ไม่มีข้อแม้ ยังไงซะงานแต่งงานจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน !”
นั่นเป็นคำพูดที่เขาไม่มีทางปฏิเสธได้อีกแล้ว ชายหนุ่มเดินกลับมาที่ห้องทิ้งตัวลงที่นอนด้วยความอ่อนล้าพร้อมถอนหายใจออกมาอย่างหนัก เมื่อรู้ว่าหญิงสาวที่จะแต่งงานด้วยไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นณัฐกฤตา เครียด ! เขาเครียดมากกว่าเดิมอีกเป็นหลายสิบเท่าตัว ทำไมหล่อนถึงตกลงแต่งงาน ! เขารู้จักกับหญิงสาวเพราะร่วมงานกันเมื่อหลายเดือนก่อน เธอเป็นคนออกแบบชุดนางแบบโฆษณาให้กับเขา พบเจอและคุยงานกับเธอไม่กี่ครั้งเท่านั้น ครั้งแรกที่เจอคงจะเป็นเมื่อปีที่แล้วที่เขามาดูการถ่ายแบบโฆษณาน้ำหอมพอดีกับที่เธอเป็นผู้ออกแบบเสื้อผ้านักแสดงที่ต้องใช้ในกองถ่ายที่เตชินท์ทำงานอยู่ หลังจากนั้นหลายเดือนก็ไม่ได้พบอีกแต่แล้วอยู่ ๆ กำลังจะมาเป็นเจ้าสาวทั้งที่เขาไม่รู้สึกอะไรเลยย่างนั้นเหรอ ทำไม่ได้ ! เขาจะไม่มีวันยอมแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักเด็ดขาด แทนไทลุกขึ้นจากเตียง เดินเข้าไปในห้องน้ำด้วยความหงุดหงิดและสับสนกระวนกระวายใจ...ให้ตายเถอะ ! หลังจากที่รับประทานอาหารมื้อเย็นเสร็จ เตชินท์ขับรถออกจากบ้านอย่างรวดเร็ว เรื่องทุกอย่างกำลังสนุก ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่าใครเป็นคนสร้างข่าวขึ้นมา แต่ขอสักนิดให้เติมไฟเข้าไปหน่อยแค่นี้ก็สนุกมากพอแล้ว เขารู้ว่าพี่ชายไม่เคยยุ่งหรือสนใจผู้หญิงคนไหน อีกทั้งไม่มีสนใจใครเป็นพิเศษด้วย ตากล้องหนุ่มจอดรถเข้าซอง เดินเข้าไปในผับด้วยความมาดมั่น เสียงดนตรีกระหน่ำไปทั่ว ชายหนุ่มกวาดสายตามองหญิงสาวสวยที่ขยับสะโพกบิดโยกย้ายอย่างยั่วยวน เตชินท์มองจ้องไปที่หญิงสาวใบหน้างามสวยคนหนึ่งพร้อมที่จะก้าวไปหาแต่ทว่าเสียงโทรศัพท์กลับดังขึ้นซะก่อน มือเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ที่กระเป๋ากางเกงขึ้นมาพร้อมกดรับอย่าง รำคาญโดยไม่ดูว่าปลายสายที่โทรมาเป็นใคร [พี่เตอยู่ที่ไหนคะ] ปลายสายถามด้วยน้ำเสียงหวาน ชายหนุ่มทำสีหน้ารำคาญแทบอยากจะกดทิ้ง “อยู่ที่ผับครับ คนสวย” [พี่เตไปทำอะไรคะ แล้วไหนบอกไม่ว่างไงคะ ทีหมิวชวนไปไม่ไป] “พี่มาเที่ยวครับ” เตชินท์ตอบทั้งที่ตาของเขามองไปหาหญิงสาวเรือนร่างเย้ายวน [แล้ว...] “แค่นี้ก่อนนะครับ พี่รำคาญ” เขาแทรกขึ้นเมื่อพูดจบ เขาตัดสายทิ้งไปทันทีราวกับว่าสายที่ตัดทิ้งไปก็ตัดความสัมพันธ์ของเขาและเธอลงเช่นกัน