“ไม่ต้องไปทำ ผมไม่ให้ไป” ชายหนุ่มพูดเอาแต่ใจ เขาเริ่มเป็นหนักขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งอยู่ใกล้นานเท่าไหร่ อารมณ์มาก่อนเหตุผลมากเพิ่มขึ้นเท่านั้น“คุณจะบ้าหรือไง นี่มันงานฉันนะ”“แต่งงานแล้วก็เลิกทำงานซะ” แทนไทเผลอพูดออกมาโดยไม่รู้ตัว ณัฐกฤตามองหน้าชายหนุ่มด้วยความแปลกใจ ยิ่งพูดกับเขายิ่งดูทะแม่งยังไงชอบกล“คนบ้า ! อย่ามาพูดลามกกับฉันนะ”“จะไปเปลี่ยนชุดเองหรือว่าจะให้ผมเปลี่ยนให้คุณ รับรองว่าถ้าผมเปลี่ยนให้วันนี้คุณไม่ได้ไปทำงานแน่” คำขู่ดูเหมือนจะได้ผล หญิงสาวสะบัดตัวออกจากวงแขนแกร่งและรีบวิ่งไปที่ตู้เสื้อผ้าทันทีแทนไทเดินลงบันไดมาพร้อมณัฐกฤตาหลังจากที่เตชินท์ขึ้นไปตามถึงห้องได้ไม่ถึงสิบนาที ใบหน้าของชายหนุ่มยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ซึ่งต่างจากหญิงสาวข้างตัวที่แสดงสีหน้าไม่พอใจและหงุดหงิดมากชายหนุ่มเดินนำหญิงสาวเข้าไปในห้องอาหารเพื่อรับประทานอาหารเช้า เขานั่งลงบนเก้าอี้ข้างน้องชายด้วยสีหน้าที่เรียบนิ่งทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ต่างจากณัฐกฤตาที่เดินเข้ามานั่งตรงข้ามชายหนุ่มแล้วมองด้วยสายตาที่ไม่พ
“ตกลงว่าเลิกกี่โมง ถ้าไม่ตอบอีกคราวนี้รับรองคุณได้ตอบผมบนเตียงทั้งวันแน่” ชายหนุ่มพูดขู่พลางยิ้มกว้าง“สองทุ่ม” ณัฐกฤตาตอบอย่างไม่เต็มใจนัก“เดี๋ยว แล้ววันนี้คุณต้องไปพบผู้กำกับอะไรนั่นไหม” เขาเอ่ยถามขึ้น“ไม่ค่ะ ฉันโกหกคุณตัดความรำคาญ” หญิงสาวตอบอย่างไม่แยแสความรู้สึกชายหนุ่ม“รำคาญผม ?”“ใช่ค่ะ เพราะคุณมายุ่งเรื่องส่วนตัวของฉัน”แทนไทมองณัฐกฤตาสะบัดหน้าหนี “ผมเป็นห่วง นั่นคือคำตอบ”“ไม่คุยแล้ว ฉันจะไปทำงาน เบื่อคุณ”“โอเค งั้นผมจะมารอรับคุณตอนเย็น” แทนไทบอกพร้อมเอื้อมมือไปปลดล็อกประตูเพราะก็ต้องไปทำงานเหมือนกัน ขืนอยู่ต่อแบบนี้วันนี้งานไม่ได้ทำอย่างแน่นอน“ขอบคุณค่ะ แต่ฉันกลับเองได้”เมื่อพูดจบหญิงสาวก็รีบเปิดประตูลงจากรถไปทันที ไม่รอฟังคำตอบจากชายหนุ่ม เพราะถ้าอยู่ฟังอีกวันนี้คงได้โต้วาทีกันยาวแทนไทมองพลางยิ้มหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข ทั้งที่ก่อนหน้านั้นก็รู้สึกเฉยๆ มากกว่า ต่อให้บางครั้งจะหวั่นไหวไป
