“ไปรถคันนี้หรือน้องอัน”ปั้นหยาเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ เมื่อก้าวขึ้นมาภายในรถตู้สีเทาติดฟิล์มดำทั่วทั้งคืน“ใช่จ้ะพี่หยา” อันนาก้าวตามขึ้นมานั่งข้างๆ“แล้วนกเพื่อนของน้องอันล่ะจ๊ะ”“อ้อ... อันลืมบอกพี่หยาไป นกมันติดธุระด่วนพอดีไปไม่ได้ อันก็เลยต้องไปถือศีลคนเดียว แต่ก็ยังโชคดีนะจ๊ะที่มีพี่หยานั่งรถไปส่งถึงวัด”แม้จะรู้สึกสังหรณ์แปลกๆ แต่ปั้นหยาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร หล่อนยิ้มให้กับอันนา และก็นั่งมองวิวข้างทางไปเงียบๆ จึงไม่ทันได้เห็นสายตามาดร้ายของอันนาที่ลอบมองมารถตู้ขับไปได้สักระยะก็หักเลี้ยวเข้าไปในซอยเปลี่ยว หล่อนรีบหันไปถามอันนาด้วยความแปลกใจ“น้องอัน ทางไปอยุธยาไม่น่าจะดูเปลี่ยวแบบนี้นะจ๊ะ”“น่าจะเป็นทางลัดมั้งคะพี่หยา” อันนาไม่ได้มีทีท่าทุกข์ร้อนอะไรเลยปั้นหยานั่งกระสับกระส่ายไปสักพักก็ทนไม่ไหว จึงถามอันนาอีก ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่รถตู้จอดพอดิบพอดี“น้องอัน... พี่ว่ามันแปลกๆ แล้วนะ ว้ายยย”ผ้าที่มีกลิ่นฉุนถูกกดเอาไว้บนปากและจมูกของหล่อน โดยฝีมือของอันนา ดวงตาของปั้นหยาเบิกโพลง หล่อนพยายามขัดขืน แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะสารเคมีที่ได้รับได้ สุดท้ายสติสัมปชัญญะของหล่อนดับวูบลงอันนาห
เสียงหวอของรถตำรวจดังกังวานขึ้นใกล้ๆ ทำให้คนที่ถูกโปะยาสลบจนหลับใหลค่อยๆ รู้สึกตัวตื่นขึ้น ปั้นหยากำลังจะยกมือขึ้นกุมศีรษะ แต่แล้วก็พบว่ามีปืนอยู่ในมือของตนเองหล่อนหน้าซีดตกใจมาก และมองไปรอบๆ ตัวทันที ก่อนจะพบว่าอันนานอนสลบอยู่ ศีรษะมีแต่เลือดไหลนอง“น้องอัน...”หล่อนรีบวิ่งเข้าไปหา โดยลืมที่จะทิ้งปืนออกจากอุ้งมือ ซึ่งมันก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่แม็กซิมัสปรากฏตัวขึ้นพอดิบพอดี“คุณแม็ก...”แม็กซิมัสแทบไม่เชื่อสายตาของตัวเองเลย ภาพที่เห็นตอนนี้มันทำให้เขาขยะแขยงปั้นหยาเหลือเกิน“ผู้หญิงใจชั่ว!”“หยา... หยาไม่ได้ทำอะไรนะคะ”ปั้นหยาโยนปืนทิ้ง ส่ายหน้าไปมาทั้งน้ำตา ตอนนี้หล่อนเองก็ยังงงอยู่เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมตัวเองถึงมานอนอยู่ที่นี่ และทำไมอันนาถึงมีสภาพแบบนั้น“ภาพมันฟ้องชัดเจนขนาดนี้ ยังจะมาตอแหลอีกหรือ เสียแรงที่ฉันคิดว่าเธอจะกลับตัวกลับใจ สารเลว!”แม็กซิมัสด่าอย่างโกรธแค้น ขณะรีบวิ่งเข้าไปประคองร่างของอันนาเอาไว้แนบอก“น้องอัน... น้องอันอย่าเป็นอะไรนะครับ”“หยา... ไม่ได้ทำจริงๆ นะคะ หยา...”“เอาไว้แก้ตัวกับตำรวจก็แล้วกัน” เขาตวาดลั่น ยกมือขึ้นลูบใบหน้าบอบช้ำของอันนาอย่างห่วงใย
