แทนไทรีบใส่ชุดคลุมให้เรียบร้อยก่อนจะหันมามองณัฐกฤตาที่นั่งอยู่บนเตียงแล้วส่งสายตาหื่นมองมาที่เขา
“อย่ามองผมด้วยสายตาหื่นแบบนี้” เขาพูดก่อนจะเดินออกห่าง“เปล่านะ” เธอรีบปฏิเสธ ทั้งที่ยังจ้องมองร่างของชายหนุ่มไม่วางตา อกแบนราบเห็นกล้ามเนื้อเป็นมัดทุกสัดส่วนคุณพระ ! นี่มันหุ่นว่าที่พ่อของลูกเธอชัด ๆ“ออกไปจากห้องผมซะ ผมจะเปลี่ยนเสื้อผ้า” ชายหนุ่มกล่าว“ไม่ค่ะ ฉันยังไม่รู้เลยว่าคุณเป็นเกย์จริง ๆ หรือเปล่า” หญิงสาวส่ายหน้าพร้อมลุกขึ้นขยับเข้ามาใกล้ สายตาส่งมองเขาอย่างยั่วยวนทั้งที่ใจกลับกลัวเขาอยู่รอมร่อ“ออกไปซะ ถ้ามีใครมาเห็นมันจะไม่ดี” แทนไทตอบพร้อมเดินถอยออกห่างจนชิดติดกำแพงอีกข้าง“ดีเลยค่ะ ฉันช๊อบชอบ” หญิงสาวพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงร่าเริ่ง“ผม-เป็น-เกย์” เขาพูดเน้นย้ำชัดทุกคำ“ฉันไม่เชื่อว่าผู้ชายอย่างคุณจะเป็น !” ณัฐกฤตาพูดอย่างมั่นใจ“ผมเป็น และเสียใจด้วย” แทนไทยิ้มหญิงสาวส่ายหน้ามองเขาราวกับรับความจริงไม่ได้“เพียงเวลาไม่นานที่แทนไทใช้เวลาเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินลงมายังห้องรับแขก สายตาคมมองไปหาทุกคนที่ต่างมานั่งรออยู่ก่อนหน้านี้แล้ว“นั่งลงสิตาแทน” ธรรศพูดขึ้นชายหนุ่มเดินเข้ามานั่งตรงข้ามหญิงสาว สายตาเขามองหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังก้มหลบเขาอยู่“นี่ไงจ๊ะขวัญ คุณแทนไทที่แม่บอก” ทัสนันทน์เอ่ยขึ้นพร้อมมองใบหน้าของลูกสาวที่ก้มงุดไม่แม้แต่จะเงยขึ้นมามอง“ผมกับขวัญเจอกันแล้วครับ” แทนไทตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง“เจอกันได้ยังไง เราก็อยู่ในห้องตลอดนี่” นิตยลัภย์ถามด้วยความสงสัย“บังเอิญเจอกันก่อนที่จะลงมาหาคุณแม่ข้างล่างนี่แหละครับ” เขาตอบแต่ก็ไม่จริงทั้งหมดณัฐกฤตาผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก เพราะว่าเธอเป็นฝ่ายบุกไปหาเขาถึงห้อง ถ้าแม่รู้คงจะกล่าวว่าอย่างแน่นอน“อ้อ แล้วนี่คุยกันหรือยังล่ะ” นิตยลัภย์เอ่ยถาม“คุยแล้วครับ” แทนที่จะเป็นฝ่ายหญิงสาวตอบกลับเป็นฝ่ายชายหนุ่มตอบเสียเอง ทุกคนต่างก็จ้องมองด้วยความแปลกใจ ณัฐกฤตาเองได้แต่นั่งนิ่งเงียบสงบราวกับไม่มีตัวตนกลายเป็นว่า
ผ่านมาสามวันหลังพักพักผ่อน แทนไทกลับมาทำงานตามปกติ แต่ สิ่งเดิมที่ไม่ปกตินั่นก็คือ หญิงสาวเจ้าของใบหน้าเรียวสวยรูปไข่ที่ต้องวนเวียนอยู่กับเขาทุกสามเวลา เขาต้องไปรับทั้งที่เธอควรจะมาเองด้วยซ้ำแต่เพียงแค่เธอพูดออกมาเขาต้องจำใจยอม‘งั้น ถ้าคุณแทนไม่อยากมารับฉันก็ไม่เป็นไรค่ะ ไว้แต่งงานกันคุณก็ต้องไปส่งฉันอยู่ดี’ไปส่งเธอในตอนเช้า มารับไปทานอาหารกลางวันเวลาเที่ยง ตอนเย็นหลังเลิกงานต้องไปส่งกลับบ้าน แล้วไหนช่วงวันหยุดที่ต้องพาณัฐกฤตาไปเดตอีกช่วงเวลาอิสระของเขาแทบหายไป นี่ก็ผ่านมาหกวันแล้วหลังจากที่เธอและเขาคบกันในฐานะคู่รัก ช่างเป็นเดือนที่ทรมานสำหรับเขา อีกทั้งข่าวที่ออกไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ถูกลืมไปเรื่อยๆ แทนที่ด้วยข่าวงานแต่งงานที่ถูกปล่อยออกไป ทีแรกนึกว่าเป็นเพียงแค่ข่าวที่หญิงสาวสร้างขึ้น แต่เป็นเรื่องจริงที่เขาเองไม่อยากจะได้รับฟังข่าวใหม่ นักธุรกิจหนุ่ม รองประธานบริษัทเครื่องสำอางชื่อดังกำลังจะแต่งงานกับหญิงที่แอบคบดูใจกันมา หรือว่าแต่งงานเพราะปกปิดความจริงที่ตัวเองเป็นเกย์กันแน่ !ทันทีที่ได้อ่านหัวข้อข่าวขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ ชายหนุ่
บรรยากาศภายในห้องจัดงานเลี้ยง ณ. โรงแรมหรูแห่งหนึ่งเต็มไปด้วยความอลหม่าน ผู้คนมากมายต่างขะมักเขม้นทำงานเพื่อให้ทันกำหนดงาน เเต่งงานที่จะถึงอีกไม่กี่วัน ซึ่งถูกจัดเตรียมไว้อย่างหรูหราแทนไทยืนมองหญิงสาวที่ยิ้มร่าเริงให้กับพ่อเเม่ของเขาก่อนจะเดินลับสายตาเขาไปเพื่อเดินดูงานในจุดอื่นอีกเพียงเเค่สองวันเขาไม่อยากให้ถึงเลย ให้ตายสิ ! หลังจากนี้ชีวิตเขาจะเป็นยังไงล่ะ? ไม่อยากจะคิดเลย...เสียงโวยวายตะโกนสั่งงานของหัวหน้าคุมงานในงานแต่งดังขึ้นทำให้ทุกคนต่างหยุดงานหันมามองเป็นทางเดียวกันด้วยความตกใจ“เธอยังจะนั่งเล่นโทรศัพท์ได้อีกเหรอไง รู้ไหมอีกเเค่สองวันจะถึงวันงานเเล้ว ถ้าไม่เสร็จฉันจะไล่เธอออก !”เเทนไทหันไปมองเจ้าของเสียงก่อนจะส่ายหน้าออกมา สองวัน...ยิ่งคิดอิสระเขายิ่งหาย ทำไมถึงไม่เชื่อเขาว่า...เขาไม่ได้เป็นเกย์ !ชายหนุ่มถอนหายใจอีกครั้งพร้อมหมุนตัวเดินออกจากห้องจัดงานเลี้ยงพร้อมถอนหายใจอย่างหนัก สองเท้าก้าวยาวไปก่อนหยุดชะงักลงเมื่อพบกับ หญิงสาวที่ส่งยิ้มหวานให้“เบื่อเหรอคะ” ณัฐกฤตาเอ่ยถามเสียงหวาน“ก็ไม่มีอะไ
[สรุป แกจะให้ฉันไปให้ได้]“ใช่แล้ว โอเคนะ งั้นเจอกันที่...” เธอบอกสถานที่นัดพบ ก่อนวางสายไป หญิงสาวเก็บเครื่องสำอางบางส่วนที่ต้องใช้เข้ากระเป๋าสะพายก่อนจะเดินออกจากห้องไปสองเท้าก้าวลงบันไดด้วยความรวดเร็ว ตรงมาที่หน้าประตูใหญ่ก่อนจะโน้มตัวก้มลงสวมรองเท้าส้นสูง พร้อมยืนตรงเงยหน้าสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะก้าวลงบันไดเพื่อเดินไปที่รถภายในร้านกาแฟแห่งหนึ่งในห้างสรรพสินค้าย่านใจกลางเมือง เป็นเวลาเกือบสิบโมงกว่าๆ หลังจากที่ณัฐกฤตาเพื่อนสาวของเธอออกมาเดินเที่ยว ช้อปปิ้งและไปทำบุญที่วัด