หล่อนทำได้แค่นั่งร้องไห้สะอึกสะอื้น และก็ไม่อาจรู้ได้ว่าเขากำลังจะพาหล่อนไปที่ไหนสักพักรถก็เลี้ยวเข้ามาในโรงแรมเล็กๆ แห่งหนึ่ง เขาจอดรถ และหันมามองหน้าซีดเผือดของหล่อน“ผู้หญิงอย่างเธอ เอาในโรงแรมมันยังดูแพงไปเลย”แล้วรถที่จอดอยู่ก็ถูกเคลื่อนขึ้นมาบนท้องถนนอีกครั้ง ในขณะที่หล่อนร้องไห้คร่ำครวญด้วยความหวาดกลัว“คุณ... แม็กจะพาหยาไปไหนคะ...”หล่อนได้ยินแต่เสียงหัวเราะราวกับปีศาจร้ายของผู้ชายที่กำลังเมามาย และไม่ช้ารถสปอร์ตก็เลี้ยวจอดที่ข้างทางใต้ต้นไม้ขนาดใหญ่ หัวใจของปั้นหยาสั่นสะท้าน หล่อนหันมองไปรอบตัวด้วยความตื่นกลัว“คุณแม็ก... จอดรถ... ทำไมคะ”เขาปลดเข็มขัดนิรภัยออกจากตัว และหันมาจ้องหน้าหล่อน แม้จะอยู่ในความมืดสลัว แต่หล่อนก็ยังสามารถมองเห็นกองไฟในสายตาของแม็กซิมัสได้อย่างชัดเจน“เวลาฉันเมา ฉันต้องระบาย”“คุณแม็กหมายถึง...”“ทำไมต้องทำเป็นติดอ่างด้วยล่ะ นี่มันงานโปรดของเธอเลยไม่ใช่หรือ ปั้นหยา”“ไม่... ไม่ใช่นะคะ...” หล่อนขยับตัวหนีไปจนชิดประตูฝั่งที่ตัวเองนั่ง มองคนตัวโตด้วยความหวาดกลัว“อย่าดัดจริตให้มากนัก ทำหน้าที่ของเธอซะ”“ไม่... หยา... หยาไม่ทำ อ๊ะ...”เส้นผมของหล่อนถูกเข
ปั้นหยามองตามคนทั้งคู่ไปด้วยสายตาเศร้าหมอง จนสามหนุ่มเพื่อนรักของแม็กซิมัสต้องเข้าไปปลอบใจ“พอดีน้องอันนามีปัญหาหนักอกหนักใจน่ะครับ ก็เลยต้องการความช่วยเหลือจากไอ้แม็กมัน ไม่มีอะไรหรอกครับ จริงไหม ไอ้เคน ไอ้ชาร์ล” อเล็กซิสหันไปหาตัวช่วยซึ่งก็คือเพื่อนๆ ของตนเอง“ใช่ครับ ไม่มีอะไรหรอกครับ” ชาร์ลีกับเคลวินตอบกลับมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม“ค่ะ”ปั้นหยาฝืนยิ้มน้อยๆ และก่อนจะก้มหน้าลงมองพื้น หัวใจปวดร้าวเหลือเกินหล่อนไม่มีสิทธิ์... ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะคิดหึงหวงแม็กซิมัสด้วยซ้ำ“เอ่อ... หยาขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” หล่อนตัดสินใจเอ่ยขึ้นกับบรรดาเพื่อนๆ สุดหล่อของแม็กซิมัสที่เข้ามาช่วยหล่อนต้อนรับแขกที่มาร่วมงานแต่ง“ผมไปส่งไหมครับ” ชาร์ลีรับอาสา“เอ่อ... ไม่เป็นไรค่ะ หยาไปเองได้ค่ะ”“แต่ผมคิดว่าชุดสาวเจ้าน่าจะเดินลำบากอยู่นะครับ ให้ผมไปส่งดีกว่า เฮ้ย ไอ้เคน ไอ้อเล็ก อยู่ตรงนี้แป๊บนะ ฉันไปเป็นเพื่อนคุณหยาเข้าห้องน้ำก่อน” ชาร์ลีหันไปพูดกับเพื่อนสองคน“ตามสบาย ดูแลเจ้าสาวของไอ้แม็กให้ดีล่ะ” อเล็กซิสกำชับชาร์ลีก่อนจะยิ้มให้กับปั้นหยา“เดินระวังนะครับ”“ขอบคุณค่ะ”ปั้นหยาเดินไปข้างหน้าด้วยความระมัดร
