เสียงกรีดร้องขอความเมตตาของปั้นหยาหายเข้าไปในลำคอแกร่งของแม็กซิมัสทั้งหมด ไม่ว่าหล่อนจะวิงวอน ร้องไห้ขอให้เขาหยุดกระทำสักเท่าไหร่ แต่ผู้ชายที่กำลังถูกตัณหาครอบงำก็ไม่แม้แต่จะหยิบยื่นเศษความปรานีให้
ปากของหล่อนถูกเขาประกบจูบอย่างเร่าร้อนดูดดื่ม จูบแรกของวัยสาวถูกผู้ชายที่พร่ำบอกว่ารังเกียจนักหนาช่วงชิงไปอย่างป่าเถื่อน มือเล็กยกขึ้นผลักไสตลอดเวลา และก็พยายามที่จะเม้มปากแน่นไม่ให้ลิ้นใหญ่สอดแทรกเข้ามารุกรานภายใน แต่สุดท้ายแล้วหล่อนก็ต้องพ่ายแพ้ เมื่อความเจ็บหนึบที่เกิดขึ้นเพราะนิ้วแข็งแรงกดลงบนปลายคางรุนแรงเหลือเกิน
“อ๊ะ... อื้อ...”
หล่อนร้องครางต่อต้านได้แค่นั้น ลิ้นใหญ่ก็พุ่งทะยานเข้ามาภายใน เขาเอามือบีบอุ้งปากของหล่อนเอาไว้ เพื่อไม่ให้หล่อนกัดลิ้น จากนั้นก็ปลุกเร้าหล่อนด้วยลีลาเชี่ยวชาญช่ำชอง จนในที่สุดสาวน้อยไร้เดียงสาเช่นหล่อนก็ต้องยอมพ่ายแพ้
ความรู้สึกวาบหวามที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนในชีวิตทำให้กายสาวลอยสูงขึ้นเรื่อยๆ เปลวไฟสวาทเร่าร้อนแผดเผาจนอนุสติสูญสลาย กายสาวค่อยๆ โอนอ่อนตอบสนองสัมผัสทรงอานุภาพของเขาในที่สุด
เสียงครางด้วยความพึงพอใจของแม็กซิมัสดังกระหึ่มกังวาน เขาบดจูบหนักหน่วงยิ่งขึ้น ลิ้นใหญ่เกี่ยวรัดลิ้นเล็กของหล่อนด้วยลีลาที่หล่อนต้องเผยอปากจูบตอบลิ้นร้อนจัดนั้นเลยทีเดียว
“อา... อา...”
ฝ่ามือกระด้างลูบไล้ไปตามผิวสาว และมันก็ทิ้งกองไฟร้อนระอุเอาไว้ในทุกตารางนิ้วที่เคลื่อนผ่าน ความรู้สึกแสนมหัศจรรย์ที่ไม่เคยผ่านพบมาก่อนในชีวิตค่อยๆ ทวีความรุนแรงขึ้นกลางร่างสาว
และทันทีที่แม็กซิมัสถอนจูบ พร้อมกับเคลื่อนใบหน้าลงมาซุกไซ้ซอกคอสาว เสียงกรีดร้องน่าอับอายก็ดังเล็ดลอดออกมาจากปากของหล่อนอย่างสุดจะหักห้ามใจ
“อา... อา... อ๊า...”
เสียงครางของหล่อนถูกกลบทับด้วยเสียงคำรามพึงพอใจของแม็กซิมัสในเสี้ยววินาทีต่อมา เขาดูดเม้มเนื้อนุ่มที่ซอกคอจนแดงชอกช้ำ ปากลิ้นโลมเลียกัดทึ้งไปทุกอณูเนื้อสาว ขณะกกกอดร่างของหล่อนเอาไว้แนบแน่น จนหล่อนสัมผัสได้ถึงความแข็งชันของเขาได้อย่างชัดเจน
สติเหมือนกับจะกลับคืนมา มือเล็กตั้งท่าจะผลักไส แต่ทันทีที่มือใหญ่กอบกุมทรวงอกอวบอัดเอาไว้ และขยำหนักหน่วง สติสัมปชัญญะของหล่อนก็สลายไปอีกครั้ง
“อ๊ะ... อา...”
แม้จะมีบราเซียร์ทรงโบราณไร้ลวดดันทรงขวางกั้นเอาไว้ แต่อายร้อนจากฝ่ามือใหญ่ก็ทำให้ยอดถันชูชันขึ้นอย่างน่าอับอาย เต้านมของหล่อนเบ่งบานขยายใหญ่รับการบีบเคล้น
“สวย...”
และทันทีที่บราเซียร์ถูกกระชากออกไปจากร่างกาย เสียงคำรามด้วยความพึงพอใจของผู้ชายที่ถูกตัณหาราคะครอบงำอย่างหนักก็ดังกระหึ่มขึ้นหลายครั้งติด
เขาชื่นชมเต้านมของหล่อน ทั้งคำพูด และสายตา รวมถึงการกระทำของฝ่ามือใหญ่ด้วย
หล่อนเห็นเขาจ้องมองปทุมถันเต่งตึงคู่แฝดด้วยสายตาที่เบิกกว้างตื่นตะลึง ก่อนที่เขาจะค่อยๆ ทาบมือลงไปสัมผัสกับเนื้อแท้ของหล่อน
“อ๊ะ... อา...”
หล่อนพยายามเบี่ยงตัวหนี แต่ไม่สำเร็จ เต้านมถูกอุ้งมือใหญ่กอบกุมเอาไว้ และทันทีที่ปลายนิ้วยาวสัมผัสกับส่วนยอดของถันงาม กายสาวก็อ่อนระทวย
“อา... อา...”
รอยยิ้มพึงพอใจระบายเกลื่อนใบหน้าของแม็กซิมัส ก่อนที่เขาจะค่อยๆ โน้มหน้าต่ำลงมาจูบเนินอก จากนั้นก็ลากลิ้นไปบนก้อนเนื้อนุ่ม ปลายลิ้นของเขาทำให้หล่อนสั่นเทาไปทั้งตัว หยาดน้ำอะไรบางอย่างไหลรินออกมาจากซอกขา และทันทีใบหน้าหล่อจัดฝังลงกึ่งกลางร่องอกสาว เวลาทั้งหมดของชีวิตหล่อนก็หยุดลงในทันที
“อ๊ะ... อา... อ๊า... คุณแม็ก... อา...”
ไม่เหลือสำนึกผิดชอบชั่วดีในสมองอีกแล้ว ตอนนี้กายสาวอ่อนเดียงสาดิ้นพล่าน ส่ายเลื้อยไปมากับเตียงนุ่มของอันนา สัมผัสร้อนฉ่าจากปากจากลิ้นของแม็กซิมัสมันช่างแสนวิเศษเหลือเกิน มันทำให้หล่อนพบเจอกับความเสียวซ่านเป็นครั้งแรกในชีวิต
“อา... อา...”