วรรณรดาแทบอยากจะร้องโวยวายเสียงดัง มีตั้งหลายวันที่จะพาเธอออกมาแล้วทำไมต้องเป็นวันนี้ด้วยก็ไม่รู้เสียงถอนหายใจของณัฐกฤตาดังขึ้นหลายครั้งจนเธอต้องมองด้วยความรำคาญและหงุดหงิด“เลิกถอนหายใจสักทีเถอะ ฉันเห็นแล้วเหนื่อยแทนวะ”“ก็จะให้ทำยังไงล่ะ ถ้าคุณแทนเขาเป็นเกย์ขึ้นมาจริง ๆ” ณัฐกฤตากล่าวออกมาด้วยความท้อใจ ไม่อยากจะคิดเลยว่าหากต้องมีสามีเป็นเกย์ กลางคืนเขาอยู่กับเธอ แต่กลางวันเขากลับเป็นสามีผู้ชายคนอื่นแบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน“แล้
ณัฐกฤตาเดินเข้ามาข้างใน ชะเง้อคอมองไปทางพ่อแม่ของแทนไท ที่ต่างยืนคุยสนุกสนานกับเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน ก่อนจะเดินเข้าไปหาพร้อมกับยกมือกล่าวสวัสดีทักทายผู้ใหญ่ คุยกันเพียงไม่นานก็เดินออกมาตามหาเขาชายหนุ่มที่กำลังยืนคุยกับเพื่อนร่วมงานธุรกิจในกลุ่มเล็กสองถึงสามคน มีแต่เสียงหัวเราะดังขึ้นมาเป็นระยะ ๆ เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นส่วนเกินยังไงชอบกล หรือว่าผู้ชายทุกคนที่เขากำลังคุยด้วยอยู่เป็นเกย์เหมือนกัน ทำไมถึงไม่มีใครเอ่ยทักเธอบ้างเลย“คุณขวัญสวยจริง ๆ เลยนะครับ ผมละอิจฉาแทนเลย” ชายหนุ่มใบหน้าเรียวผิวสีแทนกล่าวทักทำลายบทสนทนาที่กำลังคุยกันลง“นั่นสิครับ คิดไม่ถึงว่าคุณแทนจะได้ภรรยาสวยและเก่งขนาดนี้” อีกคนพูดเสริมขึ้น แทนไทได้แต่ปั้นหน้ายิ้มรับคำชม“ขอบคุณค่ะ” เธอกล่าวขอบคุณพร้อมกับยิ้มหวานให้“งั้นข่าวที่ออกมาก็เป็นการเข้าใจผิดใช่ไหมครับ”“ใช่ค่ะ คงเป็นเพราะคุณวศินเป็นดาราดังด้วยมั้งคะ นักข่าวเลยสนใจและเข้าใจผิดกันไปเองค่ะ” หญิงสาวตอบแทน ก่อนจะหันมายิ้มหวานให้กับเขา“นั่นสิครับ ผมเองก็
แสงแดดในยามเช้าสาดส่องเข้าทางหน้าต่างทิศตะวันออก ณัฐกฤตาลืมตาขึ้นพลางยันกายขยับตัวลุกนั่ง ก่อนหันไปมองที่นอนข้าง ๆ ไร้ซึ่งคนข้างกาย จึงขยับตัวลงจากเตียง เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าเพื่อหยิบชุดที่จะสวมไปทำงานเข้าไปในห้องน้ำ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ชินที่จะต้องสวมชุดในห้องน้ำเลยแต่ถ้ามาอยู่กับเขาใครจะกล้าเปลี่ยนในห้องถึงแม้ว่าเขาจะไม่สนใจผู้หญิงก็เถอะ...เมื่อประตูห้องน้ำที่เปิดออก เห็นเขาเดินออกมาจึงหันหน้าหนีไปอีกทางทันที“ผมกำลังจะมาปลุกคุณอยู่พอดี”“ขอบคุณค่ะ” เธอพูดก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปแทนไทมองท่าทีเย็นชาของหญิงสาวก็รู้สึกไม่พอใจ...บ้าน่า ! ทำไมต้องรู้สึกแบบนั้นด้วย...