หลังจากวางสายลงเตชินท์หันมาอีกครั้ง แต่ทว่าหญิงสาวเจ้าของใบหน้าสวยคนนั้นกลับหายไปเสียแล้ว “บ้าเอ๊ย !” ชายหนุ่มสบถออกมาด้วยความหงุดหงิด ก่อนที่จะเหล่สาวคนต่อไปโดยที่ไม่สนใจโทรศัพท์ที่จะดังขึ้นอีกหลายครั้งจนต้องกดปิดเครื่อง เตชินท์เดินเข้าไปหาหญิงสาวรูปร่างเพรียวที่กำลังนั่งดื่มอยู่คนเดียว เขานั่งลงข้างๆ พร้อมกับสั่งเครื่องดื่ม แล้วโปรยยิ้มหล่อที่กระชากใจให้เธอพร้อมขยับเข้าไปใกล้มากขึ้น “คนสวย วันนี้มาคนเดียวเหรอครับ” เขาพูดด้วยคำหวาน หญิงสาวหันมามองเขาก่อนจะทำท่านิ่งไม่สนใจ “อย่าหนีหน้าแบบนี้สิครับ” รัตติมาหันมามองชายหนุ่มตรงหน้าพร้อมกับแสยะยิ้มหวานให้ เธอไม่ถือตัวถ้าหากพึงใจเขาเหมือนที่เขาพึงใจเธออยู่ในตอนนี้ “แล้วคุณคนหล่อมาคนเดียวเหรอคะ” เสียงหวานเอ่ยถามขึ้น “ใช่สิครับ จะให้ผมมากับใครล่ะครับ” เขาตอบพลางส่งสายตาจ้องไปที่เนินอกภายใต้ชุดเดรสเกาะอกสีดำที่ล้นทะลักออกมา “ก็มากับคนรักยังไงคะ” “ผมยังโสดครับ” เขาตอบพร้อมยิ้มหวานออกมาก่อนจะโน้มตัวลงไปกระซิบที่ข้างต้นคอของหญิงสาว “คุณสนใจคนโสดอย่างผมไหมครับ” / / / วันหยุดสุดสัปดาห์ของครอบครัว แทนไทได้นัดพบกับครอบครัวของว่าที่คู่หมั้นที่จะมาเป็นเจ้าสาวอย่างเป็นทางการ ทั้งที่เขาพยายามบ่ายเบี่ยงเพื่อที่จะไม่ไปพบหญิงสาวแต่สุดท้ายแล้วก็ไม่รอด ข้ออ้างที่กลัวว่าจะกลับมาทำงานในวันรุ่งขึ้นไม่ทันก็โดนดักไว้เป็นที่เรียบร้อย ‘ไม่ต้องมาอ้าง ฉันดูตารางเวลาแล้ว ทั้งอาทิตย์นี้แกว่าง ไม่ติดประชุม’ สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ บ้านพักตากอากาศหลังใหญ่ดูสบายตาอยู่ในใจกลางเมืองหัวหิน สไตล์ร่วมสมัยอยู่ไม่ไกลจากทะเล หัวหิน รถแวนหยุดจอดลง แทนไทเปิดประตูลงจากรถด้านฝั่งคนขับพร้อมกับประตูบานใหญ่ได้ถูกเลื่อนออก ชายหนุ่มมองไปยังบ้านพักตากอากาศที่ปีหนึ่งมาครั้งหรือสองครั้ง “คิดถึงที่นี่จัง นาน ๆ มาครั้ง” เตชินท์เอ่ย พลางสูดหายใจเข้าเต็มปอด “นาน ๆ มาครั้งก็คงจะมีแต่แกเท่านั้นแหละ ชวนมาทีไรไปอยู่กับผู้หญิงทุกที” ธรรศบ่นลูกชายคนเล็ก ตากล้องหนุ่มหันมาหัวเราะ “ก็จะได้คิดถึงไม่เบื่อไงครับ” “เข้าบ้านก่อนเถอะ อีกสักพักครอบครัวของคุณเทพทัตก็คงจะมาถึง” นิตยลัภย์พูดขึ้นพร้อมเดินนำเข้าไปข้างใน เหลือเพียงแต่แทนไทและเตชินท์ที่ยืนจ้องหน้ากัน “พี่ชายครับ ผมเข้าใจว่าอึดอัดแต่อยู่กับผู้หญิงดีกว่าอยู่กับผู้ชายด้วยกันนะครับ ผมขนลุกน่ะ” เตชินท์พูดพร้อมกับหัวเราะออกมาเสียงดัง แทนไทมองน้องชายตัวแสบที่เดินเข้าไปในบ้านพร้อมกับเสียงหัวเราะด้วยความหงุดหงิด คอยดูถึงตาเขาเมื่อไหร่อย่าหวังว่าเขาจะปล่อยมันไป ! รถยนต์หยุดจอดลงหน้าบ้านพักตากอากาศ ประตูเปิดออกพร้อมกับทุกคนค่อย ๆ ทยอยลงมา ณัฐกฤตาใจเต้นไม่อยู่กับเนื้อกับตัว รอยยิ้มหวานปรากฏอยู่บนใบหน้าจนคนเป็นพ่อเป็นแม่มองด้วยความสงสัยและแปลกใจ “ยัยขวัญเป็นอะไรไป” หญิงสาวหุบยิ้มลงพร้อมหันมาหามารดา “เปล่าค่ะ” เธอตอบพร้อมกับส่ายหน้าไปมา ทัสนันทน์มองหน้าลูกสาวแล้วส่ายหน้าพร้อมเดินเข้าไปในบ้านกับสามี เหลือเพียงแต่ณัฐกฤตาที่ยิ้มออกมาจนแก้มปริ ดีที่พี่ชายเธอไม่มาด้วย ไม่อย่างนั้นคงจะกีดกันน่าดู หญิงสาวเดินเข้าไปในบ้านพักตากอากาศที่มีลมทะเลพัดผ่านเข้าออกทางช่องหน้าต่าง ดูสดชื่นสบายและผ่อนคลาย สายตาคู่กวาดมองไปรอบๆ ตัวบ้านอย่างชื่นชม ใช้เวลาหลายชั่วโมงที่เดินเล่นดูไปทั่วบ้านพักตากอากาศ อีกใจหนึ่งก็กวาดสายตามองหาชายหนุ่มแต่ไม่พบ สุดท้ายแล้วก็ต้องทำใจเดินกลับมาที่ห้องตัวเองด้วยความเสียดาย ณัฐกฤตาล้มตัวลงนอนกับที่นอนด้วยความเหนื่อยล้า ผ่านมาตั้งหลายชั่วโมงแล้วแทนที่จะได้เจอเขากลายเป็นว่าหายไปไหนก็ไม่มีใครรู้ ทางด้านมารดาของชายหนุ่มบอกว่าเขารู้แล้วว่าเจ้าสาวที่จะแต่งงานคือเธอ แต่ทำไมไม่ยอมออกมาพบหน้ากันแน่ ? หญิงสาวเด้งตัวขึ้นจากเตียงพร้อมยิ้มกว้าง เธอจะต้องรู้ให้ได้ว่าเป็นเกย์หรือไม่ ! เมื่อคิดได้ดังนั้นก็รีบเดินออกจากห้องไปแล้วมองหาแทนไททันที “พี่สะใภ้มีอะไรจะให้ผมช่วยเหลือหรือเปล่าครับ” เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยถามขึ้นจากทางด้านหลัง ทำให้หญิงสาวหันหน้าไปมองชายหนุ่มเจ้าของเสียง “เอ่อ...ฉันยังไม่เป็นสักหน่อย นายอายุเท่ากับฉันไม่ต้องเรียกแบบนั้นก็ ได้” เธอตอบทั้งที่สายตาชะเง้อมองหาแทนไท “ไม่ได้หรอกครับ ต้องเรียกให้ชินก่อน” เตชินท์ตอบพร้อมยิ้มเจ้าเล่ห์ รู้ทันทีว่าหญิงสาวคงจะมองหาพี่ชายอยู่ “แต่ถ้าจะหาต้องเข้าไปหาที่ห้องครับ ตอนนี้กำลังเก็บตัวไม่ค่อยอยากจะพบใครสักเท่าไหร่” “ฉันไม่ได้...” ปฏิเสธไม่ได้เพราะสายตาของเธอก็กำลังมองหาเขาอยู่จริง ๆ นั่นแหละ “ห้องอยู่ทางด้านริมขวาสุด ไม่ต้องเคาะประตูนะครับเดี๋ยวพี่ชายของผมจะไม่อนุญาต เข้าไปเลยจะดีกว่า” เขากล่าวแนะนำพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก “แบบนี้ก็เสียมารยาทน่ะสิ” ณัฐกฤตาพูดพลางมองชายหนุ่มตรงหน้าที่ยิ้มอย่างมีเลศนัย “ไม่หรอกครับ พี่ชายผมน่ะไม่ค่อยอยากเข้าใกล้ผู้หญิง ถ้าพี่สะใภ้อยากจะใกล้ชิดก็คงต้องใช้วิธีนี้แหละครับ” เตชินท์ใส่ไฟเต็มที่ ทั้งใจของเขาแอบหัวเราะด้วยความสนุกสนาน ณัฐกฤตามองเตชินท์ที่ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข เธอเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าจะถูกหลอกไหม แต่ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นเกย์หรือเปล่า สักครั้ง พิสูจน์ให้ชัวร์ไปเลย ! แทนไทหลบตัวอยู่แต่ในห้องเป็นเวลานานหลังจากที่มาถึงเมื่อหลายชั่วโมงที่เเล้ว เขามองลงไปยังท้องทะเลกว้างพร้อมถอนหายใจออกมาอย่างหนักการแต่งงานไม่ใช่ทางออกที่ดีเลยสักนิด เพราะยังไม่อยากมีครอบครัวในตอนนี้ จะทำอย่างไรให้ยกเลิกงานแต่งนี้เสีย คงมีทางเดียวคือทำให้ฝ่ายหญิงเชื่อสนิทว่าเขาเป็นเกย์จริง ๆ ซะแล้ว เขาเลิกคิดเรื่องนี้ และเดินตรงไปที่ตู้เสื้อผ้าก่อนจะเข้าห้องน้ำไปเพียงเวลาไม่นานก็อาบน้ำใหม่เรียบร้อย แทนไทเดินออกมาหยิบเสื้อผ้าออกมาวางที่เตียงพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมามอง เขาตกใจเพราะเสียงร้องของหญิงสาวยืนอยู่ แทนไทเดินเข้าไปยกมือปิดปากเธอทันที แต่ก็ล้มลงไปกับเตียงนอนกว้าง “อื้อ” มือเรียวจิกตีแขนของเขาด้วยความตกใจ “ห้ามร้อง” เขากระซิบ เพราะรู้ว่าถ้าหญิงสาวร้องขึ้นมาคนทั้งบ้านคง จะแตกตื่นอย่างแน่นอน ณัฐกฤตาพยักหน้ารับรู้สายตามองเขาด้วยความตกใจเมื่อร่างกายเธอแนบชิดกับเขาโดยที่เขายังเปลือยท่อนบนอยู่ ! แทนไทจ้องมองหญิงสาวใบหน้าเรียวรูปไข่ ดวงตากลมโตสีดำใกล้ ๆ แล้วรู้สึกใจเต้นอย่างที่ไม่เคยเป็น ชักอยากจะแต่งงานขึ้นมาซะแล้ว ! ชายหนุ่มสะบัดความคิดออกพร้อมค่อยๆ คลายมือออกจากปากเธออย่างช้า ๆ “ห้ามร้องและห้ามขยับเด็ดขาด” แทนไทขยับตัวขึ้นก่อนจะรีบคว้าเสื้อคลุมใส่อย่างรวดเร็ว ณัฐกฤตาจ้องมองหน้าท้องแบนราบสีขาวที่เห็นกล้ามเนื้อเป็นมัด ๆ เธอแทบอยากจะเป็นลม ถ้าเขาเป็นเกย์เธอจะเสียดายไปทั้งชีวิตจริง ๆ “คุณเป็นเกย์จริง ๆ เหรอ” เธอถามขึ้นด้วยความเสียดายเมื่อมองหุ่นของเขาแล้ว อยากจะเอื้อมมือไปสัมผัสสักครั้ง บ้า ! เธอกำลังคิดเรื่องอะไรกัน แทนไทรีบใส่ชุดคลุมให้เรียบร้อยก่อนจะหันมามองณัฐกฤตาที่นั่งอยู่บนเตียงแล้วส่งสายตาหื่นมองมาที่เขา “อย่ามองผมด้วยสายตาหื่นแบบนี้”แทนไทรีบใส่ชุดคลุมให้เรียบร้อยก่อนจะหันมามองณัฐกฤตาที่นั่งอยู่บนเตียงแล้วส่งสายตาหื่นมองมาที่เขา“อย่ามองผมด้วยสายตาหื่นแบบนี้” เขาพูดก่อนจะเดินออกห่าง“เปล่านะ” เธอรีบปฏิเสธ ทั้งที่ยังจ้องมองร่างของชายหนุ่มไม่วางตา อกแบนราบเห็นกล้ามเนื้อเป็นมัดทุกสัดส่วนคุณพระ ! นี่มันหุ่นว่าที่พ่อของลูกเธอชัด ๆ“ออกไปจากห้องผมซะ ผมจะเปลี่ยนเสื้อผ้า” ชายหนุ่มกล่าว“ไม่ค่ะ ฉันยังไม่รู้เลยว่าคุณเป็นเกย์จริง ๆ หรือเปล่า” หญิงสาวส่ายหน้าพร้อมลุกขึ้นขยับเข้ามาใกล้ สายตาส่งมองเขาอย่างยั่วยวนทั้งที่ใจกลับกลัวเขาอยู่รอมร่อ“ออกไปซะ ถ้ามีใครมาเห็นมันจะไม่ดี” แทนไทตอบพร้อมเดินถอยออกห่างจนชิดติดกำแพงอีกข้าง“ดีเลยค่ะ ฉันช๊อบชอบ” หญิงสาวพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงร่าเริ่ง“ผม-เป็น-เกย์” เขาพูดเน้นย้ำชัดทุกคำ“ฉันไม่เชื่อว่าผู้ชายอย่างคุณจะเป็น !” ณัฐกฤตาพูดอย่างมั่นใจ“ผมเป็น และเสียใจด้วย” แทนไทยิ้มหญิงสาวส่ายหน้ามองเขาราวกับรับความจริงไม่ได้“
เพียงเวลาไม่นานที่แทนไทใช้เวลาเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินลงมายังห้องรับแขก สายตาคมมองไปหาทุกคนที่ต่างมานั่งรออยู่ก่อนหน้านี้แล้ว“นั่งลงสิตาแทน” ธรรศพูดขึ้นชายหนุ่มเดินเข้ามานั่งตรงข้ามหญิงสาว สายตาเขามองหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังก้มหลบเขาอยู่“นี่ไงจ๊ะขวัญ คุณแทนไทที่แม่บอก” ทัสนันทน์เอ่ยขึ้นพร้อมมองใบหน้าของลูกสาวที่ก้มงุดไม่แม้แต่จะเงยขึ้นมามอง“ผมกับขวัญเจอกันแล้วครับ” แทนไทตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง“เจอกันได้ยังไง เราก็อยู่ในห้องตลอดนี่” นิตยลัภย์ถามด้วยความสงสัย“บังเอิญเจอกันก่อนที่จะลงมาหาคุณแม่ข้างล่างนี่แหละครับ” เขาตอบแต่ก็ไม่จริงทั้งหมดณัฐกฤตาผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก เพราะว่าเธอเป็นฝ่ายบุกไปหาเขาถึงห้อง ถ้าแม่รู้คงจะกล่าวว่าอย่างแน่นอน“อ้อ แล้วนี่คุยกันหรือยังล่ะ” นิตยลัภย์เอ่ยถาม“คุยแล้วครับ” แทนที่จะเป็นฝ่ายหญิงสาวตอบกลับเป็นฝ่ายชายหนุ่มตอบเสียเอง ทุกคนต่างก็จ้องมองด้วยความแปลกใจ ณัฐกฤตาเองได้แต่นั่งนิ่งเงียบสงบราวกับไม่มีตัวตนกลายเป็นว่า