ณัฐกฤตาแทบเซล้มทั้งยืนหลังจากที่ได้อ่านข่าวหนังสือพิมพ์ในตอนเช้า หัวข้อข่าวเล่นซะจ็บหัวใจและร่างกายไปหมด แท้จริงแล้วเขาก็แค่สนุกกับความรู้สึกของเธอก็เท่านั้นเขามันคนบ้าและใจร้ายที่สุด !เมื่อเช้าทำเป็นง้อเธอ ทำเป็นหวงเธอแต่ที่ไหนได้ ! ก็แค่อยากให้ปิดข่าวโกหก แน่นอนว่าเธอจะไม่เชื่อเขาแล้วคอยดู ในเมื่อมาไม้นี้เธอก็จะตอบรับไม้นี้กลับไป อยากรู้นักว่าเกย์อย่างเขาจะทนมารยาผู้หญิงอย่างเธอได้สักกี่น้ำ ฮึ !หญิงสาวใบหน้าเรียวสวยรูปไข่ส่งสายตามองภาพในหนังสือพิมพ์ด้วยความเจ็บปวดใจ นิ้วเรียวจิกกำแน่นจนฝ่ามือเกิดเป็นรอยข้อเลือดขึ้น“คุณแทนอย่าฝันว่าคุณจะได้มีความสุขกับคุณวศิน !”แทนไทยกมือขึ้นลูบใบหน้าของตัวเองก่อนจะเอนตัวลงพิงพนักเก้าอี้ด้วยความอ่อนล้า งานทำให้เขาแทบลืมเรื่องทั้งหมดจนไม่มีเวลาคิดไปได้เลย โปรเจกต์โฆษณาสินค้าตัวใหม่ที่ต้องใช้โปรโมทผลิตภัณฑ์ยังไม่ถึงไหน หาตัวนักแสดงก็ยากเย็น ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาอย่างหนัก เพราะค่าทำโฆษณาครั้งนี้แพงพอตัว หากจะต้องใช้นักแสดงดังมาเล่นก็คงใช้ค่าตัวสูงซึ่งเกินงบประมาณที่บริษัทกำหนดแทนไทมองแฟ้มเอกสารตารางงานทั
เกือบสามทุ่ม นานกว่าที่จะกลับถึงบ้านหลังจากทานอาหารมื้อเย็นเสร็จ ณัฐกฤตาเดินเข้ามาภายในห้อง วางของบนโต๊ะทำงานตัวใหญ่ แทนไทเดินตามมาติด ๆ รู้สึกอึดอัดที่เธอเมินหน้าหนี ไม่พูดไม่คุยกันตั้งแต่ออกจากร้าน เขาเดินเข้าไปหาเอื้อมมือรั้งแขนเธอไว้“เดี๋ยวสิ”“มีอะไรอีกคะ” ณัฐกฤตาถามพลางเหล่มองที่ต้นแขน“ผมไม่ชอบที่คุณเมินไม่คุยกับผม”“เรื่องของคุณค่ะ”ณัฐกฤตาทำท่าจะสะบัดออกอย่างเดียว จนชายหนุ่มต้องดึงหญิงสาวเข้ามาสวมกอดอยู่ในวงแขนแกร่ง แผ่นหลังเธอกระแทกกับอกแกร่ง กลิ่นน้ำหอมบางโชยแตะที่ปลายจมูกของเขา ชายหนุ่มห้ามใจตัวเองไม่ได้ จึงก้มลงซุกไซ้ซอกคอสูดกลิ่นอายของภรรยาในขณะที่คนในอ้อมกอดรู้สึกจั๊กจี้แปลก ๆ“ผมอยากให้คุณกลับมายั่วผมเหมือนเดิมนะ” เขากระซิบบอกเธอด้วยน้ำเสียงนุ่ม วงแขนแกร่งกระชับกอดเธอให้แนบชิดยิ่งขึ้น“ปล่อยฉันนะ !” หญิงสาวพยายามดิ้นให้หลุดออกจากวงแขนแกร่ง“คุณต้องให้ผมทำยังไงถึงจะเชื่อว่าผมไม่ใช่เกย์” เขาเอ่ยขึ้นณัฐกฤตานิ่งเงียบลงเมื่อได้ยินคำถาม&l