เขาเตือนสติของตนพร้อมกับสะบัดไล่ความคิดที่กำลังฟุ้งซ่านอยู่ในหัวให้ออกไป ชายหนุ่มเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า เลือกชุดที่จะใส่ไปทำงานออกมาสวมใส่ ก่อนจะเดินตรงไปที่กระจกเพื่อหวีผมและผูกเนกไทเพียงเวลาผ่านไปไม่นานประตูห้องน้ำก็เปิดออกพร้อมกับที่ชายหนุ่มแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย หญิงสาวเดินออกมาในชุดเดรสเกาะอกรัดรูปสีชมพูสั้นเหนือเข่า เธอเดินตรงมาที่หน้ากระจกพร้อมหยิบเครื่องสำอางแต่งหน้าโดยที่ไม่มอง
“คุณแทน...ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ !”เขาทำเป็นไม่ได้ยินในสิ่งที่อีกฝ่ายพูด “เกย์ที่ไหนจะจูบเมียตัวเอง...”เมื่อพูดจบแทนไทก็เลื่อนริมฝีปากไปครอบครองริมฝีปากอิ่มอย่างแผ่วเบา ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจ ร่างกายของเธอแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก กระเป๋าสะพายที่อยู่บนบ่าค่อย ๆ ร่วงหล่นไปที่พื้นทันทีที่เธอเผยอปากออกเพื่อรับอากาศหายใจปลายลิ้นก็สอดเข้าโพรงปาก มืออีกข้างจับท้ายทอยเพื่อไม่ให้หญิงสาวหนี เนิ่นนานกว่าที่แทนไทจะถอนริมฝีปากออก เขารู้สึกพอใจและชื่นชอบความร้ายกาจของหญิงสาวขึ้นมาดื้อ ๆ“เกย์อาจจะจูบผู้หญิง แต่จูบไม่ร้อนแรงเท่าผมเชื่อสิ” เขากระซิบบอกเธอด้วยน้ำเสียงนุ่ม ใบหน้าสวยแดงก่ำด้วยความเขินอายและโกรธจัด“ไอ้คนบ้า !” เธอตวาดเสียงดังใส่เขา ทั้งที่ใจก็สั่นไหวและสับสนกับการกระทำเมื่อครู่“แล้วคุณแต่งงานกับผมทำไมถ้าเข้าใจว่าผมเป็นเกย์” เขาถาม“ฉันอยากแต่งค่ะ” เธอตอบสั้น ๆ ก่อนจะหมุนตัวเดินไป แทนไทเดินเข้าไปฉุดมือหญิงสาวเข้ามาในอ้อมกอดก่อนจะพาดเธอขึ้นบนบ่าเดินตรงมาที่เตียงอย่างรวดเร็ว ณัฐกฤตาร้องโวยวายด้วยความโกรธและตกใจ มือเรียวทุบแผ่นหลังชายหนุ่มให้ปล่อยเธอลงตุบ !ร่างงามถูกโยนลงกับเตียงอย่าง
“ไม่ต้องไปทำ ผมไม่ให้ไป” ชายหนุ่มพูดเอาแต่ใจ เขาเริ่มเป็นหนักขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งอยู่ใกล้นานเท่าไหร่ อารมณ์มาก่อนเหตุผลมากเพิ่มขึ้นเท่านั้น“คุณจะบ้าหรือไง นี่มันงานฉันนะ”“แต่งงานแล้วก็เลิกทำงานซะ” แทนไทเผลอพูดออกมาโดยไม่รู้ตัว ณัฐกฤตามองหน้าชายหนุ่มด้วยความแปลกใจ ยิ่งพูดกับเขายิ่งดูทะแม่งยังไงชอบกล“คนบ้า ! อย่ามาพูดลามกกับฉันนะ”“จะไปเปลี่ยนชุดเองหรือว่าจะให้ผมเปลี่ยนให้คุณ รับรองว่าถ้าผมเปลี่ยนให้วันนี้คุณไม่ได้ไปทำงานแน่” คำขู่ดูเหมือนจะได้ผล หญิงสาวสะบัดตัวออกจากวงแขนแกร่งและรีบวิ่งไปที่ตู้เสื้อผ้าทันทีแทนไทเดินลงบันไดมาพร้อมณัฐกฤตาหลังจากที่เตชินท์ขึ้นไปตามถึงห้องได้ไม่ถึงสิบนาที