เขาดูดกลืนยอดถันสีชมพูหวานเข้าไปในอุ้งปาก หลังจากมันถูกบี้คลึงด้วยปลายนิ้วยาวอยู่พักใหญ่ เขาทั้งกัด ทั้งดูด ทั้งเลีย ฟัดเต้านมของหล่อนอย่างตะกละตะกลาม ความหื่นกระหายที่เขาสำแดงออกมามันมากมายจนหล่อนไม่รู้ว่าจะรับมือได้นานแค่ไหน
“อา... อา... คุณแม็ก... อา... หยา... หยาร้อน... อา...”
หล่อนดิ้นพล่านอยู่ใต้ร่างทรงพลัง ความรู้สึกยามถูกดูดเลียยอดถันจากข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่งมันสร้างความรัญจวนให้กับหล่อนเหลือเกิน กายสาวเบียดกระแซะวิงวอนให้เขาทำมากขึ้นกว่าการสัมผัส ซึ่งหล่อนก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร
“อา... อา... ได้โปรด... คุณแม็ก... อา...”
หล่อนต้องการให้เขาทำมากกว่านี้... ต้องการให้เขา... ทำทุกอย่างที่จะทำให้ใจกลางร่างสาวคลายความร้อนรุ่มลง
“คุณแม็ก... อา... ได้โปรด...”
หล่อนสะอื้นเรียกชื่อของเขา ยามที่ถูกมือแข็งกระด้างร้อนจัดกอบกุมบนความเป็นหญิงที่หว่างขา สะโพกอวบงามสะบัดส่ายเสียดสีไปมา เพลิงปรารถนาแผดเผาสติจนมอดไหม้
นิ้วยาวของเขาสัมผัสกับความเป็นหญิงแนบแน่น ขยำ คลึงเคล้นหนักหน่วง ก่อนที่เขาจะรูดกางเกงชั้นในที่เป้าเปียกชื้นออกไปจากเรือนกาย
“อ๊ะ... อา... อา...”
นิ้วแกร่งสัมผัสกับเนื้อแท้หยาดเยิ้ม เขากดคลึง หยอกเย้ากับความชุ่มฉ่ำภายในด้วยลีลาเชื่องช้าบาดหัวใจ ก่อนจะเพิ่มจังหวะดุดันขึ้น พร้อมกับก้มหน้าเข้ามาใกล้
“อ๊ะ... อย่าค่ะ...”
หล่อนขยับสะโพกเปลือยหนีอย่างกระดากอาย แต่เขาไม่ยอมฟังคำทัดท้านแม้แต่น้อย ไม่ช้าความเป็นหญิงของหล่อนก็ถูกเขาสัมผัสด้วยปากและเรียวลิ้น
“อ๊า... อา...”
หล่อนขัดขืนแค่เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น เพราะหลังจากนั้นลิ้นใหญ่ก็หลอมละลายความขัดเขินกระดากอายของหล่อนจนหมดสิ้น เหลือแต่เพียงเพลิงสวาทที่กำลังแผดเผาร้อนแรง
“อา... อา... ได้โปรด... อา...”
เขาร่ายมนตร์วิเศษใส่กายสาว ทั้งลิ้นทั้งปากรวมทั้งปลายนิ้วของเขามันคือความวิเศษที่ทำให้หล่อนหลุดหลง ปล่อยกายปล่อยใจให้เขาโลมเลียอย่างเต็มใจ
สองขาเรียวแยกกว้างมากยิ่งขึ้น เมื่อเขาโลมเลียหนักหน่วงร้อนแรง ลิ้นของเขาปาดเลียดื่มด่ำรสชาติความหวานจากตรงนั้นของหล่อนด้วยทีท่าตะกรุมตะกราม
“ได้โปรด... อา... คุณแม็ก... ได้โปรด...”
หล่อนบิดกายส่ายเลื้อยด้วยความทรมานแทบจะขาดใจ
“ได้โปรด... คุณแม็กขา... ช่วยหยาด้วย... อา... หยา... หยาต้องการ... อา...”
สะโพกเปลือยกลมกลึงบิดเร่าๆ อย่างสิ้นสุดความอดทน ความสุขซ่านระลอกแรกกำลังกลืนกินจิตวิญญาณของหล่อน ยิ่งนิ้วช่ำชองของเขาขยับชอนไชล้ำลึกเท่าไหร่ กายสาวก็ล่องลอยสูงขึ้นเรื่อยๆ เท่านั้น
“อา... อา... อ๊า...”
และในที่สุดหล่อนก็ได้พบกับความมหัศจรรย์ทางเพศเป็นครั้งแรกในชีวิตจากปลายนิ้ว ปลายลิ้น และริมฝีปากของแม็กซิมัส
กายสาวของหล่อนแตกระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ ดวงดาวมากมายพร่างพรายอยู่ภายในความรู้สึก หล่อนสั่นเทิ้มอยู่ใต้ร่างทรงพลัง โลกทั้งใบสั่นคลอนรุนแรงจนต้องเกาะเกี่ยวเขาเอาไว้แนบแน่น
หล่อนไม่อาจรู้ได้ว่าตัวเองสั่นเกร็งสะท้านอยู่นานแค่ไหน มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่นิ้วยาวสอดลึกเข้ามาในความเป็นหญิง และสร้างความอึดอัดให้
“อ๊ะ... อื้อ... อื้อ...”
นิ้วยาวของแม็กซิมัสช่างแสนชาญฉลาด เพราะทันทีที่มันเคลื่อนไหวเข้าออกถี่ระรัว ความอึดอัดคับแน่นก็ค่อยๆ สลายหายไป มีเพียงเพลิงปรารถนาที่ลุกโชนเข้ามาแทนที่
“อา... อา...”
หล่อนต้องการมากกว่านี้...
“คุณแม็ก... ได้โปรด... อา... ได้โปรด... อา... อ๊า...”
หล่อนดิ้นเร่าๆ หยัดร่อนกายขึ้นเชิญชวนด้วยความโหยหาทรมานอย่างสุดจะทานทน
“ได้โปรด... ช่วยหยาด้วย... คุณแม็ก...”
หล่อนได้ยินเขาครางในลำคอ และเลื่อนตัวขึ้นมาประกบปากจูบหนักหน่วง พร้อมกับการขยับกายกำยำที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามให้พร้อมที่จะกระทำความสัมพันธ์ขั้นสุดท้าย
ต้นขาอวบของหล่อนถูกเขาดันให้แยกกว้างออกจนสุด แก่นกายร้อนจัดที่แข็งราวกับท่อนเหล็กจดจ่ออยู่กับความเป็นหญิงชุ่มฉ่ำพร้อมพรัก
หล่อนรู้ดีว่าควรจะหยุดเขา... ควรจะหยุดเหตุการณ์น่าอัปยศครั้งนี้ลงซะ แต่ร่างกายที่ถูกปลุกเร้าจนร้อนฉ่า มันไม่ยอมฟังสำนึกผิดชอบชั่วดีใดๆ จากสมองเลย
มันยินยอมให้แม็กซิมัสเข้ามาอย่างเต็มใจ...
“อ๊ะ... เจ็บ... อื้อ...”
ความเจ็บปวดฟาดเปรี้ยงลงกลางหน้าผาก สลายความเสียวรัญจวนออกไปจากกายจนหมดสิ้น ร่างบางพยายามเบี่ยงตัวหนีจากการรุกรานเจ็บปวดนั้น ซึ่งนั่นก็ทำให้เขายิ่งกดท่อนชายลงมากขึ้นจนหมดทั้งความยาว
“กรี๊ด... เจ็บ... หยาเจ็บ...”
ความเจ็บปวดมันกำลังเข่นฆ่าให้หล่อนตายทั้งเป็น หยาดน้ำตาไหลรินด้วยความทรมาน เมื่อความเป็นหญิงถูกบีบบังคับให้ขยายรับความแข็งชันที่ทั้งใหญ่ทั้งยาวเกินมนุษย์ของแม็กซิมัส
“ได้โปรด... ปล่อยหยา...”
หล่อนมองเขาผ่านม่านน้ำตา วิงวอนให้เขาปลดปล่อย แต่เขากลับส่ายหน้าไปมา และเริ่มต้นเคลื่อนไหว
“อื้อ... อย่า... เจ็บ... อย่าค่ะ...”
ความปรานีที่อยากจะได้รับจากแม็กซิมัสไม่มีอีกเช่นเคย เขาก้มหน้าลงมาขยี้ปากอิ่ม กลืนกินเสียงต่อต้านที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดของหล่อนลงไปในลำคอ และสะบัดบั้นเอวถี่ระรัว
“อื้อ... อื้อ...”เขาไม่สนใจว่าหล่อนจะทรมานสักแค่ไหน เพราะเขาเดินหน้าเคลื่อนไหวอย่างดุดัน ทุกจังหวะของเขาเต็มไปด้วยความป่าเถื่อน หยาดน้ำตาของหล่อนไม่อาจจะทำให้คนใจร้ายสงสารได้เลย“อืมมม โอ้ววว...”เสียงครางของเขาดังกังวานขึ้นต่อเนื่อง ในขณะที่ความเจ็บเริ่มจางหายไปจากกายสาวบ้างแล้ว“อา... อา...”ความอุ่นซ่านแห่งความเสียวกระสันเกิดขึ้นในทุกครั้งที่แม็กซิมัสเคลื่อนไหว และมันก็ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนหล่อนไม่สามารถหักห้ามใจได้อีก“อา... อา...”หล่อนปล่อยกายปล่อยใจให้เพลิดเพลินไปกับพายุสวาทของแม็กซิมัสอย่างยากจะต้านทาน กายสาวเบียดกระแซะขึ้นหา หยัดร่อนความเป็นหญิงขึ้นรับการสอดแทรกร้อนแรงด้วยความเต็มใจเสียงคำรามที่ฟังไม่ได้ศัพท์ของเขาดังกังวานขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ใบหน้าหล่อจัดตอนนี้บิดเบี้ยวเหยเกคล้ายกำลังต่อสู้กับอะไรบางอย่างที่ทรงพลังสะโพกของเขาส่ายวนคลึงเคล้นกับความเป็นหญิงร้อนแรง มือใหญ่ทั้งสองข้างกอบกุมสะโพกกลมกลึงเอาไว้แน่น และกระชากให้หล่อนอ้ารับความหิวกระหายบ้าคลั่งครั้งแล้วครั้งเล่า“อา... อา... คุณแม็ก... อา... ไม่ไหวแล้ว... อา...”หล่อนบิดกายเร่าๆ ครางสะอื้นเป็นชื่อของเขาน
ไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศทำให้คนที่นอนขดอยู่บนเตียงโดยไร้ผ้าห่มรู้สึกตัวตื่นขึ้น ดวงตากลมโตเบิกท่ามกลางความมืดสลัว ความทรงจำจากเหตุการณ์ที่เพิ่งจะผ่านพ้นไปเมื่อหลายชั่วโมงก่อนทำให้หล่อนเผลอครางออกมาอย่างลืมตัว หยาดน้ำตารินไหลอาบแก้ม และก็พยายามที่จะกัดฟันขยับตัวลงจากเตียง แต่ความเจ็บปวดที่ซอกขาทำให้หล่อนเผลอส่งเสียงครางออกมาอีกครั้ง“อ๊ะ...”ตรงนั้นของหล่อนเจ็บระบมมาก นั่นเป็นเพราะแม็กซิมัสรุนแรง ป่าเถื่อน และชำเราหล่อนนานต่อเนื่องกันหลายชั่วโมง แถมอาวุธที่เขาใช้รังแกหล่อนก็ทั้งใหญ่ทั้งยาว จนสาวบริสุทธิ์เช่นหล่อนรู้สึกคล้ายกับจะฉีกขาดไปทั้งตัวหล่อนพยายามสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ขณะต่อสู้กับความเจ็บปวดก้าวลงจากเตียง ความเจ็บลึกในซอกขาย้ำเตือนให้หล่อนลืมความป่าเถื่อนของแม็กซิมัสไม่ลง“อัน... อยู่กับพี่ก่อน...”เอวคอดของหล่อนถูกคว้าเอาไว้ และเขาก็พลิกกายขึ้นทาบทับเอาไว้ทั้งตัว ท่ามกลางความมืดมิดเขาเรียกหาอันนา โดยไม่ได้สนใจเลยว่าผู้หญิงใต้ร่างของเขาจะเป็นใคร“อย่า... ปล่อยค่ะ...”“พี่ต้องการอัน...”เขาครางเสียงกระเส่าก่อนจะก้มลงจูบปากอิ่ม กลืนกินเสียงต่อต้านอ่อนแรงของหล่อนเข้าไปในลำคอเสียห
