แทนไทรีบใส่ชุดคลุมให้เรียบร้อยก่อนจะหันมามองณัฐกฤตาที่นั่งอยู่บนเตียงแล้วส่งสายตาหื่นมองมาที่เขา
“อย่ามองผมด้วยสายตาหื่นแบบนี้” เขาพูดก่อนจะเดินออกห่าง“เปล่านะ” เธอรีบปฏิเสธ ทั้งที่ยังจ้องมองร่างของชายหนุ่มไม่วางตา อกแบนราบเห็นกล้ามเนื้อเป็นมัดทุกสัดส่วนคุณพระ ! นี่มันหุ่นว่าที่พ่อของลูกเธอชัด ๆ“ออกไปจากห้องผมซะ ผมจะเปลี่ยนเสื้อผ้า” ชายหนุ่มกล่าว“ไม่ค่ะ ฉันยังไม่รู้เลยว่าคุณเป็นเกย์จริง ๆ หรือเปล่า” หญิงสาวส่ายหน้าพร้อมลุกขึ้นขยับเข้ามาใกล้ สายตาส่งมองเขาอย่างยั่วยวนทั้งที่ใจกลับกลัวเขาอยู่รอมร่อ“ออกไปซะ ถ้ามีใครมาเห็นมันจะไม่ดี” แทนไทตอบพร้อมเดินถอยออกห่างจนชิดติดกำแพงอีกข้าง“ดีเลยค่ะ ฉันช๊อบชอบ” หญิงสาวพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงร่าเริ่ง“ผม-เป็น-เกย์” เขาพูดเน้นย้ำชัดทุกคำ“ฉันไม่เชื่อว่าผู้ชายอย่างคุณจะเป็น !” ณัฐกฤตาพูดอย่างมั่นใจ“ผมเป็น และเสียใจด้วย” แทนไทยิ้มหญิงสาวส่ายหน้ามองเขาราวกับรับความจริงไม่ได้“เพียงเวลาไม่นานที่แทนไทใช้เวลาเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินลงมายังห้องรับแขก สายตาคมมองไปหาทุกคนที่ต่างมานั่งรออยู่ก่อนหน้านี้แล้ว“นั่งลงสิตาแทน” ธรรศพูดขึ้นชายหนุ่มเดินเข้ามานั่งตรงข้ามหญิงสาว สายตาเขามองหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังก้มหลบเขาอยู่“นี่ไงจ๊ะขวัญ คุณแทนไทที่แม่บอก” ทัสนันทน์เอ่ยขึ้นพร้อมมองใบหน้าของลูกสาวที่ก้มงุดไม่แม้แต่จะเงยขึ้นมามอง“ผมกับขวัญเจอกันแล้วครับ” แทนไทตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง“เจอกันได้ยังไง เราก็อยู่ในห้องตลอดนี่” นิตยลัภย์ถามด้วยความสงสัย“บังเอิญเจอกันก่อนที่จะลงมาหาคุณแม่ข้างล่างนี่แหละครับ” เขาตอบแต่ก็ไม่จริงทั้งหมดณัฐกฤตาผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก เพราะว่าเธอเป็นฝ่ายบุกไปหาเขาถึงห้อง ถ้าแม่รู้คงจะกล่าวว่าอย่างแน่นอน“อ้อ แล้วนี่คุยกันหรือยังล่ะ” นิตยลัภย์เอ่ยถาม“คุยแล้วครับ” แทนที่จะเป็นฝ่ายหญิงสาวตอบกลับเป็นฝ่ายชายหนุ่มตอบเสียเอง ทุกคนต่างก็จ้องมองด้วยความแปลกใจ ณัฐกฤตาเองได้แต่นั่งนิ่งเงียบสงบราวกับไม่มีตัวตนกลายเป็นว่า
