ณัฐกฤตาแทบเซล้มทั้งยืนหลังจากที่ได้อ่านข่าวหนังสือพิมพ์ในตอนเช้า หัวข้อข่าวเล่นซะจ็บหัวใจและร่างกายไปหมด แท้จริงแล้วเขาก็แค่สนุกกับความรู้สึกของเธอก็เท่านั้น
เขามันคนบ้าและใจร้ายที่สุด !เมื่อเช้าทำเป็นง้อเธอ ทำเป็นหวงเธอแต่ที่ไหนได้ ! ก็แค่อยากให้ปิดข่าวโกหก แน่นอนว่าเธอจะไม่เชื่อเขาแล้วคอยดู ในเมื่อมาไม้นี้เธอก็จะตอบรับไม้นี้กลับไป อยากรู้นักว่าเกย์อย่างเขาจะทนมารยาผู้หญิงอย่างเธอได้สักกี่น้ำ ฮึ !หญิงสาวใบหน้าเรียวสวยรูปไข่ส่งสายตามองภาพในหนังสือพิมพ์ด้วยความเจ็บปวดใจ นิ้วเรียวจิกกำแน่นจนฝ่ามือเกิดเป็นรอยข้อเลือดขึ้น“คุณแทนอย่าฝันว่าคุณจะได้มีความสุขกับคุณวศิน !”แทนไทยกมือขึ้นลูบใบหน้าของตัวเองก่อนจะเอนตัวลงพิงพนักเก้าอี้ด้วยความอ่อนล้า งานทำให้เขาแทบลืมเรื่องทั้งหมดจนไม่มีเวลาคิดไปได้เลย โปรเจกต์โฆษณาสินค้าตัวใหม่ที่ต้องใช้โปรโมทผลิตภัณฑ์ยังไม่ถึงไหน หาตัวนักแสดงก็ยากเย็น ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาอย่างหนัก เพราะค่าทำโฆษณาครั้งนี้แพงพอตัว หากจะต้องใช้นักแสดงดังมาเล่นก็คงใช้ค่าตัวสูงซึ่งเกินงบประมาณที่บริษัทกำหนดแทนไทมองแฟ้มเอกสารตารางงานทัเกือบสามทุ่ม นานกว่าที่จะกลับถึงบ้านหลังจากทานอาหารมื้อเย็นเสร็จ ณัฐกฤตาเดินเข้ามาภายในห้อง วางของบนโต๊ะทำงานตัวใหญ่ แทนไทเดินตามมาติด ๆ รู้สึกอึดอัดที่เธอเมินหน้าหนี ไม่พูดไม่คุยกันตั้งแต่ออกจากร้าน เขาเดินเข้าไปหาเอื้อมมือรั้งแขนเธอไว้“เดี๋ยวสิ”“มีอะไรอีกคะ” ณัฐกฤตาถามพลางเหล่มองที่ต้นแขน“ผมไม่ชอบที่คุณเมินไม่คุยกับผม”“เรื่องของคุณค่ะ”ณัฐกฤตาทำท่าจะสะบัดออกอย่างเดียว จนชายหนุ่มต้องดึงหญิงสาวเข้ามาสวมกอดอยู่ในวงแขนแกร่ง แผ่นหลังเธอกระแทกกับอกแกร่ง กลิ่นน้ำหอมบางโชยแตะที่ปลายจมูกของเขา ชายหนุ่มห้ามใจตัวเองไม่ได้ จึงก้มลงซุกไซ้ซอกคอสูดกลิ่นอายของภรรยาในขณะที่คนในอ้อมกอดรู้สึกจั๊กจี้แปลก ๆ“ผมอยากให้คุณกลับมายั่วผมเหมือนเดิมนะ” เขากระซิบบอกเธอด้วยน้ำเสียงนุ่ม วงแขนแกร่งกระชับกอดเธอให้แนบชิดยิ่งขึ้น“ปล่อยฉันนะ !” หญิงสาวพยายามดิ้นให้หลุดออกจากวงแขนแกร่ง“คุณต้องให้ผมทำยังไงถึงจะเชื่อว่าผมไม่ใช่เกย์” เขาเอ่ยขึ้นณัฐกฤตานิ่งเงียบลงเมื่อได้ยินคำถาม&l
“เปล่าครับ” ชายหนุ่มตอบพร้อมยกเเก้วเหล้ากระดกขึ้นดื่ม สายตาคมมองเพียงเเค่เเก้วที่อยู่ในมือจนทำให้หญิงสาวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ รู้สึกหน้าเสีย“สุดหล่อคะ” เธอเรียกร้องความสนใจ ริมฝีปากอิ่มพยายามซุกไซ้ที่ต้นคอ มืออีกข้างก็เลื่อนขึ้นเพื่อปลดกระดุมเสื้อของเขาออกทีละเม็ด เตชินท์มองด้วยความรำคาญ เขาจับมือของเธอพร้อมสะบัดทิ้งอย่างไม่เเยเเส จนเธอมองเขาด้วยความขุ่นเคืองก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นไม่เล่นด้วยชายหนุ่มยังคงนั่งดื่มไปเรื่อย ๆ แววตาทอดมองไปอย่างไร้จุดหมาย เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อนมีทั้งความรู้สึกผิดและความเจ็บปวดผสมกัน ทำให้ไม่สามารถรักปักใจกับใครได้อีก ทั้งที่คิดว่าผู้หญิงอย่างวรรณรดาจะทำให้สามารถลืมเรื่องราวที่เจ็บปวดได้แล้ว แต่ในตอนนั้นเขากลับลืมไม่ได้ ...จนกระทั่งเสียเธอไปเขาคิดว่าความรักคือ ความเชื่อใจกัน แต่ทว่าในวันวาเลนไทน์ครบรอบหนึ่งปีที่คบกับพาลิน ในตอนนั้นเขาอยู่ปีสาม ได้รู้ความจริงจากแฟนสาวที่คบกันมาร่วมปี เธอบอกความรู้สึกที่มีต่อเขาทั้งหมดเป็นเพียงเพราะความอึดอัดเขารู้จักกับพาลิน เพราะเป็นลูกสาวของเพ
หลังอาหารมื้อกลางวัน แทนไทขับรถมาส่งหญิงสาวที่บริษัทแห่งหนึ่ง“คุณเสร็จงานกี่โมงล่ะ ผมจะได้มารับ” เขาเอ่ยถามขึ้น“ไม่แน่นอนค่ะ เพราะหลังจากส่งแบบ คุยรายละเอียดที่นี่เรียบร้อยแล้วฉันต้องไปสถานีโทรทัศน์อีกค่ะ” เธอบอกเขา“แล้วทำไมไม่บอกผมแต่แรก” แทนไทกล่าวด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง“ถ้าฉันบอกคุณยังไงคุณก็ต้องมาส่งฉันอยู่ดีใช่ไหมล่ะคะ” หญิงสาวพูดขึ้นพลางทำหน้าบึ้งตึงด้วยความไม่พอใจ เพราะเขาไม่ยอมให้ขับรถมาเอง อยากจะไปส่งเธอแล้วทีนี้มาทำเป็นโมโห คนที่โมโหควรจะเป็นเธอมากกว่า“ใช่” เขาตอบสั้น ๆ“ช่างเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันนั่งแท็กซี่ไปก็ได้” หญิงสาวพูดตัดปัญหาก่อนจะหันไปเปิดประตูรถ แทนไทคว้ามือของณัฐกฤตาเอาไว้ ทำให้เธอหันมามองที่ข้อมือ พร้อมถามเขาด้วยน้ำเสียงรำคาญ “มีอะไรอีกคะ”“ผมจะรอรับคุณไปส่งที่สถานี” เขาเอ่ยขึ้นณัฐกฤตาเธอทำสีหน้าตกใจเดาใจไม่ถูก แต่ก็ตวาดใส่เขาไปด้วยความเหลืออด “คุณจะบ้าหรือไง งานการมีไม่ไปทำ จะมารอฉันทำไม”เขาเป็นสามีเธอนะ ไม่ใช่ผู้ปกครอง !“ก็ผมห่วงคุณไง” เขาตอบพร้อมยิ้มให้กับเธอ“คนบ้า จะมาห่วงอะไรฉันโตแล้วนะไม่ใช่เด็ก ๆ”แทนไทหัวเราะออกมากับท่าทางที่ไม่พอใจของหญิงสาว“คุณไม่ใช
