เขาไม่เคยเป็นแบบนี้ ไม่เคยยอมให้ร่างกายของเขาถูกผู้หญิงคนไหนควบคุม แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะแปรเปลี่ยนไปหมด ยามที่เขาได้ฝากฝังลึกล้ำในกายแน่นหนั่นของปั้นหยา สมองก็ว่างเปล่าไม่มีความคิดใดๆ อยู่ในนั้นนอกจากโหยหิวเขาแตกระเบิดในไม่ช้า ภายในความเป็นหญิงคับแน่น และเขาก็ควรจะหยุด และออกไปหาอันนาอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ แต่ร่างกายกลับไม่ให้ความร่วมมือพระเจ้า... เขาต้องการปั้นหยาอีกครั้งชายหนุ่มมองไปที่เตียงนอนกลางห้อง แต่ให้ตายเถอะ มันไกลเกินไป และเขาก็รอไม่ไหว“อ๊ะ... อา...”สุดท้ายแล้วเซ็กซ์ครั้งที่สองของเขากับปั้นหยาในค่ำคืนนี้ก็อยู่บนพื้นใกล้ๆ กับกำแพงห้องนั้นเองเขาสอดใส่ ส่ายวน จ้วงแทงเข้าไปหนักหน่วง ต้องการจะฝังลึกอยู่ภายในนั้นให้ได้นานที่สุดมันไม่เคยเป็นแบบนี้ ไอ้จ้อนของเขาไม่เคยรู้สึกหิวกระหายจนหน้ามืดตามัวแบบนี้“โอ้วววว... รัดแรงมาก พระเจ้า... ทำไมแรงแบบนี้ โอ้วววว”บ้าชะมัด ทำไมเขาถึงควบคุมตัวเองไม่ได้เลย และทำไมแรงปรารถนาครั้งนี้ถึงรุนแรงหนัก มันซัดกระหน่ำใส่จนเขาหมดทางที่จะรับมืออันนาผุดลุกผุดนั่งอยู่บนเตียง คอก็ชะเง้อรอคอยการมาเยือนของแม็กซิมัส“ไหนว่าจะมาไง นี่จะสี่ทุ่มอ
“คุณอันตื่นนอนหรือยัง”แม็กซิมัสนั่งจิบกาแฟอยู่ริมระเบียงและเอ่ยถามสาวใช้ถึงคนรักอย่างอันนา“เอ่อ... ยังไม่กลับมาเลยค่ะ”คิ้วหนาดกของแม็กซิมัสเลิกสูงด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะพึมพำออกมา“นี่หายไปทั้งคืนเลยหรือ หายไปไหนกัน”“เอ่อ... คุณแม็กต้องการอะไรเพิ่มเติมไหมคะ” สาวใช้เอ่ยถาม“ไม่”“งั้นหนูขอตัวก่อนนะคะ” สาวใช้กำลังจะปลีกตัวออกไป แต่แม็กซิมัสเรียกเอาไว้ก่อน“เธอจะรีบไปไหน”สาวใช้หยุดเดิน และรีบตอบออกมา “คือหนูจะออกไปตลาดน่ะค่ะ”“ไปทำไมแต่เช้า”“เอ่อ... เมื่อวานคุณหยาเธอวานให้หนูหาดอกมะลิให้น่ะค่ะ”“ดอกมะลิ?” คิ้วเข้มของแม็กซิมัสยิ่งขมวดกันยุ่ง “เอาไปทำอะไรดอกมะลิ”“หนูก็ไม่ทราบค่ะ แต่ถ้าให้เดาน่าจะเอามาร้อยพวงมาลัย”แม็กซิมัสยิ้มหยันอย่างไม่เชื่อว่าผู้หญิงแพศยาอย่างปั้นหยาจะมานั่งร้อยพวงมาลัยเป็นกุลสตรีไทยได้ ถ้าเป็นอันนาก็ว่าไปอย่าง“จะไปไหนก็ไปเถอะ”“ค่ะ”สาวใช้เดินจากไปแล้ว ในขณะที่แม็กซิมัสจิบกาแฟต่อไป ก่อนที่หูจะได้ยินเสียงเครื่องยนต์ของรถดังขึ้นที่หน้าบ้าน ดวงตาคมกริบตวัดมองก็เห็นว่าอันนาก้าวลงมาจากรถญี่ปุ่นสีขาวแต่งซิ่งคันนั้น“บอกให้จอดนอกบ้านไง เดี๋ยวคนอื่นก็สงสัยกันพอดี” อั