“เฮ้ย... เรื่องจริงหรือวะนั่นไอ้แม็ก”เสียงตกใจของเคลวินดังลั่นมาตามสาย หลังจากที่เขาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสองวันก่อนให้ฟัง“ฉันจะไปโกหกทำไมล่ะ นี่ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้หญิงที่ดูแบบบางแบบแม่นั่นจะร้ายกาจได้ถึงขนาดนี้”“นั่นสิวะ แล้วสรุปคุณหยานี่ยิงคนร้ายปางตายเลย จริงหรือเปล่าวะ”“แม่นั่นปฏิเสธ บอกไม่ได้ยิง”“แล้วตำรวจว่าไง ตรวจคราบเขม่าดินปืนที่มือของคุณหยาเจอไหม”“ไม่เจอ”“งั้นก็แสดงว่าคุณหยาพูดความจริงน่ะสิ”“ฉันไม่รู้ว่ะ แต่น้องอันบอกว่าเห็นปั้นหยายิงคนร้ายกับตา แล้วปั้นหยาก็ใส่ถุงมือ”“ฉันว่ามันทะแม่งๆ วะ” เคลวินเอ่ยมาตามสาย แต่แม็กซิมัสสงสารอันนาจนมองไม่เห็นพิรุธอะไรเลย“มันไม่มีอะไรทะแม่งหรอกไอ้เคน สรุปก็คือผู้หญิงสารเลวคนนั้นต้องการจะกำจัดน้องอัน เพื่อที่จะได้อยู่กับฉันโดยไม่ต้องหย่าร้างเมื่อครบกำหนดหนึ่งปี เป็นไงล่ะ เลวชาติชั่วไหม”“นี่นายสันนิษฐานเอาเอง หรือว่าน้องอันบอกนายล่ะ“น้องอันบอกมา แต่ถึงน้องอันไม่บอก ฉันก็คิดได้เองอยู่แล้วล่ะ เพราะมันไม่สาเหตุอื่นอีกแล้ว”เคลวินถอนใจแรงๆ ก่อนจะถามต่อ “แล้วนายจะเอายังไงต่อไปล่ะ คุณหยาเมียแต่งนายนะโว้ย”“ฉันจะทำให้แม่นั่นตายท
สองอาทิตย์แล้วที่หล่อนหอบหัวใจและร่างกายอันบอบช้ำหนีจากแม็กซิมัสกลับมาอยู่ที่บ้านของคุณย่าวารี โดยที่เขาไม่ได้ไยดีแม้แต่จะโทรมาถามไถ่แม้แต่ครั้งเดียวปั้นหยาน้ำตาริน มองนาฬิกาที่ผนังด้วยหัวใจแหลกลาญ เพราะวันนี้คือวันที่หล่อนมีนัดกับแม็กซิมัสที่เขตเพื่อจดทะเบียนหย่า“หยาแน่ใจแล้วนะว่าจะทำแบบนี้น่ะ”คุณย่าวารีถามหล่อนเมื่อคืน และหล่อนก็ยืนยันคำเดิมว่าหล่อนต้องการหย่าขาดจากผู้ชายไร้หัวใจอย่างแม็กซิมัสเขาใจดีกับผู้หญิงทั้งโลก ยกเว้นแค่หล่อนเพียงคนเดียว ซึ่งหล่อนก็จะไม่โง่ยอมให้เขารังแกอีกแล้ว“คุณหยาคะ คุณหมอแม็กมาแล้วค่ะ”หลังมือเล็กรีบป้ายน้ำตาทิ้ง ก่อนจะหันไปฝืนยิ้มให้กับเด็กรับใช้ที่ยืนอยู่ไม่ไกล“บอกรอแป๊บนะจ๊ะ เดี๋ยวหยาลงไปจ้ะ”“ค่ะคุณหยา”ปั้นหยาลุกขึ้นจากเก้าอี้ มองตัวเองในกระจกเงาบานใหญ่ ภาพของผู้หญิงหน้าตาเศร้าหมองน่าเวทนาสะท้อนออกมา มันช่างดูน่าสังเวชใจยิ่งนักร่างแบบบางของปั้นหยาดูผอมลงไปถนัดตาภายในระยะเวลาแค่สองอาทิตย์เท่านั้น แม็กซิมัสรู้สึกใจหายไม่ได้ ความรู้สึกห่วงใยเกิดขึ้นอย่างลืมตัว เมื่อเห็นร่างเล็กโงนเงนจะล้ม เขาจึงรีบเดินเข้าไปประคอง“ไม่สบายก็โทรเลื่อนฉันได้นี่”สั
