว” วรรณรดาแซวพลางมองใบหน้าของณัฐกฤตาที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่“บ้า ใครจะเพ้อถึงขนาดนั้น” หญิงสาวร้องด้วยน้ำเสียงเขินอาย“จะแต่งจริง ๆ เหรอ” สายตาของวรรณรดามองมาเหมือนกับบอกว่า...คิดให้ดีอีกครั้งเถอะ !“ก็บอกแล้วไงว่าคุณแทนเขาไม่ใช่เกย์” หญิงสาวแก้ตัวแทนชายหนุ่มแม้จะเคยคุยกับเขาเพียงไม่กี่ครั้ง แต่ก็รับรู้ว่าเขาต้องไม่ใช่ในแบบที่ทุกคนคิดอย่างแน่นอน“มีออกรับแทนด้วย เป็นหนักนะเนี่ย” วรรณรดาพูดด้วยความหมั่นไส้“เปล๊า” คนตอบทำเสียงสูงยิ้มแก้มบาน“ช่างเถอะ แกแต่งฉันไม่ได้แต่ง แล้วกำหนดวันแต่งหรือยังว่าวันไหน”“ยังหรอก เห็นว่าจะดูฤกษ์แต่งงานกัน
ไม่มีข้อแม้ ยังไงซะงานแต่งงานจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน !”นั่นเป็นคำพูดที่เขาไม่มีทางปฏิเสธได้อีกแล้ว ชายหนุ่มเดินกลับมาที่ห้องทิ้งตัวลงที่นอนด้วยความอ่อนล้าพร้อมถอนหายใจออกมาอย่างหนัก เมื่อรู้ว่าหญิงสาวที่จะแต่งงานด้วยไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นณัฐกฤตาเครียด ! เขาเครียดมากกว่าเดิมอีกเป็นหลายสิบเท่าตัวทำไมหล่อนถึงตกลงแต่งงาน !เขารู้จักกับหญิงสาวเพราะร่วมงานกันเมื่อหลายเดือนก่อน เธอเป็นคนออกแบบชุดนางแบบโฆษณาให้กับเขา พบเจอและคุยงานกับเธอไม่กี่ครั้งเท่านั้น ครั้งแรกที่เจอคงจะเป็นเมื่อปีที่แล้วที่เขามาดูการถ่ายแบบโฆษณาน้ำหอมพอดีกับที่เธอเป็นผู้ออกแบบเสื้อผ้านักแสดงที่ต้องใช้ในกองถ่ายที่เตชินท์ทำงานอยู่หลังจากนั้นหลายเดือนก็ไม่ได้พบอีกแต่แล้วอยู่ ๆ กำลังจะมาเป็นเจ้าสาวทั้งที่เขาไม่รู้สึกอะไรเลยย่างนั้นเหรอ ทำไม่ได้ ! เขาจะไม่มีวันยอมแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักเด็ดขาด แทนไทลุกขึ้นจากเตียง เดินเข้าไปในห้องน้ำด้วยความหงุดหงิดและสับสนกระวนกระวายใจ...ให้ตายเถอะ !หลังจากที่รับประทานอาหารมื้อเย็นเสร็จ เตชินท์ขับรถออกจากบ้านอย่างรวดเร็ว เรื่องทุกอย่างกำลังสนุก
แทนไทรีบใส่ชุดคลุมให้เรียบร้อยก่อนจะหันมามองณัฐกฤตาที่นั่งอยู่บนเตียงแล้วส่งสายตาหื่นมองมาที่เขา“อย่ามองผมด้วยสายตาหื่นแบบนี้” เขาพูดก่อนจะเดินออกห่าง“เปล่านะ” เธอรีบปฏิเสธ ทั้งที่ยังจ้องมองร่างของชายหนุ่มไม่วางตา อกแบนราบเห็นกล้ามเนื้อเป็นมัดทุกสัดส่วนคุณพระ ! นี่มันหุ่นว่าที่พ่อของลูกเธอชัด ๆ“ออกไปจากห้องผมซะ ผมจะเปลี่ยนเสื้อผ้า” ชายหนุ่มกล่าว“ไม่ค่ะ ฉันยังไม่รู้เลยว่าคุณเป็นเกย์จริง ๆ หรือเปล่า” หญิงสาวส่ายหน้าพร้อมลุกขึ้นขยับเข้ามาใกล้ สายตาส่งมองเขาอย่างยั่วยวนทั้งที่ใจกลับกลัวเขาอยู่รอมร่อ“ออกไปซะ ถ้ามีใครมาเห็นมันจะไม่ดี” แทนไทตอบพร้อมเดินถอยออกห่างจนชิดติดกำแพงอีกข้าง“ดีเลยค่ะ ฉันช๊อบชอบ” หญิงสาวพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงร่าเริ่ง“ผม-เป็น-เกย์” เขาพูดเน้นย้ำชัดทุกคำ“ฉันไม่เชื่อว่าผู้ชายอย่างคุณจะเป็น !” ณัฐกฤตาพูดอย่างมั่นใจ“ผมเป็น และเสียใจด้วย” แทนไทยิ้มหญิงสาวส่ายหน้ามองเขาราวกับรับความจริงไม่ได้“