อันนาเห็นแม็กซิมัสเข้าใจผิด หล่อนก็รีบสมทบสนับสนุนเพื่อให้ตัวเองรอดพ้นข้อสงสัยทันควัน“มึงร้ายกาจ... ร้ายกาจที่สุด นังปั้นหยา!”ปั้นหยาส่ายหน้าไปมาเมื่อถูกปรักปรำจากสองคนที่กำลังเกรี้ยวกราดหล่อนอยากหายตัวไปจากตรงนี้ หรือไม่ก็ตายไปจากโลกใบนี้เสียเลย“พี่ไม่ได้ทำนะอัน... คุณแม็ก... หยาไม่ได้ทำ... หยา อ๊ะ... หยาเจ็บ...”“ถ้าเธอไม่ได้เป็นคนทำ แล้วใครจะทำ เรื่องเลวๆ แบบนี้ มีแค่เธอคนเดียวเท่านั้นแหละที่กล้าทำ ปั้นหยา”เขาบีบแขนของหล่อนแรงมากราวกับต้องการทำให้กระดูกของหล่อนแตกละเอียดหล่อนเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวดทรมาน และพยายามวิงวอนให้เขาเมตตา“ได้โปรด... เชื่อหยา... หยาไม่รู้เรื่อง หยาไม่ได้ทำ...”หล่อนร้องไห้อย่างน่าเวทนา แต่ไม่มีใครที่จะเชื่อหล่อนเลย“ตอแหล!”“อ๊ะ...”ปั้นหยาถูกผลักให้ล้มหงาย ร่างเปลือยแทบกลิ้งตกลงไปจากเตียง และพวกเขาก็คงจะรุมทึ้งหล่อนจนย่อยยับต่อไปอีก หากคุณย่าวารีไม่ปรากฏตัวขึ้นเสียก่อน“เกิดอะไรขึ้น เสียงดังลั่นบ้านเชียว”“คุณย่า...”ปั้นหยาครางเรียกชื่อของผู้มีพระคุณด้วยน้ำเสียงสะอื้นไห้ ในขณะที่แม็กซิมัสนั่งทำหน้าเคร่งเครียดอยู่บนเตียงเพราะไร้ทางหลบหนี“หยา... หยาทำ
เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เขารู้ดีว่าตัวเองถูกวางยา เพราะไม่อย่างนั้นเขาคงไม่กระทำเรื่องน่าสมเพชเช่นนั้นลงไปได้ แถมเจ้าหล่อนก็ยังเข้ามาหาในเวลาที่เหมาะเจาะพอดิบพอดีชายหนุ่มยกมือขึ้นเสยผมแรงๆ ด้วยความหงุดหงิด ขณะตวัดตามองผู้หญิงที่แสร้งทำเป็นยืนตัวสั่นตรงหน้าด้วยความเกลียดชัง เท่าที่เห็น หล่อนก็มีดีแค่อย่างเดียวเท่านั้น คือเยื่อพรหมจรรย์ที่เขาเป็นคนทำลายไป นอกนั้นปั้นหยาก็คือสิ่งจอมปลอม เป็นผู้หญิงสารเลวที่เขาขยะแขยงเขาก้าวเท้าเดินเข้าไปหยุดตรงหน้าของหล่อน มองด้วยสายตาชิงชังอย่างที่ไม่เคยใช้กับใครมาก่อน“ฉันเกลียดเธอ จำเอาไว้นะปั้นหยา”คนฟังน้ำตาร่วงอีกครั้ง แต่ก็รีบยกหลังมือขึ้นมาป้ายทิ้ง และกลั้นใจพูดโต้ตอบออกไป“หยา... จะจำเอาไว้ค่ะ”เขาหัวเราะเครียดๆ สายตาของเขาเต็มไปด้วยกองไฟจำนวนมหาศาล และมันก็แผดเผาคนถูกมองจนแทบมอดไหม้“ผู้หญิงที่ฉันรักคืออันนา ส่วนเธอมันก็แค่อีตัว ที่ฉันเผลอไผลนอนด้วย และอย่าฝันนะว่าฉันจะรับผิดชอบอะไรในตัวของเธอ”หล่อนเจ็บจนหัวใจชาดิก เลือดสดๆ ไหลทะลักท่วมท้นจนแทบจะทะลักออกมาทางปาก“หยา... ไม่ได้ต้องการให้คุณแม็กมารับผิดชอบอะไรอยู่แล้วค่ะ เรื่องเมื่อคืน... ให
แม็กซิมัสก็คิดไม่ต่างจากอันนาแม้แต่น้อย แต่เขาก็รู้ดีว่าไม่สมควรจะพูดมันออกไป“พี่ขอตัวกลับก่อนนะครับน้องอัน รู้สึกเพลีย”อันนาช้อนตาขึ้นมองแม็กซิมัสอย่างโมโหเพราะรู้ทันว่าทำไมชายหนุ่มถึงอ่อนเพลีย“เรื่องนี้เป็นความผิดของพี่แม็ก ยังไงซะพี่แม็กก็ต้องรับผิดชอบชีวิตของอัน เข้าใจไหมคะ”ใช่ มันคือความผิดพลาดของเขาเต็มๆ แต่ตัวต้นเหตุก็คือผู้หญิงแพศยาคนนั้น“พี่จะไม่มีวันทิ้งน้องอัน ถึงพี่จะแต่งงานกับปั้นหยา แต่ผู้หญิงคนนั้นก็จะได้แค่ทะเบียนสมรส กับความเหี้ยมโหดของพี่ เพราะคนที่พี่รักคือน้องอันคนเดียว”อันนาพอยิ้มออกมาได้บ้าง หล่อนรีบโผเข้ากอดแม็กซิมัสและประจบประแจงเสียงอ่อนเสียงหวาน“พี่แม็กพูดแล้วนะคะ ห้ามผิดคำพูดเด็ดขาด”“พี่เป็นคนรักษาคำพูดครับ น้องอันเชื่อใจพี่ได้ เราสองคนจะอยู่บนสวรรค์ ส่วนผู้หญิงคนนั้นจะต้องตกนรกทั้งเป็น”อันนาอดที่จะยิ้มออกมาด้วยความสะใจไม่ได้ เพราะถึงแม้เรื่องราวมันจะกลับตาลปัตรแบบนี้ แต่แม็กซิมัสก็ให้คำมั่นว่าจะไม่ทอดทิ้งหล่อนปั้นหยาที่หลบออกมาร้องไห้หน้าบ้านต้องรีบก้าวเท้าเพื่อเดินเลี่ยงไปทางอื่น เมื่อจู่ๆ แม็กซิมัสก็ปรากฏตัวขึ้น ดวงตาสีเขียวจัดของเขาจ้องมองมาเขม