ผ่านมาสามวันหลังพักพักผ่อน แทนไทกลับมาทำงานตามปกติ แต่ สิ่งเดิมที่ไม่ปกตินั่นก็คือ หญิงสาวเจ้าของใบหน้าเรียวสวยรูปไข่ที่ต้องวนเวียนอยู่กับเขาทุกสามเวลา เขาต้องไปรับทั้งที่เธอควรจะมาเองด้วยซ้ำแต่เพียงแค่เธอพูดออกมาเขาต้องจำใจยอม‘งั้น ถ้าคุณแทนไม่อยากมารับฉันก็ไม่เป็นไรค่ะ ไว้แต่งงานกันคุณก็ต้องไปส่งฉันอยู่ดี’ไปส่งเธอในตอนเช้า มารับไปทานอาหารกลางวันเวลาเที่ยง ตอนเย็นหลังเลิกงานต้องไปส่งกลับบ้าน แล้วไหนช่วงวันหยุดที่ต้องพาณัฐกฤตาไปเดตอีกช่วงเวลาอิสระของเขาแทบหายไป นี่ก็ผ่านมาหกวันแล้วหลังจากที่เธอและเขาคบกันในฐานะคู่รัก ช่างเป็นเดือนที่ทรมานสำหรับเขา อีกทั้งข่าวที่ออกไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ถูกลืมไปเรื่อยๆ แทนที่ด้วยข่าวงานแต่งงานที่ถูกปล่อยออกไป ทีแรกนึกว่าเป็นเพียงแค่ข่าวที่หญิงสาวสร้างขึ้น แต่เป็นเรื่องจริงที่เขาเองไม่อยากจะได้รับฟังข่าวใหม่ นักธุรกิจหนุ่ม รองประธานบริษัทเครื่องสำอางชื่อดังกำลังจะแต่งงานกับหญิงที่แอบคบดูใจกันมา หรือว่าแต่งงานเพราะปกปิดความจริงที่ตัวเองเป็นเกย์กันแน่ !ทันทีที่ได้อ่านหัวข้อข่าวขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ ชายหนุ่
บทนำปึก!เสียงหนังสือพิมพ์ทั้งฉบับถูกวางลงบนโต๊ะตรงหน้าอย่างแรง หญิงสาวเจ้าของใบหน้าเรียวรูปไข่ที่นั่งทำงานอยู่ถอนหายใจพร้อมเงยหน้าขึ้นมามองด้วยความสงสัยและแปลกใจ“นี่ไงที่แกบอกว่าเขาหล่อนักหล่อหนา” วรรณรดาผู้เป็นเพื่อนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจ ครั้นเมื่อมองใบหน้าของณัฐกฤตาที่รู้จักกันมาเกือบสิบปีที่ยังทำหน้าตาไม่รู้ร้อนรู้ร้อนหนาวก็ยิ่งโมโหใหญ่“ก็แล้วไงล่ะ? ฉันชอบเขา”ณัฐกฤตาพูดด้วยน้ำเสียงไม่ใส่ใจกับข่าวตรงหน้าที่เพื่อนสาวนำมาให้“แกชอบเขา แต่ฉันไม่ชอบ ฉันบอกแกเลยว่าอย่าไปคบเด็ดขาด!” วรรณรดาเอ่ยขึ้นอย่างฉุนเฉียวเพราะเธอรู้ดีว่าน้องนิสัยเป็นอย่างไร แล้วอย่างนี้คนพี่จะเหลือหรือไง!“จะอะไรนักหนากันยัยดา แกรู้ได้ไงว่าคบด้วยไม่ได้ ฉันว่าเขาเป็นผู้ชายที่อ่อนโยนและเพอร์เฟ็กต์ จนฉันอยากอยู่ใกล้ทุกวันเลย”ณัฐกฤตาลุกขึ้นพร้อมกับลุกขึ้นยืนมองใบหน้าเพื่อนสาว“ก็...ก็อยู่กับผู้ชายที่เป็นเกย์เนี่ยนะ แกพูดออกมาได้ยังไง” วรรณรดาถามพลางมองใบหน้าของผู้เป็นเพื่อนสนิทที่ยิ้มระรื้อออกมาอย่างมีความสุข ก่อนจะส่ายหน้าถอนหายใจออกมา ถ้าไม่เป็นเพราะเจอโดยบังเอิญในวันนั้นอย่างที่เล่าให้ฟังป่านนี้คงไ