ผ่านมาสามวันหลังพักพักผ่อน แทนไทกลับมาทำงานตามปกติ แต่ สิ่งเดิมที่ไม่ปกตินั่นก็คือ หญิงสาวเจ้าของใบหน้าเรียวสวยรูปไข่ที่ต้องวนเวียนอยู่กับเขาทุกสามเวลา เขาต้องไปรับทั้งที่เธอควรจะมาเองด้วยซ้ำแต่เพียงแค่เธอพูดออกมาเขาต้องจำใจยอม‘งั้น ถ้าคุณแทนไม่อยากมารับฉันก็ไม่เป็นไรค่ะ ไว้แต่งงานกันคุณก็ต้องไปส่งฉันอยู่ดี’ไปส่งเธอในตอนเช้า มารับไปทานอาหารกลางวันเวลาเที่ยง ตอนเย็นหลังเลิกงานต้องไปส่งกลับบ้าน แล้วไหนช่วงวันหยุดที่ต้องพาณัฐกฤตาไปเดตอีกช่วงเวลาอิสระของเขาแทบหายไป นี่ก็ผ่านมาหกวันแล้วหลังจากที่เธอและเขาคบกันในฐานะคู่รัก ช่างเป็นเดือนที่ทรมานสำหรับเขา อีกทั้งข่าวที่ออกไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ถูกลืมไปเรื่อยๆ แทนที่ด้วยข่าวงานแต่งงานที่ถูกปล่อยออกไป ทีแรกนึกว่าเป็นเพียงแค่ข่าวที่หญิงสาวสร้างขึ้น แต่เป็นเรื่องจริงที่เขาเองไม่อยากจะได้รับฟังข่าวใหม่ นักธุรกิจหนุ่ม รองประธานบริษัทเครื่องสำอางชื่อดังกำลังจะแต่งงานกับหญิงที่แอบคบดูใจกันมา หรือว่าแต่งงานเพราะปกปิดความจริงที่ตัวเองเป็นเกย์กันแน่ !ทันทีที่ได้อ่านหัวข้อข่าวขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ ชายหนุ่
บรรยากาศภายในห้องจัดงานเลี้ยง ณ. โรงแรมหรูแห่งหนึ่งเต็มไปด้วยความอลหม่าน ผู้คนมากมายต่างขะมักเขม้นทำงานเพื่อให้ทันกำหนดงาน เเต่งงานที่จะถึงอีกไม่กี่วัน ซึ่งถูกจัดเตรียมไว้อย่างหรูหราแทนไทยืนมองหญิงสาวที่ยิ้มร่าเริงให้กับพ่อเเม่ของเขาก่อนจะเดินลับสายตาเขาไปเพื่อเดินดูงานในจุดอื่นอีกเพียงเเค่สองวันเขาไม่อยากให้ถึงเลย ให้ตายสิ ! หลังจากนี้ชีวิตเขาจะเป็นยังไงล่ะ? ไม่อยากจะคิดเลย...เสียงโวยวายตะโกนสั่งงานของหัวหน้าคุมงานในงานแต่งดังขึ้นทำให้ทุกคนต่างหยุดงานหันมามองเป็นทางเดียวกันด้วยความตกใจ“เธอยังจะนั่งเล่นโทรศัพท์ได้อีกเหรอไง รู้ไหมอีกเเค่สองวันจะถึงวันงานเเล้ว ถ้าไม่เสร็จฉันจะไล่เธอออก !”เเทนไทหันไปมองเจ้าของเสียงก่อนจะส่ายหน้าออกมา สองวัน...ยิ่งคิดอิสระเขายิ่งหาย ทำไมถึงไม่เชื่อเขาว่า...เขาไม่ได้เป็นเกย์ !ชายหนุ่มถอนหายใจอีกครั้งพร้อมหมุนตัวเดินออกจากห้องจัดงานเลี้ยงพร้อมถอนหายใจอย่างหนัก สองเท้าก้าวยาวไปก่อนหยุดชะงักลงเมื่อพบกับ หญิงสาวที่ส่งยิ้มหวานให้“เบื่อเหรอคะ” ณัฐกฤตาเอ่ยถามเสียงหวาน“ก็ไม่มีอะไ
[สรุป แกจะให้ฉันไปให้ได้]“ใช่แล้ว โอเคนะ งั้นเจอกันที่...” เธอบอกสถานที่นัดพบ ก่อนวางสายไป หญิงสาวเก็บเครื่องสำอางบางส่วนที่ต้องใช้เข้ากระเป๋าสะพายก่อนจะเดินออกจากห้องไปสองเท้าก้าวลงบันไดด้วยความรวดเร็ว ตรงมาที่หน้าประตูใหญ่ก่อนจะโน้มตัวก้มลงสวมรองเท้าส้นสูง พร้อมยืนตรงเงยหน้าสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะก้าวลงบันไดเพื่อเดินไปที่รถภายในร้านกาแฟแห่งหนึ่งในห้างสรรพสินค้าย่านใจกลางเมือง เป็นเวลาเกือบสิบโมงกว่าๆ หลังจากที่ณัฐกฤตาเพื่อนสาวของเธอออกมาเดินเที่ยว ช้อปปิ้งและไปทำบุญที่วัด วรรณรดาแทบอยากจะร้องโวยวายเสียงดัง