“คุณย่าขา... หยา... หยาไม่ต้องการความรับผิดชอบจากคุณแม็ก... คุณย่าเลิกคำสั่งเถอะนะคะ”ปั้นหยานั่งร้องไห้อยู่กับพื้น และซบหน้าลงกับตักของคุณย่าวารี น้ำตาไหลรินอาบแก้ม“หยา... ฟังย่านะ” คุณย่าวารียกมือขึ้นลูบศีรษะของปั้นหยาอย่างแสนเวทนา “เรื่องที่เกิดขึ้นมันทำให้หยาเสื่อมเสียเกียรติ ยังไงคุณหมอแม็กซิมัสก็ต้องรับผิดชอบด้วยการแต่งงานกับหยา”“แต่คุณแม็กกับน้องอันเป็นคนรักกันนะคะ หยาไม่อยากถูกตราหน้าว่าแย่งคนรักของน้อง...” หล่อนสะอื้นไห้อย่างน่าเวทนา หัวใจปวดร้าวทรมานเหลือเกิน“แม่อันน่ะ หัวหกก้นขวิดมานักต่อนักแล้ว ไม่ใช่สาวบริสุทธิ์อย่างหยานะลูก”“แต่เขาสองคนรักกัน หยาไม่...”“คุณหมอแม็กซิมัสควรจะได้ผู้หญิงที่ดีกว่าแม่อัน และผู้หญิงคนนั้นก็คือหยาไงลูก”คุณย่าวารีรู้ว่าตัวเองอาจจะลำเอียงรักหลานสองคนไม่เท่ากัน แต่อันนาเป็นคนไม่ดี และจิตใจโหดร้าย หล่อนเป็นห่วงปั้นหยา“แต่คุณแม็กเกลียดหยา...”“คุณหมอแม็กแค่เข้าใจในตัวของหยาผิด ถ้าได้อยู่ด้วยกัน เขาจะต้องได้เห็น และได้รู้ว่าหยาเป็นเด็กดีแค่ไหน และเขาก็จะรักหยาของย่าได้ไม่ยาก”หล่อนเคยได้ยินมากับหู ตอนที่อันนาใส่ไฟปั้นหยาให้กับแม็กซิมัส แต่หล่อน
เพียงไม่กี่นาทีหล่อนก็สามารถมาหยุดตรงหน้าของไตรทศ เขาอยู่ในชุดทำงานสีขาวสะอาด แต่ค่อนข้างยับต่างไปจากทุกครั้งที่เห็น สายตาของเขานั้นเศร้าหมอง รอยยิ้มที่มักจะเปื้อนอยู่บนใบหน้าตอนนี้ไม่มีเหลือให้เห็นอีก“พี่ไตร...”ไตรทศมองนางในฝันของตัวเอง มองด้วยความเสียใจและเสียดาย เขาเฝ้าตามจีบ ตามรักมานานตั้งแต่ปั้นหยาเข้าเรียนมหาวิทยาลัยปีที่ 1 จนถึงตอนนี้ก็เกือบจะห้าปีแล้ว มันนานเหลือเกินที่ฝากหัวใจเอาไว้กับหล่อน และก็ไม่เคยเผื่อใจเอาไว้เลยว่า ปั้นหยาจะแต่งงานสายฟ้าแลบแบบนี้ นี่ถ้ารัชนกไม่บอก เขาก็คงไม่รู้เรื่องนี้“น้องหยา... ไม่คิดจะบอกข่าวดีให้พี่รู้เลยหรือครับ”ไตรทศเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าของปั้นหยา ดวงตาของชายหนุ่มแดงก่ำ“ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก... หยา... ขอโทษนะคะพี่ไตร... ขอโทษที่ไม่ได้บอกเรื่องนี้กับพี่ไตรเป็นคนแรก”ไตรทศฝืนยิ้ม ดึงมือเล็กของปั้นหยาขึ้นมากุมเอาไว้ เขามองหล่อนด้วยหัวใจที่ปวดร้าว“น้องหยารู้ใช่ไหมว่าพี่คิดยังไงกับน้องหยา”ปั้นหยาหลบสายตาของไตรทศลงมองปลายเท้าของตนเอง รู้สึกกระอักกระอ่วนใจเหลือเกิน“หยา... ทราบค่ะ”ไตรทศฝืนยิ้มออกมาทั้งๆ ที่ภายในอกเจ็บปวด “พี่ไม่ได้อยากทำให
หล่อนทำได้แค่นั่งร้องไห้สะอึกสะอื้น และก็ไม่อาจรู้ได้ว่าเขากำลังจะพาหล่อนไปที่ไหนสักพักรถก็เลี้ยวเข้ามาในโรงแรมเล็กๆ แห่งหนึ่ง เขาจอดรถ และหันมามองหน้าซีดเผือดของหล่อน“ผู้หญิงอย่างเธอ เอาในโรงแรมมันยังดูแพงไปเลย”แล้วรถที่จอดอยู่ก็ถูกเคลื่อนขึ้นมาบนท้องถนนอีกครั้ง ในขณะที่หล่อนร้องไห้คร่ำครวญด้วยความหวาดกลัว“คุณ... แม็กจะพาหยาไปไหนคะ...”หล่อนได้ยินแต่เสียงหัวเราะราวกับปีศาจร้ายของผู้ชายที่กำลังเมามาย และไม่ช้ารถสปอร์ตก็เลี้ยวจอดที่ข้างทางใต้ต้นไม้ขนาดใหญ่ หัวใจของปั้นหยาสั่นสะท้าน หล่อนหันมองไปรอบตัวด้วยความตื่นกลัว“คุณแม็ก... จอดรถ... ทำไมคะ”เขาปลดเข็มขัดนิรภัยออกจากตัว และหันมาจ้องหน้าหล่อน แม้จะอยู่ในความมืดสลัว แต่หล่อนก็ยังสามารถมองเห็นกองไฟในสายตาของแม็กซิมัสได้อย่างชัดเจน“เวลาฉันเมา ฉันต้องระบาย”“คุณแม็กหมายถึง...”“ทำไมต้องทำเป็นติดอ่างด้วยล่ะ นี่มันงานโปรดของเธอเลยไม่ใช่หรือ ปั้นหยา”“ไม่... ไม่ใช่นะคะ...” หล่อนขยับตัวหนีไปจนชิดประตูฝั่งที่ตัวเองนั่ง มองคนตัวโตด้วยความหวาดกลัว“อย่าดัดจริตให้มากนัก ทำหน้าที่ของเธอซะ”“ไม่... หยา... หยาไม่ทำ อ๊ะ...”เส้นผมของหล่อนถูกเข
คนตัวเล็กแก้มแดงระเรื่อ ขณะค่อยๆ กดสะโพกผายลงให้กลืนกินความเป็นชายที่ชูชันรอคอย“อ๊ะ... อ๊า... อา... อา...”“โอ้ววว... อืมมมม แน่นมาก อืม”ใบหน้าหล่อจัดของแม็กซิมัสบิดเบี้ยวด้วยความเสียวกระสัน เมื่อความเป็นชายถูกกลีบสาวอ่อนนุ่มโอบกระชับแน่นหนาเอาไว้ในทุกทิศทาง“หยา... ปั้นหยา... ยอดรัก... ได้โปรดขยับ... ได้โปรดเถอะ โอ้ววว พระเจ้า... โอ้ววว...”ปั้นหยาทำตามคำขอร้องหอบกระเส่าของแม็กซิมัสอย่างว่านอนสอนง่าย หล่อนบดบั้นท้ายกับความเป็นชายหนักๆ ด้วยจังหวะเร้าใจ ก่อนจะขยับขึ้นลงถี่ระรัว ตามความร้อนฉ่าของไฟสวาทที่ลุกโหมอยู่ภายในกาย“อ๊า... อา... อา...”“โอ้ว... เร็วอีก... ฉันจะทนไม่ไหวแล้ว โอ้ววว อืมมม...”มือใหญ่ทั้งสองข้างกุมสะโพกผายเอาไว้มั่น และช่วยให้หล่อนยกโยงตัวเองขึ้นสูง พร้อมกับดึงรั้งให้กลับลงมาหาหนักหน่วงแม็กซิมัสหน้าแดงก่ำ บิดเบี้ยวด้วยความเสียวกระสันร้อนแรง ยิ่งปั้นหยาซอยสะโพกลงมาหาด้วยจังหวะรัวระทึกเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกถึงสวรรค์ได้มากขึ้นเท่านั้น“อา... อา... คุณแม็กกก... หยา... หยาจะไม่... ไหวแล้ว อา... อ๊า...”ปั้นหยาเงยหน้าขึ้น กรีดร้องด้วยความเสียวกระสัน กายสาวสั่นเกร็ง แ
เคลวินหัวเราะออกมา “ก็งานฉันมันยุ่งมาก ปลีกตัวได้สามสี่วันก็บุญแล้ว”“เออๆ เอาที่นายสะดวกก็แล้วกัน” แม็กซิมัสตอบรับอย่างอ่อนอกอ่อนใจ ขี้เกียจจะเซ้าซี้“สรุปนายรักคุณปั้นหยาแล้วจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย”“ถูกต้อง และไม่ใช่รักเฉยๆ นะ รักมากด้วย”เคลวินหัวเราะขบขัน “ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านายจะรักผู้หญิงที่ตัวเองบอกว่าเกลียดนักเกลียดหนาเข้าไปได้”“ก็ตอนนั้นฉันเข้าใจผิด แถมอันนาก็ยังเป่าหูใส่ร้ายปั้นหยาให้ฉันฟังทุกวัน ฉันก็ต้องเชื่อดิ”“เออ ก็ขอให้นายมีความสุขมาก มีลูกเยอะๆ เอาแบบตั้งทีมฟุตบอลได้เลยก็จะยิ่งดี”“ถ้าจะให้มีเยอะขนาดทำทีมฟุตบอลคงไม่ไหวหรอก ปั้นหยาคงไม่เห็นด้วย แต่ถ้ามีสักสี่ห้าคน เอาไว้เล่นกับลูกของนาย แล้วก็ลูกของเจ้าชาร์ลกับลูกเจ้าอเล็กน่ะพอไว้”“รอลูกไอ้ชาร์ลกับไอ้อเล็กเถอะ ฉันไม่มีหรอก” เคลวินส่ายหน้าปฏิเสธ และทำหน้าสยดสยองเมื่อคิดถึงเด็ก“เด็กๆ น่ารักนะโว้ย เมื่อก่อนฉันก็ไม่ชอบเด็ก แต่พอปั้นหยาท้อง ฉันก็รักเด็กขึ้นมากะทันหันเลยว่ะ ในมือถือตอนนี้นอกจากรูปของฉันกับปั้นหยาแล้ว ก็มีแต่รูปเด็กน่ารักๆ เต็มเครื่องไปหมดเลย ดูไหม จะอวด”“ไม่ๆๆ ฉันไม่อยากดูหรอก” เคลวินส่ายหน้าดิก“สักวันนายจ
แม็กซิมัสรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลของตนเองมาครบหนึ่งอาทิตย์แล้ว โดยมีปั้นหยาคอยเฝ้าดูแลไม่ห่างไปไหน ซึ่งก็ทำให้เขามีความสุขเหลือเกิน“คุณแม็กขา... หยาขอออกไปซื้อของใช้ที่เซเว่นใต้โรงพยาบาลสักครู่นะคะ เดี๋ยวจะรีบมาค่ะ”แม็กซิมัสอมยิ้มกับน้ำเสียงหวานฉ่ำของหญิงสาว และก็กวักมือเรียกให้หล่อนเข้ามาหา ซึ่งปั้นหยาก็ยอมเดินเข้ามาหาเขาอย่างว่านอนสอนง่าย“เดินระวังนะรู้ไหม ตอนนี้เธอไม่ใช่คนตัวเปล่าแล้ว”ปั้นหยายิ้มหน้าแดงด้วยความเอียงอาย พร้อมกับยกมือขึ้นลูบหน้าท้องของตัวเองไปมาอย่างลืมตัว“หยาจะเดินให้ระวังที่สุดค่ะ คุณแม็กอยู่คนเดียวได้นะคะ”“อยู่ได้ครับ ไปเถอะไม่ต้องรีบร้อนล่ะ”หญิงสาวก้มหน้าลงมาจูบแก้มสากที่มีไรหนวดของคนตัวโตเบาๆ อย่างแสนรัก“หยารักคุณแม็กนะคะ”มือใหญ่ของแม็กซิมัสยกขึ้นประคองดวงหน้านวลของปั้นหยาเอาไว้ ก่อนจะพรมจูบไปจนทั่ว และมาอิ่งอ้อยอยู่กับกลีบปากอิ่มหวานฉ่ำนานที่สุด“ฉันก็รักเธอ... ฉันบอกเธอไปกี่ครั้งแล้วนะ” ชายหนุ่มอมยิ้ม ดวงตาเป็นประกายระยิบระยับปั้นหยาเสหลบสายตาสีเขียวสวยอย่างเอียงอาย แต่ก็อ้อมแอ้มตอบออกไปเสียงเบา“น่าจะเกือบห้าสิบครั้งแล้วล่ะค่ะ”“โอ้พระเจ้า... นี่ฉันบ