ระหว่างรับประทานอาหารมื้อเย็น ธรรศมองลูกชายคนเล็กที่นั่งร่วมโต๊ะ แววตาเต็มไปด้วยความเศร้าสร้อย ต่างจากหลาย ๆ วันที่ผ่านมา อีกทั้งช่วงนี้เตชินท์ดูแปลกไปจากเดิม กลับบ้านเร็วกว่าปกติจนผิดวิสัย“วันนี้แปลก ทำไมกลับบ้านเร็ว” ธรรศตัดสินใจเอ่ยถามขึ้น“ไม่มีอะไรครับ ผมแค่อยากกลับมากินข้าวพร้อมกับทุกคนก็เท่านั้นเอง” เตชินท์ตอบพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์กลบเกลื่อน“มีสาวในใจแล้วแน่ ๆ ถึงทำตัวดีแบบนี้” เมื่อได้โอกาสเอาคืนแทนไทจึงเอ่ยปากแซวน้องชายบ้างแล้วก็ตรงจุดแทงใจเตชินท์พอดิบพอดี“ไม่มีหรอก วุ่นวายจะตายไป” เตชินท์หัวเราะก่อนจะฉีกยิ้มมองพี่ชายแล้วพูดต่อไปว่า “ว่าแต่พี่แทนไม่มีแผนจะพาพี่สะใภ้ไปฮันนีมูนบ้างเหรอ ?”แทนไทจ้องมองน้องชายที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเขม็งด้วยความไม่พอใจ วันนี้เขาถูกทักเป็นรอบที่สองแล้ว ไม่รู้จะพูดกันทำไม“นั่นสิ” นิตยลัภย์เอ่ยถามขึ้นบ้าง เพราะแต่งงานมาเกือบอาทิตย์แล้วแต่ลูกชายก็ยังไม่ได้วางแผนที่จะไปฮันนีมูนเลย และไม่คิดที่จะพูดถึงด้วยซ้ำ“ยังเลยครับ” เขา
แสงแดดสาดส่องผ่านเข้าทางหน้าต่าง หญิงสาวขยับตัวเพื่อหลบแสงที่เเยงตาเข้ามาด้วยความรำคาญ มือเรียวยกผ้าห่มขึ้นปิดบังใบหน้า เเทนไทรู้สึกตัวเมื่อมือของหญิงสาวมาปัดโดนที่หน้า เขาลืมตาขึ้นพลางมองหญิงสาวข้างกายซุกอยู่ใต้ผ้าห่ม ชายหนุ่มดันร่างกายให้ลุกขึ้นนั่งยกมือขึ้นลูบใบหน้าด้วยความงัวเงียณัฐกฤตาขยับตัวปรือตาขึ้นมอง ก่อนเบี่ยงสายตาหลบไปทางอื่น“อรุณสวัสดิ์ครับที่รัก” แทนไทกล่าวพร้อมยิ้มละมุน“ค่ะ”เขามองด้วยสายตาไม่ค่อยพอใจ ณัฐกฤตาไม่ได้สนใจทั้งยังขยับตัวเพื่อลงจากเตียง ทว่ามือแกร่งของเขากลับรั้งต้นแขนเอาไว้พร้อมขยับตัวเข้ามาหา“คุณยังไม่บอกอรุณสวัสดิ์ให้ผมฟังเลยนะ” น้ำเสียงเขาฟังดูน้อยใจ“เช้า ๆ ปากเหม็นค่ะ” เธอบอกเหตุผล ทั้งพยายามที่จะถอยออกห่าง“จริงหรอ” เขาถามเสียงสูงล้อเลียน คนตัวใหญ่ขยับเข้าไปใกล้มากขึ้นจนร่างเเทบแนบชิดติดกัน“คุณเเทน !” เธอร้องอย่างตกใจ“พูดก่อนสิ” เขาโน้มตัวมากระซิบที่ข้างใบหู“ไม่ !”“งั้นผมจะ...”