บทที่ 1บรรยากาศภายในห้องรับแขกที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด หญิงสาววัยกลางคนนั่งอยู่บนโซฟา ใบหน้าซีดเซียวแทบจะเป็นลมจับเมื่อได้อ่านข่าวของ ลูกชายที่ออกหนังสือพิมพ์พาดหัวหน้าหนึ่ง“ยาดม ๆ อยู่ไหน” นิตยลัภย์พูดเสียงเหนื่อย ๆ ในขณะที่สาวใช้ คนสนิทก็รีบวิ่งไปนำยาดมมาให้ทันที“ใจเย็น ๆ นะคะ คุณผู้หญิง” แก้วใจพูดปลอบ ซึ่งไม่ได้ทำให้รู้สึกดีขึ้นแม้แต่น้อย แต่ยิ่งทำให้คนฟังเดือดเข้าไปอีก“ใจเย็น !” นิตยลัภย์ลุกขึ้นพูดมองลูกชายคนโตด้วยสายตาเดือดพล่านแสดงถึงอารมณ์ขุ่นมัว จนคำด่าบรรยายออกมาแทบไม่ถูก“รู้ไหม แกทำอะไรลงไป !” นิตยลัภย์ตวาดลั่นด้วยความโกรธเกรี้ยว ใบหน้าสวยที่เริ่มมีริ้วรอยแดงก่ำด้วยความขุ่นเคือง“ผมไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ครับ”แทนไทตอบและมองด้วยสีหน้ารู้เครียด เขาไม่ได้ทำอะไรผิดแต่เป็นเพราะพวกนักข่าวชอบทำความวุ่นวายให้ต้องเดือดร้อน ทั้งที่จริงแล้วแทบจะไม่ไปยุ่งกับเรื่องวงการบันเทิงเลยสักนิด“ไม่ผิด ! นี่แกยังจะมาพูดแบบนี้อีกเหรอ !” นิตยลัภย์ตวาดเสียงเข้ม สีหน้าแสดงถึงการรับไม่ได้ของข่าวที่ออกมา“พวกนักข่าวชอบเสือก ตีไข่ใส่สี”ชายหนุ่มสบถออกมาด้วยความหงุดหงิดใจ“เสือกนั่นแหละดีแล้ว ฉันจะได้
หญิงสาวนั่งจ้องมองหนังสือพิมพ์เป็นเวลานานเกือบชั่วโมงหลังจากที่เพื่อนสาวนำข่าวเข้ามาบอกในตอนสาย วินาทีนี้หัวใจแทบแตกสลายลง เขาจะไม่เป็นอย่างที่ในข่าวบอกออกมาใช่ไหม ?ณัฐกฤตาถอนหายใจจนนับครั้งไม่ถ้วน ครั้นเมื่อชำเลืองสายตามองภาพที่ทนรับไม่ได้ แค่ข่าวออกมาก็พอว่าอยู่ แต่นี่เล่นมีภาพหลุดออกมาว่าเขาจับมือกับวศินพระเอกชื่อดังอีก เธออยากจะร้องไห้จริงๆ“ไม่จริง ! ข่าวที่ออกมาต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ ๆ เลย คุณแทนของฉันไม่ได้เป็นเกย์...” ณัฐกฤตาบ่นพร่ำออกมาด้วยความเสียใจวรรณรดาปาปารัสซี่สาวมองหน้าตาของเพื่อนที่แสดงถึงความเศร้าเสียใจเมื่อผู้ชายที่แอบปลื้มแอบชอบดันมีข่าวว่าเป็นเกย์ แถมทั้งภาพที่ออกมาก็บอกอยู่เต็มตาว่าคือ แทนไท !“ยอมรับความจริงซะ ถึงยังไงแกก็ไม่มีทางสู้ผู้ชายได้หรอกนะ”ดูเหมือนจะเป็นคำปลอบใจที่แทงใจคนฟังน่าดู“แกพูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง แกว่าฉันสวยสู้ผู้ชายไม่ได้หรือไง !” ณัฐกฤตาขึงตามองเพื่อนสาวที่ส่ายหน้าให้อย่างหมดหวัง“เปล่า ๆ ฉันก็แค่บอกว่าแกจะใช้ความสวยไปสู้กับผู้ชายเนี่ยนะ มันดูไม่แปลกไปหน่อยหรือไง”“ไม่ ! ฉันเชื่อว่าคุณแทนยังมีจิตใจที่เป็นชายอยู่...บ้าง”คำว่า บ้าง ช่างแ