“คุณหยาคะ หนูซื้อดอกมะลิมาให้เต็มตะกร้าเลยค่ะ”ปั้นหยาที่ดวงหน้ายังมีคราบน้ำตาเปื้อนรีบหันไปทางเสียงเรียก และก็เห็นว่าเป็นสาวใช้วัยรุ่นคนเมื่อวานที่หล่อนไหว้วานให้หาซื้อดอกมะลิให้หล่อนระบายยิ้ม เดินเข้าไปหาสาวใช้ พร้อมกับควักธนบัตรส่งให้“ขอบใจมากนะจ๊ะ นี่จ้ะเงินค่าดอกมะลิ”“ไม่เป็นไรค่ะคุณหยา หนูรับไม่ได้หรอกค่ะ” สาวใช้ส่ายหน้าดิกปฏิเสธเงิน“ทำไมล่ะ ค่าดอกไม้น่าจะหลายร้อย รับไปเถอะจ้ะ ฉันไม่อยากเอาเปรียบเธอ”“คือไม่ใช่เงินหนูหรอกค่ะ”คิ้วโก่งตามธรรมชาติของปั้นหยาเลิกสูงด้วยความสงสัย “แล้วเงินใครเหรอจ๊ะ ฉันจะได้เอาไปคืนได้ถูก”สาวใช้ระบายยิ้มน้อยๆ “เงินนี้เป็นเงินของคุณแม็กที่ให้ใช้จ่ายในบ้านตลอดหนึ่งเดือนค่ะ”ชื่อของคนใจร้ายดังออกมาจากปากของคู่สนทนา ทำให้รอยยิ้มหวานจางหายไปจากดวงหน้านวลของปั้นหยา“งั้น... ฉันฝากเอาไปคืนเขาหน่อยได้ไหมคะ”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แค่สามร้อยกว่าบาท คุณแม็กไม่ใส่ใจหรอกค่ะ”“แต่ฉันไม่อยากติดหนี้ใคร รบกวนเธอเอาไปคืนเขาแทนฉันหน่อยได้ไหม”สาวใช้มีสีหน้ากระอักกระอ่วนใจ และสักพักก็ทำเหมือนจะร้องไห้ออกมา“หนู... ไม่กล้าค่ะ...”ปั้นหยาเห็นจึงไม่อยากจะบังคับจิตใจของใค
ปั้นหยาที่กำลังนั่งรับประทานอาหารค่ำอยู่กับคุณย่าวารีอยู่ริมระเบียงบ้านต้องชะงักกึก เมื่อเห็นรถสปอร์ตของแม็กซิมัสแล่นเข้ามาจอดที่ลานหน้าบ้านดวงหน้างามซีดเผือด ความรู้สึกหวาดหวั่นที่มีต่อแม็กซิมัสทำให้หล่อนรู้สึกทรมานเหลือเกิน“คุณหมอคงมารับหยากลับบ้านนั่นแหละ”คุณย่าวารีพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม แต่หล่อนรู้ดีว่าไม่ใช่ และสิ่งที่ยืนยันความคิดของหล่อนได้เป็นอย่างดีก็คืออันนาที่ก้าวตามลงมาจากรถของแม็กซิมัสนั่นเอง“แม่อันนานี่ ทำไมมาด้วยกัน”คุณย่าวารีขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ ก่อนจะให้คนใช้ไปตามสองคนนั้นมาร่วมโต๊ะรับประทานอาหารค่ำด้วยกันปั้นหยาไม่อยากเผชิญหน้ากับแม็กซิมัสจึงพยายามจะขอปลีกตัว แต่คุณย่าวารีไม่อนุญาต สุดท้ายก็จำต้องเผชิญหน้ากับเขาอย่างไม่มีทางเลือก“เป็นไงมาไงคะเนี่ยคุณหมอ ถึงมากับแม่อันได้”“คืออันจะกลับมาค้างกับคุณย่าที่นี่น่ะค่ะ พี่แม็กก็เลยขันอาสามาส่ง” อันนาตอบแทน ในขณะที่แม็กซิมัสจ้องมองดวงหน้าซีดขาวของปั้นหยาไม่วางตา“เชิญคุณหมอทานได้เลยค่ะ แต่วันนี้กับข้าวน้อยหน่อยนะคะ ฉันไม่รู้ว่าจะมีแขกมาเยือน” คุณย่าวารีเอ่ยขึ้นอย่างเป็นกันเอง ก่อนจะหันไปบอกปั้นหยา“หยา ตักกับข้าวให้คุณห
เช้าวันนี้ก็เหมือนเช่นกับทุกวัน... หล่อนตื่นขึ้นมาพร้อมกับธนบัตรที่ถูกโปรยเอาไว้รอบตัว แม็กซิมัสเหยียบย่ำศักดิ์ศรีและหัวใจของหล่อนอย่างเลือดเย็นด้วยคำว่าโสเภณีราคาถูกปั้นหยาขยับกายที่เมื่อยขบเนื่องจากถูกแรงสวาทของผู้ชายที่พร่ำบอกว่าเกลียดชังถล่มทั้งค่ำคืนแทบไม่ได้หลับได้นอน พอเช้ามาเขาก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยคล้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนั้นคือความฝัน แต่หล่อนรู้ดีว่ามันคือความจริง เพราะเขาทิ้งร่องรอยบอบช้ำเอาไว้บนเรือนร่างสาวมากมายหล่อนพยายามอดทนกับความหิวกระหายบ้าคลั่งที่มาพร้อมกับโทสะร้ายแห่งความเกลียดชังของเขาโดยไม่ปริปากบ่น หล่อนจะอดทนจนกว่าจะทนไม่ไหว เพราะไม่ต้องการทำให้คุณย่าวารีไม่สบายใจฝ่าเท้าขาวสะอาดก้าวลงแตะกับพื้นห้อง และก้าวเข้าไปในห้องน้ำ ตลอดเวลาที่ยืนอยู่ใต้ฝักบัว หัวสมองก็อดคิดถึงผู้ชายใจร้ายอย่างแม็กซิมัสไม่ได้การมีเขาอยู่ในโลกของหล่อน มันทำให้ทุกอย่างรอบตัวเปลี่ยนแปลงไป แม้เขาจะโหดร้าย และกระทำกับกายสาวอย่างป่าเถื่อน แต่ในสัมผัสหยาบกระด้างนั้น มันก็ก่อเกิดความรู้สึกหนึ่งขึ้นในหัวใจของหล่อนลุ่มหลง...ไม่น่าเชื่อว่าหล่อนจะไม่รังเกียจสัมผัสหิวกระหายหยาบคายของแ
“ได้สิน้องอัน พี่ยินดี” ปั้นหยายิ้มกว้าง ดีใจกับอันนาด้วยที่จะได้ไปถือศีลบริสุทธิ์ “แล้วน้องอันจะไปเมื่อไหร่จ๊ะ แล้วบอกคุณย่าหรือยัง”“เอ่อ... อันไม่ได้บอกคุณย่าหรอกค่ะ เพราะท่านคงไม่เชื่อว่าอันจะไปถือศีลจริงๆ พี่หยาก็รู้ว่าคุณย่าไม่รักอัน”“ไม่จริงหรอกจ้ะน้องอัน คุณย่ารักเราสองคนเท่ากันเสมอ เพราะท่านเลี้ยงพวกเรามากับมือ”“แต่อันไม่อยากบอกคุณย่า... พี่หยารับปากกับอันนะคะว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับคุณย่า”ปั้นหยารู้สึกลำบากใจ แต่ก็ตอบรับออกไป “จ้ะ พี่รับปาก พี่จะไม่บอกเรื่องที่น้องอันจะไปถือศีลให้คุณย่ารู้”“ขอบคุณมากค่ะพี่หยา แล้วอันก็จะไปถือศีลเย็นนี้ค่ะ”“เย็นนี้เลยเหรอ” เพราะมันค่อนข้างฉุกละหุกทำให้ปั้นหยานิ่งไปเล็กน้อย“อันอยากให้จิตใจสงบเร็วๆ น่ะค่ะ แต่ถ้าพี่หยาไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะคะ อันไปกับนกสองคนก็ได้”“พี่ว่างจ้ะ พี่จะไปด้วย”“ขอบคุณมากค่ะพี่หยา...” อันนาลอบยิ้มชั่วร้าย ก่อนจะสวมกอดปั้นหยาเอาไว้“อันดีใจนะคะที่พี่หยาไม่โกรธอัน เรื่องที่อันเคยทำไม่ดีเอาไว้กับพี่หยาตั้งมากมาย”“พี่จะโกรธน้องสาวของตัวเองได้ยังไงกันล่ะจ๊ะ เรามีกันอยู่แค่นี้นะน้องอัน”อันนาเงยหน้าขึ้นจากบ่าแบบบางของปั
“ไปรถคันนี้หรือน้องอัน”ปั้นหยาเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ เมื่อก้าวขึ้นมาภายในรถตู้สีเทาติดฟิล์มดำทั่วทั้งคืน“ใช่จ้ะพี่หยา” อันนาก้าวตามขึ้นมานั่งข้างๆ“แล้วนกเพื่อนของน้องอันล่ะจ๊ะ”“อ้อ... อันลืมบอกพี่หยาไป นกมันติดธุระด่วนพอดีไปไม่ได้ อันก็เลยต้องไปถือศีลคนเดียว แต่ก็ยังโชคดีนะจ๊ะที่มีพี่หยานั่งรถไปส่งถึงวัด”แม้จะรู้สึกสังหรณ์แปลกๆ แต่ปั้นหยาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร หล่อนยิ้มให้กับอันนา และก็นั่งมองวิวข้างทางไปเงียบๆ จึงไม่ทันได้เห็นสายตามาดร้ายของอันนาที่ลอบมองมารถตู้ขับไปได้สักระยะก็หักเลี้ยวเข้าไปในซอยเปลี่ยว หล่อนรีบหันไปถามอันนาด้วยความแปลกใจ“น้องอัน ทางไปอยุธยาไม่น่าจะดูเปลี่ยวแบบนี้นะจ๊ะ”“น่าจะเป็นทางลัดมั้งคะพี่หยา” อันนาไม่ได้มีทีท่าทุกข์ร้อนอะไรเลยปั้นหยานั่งกระสับกระส่ายไปสักพักก็ทนไม่ไหว จึงถามอันนาอีก ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่รถตู้จอดพอดิบพอดี“น้องอัน... พี่ว่ามันแปลกๆ แล้วนะ ว้ายยย”ผ้าที่มีกลิ่นฉุนถูกกดเอาไว้บนปากและจมูกของหล่อน โดยฝีมือของอันนา ดวงตาของปั้นหยาเบิกโพลง หล่อนพยายามขัดขืน แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะสารเคมีที่ได้รับได้ สุดท้ายสติสัมปชัญญะของหล่อนดับวูบลงอันนาห
เสียงหวอของรถตำรวจดังกังวานขึ้นใกล้ๆ ทำให้คนที่ถูกโปะยาสลบจนหลับใหลค่อยๆ รู้สึกตัวตื่นขึ้น ปั้นหยากำลังจะยกมือขึ้นกุมศีรษะ แต่แล้วก็พบว่ามีปืนอยู่ในมือของตนเองหล่อนหน้าซีดตกใจมาก และมองไปรอบๆ ตัวทันที ก่อนจะพบว่าอันนานอนสลบอยู่ ศีรษะมีแต่เลือดไหลนอง“น้องอัน...”หล่อนรีบวิ่งเข้าไปหา โดยลืมที่จะทิ้งปืนออกจากอุ้งมือ ซึ่งมันก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่แม็กซิมัสปรากฏตัวขึ้นพอดิบพอดี“คุณแม็ก...”แม็กซิมัสแทบไม่เชื่อสายตาของตัวเองเลย ภาพที่เห็นตอนนี้มันทำให้เขาขยะแขยงปั้นหยาเหลือเกิน“ผู้หญิงใจชั่ว!”“หยา... หยาไม่ได้ทำอะไรนะคะ”ปั้นหยาโยนปืนทิ้ง ส่ายหน้าไปมาทั้งน้ำตา ตอนนี้หล่อนเองก็ยังงงอยู่เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมตัวเองถึงมานอนอยู่ที่นี่ และทำไมอันนาถึงมีสภาพแบบนั้น“ภาพมันฟ้องชัดเจนขนาดนี้ ยังจะมาตอแหลอีกหรือ เสียแรงที่ฉันคิดว่าเธอจะกลับตัวกลับใจ สารเลว!”แม็กซิมัสด่าอย่างโกรธแค้น ขณะรีบวิ่งเข้าไปประคองร่างของอันนาเอาไว้แนบอก“น้องอัน... น้องอันอย่าเป็นอะไรนะครับ”“หยา... ไม่ได้ทำจริงๆ นะคะ หยา...”“เอาไว้แก้ตัวกับตำรวจก็แล้วกัน” เขาตวาดลั่น ยกมือขึ้นลูบใบหน้าบอบช้ำของอันนาอย่างห่วงใย
คนตัวเล็กแก้มแดงระเรื่อ ขณะค่อยๆ กดสะโพกผายลงให้กลืนกินความเป็นชายที่ชูชันรอคอย“อ๊ะ... อ๊า... อา... อา...”“โอ้ววว... อืมมมม แน่นมาก อืม”ใบหน้าหล่อจัดของแม็กซิมัสบิดเบี้ยวด้วยความเสียวกระสัน เมื่อความเป็นชายถูกกลีบสาวอ่อนนุ่มโอบกระชับแน่นหนาเอาไว้ในทุกทิศทาง“หยา... ปั้นหยา... ยอดรัก... ได้โปรดขยับ... ได้โปรดเถอะ โอ้ววว พระเจ้า... โอ้ววว...”