ใบหน้าของชายหนุ่มยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ซึ่งต่างจากหญิงสาวข้างตัวที่แสดงสีหน้าไม่พอใจและหงุดหงิดมากชายหนุ่มเดินนำหญิงสาวเข้าไปในห้องอาหารเพื่อรับประทานอาหารเช้า เขานั่งลงบนเก้าอี้ข้างน้องชายด้วยสีหน้าที่เรียบนิ่งทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ต่างจากณัฐกฤตาที่เดินเข้ามานั่งตรงข้ามชายหนุ่มแล้วมองด้วยสายตาที่ไม่พ
หลังจากที่กลับมาในตอนหัวค่ำพาลินก็เอาแต่นิ่งเงียบ ภาพที่ปีเตอร์เดินควงกับหญิงสาวสวยคนนั้นกลับผุดขึ้นมาในหัวครั้งแล้วครั้งเล่า พาลินนั่งขดตัวอยู่บนโซฟา มือทั้งสองข้างกุมไหล่ที่เหน็บหนาวเอาไว้ เธอไม่ควรจะคิดเรื่องนี้ด้วยซ้ำไป เพราะไม่เกี่ยวด้วยสักหน่อย ไม่ว่าเขาจะทำอะไรจะไปกับใครก็ตามแต่...“บ้า! บ้าที่สุด” เธอพึมพำกับตัวเองเป็นสิ่งที่ไม่ชินเพราะปกติแล้วเขาไม่เคยเดินไปไหนมาไหนกับผู้หญิงคนอื่นยกเว้นกับเธอ ความรู้สึกนี้เหมือนกับตอนที่พี่แทนรักคุณขวัญ จนไม่สนใจเธอ เจ็บ!เธอเกลียดความรู้สึกแบบนี้ที่สุดเสียงออดดังขึ้นติดต่อกันหลายครั้ง พาลินสะดุ้งจากภวังค์พร้อมกับมองไปที่ประตู หญิงสาวลุกขึ้นเดินไปที่ประตูก่อนจะมองว่าเป็นใคร มือนั้นลังเลใจที่จะเปิด สุดท้ายแล้วก็เปิดและมองหน้าเขาที่ยิ้มให้กับเธอ“ยังไม่นอนใช่ไหม?” ชายหนุ่มเอ่ยถามขึ้น พาลินส่ายหน้าเป็นคำตอบ“เข้าไปข้างในได้ไหม?”“อืม” เธอหลีกทางให้เขาเดินเข้ามาในห้องก่อนที่จะปิดประตูลงพาลินสบสายตามองแววตาคู่ที่อบอุ่น หัวใจ ของเธอระทวยลงเมื่อเห็นเขามองแบ
“ไปหาเจฟน่ะ เขาชวนฉันไปเดินเที่ยว”“งั้นเหรอ” เขาขานรับแบบไม่พอใจ แต่ก็ไม่อยากไปขัดขวางจึงตัดสินใจลุกขึ้นแล้วพูดว่า “งั้นผมกลับก่อน เที่ยวให้สนุกล่ะ” ขณะที่พาลินเดินเข้าไปในห้องนอนทำนองว่า เธอฟังแต่ไม่ได้สนใจมากเท่าไหร่ชายหนุ่มหัวเราะให้ตนเองอย่างสมเพช ทั้งที่ก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นไปไม่ได้...“คุณดูไม่มีความสุขนะเวลาที่อยู่กับผม” เจฟพูดขึ้น เพราะตั้งแต่เดินซื้อของก็ไม่เห็นเธอปริปากพูดสักคำ มีเพียงแค่เขาถามและเธอตอบเท่านั้น“เปล่าสักหน่อย แค่รู้สึกไม่สบาย” พาลินโกหก“งั้นเหรอ ให้ผมไปส่งดีไหม”หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่ต้องหรอก”“งั้นก็แล้วแต่นะ ถ้ามีเรื่องอะไรอยากให้ผมช่วยบอกได้นะ ยินดีเสมอ” ชายหนุ่มบอกพร้อมกับยิ้มให้“ขอบคุณนะ”เจฟ คือเพื่อนที่เรียนอยู่มหา’ ลัยเดียวกับเธอแต่คนละสาขาวิชา เธอรู้มาตลอดว่าตั้งแต่เรียนอยู่หลายครั้งที่ชายหนุ่มแสดงออกกับความรู้สึกที่มีต่อเธอ...ทว่าคงเป็นไปไม่ได้“โอ้นั่น! ปีเตอร์นี่มากับสาว