“เปล่าครับ” ชายหนุ่มตอบพร้อมยกเเก้วเหล้ากระดกขึ้นดื่ม สายตาคมมองเพียงเเค่เเก้วที่อยู่ในมือจนทำให้หญิงสาวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ รู้สึกหน้าเสีย“สุดหล่อคะ” เธอเรียกร้องความสนใจ ริมฝีปากอิ่มพยายามซุกไซ้ที่ต้นคอ มืออีกข้างก็เลื่อนขึ้นเพื่อปลดกระดุมเสื้อของเขาออกทีละเม็ด เตชินท์มองด้วยความรำคาญ เขาจับมือของเธอพร้อมสะบัดทิ้งอย่างไม่เเยเเส จนเธอมองเขาด้วยความขุ่นเคืองก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นไม่เล่นด้วยชายหนุ่มยังคงนั่งดื่มไปเรื่อย ๆ แววตาทอดมองไปอย่างไร้จุดหมาย เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อนมีทั้งความรู้สึกผิดและความเจ็บปวดผสมกัน ทำให้ไม่สามารถรักปักใจกับใครได้อีก ทั้งที่คิดว่าผู้หญิงอย่างวรรณรดาจะทำให้สามารถลืมเรื่องราวที่เจ็บปวดได้แล้ว แต่ในตอนนั้นเขากลับลืมไม่ได้ ...จนกระทั่งเสียเธอไปเขาคิดว่าความรักคือ ความเชื่อใจกัน แต่ทว่าในวันวาเลนไทน์ครบรอบหนึ่งปีที่คบกับพาลิน ในตอนนั้นเขาอยู่ปีสาม ได้รู้ความจริงจากแฟนสาวที่คบกันมาร่วมปี เธอบอกความรู้สึกที่มีต่อเขาทั้งหมดเป็นเพียงเพราะความอึดอัดเขารู้จักกับพาลิน เพราะเป็นลูกสาวของเพ
หลังอาหารมื้อกลางวัน แทนไทขับรถมาส่งหญิงสาวที่บริษัทแห่งหนึ่ง“คุณเสร็จงานกี่โมงล่ะ ผมจะได้มารับ” เขาเอ่ยถามขึ้น“ไม่แน่นอนค่ะ เพราะหลังจากส่งแบบ คุยรายละเอียดที่นี่เรียบร้อยแล้วฉันต้องไปสถานีโทรทัศน์อีกค่ะ” เธอบอกเขา“แล้วทำไมไม่บอกผมแต่แรก” แทนไทกล่าวด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง“ถ้าฉันบอกคุณยังไงคุณก็ต้องมาส่งฉันอยู่ดีใช่ไหมล่ะคะ” หญิงสาวพูดขึ้นพลางทำหน้าบึ้งตึงด้วยความไม่พอใจ เพราะเขาไม่ยอมให้ขับรถมาเอง อยากจะไปส่งเธอแล้วทีนี้มาทำเป็นโมโห คนที่โมโหควรจะเป็นเธอมากกว่า“ใช่” เขาตอบสั้น ๆ“ช่างเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันนั่งแท็กซี่ไปก็ได้” หญิงสาวพูดตัดปัญหาก่อนจะหันไปเปิดประตูรถ แทนไทคว้ามือของณัฐกฤตาเอาไว้ ทำให้เธอหันมามองที่ข้อมือ พร้อมถามเขาด้วยน้ำเสียงรำคาญ “มีอะไรอีกคะ”“ผมจะรอรับคุณไปส่งที่สถานี” เขาเอ่ยขึ้นณัฐกฤตาเธอทำสีหน้าตกใจเดาใจไม่ถูก แต่ก็ตวาดใส่เขาไปด้วยความเหลืออด “คุณจะบ้าหรือไง งานการมีไม่ไปทำ จะมารอฉันทำไม”เขาเป็นสามีเธอนะ ไม่ใช่ผู้ปกครอง !“ก็ผมห่วงคุณไง” เขาตอบพร้อมยิ้มให้กับเธอ“คนบ้า จะมาห่วงอะไรฉันโตแล้วนะไม่ใช่เด็ก ๆ”แทนไทหัวเราะออกมากับท่าทางที่ไม่พอใจของหญิงสาว“คุณไม่ใช