ปั้นหยาทำตามคำขอร้องหอบกระเส่าของแม็กซิมัสอย่างว่านอนสอนง่าย หล่อนบดบั้นท้ายกับความเป็นชายหนักๆ ด้วยจังหวะเร้าใจ ก่อนจะขยับขึ้นลงถี่ระรัว ตามความร้อนฉ่าของไฟสวาทที่ลุกโหมอยู่ภายในกาย“อ๊า... อา... อา...”“โอ้ว... เร็วอีก... ฉันจะทนไม่ไหวแล้ว โอ้ววว อืมมม...”มือใหญ่ทั้งสองข้างกุมสะโพกผายเอาไว้มั่น และช่วยให้หล่อนยกโยงตัวเองขึ้นสูง พร้อมกับดึงรั้งให้กลับลงมาหาหนักหน่วงแม็กซิมัสหน้าแดงก่ำ บิดเบี้ยวด้วยความเสียวกระสันร้อนแรง ยิ่งปั้นหยาซอยสะโพกลงมาหาด้วยจังหวะรัวระทึกเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกถึงสวรรค์ได้มากขึ้นเท่านั้น“อา... อา... คุณแม็กกก... หยา... หยาจะไม่... ไหวแล้ว อา... อ๊า...”ปั้นหยาเงยหน้าขึ้น กรีดร้องด้วยความเสียวกระสัน กายสาวสั่นเกร็ง แ
เคลวินหัวเราะออกมา “ก็งานฉันมันยุ่งมาก ปลีกตัวได้สามสี่วันก็บุญแล้ว”“เออๆ เอาที่นายสะดวกก็แล้วกัน” แม็กซิมัสตอบรับอย่างอ่อนอกอ่อนใจ ขี้เกียจจะเซ้าซี้“สรุปนายรักคุณปั้นหยาแล้วจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย”“ถูกต้อง และไม่ใช่รักเฉยๆ นะ รักมากด้วย”เคลวินหัวเราะขบขัน “ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านายจะรักผู้หญิงที่ตัวเองบอกว่าเกลียดนักเกลียดหนาเข้าไปได้”“ก็ตอนนั้นฉันเข้าใจผิด แถมอันนาก็ยังเป่าหูใส่ร้ายปั้นหยาให้ฉันฟังทุกวัน ฉันก็ต้องเชื่อดิ”“เออ ก็ขอให้นายมีความสุขมาก มีลูกเยอะๆ เอาแบบตั้งทีมฟุตบอลได้เลยก็จะยิ่งดี”“ถ้าจะให้มีเยอะขนาดทำทีมฟุตบอลคงไม่ไหวหรอก ปั้นหยาคงไม่เห็นด้วย แต่ถ้ามีสักสี่ห้าคน เอาไว้เล่นกับลูกของนาย แล้วก็ลูกของเจ้าชาร์ลกับลูกเจ้าอเล็กน่ะพอไว้”“รอลูกไอ้ชาร์ลกับไอ้อเล็กเถอะ ฉันไม่มีหรอก” เคลวินส่ายหน้าปฏิเสธ และทำหน้าสยดสยองเมื่อคิดถึงเด็ก“เด็กๆ น่ารักนะโว้ย เมื่อก่อนฉันก็ไม่ชอบเด็ก แต่พอปั้นหยาท้อง ฉันก็รักเด็กขึ้นมากะทันหันเลยว่ะ ในมือถือตอนนี้นอกจากรูปของฉันกับปั้นหยาแล้ว ก็มีแต่รูปเด็กน่ารักๆ เต็มเครื่องไปหมดเลย ดูไหม จะอวด”“ไม่ๆๆ ฉันไม่อยากดูหรอก” เคลวินส่ายหน้าดิก“สักวันนายจ
แม็กซิมัสรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลของตนเองมาครบหนึ่งอาทิตย์แล้ว โดยมีปั้นหยาคอยเฝ้าดูแลไม่ห่างไปไหน ซึ่งก็ทำให้เขามีความสุขเหลือเกิน“คุณแม็กขา... หยาขอออกไปซื้อของใช้ที่เซเว่นใต้โรงพยาบาลสักครู่นะคะ เดี๋ยวจะรีบมาค่ะ”แม็กซิมัสอมยิ้มกับน้ำเสียงหวานฉ่ำของหญิงสาว และก็กวักมือเรียกให้หล่อนเข้ามาหา ซึ่งปั้นหยาก็ยอมเดินเข้ามาหาเขาอย่างว่านอนสอนง่าย“เดินระวังนะรู้ไหม ตอนนี้เธอไม่ใช่คนตัวเปล่าแล้ว”ปั้นหยายิ้มหน้าแดงด้วยความเอียงอาย พร้อมกับยกมือขึ้นลูบหน้าท้องของตัวเองไปมาอย่างลืมตัว“หยาจะเดินให้ระวังที่สุดค่ะ คุณแม็กอยู่คนเดียวได้นะคะ”“อยู่ได้ครับ ไปเถอะไม่ต้องรีบร้อนล่ะ”หญิงสาวก้มหน้าลงมาจูบแก้มสากที่มีไรหนวดของคนตัวโตเบาๆ อย่างแสนรัก“หยารักคุณแม็กนะคะ”มือใหญ่ของแม็กซิมัสยกขึ้นประคองดวงหน้านวลของปั้นหยาเอาไว้ ก่อนจะพรมจูบไปจนทั่ว และมาอิ่งอ้อยอยู่กับกลีบปากอิ่มหวานฉ่ำนานที่สุด“ฉันก็รักเธอ... ฉันบอกเธอไปกี่ครั้งแล้วนะ” ชายหนุ่มอมยิ้ม ดวงตาเป็นประกายระยิบระยับปั้นหยาเสหลบสายตาสีเขียวสวยอย่างเอียงอาย แต่ก็อ้อมแอ้มตอบออกไปเสียงเบา“น่าจะเกือบห้าสิบครั้งแล้วล่ะค่ะ”“โอ้พระเจ้า... นี่ฉันบ
“น้องอัน... สัญญากับพี่ได้ไหมว่าจะไม่ทำอะไรคุณแม็ก หากพี่ตายไปแล้ว”“ไม่นะปั้นหยา ฉันไม่ยอมเด็ดขาด ไม่มีวันยอมให้เธอตาย เข้าใจไหมว่าเธอตายไม่ได้!”แม็กซิมัสตะโกนมาอีกฟากหนึ่งของกำแพง เขาอยากจะเข้าไปแย่งปืนจากมือของอันนานัก แต่ก็กลัวว่ามันจะผิดพลาด แล้วปั้นหยาจะไม่ปลอดภัย จึงจำต้องนั่งนิ่งและพยายามหาทางออกอื่นให้ได้เร็วที่สุด“แค่หยารู้ว่าคุณแม็กเป็นห่วงหยา... แค่นี้หยาก็ตายตาหลับแล้วล่ะค่ะ”“ผู้หญิงบ้า! ถ้าเธอไม่หยุดพูดบ้าๆ ฉันสาบานว่าจะหยุดรักเธอเดี๋ยวนี้แหละ!”“คุณแม็ก... รักหยาเหรอคะ”อย่างน้อยๆ ก่อนตาย หล่อนก็ยังได้รู้ว่าตัวเองได้รับความรักตอบจากบุรุษที่ตัวเองแอบรักมาเนิ่นนาน“ก็ใช่น่ะสิ ฉันรักเธอปั้นหยา รักมากด้วย ดังนั้นห้ามตายเด็ดขาด นี่เป็นคำสั่งของฉัน”“หยาดีใจ... ดีใจเหลือเกิน...”“เลิกพล่ามกันได้แล้ว แล้วพี่แม็กก็เตรียมเห็นนังหยามันไร้วิญญาณได้เลย”“อย่านะ... อันนา! อย่าทำอะไรปั้นหยานะ!”อันนาหันไปยิ้มเลือดเย็นให้กับแม็กซิมัส ก่อนจะสอดนิ้วเรียวเหนี่ยวไกปืนทันทีปัง! ปัง! ปัง!ลูกปืนทั้งสามนัดดังกังวาน และพุ่งเข้าใส่คนตรงหน้าอย่างแม่นยำ แต่ผิดคน“พี่แม็ก!!!”“คุณแม็ก! กรี๊ดด
ปั้นหยาถูกอันนาตบด้วยฝ่ามือ และกระบอกปืนหลายครั้งจนเลือดไหลออกมาจากศีรษะที่แตก หน้าตาปูดบวมช้ำ โดยเฉพาะที่ปากแตกจนมีเลือดไหลซึมออกมาจากมุมปาก“น้องอัน... ปล่อยพี่เถอะ พี่ไม่เคยคิดร้ายอะไรกับน้องอันเลยนะ พี่หวังดีกับน้องอันเสมอ โอ๊ยยย... พี่เจ็บ”อันนากระชากเส้นผมนุ่มของปั้นหยาแรงๆ ก่อนจะก้มหน้าที่บิดเบี้ยวเพราะเสียสติไปแล้วลงมาหัวเราะใส่“มึงแย่งผัวกู”“พี่ก็หย่ากับคุณแม็กให้แล้วนี่จ๊ะ”“มึงคืนให้มาแต่ตัว แต่หัวใจของพี่แม็ก มึงขโมยไปแล้วไม่ยอมคืน อีพี่สารเลว!”เพียะ! ผัวะ!!!ทั้งมือทั้งหมัดของอันนาประเคนเข้าใส่ใบหน้าและร่างกายของปั้นหยาอย่างไม่ปรานี จนปั้นหยาล้มตัวงอนอนลงกับพื้นเจียนจะหมดสติสัมปชัญญะ“พี่แม็กเอาเงินมาให้กูเมื่อไหร่ กูจะระเบิดหัวมึงทันที”“น้องอัน... ปล่อยพี่ไปเถอะ แล้วน้องอันก็กลับเนื้อกลับตัวซะ โทษหนักจะได้กลายเป็นเบา”“มึงอย่ามาสอนกู!”“พี่ไม่อยากเห็นน้องอันต้องตกนรกทั้งเป็นหรอกนะ เชื่อพี่เถอะ มอบตัวกับตำรวจซะเถอะ” ปั้นหยาพยายามเตือนสติของญาติผู้น้องด้วยความห่วงใย แต่อันนาไม่สนใจที่จะรับฟัง“กูไม่ยอมแก่ตายในคุกหรอก กูจะหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน จนกว่าคดีจะหมดอายุความ แล