มีตั้งหลายวันที่จะพาเธอออกมาแล้วทำไมต้องเป็นวันนี้ด้วยก็ไม่รู้เสียงถอนหายใจของณัฐกฤตาดังขึ้นหลายครั้งจนเธอต้องมองด้วยความรำคาญและหงุดหงิด“เลิกถอนหายใจสักทีเถอะ ฉันเห็นแล้วเหนื่อยแทนวะ”“ก็จะให้ทำยังไงล่ะ ถ้าคุณแทนเขาเป็นเกย์ขึ้นมาจริง ๆ” ณัฐกฤตากล่าวออกมาด้วยความท้อใจ ไม่อยากจะคิดเลยว่าหากต้องมีสามีเป็นเกย์ กลางคืนเขาอยู่กับเธอ แต่กลางวันเขากลับเป็นสามีผู้ชายคนอื่นแบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน“แล้
ณัฐกฤตาเดินเข้ามาข้างใน ชะเง้อคอมองไปทางพ่อแม่ของแทนไท ที่ต่างยืนคุยสนุกสนานกับเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน ก่อนจะเดินเข้าไปหาพร้อมกับยกมือกล่าวสวัสดีทักทายผู้ใหญ่ คุยกันเพียงไม่นานก็เดินออกมาตามหาเขาชายหนุ่มที่กำลังยืนคุยกับเพื่อนร่วมงานธุรกิจในกลุ่มเล็กสองถึงสามคน มีแต่เสียงหัวเราะดังขึ้นมาเป็นระยะ ๆ เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นส่วนเกินยังไงชอบกล หรือว่าผู้ชายทุกคนที่เขากำลังคุยด้วยอยู่เป็นเกย์เหมือนกัน ทำไมถึงไม่มีใครเอ่ยทักเธอบ้างเลย“คุณขวัญสวยจริง ๆ เลยนะครับ ผมละอิจฉาแทนเลย” ชายหนุ่มใบหน้าเรียวผิวสีแทนกล่าวทักทำลายบทสนทนาที่กำลังคุยกันลง“นั่นสิครับ คิดไม่ถึงว่าคุณแทนจะได้ภรรยาสวยและเก่งขนาดนี้” อีกคนพูดเสริมขึ้น แทนไทได้แต่ปั้นหน้ายิ้มรับคำชม“ขอบคุณค่ะ” เธอกล่าวขอบคุณพร้อมกับยิ้มหวานให้“งั้นข่าวที่ออกมาก็เป็นการเข้าใจผิดใช่ไหมครับ”“ใช่ค่ะ คงเป็นเพราะคุณวศินเป็นดาราดังด้วยมั้งคะ นักข่าวเลยสนใจและเข้าใจผิดกันไปเองค่ะ” หญิงสาวตอบแทน ก่อนจะหันมายิ้มหวานให้กับเขา“นั่นสิครับ ผมเองก็
แสงแดดในยามเช้าสาดส่องเข้าทางหน้าต่างทิศตะวันออก ณัฐกฤตาลืมตาขึ้นพลางยันกายขยับตัวลุกนั่ง ก่อนหันไปมองที่นอนข้าง ๆ ไร้ซึ่งคนข้างกาย จึงขยับตัวลงจากเตียง เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าเพื่อหยิบชุดที่จะสวมไปทำงานเข้าไปในห้องน้ำ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ชินที่จะต้องสวมชุดในห้องน้ำเลยแต่ถ้ามาอยู่กับเขาใครจะกล้าเปลี่ยนในห้องถึงแม้ว่าเขาจะไม่สนใจผู้หญิงก็เถอะ...เมื่อประตูห้องน้ำที่เปิดออก เห็นเขาเดินออกมาจึงหันหน้าหนีไปอีกทางทันที“ผมกำลังจะมาปลุกคุณอยู่พอดี”“ขอบคุณค่ะ” เธอพูดก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปแทนไทมองท่าทีเย็นชาของหญิงสาวก็รู้สึกไม่พอใจ...บ้าน่า ! ทำไมต้องรู้สึกแบบนั้นด้วย...