ณัฐกฤตาออกมาพบวรรณรดาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งหลังจากที่เมื่อตอนเที่ยงอีกฝ่ายได้โทร. มานัดเพราะต้องการคุยเรื่องการแต่งงานของเธอกับแทนไทให้กระจ่างรู้เรื่อง
หญิงสาวเดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้าพร้อมกวาดสายตามองหาร้านอาหารที่เพื่อนของเธอนัดพบก่อนจะเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว “มาแล้วเหรอ นึกว่ากำลังเพ้อฝันถึงคุณแทนไทจนลืมเพื่อนซะแล้ว” วรรณรดาแซวพลางมองใบหน้าของณัฐกฤตาที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ “บ้า ใครจะเพ้อถึงขนาดนั้น” หญิงสาวร้องด้วยน้ำเสียงเขินอาย “จะแต่งจริง ๆ เหรอ” สายตาของวรรณรดามองมาเหมือนกับบอกว่า...คิดให้ดีอีกครั้งเถอะ ! “ก็บอกแล้วไงว่าคุณแทนเขาไม่ใช่เกย์” หญิงสาวแก้ตัวแทนชายหนุ่ม แม้จะเคยคุยกับเขาเพียงไม่กี่ครั้ง แต่ก็รับรู้ว่าเขาต้องไม่ใช่ในแบบที่ทุกคนคิดอย่างแน่นอน “มีออกรับแทนด้วย เป็นหนักนะเนี่ย” วรรณรดาพูดด้วยความหมั่นไส้ “เปล๊า” คนตอบทำเสียงสูงยิ้มแก้มบาน “ช่างเถอะ แกแต่งฉันไม่ได้แต่ง แล้วกำหนดวันแต่งหรือยังว่าวันไหน” “ยังหรอก เห็นว่าจะดูฤกษ์แต่งงานกันอยู่น่ะ” หญิงสาวยิ้มเขิน ๆ “ก็ดี ยังมีเวลาตัดสินใจ” วรรณรดาเอ่ยขึ้นเหมือนว่าโล่งอกไปด้วย “อะไรกัน ทำไมเหมือนว่าไม่อยากให้ฉันสมหวังกับเขาเลยล่ะ แกน่าจะดีใจนะ” ณัฐกฤตามองเพื่อนสาวเหมือนน้อยใจ “ดีใจมาก ๆ ที่เพื่อนรักกำลังจะแต่งงานแล้วมีสามีเป็นเกย์” วรรณรดาเอ่ยด้วยน้ำเสียงประชด เพราะไม่อยากจะคิดว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ผู้ชายดี ๆ มีมากดันไม่ชอบ ทำไมต้องเป็นคนนี้ด้วย ณัฐกฤตาได้แต่มองหน้าเพื่อนสาวอย่างทำใจ ใช่ว่าเธอจะเชื่อปักใจหมดว่าเขาไม่ใช่เกย์ ยังมีหลงคิดอยู่บ้างว่าบางทีอาจจะเป็นจริง ๆ ก็ได้ แล้วถ้าเขาเป็น ขึ้นมาล่ะเธอจะทำอย่างไร หัวใจของเธอต้องแตกสลายลง ไม่อยากจะให้เป็นอย่างนั้นเลย ไม่ได้ ! เขาจะต้องไม่เป็นเกย์ แสงอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้า แทนไทวางมือจากการทำงานตลอดทั้งวัน แผ่นหลังหนาเอนพิงกับพนักเก้าอี้ด้วยความอ่อนล้า พลางถอนหายใจอย่างหนัก มือของเขายกขึ้นลูบใบหน้าพร้อมกับหลับตาลง เรื่องทุกอย่างกำลังเป็นที่เข้าใจผิด ควรทำยังไงดีในเมื่อไม่รู้ว่าใครเป็นคนสร้างข่าวนี้ขึ้นมา ในวันที่เขาไปหาวศินเพื่อคุยเรื่องข่าวที่ออกมา ฝ่ายนั้นกลับทำท่าปฏิเสธด้วยความไม่รู้ที่มาของข่าว ‘ผมไม่รู้จริง ๆ ครับ คุณแทนว่าทำไมข่าวมันออกมาเป็นอย่างนี้ ผมเองก็เสียหายเหมือนกัน แต่ในเมื่อออกมาแล้วผมก็ทำอะไรไม่ได้ครับ คงต้องรอให้ มันเงียบลงเท่านั้น’ แทนไทลืมตาขึ้นมา ชำเลืองมองนาฬิกาที่วางอยู่มุมโต๊ะ ก่อนขยับตัวจัดเก็บแฟ้มเอกสารที่ไม่ใช้แล้วสอดเข้าตู้ทางด้านหลัง ลุกขึ้นจากเก้าอี้พร้อมหยิบโทรศัพท์เดินออกจากห้อง ไปยังลานจอดและขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานนักเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ชายหนุ่มเอื้อมมือไปกดรับโทรศัพท์ “ว่าไง ?” เขาเอ่ยถามปลายสายเมื่อรู้ว่าเจ้าน้องชายโทรมา [พี่แทนกลับบ้านมาเร็ว ๆ นะครับ คุณพ่อกลับมาแล้ว ท่านกำลังรอพบพี่ชายสุดที่รักของผมอยู่] แทนไทถึงกับกัดฟันกรอดด้วยความไม่พอใจ ขับรถต่อไปด้วยความกระวนกระวายใจ เมื่อรู้ว่าน้องชายหาเรื่องใส่ไฟให้อีกแล้ว เพียงเวลาไม่ถึงชั่วโมง แทนไทก็กลับมาถึงบ้านด้วยความวุ่นวายใจ ยิ่งทุกคนอยู่รวมกันครบทั้งครอบครัว ยิ่งรู้สึกน่ากลัวขึ้นมากเท่านั้น ชายหนุ่มเดินมายังห้องทำงานส่วนตัวของบิดา ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปซึ่งทุกคนต่างเข้ามานั่งรอเขาอยู่ก่อนแล้ว “นั่งลง” แทนไทมองใบหน้าของผู้เป็นบิดาที่จ้องไม่วางตาด้วยสายตาผิดหวังพร้อมกับนั่งลงอย่างช้าๆ “ฮึ ! ฉันไม่อยู่ทีไรเกิดเรื่องทุกที แกทำอะไรลงไปรู้บ้างไหม !” ธรรศเอ่ยขึ้นด้วยความโมโห ทันทีที่ได้รู้ข่าวจากภรรยาในตอนดึกของเมื่อวาน เช้าวันนี้เขาจึงรีบนั่งเครื่องบินกลับมาจากญี่ปุ่นทันที “แทนรู้ไหมว่าพ่อกับแม่อยากจะอกแตกตาย” เสียงของนิตยลัภย์แทรกขึ้น สีหน้าแสดงถึงความผิดหวังออกมาอย่างชัดเจน “บอกมาเจ้าแทน แกจะแก้ปัญหานี้ยังไง” ธรรศถามขึ้น สีหน้าเต็มไปด้วยความเครียดไม่ต่างจากบุตรชายที่นั่งอยู่ตรงหน้า จะให้เขาแก้ปัญหายังไงในเมื่อเขาก็ยังไม่รู้เลยว่าจะหาทางออกอย่างไร “ผมไม่ได้ทำอะไรผิด ทุกอย่างนักข่าวต่างใส่สีตีไข่กันทั้งนั้น” เขาตอบ “แต่ภาพในข่าวมันฟ้องออกมา เป็นฉันเห็นก็ต้องคิดว่าแกเป็น !” น้ำเสียงของบิดาพูดด้วยความโมโห สายตามองที่หนังสือพิมพ์ที่วางอยู่บนโต๊ะ “ผมไม่ได้เป็น !” เขาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ไม่ต้องมาแก้ตัว แค่นี้ฉันไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว !” แทนไทได้แต่มอง ไม่กล้าที่จะเถียงต่อ “แกต้องแต่งงานให้เร็วที่สุด !” ธรรศพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด ก่อนลุกขึ้นเดินเข้ามาหาแทนไท “ผมไม่แต่ง อีกอย่างผมไม่ได้เป็นเกย์” ชายหนุ่มยืนยันคำเดิม “แล้วแกจะทำยังไง” ธรรศพยายามควบคุมน้ำเสียงให้เป็นปกติ “ผมไม่รู้ แต่ผมไม่แต่งงานเด็ดขาด !” เขาตอบพร้อมกับลุกขึ้น มองบิดาด้วยความโกรธ ทำไมต้องให้แต่งงานในเมื่อทุกอย่างไม่ใช่ความจริง “พี่ชายครับ ผมเข้าใจว่าการแต่งงานเหมือนเป็นการคบผู้หญิงเพื่อ บังหน้า แต่ก็เป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้วครับ” เตชินท์พูดพร้อมกับขำออกมา “หยุดพูดซะ !” แทนไทหันไปจ้องมองน้องชายตัวแสบ “ไม่มีข้อแม้ ยังไงซะงานแต่งงานจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน !” นั่นเป็นคำพูดที่เขาไม่มีทางปฏิเสธได้อีกแล้ว ชายหนุ่มเดินกลับมาที่ห้องทิ้งตัวลงที่นอนด้วยความอ่อนล้าพร้อมถอนหายใจออกมาอย่างหนัก เมื่อรู้ว่าหญิงสาวที่จะแต่งงานด้วยไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นณัฐกฤตา เครียด ! เขาเครียดมากกว่าเดิมอีกเป็นหลายสิบเท่าตัว ทำไมหล่อนถึงตกลงแต่งงาน !ไม่มีข้อแม้ ยังไงซะงานแต่งงานจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน !”นั่นเป็นคำพูดที่เขาไม่มีทางปฏิเสธได้อีกแล้ว ชายหนุ่มเดินกลับมาที่ห้องทิ้งตัวลงที่นอนด้วยความอ่อนล้าพร้อมถอนหายใจออกมาอย่างหนัก เมื่อรู้ว่าหญิงสาวที่จะแต่งงานด้วยไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นณัฐกฤตาเครียด ! เขาเครียดมากกว่าเดิมอีกเป็นหลายสิบเท่าตัวทำไมหล่อนถึงตกลงแต่งงาน !เขารู้จักกับหญิงสาวเพราะร่วมงานกันเมื่อหลายเดือนก่อน เธอเป็นคนออกแบบชุดนางแบบโฆษณาให้กับเขา พบเจอและคุยงานกับเธอไม่กี่ครั้งเท่านั้น ครั้งแรกที่เจอคงจะเป็นเมื่อปีที่แล้วที่เขามาดูการถ่ายแบบโฆษณาน้ำหอมพอดีกับที่เธอเป็นผู้ออกแบบเสื้อผ้านักแสดงที่ต้องใช้ในกองถ่ายที่เตชินท์ทำงานอยู่หลังจากนั้นหลายเดือนก็ไม่ได้พบอีกแต่แล้วอยู่ ๆ กำลังจะมาเป็นเจ้าสาวทั้งที่เขาไม่รู้สึกอะไรเลยย่างนั้นเหรอ ทำไม่ได้ ! เขาจะไม่มีวันยอมแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักเด็ดขาด แทนไทลุกขึ้นจากเตียง เดินเข้าไปในห้องน้ำด้วยความหงุดหงิดและสับสนกระวนกระวายใจ...ให้ตายเถอะ !หลังจากที่รับประทานอาหารมื้อเย็นเสร็จ เตชินท์ขับรถออกจากบ้านอย่างรวดเร็ว เรื่องทุกอย่างกำลังสนุก
แทนไทรีบใส่ชุดคลุมให้เรียบร้อยก่อนจะหันมามองณัฐกฤตาที่นั่งอยู่บนเตียงแล้วส่งสายตาหื่นมองมาที่เขา“อย่ามองผมด้วยสายตาหื่นแบบนี้” เขาพูดก่อนจะเดินออกห่าง“เปล่านะ” เธอรีบปฏิเสธ ทั้งที่ยังจ้องมองร่างของชายหนุ่มไม่วางตา อกแบนราบเห็นกล้ามเนื้อเป็นมัดทุกสัดส่วนคุณพระ ! นี่มันหุ่นว่าที่พ่อของลูกเธอชัด ๆ“ออกไปจากห้องผมซะ ผมจะเปลี่ยนเสื้อผ้า” ชายหนุ่มกล่าว“ไม่ค่ะ ฉันยังไม่รู้เลยว่าคุณเป็นเกย์จริง ๆ หรือเปล่า” หญิงสาวส่ายหน้าพร้อมลุกขึ้นขยับเข้ามาใกล้ สายตาส่งมองเขาอย่างยั่วยวนทั้งที่ใจกลับกลัวเขาอยู่รอมร่อ“ออกไปซะ ถ้ามีใครมาเห็นมันจะไม่ดี” แทนไทตอบพร้อมเดินถอยออกห่างจนชิดติดกำแพงอีกข้าง“ดีเลยค่ะ ฉันช๊อบชอบ” หญิงสาวพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงร่าเริ่ง“ผม-เป็น-เกย์” เขาพูดเน้นย้ำชัดทุกคำ“ฉันไม่เชื่อว่าผู้ชายอย่างคุณจะเป็น !” ณัฐกฤตาพูดอย่างมั่นใจ“ผมเป็น และเสียใจด้วย” แทนไทยิ้มหญิงสาวส่ายหน้ามองเขาราวกับรับความจริงไม่ได้“
เพียงเวลาไม่นานที่แทนไทใช้เวลาเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินลงมายังห้องรับแขก สายตาคมมองไปหาทุกคนที่ต่างมานั่งรออยู่ก่อนหน้านี้แล้ว“นั่งลงสิตาแทน” ธรรศพูดขึ้นชายหนุ่มเดินเข้ามานั่งตรงข้ามหญิงสาว สายตาเขามองหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังก้มหลบเขาอยู่“นี่ไงจ๊ะขวัญ คุณแทนไทที่แม่บอก” ทัสนันทน์เอ่ยขึ้นพร้อมมองใบหน้าของลูกสาวที่ก้มงุดไม่แม้แต่จะเงยขึ้นมามอง“ผมกับขวัญเจอกันแล้วครับ” แทนไทตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง“เจอกันได้ยังไง เราก็อยู่ในห้องตลอดนี่” นิตยลัภย์ถามด้วยความสงสัย“บังเอิญเจอกันก่อนที่จะลงมาหาคุณแม่ข้างล่างนี่แหละครับ” เขาตอบแต่ก็ไม่จริงทั้งหมดณัฐกฤตาผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก เพราะว่าเธอเป็นฝ่ายบุกไปหาเขาถึงห้อง ถ้าแม่รู้คงจะกล่าวว่าอย่างแน่นอน“อ้อ แล้วนี่คุยกันหรือยังล่ะ” นิตยลัภย์เอ่ยถาม“คุยแล้วครับ” แทนที่จะเป็นฝ่ายหญิงสาวตอบกลับเป็นฝ่ายชายหนุ่มตอบเสียเอง ทุกคนต่างก็จ้องมองด้วยความแปลกใจ ณัฐกฤตาเองได้แต่นั่งนิ่งเงียบสงบราวกับไม่มีตัวตนกลายเป็นว่า
ผ่านมาสามวันหลังพักพักผ่อน แทนไทกลับมาทำงานตามปกติ แต่ สิ่งเดิมที่ไม่ปกตินั่นก็คือ หญิงสาวเจ้าของใบหน้าเรียวสวยรูปไข่ที่ต้องวนเวียนอยู่กับเขาทุกสามเวลา เขาต้องไปรับทั้งที่เธอควรจะมาเองด้วยซ้ำแต่เพียงแค่เธอพูดออกมาเขาต้องจำใจยอม‘งั้น ถ้าคุณแทนไม่อยากมารับฉันก็ไม่เป็นไรค่ะ ไว้แต่งงานกันคุณก็ต้องไปส่งฉันอยู่ดี’ไปส่งเธอในตอนเช้า มารับไปทานอาหารกลางวันเวลาเที่ยง ตอนเย็นหลังเลิกงานต้องไปส่งกลับบ้าน แล้วไหนช่วงวันหยุดที่ต้องพาณัฐกฤตาไปเดตอีกช่วงเวลาอิสระของเขาแทบหายไป นี่ก็ผ่านมาหกวันแล้วหลังจากที่เธอและเขาคบกันในฐานะคู่รัก ช่างเป็นเดือนที่ทรมานสำหรับเขา อีกทั้งข่าวที่ออกไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ถูกลืมไปเรื่อยๆ แทนที่ด้วยข่าวงานแต่งงานที่ถูกปล่อยออกไป ทีแรกนึกว่าเป็นเพียงแค่ข่าวที่หญิงสาวสร้างขึ้น แต่เป็นเรื่องจริงที่เขาเองไม่อยากจะได้รับฟังข่าวใหม่ นักธุรกิจหนุ่ม รองประธานบริษัทเครื่องสำอางชื่อดังกำลังจะแต่งงานกับหญิงที่แอบคบดูใจกันมา หรือว่าแต่งงานเพราะปกปิดความจริงที่ตัวเองเป็นเกย์กันแน่ !ทันทีที่ได้อ่านหัวข้อข่าวขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ ชายหนุ่