“คุณแทน...”การที่ได้ยินเสียงของเธอเรียกเขาแล้ว ยิ่งทำให้หัวใจเขาพองโตมากขึ้นไปทุกที แทนไทมอบความสุขให้ภรรยาอย่างอ่อนโยน เขารู้ว่านี่อาจจะเป็นครั้งแรกของเธอ และเขาต้องการให้เธอได้จดจำความรู้สึกนี้และมีความสุขไปกับมัน“คุณชอบไหม ?” แทนไทเอ่ยถามเสียงแหบพร่า มองหญิงสาวปรือตาขึ้น ใบหน้าแดงก่ำด้วยความอาย อันที่จริงแล้วไม่ต้องได้คำตอบจากปากของเธอด้วยซ้ำ เขายิ้มก่อนขยับตัวขึ้นมาแล้วจุมพิตเธออีกครั้งหนึ่ง“คุณแทน !” ณัฐกฤตาสะดุ้งขึ้นเมื่อรับรู้ถึงสิ่งแปลกปลอมที่รุกล้ำเข้ามา แต่นั่นทำให้เธอไม่มีแรงต่อต้านหรือคัดค้านชายหนุ่ม มือเรียวยกขึ้นคล้องที่คอเขาและเริ่มที่จะจูบตอบเธอต้องการเขา...แน่นอนว่าทั้งร่างกายและหัวใจ ทว่าการที่ได้กอดเขาแบบนี้โดยที่ไม่รู้ถึงหัวใจนั้นก็จะเจ็บปวดอยู่บ้าง ทว่าหากมีลูกกับเขาสักคนก็คงจะดี ถึงแม้ว่า...เขาอาจจะไม่รู้สึกอะไรกับเธอเลยภรรยาของเขาช่างเรียนรู้ไวจริงๆ แทนไทยิ้มอยางมีความสุข เขาขยับตัวออกเล็กน้อยดันขาและสะโพกของเธอขึ้น เมื่อณัฐกฤตามองเห็นสิ่งที่ไม่ควรจะเห็นจึงรีบหลับตาลงทันทีคุณพระ...เขาคงไม่
กระวนกระวายใจจนแทบไม่มีสมาธิทำงาน...เมื่อใจที่ยังรุ่มร้อนของแทนไทยังไม่ดับสนิท เสียงถอนหายใจจนนับครั้งไม่ถ้วนตั้งแต่เมื่อเช้ายังตอนนี้เป็นเวลาเกือบเที่ยงแล้ว เขายกมือขึ้นลูบใบหน้าก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงานเดินไปที่หน้าต่าง มองตึกสูงในใจกลางเมือง ถนนหลายเส้นทางที่เต็มไปด้วยรถยนต์อัดแน่น ด้วยความรู้สึกที่สับสนกระวนกระวายทำอะไรไม่ถูก ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างหนัก ก่อนที่เขาจะเดินกลับมายังโต๊ะทำงานตามเดิม“บ้าเอ๊ย !”เขาสบถออกมา พลางยกมือขึ้นเสยผม ก่อนเดินกลับมาเอนหลังพิงกับเบาะเก้าอี้ เปลือกตาหนาปิดลงอย่างช้าๆ เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้แต่แรก ไม่คิดว่ากลายเป็นเขาเอง...ที่จะตกหลุมรักเธอสตูดิโอที่ส่งเสียงเรียกวุ่นวายตั้งแต่เช้าจนถึงตอนเที่ยง แต่สำหรับ ตากล้องหนุ่มมืออาชีพอย่างเตชินท์ที่ปกติมักจะเดินแซวเล่นไปทั้งวันนี้เขากลับนั่งนิ่งไม่สนใจสิ่งอื่นใดหลายวันมานี้ทุกอย่างได้เเปรเปลี่ยนความรู้สึกของผู้ชายเจ้าสำราญอย่างเขาไปเเทบหมดคราบ เขาเฝ้าที่จะพบเธอมานานถึงแม้จะอยู่ใกล้กันเเต่กลับไม่พบเจอจนกระทั่งในงานแต่งงานของพี่ชายทำให้รู้สึก