เขาเตือนสติของตนพร้อมกับสะบัดไล่ความคิดที่กำลังฟุ้งซ่านอยู่ในหัวให้ออกไป ชายหนุ่มเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า เลือกชุดที่จะใส่ไปทำงานออกมาสวมใส่ ก่อนจะเดินตรงไปที่กระจกเพื่อหวีผมและผูกเนกไทเพียงเวลาผ่านไปไม่นานประตูห้องน้ำก็เปิดออกพร้อมกับที่ชายหนุ่มแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย หญิงสาวเดินออกมาในชุดเดรสเกาะอกรัดรูปสีชมพูสั้นเหนือเข่า เธอเดินตรงมาที่หน้ากระจกพร้อมหยิบเครื่องสำอางแต่งหน้าโดยที่ไม่มอง
“คุณแทน...ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ !”เขาทำเป็นไม่ได้ยินในสิ่งที่อีกฝ่ายพูด “เกย์ที่ไหนจะจูบเมียตัวเอง...”เมื่อพูดจบแทนไทก็เลื่อนริมฝีปากไปครอบครองริมฝีปากอิ่มอย่างแผ่วเบา ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจ ร่างกายของเธอแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก กระเป๋าสะพายที่อยู่บนบ่าค่อย ๆ ร่วงหล่นไปที่พื้นทันทีที่เธอเผยอปากออกเพื่อรับอากาศหายใจปลายลิ้นก็สอดเข้าโพรงปาก มืออีกข้างจับท้ายทอยเพื่อไม่ให้หญิงสาวหนี เนิ่นนานกว่าที่แทนไทจะถอนริมฝีปากออก เขารู้สึกพอใจและชื่นชอบความร้ายกาจของหญิงสาวขึ้นมาดื้อ ๆ“เกย์อาจจะจูบผู้หญิง แต่จูบไม่ร้อนแรงเท่าผมเชื่อสิ” เขากระซิบบอกเธอด้วยน้ำเสียงนุ่ม ใบหน้าสวยแดงก่ำด้วยความเขินอายและโกรธจัด“ไอ้คนบ้า !” เธอตวาดเสียงดังใส่เขา ทั้งที่ใจก็สั่นไหวและสับสนกับการกระทำเมื่อครู่“แล้วคุณแต่งงานกับผมทำไมถ้าเข้าใจว่าผมเป็นเกย์” เขาถาม“ฉันอยากแต่งค่ะ” เธอตอบสั้น ๆ ก่อนจะหมุนตัวเดินไป แทนไทเดินเข้าไปฉุดมือหญิงสาวเข้ามาในอ้อมกอดก่อนจะพาดเธอขึ้นบนบ่าเดินตรงมาที่เตียงอย่างรวดเร็ว ณัฐกฤตาร้องโวยวายด้วยความโกรธและตกใจ มือเรียวทุบแผ่นหลังชายหนุ่มให้ปล่อยเธอลงตุบ !ร่างงามถูกโยนลงกับเตียงอย่าง
“ไม่ต้องไปทำ ผมไม่ให้ไป” ชายหนุ่มพูดเอาแต่ใจ เขาเริ่มเป็นหนักขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งอยู่ใกล้นานเท่าไหร่ อารมณ์มาก่อนเหตุผลมากเพิ่มขึ้นเท่านั้น“คุณจะบ้าหรือไง นี่มันงานฉันนะ”“แต่งงานแล้วก็เลิกทำงานซะ” แทนไทเผลอพูดออกมาโดยไม่รู้ตัว ณัฐกฤตามองหน้าชายหนุ่มด้วยความแปลกใจ ยิ่งพูดกับเขายิ่งดูทะแม่งยังไงชอบกล“คนบ้า ! อย่ามาพูดลามกกับฉันนะ”“จะไปเปลี่ยนชุดเองหรือว่าจะให้ผมเปลี่ยนให้คุณ รับรองว่าถ้าผมเปลี่ยนให้วันนี้คุณไม่ได้ไปทำงานแน่” คำขู่ดูเหมือนจะได้ผล หญิงสาวสะบัดตัวออกจากวงแขนแกร่งและรีบวิ่งไปที่ตู้เสื้อผ้าทันทีแทนไทเดินลงบันไดมาพร้อมณัฐกฤตาหลังจากที่เตชินท์ขึ้นไปตามถึงห้องได้ไม่ถึงสิบนาที ใบหน้าของชายหนุ่มยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ซึ่งต่างจากหญิงสาวข้างตัวที่แสดงสีหน้าไม่พอใจและหงุดหงิดมากชายหนุ่มเดินนำหญิงสาวเข้าไปในห้องอาหารเพื่อรับประทานอาหารเช้า เขานั่งลงบนเก้าอี้ข้างน้องชายด้วยสีหน้าที่เรียบนิ่งทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ต่างจากณัฐกฤตาที่เดินเข้ามานั่งตรงข้ามชายหนุ่มแล้วมองด้วยสายตาที่ไม่พ