โลกของหล่อนพังทลายลงหมดแล้ว...ปั้นหยานอนน้ำตาซึมอยู่ภายในห้องพักด้วยความชอกช้ำ หลังจากที่หล่อนต้องทำเป็นยิ้มคล้ายกับไม่เป็นอะไรต่อหน้าคุณย่าวารีเมื่อตอนเย็นหล่อนรักแม็กซิมัส และไม่ว่าเขาจะร้ายกาจ เหี้ยมโหด ไร้เมตตาด้วยสักแค่ไหน หัวใจไม่รักดีของหล่อนก็รักเขา และก็รักเขาไม่เสื่อมคลายหล่อนเกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้ เกลียดที่รักผู้ชายใจร้ายคนนั้น ทั้งๆ ที่เขาไม่มีทางเผื่อแผ่เสี้ยวเศษความรักมาให้ ทุกถ้อยคำของเขาล้วนแต่ทำร้ายทำลายความรู้สึกของหล่อนเสมอแต่หล่อนก็ยังรัก...เสียงสะอื้นไห้แผ่วเบาดังออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่ม หยาดน้ำตาอุ่นๆ ไหลรินไม่ขาดสายเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือดังกังวานขึ้น หล่อนจำต้องควานหามันมากดรับ“สวัสดีค่ะ”“น้องหยา... พี่ไตรทศครับ”“เอ่อ... สวัสดีค่ะพี่ไตร” หล่อนจำต้องปั้นเสียงให้ราบเรียบเป็นปกติที่สุด“น้องหยานอนหรือยังครับ พี่โทรมากวนหรือเปล่า”“เอ่อ... เตรียมตัวจะนอนแล้วค่ะ พี่ไตรมีธุระอะไรกับหยาเหรอคะ”“พี่... เอ่อ... พี่ไม่รู้จะพูดยังไงดี” ไตรทศอึกอักไปเล็กน้อย เพราะพยายามจะเรียบเรียงถ้อยคำให้ฟังง่ายที่สุด“พี่ไตรพูดได้เลยค่ะ หยาฟังได้ทุกอย่างค่ะ”“คือ... เอ่อ
ประตูร้านอาหารที่ไตรทศพาหล่อนมารับประทานอาหารเที่ยงถูกเปิดออก ก่อนที่ร่างสูงใหญ่คุ้นตาของผู้ชายที่หล่อนไม่เคยลืมเลือนจะก้าวเข้ามา ข้างกายของเขามีอันนาตามติดมาด้วยหล่อนหน้าซีดเผือด มือกำช้อนสเตนเลสแน่นอย่างลืมตัว ดวงตาไม่อาจจะละไปจากความสง่างามของแม็กซิมัสได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว จนกระทั่งเขาหันมามอง สบประสานสายตากัน หล่อนก็รู้สึกราวกับถูกดูดให้จมหายลงไปในบ่อโคลนทำไมหล่อนจะต้องมาเจอเขาที่นี่...ปั้นหยาถามตัวเองอย่างเจ็บช้ำ ก่อนจะกัดปากแรงๆ เพื่อเรียกสติให้กลับคืนมา และหล่อนก็ทำได้ในที่สุด หล่อนสามารถแกะสายตาจากเรือนร่างของเขาลงมองจานอาหารได้สำเร็จและการพบกันโดยบังเอิญครั้งนี้ไม่ได้มีผลต่อปั้นหยาเพียงคนเดียว แต่สำหรับแม็กซิมัสก็ไม่ต่างกันเขายืนนิ่งอยู่กับที่ ก้าวเท้าไม่ออก ดวงตาจ้องเขม็งไปที่หล่อน อดีตภรรยาที่เพิ่งหย่าร้างกันไปเพียงแค่ไม่กี่วันหล่อนกำลังนั่งรับประทานอาหารกลางวันกับผู้ชายท่าทางภูมิฐานคุ้นตาคนหนึ่ง และไม่ได้มีทีท่าแยแสต่อการปรากฏตัวของเขาเลยแม้แต่น้อยให้ตายเถอะ เขารู้สึกหงุดหงิดเหลือเกิน ที่เห็นหล่อนยิ้มให้กับผู้ชายคนนั้นมือใหญ่ข้างลำตัวกำเป็นกำปั้น กรามแกร่งขบกันแน