เช้าวันพฤหัสบดีที่สดใส ทว่าสำหรับแทนไทคงจะไม่ใช่อีกต่อไปเพราะต้องใช้เวลานานในการหาข้ออ้าง เรื่องที่ณัฐกฤตาจะตามไปกองถ่ายทำโฆษณา ความจริงแล้วบิดาดันพูดเปิดประเด็นเรื่องนี้ขึ้นในช่วงอาหารเย็นของเมื่อวาน ทำให้เธอสนใจที่จะไปด้วย และวันนี้โชคก็ช่างไม่เข้าข้างเสียเลยที่ให้ณัฐกฤตามีเวลาว่างมากพอที่จะไปพร้อมกับเขา แม้จะพยายามอ้างบอกเหตุผลต่าง ๆ หลายอย่างเพื่อไม่ให้ไปที่กองถ่ายด้วย เเต่สุดท้ายก็ไม่ได้ผล“ใช่สิ ! คุณจะเเอบไปนัดพบคุณวศินใช่ไหมล่ะ เลยไม่อยากให้ฉันไปเป็นก้างขวางคอ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงประชด เบือนหน้าหนีมองไปทางอื่น ในตอนนี้ยังเป็นต่อ เพราะเขาเริ่มที่จะเกรงใจและยอมอ่อนให้เธอ“คุณอย่าเข้าใจผิดสิ”แทนไทเดินเข้ามาโอบกอดทางด้านหลังของณัฐกฤตา นั่นทำให้เธอรู้สึกดีมาก ๆ กับการกระทำแบบนี้ของเขา“ปล่อยเลยนะ อย่ามาแสร้ง”“คุณกำลังหึงผมใช่ไหม ?”“ใครจะไปหึงคุณกัน” หญิงสาวตอบพลางผลักชายหนุ่มออก“เเต่ผมชอบให้คุณหึงผมนะ” แทนไทกระซิบบอก“ตกลงคุณจะไม่ให้ฉันไปใช่ไหมคะ” ณัฐกฤตา
หญิงสาวเดินออกมาจากห้องน้ำในชุดคลุมอาบน้ำซึ่งเป็นที่ตกใจและแปลกใจสำหรับแทนไท“ไม่ต้องจ้องฉันซะขนาดนั้นก็ได้ค่ะ” เธอพูดก่อนจะเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า“ผมก็แค่แปลกใจที่คุณ...”“ก็เมื่อกี้ยังไม่ได้เลือกไว้นี่คะ อีกอย่างฉันรอคุณเข้าไปอาบน้ำอยู่นะ” เธอพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปเปิดตู้เสื้อผ้า“ครับ ผมก็แค่สงสัยวันนี้คุณมาแปลกก็เท่านั้น”“ไม่แปลกหรอกค่ะ ปกติตอนเช้าคุณจะอาบน้ำก่อนฉันนี่คะ จะให้ฉันเปลี่ยนชุดโดยที่มีคุณอยู่ใครจะไปกล้ากันล่ะคะ”“ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย ถ้าคุณไม่กล้าไว้ผมจะออกมาเปลี่ยนชุดเป็นเพื่อนพร้อมกับคุณ ดีไหม ?” แทนไทถามด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ณัฐกฤตาจ้องมองด้วยสายตาขุ่นเคือง ทั้งที่จริงแล้วใบหน้าของเธอนั้นแดงก่ำด้วยความอายและโกรธ“ผมล้อเล่นน่า” เเทนไทก้าวเข้าไปใกล้“เเต่ฉันไม่เล่นด้วยนี่คะ คุณชอบพูดจาเเบบนี้ทุกที”“โอเคครับ ต่อไปนี้ผมจะไม่พูดจาลามกใส่ภรรยาสุดสวยอีก อย่างอนผมนะ” เขาพูดพร้อมก้าวเข้ามาหาเธอ ทว่าหญิงสาวกลับถอยหลังออกห
“เป็นอะไรไปยัยแพงดูร้องเข้า แม่ตกใจหมด”“แพงก็แค่ตกใจค่ะ” พาลินตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งพลางก้มหน้าหลบสายตา แทนไทพี่ชายที่เธอหลงรักเขาแต่งงานแล้วหรือนี่ ?“แล้วนี่แต่งกันตอนไหนล่ะ ไม่เห็นโทรมาบอกบ้างเลยนะ”“แต่งกะทันหันเพราะมีเรื่องนิดหน่อยน่ะ แต่ตอนนี้เห็นเจ้าแทนติดหนูขวัญงอมแงมเลยนะ ฉันกำลังรอหลานอยู่นี่แหละ” นิตยลัภย์พูดด้วยน้ำเสียงดีใจ จนพาลินถึงกับตัวสั่นสะท้านออกมาเพราะว่าทนฟังต่อไปไม่ได้“คุณแม่คะ เดี๋ยวแพงออกไปข้างนอกหน่อยนะคะ พอดีนึกขึ้นได้ว่านัดเพื่อนเก่าเอาไว้ค่ะ” พาลินพูดปดเพราะทนฟังต่อไปไม่ได้“อย่ากลับมาดึกนักล่ะ” กรพรรณพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง“ค่ะ” หญิงสาวขานรับสั้น ๆ พร้อมลุกขึ้นเดินออกจากห้องรับแขกไปด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง เธอน่าจะกลับมาหาเขาตั้งนานแล้ว ไม่คิดว่าพี่แทนไทผู้ชายแสนดีที่ไม่เคยชายตามองผู้หญิงคนไหนจะแต่งงานไปแล้ว“แล้วเตชินท์ล่ะเป็นยังไงบ้าง” เสียงของกรพรรณเอ่ยถามดังเล็ดลอดออกจากห้องรับแขกจนถึงหูของพาลินที่กำลังเดินออกไปแต่ทว่าเธ