เรือนกายเปลือยเปล่าของบุรุษที่มีรูปร่างงดงามไม่ต่างจากเทพบุตรกรีกยืนนิ่งอยู่ใต้สายน้ำเย็นเฉียบ โทสะของเขากำลังพลุ่งพล่านเดือดดาล ความเกลียดชังที่มีต่อผู้หญิงที่เสแสร้งทำเป็นอ่อนแอราวกับนางเอกละครน้ำเน่าทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆเขาเกลียดปั้นหยา หล่อนสารเลว หล่อนแพศยา และหล่อนก็คือต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด เขากับอันนาต้องแยกจากกัน ก็เพราะผู้หญิงสารเลวที่ยอมเอาตัวเข้าแลกเพื่อให้ได้ผู้ชายอย่างหล่อนเขาจะต้องทำให้หล่อนตกนรกหมกไหม้ จะทำทุกอย่างเพื่อให้หล่อนรู้ว่าตัวเองไม่ใช่ผู้ชนะ หล่อนจะไม่มีวันชนะ หากยังอยู่ในอุ้งมือของเขา“ผู้หญิงสารเลว!”ตั้งแต่เกิดจากท้องพ่อท้องแม่ เขายังไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนแสดงบทนางเอกได้แนบเนียนอย่างปั้นหยามาก่อน แม้กระทั่งไอ้เพื่อนสนิททั้งสามคนของเขาก็ยังเชื่อเลยว่าปั้นหยาน่าสงสาร และไม่มีทางทำเรื่องอย่างว่าได้ แต่เขาคือคนหนึ่งแหละที่ไม่มีทางเชื่อมารยาร้อยพันเล่มเกวียนของหล่อนถ้าไม่ใช่หล่อน แล้วใครกันที่จะวางยาปลุกเซ็กซ์ให้เขากินในค่ำคืนนั้นกรามแกร่งขบกันแน่นจนขึ้นสันนูนเป่ง ความโกรธแค้น ศักดิ์ศรีที่ถูกหยามทำให้แม็กซิมัสเหี้ยมโหดขึ้นอย่างน่าหวาดกลัว เขาเอื้อมมื
“พี่แม็กจะกลับแล้วเหรอคะ”อันนาที่เปลือยเปล่าอยู่ใต้ผ้าห่มสีขาวส่งเสียงออดอ้อน เมื่อเห็นแม็กซิมัสหยิบชุดนอนมาสวมใส่“พี่ไม่อยากให้คนใช้มาเห็นน่ะ”“ก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่คะ เราสองคนรักกัน”“หากเป็นเมื่อก่อนน่ะใช่ แต่ตอนนี้พี่แต่งงานกับปั้นหยาแล้ว พี่ไม่อยากทำให้น้องอันเสื่อมเสีย”อันนาทำหน้ายุ่ง และผุดลุกขึ้นนั่ง “แต่นัง... เอ่อ... พี่ปั้นหยาใช้วิธีสกปรกแย่งพี่แม็กไปจากอันนะคะ”แม็กซิมัสที่เพิ่งกลัดกระดุมเสื้อเสร็จเดินเข้ามาหาอันนา และกุมมือเล็กของหญิงสาวเอาไว้“พี่หย่ากับปั้นหยาเมื่อไหร่ เราสองคนจะแต่งงานกันทันทีครับ”“อันกลัวว่าพี่แม็กจะใจอ่อนกับพี่ปั้นหยาน่ะสิคะ”“พี่เกลียดผู้หญิงเลว น้องอันก็รู้ ดังนั้นพี่ไม่มีทางใจอ่อนกับปั้นหยาแน่นอน”อันนาชะงักไปเล็กน้อย แต่ก็รีบยิ้มออดอ้อนออกมา “อันเชื่อพี่แม็กค่ะ”แม็กซิมัสยกมือขึ้นลูบศีรษะของอันนาแผ่วเบา ก่อนจะกำชับเมื่อนึกขึ้นมาได้“อย่าลืมทานยาคุมนะน้องอัน”อันนาเงยหน้าขึ้นมองแม็กซิมัส ก่อนจะทำหน้างอ “ทำไมต้องให้อันกินยาคุมอีกล่ะคะ”“พี่ยังไม่ต้องการให้น้องอันท้องตอนนี้”“พี่แม็กก็พูดแบบนี้ทุกทีเลย ทำเหมือนกับว่าไม่อยากมีลูกกับอันอย่างนั้นแห