อันนาออกมาเที่ยวไนต์คลับตามลำพังเพราะแม็กซิมัสปฏิเสธที่ออกมาด้วย และหล่อนก็เบื่อที่จะต้องอยู่บ้านอย่างเดียว หล่อนจึงโทรนัดรัชนกให้ออกมาหา“หายหัวไปนานเลยนะนังอัน” รัชนกจิกกัดทันทีที่หย่อนกายลงนั่งบนเก้าอี้ตรงหน้าของอันนา“แกก็รู้ว่าฉันยุ่งๆ”“ยุ่งเรื่องแย่งผัวญาติผู้พี่ใช่ไหมล่ะ”“อีนก มึงก็พูดไปนั่น พี่แม็กน่ะของกู แต่นังหยามันแย่งไปต่างหากล่ะ” อันนากระฟัดกระเฟียด“เอาจริงๆ นะนังอัน ญาติมึงน่ะไม่ได้จะแย่งหรอก แต่มึงน่ะพลาดเองต่างหาก”“มึงเลิกพูดแบบนี้เลยอีนก กูไม่ใช่คนผิด ยังไงก็ไม่ผิด”อันนายกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม โดยมีสายตาเบื่อหน่ายของรัชนกจ้องมอง“แล้วนี่ตำรวจยังจับไอ้ประวิทย์ไม่ได้ แกไม่กลัวบ้างเหรอ”อันนาไหวไหล่อย่างไม่แยแส “ทำไมต้องกลัวมันด้วย หากตำรวจเจอมัน มันก็ต้องติดคุกยาว”“แล้วถ้ามันซัดทอดแกล่ะนังอัน”“ใครจะไปเชื่อคำพูดของมัน อ้อ... แต่เอาจริงๆ นะ ฉันไม่คิดว่ามันจะยังมีชีวิตอยู่หรอก ถูกยิงไปสามนัดซ้อนแบบนั้นน่ะ” อันนายิ้มเหี้ยมเกรียม“ฉันไม่คิดเลยนะว่าผู้หญิงหน้าตาสวยๆ อย่างแกจะกล้าฆ่าคนด้วย”“ก็ถ้าปล่อยมันเอาไว้ ชีวิตของฉันก็ต้องอยู่อย่างหวาดระแวงน่ะสิ ให้มันตายโหงตายห่าไปน
บ่ายของวันต่อมา นายตำรวจซึ่งเป็นพรรคพวกของเขากำลังนั่งคุยอยู่กับรัชนก ภายในสถานีตำรวจ ซึ่งเขาก็ถูกเรียกตัวให้มาพบด่วนเช่นกัน“คุณแม็ก...” รัชนกหน้าซีดเผือดยิ่งขึ้นเมื่อเห็นแม็กซิมัสปรากฏตัวขึ้น“สวัสดีครับคุณนก” แม็กซิมัสเอ่ยทักทาย ก่อนจะหย่อนกายลงนั่งข้างๆ ร่างของรัชนก โดยมีตำรวจที่เป็นเพื่อนของเขานั่งอยู่ตรงกันข้าม“เรียกฉันมามีอะไรด่วนหรือ ไอ้พิท”“ก็เมื่อวานนายให้ฉันตามตัวคุณรัชนกมาสอบปากคำไม่ใช่เหรอ นี่ไง ฉันก็สอบปากคำให้แล้ว”แม็กซิมัสมองหน้าซีดเผือดของรัชนก ก่อนจะเลื่อนสายตามองเพื่อนตำรวจอีกครั้ง“แล้วสรุปมันคืออะไรวะ”พิทยาอมยิ้ม ก่อนจะถามรัชนก “คุณรัชนกจะพูดเอง หรือว่าจะให้ผมเป็นคนบอกไอ้แม็กครับ”“เอ่อ... คือว่า...” รัชนกรู้สึกกระอักกระอ่วนใจเหลือเกิน และก็หวาดกลัวว่าตัวเองจะติดร่างแหไปด้วย “นก... บอกเองก็ได้ค่ะ”แม็กซิมัสจ้องหน้ารัชนก อย่างรอคอยที่จะฟังสิ่งที่หญิงสาวกำลังจะพูด“นก... เป็นคนไปซื้อยานั่นมาเองค่ะ”“เรื่องนั้นผมเห็นในภาพจากกล้องวงจรปิดหมดแล้วครับ”“เอ่อ...”“สิ่งที่ผมอยากรู้ก็คือ... คุณซื้อยานั่นไปให้ปั้นหยาใช่ไหม”รัชนกช้อนตาขึ้นมองแม็กซิมัส หน้าตาของหล่อนซีดแล
คนตัวเล็กแก้มแดงระเรื่อ ขณะค่อยๆ กดสะโพกผายลงให้กลืนกินความเป็นชายที่ชูชันรอคอย“อ๊ะ... อ๊า... อา... อา...”“โอ้ววว... อืมมมม แน่นมาก อืม”ใบหน้าหล่อจัดของแม็กซิมัสบิดเบี้ยวด้วยความเสียวกระสัน เมื่อความเป็นชายถูกกลีบสาวอ่อนนุ่มโอบกระชับแน่นหนาเอาไว้ในทุกทิศทาง“หยา... ปั้นหยา... ยอดรัก... ได้โปรดขยับ... ได้โปรดเถอะ โอ้ววว พระเจ้า... โอ้ววว...”ปั้นหยาทำตามคำขอร้องหอบกระเส่าของแม็กซิมัสอย่างว่านอนสอนง่าย หล่อนบดบั้นท้ายกับความเป็นชายหนักๆ ด้วยจังหวะเร้าใจ ก่อนจะขยับขึ้นลงถี่ระรัว ตามความร้อนฉ่าของไฟสวาทที่ลุกโหมอยู่ภายในกาย“อ๊า... อา... อา...”