ระหว่างรับประทานอาหารมื้อเย็น ธรรศมองลูกชายคนเล็กที่นั่งร่วมโต๊ะ แววตาเต็มไปด้วยความเศร้าสร้อย ต่างจากหลาย ๆ วันที่ผ่านมา อีกทั้งช่วงนี้เตชินท์ดูแปลกไปจากเดิม กลับบ้านเร็วกว่าปกติจนผิดวิสัย“วันนี้แปลก ทำไมกลับบ้านเร็ว” ธรรศตัดสินใจเอ่ยถามขึ้น“ไม่มีอะไรครับ ผมแค่อยากกลับมากินข้าวพร้อมกับทุกคนก็เท่านั้นเอง” เตชินท์ตอบพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์กลบเกลื่อน“มีสาวในใจแล้วแน่ ๆ ถึงทำตัวดีแบบนี้” เมื่อได้โอกาสเอาคืนแทนไทจึงเอ่ยปากแซวน้องชายบ้างแล้วก็ตรงจุดแทงใจเตชินท์พอดิบพอดี“ไม่มีหรอก วุ่นวายจะตายไป” เตชินท์หัวเราะก่อนจะฉีกยิ้มมองพี่ชายแล้วพูดต่อไปว่า “ว่าแต่พี่แทนไม่มีแผนจะพาพี่สะใภ้ไปฮันนีมูนบ้างเหรอ ?”แทนไทจ้องมองน้องชายที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเขม็งด้วยความไม่พอใจ วันนี้เขาถูกทักเป็นรอบที่สองแล้ว ไม่รู้จะพูดกันทำไม“นั่นสิ” นิตยลัภย์เอ่ยถามขึ้นบ้าง เพราะแต่งงานมาเกือบอาทิตย์แล้วแต่ลูกชายก็ยังไม่ได้วางแผนที่จะไปฮันนีมูนเลย และไม่คิดที่จะพูดถึงด้วยซ้ำ“ยังเลยครับ” เขา
แสงแดดสาดส่องผ่านเข้าทางหน้าต่าง หญิงสาวขยับตัวเพื่อหลบแสงที่เเยงตาเข้ามาด้วยความรำคาญ มือเรียวยกผ้าห่มขึ้นปิดบังใบหน้า เเทนไทรู้สึกตัวเมื่อมือของหญิงสาวมาปัดโดนที่หน้า เขาลืมตาขึ้นพลางมองหญิงสาวข้างกายซุกอยู่ใต้ผ้าห่ม ชายหนุ่มดันร่างกายให้ลุกขึ้นนั่งยกมือขึ้นลูบใบหน้าด้วยความงัวเงียณัฐกฤตาขยับตัวปรือตาขึ้นมอง ก่อนเบี่ยงสายตาหลบไปทางอื่น“อรุณสวัสดิ์ครับที่รัก” แทนไทกล่าวพร้อมยิ้มละมุน“ค่ะ”เขามองด้วยสายตาไม่ค่อยพอใจ ณัฐกฤตาไม่ได้สนใจทั้งยังขยับตัวเพื่อลงจากเตียง ทว่ามือแกร่งของเขากลับรั้งต้นแขนเอาไว้พร้อมขยับตัวเข้ามาหา“คุณยังไม่บอกอรุณสวัสดิ์ให้ผมฟังเลยนะ” น้ำเสียงเขาฟังดูน้อยใจ“เช้า ๆ ปากเหม็นค่ะ” เธอบอกเหตุผล ทั้งพยายามที่จะถอยออกห่าง“จริงหรอ” เขาถามเสียงสูงล้อเลียน คนตัวใหญ่ขยับเข้าไปใกล้มากขึ้นจนร่างเเทบแนบชิดติดกัน“คุณเเทน !” เธอร้องอย่างตกใจ“พูดก่อนสิ” เขาโน้มตัวมากระซิบที่ข้างใบหู“ไม่ !”“งั้นผมจะ...”