เขาพุ่งเข้าหาอย่างดุดัน บุกรุกอย่างไม่ปรานี แต่ครั้งนี้ต่างจากเมื่อคืน เพราะที่ร่องสาวมีน้ำหวานไหลออกมาคลอเคลียจำนวนมาก นั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกเสียวซ่านรุนแรงยิ่งนัก“โอ้ว... อืมมม แน่น... แน่นมาก... พระเจ้า... แน่น”เขาหลับตาลง ขณะสอดใส่ถี่ระรัว บั้นเอวของเขาซอยดุดัน จ้วงแทงอย่างไม่ลืมหูลืมตา เจ้าหล่อนตอบรับด้วยการหยัดร่อนกายขึ้นหาอย่างกระตือรือร้นแม็กซิมัสพยายามควบคุมตัวเอง และร้องตะโกนบอกตนเองลั่นอกว่าผู้หญิงคนนี้สารเลวมากแค่ไหน และสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นมันก็เป็นเพียงแค่การลงทัณฑ์ไม่มีความรู้สึกใดๆ มาเกี่ยวข้อง แต่...พระเจ้า... หล่อนน่าปรารถนาเกินไป...ความต้องการดิบเถื่อนที่ไม่คุ้นเคยทำให้เขาตื่นตัวกว่าเซ็กซ์ครั้งที่เคยผ่านมาอย่างเหลือเชื่อ แม้จะพยายามต่อต้านด้วยการกดนิ้วลงบนเอวคอดแรงๆ แค่ไหน แต่ความเป็นชายแข็งชันที่ถูกโอบกระชับด้วยกลีบเนื้อนุ่มเนียนราวกับผ้ากำมะหยี่ราคาแพงก็ยังคงตึงเครียด และแน่นอนว่าความนุ่มนวลของกายสาวที่ได้สัมผัสมันเอาชนะทุกสิ่งได้ทั้งหมด“โอ้วววว...”เขาจ้วงจุ่มอยู่ในแอ่งหวานร้อนระอุ เสียงครางหวานฉ่ำที่เต็มไปด้วยความรัญจวนของปั้นหยา ผลักดันให้เขาก้าวเข้าไปในอี
“ทำไมพี่แม็กนั่งหน้าเครียดแบบนี้ล่ะคะ คิดอะไรในใจอยู่คะ บอกอันได้ไหมเอ่ย”อันนาในชุดนอนวาบหวิวเดินมาทรุดนั่งบนตักของแม็กซิมัสที่เขากำลังนั่งดื่มเหล้าอยู่ริมระเบียงชั้นสองซึ่งเป็นระเบียงทางด้านหน้าของคฤหาสน์“นิดหน่อยน่ะครับ”แม็กซิมัสวางแก้วเหล้าลงบนโต๊ะ เพื่อที่จะได้โอบกอดร่างอวบอัดของอันนาได้ถนัด จากนั้นเขาก็ซบหน้าลงกับร่องปทุมถันเต่งตึง สูดกลิ่นหอมเข้ามาในปอดกลิ่นหอมของอันนาแตกต่างจากกลิ่นหอมของปั้นหยาโดยสิ้นเชิงอันนามีกลิ่นตัวที่ปรุงแต่งมาจากกลิ่นน้ำหอมราคาแพงจากต่างประเทศที่ผู้หญิงส่วนมากชอบใช้กัน และมันก็เป็นกลิ่นที่พบเจอได้ทั่วไปบนเนื้อตัวของสตรี ซึ่งต่างออกไปจากกลิ่นหอมละมุนจากกายของปั้นหยา เขาไม่เคยได้กลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายกับแป้งเด็กแบบนั้นจากเนื้อตัวของผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลย กลิ่นหอมมันเบาบาง แต่ตราตรึงลืมไม่ลง จนหยุดสูดดมไม่ได้บ้าฉิบ...ทำไมพักนี้สมองของเขาเอาแต่เปรียบเทียบอันนากับปั้นหยาผู้หญิงสารเลวคนนี้บ่อยนักนะชายหนุ่มกระแทกลมหายใจออกมาแรงๆ และพยายามจดจ่ออยู่กับอันนา“เรื่องอะไรเหรอคะ อันช่วยคิดได้นะคะ”ดวงตาสีเขียวจัดสบประสานกับดวงตาหวานมีจริตของอันนา ก่อนที่เขาจะพูดข