หญิงสาวเดินออกมาจากห้องน้ำในชุดคลุมอาบน้ำซึ่งเป็นที่ตกใจและแปลกใจสำหรับแทนไท“ไม่ต้องจ้องฉันซะขนาดนั้นก็ได้ค่ะ” เธอพูดก่อนจะเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า“ผมก็แค่แปลกใจที่คุณ...”“ก็เมื่อกี้ยังไม่ได้เลือกไว้นี่คะ อีกอย่างฉันรอคุณเข้าไปอาบน้ำอยู่นะ” เธอพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปเปิดตู้เสื้อผ้า“ครับ ผมก็แค่สงสัยวันนี้คุณมาแปลกก็เท่านั้น”“ไม่แปลกหรอกค่ะ ปกติตอนเช้าคุณจะอาบน้ำก่อนฉันนี่คะ จะให้ฉันเปลี่ยนชุดโดยที่มีคุณอยู่ใครจะไปกล้ากันล่ะคะ”“ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย ถ้าคุณไม่กล้าไว้ผมจะออกมาเปลี่ยนชุดเป็นเพื่อนพร้อมกับคุณ ดีไหม ?” แทนไทถามด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ณัฐกฤตาจ้องมองด้วยสายตาขุ่นเคือง ทั้งที่จริงแล้วใบหน้าของเธอนั้นแดงก่ำด้วยความอายและโกรธ“ผมล้อเล่นน่า” เเทนไทก้าวเข้าไปใกล้“เเต่ฉันไม่เล่นด้วยนี่คะ คุณชอบพูดจาเเบบนี้ทุกที”“โอเคครับ ต่อไปนี้ผมจะไม่พูดจาลามกใส่ภรรยาสุดสวยอีก อย่างอนผมนะ” เขาพูดพร้อมก้าวเข้ามาหาเธอ ทว่าหญิงสาวกลับถอยหลังออกห
“เป็นอะไรไปยัยแพงดูร้องเข้า แม่ตกใจหมด”“แพงก็แค่ตกใจค่ะ” พาลินตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งพลางก้มหน้าหลบสายตา แทนไทพี่ชายที่เธอหลงรักเขาแต่งงานแล้วหรือนี่ ?“แล้วนี่แต่งกันตอนไหนล่ะ ไม่เห็นโทรมาบอกบ้างเลยนะ”“แต่งกะทันหันเพราะมีเรื่องนิดหน่อยน่ะ แต่ตอนนี้เห็นเจ้าแทนติดหนูขวัญงอมแงมเลยนะ ฉันกำลังรอหลานอยู่นี่แหละ” นิตยลัภย์พูดด้วยน้ำเสียงดีใจ จนพาลินถึงกับตัวสั่นสะท้านออกมาเพราะว่าทนฟังต่อไปไม่ได้“คุณแม่คะ เดี๋ยวแพงออกไปข้างนอกหน่อยนะคะ พอดีนึกขึ้นได้ว่านัดเพื่อนเก่าเอาไว้ค่ะ” พาลินพูดปดเพราะทนฟังต่อไปไม่ได้“อย่ากลับมาดึกนักล่ะ” กรพรรณพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง“ค่ะ” หญิงสาวขานรับสั้น ๆ พร้อมลุกขึ้นเดินออกจากห้องรับแขกไปด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง เธอน่าจะกลับมาหาเขาตั้งนานแล้ว ไม่คิดว่าพี่แทนไทผู้ชายแสนดีที่ไม่เคยชายตามองผู้หญิงคนไหนจะแต่งงานไปแล้ว“แล้วเตชินท์ล่ะเป็นยังไงบ้าง” เสียงของกรพรรณเอ่ยถามดังเล็ดลอดออกจากห้องรับแขกจนถึงหูของพาลินที่กำลังเดินออกไปแต่ทว่าเธ
