หลังจากช็อปปิ้งอย่างสบายอารมณ์เสร็จ อันนาก็เดินหิ้วถุงกระดาษหลายใบมายังลานจอดรถใต้อาคารของห้างดัง หล่อนกำลังจะก้าวขึ้นรถ แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งตกใจ เมื่อพบว่าประวิทย์มายืนอยู่ข้างหลัง พร้อมกับมีดจี้มาที่เอวของหล่อน“อีสารเลว วันนี้มึงได้ชดใช้เวรกรรมแน่”หน้าของอันนาซีดเผือด “นี่แก... ยังไม่ตายอีกเหรอ ไอ้สัตว์นรก”“กูยังตายไม่ได้หรอก ถ้ายังไม่ทำให้ชีวิตมึงป่นปี้เสียก่อน”“มึงจะทำอะไรกู...” อันนาละล่ำละลักถาม และก็ไม่กล้าขัดขืนเพราะมีมีดแหลมจี้อยู่ที่บั้นเอว“กูจะทำให้มึงตกนรกยังไงล่ะ อีสารเลว!”“อย่านะ อย่าทำอะไรฉัน”“มึงอย่ามาอ้อนวอนกู ผู้หญิงอย่างมึงมันเชื่อใจไม่ได้ ขนาดกูยอมทำตามความต้องการของมึงทุกอย่าง แต่มึงก็ยังคิดจะฆ่ากู” ประวิทย์เค้นเสียงออกมาอย่างโกรธแค้น“พี่วิทย์... พี่วิทย์ขา ฉันขอโทษ... โอ๊ย” เส้นผมของอันนาถูกมือใหญ่ของประวิทย์กระชากแรงๆ จนขาดหลุดติดมือมานับสิบเส้น“มึงอย่ามาตอแหล กูไม่หลงกลมึงแล้ว”“ฉันขอโทษนะที่ทำแบบนั้น แต่ฉัน... จะให้เงินพี่เยอะๆ อยากได้เท่าไหร่ก็บอกมาเลย ฉันมีเงิน โอ๊ยยยย”เพียะ!หน้าของอันนาถูกตบจนล้มคว่ำลงไปกับพื้นลานจอดรถ ก่อนที่ประวิทย์จะตามไปกระชาก
“คุณท่านคะ มีสายจากตำรวจค่ะ”หน้าตาตื่นเต้นของสาวใช้ที่วิ่งถือกระบอกโทรศัพท์ไร้สายสีดำเข้ามาหาทำให้คุณย่าวารีที่กำลังนั่งฟังปั้นหยาอ่านหนังสือให้ฟังต้องขยับกายลุกขึ้นนั่ง และยื่นมือไปรับโทรศัพท์มาแนบหู“สวัสดีค่ะ ฉันวารี...”คุณย่าวารีกรอกเสียงไปตามสาย และสักพักสีหน้าของท่านก็เต็มไปด้วยความตกใจ“โอเคค่ะ เดี๋ยวฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้”หญิงสูงวัยยื่นโทรศัพท์ไร้สายคืนให้สาวใช้ ก่อนจะหันมาพูดกับปั้นหยาที่มองมาด้วยความสงสัย“เราต้องรีบไปสถานีตำรวจแม่หยา”“ไปสถานีตำรวจ? ไปทำไมคะคุณย่า” คิ้วโก่งสวยของปั้นหยาเลิกสูงคุณย่าวารีถอนใจออกมาแรงๆ ก่อนจะตอบ “แม่อันถูกตำรวจจับ”“น้องอัน...”ปั้นหยาตกใจมาก และถึงแม้อันนาจะไม่เคยมองเห็นหล่อนเป็นพี่เลย แต่หล่อนก็ไม่เคยคิดจะเกลียดอันนาแม้แต่สักครั้ง“แม่อันฆ่าคนตาย”ดวงหน้าของปั้นหยาซีดเผือด แต่ใบหน้าของคุณย่าวารีซีดกว่า หล่อนเข้าใจความรู้สึกของท่านดี“คุณย่าอย่ากังวลนะคะ เราไปคุยกับตำรวจ จะได้ประกันตัวน้องอันออกมา”แม้คุณย่าจะฝืนยิ้มออกมา แต่ปั้นหยาก็รู้ดีว่าท่านคงกำลังวิตกกังวลมากแค่ไหน เพราะถึงแม้ท่านจะดุด่าอันนาบ่อยๆ แต่ลึกๆ แล้วท่านก็รักอันนาไม่ต่างจากท