เขาไม่เคยเป็นแบบนี้ ไม่เคยยอมให้ร่างกายของเขาถูกผู้หญิงคนไหนควบคุม แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะแปรเปลี่ยนไปหมด ยามที่เขาได้ฝากฝังลึกล้ำในกายแน่นหนั่นของปั้นหยา สมองก็ว่างเปล่าไม่มีความคิดใดๆ อยู่ในนั้นนอกจากโหยหิวเขาแตกระเบิดในไม่ช้า ภายในความเป็นหญิงคับแน่น และเขาก็ควรจะหยุด และออกไปหาอันนาอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ แต่ร่างกายกลับไม่ให้ความร่วมมือพระเจ้า... เขาต้องการปั้นหยาอีกครั้งชายหนุ่มมองไปที่เตียงนอนกลางห้อง แต่ให้ตายเถอะ มันไกลเกินไป และเขาก็รอไม่ไหว“อ๊ะ... อา...”สุดท้ายแล้วเซ็กซ์ครั้งที่สองของเขากับปั้นหยาในค่ำคืนนี้ก็อยู่บนพื้นใกล้ๆ กับกำแพงห้องนั้นเองเขาสอดใส่ ส่ายวน จ้วงแทงเข้าไปหนักหน่วง ต้องการจะฝังลึกอยู่ภายในนั้นให้ได้นานที่สุดมันไม่เคยเป็นแบบนี้ ไอ้จ้อนของเขาไม่เคยรู้สึกหิวกระหายจนหน้ามืดตามัวแบบนี้“โอ้วววว... รัดแรงมาก พระเจ้า... ทำไมแรงแบบนี้ โอ้วววว”บ้าชะมัด ทำไมเขาถึงควบคุมตัวเองไม่ได้เลย และทำไมแรงปรารถนาครั้งนี้ถึงรุนแรงหนัก มันซัดกระหน่ำใส่จนเขาหมดทางที่จะรับมืออันนาผุดลุกผุดนั่งอยู่บนเตียง คอก็ชะเง้อรอคอยการมาเยือนของแม็กซิมัส“ไหนว่าจะมาไง นี่จะสี่ทุ่มอ
“คุณอันตื่นนอนหรือยัง”แม็กซิมัสนั่งจิบกาแฟอยู่ริมระเบียงและเอ่ยถามสาวใช้ถึงคนรักอย่างอันนา“เอ่อ... ยังไม่กลับมาเลยค่ะ”คิ้วหนาดกของแม็กซิมัสเลิกสูงด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะพึมพำออกมา“นี่หายไปทั้งคืนเลยหรือ หายไปไหนกัน”“เอ่อ... คุณแม็กต้องการอะไรเพิ่มเติมไหมคะ” สาวใช้เอ่ยถาม“ไม่”“งั้นหนูขอตัวก่อนนะคะ” สาวใช้กำลังจะปลีกตัวออกไป แต่แม็กซิมัสเรียกเอาไว้ก่อน“เธอจะรีบไปไหน”สาวใช้หยุดเดิน และรีบตอบออกมา “คือหนูจะออกไปตลาดน่ะค่ะ”“ไปทำไมแต่เช้า”“เอ่อ... เมื่อวานคุณหยาเธอวานให้หนูหาดอกมะลิให้น่ะค่ะ”“ดอกมะลิ?” คิ้วเข้มของแม็กซิมัสยิ่งขมวดกันยุ่ง “เอาไปทำอะไรดอกมะลิ”“หนูก็ไม่ทราบค่ะ แต่ถ้าให้เดาน่าจะเอามาร้อยพวงมาลัย”แม็กซิมัสยิ้มหยันอย่างไม่เชื่อว่าผู้หญิงแพศยาอย่างปั้นหยาจะมานั่งร้อยพวงมาลัยเป็นกุลสตรีไทยได้ ถ้าเป็นอันนาก็ว่าไปอย่าง“จะไปไหนก็ไปเถอะ”“ค่ะ”สาวใช้เดินจากไปแล้ว ในขณะที่แม็กซิมัสจิบกาแฟต่อไป ก่อนที่หูจะได้ยินเสียงเครื่องยนต์ของรถดังขึ้นที่หน้าบ้าน ดวงตาคมกริบตวัดมองก็เห็นว่าอันนาก้าวลงมาจากรถญี่ปุ่นสีขาวแต่งซิ่งคันนั้น“บอกให้จอดนอกบ้านไง เดี๋ยวคนอื่นก็สงสัยกันพอดี” อั
คนตัวเล็กแก้มแดงระเรื่อ ขณะค่อยๆ กดสะโพกผายลงให้กลืนกินความเป็นชายที่ชูชันรอคอย“อ๊ะ... อ๊า... อา... อา...”“โอ้ววว... อืมมมม แน่นมาก อืม”ใบหน้าหล่อจัดของแม็กซิมัสบิดเบี้ยวด้วยความเสียวกระสัน เมื่อความเป็นชายถูกกลีบสาวอ่อนนุ่มโอบกระชับแน่นหนาเอาไว้ในทุกทิศทาง“หยา... ปั้นหยา... ยอดรัก... ได้โปรดขยับ... ได้โปรดเถอะ โอ้ววว พระเจ้า... โอ้ววว...”