“โอ้ว... เร็วอีก... ฉันจะทนไม่ไหวแล้ว โอ้ววว อืมมม...”มือใหญ่ทั้งสองข้างกุมสะโพกผายเอาไว้มั่น และช่วยให้หล่อนยกโยงตัวเองขึ้นสูง พร้อมกับดึงรั้งให้กลับลงมาหาหนักหน่วงแม็กซิมัสหน้าแดงก่ำ บิดเบี้ยวด้วยความเสียวกระสันร้อนแรง ยิ่งปั้นหยาซอยสะโพกลงมาหาด้วยจังหวะรัวระทึกเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกถึงสวรรค์ได้มากขึ้นเท่านั้น“อา... อา... คุณแม็กกก... หยา... หยาจะไม่... ไหวแล้ว อา... อ๊า...”ปั้นหยาเงยหน้าขึ้น กรีดร้องด้วยความเสียวกระสัน กายสาวสั่นเกร็ง แ
เคลวินหัวเราะออกมา “ก็งานฉันมันยุ่งมาก ปลีกตัวได้สามสี่วันก็บุญแล้ว”“เออๆ เอาที่นายสะดวกก็แล้วกัน” แม็กซิมัสตอบรับอย่างอ่อนอกอ่อนใจ ขี้เกียจจะเซ้าซี้“สรุปนายรักคุณปั้นหยาแล้วจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย”“ถูกต้อง และไม่ใช่รักเฉยๆ นะ รักมากด้วย”เคลวินหัวเราะขบขัน “ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านายจะรักผู้หญิงที่ตัวเองบอกว่าเกลียดนักเกลียดหนาเข้าไปได้”“ก็ตอนนั้นฉันเข้าใจผิด แถมอันนาก็ยังเป่าหูใส่ร้ายปั้นหยาให้ฉันฟังทุกวัน ฉันก็ต้องเชื่อดิ”“เออ ก็ขอให้นายมีความสุขมาก มีลูกเยอะๆ เอาแบบตั้งทีมฟุตบอลได้เลยก็จะยิ่งดี”“ถ้าจะให้มีเยอะขนาดทำทีมฟุตบอลคงไม่ไหวหรอก ปั้นหยาคงไม่เห็นด้วย แต่ถ้ามีสักสี่ห้าคน เอาไว้เล่นกับลูกของนาย แล้วก็ลูกของเจ้าชาร์ลกับลูกเจ้าอเล็กน่ะพอไว้”“รอลูกไอ้ชาร์ลกับไอ้อเล็กเถอะ ฉันไม่มีหรอก” เคลวินส่ายหน้าปฏิเสธ และทำหน้าสยดสยองเมื่อคิดถึงเด็ก“เด็กๆ น่ารักนะโว้ย เมื่อก่อนฉันก็ไม่ชอบเด็ก แต่พอปั้นหยาท้อง ฉันก็รักเด็กขึ้นมากะทันหันเลยว่ะ ในมือถือตอนนี้นอกจากรูปของฉันกับปั้นหยาแล้ว ก็มีแต่รูปเด็กน่ารักๆ เต็มเครื่องไปหมดเลย ดูไหม จะอวด”“ไม่ๆๆ ฉันไม่อยากดูหรอก” เคลวินส่ายหน้าดิก“สักวันนายจ
แม็กซิมัสรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลของตนเองมาครบหนึ่งอาทิตย์แล้ว โดยมีปั้นหยาคอยเฝ้าดูแลไม่ห่างไปไหน ซึ่งก็ทำให้เขามีความสุขเหลือเกิน“คุณแม็กขา... หยาขอออกไปซื้อของใช้ที่เซเว่นใต้โรงพยาบาลสักครู่นะคะ เดี๋ยวจะรีบมาค่ะ”แม็กซิมัสอมยิ้มกับน้ำเสียงหวานฉ่ำของหญิงสาว และก็กวักมือเรียกให้หล่อนเข้ามาหา ซึ่งปั้นหยาก็ยอมเดินเข้ามาหาเขาอย่างว่านอนสอนง่าย“เดินระวังนะรู้ไหม ตอนนี้เธอไม่ใช่คนตัวเปล่าแล้ว”ปั้นหยายิ้มหน้าแดงด้วยความเอียงอาย พร้อมกับยกมือขึ้นลูบหน้าท้องของตัวเองไปมาอย่างลืมตัว“หยาจะเดินให้ระวังที่สุดค่ะ คุณแม็กอยู่คนเดียวได้นะคะ”“อยู่ได้ครับ ไปเถอะไม่ต้องรีบร้อนล่ะ”หญิงสาวก้มหน้าลงมาจูบแก้มสากที่มีไรหนวดของคนตัวโตเบาๆ อย่างแสนรัก“หยารักคุณแม็กนะคะ”มือใหญ่ของแม็กซิมัสยกขึ้นประคองดวงหน้านวลของปั้นหยาเอาไว้ ก่อนจะพรมจูบไปจนทั่ว และมาอิ่งอ้อยอยู่กับกลีบปากอิ่มหวานฉ่ำนานที่สุด“ฉันก็รักเธอ... ฉันบอกเธอไปกี่ครั้งแล้วนะ” ชายหนุ่มอมยิ้ม ดวงตาเป็นประกายระยิบระยับปั้นหยาเสหลบสายตาสีเขียวสวยอย่างเอียงอาย แต่ก็อ้อมแอ้มตอบออกไปเสียงเบา“น่าจะเกือบห้าสิบครั้งแล้วล่ะค่ะ”“โอ้พระเจ้า... นี่ฉันบ
“น้องอัน... สัญญากับพี่ได้ไหมว่าจะไม่ทำอะไรคุณแม็ก หากพี่ตายไปแล้ว”“ไม่นะปั้นหยา ฉันไม่ยอมเด็ดขาด ไม่มีวันยอมให้เธอตาย เข้าใจไหมว่าเธอตายไม่ได้!”แม็กซิมัสตะโกนมาอีกฟากหนึ่งของกำแพง เขาอยากจะเข้าไปแย่งปืนจากมือของอันนานัก แต่ก็กลัวว่ามันจะผิดพลาด แล้วปั้นหยาจะไม่ปลอดภัย จึงจำต้องนั่งนิ่งและพยายามหาทางออกอื่นให้ได้เร็วที่สุด“แค่หยารู้ว่าคุณแม็กเป็นห่วงหยา... แค่นี้หยาก็ตายตาหลับแล้วล่ะค่ะ”“ผู้หญิงบ้า! ถ้าเธอไม่หยุดพูดบ้าๆ ฉันสาบานว่าจะหยุดรักเธอเดี๋ยวนี้แหละ!”“คุณแม็ก... รักหยาเหรอคะ”อย่างน้อยๆ ก่อนตาย หล่อนก็ยังได้รู้ว่าตัวเองได้รับความรักตอบจากบุรุษที่ตัวเองแอบรักมาเนิ่นนาน“ก็ใช่น่ะสิ ฉันรักเธอปั้นหยา รักมากด้วย ดังนั้นห้ามตายเด็ดขาด นี่เป็นคำสั่งของฉัน”“หยาดีใจ... ดีใจเหลือเกิน...”“เลิกพล่ามกันได้แล้ว แล้วพี่แม็กก็เตรียมเห็นนังหยามันไร้วิญญาณได้เลย”“อย่านะ... อันนา! อย่าทำอะไรปั้นหยานะ!”อันนาหันไปยิ้มเลือดเย็นให้กับแม็กซิมัส ก่อนจะสอดนิ้วเรียวเหนี่ยวไกปืนทันทีปัง! ปัง! ปัง!ลูกปืนทั้งสามนัดดังกังวาน และพุ่งเข้าใส่คนตรงหน้าอย่างแม่นยำ แต่ผิดคน“พี่แม็ก!!!”“คุณแม็ก! กรี๊ดด
ปั้นหยาถูกอันนาตบด้วยฝ่ามือ และกระบอกปืนหลายครั้งจนเลือดไหลออกมาจากศีรษะที่แตก หน้าตาปูดบวมช้ำ โดยเฉพาะที่ปากแตกจนมีเลือดไหลซึมออกมาจากมุมปาก“น้องอัน... ปล่อยพี่เถอะ พี่ไม่เคยคิดร้ายอะไรกับน้องอันเลยนะ พี่หวังดีกับน้องอันเสมอ โอ๊ยยย... พี่เจ็บ”อันนากระชากเส้นผมนุ่มของปั้นหยาแรงๆ ก่อนจะก้มหน้าที่บิดเบี้ยวเพราะเสียสติไปแล้วลงมาหัวเราะใส่“มึงแย่งผัวกู”“พี่ก็หย่ากับคุณแม็กให้แล้วนี่จ๊ะ”“มึงคืนให้มาแต่ตัว แต่หัวใจของพี่แม็ก มึงขโมยไปแล้วไม่ยอมคืน อีพี่สารเลว!”เพียะ! ผัวะ!!!ทั้งมือทั้งหมัดของอันนาประเคนเข้าใส่ใบหน้าและร่างกายของปั้นหยาอย่างไม่ปรานี จนปั้นหยาล้มตัวงอนอนลงกับพื้นเจียนจะหมดสติสัมปชัญญะ“พี่แม็กเอาเงินมาให้กูเมื่อไหร่ กูจะระเบิดหัวมึงทันที”“น้องอัน... ปล่อยพี่ไปเถอะ แล้วน้องอันก็กลับเนื้อกลับตัวซะ โทษหนักจะได้กลายเป็นเบา”“มึงอย่ามาสอนกู!”“พี่ไม่อยากเห็นน้องอันต้องตกนรกทั้งเป็นหรอกนะ เชื่อพี่เถอะ มอบตัวกับตำรวจซะเถอะ” ปั้นหยาพยายามเตือนสติของญาติผู้น้องด้วยความห่วงใย แต่อันนาไม่สนใจที่จะรับฟัง“กูไม่ยอมแก่ตายในคุกหรอก กูจะหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน จนกว่าคดีจะหมดอายุความ แล