“คุณแม่หมายถึงคุณแทนไทเหรอคะ”เธอถามทั้งที่ในใจก็แอบลุ้นให้เป็นเขาอยู่รอมร่อ“ใช่แล้วล่ะ” เทพทัตตอบแทนที่ณัฐกฤตาจะดูเศร้าเสียใจ แต่กลับยิ้มออกมาอย่างมีความสุข สวรรค์โปรด ! ใครจะโง่ไม่แต่งงาน ต่อให้เขาเป็นเกย์คิดหรือว่าจะยอมให้เป็นไม่มีทาง !“ขวัญจะแต่งงานค่ะ !” หญิงสาวพูดโพล่งขึ้น เล่นเอาคนเป็นพ่อเป็นแม่ถึงกับมองด้วยความประหลาดใจ เพราะเมื่อครู่ยังปฏิเสธอยู่เลย“ขวัญจะเเต่งกับ....”“ใช่ค่ะ” น้ำเสียงตั้งมั่นจนคนเป็นพ่อเป็นแม่ฟังดูแล้วรู้สึกแปลกขึ้นมาทันที เทพทัตและทัสนันทน์มองหน้ากัน ในใจคงคิดไม่ต่างกันสักเท่าไหร่“ขวัญลองคิดดูก่อนก็ได้ไม่ต้องรีบตอบหรอกลูก ใจจริงแม่ก็ไม่ได้อยากจะให้แต่ง แต่แค่บอกให้เราตัดสินใจ แม่กับพ่อไม่ได้บังคับนะ” ทัสนันทน์พูดขึ้นเพื่อให้ลูกสาวของเธอนั้นได้ใช้เวลาทบทวนก่อนตัดสินใจอีกครั้งหนึ่ง“พ่อไม่รีบเอาคำตอบหรอกนะ คิดดูเอาเองถ้าไม่แต่งพ่อจะได้โทรไปบอกทางฝ่ายนั้น เพื่อความสบายใจของลูก...”“ขวัญตัดสินใจจะแต่งงานกับคุณแทนไทจริง ๆ ค่ะ”แทนไทเดินออกจากห้องภายในคอนโด ฯ ที่วศินอยู่ เขาใช้เวลาคุยกันไม่ถึงห้านาทีด้วยซ้ำไปแต่ทว่ากลับไม่ได้ความอะไรเลย ครั้นจะโทร. ไปคุยอ
“ก็คุณแม่กลัวพี่ชายสุดที่รักของผมเผลอใจไปรักกับผู้ชายไม้ป่าเดียวกัน ก็เลยจะให้แต่งงานซะเลยเพื่อลบข่าวแถมยังไม่ต้องกลัวว่าพี่ชายจะไปคว้าผู้ชายที่ไหนมาเป็นสะใภ้น่ะครับ” เตชินท์ร่ายยาว แต่สุดท้ายความหมายเดิมคือ ลบข่าวออกโดยการแต่งงาน !แทนไทมองหน้าน้องชายที่ยิ้มเจ้าเล่ห์ให้อย่างมีความสุข เขาอยากจะชกสักหมัดไปที่หน้าของเตชินท์สักทีสองทีจริงๆ“เพราะแกใช่ไหมที่แม่ต้องทำแบบนี้” ชายหนุ่มกัดฟันถาม มือแกร่ง กำหมัดแน่นเพื่อระงับอารมณ์โกรธที่อยู่ในใจ“เปล่า คุณแม่นั่งกลุ้มใจเครียดแทบจะเป็นลม ผมก็เลยเป็นที่ปรึกษาให้น่ะ” น้ำเสียงของเตชินท์ตอบโดยไม่คิดอะไร“ออกไปซะ” เขาออกปากไล่เตชินท์ยิ้มรับพร้อมกับหลุดขำออกมา“ผมหวังดีนะ ไม่อยากให้พี่ชายเดินทางผิดคิดเป็นเกย์”แทนไทฟังคำพูดทิ้งท้ายของน้องชายที่เดินออกไปจากห้อง แต่เสียงหัวเราะก็ยังคงดังก้องอยู่ในหูเขา“บ้าเอ๊ย !” แทนไทสบถออกมา เขาเดินมานั่งลงที่ปลายเตียงพร้อมกับถอนหายใจออกมาอย่างแรง นี่เจ้าน้องชายตัวแสบถึงกลับเสนอวิธีแบบนี้ให้แม่เลยอย่างนั้นเหรอ...เขาไม่ใช่เกย์สักหน่อย !แต่ถึงจะบังคับให้แต่งงานยังไงก็ไม่มีทางสำเร็จเพราะจะมีผู้หญิงคนไหนยอมมาแต่งงานก