ปั้นหยาทำตามคำขอร้องหอบกระเส่าของแม็กซิมัสอย่างว่านอนสอนง่าย หล่อนบดบั้นท้ายกับความเป็นชายหนักๆ ด้วยจังหวะเร้าใจ ก่อนจะขยับขึ้นลงถี่ระรัว ตามความร้อนฉ่าของไฟสวาทที่ลุกโหมอยู่ภายในกาย“อ๊า... อา... อา...”“โอ้ว... เร็วอีก... ฉันจะทนไม่ไหวแล้ว โอ้ววว อืมมม...”มือใหญ่ทั้งสองข้างกุมสะโพกผายเอาไว้มั่น และช่วยให้หล่อนยกโยงตัวเองขึ้นสูง พร้อมกับดึงรั้งให้กลับลงมาหาหนักหน่วงแม็กซิมัสหน้าแดงก่ำ บิดเบี้ยวด้วยความเสียวกระสันร้อนแรง ยิ่งปั้นหยาซอยสะโพกลงมาหาด้วยจังหวะรัวระทึกเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกถึงสวรรค์ได้มากขึ้นเท่านั้น“อา... อา... คุณแม็กกก... หยา... หยาจะไม่... ไหวแล้ว อา... อ๊า...”ปั้นหยาเงยหน้าขึ้น กรีดร้องด้วยความเสียวกระสัน กายสาวสั่นเกร็ง แ
เคลวินหัวเราะออกมา “ก็งานฉันมันยุ่งมาก ปลีกตัวได้สามสี่วันก็บุญแล้ว”“เออๆ เอาที่นายสะดวกก็แล้วกัน” แม็กซิมัสตอบรับอย่างอ่อนอกอ่อนใจ ขี้เกียจจะเซ้าซี้“สรุปนายรักคุณปั้นหยาแล้วจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย”“ถูกต้อง และไม่ใช่รักเฉยๆ นะ รักมากด้วย”เคลวินหัวเราะขบขัน “ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านายจะรักผู้หญิงที่ตัวเองบอกว่าเกลียดนักเกลียดหนาเข้าไปได้”“ก็ตอนนั้นฉันเข้าใจผิด แถมอันนาก็ยังเป่าหูใส่ร้ายปั้นหยาให้ฉันฟังทุกวัน ฉันก็ต้องเชื่อดิ”“เออ ก็ขอให้นายมีความสุขมาก มีลูกเยอะๆ เอาแบบตั้งทีมฟุตบอลได้เลยก็จะยิ่งดี”“ถ้าจะให้มีเยอะขนาดทำทีมฟุตบอลคงไม่ไหวหรอก ปั้นหยาคงไม่เห็นด้วย แต่ถ้ามีสักสี่ห้าคน เอาไว้เล่นกับลูกของนาย แล้วก็ลูกของเจ้าชาร์ลกับลูกเจ้าอเล็กน่ะพอไว้”“รอลูกไอ้ชาร์ลกับไอ้อเล็กเถอะ ฉันไม่มีหรอก” เคลวินส่ายหน้าปฏิเสธ และทำหน้าสยดสยองเมื่อคิดถึงเด็ก“เด็กๆ น่ารักนะโว้ย เมื่อก่อนฉันก็ไม่ชอบเด็ก แต่พอปั้นหยาท้อง ฉันก็รักเด็กขึ้นมากะทันหันเลยว่ะ ในมือถือตอนนี้นอกจากรูปของฉันกับปั้นหยาแล้ว ก็มีแต่รูปเด็กน่ารักๆ เต็มเครื่องไปหมดเลย ดูไหม จะอวด”“ไม่ๆๆ ฉันไม่อยากดูหรอก” เคลวินส่ายหน้าดิก“สักวันนายจ
แม็กซิมัสรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลของตนเองมาครบหนึ่งอาทิตย์แล้ว โดยมีปั้นหยาคอยเฝ้าดูแลไม่ห่างไปไหน ซึ่งก็ทำให้เขามีความสุขเหลือเกิน“คุณแม็กขา... หยาขอออกไปซื้อของใช้ที่เซเว่นใต้โรงพยาบาลสักครู่นะคะ เดี๋ยวจะรีบมาค่ะ”แม็กซิมัสอมยิ้มกับน้ำเสียงหวานฉ่ำของหญิงสาว และก็กวักมือเรียกให้หล่อนเข้ามาหา ซึ่งปั้นหยาก็ยอมเดินเข้ามาหาเขาอย่างว่านอนสอนง่าย“เดินระวังนะรู้ไหม ตอนนี้เธอไม่ใช่คนตัวเปล่าแล้ว”ปั้นหยายิ้มหน้าแดงด้วยความเอียงอาย พร้อมกับยกมือขึ้นลูบหน้าท้องของตัวเองไปมาอย่างลืมตัว“หยาจะเดินให้ระวังที่สุดค่ะ คุณแม็กอยู่คนเดียวได้นะคะ”“อยู่ได้ครับ ไปเถอะไม่ต้องรีบร้อนล่ะ”หญิงสาวก้มหน้าลงมาจูบแก้มสากที่มีไรหนวดของคนตัวโตเบาๆ อย่างแสนรัก“หยารักคุณแม็กนะคะ”มือใหญ่ของแม็กซิมัสยกขึ้นประคองดวงหน้านวลของปั้นหยาเอาไว้ ก่อนจะพรมจูบไปจนทั่ว และมาอิ่งอ้อยอยู่กับกลีบปากอิ่มหวานฉ่ำนานที่สุด“ฉันก็รักเธอ... ฉันบอกเธอไปกี่ครั้งแล้วนะ” ชายหนุ่มอมยิ้ม ดวงตาเป็นประกายระยิบระยับปั้นหยาเสหลบสายตาสีเขียวสวยอย่างเอียงอาย แต่ก็อ้อมแอ้มตอบออกไปเสียงเบา“น่าจะเกือบห้าสิบครั้งแล้วล่ะค่ะ”“โอ้พระเจ้า... นี่ฉันบ
“น้องอัน... สัญญากับพี่ได้ไหมว่าจะไม่ทำอะไรคุณแม็ก หากพี่ตายไปแล้ว”“ไม่นะปั้นหยา ฉันไม่ยอมเด็ดขาด ไม่มีวันยอมให้เธอตาย เข้าใจไหมว่าเธอตายไม่ได้!”แม็กซิมัสตะโกนมาอีกฟากหนึ่งของกำแพง เขาอยากจะเข้าไปแย่งปืนจากมือของอันนานัก แต่ก็กลัวว่ามันจะผิดพลาด แล้วปั้นหยาจะไม่ปลอดภัย จึงจำต้องนั่งนิ่งและพยายามหาทางออกอื่นให้ได้เร็วที่สุด“แค่หยารู้ว่าคุณแม็กเป็นห่วงหยา... แค่นี้หยาก็ตายตาหลับแล้วล่ะค่ะ”“ผู้หญิงบ้า! ถ้าเธอไม่หยุดพูดบ้าๆ ฉันสาบานว่าจะหยุดรักเธอเดี๋ยวนี้แหละ!”“คุณแม็ก... รักหยาเหรอคะ”อย่างน้อยๆ ก่อนตาย หล่อนก็ยังได้รู้ว่าตัวเองได้รับความรักตอบจากบุรุษที่ตัวเองแอบรักมาเนิ่นนาน“ก็ใช่น่ะสิ ฉันรักเธอปั้นหยา รักมากด้วย ดังนั้นห้ามตายเด็ดขาด นี่เป็นคำสั่งของฉัน”“หยาดีใจ... ดีใจเหลือเกิน...”“เลิกพล่ามกันได้แล้ว แล้วพี่แม็กก็เตรียมเห็นนังหยามันไร้วิญญาณได้เลย”“อย่านะ... อันนา! อย่าทำอะไรปั้นหยานะ!”อันนาหันไปยิ้มเลือดเย็นให้กับแม็กซิมัส ก่อนจะสอดนิ้วเรียวเหนี่ยวไกปืนทันทีปัง! ปัง! ปัง!ลูกปืนทั้งสามนัดดังกังวาน และพุ่งเข้าใส่คนตรงหน้าอย่างแม่นยำ แต่ผิดคน“พี่แม็ก!!!”“คุณแม็ก! กรี๊ดด
ปั้นหยาถูกอันนาตบด้วยฝ่ามือ และกระบอกปืนหลายครั้งจนเลือดไหลออกมาจากศีรษะที่แตก หน้าตาปูดบวมช้ำ โดยเฉพาะที่ปากแตกจนมีเลือดไหลซึมออกมาจากมุมปาก“น้องอัน... ปล่อยพี่เถอะ พี่ไม่เคยคิดร้ายอะไรกับน้องอันเลยนะ พี่หวังดีกับน้องอันเสมอ โอ๊ยยย... พี่เจ็บ”อันนากระชากเส้นผมนุ่มของปั้นหยาแรงๆ ก่อนจะก้มหน้าที่บิดเบี้ยวเพราะเสียสติไปแล้วลงมาหัวเราะใส่“มึงแย่งผัวกู”“พี่ก็หย่ากับคุณแม็กให้แล้วนี่จ๊ะ”“มึงคืนให้มาแต่ตัว แต่หัวใจของพี่แม็ก มึงขโมยไปแล้วไม่ยอมคืน อีพี่สารเลว!”เพียะ! ผัวะ!!!ทั้งมือทั้งหมัดของอันนาประเคนเข้าใส่ใบหน้าและร่างกายของปั้นหยาอย่างไม่ปรานี จนปั้นหยาล้มตัวงอนอนลงกับพื้นเจียนจะหมดสติสัมปชัญญะ“พี่แม็กเอาเงินมาให้กูเมื่อไหร่ กูจะระเบิดหัวมึงทันที”“น้องอัน... ปล่อยพี่ไปเถอะ แล้วน้องอันก็กลับเนื้อกลับตัวซะ โทษหนักจะได้กลายเป็นเบา”“มึงอย่ามาสอนกู!”“พี่ไม่อยากเห็นน้องอันต้องตกนรกทั้งเป็นหรอกนะ เชื่อพี่เถอะ มอบตัวกับตำรวจซะเถอะ” ปั้นหยาพยายามเตือนสติของญาติผู้น้องด้วยความห่วงใย แต่อันนาไม่สนใจที่จะรับฟัง“กูไม่ยอมแก่ตายในคุกหรอก กูจะหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน จนกว่าคดีจะหมดอายุความ แล