หลังจากที่กลับมาในตอนหัวค่ำพาลินก็เอาแต่นิ่งเงียบ ภาพที่ปีเตอร์เดินควงกับหญิงสาวสวยคนนั้นกลับผุดขึ้นมาในหัวครั้งแล้วครั้งเล่า พาลินนั่งขดตัวอยู่บนโซฟา มือทั้งสองข้างกุมไหล่ที่เหน็บหนาวเอาไว้ เธอไม่ควรจะคิดเรื่องนี้ด้วยซ้ำไป เพราะไม่เกี่ยวด้วยสักหน่อย ไม่ว่าเขาจะทำอะไรจะไปกับใครก็ตามแต่...“บ้า! บ้าที่สุด” เธอพึมพำกับตัวเองเป็นสิ่งที่ไม่ชินเพราะปกติแล้วเขาไม่เคยเดินไปไหนมาไหนกับผู้หญิงคนอื่นยกเว้นกับเธอ ความรู้สึกนี้เหมือนกับตอนที่พี่แทนรักคุณขวัญ จนไม่สนใจเธอ เจ็บ!เธอเกลียดความรู้สึกแบบนี้ที่สุดเสียงออดดังขึ้นติดต่อกันหลายครั้ง พาลินสะดุ้งจากภวังค์พร้อมกับมองไปที่ประตู หญิงสาวลุกขึ้นเดินไปที่ประตูก่อนจะมองว่าเป็นใคร มือนั้นลังเลใจที่จะเปิด สุดท้ายแล้วก็เปิดและมองหน้าเขาที่ยิ้มให้กับเธอ“ยังไม่นอนใช่ไหม?” ชายหนุ่มเอ่ยถามขึ้น พาลินส่ายหน้าเป็นคำตอบ“เข้าไปข้างในได้ไหม?”“อืม” เธอหลีกทางให้เขาเดินเข้ามาในห้องก่อนที่จะปิดประตูลงพาลินสบสายตามองแววตาคู่ที่อบอุ่น หัวใจ ของเธอระทวยลงเมื่อเห็นเขามองแบ
“ไปหาเจฟน่ะ เขาชวนฉันไปเดินเที่ยว”“งั้นเหรอ” เขาขานรับแบบไม่พอใจ แต่ก็ไม่อยากไปขัดขวางจึงตัดสินใจลุกขึ้นแล้วพูดว่า “งั้นผมกลับก่อน เที่ยวให้สนุกล่ะ” ขณะที่พาลินเดินเข้าไปในห้องนอนทำนองว่า เธอฟังแต่ไม่ได้สนใจมากเท่าไหร่ชายหนุ่มหัวเราะให้ตนเองอย่างสมเพช ทั้งที่ก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นไปไม่ได้...“คุณดูไม่มีความสุขนะเวลาที่อยู่กับผม” เจฟพูดขึ้น เพราะตั้งแต่เดินซื้อของก็ไม่เห็นเธอปริปากพูดสักคำ มีเพียงแค่เขาถามและเธอตอบเท่านั้น“เปล่าสักหน่อย แค่รู้สึกไม่สบาย” พาลินโกหก“งั้นเหรอ ให้ผมไปส่งดีไหม”หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่ต้องหรอก”“งั้นก็แล้วแต่นะ ถ้ามีเรื่องอะไรอยากให้ผมช่วยบอกได้นะ ยินดีเสมอ” ชายหนุ่มบอกพร้อมกับยิ้มให้“ขอบคุณนะ”เจฟ คือเพื่อนที่เรียนอยู่มหา’ ลัยเดียวกับเธอแต่คนละสาขาวิชา เธอรู้มาตลอดว่าตั้งแต่เรียนอยู่หลายครั้งที่ชายหนุ่มแสดงออกกับความรู้สึกที่มีต่อเธอ...ทว่าคงเป็นไปไม่ได้“โอ้นั่น! ปีเตอร์นี่มากับสาว