“เตรู้ว่าสายไป แต่ถ้ามันทำให้ดาต้องเสียใจเพราะกลับมาคบกับเตอีกครั้ง...” เตชินท์สูดหายใจเข้าลึก ๆ มองหญิงสาวตรงหน้าด้วยแววตาที่เศร้าโศก “เตจะไม่ขอมายุ่งวุ่นวายกับดาอีก เตจะออกไปจากชีวิตของดา”เพียะ !ฝ่ามือเรียวฟาดลงไปที่แก้มของชายหนุ่มอย่างแรง แววตาของเธอมองเขาด้วยความโกรธ อยากจะไปจากชีวิตเธอแล้วกลับมาขอเธอคบอีกทำไม !“กลับมาทำไมล่ะ ถ้ากลับมาแล้วจะจากฉันไปแบบนี้ คนใจร้าย !” หญิงสาวตวาดใส่ชายหนุ่มทั้งน้ำตา เตชินท์ได้แต่ยืนนิ่งอึ้งทำอะไรไม่ถูกเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกมืดแปดด้านจนหาทางออกไม่ได้“ถ้านั่นเป็นความต้องการของดาเตจะไป...”“เป็นเพราะนาย...” วรรณรดาพูดเสียงสั่น “ทำไมฉันถึงไม่ลืมนายสักทีทำไมล่ะ...ทั้งที่นายเองก็ไม่เคยรักฉันเลยสักนิด !”“ดา...”“ฉันกลัว...” หญิงสาวเอ่ยขึ้นพลางสูดหายใจเข้าและยกมือขึ้นปาดน้ำตาบนใบหน้าของตัวเอง “กลัวว่านายจะทิ้งฉัน กลัวว่านายจะทำเหมือนเมื่อก่อน...”“ดา...เราลองมาคบดูใจกันก่อนได้ไหม ถ้าดายังไม
“แล้วนี่หายาทาไปบ้างยัง ?” นิตยลัภย์ถามด้วยความเป็นห่วง“แค่ประคบด้วยน้ำแข็งครับ”“ไป ๆ รีบเข้าบ้านกัน ยืนแบบนี้เดี๋ยวยิ่งเจ็บมากขึ้นอีก” ว่าแล้ว นิตยลัภย์ก็เดินเข้ามาช่วยประคองลูกสะใภ้เดินขึ้นบันไดเข้าไปในบ้านแทนไทพยุงภรรยาเดินเข้ามาในห้องรับแขกพร้อมกับแม่ ก่อนจะนั่งลงที่โซฟา นิตยลัภย์เดินมานั่งที่โซฟาอีกตัวข้างลูกชาย ชายหนุ่มจึงหันไปมองมารดาที่มีหน้าเคร่งเครียด และเต็มไปด้วยคำถามมากมาย“ดูคุณแม่มีเรื่องที่จะถามผมเยอะนะครับ” แทนไทเอ่ยถามขึ้น“เปล่าหรอก ไม่มีอะไร”“มีอะไรก็บอกผมเถอะครับ” ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง“มีอะไรหรือเปล่าคะ ?” ณัฐกฤตาเอ่ยถามขึ้นบ้างหลังจากที่สังเกตเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของแม่สามี“พักนี้ตาเตมีปัญหาอะไรหรือเปล่า” นิตยลัภย์พูดด้วยน้ำเสียงกังวล“ทำไมเหรอครับ ?”“ก็พักนี้ตาเตดูแปลกไป ถึงจะเที่ยวผู้หญิงจะไปดื่มมา แต่ครั้งนี้...”“ดูเหมือนคนอกหักใช่ไหมคะ” ณัฐกฤตาตอบขึ้นแทน
“ไปครับ เดี๋ยวผมอุ้มคุณไปนอนพักที่ห้อง” เขาพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืน แต่คนที่กำลังถูกอุ้มนั้นหันมามองด้วยแววตาตกใจ“ไม่ต้องเลยค่ะ ฉันเดินเองได้” หญิงสาวรีบปฏิเสธขึ้นทันทีพลางขยับตัวลุกขึ้นแต่ทว่าขาของเธอนั้นยังไม่มีแรงมากพอที่จะทรงตัวยืนเองได้ตามปกติ ณัฐกฤตาจึงเซล้มลงที่โซฟาอีกครั้งทว่าเขากลับเข้ามาช่วยรั้งเธอไว้นัยน์ตาคมจ้องมองหญิงสาวแบบใกล้ ๆ พลางยิ้มออกมาที่มุมปากก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นดุเข้ม“เห็นไหม ยังไม่หายดียังจะอวดเก่งอีก”“ก็คุณชอบ...”