ปั้นหยาเดินเข้าไปคุกเข่าใกล้ๆ กับฝ่าเท้าของอันนา กำลังจะเปิดขวดน้ำยาทาเล็บอยู่แล้วเชียว แต่เสียงเครื่องยนต์คุ้นหูดังใกล้เข้ามาเสียก่อน
“เสียงรถพี่แม็กนี่”
รอยยิ้มพึงพอใจระบายเต็มใบหน้าของอันนา ก่อนที่หล่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา เมื่อคิดอะไรขึ้นมาได้
“แกขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ เร็วเข้า”
“เอ่อ... ทำไมล่ะจ๊ะน้องอัน”
ปั้นหยาที่คุกเข่าอยู่กับพื้นเพื่อเตรียมทาเล็บเท้าให้กับอันนาช้อนตามองคนออกคำสั่งอย่างแปลกใจ
“แกไม่ต้องมาถามหรอก ทำตามที่ฉันสั่งก็พอ ขึ้นมานั่งบนเก้าอี้สิ เร็วเข้า!”
ปั้นหยาลุกขึ้นทำตามคำสั่งของอันนาทั้งๆ ที่สมองยังมึนงงไม่เปลี่ยนแปลง
“เอาขาขึ้นมาพาดไว้บนโต๊ะสิ เร็วเข้า”
“เอ่อ... พี่ใส่กระโปรงคงทำแบบนั้นไม่ได้หรอก”
ปั้นหยาไม่ได้ทำตามคำสั่งนี้ ทำให้อันนาต้องเป็นฝ่ายกระชากขาเรียวของปั้นหยาขึ้นมาด้วยตัวเอง
“น้องอัน... อุ๊ย!”
มือเล็กของปั้นหยาต้องรีบตะครุบชายกระโปรงที่ร่นขึ้นมาถึงขาอ่อนเอาไว้ทันที
“น้องอันจะทำอะไรเนี่ย ปล่อยเท้าพี่เถอะ”
“อยู่เฉยๆ เถอะน่า”
อันนาลงไปนั่งคุกเข่ากับพื้น และตั้งท่าจะทาเล็บเท้าให้กับปั้นหยา
“แต่พี่ไม่อยากทาเล็บนะน้องอัน ปล่อยขาพี่เถอะ”
สมองของปั้นหยาตามการกระทำของอันนาไม่ทัน ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ อันนาก็ทำแบบนี้ จนกระทั่งร่างสูงใหญ่เกือบร้อยเก้าสิบเซนติเมตรของแม็กซิมัสปรากฏขึ้นนั่นแหละ หล่อนถึงได้เข้าใจทุกอย่าง เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่อันนากระทำ
“พี่แม็กทำไมถึงมาเงียบๆ ล่ะคะ ไม่เห็นโทรหาอันก่อนเลย”
แม็กซิมัสมองคนรักของตัวเองที่กำลังคุกเข่าอยู่กับพื้น โดยมีฝ่าเท้าของปั้นหยาอยู่ตรงหน้าด้วยความไม่พอใจ
“อันทำอะไรครับนั่น”
“อ๋อ... พี่หยาอยากทาเล็บเท้าน่ะค่ะ อันก็เลยช่วยทาค่ะ”
“คือ...”
ปั้นหยาตั้งท่าจะอธิบาย แต่ดูเหมือนว่าแม็กซิมัสจะเชื่อคำพูดของอันนาไปแล้วทั้งหมด
“อันไม่ใช่คนใช้ของเธอ ไม่ใช่หรือปั้นหยา”
แม็กซิมัสจ้องมองหน้าไร้เครื่องสำอางของปั้นหยาเขม็ง กรามแกร่งขบกันแน่นจนเป็นสันนูนเป่ง
“เอ่อ... คือว่า...”