“ตอนนั้นโกรธค่ะ โกรธมากด้วยแต่ตอนนี้ไม่แล้วค่ะ เพราะฉันก็มีส่วนที่ทำให้คุณเป็นแบบนี้”“ไม่หรอกครับ ผมต่างหาก ถ้าผมไม่คิดจะทำร้ายคุณผมคงไม่ต้องมาทรมานอยู่แบบนี้ คุณเป็นผู้หญิงที่ดี ผมดีใจที่คุณแทนรักคุณ” วศินพูดพร้อมกับยิ้มให้หญิงสาวสำหรับเขาแล้วความรักของเขาคงจะเป็นเพียงได้แค่การมองดูและแอบชอบต่อไป ไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็จะไม่เคยลืม เพราะว่ารักไม่จำเป็นต้องได้อยู่ด้วยกัน สำหรับเขาขอแค่มองห่าง ๆ ต่อไปก็พอ…แทนไทเดินออกจากห้องน้ำพร้อมส่งสายตามองภรรยาที่นอนดูทีวีอยู่บนเตียงก็อดที่จะยิ้มขำออกมาไม่ได้ สองเท้าก้าวย่างเข้าไปหาแล้วนั่งลงที่ปลายเตียงก่อนขยับเข้าไปหาอย่างช้าๆชายหนุ่มหันไปมองซีรีส์เกาหลีที่ภรรยาสาวกำลังดูอยู่นั้น คู่พระนางกำลังกอดกันอย่างหวานซึ้ง ก่อนหันมามองหญิงสาวที่กำลังจิกหมอนดูเพลินพลางหัวเราะยิ้มเขิน ๆ ออกมา เขาเอื้อมมือไปหยิบรีโมตที่ข้างตัวเธอขึ้นมาพร้อมเลื่อนนิ้วไปที่ปุ่มสีแดงเพื่อกดปิดจอให้ดับลงทันทีที่จอภาพดับสนิทเป็นสีดำณัฐกฤตาหันมามองสามีด้วยความไม่พอใจ พลางเอื้อมมือไปเพื่อแย่งรีโมตคืน“เอาคืนฉันมาเล
“แพงไม่กล้าหรอกค่ะ...ในเมื่อพี่แทนพูดอยู่เสมอว่าแพงเป็นน้องสาวคนเดียวของเขา แม่คิดว่าแพงจะกล้าเหรอคะ แพงกลัว กลัวว่าพี่แทนเขาจะรังเกียจ กลัวว่าพี่แทนจะไม่คุยกับแพง...แต่ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว เป็นเพราะแพงทำให้พี่แทนเกลียด แพงทำร้ายคุณขวัญ แพงเลวใช่ไหมคะคุณแม่”พาลินระบายความทุกข์ในใจออกมาให้ฟัง“ลูกผู้หญิงทุกคนก็อยากอยู่กับคนที่ตัวเองรัก แล้วลูกได้ไปพูดกับ ตาแทนหรือยัง เราควรที่จะพูดทำความเข้าใจนะ” กรพรรณพูดอย่างเห็นใจ“ไม่ดีกว่าค่ะ แพงไม่อยากทำให้พี่แทนเกลียดไปมากกว่านี้” เธอส่ายหน้าพลางยกมือขึ้นปาดน้ำตาบนใบหน้า“แทนไม่เกลียดลูกหรอก เขาก็แค่โกรธที่ลูกทำร้ายเขา ถึงแม้จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจแต่เราก็ผิดนะแพง แม่ว่าควรไปคุยกับเขาให้รู้เรื่อง”“แพงคุยแล้วค่ะ แต่คงไม่มีประโยชน์ค่ะ”“แล้วเราจะหลบหน้าไม่คุยกับตาแทนไปทั้งชีวิตยังงั้นเหรอ แม่ว่ามันอึดอัดนะ” กรพรรณมองลูกสาวด้วยความห่วงใย“เป็นแบบนี้ดีแล้วค่ะ เพราะแพงเป็นคนก่อ แพงก็ต้องเป็นคนยอมรับผลที่แพงก่อ”พาลินยอมรับ
“คุณวศินตอนนี้เป็นอัมพาตครับ เพราะตอนกระแทกฝั่งคนขับถูกกระแทกเข้าอย่างแรงครับ”“เป็นเพราะฉันที่ทำให้...”“ไม่ใช่ความผิดคุณ แต่เป็นความผิดของวศินต่างหากละครับ ถ้าไม่คิดจะทำร้ายคุณคงไม่ต้องพบจุดจบแบบนี้หรอกครับ ดีนะที่ยังไม่พาคุณเข้าโรงแรมไม่ยังงั้นผมจะเป็นคนอัดคุณวศินเอง” แทนไทพูดตามความจริง เพราะถ้าวศินไม่คิดจะทำร้ายภรรยาเขาทุกอย่างก็ไม่ต้องเป็นแบบนี้ เวรกรรมตามทันเร็วราวกับติดปีก ก็ต้องให้วศินรับกรรมที่ก่อไว้“แล้วทำไมถึงรู้ว่าคุณวศินจะพาฉันเข้าโรงแรมล่ะคะ ในเมื่อฉันก็ไม่ได้โทร. บอก หรือว่าคุณไปเยี่ยมเขามาแล้ว ?” หญิงสาวถามด้วยความแปลกใจ“เปล่าครับ ผมไม่ได้ไปเยี่ยม แต่แพงเป็นคนบอกผม...