แม็กซิมัสถอนใจออกมาอย่างโล่งอก เมื่อสุดท้ายแล้วพวงมาลัยดอกมะลิฝีมือของตนเองก็เสร็จสมบูรณ์เสียที และถึงแม้มันจะเบี้ยวๆ เอียงๆ ไม่ค่อยสวยนัก แต่เขาก็ทำมันด้วยความตั้งใจที่สุดในชีวิต แถมมันยังเป็นงานที่ทำให้เขาเสียเลือดมากที่สุดอีกต่างหากชายหนุ่มอมยิ้มมองพวงมาลัยดอกมะลิสีขาวด้วยความภาคภูมิใจ ก่อนจะยกมันขึ้นดอมดม กลิ่นของดอกไม้ชนิดนี้หอมละมุนมาก แต่ก็ยังหอมตราตรึงใจสู้กลิ่นสาบสาวของปั้นหยาไม่ได้“เธอจะต้องปลื้มใจแน่ๆ ถ้าเห็นพวงมาลัยนี้”“คุณแม็กคะ ปลาสเตอร์ยาค่ะ”“ขอบใจ” แม็กซิมัสยื่นมือไปรับปลาสเตอร์ยาจากมือของสาวใช้ มาพันบนนิ้วที่ถูกเข็มตำ“นี่แผ่นสุดท้ายแล้วนะคะคุณหมอแม็ก”คุณย่าวารีมองนิ้วมือที่เต็มไปด้วยปลาสเตอร์ยาของแม็กซิมัสด้วยความเห็นใจระคนขบขัน“เดี๋ยวผมเบิกที่โรงพยาบาลมาคืนให้ครับ”“ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องเอามาคืนหรอกค่ะ ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณคุณหมอที่ช่วยใช้ปลาสเตอร์ยาก่อนที่มันจะหมดอายุใช้งานน่ะ”แม็กซิมัสยิ้มอายๆ “ผมคงเป็นนักเรียนที่แย่มากๆ เลยใช่ไหมครับเนี่ย”“ถ้าเอาความจริงก็ใช่ค่ะ เพราะคุณหมอแม็กสอนยากมาก”“แต่ตอนผมเรียนผ่าตัด อาจารย์หมอชมว่าผมหัวไว เรียนรู้เร็วกว่าเพื่อน
“คุณอันนาคะ คุณอันนา”ผลั๊ววว!อันนาที่แกล้งนอนนิ่งทำเป็นหลับอยู่บนเตียงคนไข้ หยิบแจกันดอกไม้ที่ตั้งตกแต่งเอาไว้ภายในห้อง ฟาดหัวนางพยาบาลที่เข้ามาเพื่อนำยากลางวันมาให้รับประทาน จนล้มลงไปนอนกับพื้นห้องจากนั้นก็รีบก้าวลงจากเตียง วิ่งไปล็อกประตูห้อง และรีบเดินกลับมาลากร่างของนางพยาบาลเข้าไปในห้องน้ำทันทีเมื่อคืนหล่อนไม่ได้นอนเลย เพราะพยายามดิ้นรนหาทางแกะผ้าที่ผูกแขนขาเอาไว้ และก็เหมือนสวรรค์ยังเมตตา เพราะจากพยายามมาทั้งคืน ผ้าที่ผูกแขนเอาไว้ข้างหนึ่งก็คลายออก ซึ่งมันก็ทำให้หลุดพ้นจากพันธนาการได้ในที่สุดอันนาจ้องมองร่างไร้สติของนางพยาบาล ก่อนจะรีบจัดการถอดเสื้อผ้าออกจากร่างของนางพยาบาล และเอามาสวมใส่เสียเอง จากนั้นก็ยิ้มเลือดเย็น ดวงตาลุกเป็นไฟ“ถ้าฉันไม่มีความสุข ใครหน้าไหนก็มีความสุขไม่ได้”มือเล็กกำแน่นด้วยความเคียดแค้น ก่อนจะก้าวออกไปจากห้องพักฟื้นในคราบของนางพยาบาล ทำให้นายตำรวจหน้าห้องที่เอาแต่เล่นโทรศัพท์มือถือไม่ทันสังเกตเห็นรูปร่างที่แตกต่างไปอันนารีบออกมาจากโรงพยาบาลด้วยความรีบร้อน หล่อนโบกรถแท็กซี่ และหยิบเงินที่มีติดอยู่ในชุดของนางพยาบาลจ่ายเป็นค่ารถ เพื่อให้ขับรถพาไปยังสถ