“พี่แม็กอย่าพูดเสียงดุกับพี่หยาสิคะ อันเต็มใจทำให้พี่หยาเองแหละค่ะ”
สายตาที่แม็กซิมัสใช้มองมาทำให้ปั้นหยาเจ็บหัวใจเหลือเกิน เพราะเขามองหล่อนด้วยความขยะแขยงและเกลียดชัง
“ขอ... ตัวค่ะ”
และหล่อนก็ไม่อาจจะทนนั่งให้เขาเข่นฆ่าทางสายตาได้อีก จำต้องรีบลุกขึ้น และเดินหนีไปอย่างรวดเร็ว
อันนาลอบยิ้มสะใจ ก่อนจะเดินมาเกาะแขนล่ำสันของแม็กซิมัสเอาไว้ พร้อมกับพูดจาประจบประแจง
“อันดีใจนะคะที่พี่แม็กรักและเป็นห่วงอันมาก แต่อันก็ไม่อยากให้พี่แม็กดุพี่หยาเลยค่ะ” หล่อนแสดงทำเป็นบีบน้ำตา เมื่อแม็กซิมัสเลื่อนสายตามามองสบตา
“ในเมื่อผู้หญิงคนนั้นทำไม่ถูก พี่ก็ต้องตักเตือนสิครับ และอีกอย่าง พี่ทนเห็นอันถูกโขกสับแบบนี้ไม่ได้”
“อันขอบคุณมากนะคะ แต่อันชินแล้วล่ะค่ะ ในเมื่ออันไม่ใช่หลานรักของคุณย่า อันก็ต้องก้มหน้ายอมรับชะตากรรมต่อไปเรื่อยๆ จนกว่า...”
“จนกว่าอะไรหรือครับ”
“จนกว่าอันจะย้ายออกไปจากที่นี่ไงล่ะคะ”
แม็กซิมัสเข้าใจความหมายของอันนาดีว่าหญิงสาวต้องการให้เขาทำอะไร ซึ่งเขาก็เต็มใจที่จะช่วยเหลือหล่อน ให้หลุดพ้นจากขุมนรกนี้เสียที
“พี่สัญญานะครับว่าปลายปีนี้จะให้ที่บ้านมาเจรจาสู่ขอน้องอัน”
“ปลายปีเลยเหรอคะ นี่เพิ่งมีนาเองนะคะ”
“พี่ก็อยากแต่งเสียวันนี้พรุ่งนี้ แต่ว่าพี่ต้องเคลียร์งานที่โรงพยาบาลให้เบาลงก่อน แล้วอีกอย่างคุณพ่อกับคุณแม่ของพี่ก็ยังไม่สะดวกเดินทางมาเมืองไทยตอนนี้ด้วย”
อันนาฝืนยิ้มให้กับแม็กซิมัส ก่อนจะซบหน้ากับแผงอกกว้างกำยำของเขา
‘บ้าจริง อันรอนานขนาดนั้นไม่ไหวหรอกนะพี่แม็ก’
เพราะหล่อนระแคะระคายมาว่ามีหมอสาวสวยที่เพิ่งย้ายมาจากลอนดอนมาตามติดแม็กซิมัส ซึ่งหล่อนเกรงว่าคนรักของตนเองจะหวั่นไหว
“อันตามใจพี่แม็กค่ะ”
“พี่ชอบที่อันว่านอนสอนง่ายแบบนี้จัง”
แม็กซิมัสยกมือขึ้นลูบหัวทุยของอันนาแผ่วเบา ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม
“ก็อันไม่อยากทำให้พี่แม็กไม่สบายใจนี่คะ” อันนาดันตัวออกห่างจากเขา และช้อนตาขึ้นมองด้วยแววตาหวานฉ่ำ
“อันรักพี่แม็กมาก อันอยากให้พี่แม็กมีความสุขที่สุดตอนที่อยู่กับอันค่ะ”
“พี่ก็รักอันครับ”
อันนากำลังจะเขย่งปลายเท้าขึ้นเพื่อจะจูบปากของแฟนหนุ่ม แต่เสียงของตกแตกดังลั่นขึ้นเสียก่อน และมันก็ทำให้อารมณ์โรแมนติกหายไปจนหมด
“ใครทำบ้าอะไรเนี่ย?!”
หล่อนตวาดลั่นอย่างลืมตัว แต่พอเห็นสายตาเคลือบแคลงที่แม็กซิมัสมองจ้องมา อันนาก็รีบปั้นยิ้ม และแก้ตัวไปข้างๆ คูๆ ซึ่งแม็กซิมัสก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร
“เอ่อ... ใครนะซุ่มซ่ามจังเลย เดี๋ยวอันขอตัวไปดูหน่อยนะคะ”
“พี่ไปด้วย”
“ค่ะ”
แม็กซิมัสก้าวตามร่างของอันนาที่เดินนำหน้าไปติดๆ ก่อนจะพบว่าเสียงดังกังวานเกิดขึ้นในห้องครัว และคนก่อให้เกิดเสียงนั้นก็คือปั้นหยานั่นเอง
เขาเห็นปั้นหยากำลังก้มหน้าก้มตาเก็บเศษแก้วบนพื้นด้วยความรีบร้อน และทันทีที่หล่อนเงยหน้าขึ้นมาเห็นเขากับอันนา นิ้วเรียวสีขาวสะอาดก็ถูกเศษแก้วบาดจนเลือดสีแดงสดไหลซึมออกมา
“แก... เอ่อ... พี่หยาทำแก้วตกแตกเหรอคะ”
“ใช่จ้ะ น้องอันพาคุณ... แม็กออกไปเถอะ เดี๋ยวจะถูกเศษแก้วบาดเอาได้”
อันนายิ้มหยันให้ ก่อนจะหันไปหาแม็กซิมัสที่ยืนอยู่ข้างๆ
“เราออกไปรอข้างนอกกันเถอะค่ะพี่แม็ก”
“อันออกไปรอพี่ที่ห้องโถงก่อนนะครับ เดี๋ยวพี่ตามไป”
“คะ?” อันนาแปลกใจมากที่แม็กซิมัสจะอยู่ต่อ
“พี่จะทำแผลให้กับปั้นหยาน่ะ นิ้วเธอถูกเศษแก้วบาด”
“ตะ... แต่มันไม่ใช่หน้าที่ของพี่แม็กเลยนะคะ แล้วอีกอย่างแผลก็นิดเดียวเอง อันว่า...”
“น้องอันไปรอพี่ข้างนอกนะครับ ไม่เกินห้านาทีพี่จะตามไป”
สีหน้าจริงจังไม่ต่างจากน้ำเสียงของแม็กซิมัส ทำให้อันนาไม่กล้าที่จะขัดใจเพราะเดี๋ยวเสียภาพพจน์ที่เพียรสร้างมาหลายปี
“ก็ได้ค่ะ พี่แม็กรีบออกมานะคะ”
“ครับ”
อันนาเดินออกไปแล้ว แม็กซิมัสก็ก้าวเข้ามาหยุดใกล้ๆ ร่างของปั้นหยา และรั้งให้หล่อนลุกขึ้นยืนด้วยการตะปบบ่าแบบบาง
“อ๊ะ...”
ร่างของปั้นหยาแทบจะปลิวติดมือของแม็กซิมัสขึ้นมาเลยทีเดียว
“ซุ่มซ่ามจริงๆ เลยนะ ปล่อยให้แก้วแตก แล้วยังไม่ระวังอีก”
ปั้นหยาดิ้นรนเพื่อให้บ่าของตัวเองหลุดพ้นจากพันธนาการของคนที่ตัวโตกว่ามาก แต่ก็ไม่เป็นผล
“ปล่อยหยาเถอะค่ะ หยาจะรีบเก็บเศษแก้ว”
“นิ้วเธอถูกบาดมองไม่เห็นหรือไง หรือว่าอยากตาย”
“แผลเล็กแค่นี้ คงไม่ทำให้หยาตายหรอกค่ะ ปล่อยหยาเถอะค่ะ”
เขาส่ายหน้าไปมา มองหล่อนด้วยแววตาสังเวช “เธอนี่มันทั้งดื้อทั้งรั้นเลยนะ ไม่เห็นเหมือนกับน้องอันเลยสักนิด”
คนที่ถูกนำไปเปรียบเทียบเต็มไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ และก็แทบซ่อนความรู้สึกนี้เอาไว้ในอกไม่มิด
“หยาขอโทษค่ะที่ทำตัวไม่ดีเหมือนน้องอัน ปล่อยหยาได้แล้วค่ะ”