แม็กซิมัสถอนใจออกมาอย่างโล่งอก เมื่อสุดท้ายแล้วพวงมาลัยดอกมะลิฝีมือของตนเองก็เสร็จสมบูรณ์เสียที และถึงแม้มันจะเบี้ยวๆ เอียงๆ ไม่ค่อยสวยนัก แต่เขาก็ทำมันด้วยความตั้งใจที่สุดในชีวิต แถมมันยังเป็นงานที่ทำให้เขาเสียเลือดมากที่สุดอีกต่างหากชายหนุ่มอมยิ้มมองพวงมาลัยดอกมะลิสีขาวด้วยความภาคภูมิใจ ก่อนจะยกมันขึ้นดอมดม กลิ่นของดอกไม้ชนิดนี้หอมละมุนมาก แต่ก็ยังหอมตราตรึงใจสู้กลิ่นสาบสาวของปั้นหยาไม่ได้“เธอจะต้องปลื้มใจแน่ๆ ถ้าเห็นพวงมาลัยนี้”“คุณแม็กคะ ปลาสเตอร์ยาค่ะ”“ขอบใจ” แม็กซิมัสยื่นมือไปรับปลาสเตอร์ยาจากมือของสาวใช้ มาพันบนนิ้วที่ถูกเข็มตำ“นี่แผ่นสุดท้ายแล้วนะคะคุณหมอแม็ก”คุณย่าวารีมองนิ้วมือที่เต็มไปด้วยปลาสเตอร์ยาของแม็กซิมัสด้วยความเห็นใจระคนขบขัน“เดี๋ยวผมเบิกที่โรงพยาบาลมาคืนให้ครับ”“ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องเอามาคืนหรอกค่ะ ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณคุณหมอที่ช่วยใช้ปลาสเตอร์ยาก่อนที่มันจะหมดอายุใช้งานน่ะ”แม็กซิมัสยิ้มอายๆ “ผมคงเป็นนักเรียนที่แย่มากๆ เลยใช่ไหมครับเนี่ย”“ถ้าเอาความจริงก็ใช่ค่ะ เพราะคุณหมอแม็กสอนยากมาก”“แต่ตอนผมเรียนผ่าตัด อาจารย์หมอชมว่าผมหัวไว เรียนรู้เร็วกว่าเพื่อน
“คุณอันนาคะ คุณอันนา”ผลั๊ววว!อันนาที่แกล้งนอนนิ่งทำเป็นหลับอยู่บนเตียงคนไข้ หยิบแจกันดอกไม้ที่ตั้งตกแต่งเอาไว้ภายในห้อง ฟาดหัวนางพยาบาลที่เข้ามาเพื่อนำยากลางวันมาให้รับประทาน จนล้มลงไปนอนกับพื้นห้องจากนั้นก็รีบก้าวลงจากเตียง วิ่งไปล็อกประตูห้อง และรีบเดินกลับมาลากร่างของนางพยาบาลเข้าไปในห้องน้ำทันทีเมื่อคืนหล่อนไม่ได้นอนเลย เพราะพยายามดิ้นรนหาทางแกะผ้าที่ผูกแขนขาเอาไว้ และก็เหมือนสวรรค์ยังเมตตา เพราะจากพยายามมาทั้งคืน ผ้าที่ผูกแขนเอาไว้ข้างหนึ่งก็คลายออก ซึ่งมันก็ทำให้หลุดพ้นจากพันธนาการได้ในที่สุดอันนาจ้องมองร่างไร้สติของนางพยาบาล ก่อนจะรีบจัดการถอดเสื้อผ้าออกจากร่างของนางพยาบาล และเอามาสวมใส่เสียเอง จากนั้นก็ยิ้มเลือดเย็น ดวงตาลุกเป็นไฟ“ถ้าฉันไม่มีความสุข ใครหน้าไหนก็มีความสุขไม่ได้”มือเล็กกำแน่นด้วยความเคียดแค้น ก่อนจะก้าวออกไปจากห้องพักฟื้นในคราบของนางพยาบาล ทำให้นายตำรวจหน้าห้องที่เอาแต่เล่นโทรศัพท์มือถือไม่ทันสังเกตเห็นรูปร่างที่แตกต่างไปอันนารีบออกมาจากโรงพยาบาลด้วยความรีบร้อน หล่อนโบกรถแท็กซี่ และหยิบเงินที่มีติดอยู่ในชุดของนางพยาบาลจ่ายเป็นค่ารถ เพื่อให้ขับรถพาไปยังสถ