“ตอนนั้นโกรธค่ะ โกรธมากด้วยแต่ตอนนี้ไม่แล้วค่ะ เพราะฉันก็มีส่วนที่ทำให้คุณเป็นแบบนี้”“ไม่หรอกครับ ผมต่างหาก ถ้าผมไม่คิดจะทำร้ายคุณผมคงไม่ต้องมาทรมานอยู่แบบนี้ คุณเป็นผู้หญิงที่ดี ผมดีใจที่คุณแทนรักคุณ” วศินพูดพร้อมกับยิ้มให้หญิงสาวสำหรับเขาแล้วความรักของเขาคงจะเป็นเพียงได้แค่การมองดูและแอบชอบต่อไป ไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็จะไม่เคยลืม เพราะว่ารักไม่จำเป็นต้องได้อยู่ด้วยกัน สำหรับเขาขอแค่มองห่าง ๆ ต่อไปก็พอ…แทนไทเดินออกจากห้องน้ำพร้อมส่งสายตามองภรรยาที่นอนดูทีวีอยู่บนเตียงก็อดที่จะยิ้มขำออกมาไม่ได้ สองเท้าก้าวย่างเข้าไปหาแล้วนั่งลงที่ปลายเตียงก่อนขยับเข้าไปหาอย่างช้าๆชายหนุ่มหันไปมองซีรีส์เกาหลีที่ภรรยาสาวกำลังดูอยู่นั้น คู่พระนางกำลังกอดกันอย่างหวานซึ้ง ก่อนหันมามองหญิงสาวที่กำลังจิกหมอนดูเพลินพลางหัวเราะยิ้มเขิน ๆ ออกมา เขาเอื้อมมือไปหยิบรีโมตที่ข้างตัวเธอขึ้นมาพร้อมเลื่อนนิ้วไปที่ปุ่มสีแดงเพื่อกดปิดจอให้ดับลงทันทีที่จอภาพดับสนิทเป็นสีดำณัฐกฤตาหันมามองสามีด้วยความไม่พอใจ พลางเอื้อมมือไปเพื่อแย่งรีโมตคืน“เอาคืนฉันมาเล
“แพงไม่กล้าหรอกค่ะ...ในเมื่อพี่แทนพูดอยู่เสมอว่าแพงเป็นน้องสาวคนเดียวของเขา แม่คิดว่าแพงจะกล้าเหรอคะ แพงกลัว กลัวว่าพี่แทนเขาจะรังเกียจ กลัวว่าพี่แทนจะไม่คุยกับแพง...แต่ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว เป็นเพราะแพงทำให้พี่แทนเกลียด แพงทำร้ายคุณขวัญ แพงเลวใช่ไหมคะคุณแม่”พาลินระบายความทุกข์ในใจออกมาให้ฟัง“ลูกผู้หญิงทุกคนก็อยากอยู่กับคนที่ตัวเองรัก แล้วลูกได้ไปพูดกับ ตาแทนหรือยัง เราควรที่จะพูดทำความเข้าใจนะ” กรพรรณพูดอย่างเห็นใจ“ไม่ดีกว่าค่ะ แพงไม่อยากทำให้พี่แทนเกลียดไปมากกว่านี้” เธอส่ายหน้าพลางยกมือขึ้นปาดน้ำตาบนใบหน้า“แทนไม่เกลียดลูกหรอก เขาก็แค่โกรธที่ลูกทำร้ายเขา ถึงแม้จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจแต่เราก็ผิดนะแพง แม่ว่าควรไปคุยกับเขาให้รู้เรื่อง”“แพงคุยแล้วค่ะ แต่คงไม่มีประโยชน์ค่ะ”“แล้วเราจะหลบหน้าไม่คุยกับตาแทนไปทั้งชีวิตยังงั้นเหรอ แม่ว่ามันอึดอัดนะ” กรพรรณมองลูกสาวด้วยความห่วงใย“เป็นแบบนี้ดีแล้วค่ะ เพราะแพงเป็นคนก่อ แพงก็ต้องเป็นคนยอมรับผลที่แพงก่อ”พาลินยอมรับ