“ไม่ จนกว่าเธอจะทำแผลเสร็จ”
เขาผลักหล่อนให้ลงนั่งบนเก้าอี้ที่อยู่ห่างจากบริเวณที่แก้วตกแตก ก่อนจะเอ่ยถามหากล่องปฐมพยาบาล
“ที่ทำแผลอยู่ไหน”
“เอ่อ... หยาทำเองได้ค่ะ ไม่รบกวนคุณแม็กดีกว่า”
“ตอบ... ที่ทำแผลอยู่ไหน”
น้ำเสียงของแม็กซิมัสดุดันมาก ทำให้ปั้นหยาไม่กล้าพอที่จะขัดคำสั่ง
“อยู่... ตรงนั้นค่ะ” หล่อนชี้ไปที่ลิ้นชักมุมห้องที่มีกล่องปฐมพยาบาลซ่อนอยู่ในนั้น
แม็กซิมัสมองหน้าหล่อนเล็กน้อยด้วยสายตาไม่เป็นมิตร ก่อนจะเดินไปหยิบสิ่งที่เขาต้องการ และเดินกลับมาในเสี้ยวนาทีต่อมา
“ฉันเป็นหมอ ดังนั้นสัญชาตญาณของฉันก็คือช่วยเหลือคนอื่น ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นใครก็ตาม หรือจะพูดให้ตรงประเด็น ต่อให้เป็นหมาเป็นแมวฉันก็ต้องช่วย”
นี่หล่อนควรจะยินดีใช่ไหมที่แม็กซิมัสช่วยเหลือทำแผลที่ปลายนิ้วให้อยู่
ทำไมนะ ผู้ชายคนนี้ถึงได้จงเกลียดจงชังหล่อนนัก หล่อนไปทำอะไรให้กัน
“เสร็จแล้ว และก็ไม่ต้องสร้างแผลเพิ่มนะ เพราะฉันไม่ว่างมากพอที่จะย้อนกลับมาทำแผลให้เธออีก”
เขาเลื่อนกล่องปฐมพยาบาลที่ภายในมียาสามัญประจำบ้านอยู่เต็มเอียดออกห่าง จากนั้นก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวที่นั่งอยู่ แต่สายตายังคงจ้องมองมา
“ระหว่างนี้ก็อย่าเพิ่งให้แผลโดนน้ำล่ะ แล้วก็หมั่นล้างแผลด้วย ถ้าไม่อยากให้แผลเน่า”
“ขอบ... คุณค่ะ”
“ไม่เป็นไร ก็อย่างที่บอกไง ต่อให้เป็นหมาเป็นแมวฉันก็ต้องยื่นมือเข้ามาช่วย เพราะฉันเป็นหมอ”
เขาพูดได้น่าฟังที่สุด
ปั้นหยาเจ็บปวดแต่ก็ยกมือไหว้เขาในที่สุด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ใส่ใจเลย เพราะหลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็เดินออกไปจากห้องครัวอย่างไม่ไยดี
หล่อนมองตามแผ่นหลังกว้างของเขาไปทั้งน้ำตา กลีบปากอวบอิ่มสั่นไหวด้วยความปวดร้าวทรมาน
มื้ออาหารค่ำของวันต่อมา อันนาก็ร่วมมือกับเพื่อนสนิทอย่างรัชนกทำตามแผนการที่วางเอาไว้ นั่นก็คือการใส่ยาปลุกเซ็กซ์ในเครื่องดื่มของแม็กซิมัส“แกแน่ใจนะนังนกว่ายาที่แกไปซื้อมาเนี่ยมันจะได้ผล”“แน่ใจสิยะ ไอ้คนขายมันบอกว่าเอาทั้งคืนไม่มีเหนื่อย แกเตรียมเมื่อยขาได้เลยนังอัน”อันนาระบายยิ้มอย่างพึงพอใจ ดวงตาเป็นประกายวาววับเมื่อสิ่งที่หวังกำลังจะเป็นจริง“คราวนี้แหละฉันต้องท้องแน่ๆ แล้วพี่แม็กก็จะต้องรีบแต่งงานกับฉันโดยเร็ว”รัชนกมองหน้าเพื่อนซี้แล้วส่ายศีรษะไปมา “นี่ถ้าฉันเป็นแกนะ ฉันจะไม่ทำแบบนี้ให้ยุ่งยากหรอก ฉันจะรอให้พี่แม็กพร้อมและขอแต่งงานด้วยตัวเอง ภูมิใจกว่าเยอะ”“ก็ฉันรอไม่ได้ ฉันไม่อยากอยู่ที่บ้านนรกหลังนี้ต่อแม้แต่วินาทีเดียว อ้อ และอีกเหตุผลหนึ่งที่สำคัญก็คือ มีผู้หญิงจ้องจะงาบ พี่แม็กของฉันเยอะเกินไป ฉันระแวง”“ก็ตามใจแก นั่นเสียงรถพี่แม็กหรือเปล่า”รัชนกพยักพเยิดหน้าอันนารีบวิ่งไปเกาะขอบหน้าต่างมอง และก็พบว่ารถสปอร์ตคันหรูของแฟนหนุ่มแล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้านแล้ว“ใช่ พี่แม็กมาแล้ว” น้ำเสียงของอันนาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น“เดี๋ยวแกไปไล่คนใช้ให้กลับที่พักให้หมดเลยนะ จากนั้นแกก็รีบ
แม็กซิมัสคงกำลังจะคลั่ง และหล่อนมั่นใจว่าเขาไม่มีทางทันได้อาบน้ำหรอก เพราะหล่อนจะลากเขาขึ้นเตียงทันทีเมื่อเข้าไปในห้องนอน“นี่ค่ะ ห้องนอนของอัน”หล่อนเปิดประตูห้องนอนให้กับแม็กซิมัส กำลังจะก้าวตามเขาเข้าไปภายในนั้น แต่เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือดันดังกังวานขึ้นเสียก่อน“บ้าจริง ใครโทรมาตอนนี้วะ”หล่อนพึมพำอย่างหงุดหงิด แต่ก็ต้องเก็บอาการเอาไว้ และพูดกับแม็กซิมัส“อันขอตัวรับสายก่อนนะคะ เชิญพี่แม็กตามสบายเลยค่ะ”“ครับ”หล่อนตั้งใจจะคุยโทรศัพท์ที่หน้าห้องนอนของตนเอง แต่พอเห็นเบอร์ที่เรียกเข้ามา ก็หน้าซีดเผือด ต้องรีบกดวางสายแทบไม่ทัน แต่แค่เสี้ยววินาทีเดียว มันก็ดังขึ้นมาใหม่ จนหล่อนจำต้องเดินเลี่ยงออกมาตรงระเบียง และกดรับสาย“แกจะโทรมารังควานฉันอีกทำไม ไอ้วิทย์”เสียงหัวเราะดังมาตามสายทำให้อันนายิ่งโกรธแค้นแน่นอก แต่หล่อนกำลังเสียเปรียบผู้ชายคนนี้“แหม ผัวจะโทรหาเมียบ้างไม่ได้เลยเหรอครับ”“ไอ้บ้า อย่ามาพูดแบบนี้นะ เงินก็เอาไปจากฉันแล้ว ยังจะมาตามรังควานอะไรฉันอีก ไปให้พ้น!”“เงินแค่สองแสน มันไม่พอที่จะปิดปากผัวได้หรอกเมียจ๋า”“ไอ้สัตว์นรก แกต้องการอะไรจากฉันอีก!”อันนาเจ็บใจนักที่ต
เสียงกรีดร้องขอความเมตตาของปั้นหยาหายเข้าไปในลำคอแกร่งของแม็กซิมัสทั้งหมด ไม่ว่าหล่อนจะวิงวอน ร้องไห้ขอให้เขาหยุดกระทำสักเท่าไหร่ แต่ผู้ชายที่กำลังถูกตัณหาครอบงำก็ไม่แม้แต่จะหยิบยื่นเศษความปรานีให้ปากของหล่อนถูกเขาประกบจูบอย่างเร่าร้อนดูดดื่ม จูบแรกของวัยสาวถูกผู้ชายที่พร่ำบอกว่ารังเกียจนักหนาช่วงชิงไปอย่างป่าเถื่อน มือเล็กยกขึ้นผลักไสตลอดเวลา และก็พยายามที่จะเม้มปากแน่นไม่ให้ลิ้นใหญ่สอดแทรกเข้ามารุกรานภายใน แต่สุดท้ายแล้วหล่อนก็ต้องพ่ายแพ้ เมื่อความเจ็บหนึบที่เกิดขึ้นเพราะนิ้วแข็งแรงกดลงบนปลายคางรุนแรงเหลือเกิน“อ๊ะ... อื้อ...”หล่อนร้องครางต่อต้านได้แค่นั้น ลิ้นใหญ่ก็พุ่งทะยานเข้ามาภายใน เขาเอามือบีบอุ้งปากของหล่อนเอาไว้ เพื่อไม่ให้หล่อนกัดลิ้น จากนั้นก็ปลุกเร้าหล่อนด้วยลีลาเชี่ยวชาญช่ำชอง จนในที่สุดสาวน้อยไร้เดียงสาเช่นหล่อนก็ต้องยอมพ่ายแพ้ความรู้สึกวาบหวามที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนในชีวิตทำให้กายสาวลอยสูงขึ้นเรื่อยๆ เปลวไฟสวาทเร่าร้อนแผดเผาจนอนุสติสูญสลาย กายสาวค่อยๆ โอนอ่อนตอบสนองสัมผัสทรงอานุภาพของเขาในที่สุดเสียงครางด้วยความพึงพอใจของแม็กซิมัสดังกระหึ่มกังวาน เขาบดจูบหนักหน่วงยิ่
“อื้อ... อื้อ...”เขาไม่สนใจว่าหล่อนจะทรมานสักแค่ไหน เพราะเขาเดินหน้าเคลื่อนไหวอย่างดุดัน ทุกจังหวะของเขาเต็มไปด้วยความป่าเถื่อน หยาดน้ำตาของหล่อนไม่อาจจะทำให้คนใจร้ายสงสารได้เลย“อืมมม โอ้ววว...”เสียงครางของเขาดังกังวานขึ้นต่อเนื่อง ในขณะที่ความเจ็บเริ่มจางหายไปจากกายสาวบ้างแล้ว“อา... อา...”ความอุ่นซ่านแห่งความเสียวกระสันเกิดขึ้นในทุกครั้งที่แม็กซิมัสเคลื่อนไหว และมันก็ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนหล่อนไม่สามารถหักห้ามใจได้อีก“อา... อา...”หล่อนปล่อยกายปล่อยใจให้เพลิดเพลินไปกับพายุสวาทของแม็กซิมัสอย่างยากจะต้านทาน กายสาวเบียดกระแซะขึ้นหา หยัดร่อนความเป็นหญิงขึ้นรับการสอดแทรกร้อนแรงด้วยความเต็มใจเสียงคำรามที่ฟังไม่ได้ศัพท์ของเขาดังกังวานขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ใบหน้าหล่อจัดตอนนี้บิดเบี้ยวเหยเกคล้ายกำลังต่อสู้กับอะไรบางอย่างที่ทรงพลังสะโพกของเขาส่ายวนคลึงเคล้นกับความเป็นหญิงร้อนแรง มือใหญ่ทั้งสองข้างกอบกุมสะโพกกลมกลึงเอาไว้แน่น และกระชากให้หล่อนอ้ารับความหิวกระหายบ้าคลั่งครั้งแล้วครั้งเล่า“อา... อา... คุณแม็ก... อา... ไม่ไหวแล้ว... อา...”หล่อนบิดกายเร่าๆ ครางสะอื้นเป็นชื่อของเขาน
ไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศทำให้คนที่นอนขดอยู่บนเตียงโดยไร้ผ้าห่มรู้สึกตัวตื่นขึ้น ดวงตากลมโตเบิกท่ามกลางความมืดสลัว ความทรงจำจากเหตุการณ์ที่เพิ่งจะผ่านพ้นไปเมื่อหลายชั่วโมงก่อนทำให้หล่อนเผลอครางออกมาอย่างลืมตัว หยาดน้ำตารินไหลอาบแก้ม และก็พยายามที่จะกัดฟันขยับตัวลงจากเตียง แต่ความเจ็บปวดที่ซอกขาทำให้หล่อนเผลอส่งเสียงครางออกมาอีกครั้ง“อ๊ะ...”ตรงนั้นของหล่อนเจ็บระบมมาก นั่นเป็นเพราะแม็กซิมัสรุนแรง ป่าเถื่อน และชำเราหล่อนนานต่อเนื่องกันหลายชั่วโมง แถมอาวุธที่เขาใช้รังแกหล่อนก็ทั้งใหญ่ทั้งยาว จนสาวบริสุทธิ์เช่นหล่อนรู้สึกคล้ายกับจะฉีกขาดไปทั้งตัวหล่อนพยายามสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ขณะต่อสู้กับความเจ็บปวดก้าวลงจากเตียง ความเจ็บลึกในซอกขาย้ำเตือนให้หล่อนลืมความป่าเถื่อนของแม็กซิมัสไม่ลง“อัน... อยู่กับพี่ก่อน...”เอวคอดของหล่อนถูกคว้าเอาไว้ และเขาก็พลิกกายขึ้นทาบทับเอาไว้ทั้งตัว ท่ามกลางความมืดมิดเขาเรียกหาอันนา โดยไม่ได้สนใจเลยว่าผู้หญิงใต้ร่างของเขาจะเป็นใคร“อย่า... ปล่อยค่ะ...”“พี่ต้องการอัน...”เขาครางเสียงกระเส่าก่อนจะก้มลงจูบปากอิ่ม กลืนกินเสียงต่อต้านอ่อนแรงของหล่อนเข้าไปในลำคอเสียห
อันนาเห็นแม็กซิมัสเข้าใจผิด หล่อนก็รีบสมทบสนับสนุนเพื่อให้ตัวเองรอดพ้นข้อสงสัยทันควัน“มึงร้ายกาจ... ร้ายกาจที่สุด นังปั้นหยา!”ปั้นหยาส่ายหน้าไปมาเมื่อถูกปรักปรำจากสองคนที่กำลังเกรี้ยวกราดหล่อนอยากหายตัวไปจากตรงนี้ หรือไม่ก็ตายไปจากโลกใบนี้เสียเลย“พี่ไม่ได้ทำนะอัน... คุณแม็ก... หยาไม่ได้ทำ... หยา อ๊ะ... หยาเจ็บ...”“ถ้าเธอไม่ได้เป็นคนทำ แล้วใครจะทำ เรื่องเลวๆ แบบนี้ มีแค่เธอคนเดียวเท่านั้นแหละที่กล้าทำ ปั้นหยา”เขาบีบแขนของหล่อนแรงมากราวกับต้องการทำให้กระดูกของหล่อนแตกละเอียดหล่อนเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวดทรมาน และพยายามวิงวอนให้เขาเมตตา“ได้โปรด... เชื่อหยา... หยาไม่รู้เรื่อง หยาไม่ได้ทำ...”หล่อนร้องไห้อย่างน่าเวทนา แต่ไม่มีใครที่จะเชื่อหล่อนเลย“ตอแหล!”“อ๊ะ...”ปั้นหยาถูกผลักให้ล้มหงาย ร่างเปลือยแทบกลิ้งตกลงไปจากเตียง และพวกเขาก็คงจะรุมทึ้งหล่อนจนย่อยยับต่อไปอีก หากคุณย่าวารีไม่ปรากฏตัวขึ้นเสียก่อน“เกิดอะไรขึ้น เสียงดังลั่นบ้านเชียว”“คุณย่า...”ปั้นหยาครางเรียกชื่อของผู้มีพระคุณด้วยน้ำเสียงสะอื้นไห้ ในขณะที่แม็กซิมัสนั่งทำหน้าเคร่งเครียดอยู่บนเตียงเพราะไร้ทางหลบหนี“หยา... หยาทำ
เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เขารู้ดีว่าตัวเองถูกวางยา เพราะไม่อย่างนั้นเขาคงไม่กระทำเรื่องน่าสมเพชเช่นนั้นลงไปได้ แถมเจ้าหล่อนก็ยังเข้ามาหาในเวลาที่เหมาะเจาะพอดิบพอดีชายหนุ่มยกมือขึ้นเสยผมแรงๆ ด้วยความหงุดหงิด ขณะตวัดตามองผู้หญิงที่แสร้งทำเป็นยืนตัวสั่นตรงหน้าด้วยความเกลียดชัง เท่าที่เห็น หล่อนก็มีดีแค่อย่างเดียวเท่านั้น คือเยื่อพรหมจรรย์ที่เขาเป็นคนทำลายไป นอกนั้นปั้นหยาก็คือสิ่งจอมปลอม เป็นผู้หญิงสารเลวที่เขาขยะแขยงเขาก้าวเท้าเดินเข้าไปหยุดตรงหน้าของหล่อน มองด้วยสายตาชิงชังอย่างที่ไม่เคยใช้กับใครมาก่อน“ฉันเกลียดเธอ จำเอาไว้นะปั้นหยา”คนฟังน้ำตาร่วงอีกครั้ง แต่ก็รีบยกหลังมือขึ้นมาป้ายทิ้ง และกลั้นใจพูดโต้ตอบออกไป“หยา... จะจำเอาไว้ค่ะ”เขาหัวเราะเครียดๆ สายตาของเขาเต็มไปด้วยกองไฟจำนวนมหาศาล และมันก็แผดเผาคนถูกมองจนแทบมอดไหม้“ผู้หญิงที่ฉันรักคืออันนา ส่วนเธอมันก็แค่อีตัว ที่ฉันเผลอไผลนอนด้วย และอย่าฝันนะว่าฉันจะรับผิดชอบอะไรในตัวของเธอ”หล่อนเจ็บจนหัวใจชาดิก เลือดสดๆ ไหลทะลักท่วมท้นจนแทบจะทะลักออกมาทางปาก“หยา... ไม่ได้ต้องการให้คุณแม็กมารับผิดชอบอะไรอยู่แล้วค่ะ เรื่องเมื่อคืน... ให
แม็กซิมัสก็คิดไม่ต่างจากอันนาแม้แต่น้อย แต่เขาก็รู้ดีว่าไม่สมควรจะพูดมันออกไป“พี่ขอตัวกลับก่อนนะครับน้องอัน รู้สึกเพลีย”อันนาช้อนตาขึ้นมองแม็กซิมัสอย่างโมโหเพราะรู้ทันว่าทำไมชายหนุ่มถึงอ่อนเพลีย“เรื่องนี้เป็นความผิดของพี่แม็ก ยังไงซะพี่แม็กก็ต้องรับผิดชอบชีวิตของอัน เข้าใจไหมคะ”ใช่ มันคือความผิดพลาดของเขาเต็มๆ แต่ตัวต้นเหตุก็คือผู้หญิงแพศยาคนนั้น“พี่จะไม่มีวันทิ้งน้องอัน ถึงพี่จะแต่งงานกับปั้นหยา แต่ผู้หญิงคนนั้นก็จะได้แค่ทะเบียนสมรส กับความเหี้ยมโหดของพี่ เพราะคนที่พี่รักคือน้องอันคนเดียว”อันนาพอยิ้มออกมาได้บ้าง หล่อนรีบโผเข้ากอดแม็กซิมัสและประจบประแจงเสียงอ่อนเสียงหวาน“พี่แม็กพูดแล้วนะคะ ห้ามผิดคำพูดเด็ดขาด”“พี่เป็นคนรักษาคำพูดครับ น้องอันเชื่อใจพี่ได้ เราสองคนจะอยู่บนสวรรค์ ส่วนผู้หญิงคนนั้นจะต้องตกนรกทั้งเป็น”อันนาอดที่จะยิ้มออกมาด้วยความสะใจไม่ได้ เพราะถึงแม้เรื่องราวมันจะกลับตาลปัตรแบบนี้ แต่แม็กซิมัสก็ให้คำมั่นว่าจะไม่ทอดทิ้งหล่อนปั้นหยาที่หลบออกมาร้องไห้หน้าบ้านต้องรีบก้าวเท้าเพื่อเดินเลี่ยงไปทางอื่น เมื่อจู่ๆ แม็กซิมัสก็ปรากฏตัวขึ้น ดวงตาสีเขียวจัดของเขาจ้องมองมาเขม