เพียงเวลาไม่นานที่แทนไทใช้เวลาเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินลงมายังห้องรับแขก สายตาคมมองไปหาทุกคนที่ต่างมานั่งรออยู่ก่อนหน้านี้แล้ว“นั่งลงสิตาแทน” ธรรศพูดขึ้นชายหนุ่มเดินเข้ามานั่งตรงข้ามหญิงสาว สายตาเขามองหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังก้มหลบเขาอยู่“นี่ไงจ๊ะขวัญ คุณแทนไทที่แม่บอก” ทัสนันทน์เอ่ยขึ้นพร้อมมองใบหน้าของลูกสาวที่ก้มงุดไม่แม้แต่จะเงยขึ้นมามอง“ผมกับขวัญเจอกันแล้วครับ” แทนไทตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง“เจอกันได้ยังไง เราก็อยู่ในห้องตลอดนี่” นิตยลัภย์ถามด้วยความสงสัย“บังเอิญเจอกันก่อนที่จะลงมาหาคุณแม่ข้างล่างนี่แหละครับ” เขาตอบแต่ก็ไม่จริงทั้งหมดณัฐกฤตาผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก เพราะว่าเธอเป็นฝ่ายบุกไปหาเขาถึงห้อง ถ้าแม่รู้คงจะกล่าวว่าอย่างแน่นอน“อ้อ แล้วนี่คุยกันหรือยังล่ะ” นิตยลัภย์เอ่ยถาม“คุยแล้วครับ” แทนที่จะเป็นฝ่ายหญิงสาวตอบกลับเป็นฝ่ายชายหนุ่มตอบเสียเอง ทุกคนต่างก็จ้องมองด้วยความแปลกใจ ณัฐกฤตาเองได้แต่นั่งนิ่งเงียบสงบราวกับไม่มีตัวตนกลายเป็นว่า
ผ่านมาสามวันหลังพักพักผ่อน แทนไทกลับมาทำงานตามปกติ แต่ สิ่งเดิมที่ไม่ปกตินั่นก็คือ หญิงสาวเจ้าของใบหน้าเรียวสวยรูปไข่ที่ต้องวนเวียนอยู่กับเขาทุกสามเวลา เขาต้องไปรับทั้งที่เธอควรจะมาเองด้วยซ้ำแต่เพียงแค่เธอพูดออกมาเขาต้องจำใจยอม‘งั้น ถ้าคุณแทนไม่อยากมารับฉันก็ไม่เป็นไรค่ะ ไว้แต่งงานกันคุณก็ต้องไปส่งฉันอยู่ดี’ไปส่งเธอในตอนเช้า มารับไปทานอาหารกลางวันเวลาเที่ยง ตอนเย็นหลังเลิกงานต้องไปส่งกลับบ้าน แล้วไหนช่วงวันหยุดที่ต้องพาณัฐกฤตาไปเดตอีกช่วงเวลาอิสระของเขาแทบหายไป นี่ก็ผ่านมาหกวันแล้วหลังจากที่เธอและเขาคบกันในฐานะคู่รัก ช่างเป็นเดือนที่ทรมานสำหรับเขา อีกทั้งข่าวที่ออกไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ถูกลืมไปเรื่อยๆ แทนที่ด้วยข่าวงานแต่งงานที่ถูกปล่อยออกไป ทีแรกนึกว่าเป็นเพียงแค่ข่าวที่หญิงสาวสร้างขึ้น แต่เป็นเรื่องจริงที่เขาเองไม่อยากจะได้รับฟังข่าวใหม่ นักธุรกิจหนุ่ม รองประธานบริษัทเครื่องสำอางชื่อดังกำลังจะแต่งงานกับหญิงที่แอบคบดูใจกันมา หรือว่าแต่งงานเพราะปกปิดความจริงที่ตัวเองเป็นเกย์กันแน่ !ทันทีที่ได้อ่านหัวข้อข่าวขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ ชายหนุ่