“ผมบอกแล้วไงว่าไม่รังแกคนเจ็บ แต่ถ้าไม่เชื่ออีกผมจะจูบคุณจริง ๆแล้วนะ” แทนไทพูดขู่“คนบ้า !”“ตกลงจะให้ผมอุ้มหรือจะให้ผมจูบคุณดีครับ”ดูเหมือนจะเป็นข้อเสนอที่เธอไม่อยากจะได้ทั้งนั้นเลย ณัฐกฤตามองชายหนุ่มด้วยสายตาที่ลังเลพลางคิดหนักอุ้มหรือจูบ“ที่รักคุณคิดนานเกินไปนะ เดี๋ยวผมเลือกให้เองดีไหม ?”“อุ้ม” เธอตอบพึมพำเบา ๆ“อะไรนะครับ ผมไม่ได้ยินเลย” แทนไทแกล้งทวนคำ
“แค่นี้บอกหนัก ทีผม...” แทนไทกระซิบเสียงเบาที่ข้างใบหูของหญิงสาว “อยู่บนตัวคุณ คุณไม่เห็นบอกว่าหนักเลย”“คุณแทน คนลามก !” ดวงตากลมมองเขาด้วยความขุ่นเคือง แก้มเนียนผ่าวร้อนแดงก่ำเป็นสีลูกพีช เธอจับแขนเขาสะบัดออกอย่างแรงก่อนจะเดินออกจากบ้านพักไปโดยไม่หันกลับมามองชายหนุ่มที่ยืนอมยิ้มอย่างขบขันแทนไทส่ายหน้าหัวเราะก่อนจะเดินตามออกไป เขามองแผ่นหลังเธอที่ค่อย ๆ ออกห่างไปเรื่อย ๆ สองเท้าก้าวฉับไวเพื่อที่จะตามให้ทัน“ที่รักจะรีบไปไหน แค่ผมเดินตามคุณก็เหนื่อยแล้ว” ชายหนุ่มพูดเสียงหอบพลางมองหญิงสาวที่เชิดหน้าไม่สบตากับเขาแม้แต่น้อย“อย่าเข้ามานะ คุณมีแต่ความคิดสกปรกทั้งนั้นเลย !” ณัฐกฤตาเดินถอยหลังออกห่าง ทว่าแทนไทค่อยๆ เดินเข้าไปหาหญิงสาวอย่างช้าๆ“ผมไม่ได้ลามกสักหน่อย”เขาเอ่ยขึ้นพลางมองหน้าภรรยาสาวที่ยังคงแดงก่ำอยู่“ออกไปเลยนะ” ณัฐกฤตาพูดพร้อมหันตัววิ่งหนีจากชายหนุ่มเธอกำลังโกรธเขาและอายเขา แล้วจะตามเธอมาทำไมเล่า !แทนไทมองณัฐกฤตาที่วิ่งเร็วออกห่างไปเรื่อย ๆ เข
เป็นเวลานานเกือบสามชั่วโมงหลังจากเดินเล่นถ่ายรูปไปทั่วชายหาด แสงอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้าลง ชายหนุ่มและหญิงสาวกลับมาที่บ้านก่อนจะเปลี่ยนชุดแล้วเดินดูสนามหญ้านอกบ้านที่ถูกจัดแต่งไว้อย่างสวยงามหรูหราแสงเทียนอโรม่าถูกวางเป็นจุด ๆ กลิ่นอายหอมทำให้สูดแล้วดูผ่อนคลายได้ไม่น้อย ณัฐกฤตามองไปยังที่สนามด้วยความตกตะลึงและแปลกใจก่อนหันไปมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ด้วยใบหน้าแผ่วร้อนอาหารมื้อค่ำสุดโรแมนติกที่แทนไทตั้งใจเตรียมไว้ให้ภรรยาในค่ำคืนนี้ ซึ่งเขาใช้เวลาที่เดินแยกจากหญิงสาวในช่วงบ่ายเพื่อมาจัดและดูให้เรียบร้อย“คุณไม่เห็นบอกฉันเลยนี่คะว่าจะจัดอาหารมื้อค่ำที่นี่” เธอหันไปถามชายหนุ่มที่ยืนยิ้มละมุนเปี่ยมไปด้วยความสุข“ถ้าบอกจะเรียกว่าเซอร์ไพรส์หรือครับ” แทนไทพูดขึ้น“คุณชอบไหม ?”“ชอบค่ะ ขอบคุณนะคะ” เธอพูดเบา ๆ ซึ่งคนได้ยินหัวใจก็เต้นแรงไม่เป็นจังหวะ เพียงแค่เธอพูดสั้น ๆ เขาก็รู้สึกอิ่มเอมไปทั้งใจ“มาครับที่รัก” แทนไทจับมือของณัฐกฤตาเดินเข้าไปที่โต๊ะอาหาร ฝ่ามือใหญ่กุมมือของเธอไว้แน่น หญิงสาวม