คราวนี้หล่อนต้องช้อนตาขึ้นมองเขา มองเขาด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจเหลือคณานับ“ก็เพราะคุณแม็กจะต้องกล้ำกลืนฝืนทนนั่งรถไปกับผู้หญิงที่ตัวเองขยะแขยงยังไงล่ะคะ”แม็กซิมัสถอนใจยาวเหยียด เขาไม่คิดเลยว่าตัวเองจะถูกคำพูดที่เคยพ่นรดหน้าของปั้นหยาย้อนกลับมาทำร้ายแบบนี้ นี่เขากำลังถูกกรรมตามสนองใช่ไหม“ก็บอกไปเมื่อกี้แล้วนี่ว่าไม่ได้รังเกียจ ไม่ได้ขยะแขยงอะไรเธอแล้ว ขึ้นรถเถอะ”“ไม่ค่ะ ถ้าคุณแม็กไม่พูดตรงนี้ หยาก็จะไม่ฟังอีก ขอตัวนะคะ”หล่อนสะบัดตัวแรงๆ จนพ้นจากพันธนาการของเขา ฝ่าเท้ากำลังก้าวหนี แต่เขาก็สวมกอดเข้ามาทางด้านหลังในเสี้ยววินาทีต่อมากายสาวเกร็งเครียด หัวใจเต้นแรงระรัวด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว เขากำลังเล่นเกมอะไรกับหล่อนเนี่ยปั้นหยาต้องสะกดกลั้นความโหยหาที่มีต่อแม็กซิมัสเอาไว้สุดกำลัง หล่อนไม่เคยเกลียดเขาได้เลย ไม่ว่าเขาจะร้ายกาจกับตนเองสักแค่ไหนก็ตาม“ปล่อยหยาค่ะ”“รับปากก่อนว่าจะขึ้นรถ”ปั้นหยารู้ดีว่าหากไม่ทำตามความต้องการของแม็กซิมัส เรื่องมันก็จะไม่มีวันจบ“ค่ะ”อ้อมแขนกำยำคลายออก พร้อมกับเขาที่ก้าวไปเปิดประตูรถให้ หล่อนเม้มปากเป็นเส้นตรงซ้ำอีก และก็ตัดสินใจก้าวขึ้นไปนั่งบนรถสปอร์ตคันง
“ขอบคุณค่ะลุง”หล่อนกล่าวขอบคุณลุงขับแท็กซี่ พร้อมกับยื่นค่าโดยสารให้ จากนั้นก็รีบเดินเข้าไปในสถานีตำรวจ และก็เห็นว่าคุณย่าวารีนั่งคุยอยู่กับตำรวจท่านหนึ่ง“คุณย่า...”คุณย่าวารีหันมามองหล่อน สีหน้าของท่านเคร่งเครียดอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน หล่อนรีบเข้าไปนั่งข้างๆ ท่าน จับมือท่านเอาไว้อย่างให้กำลังใจ“น้องอันเป็นยังไงบ้างคะ แล้วตอนนี้อยู่ไหน”“แม่อันฆ่าคนตาย”ดวงหน้าของปั้นหยาซีดเผือด ก่อนจะมองตำรวจ “คุณตำรวจคะ น้องอันทำเพราะป้องกันตัวใช่ไหมคะ”“ผู้ต้องหาฆ่าคนตายเพราะบันดาลโทสะครับ”“บันดาลโทสะเหรอคะ”คุณย่าวารีมองหน้าหล่อน “คนตายก็คือนายประวิทย์ ผู้ต้องหาที่หนีคดีอยู่ไงแม่หยา”“แล้วทำไมน้องอันจะต้องฆ่าเขาด้วยคะ”“ก็เพราะนายประวิทย์เปิดเผยความชั่วของแม่อันให้กับคุณหมอแม็กรู้ยังไงล่ะ”ปั้นหยาช็อกค้าง พูดไม่ออก และก็อดสงสารอันนาไม่ได้“ตอนนี้แม่อันคลุ้มคลั่ง ตำรวจนำส่งโรงพยาบาลไปแล้ว เดี๋ยวย่าจะไปเยี่ยม แม่หยาจะไปด้วยกันไหม”“หยาไปด้วยค่ะ หยาเป็นห่วงน้องอัน”คุณย่าวารียกมือขึ้นลูบศีรษะของปั้นหยาอย่างเอ็นดู “ย่าก็เลี้ยงดูทั้งหยาทั้งแม่อันมาด้วยกัน ทำไมแม่อันถึงมีใจคอเหี้ยมโหดต่างจากหยานั