แม็กซิมัสถอนใจออกมาอย่างโล่งอก เมื่อสุดท้ายแล้วพวงมาลัยดอกมะลิฝีมือของตนเองก็เสร็จสมบูรณ์เสียที และถึงแม้มันจะเบี้ยวๆ เอียงๆ ไม่ค่อยสวยนัก แต่เขาก็ทำมันด้วยความตั้งใจที่สุดในชีวิต แถมมันยังเป็นงานที่ทำให้เขาเสียเลือดมากที่สุดอีกต่างหากชายหนุ่มอมยิ้มมองพวงมาลัยดอกมะลิสีขาวด้วยความภาคภูมิใจ ก่อนจะยกมันขึ้นดอมดม กลิ่นของดอกไม้ชนิดนี้หอมละมุนมาก แต่ก็ยังหอมตราตรึงใจสู้กลิ่นสาบสาวของปั้นหยาไม่ได้“เธอจะต้องปลื้มใจแน่ๆ ถ้าเห็นพวงมาลัยนี้”“คุณแม็กคะ ปลาสเตอร์ยาค่ะ”“ขอบใจ” แม็กซิมัสยื่นมือไปรับปลาสเตอร์ยาจากมือของสาวใช้ มาพันบนนิ้วที่ถูกเข็มตำ“นี่แผ่นสุดท้ายแล้วนะคะคุณหมอแม็ก”คุณย่าวารีมองนิ้วมือที่เต็มไปด้วยปลาสเตอร์ยาของแม็กซิมัสด้วยความเห็นใจระคนขบขัน“เดี๋ยวผมเบิกที่โรงพยาบาลมาคืนให้ครับ”“ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องเอามาคืนหรอกค่ะ ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณคุณหมอที่ช่วยใช้ปลาสเตอร์ยาก่อนที่มันจะหมดอายุใช้งานน่ะ”แม็กซิมัสยิ้มอายๆ “ผมคงเป็นนักเรียนที่แย่มากๆ เลยใช่ไหมครับเนี่ย”“ถ้าเอาความจริงก็ใช่ค่ะ เพราะคุณหมอแม็กสอนยากมาก”“แต่ตอนผมเรียนผ่าตัด อาจารย์หมอชมว่าผมหัวไว เรียนรู้เร็วกว่าเพื่อน
“คุณอันนาคะ คุณอันนา”ผลั๊ววว!อันนาที่แกล้งนอนนิ่งทำเป็นหลับอยู่บนเตียงคนไข้ หยิบแจกันดอกไม้ที่ตั้งตกแต่งเอาไว้ภายในห้อง ฟาดหัวนางพยาบาลที่เข้ามาเพื่อนำยากลางวันมาให้รับประทาน จนล้มลงไปนอนกับพื้นห้องจากนั้นก็รีบก้าวลงจากเตียง วิ่งไปล็อกประตูห้อง และรีบเดินกลับมาลากร่างของนางพยาบาลเข้าไปในห้องน้ำทันทีเมื่อคืนหล่อนไม่ได้นอนเลย เพราะพยายามดิ้นรนหาทางแกะผ้าที่ผูกแขนขาเอาไว้ และก็เหมือนสวรรค์ยังเมตตา เพราะจากพยายามมาทั้งคืน ผ้าที่ผูกแขนเอาไว้ข้างหนึ่งก็คลายออก ซึ่งมันก็ทำให้หลุดพ้นจากพันธนาการได้ในที่สุดอันนาจ้องมองร่างไร้สติของนางพยาบาล ก่อนจะรีบจัดการถอดเสื้อผ้าออกจากร่างของนางพยาบาล และเอามาสวมใส่เสียเอง จากนั้นก็ยิ้มเลือดเย็น ดวงตาลุกเป็นไฟ“ถ้าฉันไม่มีความสุข ใครหน้าไหนก็มีความสุขไม่ได้”มือเล็กกำแน่นด้วยความเคียดแค้น ก่อนจะก้าวออกไปจากห้องพักฟื้นในคราบของนางพยาบาล ทำให้นายตำรวจหน้าห้องที่เอาแต่เล่นโทรศัพท์มือถือไม่ทันสังเกตเห็นรูปร่างที่แตกต่างไปอันนารีบออกมาจากโรงพยาบาลด้วยความรีบร้อน หล่อนโบกรถแท็กซี่ และหยิบเงินที่มีติดอยู่ในชุดของนางพยาบาลจ่ายเป็นค่ารถ เพื่อให้ขับรถพาไปยังสถ