ปั้นหยาเดินกลับมาจากอีกฝั่งของห้อง พร้อมกับตลับยาทาสำหรับแก้แมลงกัดต่อยในมือ ร่างเล็กทรุดนั่งข้างๆ และจัดการแต้มยาในตลับเล็กนั้นบนผิวของเขาที่มีตุ่มสีแดง“เธอแน่ใจหรือว่ายาเนี่ยมันจะช่วยอะไรได้น่ะ”“ช่วยได้สิคะ มันเป็นยาทาสำหรับคนที่ถูกมดถูกยุงกัดน่ะค่ะ อยู่เฉยๆ สิคะ หยาทาไม่ถนัดนะ”ปั้นหยาดุเสียงไม่จริงจังนัก เมื่อแม็กซิมัสเอียงหน้าหนีเมื่อหล่อนป้ายยาบนแก้มของเขา“ไม่ต้องทาแล้วล่ะ ฉันคิดว่าฉันไม่น่าจะตายเพราะยุงพวกนี้หรอก”“ถ้าไม่ตายเพราะยุงพวกนี้ คุณแม็กก็คงจะตายเพราะไข้เลือดออกน่ะค่ะ” หล่อนประชด และยังไม่หยุดป้ายยาไปตามเนื้อตัวของแม็กซิมัส “เป็นหมออะไรกัน ยอมให้ยุงกัดทั้งตัวแบบนี้” แล้วก็อดบ่นด้วยความเป็นห่วงไม่ได้แม็กซิมัสดึงมือเล็กที่กำลังจะป้ายยาบนลำคอแกร่งเอาไว้ จากนั้นก็โน้มหน้าเข้ามาหา นัยน์ตาสีเขียวแสนสวยของเขาจ้องมองหล่อนไม่วางตา“รู้สึกผิดใช่ไหมที่ทำให้ฉันถูกยุงรุมทึ้งทั้งคืนน่ะ”“เอ่อ... ก็... ใช่ค่ะ”หล่อนตอบตะกุกตะกัก สายตาของเขาทำให้หล่อนร้อนรุ่มไปทั้งตัว โดยเฉพาะในอุ้งเชิงกราน จนต้องรีบเสหลบสายตาคม จึงไม่ทันได้เห็นแววตาเจ้าเล่ห์ในนั้น“อยากไถ่บาปไหมล่ะ”“ก็... กำลังท
“คุณแม็กต้องนอนข้างนอกห้องค่ะ”ปั้นหยาโยนหมอนกับผ้าห่มใส่มือของคนตัวโต และดันให้เขาออกไปนอกห้องนอนของตนเอง“แต่คุณย่าให้ฉันนอนกับเธอนะ ปั้นหยา”แม็กซิมัสถูกคนตัวเล็กผลักจนพ้นออกมาจากห้องนอนสีหวานโดยไม่ทันได้ตั้งตัวเอ่ยแย้งขึ้น“คุณย่าอนุญาต แต่หยาไม่ได้อนุญาตค่ะ”“นี่เธอจะให้ฉันนอนตากยุงจริงๆ หรือ”“จริงค่ะ”แม็กซิมัสไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตัวเองต้องมาตกระกำลำบากด้วยฝีมือของผู้หญิงที่ตัวเองเคยตราหน้าว่าสารเลวอย่างปั้นหยา ความจริงเขาไม่ยอมก็ได้ ผลักหล่อนเข้าไป และปล้ำเสียให้รู้แล้วรู้รอด แค่นี้ปั้นหยาก็ต้องยอมสยบแล้ว แต่เพราะไม่อยากให้ปั้นหยาโกรธมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่จึงต้องยอม“ก็ได้ ฉันจะนอนหน้าห้องนี่แหละ พอใจหรือยังล่ะ”“หยาจะพอใจมาก ถ้าคุณแม็กกลับไปซะ”คนตัวโตส่ายหน้าไปมา “ฉันไม่กลับหรอก จะอยู่ที่นี่กับเธอนั่นแหละ”“งั้นก็ทนนอนตากยุงไปเถอะค่ะ ราตรีสวัสดิ์”ปั้นหยากำลังจะปิดประตูใส่หน้าของแม็กซิมัส แต่ชายหนุ่มทิ้งผ้าห่มกับหมอนในอุ้งมือ และกระชากร่างเล็กเข้ามากอดเสียก่อน จากนั้นเขาก็จูบปากอิ่มนั้นอย่างเร่าร้อน“อื้อ... อุ๊บบบ”ปั้นหยาดิ้นรน ผลักไส มือเล็กทุบแผงอกกว้างแรงๆ แต่เขาไม่สะทก