“เตรู้ว่าสายไป แต่ถ้ามันทำให้ดาต้องเสียใจเพราะกลับมาคบกับเตอีกครั้ง...” เตชินท์สูดหายใจเข้าลึก ๆ มองหญิงสาวตรงหน้าด้วยแววตาที่เศร้าโศก “เตจะไม่ขอมายุ่งวุ่นวายกับดาอีก เตจะออกไปจากชีวิตของดา”เพียะ !ฝ่ามือเรียวฟาดลงไปที่แก้มของชายหนุ่มอย่างแรง แววตาของเธอมองเขาด้วยความโกรธ อยากจะไปจากชีวิตเธอแล้วกลับมาขอเธอคบอีกทำไม !“กลับมาทำไมล่ะ ถ้ากลับมาแล้วจะจากฉันไปแบบนี้ คนใจร้าย !” หญิงสาวตวาดใส่ชายหนุ่มทั้งน้ำตา เตชินท์ได้แต่ยืนนิ่งอึ้งทำอะไรไม่ถูกเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกมืดแปดด้านจนหาทางออกไม่ได้“ถ้านั่นเป็นความต้องการของดาเตจะไป...”“เป็นเพราะนาย...” วรรณรดาพูดเสียงสั่น “ทำไมฉันถึงไม่ลืมนายสักทีทำไมล่ะ...ทั้งที่นายเองก็ไม่เคยรักฉันเลยสักนิด !”“ดา...”“ฉันกลัว...” หญิงสาวเอ่ยขึ้นพลางสูดหายใจเข้าและยกมือขึ้นปาดน้ำตาบนใบหน้าของตัวเอง “กลัวว่านายจะทิ้งฉัน กลัวว่านายจะทำเหมือนเมื่อก่อน...”“ดา...เราลองมาคบดูใจกันก่อนได้ไหม ถ้าดายังไม
“แล้วนี่หายาทาไปบ้างยัง ?” นิตยลัภย์ถามด้วยความเป็นห่วง“แค่ประคบด้วยน้ำแข็งครับ”“ไป ๆ รีบเข้าบ้านกัน ยืนแบบนี้เดี๋ยวยิ่งเจ็บมากขึ้นอีก” ว่าแล้ว นิตยลัภย์ก็เดินเข้ามาช่วยประคองลูกสะใภ้เดินขึ้นบันไดเข้าไปในบ้านแทนไทพยุงภรรยาเดินเข้ามาในห้องรับแขกพร้อมกับแม่ ก่อนจะนั่งลงที่โซฟา นิตยลัภย์เดินมานั่งที่โซฟาอีกตัวข้างลูกชาย ชายหนุ่มจึงหันไปมองมารดาที่มีหน้าเคร่งเครียด และเต็มไปด้วยคำถามมากมาย“ดูคุณแม่มีเรื่องที่จะถามผมเยอะนะครับ” แทนไทเอ่ยถามขึ้น“เปล่าหรอก ไม่มีอะไร”“มีอะไรก็บอกผมเถอะครับ” ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง“มีอะไรหรือเปล่าคะ ?” ณัฐกฤตาเอ่ยถามขึ้นบ้างหลังจากที่สังเกตเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของแม่สามี“พักนี้ตาเตมีปัญหาอะไรหรือเปล่า” นิตยลัภย์พูดด้วยน้ำเสียงกังวล“ทำไมเหรอครับ ?”“ก็พักนี้ตาเตดูแปลกไป ถึงจะเที่ยวผู้หญิงจะไปดื่มมา แต่ครั้งนี้...”“ดูเหมือนคนอกหักใช่ไหมคะ” ณัฐกฤตาตอบขึ้นแทน