เธอร่วมมือกับคุณวศิน” น้ำเสียงของแทนไทดูหมองเศร้าลงเมื่อพูดถึงพาลิน“คุณพาลิน ? เธอทำแบบนั้นทำไมคะ” ณัฐกฤตาเอ่ยขึ้น“แพงชอบผม เธอเลยทำแบบไม่ทันคิด”“แล้วคุณได้คุยกับคุณแพงหรือยังคะ?” หญิงสาวเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง สายตาคู่สวยมองชายหนุ่มที่ก้มหน้าลง เธอรู้ว่าเขาคิดกับพาลินเหมือ
สามวันแล้วที่ณัฐกฤตายังไม่ฟื้นขึ้นมา ทำให้แทนไทเริ่มเป็นห่วงว่าหญิงสาวจะเป็นอะไรไป เขาไม่ได้เข้าทำงานตลอดสามวัน เพราะว่าจิตใจตอนนี้ไม่อยู่กับงานเลยแม้แต่น้อย ส่วนวศินนั้นอาการสาหัสเพราะเป็นอัมพาตส่วนล่างโดยทั้งหมดเพราะถูกแรงกระแทกอย่างแรง จะกลับมาเดินได้ใหม่คงต้องใช้เวลาอีกสักปีหรือสองปีตามที่หมอบอกแทนไทเอื้อมมือไปลูบที่เส้นผมบางของภรรยาด้วยความรักแล้วความห่วง ส่งสายตามองหญิงสาวในยามหลับ เขาอยากจะให้เธอตื่นขึ้นมาคุย นี่ก็ผ่านมาแล้วสามวันช่างทรมานใจเขาเหลือเกิน คิดถึง...จนแทบปวดใจ“ที่รัก ตื่นขึ้นมานะครับ ผมคิดถึงคุณ” แทนไทพูดพร่ำพร้อมพรมจูบไปทั่วมือสวยของภรรยา“ได้เวลาเช็ดตัวคนไข้แล้วนะคะ”ชายหนุ่มพยักหน้ารับอย่างเข้าใจก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ เมื่อพยาบาลเดินเข้ามาพร้อมกับถาดเช็ดตัวคนไข้แทนไทเดินออกจากห้อง ขณะที่พยาบาลเลื่อนผ้าม่านปิดล้อมเตียงไว้ เขาเดินออกมาตามทางเดินเรื่อย ๆ ก่อนหยุดเดินลงเมื่อเห็นพาลินเดินเข้ามาหา“พี่แทน”พาลินเรียกชายหนุ่มในสรรพนามที่เหมือนเดิม แต่แววตาที่เขามองแตกต่างออกไปอย่างชัดเจ
“ผมรักคุณแทน !”เพียงเท่านี้ก็ไขกระจ่างทุกเรื่องที่อยู่ในใจของหญิงสาวได้หมดคุณวศินเป็น…!“คะ...คุณ...”“ใช่ ! แต่ถ้าไม่เพราะคุณตกลงแต่งงานกับคุณแทนป่านนี้เรื่องคงไม่เป็นแบบนี้ ! ผมวางแผนเพื่อสร้างข่าวให้ผมและคุณแทนกลายเป็นคู่จิ้นในวงการบันเทิงแต่คุณก็ดันมาปิดข่าว และแต่งงานกับคุณแทน...”“แล้วจะจับฉันมาทำไม ทำไมไม่ไปหาคุณแทนล่ะ !”เหมือนจะเข้าใจว่าเขาทำแบบนี้เพื่ออะไร แต่ทำไมไม่ไปบอกคุณแทนไทโดยตรง ทำไมต้องลากเธอเข้ามาเกี่ยวด้วย !“เพราะเมื่อวานไงล่ะที่คุณไปหาผม คุณรู้ไหมว่าคุณแทนตอบว่าอะไร !” วศินยังคงขับรถต่อไปทั้งที่สายตาของเขาสลับมองใบหน้าของณัฐกฤตา“คุณทำแบบนี้คุณแทนก็ไม่ได้หันมาชอบคุณหรอก เขาไม่ได้มีรสนิยมชอบเพศเดียวกันเหมือนกับคุณสักหน่อย”“ชอบไม่ชอบผมไม่สนแล้ว แต่นี้ผมสนแค่ว่าเขาจะเจ็บปวดยังไงบ้าง”“ฉันไม่อยากฟัง ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้ !” หญิงสาวเอื้อมมือไปแย่งพวงมาลัยรถที่ชายหนุ่มบังคับอยู่ให้เขาหยุดจอดรถวศินใช้มือข้างซ้า