วันหยุดสุดสัปดาห์ที่เเทนไทเฝ้ารอก็มาถึง ทั้งที่ปกติก่อนหน้าเเต่งงานเเทบไม่อยากจะให้ถึงวันหยุดที่เเสนจะน่าเบื่อเลยสักนิดเดียว ก็จะให้เบื่อได้ยังไง วันนี้เขาจะไปฮันนีมูนกับภรรยา ถึงแม้อาจจะดูกะทันหันไปสักหน่อยก็ตามณัฐกฤตาเดินออกมาจากห้องน้ำในชุดเดรสรัดรูปสีหวาน สองเท้าก้าวตรงมาที่โต๊ะเครื่องแป้งพลางชำเลืองมองชายหนุ่มที่ยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่“คุณเเต่งตัวเเบบนี้อีกเเล้ว” เเทนไทพูดพร้อมเดินเข้ามาหา“ยังไงคะ” เธอหันไปถามชายหนุ่มพร้อมกับหยิบหวีขึ้นสางผม“ผมไม่ชอบเลย” เเทนไทขยับมาประชิดตัว เอื้อมมือขึ้นลูบที่เเก้มของเธอ ณัฐกฤตาเบี่ยงตัวหลบ พลางถอนหายใจอย่างไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่“เปลี่ยนเถอะ คุณเเต่งตัวเเบบนี้ผมไม่อยากออกไปข้างนอกเลยนะ”ดวงตากลมกลอกมองอย่างชั่งใจ เธอเดินกลับไปที่ตู้เสื้อผ้าอีกครั้งแล้วหยิบเลือกชุดใหม่ออกมาแล้วไปที่ห้องน้ำ ไม่นานนักประตูก็ถูกเปิดออก เเทนไทมองไปที่ภรรยาสาวในชุดเดรสสีหวาน ถึงจะไม่มิดชิดมากเท่าไหร่เเต่ก็ยังดีกว่าชุดเมื่อกี้“ถ้าไม่ผ่านอีกฉันไม่ไปเเล้วนะคะ” ณัฐกฤตาเ
คำว่าความสุขได้ผ่านพ้นไป เนิ่นนานจนชายหนุ่มเจ้าสำราญอย่าง เตชินท์ไม่เคยได้สัมผัสอีกครั้ง หลังจากเรียนจบเมื่อหลายเดือนก่อนเขาไม่ได้เจอวรรณรดาอีกเลย นี่ก็ผ่านมาเกือบปีเเล้ว...ทำไมเขายังลืมไม่ได้ เขาเองไม่ใช่เหรอที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทุกอย่างไม่มีใครสักคนที่เขาคิดจะจริงจัง เพียงเเค่ผ่านมาเเละผ่านไป ความสัมพันธ์ทางกายไม่ได้ผูกหัวใจเขาเเละผู้หญิงที่เคยนอนด้วยหลาย ๆ คนเอาไว้เเม้เเต่น้อยเตชินท์นั่งอยู่ภายในสตูดิโอของสถานีแห่งหนึ่ง เขาทำงานที่นี่มาเกือบร่วมสี่เดือนเเล้วหลังจากที่พักฟื้นหัวใจมานานเเสงอาทิตย์ค่อย ๆ ลับขอบฟ้า สายตาคมมองออกไปนอกหน้าต่างจากตึกสูงในใจกลางเมือง เสียงถอนหายใจอย่างหนักดังออกมาเป็นระยะ ๆ ก่อนที่จะเดินกลับมานั่งที่โซฟาขนาดใหญ่ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาได้จังหวะพอดีกลับที่มีสายเข้ามา ชายหนุ่มมองเบอร์ปลายสายด้วยความชั่งใจก่อนจะตัดสินใจกดรับ‘ครับเมย์’ เขาขานรับ[เตคะ คุณอยู่ไหน]‘สตูดิโอครับ’ เขาตอบเมธาวีผู้หญิงที่เขาควงด้วยอยู่ในตอนนี้ไม่ใช่ในฐานะเเฟนหรือคนรักเเบบเปิดเผยเเละเขาก็ไม่คิดจะเกินเลยมากกว่าคำว่า คู่ควง