ปั้นหยาเดินกลับมาจากอีกฝั่งของห้อง พร้อมกับตลับยาทาสำหรับแก้แมลงกัดต่อยในมือ ร่างเล็กทรุดนั่งข้างๆ และจัดการแต้มยาในตลับเล็กนั้นบนผิวของเขาที่มีตุ่มสีแดง“เธอแน่ใจหรือว่ายาเนี่ยมันจะช่วยอะไรได้น่ะ”“ช่วยได้สิคะ มันเป็นยาทาสำหรับคนที่ถูกมดถูกยุงกัดน่ะค่ะ อยู่เฉยๆ สิคะ หยาทาไม่ถนัดนะ”ปั้นหยาดุเสียงไม่จริงจังนัก เมื่อแม็กซิมัสเอียงหน้าหนีเมื่อหล่อนป้ายยาบนแก้มของเขา“ไม่ต้องทาแล้วล่ะ ฉันคิดว่าฉันไม่น่าจะตายเพราะยุงพวกนี้หรอก”“ถ้าไม่ตายเพราะยุงพวกนี้ คุณแม็กก็คงจะตายเพราะไข้เลือดออกน่ะค่ะ” หล่อนประชด และยังไม่หยุดป้ายยาไปตามเนื้อตัวของแม็กซิมัส “เป็นหมออะไรกัน ยอมให้ยุงกัดทั้งตัวแบบนี้” แล้วก็อดบ่นด้วยความเป็นห่วงไม่ได้แม็กซิมัสดึงมือเล็กที่กำลังจะป้ายยาบนลำคอแกร่งเอาไว้ จากนั้นก็โน้มหน้าเข้ามาหา นัยน์ตาสีเขียวแสนสวยของเขาจ้องมองหล่อนไม่วางตา“รู้สึกผิดใช่ไหมที่ทำให้ฉันถูกยุงรุมทึ้งทั้งคืนน่ะ”“เอ่อ... ก็... ใช่ค่ะ”หล่อนตอบตะกุกตะกัก สายตาของเขาทำให้หล่อนร้อนรุ่มไปทั้งตัว โดยเฉพาะในอุ้งเชิงกราน จนต้องรีบเสหลบสายตาคม จึงไม่ทันได้เห็นแววตาเจ้าเล่ห์ในนั้น“อยากไถ่บาปไหมล่ะ”“ก็... กำลังท
“คุณแม็กต้องนอนข้างนอกห้องค่ะ”ปั้นหยาโยนหมอนกับผ้าห่มใส่มือของคนตัวโต และดันให้เขาออกไปนอกห้องนอนของตนเอง“แต่คุณย่าให้ฉันนอนกับเธอนะ ปั้นหยา”แม็กซิมัสถูกคนตัวเล็กผลักจนพ้นออกมาจากห้องนอนสีหวานโดยไม่ทันได้ตั้งตัวเอ่ยแย้งขึ้น“คุณย่าอนุญาต แต่หยาไม่ได้อนุญาตค่ะ”“นี่เธอจะให้ฉันนอนตากยุงจริงๆ หรือ”“จริงค่ะ”แม็กซิมัสไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตัวเองต้องมาตกระกำลำบากด้วยฝีมือของผู้หญิงที่ตัวเองเคยตราหน้าว่าสารเลวอย่างปั้นหยา ความจริงเขาไม่ยอมก็ได้ ผลักหล่อนเข้าไป และปล้ำเสียให้รู้แล้วรู้รอด แค่นี้ปั้นหยาก็ต้องยอมสยบแล้ว แต่เพราะไม่อยากให้ปั้นหยาโกรธมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่จึงต้องยอม“ก็ได้ ฉันจะนอนหน้าห้องนี่แหละ พอใจหรือยังล่ะ”“หยาจะพอใจมาก ถ้าคุณแม็กกลับไปซะ”คนตัวโตส่ายหน้าไปมา “ฉันไม่กลับหรอก จะอยู่ที่นี่กับเธอนั่นแหละ”“งั้นก็ทนนอนตากยุงไปเถอะค่ะ ราตรีสวัสดิ์”ปั้นหยากำลังจะปิดประตูใส่หน้าของแม็กซิมัส แต่ชายหนุ่มทิ้งผ้าห่มกับหมอนในอุ้งมือ และกระชากร่างเล็กเข้ามากอดเสียก่อน จากนั้นเขาก็จูบปากอิ่มนั้นอย่างเร่าร้อน“อื้อ... อุ๊บบบ”ปั้นหยาดิ้นรน ผลักไส มือเล็กทุบแผงอกกว้างแรงๆ แต่เขาไม่สะทก