ความรู้สึกของแม็กซิมัสในตอนนี้ราวกับกำลังถูกสายน้ำกลืนกินจนหายใจไม่ออก หลังจากที่เขาฟังรายงานการตรวจสุขภาพของปั้นหยาจากคุณหมอเจ้าของไข้‘คนไข้ตั้งครรภ์ครับ’เขาแทบล้มทั้งยืนเมื่อได้ยินคำพูดนั้นจากปากของคุณหมอสูงวัยตรงหน้า สองขาไร้เรี่ยวแรงแม้แต่จะทรงกายให้ยืนนิ่ง เขาถามกลับซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะคิดว่าตัวเองอาจจะหูฝาดเฝื่อน แต่สิ่งที่ได้ยินกลับมาหลายครั้งมันก็ยังเหมือนเดิมนั่นก็คือปั้นหยาตั้งท้อง...เขาไม่อาจจะบรรยายความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้ออกมาได้เลย ไม่อาจจะแยกแยะได้ว่าตอนนี้สมองกำลังคิดอะไรอยู่ รู้เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้เสียใจกับข่าวที่ได้ยินเลยชายหนุ่มเดินมาหยุดที่ขอบเตียง มองร่างแบบบางที่แทบปลิวตามลมของปั้นหยาด้วยความรู้สึกผิดบาปหล่อนอ่อนแอและแบบบางขนาดนี้ แต่เขาก็กระทำป่าเถื่อนกับหล่อนนับครั้งไม่ถ้วน หยาดน้ำตาของหล่อนไม่สามารถหยุดยั้งไฟโทสะได้เลยราวกับถูกหมัดหนาหนักซัดเข้าใส่ปลายคางจนแทบล้มทั้งยืน คำอ้อนวอนขอความเมตตาของปั้นหยาผุดพรายขึ้นในสมอง แต่ตอนนั้นเขาเหมือนหูดับตาบอด แยกแยะไม่ออกว่าอะไรคือความจริงอะไรคือคำลวงเขาข่มเหงหล่อน กระทำหยาบช้ากับหล่อน แถมยังโปรยเงินตราใส่ทุกครั
ปั้นหยานั่งนิ่งเงียบราวกับเป็นใบ้มาตลอดเส้นทาง ดวงตาของหล่อนจ้องมองฝ่าความมืดสลัวออกไปนอกตัวรถหรู มือเล็กประสานกันนิ่งบนตัก และก็ภาวนาให้ถึงบ้านเร็วที่สุดหล่อนไม่อยากอยู่ใกล้กับแม็กซิมัส ไม่อยากถูกอำนาจแห่งตัณหาราคะที่หล่อนไม่มีทางรับมือไหวเล่นงานเหมือนตอนอยู่ในห้องพักฟื้นหากเขาไม่หยุด หล่อนไม่อยากจะคิดเลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากจูบหวามนั้นหล่อนเกลียดตัวเองเหลือเกินที่เข้มแข็งไม่พอ ใจอ่อนเสมอเมื่อผู้ชายคนนั้นคือแม็กซิมัสหล่อนควรเกลียดเขาสิ เกลียดเขาให้มากๆ ให้สมกับความใจร้ายของเขา แต่กลับเกลียดเขาไม่ลง ไม่ว่าจะพยายามเกลียดสักแค่ไหนก็ตาม“นี่มัน... ไม่ใช่ทางไปบ้านคุณย่านี่คะ”นี่คือคำพูดแรกจากปากของหล่อน“นึกว่ามากับคนใบ้เสียอีก”คนตัวโตพูดอย่างอารมณ์ดี แต่หล่อนไม่ได้อยู่ในอารมณ์เดียวกันกับเขาเลย“คุณแม็กกำลังจะพาหยาไปไหนคะ นี่ไม่ใช่ทางกลับบ้านของหยา” หล่อนมองเขาตาเขียวปั๊ด แต่เขากลับอมยิ้ม“ก็กลับบ้านไงล่ะ”“ไม่ใช่ทางนี้ค่ะ”“บ้านฉัน”คำตอบของคนตัวโตทำเอาดวงตาของหล่อนแทบจะถลนออกมาจากเบ้าตา และหลังจากนั่งตั้งสติอยู่พักใหญ่ หล่อนก็ละล่ำละลักคัดค้าน“ไม่ค่ะ หยาไม่ไปบ้านคุณแม็ก...”“แต