“คุณวศินตอนนี้เป็นอัมพาตครับ เพราะตอนกระแทกฝั่งคนขับถูกกระแทกเข้าอย่างแรงครับ”“เป็นเพราะฉันที่ทำให้...”“ไม่ใช่ความผิดคุณ แต่เป็นความผิดของวศินต่างหากละครับ ถ้าไม่คิดจะทำร้ายคุณคงไม่ต้องพบจุดจบแบบนี้หรอกครับ ดีนะที่ยังไม่พาคุณเข้าโรงแรมไม่ยังงั้นผมจะเป็นคนอัดคุณวศินเอง” แทนไทพูดตามความจริง เพราะถ้าวศินไม่คิดจะทำร้ายภรรยาเขาทุกอย่างก็ไม่ต้องเป็นแบบนี้ เวรกรรมตามทันเร็วราวกับติดปีก ก็ต้องให้วศินรับกรรมที่ก่อไว้“แล้วทำไมถึงรู้ว่าคุณวศินจะพาฉันเข้าโรงแรมล่ะคะ ในเมื่อฉันก็ไม่ได้โทร. บอก หรือว่าคุณไปเยี่ยมเขามาแล้ว ?” หญิงสาวถามด้วยความแปลกใจ“เปล่าครับ ผมไม่ได้ไปเยี่ยม แต่แพงเป็นคนบอกผม...เธอร่วมมือกับคุณวศิน” น้ำเสียงของแทนไทดูหมองเศร้าลงเมื่อพูดถึงพาลิน“คุณพาลิน ? เธอทำแบบนั้นทำไมคะ” ณัฐกฤตาเอ่ยขึ้น“แพงชอบผม เธอเลยทำแบบไม่ทันคิด”“แล้วคุณได้คุยกับคุณแพงหรือยังคะ?” หญิงสาวเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง สายตาคู่สวยมองชายหนุ่มที่ก้มหน้าลง เธอรู้ว่าเขาคิดกับพาลินเหมือ
สามวันแล้วที่ณัฐกฤตายังไม่ฟื้นขึ้นมา ทำให้แทนไทเริ่มเป็นห่วงว่าหญิงสาวจะเป็นอะไรไป เขาไม่ได้เข้าทำงานตลอดสามวัน เพราะว่าจิตใจตอนนี้ไม่อยู่กับงานเลยแม้แต่น้อย ส่วนวศินนั้นอาการสาหัสเพราะเป็นอัมพาตส่วนล่างโดยทั้งหมดเพราะถูกแรงกระแทกอย่างแรง จะกลับมาเดินได้ใหม่คงต้องใช้เวลาอีกสักปีหรือสองปีตามที่หมอบอกแทนไทเอื้อมมือไปลูบที่เส้นผมบางของภรรยาด้วยความรักแล้วความห่วง ส่งสายตามองหญิงสาวในยามหลับ เขาอยากจะให้เธอตื่นขึ้นมาคุย นี่ก็ผ่านมาแล้วสามวันช่างทรมานใจเขาเหลือเกิน คิดถึง...จนแทบปวดใจ“ที่รัก ตื่นขึ้นมานะครับ ผมคิดถึงคุณ” แทนไทพูดพร่ำพร้อมพรมจูบไปทั่วมือสวยของภรรยา“ได้เวลาเช็ดตัวคนไข้แล้วนะคะ”ชายหนุ่มพยักหน้ารับอย่างเข้าใจก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ เมื่อพยาบาลเดินเข้ามาพร้อมกับถาดเช็ดตัวคนไข้แทนไทเดินออกจากห้อง ขณะที่พยาบาลเลื่อนผ้าม่านปิดล้อมเตียงไว้ เขาเดินออกมาตามทางเดินเรื่อย ๆ ก่อนหยุดเดินลงเมื่อเห็นพาลินเดินเข้ามาหา“พี่แทน”พาลินเรียกชายหนุ่มในสรรพนามที่เหมือนเดิม แต่แววตาที่เขามองแตกต่างออกไปอย่างชัดเจ
“ผมรักคุณแทน !”เพียงเท่านี้ก็ไขกระจ่างทุกเรื่องที่อยู่ในใจของหญิงสาวได้หมดคุณวศินเป็น…!“คะ...คุณ...”“ใช่ ! แต่ถ้าไม่เพราะคุณตกลงแต่งงานกับคุณแทนป่านนี้เรื่องคงไม่เป็นแบบนี้ ! ผมวางแผนเพื่อสร้างข่าวให้ผมและคุณแทนกลายเป็นคู่จิ้นในวงการบันเทิงแต่คุณก็ดันมาปิดข่าว และแต่งงานกับคุณแทน...”“แล้วจะจับฉันมาทำไม ทำไมไม่ไปหาคุณแทนล่ะ !”เหมือนจะเข้าใจว่าเขาทำแบบนี้เพื่ออะไร แต่ทำไมไม่ไปบอกคุณแทนไทโดยตรง ทำไมต้องลากเธอเข้ามาเกี่ยวด้วย !