“เรื่องอะไรบอกพี่มาพาลิน !”“พี่แทนแพงเจ็บค่ะ ปล่อยแพงก่อน...” หญิงสาวยกมือขึ้นจับมือของเขาที่บีบไหล่เธออยู่ให้ปล่อยออก“บอกพี่มา ขวัญทำไม ?”“พี่แทนรับปากว่าจะไม่เกลียดแพง...”“บอกพี่มา” แทนไทกัดฟันพูด“คุณวศิน...เขาจะวางแผนข่มขืนคุณขวัญ...เลยให้แพงมาถ่วงเวลา...” เพียงแค่ได้ยินหัวใจของแทนไทก็ร้อนรนจนแทบทำอะไรไม่ถูก เขาจ้องมองเธอด้วยสายตาที่ดูแตกต่างไปจากเดิม“บอกมาว่าตอนนี้วศินอยู่ที่ไหน ! ถ้าขวัญเป็นอะไรไป พี่จะโทษแพงคนเดียว !” แทนไทพูดด้วยน้ำเสียงเข้ม มองพาลินตรงหน้าด้วยแววตาโกรธเคือง“คุณวศินจะพาคุณขวัญไปที่โรงแรม...”ทันทีที่ได้ฟังจบแทนไทก็ผลักพาลินออกอย่างไม่แยแส เขาก้าวฉับไวเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้เธอมองชายหนุ่มเดินจากไปทั้งน้ำตา“พี่แทน...แพงขอโทษ” พาลินพูด ขณะมองไปทางประตูพร้อมกับหยดน้ำตาที่เปรอะบนใบหน้าที่ทำไปเพราะรักพี่แทน...แต่แพงทำใจไม่ได้ที่ต้องเห็นพี่แทนเสียใจเกือบเที่ยงหลังจากที่ลูกค้านั้นออกจ
พาลินนั่งอยู่ภายในห้องคนเดียวตั้งแต่ที่กลับมา ในมือกดเปิดและปิดหน้าจอโทรศัพท์อยู่เป็นเวลานาน นั่นเพราะจิตใจสับสนวุ่นวายดูลังเล เบอร์ที่ขึ้นโชว์หน้าจอนั้นไม่ใช่ใครเลยแต่เป็นเบอร์ของวศินพระเอกหนุ่มชื่อดังนั่นเอง ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงต่อไป ถ้าร่วมมือกับวศินแล้วแทนไทจะเกลียดเธอไหม ? พาลินนั่งอยู่นานจนกระทั่งตัดสินใจกดเบอร์ปลายสายนั้นโทรออก[ตัดสินใจได้แล้วหรือครับ]“ค่ะ คุณจะให้ฉันทำอะไรบ้าง” พาลินเอ่ยถามอีกฝ่ายขึ้นทันที[ก็แค่แยกคุณแทนออกจากคุณขวัญก็พอแล้ว]อีกฝ่ายพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก แต่พาลินก็ยังไม่เข้าใจแผนการทั้งหมดของวศินอยู่ดีว่าเขาต้องการทำอะไร“ฉันยังไม่เข้าใจว่าคุณต้องการทำอะไร”[แค่ทำให้คุณขวัญมาเป็นของผม ทีนี้คุณเข้าใจหรือยัง ?]พาลินเริ่มแสดงสีหน้าลังเลและหวาดกลัวออกมา“ได้ แล้วจะให้ฉันแยกพี่แทนออกวันไหน” ในเมื่อเธอตัดสินใจไปแล้วคงจะย้อนกลับไม่ได้อีกต่อไป เธออยากให้เขารู้ว่าเธอยังสำคัญ ดีเหมือนกัน ถ้ารู้ว่าณัฐกฤตามีชู้ เขาคงจะเกลียดผู้หญิงคนนั้นอย่างแน่นอน[พรุ่งนี้ได้ยิ่งดีเลย]&l