ปั้นหยาตื่นขึ้นมาพร้อมกับความเมื่อยขบ หลังจากที่เมื่อคืนถูกแม็กซิมัสกัดกินร่างกายจนเกือบรุ่งสาง มือเล็กยกขึ้นลูบหน้าไปมา ก่อนจะขยับกายลุกขึ้นนั่ง และมองหาอะไรบางอย่างรอบตัว แต่ก็ไม่พบธนบัตรค่าตัวของหล่อน ที่แม็กซิมัสจะโปรยเอาไว้รอบตัวทุกครั้งหลังจากลุกขึ้นไปจากเตียง“มองหาอะไรอยู่จ๊ะ”คนตัวโตเปิดประตูห้องออก ก่อนจะเดินเข้ามาพร้อมกับรถเข็นที่มีอาหารมากมายหน้าตาน่ารับประทาน แถมกลิ่นของมันยังหอมหวนเตะจมูก“เงินไงคะ” หล่อนประชดประชันออกไป ขณะดึงผ้าห่มขึ้นปิดหน้าอกอวบเปลือยของตนเองแม็กซิมัสอมยิ้ม เดินมาทรุดนั่งลงบนเตียงใกล้ๆ กับร่างอวบอัดของแม่สาวน้อยคนงาม“อยู่ในบัญชีน่ะ จะเอาเท่าไหร่ดีล่ะ สิบล้าน ยี่สิบล้าน หรือทั้งหมดของฉันเลยก็ได้นะ”ปั้นหยามองหน้าคนอวดรวยด้วยความหมั่นไส้ “ก็ปกติคุณแม็กจะโปรยเงินเอาไว้บนเตียงนี่คะ”“อย่าพูดถึงอดีตอีกเลยปั้นหยา แค่นี้ฉันก็รู้สึกผิดจะแย่อยู่แล้ว รู้ไหม”หล่อนย่นจมูกใส่คนตัวโต “คุณแม็กไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดอะไรหรอกค่ะ เพราะหยาไม่ใช่คนที่คุณแม็กต้องมาแคร์” น้ำเสียงเต็มไปด้วยความแง่งอน “เสื้อผ้าหยาอยู่ไหนคะ หยาจะอาบน้ำ แล้วก็จะกลับบ้าน”“แม่บ้านเอาไปซักให
“สวัสดีครับคุณย่าวารี”แม็กซิมัสกล่าวทักทายผู้ใหญ่ฝ่ายของปั้นหยา เมื่อหญิงสูงวัยเดินทางมาถึงคฤหาสน์หลังงามของตนเองตามที่นัดหมายกันเอาไว้“สวัสดีค่ะคุณหมอแม็ก”คุณย่าวารีกล่าวทักทายชายหนุ่มรูปหล่อตรงหน้า ก่อนจะชะเง้อคอมองหาปั้นหยา“แล้วนี่แม่หยาไปไหนซะล่ะคะ”แม็กซิมัสระบายยิ้มบางๆ เดินนำคุณย่าวารีไปนั่งในห้องโถงที่พนักงานจากสำนักงานเขตฯ นั่งรออยู่ก่อนหน้าแล้ว“อยู่บนห้องครับ นี่ผมให้เด็กขึ้นไปตามแล้วครับ”คุณย่าวารีอมยิ้ม หย่อนกายลงนั่งบนโซฟา กล่าวทักทายเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขตฯ อย่างเป็นกันเอง จากนั้นก็หันมาพูดกับแม็กซิมัสอีกครั้ง“ปรับความเข้าใจกันดีแล้วใช่ไหมคะคุณหมอ”“ครับ”หญิงสูงวัยระบายยิ้มผ่อนคลาย “โชคดีนะคะที่แม่หยาเป็นเด็กหัวอ่อน ไม่อย่างนั้นคุณหมอคงไม่มีโอกาสได้จดทะเบียนสมรสเป็นครั้งที่สองกับหลานสาวของฉันแน่นอนค่ะ”“ครับ ผมโชคดีมากที่ปั้นหยาให้โอกาสผมอีกครั้ง”“ฉันถามจริงๆ เถอะนะคะคุณหมอ”“ครับ” แม็กซิมัสสบตากับหญิงสูงวัย และรอคอยที่จะตอบคำถามของท่าน“รักหลานสาวของฉันบ้างไหม หรือว่าที่จดทะเบียนสมรสนี่ก็เพราะแค่แม่หยาท้องเท่านั้น”“ผมก็ยังไม่แน่ใจครับ”คุณย่าวารีถอนใจออกมาแผ