บทนำปึก!เสียงหนังสือพิมพ์ทั้งฉบับถูกวางลงบนโต๊ะตรงหน้าอย่างแรง หญิงสาวเจ้าของใบหน้าเรียวรูปไข่ที่นั่งทำงานอยู่ถอนหายใจพร้อมเงยหน้าขึ้นมามองด้วยความสงสัยและแปลกใจ“นี่ไงที่แกบอกว่าเขาหล่อนักหล่อหนา” วรรณรดาผู้เป็นเพื่อนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจ ครั้นเมื่อมองใบหน้าของณัฐกฤตาที่รู้จักกันมาเกือบสิบปีที่ยังทำหน้าตาไม่รู้ร้อนรู้ร้อนหนาวก็ยิ่งโมโหใหญ่“ก็แล้วไงล่ะ? ฉันชอบเขา”ณัฐกฤตาพูดด้วยน้ำเสียงไม่ใส่ใจกับข่าวตรงหน้าที่เพื่อนสาวนำมาให้“แกชอบเขา แต่ฉันไม่ชอบ ฉันบอกแกเลยว่าอย่าไปคบเด็ดขาด!” วรรณรดาเอ่ยขึ้นอย่างฉุนเฉียวเพราะเธอรู้ดีว่าน้องนิสัยเป็นอย่างไร แล้วอย่างนี้คนพี่จะเหลือหรือไง!“จะอะไรนักหนากันยัยดา แกรู้ได้ไงว่าคบด้วยไม่ได้ ฉันว่าเขาเป็นผู้ชายที่อ่อนโยนและเพอร์เฟ็กต์ จนฉันอยากอยู่ใกล้ทุกวันเลย”ณัฐกฤตาลุกขึ้นพร้อมกับลุกขึ้นยืนมองใบหน้าเพื่อนสาว“ก็...ก็อยู่กับผู้ชายที่เป็นเกย์เนี่ยนะ แกพูดออกมาได้ยังไง” วรรณรดาถามพลางมองใบหน้าของผู้เป็นเพื่อนสนิทที่ยิ้มระรื้อออกมาอย่างมีความสุข ก่อนจะส่ายหน้าถอนหายใจออกมา ถ้าไม่เป็นเพราะเจอโดยบังเอิญในวันนั้นอย่างที่เล่าให้ฟังป่านนี้คงไ
บทที่ 1บรรยากาศภายในห้องรับแขกที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด หญิงสาววัยกลางคนนั่งอยู่บนโซฟา ใบหน้าซีดเซียวแทบจะเป็นลมจับเมื่อได้อ่านข่าวของ ลูกชายที่ออกหนังสือพิมพ์พาดหัวหน้าหนึ่ง“ยาดม ๆ อยู่ไหน” นิตยลัภย์พูดเสียงเหนื่อย ๆ ในขณะที่สาวใช้ คนสนิทก็รีบวิ่งไปนำยาดมมาให้ทันที“ใจเย็น ๆ นะคะ คุณผู้หญิง” แก้วใจพูดปลอบ ซึ่งไม่ได้ทำให้รู้สึกดีขึ้นแม้แต่น้อย แต่ยิ่งทำให้คนฟังเดือดเข้าไปอีก“ใจเย็น !” นิตยลัภย์ลุกขึ้นพูดมองลูกชายคนโตด้วยสายตาเดือดพล่านแสดงถึงอารมณ์ขุ่นมัว จนคำด่าบรรยายออกมาแทบไม่ถูก“รู้ไหม แกทำอะไรลงไป !” นิตยลัภย์ตวาดลั่นด้วยความโกรธเกรี้ยว ใบหน้าสวยที่เริ่มมีริ้วรอยแดงก่ำด้วยความขุ่นเคือง“ผมไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ครับ”แทนไทตอบและมองด้วยสีหน้ารู้เครียด เขาไม่ได้ทำอะไรผิดแต่เป็นเพราะพวกนักข่าวชอบทำความวุ่นวายให้ต้องเดือดร้อน ทั้งที่จริงแล้วแทบจะไม่ไปยุ่งกับเรื่องวงการบันเทิงเลยสักนิด“ไม่ผิด ! นี่แกยังจะมาพูดแบบนี้อีกเหรอ !” นิตยลัภย์ตวาดเสียงเข้ม สีหน้าแสดงถึงการรับไม่ได้ของข่าวที่ออกมา“พวกนักข่าวชอบเสือก ตีไข่ใส่สี”ชายหนุ่มสบถออกมาด้วยความหงุดหงิดใจ“เสือกนั่นแหละดีแล้ว ฉันจะได้