“ไปครับ เดี๋ยวผมอุ้มคุณไปนอนพักที่ห้อง” เขาพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืน แต่คนที่กำลังถูกอุ้มนั้นหันมามองด้วยแววตาตกใจ“ไม่ต้องเลยค่ะ ฉันเดินเองได้” หญิงสาวรีบปฏิเสธขึ้นทันทีพลางขยับตัวลุกขึ้นแต่ทว่าขาของเธอนั้นยังไม่มีแรงมากพอที่จะทรงตัวยืนเองได้ตามปกติ ณัฐกฤตาจึงเซล้มลงที่โซฟาอีกครั้งทว่าเขากลับเข้ามาช่วยรั้งเธอไว้นัยน์ตาคมจ้องมองหญิงสาวแบบใกล้ ๆ พลางยิ้มออกมาที่มุมปากก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นดุเข้ม“เห็นไหม ยังไม่หายดียังจะอวดเก่งอีก”“ก็คุณชอบ...”“ผมบอกแล้วไงว่าไม่รังแกคนเจ็บ แต่ถ้าไม่เชื่ออีกผมจะจูบคุณจริง ๆแล้วนะ” แทนไทพูดขู่“คนบ้า !”“ตกลงจะให้ผมอุ้มหรือจะให้ผมจูบคุณดีครับ”ดูเหมือนจะเป็นข้อเสนอที่เธอไม่อยากจะได้ทั้งนั้นเลย ณัฐกฤตามองชายหนุ่มด้วยสายตาที่ลังเลพลางคิดหนักอุ้มหรือจูบ“ที่รักคุณคิดนานเกินไปนะ เดี๋ยวผมเลือกให้เองดีไหม ?”“อุ้ม” เธอตอบพึมพำเบา ๆ“อะไรนะครับ ผมไม่ได้ยินเลย” แทนไทแกล้งทวนคำ
“แค่นี้บอกหนัก ทีผม...” แทนไทกระซิบเสียงเบาที่ข้างใบหูของหญิงสาว “อยู่บนตัวคุณ คุณไม่เห็นบอกว่าหนักเลย”“คุณแทน คนลามก !” ดวงตากลมมองเขาด้วยความขุ่นเคือง แก้มเนียนผ่าวร้อนแดงก่ำเป็นสีลูกพีช เธอจับแขนเขาสะบัดออกอย่างแรงก่อนจะเดินออกจากบ้านพักไปโดยไม่หันกลับมามองชายหนุ่มที่ยืนอมยิ้มอย่างขบขันแทนไทส่ายหน้าหัวเราะก่อนจะเดินตามออกไป เขามองแผ่นหลังเธอที่ค่อย ๆ ออกห่างไปเรื่อย ๆ สองเท้าก้าวฉับไวเพื่อที่จะตามให้ทัน“ที่รักจะรีบไปไหน แค่ผมเดินตามคุณก็เหนื่อยแล้ว” ชายหนุ่มพูดเสียงหอบพลางมองหญิงสาวที่เชิดหน้าไม่สบตากับเขาแม้แต่น้อย“อย่าเข้ามานะ คุณมีแต่ความคิดสกปรกทั้งนั้นเลย !” ณัฐกฤตาเดินถอยหลังออกห่าง ทว่าแทนไทค่อยๆ เดินเข้าไปหาหญิงสาวอย่างช้าๆ“ผมไม่ได้ลามกสักหน่อย”เขาเอ่ยขึ้นพลางมองหน้าภรรยาสาวที่ยังคงแดงก่ำอยู่“ออกไปเลยนะ” ณัฐกฤตาพูดพร้อมหันตัววิ่งหนีจากชายหนุ่มเธอกำลังโกรธเขาและอายเขา แล้วจะตามเธอมาทำไมเล่า !แทนไทมองณัฐกฤตาที่วิ่งเร็วออกห่างไปเรื่อย ๆ เข
เป็นเวลานานเกือบสามชั่วโมงหลังจากเดินเล่นถ่ายรูปไปทั่วชายหาด แสงอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้าลง ชายหนุ่มและหญิงสาวกลับมาที่บ้านก่อนจะเปลี่ยนชุดแล้วเดินดูสนามหญ้านอกบ้านที่ถูกจัดแต่งไว้อย่างสวยงามหรูหราแสงเทียนอโรม่าถูกวางเป็นจุด ๆ กลิ่นอายหอมทำให้สูดแล้วดูผ่อนคลายได้ไม่น้อย ณัฐกฤตามองไปยังที่สนามด้วยความตกตะลึงและแปลกใจก่อนหันไปมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ด้วยใบหน้าแผ่วร้อนอาหารมื้อค่ำสุดโรแมนติกที่แทนไทตั้งใจเตรียมไว้ให้ภรรยาในค่ำคืนนี้ ซึ่งเขาใช้เวลาที่เดินแยกจากหญิงสาวในช่วงบ่ายเพื่อมาจัดและดูให้เรียบร้อย“คุณไม่เห็นบอกฉันเลยนี่คะว่าจะจัดอาหารมื้อค่ำที่นี่” เธอหันไปถามชายหนุ่มที่ยืนยิ้มละมุนเปี่ยมไปด้วยความสุข“ถ้าบอกจะเรียกว่าเซอร์ไพรส์หรือครับ” แทนไทพูดขึ้น“คุณชอบไหม ?”“ชอบค่ะ ขอบคุณนะคะ” เธอพูดเบา ๆ ซึ่งคนได้ยินหัวใจก็เต้นแรงไม่เป็นจังหวะ เพียงแค่เธอพูดสั้น ๆ เขาก็รู้สึกอิ่มเอมไปทั้งใจ“มาครับที่รัก” แทนไทจับมือของณัฐกฤตาเดินเข้าไปที่โต๊ะอาหาร ฝ่ามือใหญ่กุมมือของเธอไว้แน่น หญิงสาวม