ปั้นหยาเดินกลับมาจากอีกฝั่งของห้อง พร้อมกับตลับยาทาสำหรับแก้แมลงกัดต่อยในมือ ร่างเล็กทรุดนั่งข้างๆ และจัดการแต้มยาในตลับเล็กนั้นบนผิวของเขาที่มีตุ่มสีแดง“เธอแน่ใจหรือว่ายาเนี่ยมันจะช่วยอะไรได้น่ะ”“ช่วยได้สิคะ มันเป็นยาทาสำหรับคนที่ถูกมดถูกยุงกัดน่ะค่ะ อยู่เฉยๆ สิคะ หยาทาไม่ถนัดนะ”ปั้นหยาดุเสียงไม่จริงจังนัก เมื่อแม็กซิมัสเอียงหน้าหนีเมื่อหล่อนป้ายยาบนแก้มของเขา“ไม่ต้องทาแล้วล่ะ ฉันคิดว่าฉันไม่น่าจะตายเพราะยุงพวกนี้หรอก”“ถ้าไม่ตายเพราะยุงพวกนี้ คุณแม็กก็คงจะตายเพราะไข้เลือดออกน่ะค่ะ” หล่อนประชด และยังไม่หยุดป้ายยาไปตามเนื้อตัวของแม็กซิมัส “เป็นหมออะไรกัน ยอมให้ยุงกัดทั้งตัวแบบนี้” แล้วก็อดบ่นด้วยความเป็นห่วงไม่ได้แม็กซิมัสดึงมือเล็กที่กำลังจะป้ายยาบนลำคอแกร่งเอาไว้ จากนั้นก็โน้มหน้าเข้ามาหา นัยน์ตาสีเขียวแสนสวยของเขาจ้องมองหล่อนไม่วางตา“รู้สึกผิดใช่ไหมที่ทำให้ฉันถูกยุงรุมทึ้งทั้งคืนน่ะ”“เอ่อ... ก็... ใช่ค่ะ”หล่อนตอบตะกุกตะกัก สายตาของเขาทำให้หล่อนร้อนรุ่มไปทั้งตัว โดยเฉพาะในอุ้งเชิงกราน จนต้องรีบเสหลบสายตาคม จึงไม่ทันได้เห็นแววตาเจ้าเล่ห์ในนั้น“อยากไถ่บาปไหมล่ะ”“ก็... กำลังท
“คุณแม็กต้องนอนข้างนอกห้องค่ะ”ปั้นหยาโยนหมอนกับผ้าห่มใส่มือของคนตัวโต และดันให้เขาออกไปนอกห้องนอนของตนเอง“แต่คุณย่าให้ฉันนอนกับเธอนะ ปั้นหยา”แม็กซิมัสถูกคนตัวเล็กผลักจนพ้นออกมาจากห้องนอนสีหวานโดยไม่ทันได้ตั้งตัวเอ่ยแย้งขึ้น“คุณย่าอนุญาต แต่หยาไม่ได้อนุญาตค่ะ”“นี่เธอจะให้ฉันนอนตากยุงจริงๆ หรือ”“จริงค่ะ”แม็กซิมัสไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตัวเองต้องมาตกระกำลำบากด้วยฝีมือของผู้หญิงที่ตัวเองเคยตราหน้าว่าสารเลวอย่างปั้นหยา ความจริงเขาไม่ยอมก็ได้ ผลักหล่อนเข้าไป และปล้ำเสียให้รู้แล้วรู้รอด แค่นี้ปั้นหยาก็ต้องยอมสยบแล้ว แต่เพราะไม่อยากให้ปั้นหยาโกรธมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่จึงต้องยอม“ก็ได้ ฉันจะนอนหน้าห้องนี่แหละ พอใจหรือยังล่ะ”“หยาจะพอใจมาก ถ้าคุณแม็กกลับไปซะ”คนตัวโตส่ายหน้าไปมา “ฉันไม่กลับหรอก จะอยู่ที่นี่กับเธอนั่นแหละ”“งั้นก็ทนนอนตากยุงไปเถอะค่ะ ราตรีสวัสดิ์”ปั้นหยากำลังจะปิดประตูใส่หน้าของแม็กซิมัส แต่ชายหนุ่มทิ้งผ้าห่มกับหมอนในอุ้งมือ และกระชากร่างเล็กเข้ามากอดเสียก่อน จากนั้นเขาก็จูบปากอิ่มนั้นอย่างเร่าร้อน“อื้อ... อุ๊บบบ”ปั้นหยาดิ้นรน ผลักไส มือเล็กทุบแผงอกกว้างแรงๆ แต่เขาไม่สะทก