หญิงสาวนั่งจ้องมองหนังสือพิมพ์เป็นเวลานานเกือบชั่วโมงหลังจากที่เพื่อนสาวนำข่าวเข้ามาบอกในตอนสาย วินาทีนี้หัวใจแทบแตกสลายลง เขาจะไม่เป็นอย่างที่ในข่าวบอกออกมาใช่ไหม ?ณัฐกฤตาถอนหายใจจนนับครั้งไม่ถ้วน ครั้นเมื่อชำเลืองสายตามองภาพที่ทนรับไม่ได้ แค่ข่าวออกมาก็พอว่าอยู่ แต่นี่เล่นมีภาพหลุดออกมาว่าเขาจับมือกับวศินพระเอกชื่อดังอีก เธออยากจะร้องไห้จริงๆ“ไม่จริง ! ข่าวที่ออกมาต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ ๆ เลย คุณแทนของฉันไม่ได้เป็นเกย์...” ณัฐกฤตาบ่นพร่ำออกมาด้วยความเสียใจวรรณรดาปาปารัสซี่สาวมองหน้าตาของเพื่อนที่แสดงถึงความเศร้าเสียใจเมื่อผู้ชายที่แอบปลื้มแอบชอบดันมีข่าวว่าเป็นเกย์ แถมทั้งภาพที่ออกมาก็บอกอยู่เต็มตาว่าคือ แทนไท !“ยอมรับความจริงซะ ถึงยังไงแกก็ไม่มีทางสู้ผู้ชายได้หรอกนะ”ดูเหมือนจะเป็นคำปลอบใจที่แทงใจคนฟังน่าดู“แกพูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง แกว่าฉันสวยสู้ผู้ชายไม่ได้หรือไง !” ณัฐกฤตาขึงตามองเพื่อนสาวที่ส่ายหน้าให้อย่างหมดหวัง“เปล่า ๆ ฉันก็แค่บอกว่าแกจะใช้ความสวยไปสู้กับผู้ชายเนี่ยนะ มันดูไม่แปลกไปหน่อยหรือไง”“ไม่ ! ฉันเชื่อว่าคุณแทนยังมีจิตใจที่เป็นชายอยู่...บ้าง”คำว่า บ้าง ช่างแ
“คุณแม่หมายถึงคุณแทนไทเหรอคะ”เธอถามทั้งที่ในใจก็แอบลุ้นให้เป็นเขาอยู่รอมร่อ“ใช่แล้วล่ะ” เทพทัตตอบแทนที่ณัฐกฤตาจะดูเศร้าเสียใจ แต่กลับยิ้มออกมาอย่างมีความสุข สวรรค์โปรด ! ใครจะโง่ไม่แต่งงาน ต่อให้เขาเป็นเกย์คิดหรือว่าจะยอมให้เป็นไม่มีทาง !“ขวัญจะแต่งงานค่ะ !” หญิงสาวพูดโพล่งขึ้น เล่นเอาคนเป็นพ่อเป็นแม่ถึงกับมองด้วยความประหลาดใจ เพราะเมื่อครู่ยังปฏิเสธอยู่เลย“ขวัญจะเเต่งกับ....”“ใช่ค่ะ” น้ำเสียงตั้งมั่นจนคนเป็นพ่อเป็นแม่ฟังดูแล้วรู้สึกแปลกขึ้นมาทันที เทพทัตและทัสนันทน์มองหน้ากัน ในใจคงคิดไม่ต่างกันสักเท่าไหร่“ขวัญลองคิดดูก่อนก็ได้ไม่ต้องรีบตอบหรอกลูก ใจจริงแม่ก็ไม่ได้อยากจะให้แต่ง แต่แค่บอกให้เราตัดสินใจ แม่กับพ่อไม่ได้บังคับนะ” ทัสนันทน์พูดขึ้นเพื่อให้ลูกสาวของเธอนั้นได้ใช้เวลาทบทวนก่อนตัดสินใจอีกครั้งหนึ่ง“พ่อไม่รีบเอาคำตอบหรอกนะ คิดดูเอาเองถ้าไม่แต่งพ่อจะได้โทรไปบอกทางฝ่ายนั้น เพื่อความสบายใจของลูก...”“ขวัญตัดสินใจจะแต่งงานกับคุณแทนไทจริง ๆ ค่ะ”แทนไทเดินออกจากห้องภายในคอนโด ฯ ที่วศินอยู่ เขาใช้เวลาคุยกันไม่ถึงห้านาทีด้วยซ้ำไปแต่ทว่ากลับไม่ได้ความอะไรเลย ครั้นจะโทร. ไปคุยอ