วันหยุดสุดสัปดาห์ที่เเทนไทเฝ้ารอก็มาถึง ทั้งที่ปกติก่อนหน้าเเต่งงานเเทบไม่อยากจะให้ถึงวันหยุดที่เเสนจะน่าเบื่อเลยสักนิดเดียว ก็จะให้เบื่อได้ยังไง วันนี้เขาจะไปฮันนีมูนกับภรรยา ถึงแม้อาจจะดูกะทันหันไปสักหน่อยก็ตามณัฐกฤตาเดินออกมาจากห้องน้ำในชุดเดรสรัดรูปสีหวาน สองเท้าก้าวตรงมาที่โต๊ะเครื่องแป้งพลางชำเลืองมองชายหนุ่มที่ยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่“คุณเเต่งตัวเเบบนี้อีกเเล้ว” เเทนไทพูดพร้อมเดินเข้ามาหา“ยังไงคะ” เธอหันไปถามชายหนุ่มพร้อมกับหยิบหวีขึ้นสางผม“ผมไม่ชอบเลย” เเทนไทขยับมาประชิดตัว เอื้อมมือขึ้นลูบที่เเก้มของเธอ ณัฐกฤตาเบี่ยงตัวหลบ พลางถอนหายใจอย่างไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่“เปลี่ยนเถอะ คุณเเต่งตัวเเบบนี้ผมไม่อยากออกไปข้างนอกเลยนะ”ดวงตากลมกลอกมองอย่างชั่งใจ เธอเดินกลับไปที่ตู้เสื้อผ้าอีกครั้งแล้วหยิบเลือกชุดใหม่ออกมาแล้วไปที่ห้องน้ำ ไม่นานนักประตูก็ถูกเปิดออก เเทนไทมองไปที่ภรรยาสาวในชุดเดรสสีหวาน ถึงจะไม่มิดชิดมากเท่าไหร่เเต่ก็ยังดีกว่าชุดเมื่อกี้“ถ้าไม่ผ่านอีกฉันไม่ไปเเล้วนะคะ” ณัฐกฤตาเ
คำว่าความสุขได้ผ่านพ้นไป เนิ่นนานจนชายหนุ่มเจ้าสำราญอย่าง เตชินท์ไม่เคยได้สัมผัสอีกครั้ง หลังจากเรียนจบเมื่อหลายเดือนก่อนเขาไม่ได้เจอวรรณรดาอีกเลย นี่ก็ผ่านมาเกือบปีเเล้ว...ทำไมเขายังลืมไม่ได้ เขาเองไม่ใช่เหรอที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทุกอย่างไม่มีใครสักคนที่เขาคิดจะจริงจัง เพียงเเค่ผ่านมาเเละผ่านไป ความสัมพันธ์ทางกายไม่ได้ผูกหัวใจเขาเเละผู้หญิงที่เคยนอนด้วยหลาย ๆ คนเอาไว้เเม้เเต่น้อยเตชินท์นั่งอยู่ภายในสตูดิโอของสถานีแห่งหนึ่ง เขาทำงานที่นี่มาเกือบร่วมสี่เดือนเเล้วหลังจากที่พักฟื้นหัวใจมานานเเสงอาทิตย์ค่อย ๆ ลับขอบฟ้า สายตาคมมองออกไปนอกหน้าต่างจากตึกสูงในใจกลางเมือง เสียงถอนหายใจอย่างหนักดังออกมาเป็นระยะ ๆ ก่อนที่จะเดินกลับมานั่งที่โซฟาขนาดใหญ่ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาได้จังหวะพอดีกลับที่มีสายเข้ามา ชายหนุ่มมองเบอร์ปลายสายด้วยความชั่งใจก่อนจะตัดสินใจกดรับ‘ครับเมย์’ เขาขานรับ[เตคะ คุณอยู่ไหน]‘สตูดิโอครับ’ เขาตอบเมธาวีผู้หญิงที่เขาควงด้วยอยู่ในตอนนี้ไม่ใช่ในฐานะเเฟนหรือคนรักเเบบเปิดเผยเเละเขาก็ไม่คิดจะเกินเลยมากกว่าคำว่า คู่ควง