“น้องอัน... สัญญากับพี่ได้ไหมว่าจะไม่ทำอะไรคุณแม็ก หากพี่ตายไปแล้ว”“ไม่นะปั้นหยา ฉันไม่ยอมเด็ดขาด ไม่มีวันยอมให้เธอตาย เข้าใจไหมว่าเธอตายไม่ได้!”แม็กซิมัสตะโกนมาอีกฟากหนึ่งของกำแพง เขาอยากจะเข้าไปแย่งปืนจากมือของอันนานัก แต่ก็กลัวว่ามันจะผิดพลาด แล้วปั้นหยาจะไม่ปลอดภัย จึงจำต้องนั่งนิ่งและพยายามหาทางออกอื่นให้ได้เร็วที่สุด“แค่หยารู้ว่าคุณแม็กเป็นห่วงหยา... แค่นี้หยาก็ตายตาหลับแล้วล่ะค่ะ”“ผู้หญิงบ้า! ถ้าเธอไม่หยุดพูดบ้าๆ ฉันสาบานว่าจะหยุดรักเธอเดี๋ยวนี้แหละ!”“คุณแม็ก... รักหยาเหรอคะ”อย่างน้อยๆ ก่อนตาย หล่อนก็ยังได้รู้ว่าตัวเองได้รับความรักตอบจากบุรุษที่ตัวเองแอบรักมาเนิ่นนาน“ก็ใช่น่ะสิ ฉันรักเธอปั้นหยา รักมากด้วย ดังนั้นห้ามตายเด็ดขาด นี่เป็นคำสั่งของฉัน”“หยาดีใจ... ดีใจเหลือเกิน...”“เลิกพล่ามกันได้แล้ว แล้วพี่แม็กก็เตรียมเห็นนังหยามันไร้วิญญาณได้เลย”“อย่านะ... อันนา! อย่าทำอะไรปั้นหยานะ!”อันนาหันไปยิ้มเลือดเย็นให้กับแม็กซิมัส ก่อนจะสอดนิ้วเรียวเหนี่ยวไกปืนทันทีปัง! ปัง! ปัง!ลูกปืนทั้งสามนัดดังกังวาน และพุ่งเข้าใส่คนตรงหน้าอย่างแม่นยำ แต่ผิดคน“พี่แม็ก!!!”“คุณแม็ก! กรี๊ดด
ปั้นหยาถูกอันนาตบด้วยฝ่ามือ และกระบอกปืนหลายครั้งจนเลือดไหลออกมาจากศีรษะที่แตก หน้าตาปูดบวมช้ำ โดยเฉพาะที่ปากแตกจนมีเลือดไหลซึมออกมาจากมุมปาก“น้องอัน... ปล่อยพี่เถอะ พี่ไม่เคยคิดร้ายอะไรกับน้องอันเลยนะ พี่หวังดีกับน้องอันเสมอ โอ๊ยยย... พี่เจ็บ”อันนากระชากเส้นผมนุ่มของปั้นหยาแรงๆ ก่อนจะก้มหน้าที่บิดเบี้ยวเพราะเสียสติไปแล้วลงมาหัวเราะใส่“มึงแย่งผัวกู”“พี่ก็หย่ากับคุณแม็กให้แล้วนี่จ๊ะ”“มึงคืนให้มาแต่ตัว แต่หัวใจของพี่แม็ก มึงขโมยไปแล้วไม่ยอมคืน อีพี่สารเลว!”เพียะ! ผัวะ!!!ทั้งมือทั้งหมัดของอันนาประเคนเข้าใส่ใบหน้าและร่างกายของปั้นหยาอย่างไม่ปรานี จนปั้นหยาล้มตัวงอนอนลงกับพื้นเจียนจะหมดสติสัมปชัญญะ“พี่แม็กเอาเงินมาให้กูเมื่อไหร่ กูจะระเบิดหัวมึงทันที”“น้องอัน... ปล่อยพี่ไปเถอะ แล้วน้องอันก็กลับเนื้อกลับตัวซะ โทษหนักจะได้กลายเป็นเบา”“มึงอย่ามาสอนกู!”“พี่ไม่อยากเห็นน้องอันต้องตกนรกทั้งเป็นหรอกนะ เชื่อพี่เถอะ มอบตัวกับตำรวจซะเถอะ” ปั้นหยาพยายามเตือนสติของญาติผู้น้องด้วยความห่วงใย แต่อันนาไม่สนใจที่จะรับฟัง“กูไม่ยอมแก่ตายในคุกหรอก กูจะหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน จนกว่าคดีจะหมดอายุความ แล
แม็กซิมัสถอนใจออกมาอย่างโล่งอก เมื่อสุดท้ายแล้วพวงมาลัยดอกมะลิฝีมือของตนเองก็เสร็จสมบูรณ์เสียที และถึงแม้มันจะเบี้ยวๆ เอียงๆ ไม่ค่อยสวยนัก แต่เขาก็ทำมันด้วยความตั้งใจที่สุดในชีวิต แถมมันยังเป็นงานที่ทำให้เขาเสียเลือดมากที่สุดอีกต่างหากชายหนุ่มอมยิ้มมองพวงมาลัยดอกมะลิสีขาวด้วยความภาคภูมิใจ ก่อนจะยกมันขึ้นดอมดม กลิ่นของดอกไม้ชนิดนี้หอมละมุนมาก แต่ก็ยังหอมตราตรึงใจสู้กลิ่นสาบสาวของปั้นหยาไม่ได้“เธอจะต้องปลื้มใจแน่ๆ ถ้าเห็นพวงมาลัยนี้”“คุณแม็กคะ ปลาสเตอร์ยาค่ะ”“ขอบใจ” แม็กซิมัสยื่นมือไปรับปลาสเตอร์ยาจากมือของสาวใช้ มาพันบนนิ้วที่ถูกเข็มตำ“นี่แผ่นสุดท้ายแล้วนะคะคุณหมอแม็ก”คุณย่าวารีมองนิ้วมือที่เต็มไปด้วยปลาสเตอร์ยาของแม็กซิมัสด้วยความเห็นใจระคนขบขัน“เดี๋ยวผมเบิกที่โรงพยาบาลมาคืนให้ครับ”“ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องเอามาคืนหรอกค่ะ ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณคุณหมอที่ช่วยใช้ปลาสเตอร์ยาก่อนที่มันจะหมดอายุใช้งานน่ะ”แม็กซิมัสยิ้มอายๆ “ผมคงเป็นนักเรียนที่แย่มากๆ เลยใช่ไหมครับเนี่ย”“ถ้าเอาความจริงก็ใช่ค่ะ เพราะคุณหมอแม็กสอนยากมาก”“แต่ตอนผมเรียนผ่าตัด อาจารย์หมอชมว่าผมหัวไว เรียนรู้เร็วกว่าเพื่อน