“เพราะเมื่อวานไงล่ะที่คุณไปหาผม คุณรู้ไหมว่าคุณแทนตอบว่าอะไร !” วศินยังคงขับรถต่อไปทั้งที่สายตาของเขาสลับมองใบหน้าของณัฐกฤตา“คุณทำแบบนี้คุณแทนก็ไม่ได้หันมาชอบคุณหรอก เขาไม่ได้มีรสนิยมชอบเพศเดียวกันเหมือนกับคุณสักหน่อย”“ชอบไม่ชอบผมไม่สนแล้ว แต่นี้ผมสนแค่ว่าเขาจะเจ็บปวดยังไงบ้าง”“ฉันไม่อยากฟัง ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้ !” หญิงสาวเอื้อมมือไปแย่งพวงมาลัยรถที่ชายหนุ่มบังคับอยู่ให้เขาหยุดจอดรถวศินใช้มือข้างซ้า
“เรื่องอะไรบอกพี่มาพาลิน !”“พี่แทนแพงเจ็บค่ะ ปล่อยแพงก่อน...” หญิงสาวยกมือขึ้นจับมือของเขาที่บีบไหล่เธออยู่ให้ปล่อยออก“บอกพี่มา ขวัญทำไม ?”“พี่แทนรับปากว่าจะไม่เกลียดแพง...”“บอกพี่มา” แทนไทกัดฟันพูด“คุณวศิน...เขาจะวางแผนข่มขืนคุณขวัญ...เลยให้แพงมาถ่วงเวลา...” เพียงแค่ได้ยินหัวใจของแทนไทก็ร้อนรนจนแทบทำอะไรไม่ถูก เขาจ้องมองเธอด้วยสายตาที่ดูแตกต่างไปจากเดิม“บอกมาว่าตอนนี้วศินอยู่ที่ไหน ! ถ้าขวัญเป็นอะไรไป พี่จะโทษแพงคนเดียว !” แทนไทพูดด้วยน้ำเสียงเข้ม มองพาลินตรงหน้าด้วยแววตาโกรธเคือง“คุณวศินจะพาคุณขวัญไปที่โรงแรม...”ทันทีที่ได้ฟังจบแทนไทก็ผลักพาลินออกอย่างไม่แยแส เขาก้าวฉับไวเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้เธอมองชายหนุ่มเดินจากไปทั้งน้ำตา“พี่แทน...แพงขอโทษ” พาลินพูด ขณะมองไปทางประตูพร้อมกับหยดน้ำตาที่เปรอะบนใบหน้าที่ทำไปเพราะรักพี่แทน...แต่แพงทำใจไม่ได้ที่ต้องเห็นพี่แทนเสียใจเกือบเที่ยงหลังจากที่ลูกค้านั้นออกจ
พาลินนั่งอยู่ภายในห้องคนเดียวตั้งแต่ที่กลับมา ในมือกดเปิดและปิดหน้าจอโทรศัพท์อยู่เป็นเวลานาน นั่นเพราะจิตใจสับสนวุ่นวายดูลังเล เบอร์ที่ขึ้นโชว์หน้าจอนั้นไม่ใช่ใครเลยแต่เป็นเบอร์ของวศินพระเอกหนุ่มชื่อดังนั่นเอง ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงต่อไป ถ้าร่วมมือกับวศินแล้วแทนไทจะเกลียดเธอไหม ? พาลินนั่งอยู่นานจนกระทั่งตัดสินใจกดเบอร์ปลายสายนั้นโทรออก[ตัดสินใจได้แล้วหรือครับ]“ค่ะ คุณจะให้ฉันทำอะไรบ้าง” พาลินเอ่ยถามอีกฝ่ายขึ้นทันที[ก็แค่แยกคุณแทนออกจากคุณขวัญก็พอแล้ว]อีกฝ่ายพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก แต่พาลินก็ยังไม่เข้าใจแผนการทั้งหมดของวศินอยู่ดีว่าเขาต้องการทำอะไร“ฉันยังไม่เข้าใจว่าคุณต้องการทำอะไร”[แค่ทำให้คุณขวัญมาเป็นของผม ทีนี้คุณเข้าใจหรือยัง ?]พาลินเริ่มแสดงสีหน้าลังเลและหวาดกลัวออกมา“ได้ แล้วจะให้ฉันแยกพี่แทนออกวันไหน” ในเมื่อเธอตัดสินใจไปแล้วคงจะย้อนกลับไม่ได้อีกต่อไป เธออยากให้เขารู้ว่าเธอยังสำคัญ ดีเหมือนกัน ถ้ารู้ว่าณัฐกฤตามีชู้ เขาคงจะเกลียดผู้หญิงคนนั้นอย่างแน่นอน[พรุ่งนี้ได้ยิ่งดีเลย]&l