“คุณอันนาคะ คุณอันนา”ผลั๊ววว!อันนาที่แกล้งนอนนิ่งทำเป็นหลับอยู่บนเตียงคนไข้ หยิบแจกันดอกไม้ที่ตั้งตกแต่งเอาไว้ภายในห้อง ฟาดหัวนางพยาบาลที่เข้ามาเพื่อนำยากลางวันมาให้รับประทาน จนล้มลงไปนอนกับพื้นห้องจากนั้นก็รีบก้าวลงจากเตียง วิ่งไปล็อกประตูห้อง และรีบเดินกลับมาลากร่างของนางพยาบาลเข้าไปในห้องน้ำทันทีเมื่อคืนหล่อนไม่ได้นอนเลย เพราะพยายามดิ้นรนหาทางแกะผ้าที่ผูกแขนขาเอาไว้ และก็เหมือนสวรรค์ยังเมตตา เพราะจากพยายามมาทั้งคืน ผ้าที่ผูกแขนเอาไว้ข้างหนึ่งก็คลายออก ซึ่งมันก็ทำให้หลุดพ้นจากพันธนาการได้ในที่สุดอันนาจ้องมองร่างไร้สติของนางพยาบาล ก่อนจะรีบจัดการถอดเสื้อผ้าออกจากร่างของนางพยาบาล และเอามาสวมใส่เสียเอง จากนั้นก็ยิ้มเลือดเย็น ดวงตาลุกเป็นไฟ“ถ้าฉันไม่มีความสุข ใครหน้าไหนก็มีความสุขไม่ได้”มือเล็กกำแน่นด้วยความเคียดแค้น ก่อนจะก้าวออกไปจากห้องพักฟื้นในคราบของนางพยาบาล ทำให้นายตำรวจหน้าห้องที่เอาแต่เล่นโทรศัพท์มือถือไม่ทันสังเกตเห็นรูปร่างที่แตกต่างไปอันนารีบออกมาจากโรงพยาบาลด้วยความรีบร้อน หล่อนโบกรถแท็กซี่ และหยิบเงินที่มีติดอยู่ในชุดของนางพยาบาลจ่ายเป็นค่ารถ เพื่อให้ขับรถพาไปยังสถ
ปั้นหยาเดินกลับมาจากอีกฝั่งของห้อง พร้อมกับตลับยาทาสำหรับแก้แมลงกัดต่อยในมือ ร่างเล็กทรุดนั่งข้างๆ และจัดการแต้มยาในตลับเล็กนั้นบนผิวของเขาที่มีตุ่มสีแดง“เธอแน่ใจหรือว่ายาเนี่ยมันจะช่วยอะไรได้น่ะ”“ช่วยได้สิคะ มันเป็นยาทาสำหรับคนที่ถูกมดถูกยุงกัดน่ะค่ะ อยู่เฉยๆ สิคะ หยาทาไม่ถนัดนะ”ปั้นหยาดุเสียงไม่จริงจังนัก เมื่อแม็กซิมัสเอียงหน้าหนีเมื่อหล่อนป้ายยาบนแก้มของเขา“ไม่ต้องทาแล้วล่ะ ฉันคิดว่าฉันไม่น่าจะตายเพราะยุงพวกนี้หรอก”“ถ้าไม่ตายเพราะยุงพวกนี้ คุณแม็กก็คงจะตายเพราะไข้เลือดออกน่ะค่ะ” หล่อนประชด และยังไม่หยุดป้ายยาไปตามเนื้อตัวของแม็กซิมัส “เป็นหมออะไรกัน ยอมให้ยุงกัดทั้งตัวแบบนี้” แล้วก็อดบ่นด้วยความเป็นห่วงไม่ได้แม็กซิมัสดึงมือเล็กที่กำลังจะป้ายยาบนลำคอแกร่งเอาไว้ จากนั้นก็โน้มหน้าเข้ามาหา นัยน์ตาสีเขียวแสนสวยของเขาจ้องมองหล่อนไม่วางตา“รู้สึกผิดใช่ไหมที่ทำให้ฉันถูกยุงรุมทึ้งทั้งคืนน่ะ”“เอ่อ... ก็... ใช่ค่ะ”หล่อนตอบตะกุกตะกัก สายตาของเขาทำให้หล่อนร้อนรุ่มไปทั้งตัว โดยเฉพาะในอุ้งเชิงกราน จนต้องรีบเสหลบสายตาคม จึงไม่ทันได้เห็นแววตาเจ้าเล่ห์ในนั้น“อยากไถ่บาปไหมล่ะ”“ก็... กำลังท
“คุณแม็กต้องนอนข้างนอกห้องค่ะ”ปั้นหยาโยนหมอนกับผ้าห่มใส่มือของคนตัวโต และดันให้เขาออกไปนอกห้องนอนของตนเอง“แต่คุณย่าให้ฉันนอนกับเธอนะ ปั้นหยา”แม็กซิมัสถูกคนตัวเล็กผลักจนพ้นออกมาจากห้องนอนสีหวานโดยไม่ทันได้ตั้งตัวเอ่ยแย้งขึ้น“คุณย่าอนุญาต แต่หยาไม่ได้อนุญาตค่ะ”“นี่เธอจะให้ฉันนอนตากยุงจริงๆ หรือ”“จริงค่ะ”แม็กซิมัสไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตัวเองต้องมาตกระกำลำบากด้วยฝีมือของผู้หญิงที่ตัวเองเคยตราหน้าว่าสารเลวอย่างปั้นหยา ความจริงเขาไม่ยอมก็ได้ ผลักหล่อนเข้าไป และปล้ำเสียให้รู้แล้วรู้รอด แค่นี้ปั้นหยาก็ต้องยอมสยบแล้ว แต่เพราะไม่อยากให้ปั้นหยาโกรธมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่จึงต้องยอม“ก็ได้ ฉันจะนอนหน้าห้องนี่แหละ พอใจหรือยังล่ะ”“หยาจะพอใจมาก ถ้าคุณแม็กกลับไปซะ”คนตัวโตส่ายหน้าไปมา “ฉันไม่กลับหรอก จะอยู่ที่นี่กับเธอนั่นแหละ”“งั้นก็ทนนอนตากยุงไปเถอะค่ะ ราตรีสวัสดิ์”ปั้นหยากำลังจะปิดประตูใส่หน้าของแม็กซิมัส แต่ชายหนุ่มทิ้งผ้าห่มกับหมอนในอุ้งมือ และกระชากร่างเล็กเข้ามากอดเสียก่อน จากนั้นเขาก็จูบปากอิ่มนั้นอย่างเร่าร้อน“อื้อ... อุ๊บบบ”ปั้นหยาดิ้นรน ผลักไส มือเล็กทุบแผงอกกว้างแรงๆ แต่เขาไม่สะทก