คราวนี้หล่อนต้องช้อนตาขึ้นมองเขา มองเขาด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจเหลือคณานับ“ก็เพราะคุณแม็กจะต้องกล้ำกลืนฝืนทนนั่งรถไปกับผู้หญิงที่ตัวเองขยะแขยงยังไงล่ะคะ”แม็กซิมัสถอนใจยาวเหยียด เขาไม่คิดเลยว่าตัวเองจะถูกคำพูดที่เคยพ่นรดหน้าของปั้นหยาย้อนกลับมาทำร้ายแบบนี้ นี่เขากำลังถูกกรรมตามสนองใช่ไหม“ก็บอกไปเมื่อกี้แล้วนี่ว่าไม่ได้รังเกียจ ไม่ได้ขยะแขยงอะไรเธอแล้ว ขึ้นรถเถอะ”“ไม่ค่ะ ถ้าคุณแม็กไม่พูดตรงนี้ หยาก็จะไม่ฟังอีก ขอตัวนะคะ”หล่อนสะบัดตัวแรงๆ จนพ้นจากพันธนาการของเขา ฝ่าเท้ากำลังก้าวหนี แต่เขาก็สวมกอดเข้ามาทางด้านหลังในเสี้ยววินาทีต่อมากายสาวเกร็งเครียด หัวใจเต้นแรงระรัวด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว เขากำลังเล่นเกมอะไรกับหล่อนเนี่ยปั้นหยาต้องสะกดกลั้นความโหยหาที่มีต่อแม็กซิมัสเอาไว้สุดกำลัง หล่อนไม่เคยเกลียดเขาได้เลย ไม่ว่าเขาจะร้ายกาจกับตนเองสักแค่ไหนก็ตาม“ปล่อยหยาค่ะ”“รับปากก่อนว่าจะขึ้นรถ”ปั้นหยารู้ดีว่าหากไม่ทำตามความต้องการของแม็กซิมัส เรื่องมันก็จะไม่มีวันจบ“ค่ะ”อ้อมแขนกำยำคลายออก พร้อมกับเขาที่ก้าวไปเปิดประตูรถให้ หล่อนเม้มปากเป็นเส้นตรงซ้ำอีก และก็ตัดสินใจก้าวขึ้นไปนั่งบนรถสปอร์ตคันง
“ขอบคุณค่ะลุง”หล่อนกล่าวขอบคุณลุงขับแท็กซี่ พร้อมกับยื่นค่าโดยสารให้ จากนั้นก็รีบเดินเข้าไปในสถานีตำรวจ และก็เห็นว่าคุณย่าวารีนั่งคุยอยู่กับตำรวจท่านหนึ่ง“คุณย่า...”คุณย่าวารีหันมามองหล่อน สีหน้าของท่านเคร่งเครียดอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน หล่อนรีบเข้าไปนั่งข้างๆ ท่าน จับมือท่านเอาไว้อย่างให้กำลังใจ“น้องอันเป็นยังไงบ้างคะ แล้วตอนนี้อยู่ไหน”“แม่อันฆ่าคนตาย”ดวงหน้าของปั้นหยาซีดเผือด ก่อนจะมองตำรวจ “คุณตำรวจคะ น้องอันทำเพราะป้องกันตัวใช่ไหมคะ”“ผู้ต้องหาฆ่าคนตายเพราะบันดาลโทสะครับ”“บันดาลโทสะเหรอคะ”คุณย่าวารีมองหน้าหล่อน “คนตายก็คือนายประวิทย์ ผู้ต้องหาที่หนีคดีอยู่ไงแม่หยา”“แล้วทำไมน้องอันจะต้องฆ่าเขาด้วยคะ”“ก็เพราะนายประวิทย์เปิดเผยความชั่วของแม่อันให้กับคุณหมอแม็กรู้ยังไงล่ะ”ปั้นหยาช็อกค้าง พูดไม่ออก และก็อดสงสารอันนาไม่ได้“ตอนนี้แม่อันคลุ้มคลั่ง ตำรวจนำส่งโรงพยาบาลไปแล้ว เดี๋ยวย่าจะไปเยี่ยม แม่หยาจะไปด้วยกันไหม”“หยาไปด้วยค่ะ หยาเป็นห่วงน้องอัน”คุณย่าวารียกมือขึ้นลูบศีรษะของปั้นหยาอย่างเอ็นดู “ย่าก็เลี้ยงดูทั้งหยาทั้งแม่อันมาด้วยกัน ทำไมแม่อันถึงมีใจคอเหี้ยมโหดต่างจากหยานั
ความรู้สึกของแม็กซิมัสในตอนนี้ราวกับกำลังถูกสายน้ำกลืนกินจนหายใจไม่ออก หลังจากที่เขาฟังรายงานการตรวจสุขภาพของปั้นหยาจากคุณหมอเจ้าของไข้‘คนไข้ตั้งครรภ์ครับ’เขาแทบล้มทั้งยืนเมื่อได้ยินคำพูดนั้นจากปากของคุณหมอสูงวัยตรงหน้า สองขาไร้เรี่ยวแรงแม้แต่จะทรงกายให้ยืนนิ่ง เขาถามกลับซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะคิดว่าตัวเองอาจจะหูฝาดเฝื่อน แต่สิ่งที่ได้ยินกลับมาหลายครั้งมันก็ยังเหมือนเดิมนั่นก็คือปั้นหยาตั้งท้อง...เขาไม่อาจจะบรรยายความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้ออกมาได้เลย ไม่อาจจะแยกแยะได้ว่าตอนนี้สมองกำลังคิดอะไรอยู่ รู้เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้เสียใจกับข่าวที่ได้ยินเลยชายหนุ่มเดินมาหยุดที่ขอบเตียง มองร่างแบบบางที่แทบปลิวตามลมของปั้นหยาด้วยความรู้สึกผิดบาปหล่อนอ่อนแอและแบบบางขนาดนี้ แต่เขาก็กระทำป่าเถื่อนกับหล่อนนับครั้งไม่ถ้วน หยาดน้ำตาของหล่อนไม่สามารถหยุดยั้งไฟโทสะได้เลยราวกับถูกหมัดหนาหนักซัดเข้าใส่ปลายคางจนแทบล้มทั้งยืน คำอ้อนวอนขอความเมตตาของปั้นหยาผุดพรายขึ้นในสมอง แต่ตอนนั้นเขาเหมือนหูดับตาบอด แยกแยะไม่ออกว่าอะไรคือความจริงอะไรคือคำลวงเขาข่มเหงหล่อน กระทำหยาบช้ากับหล่อน แถมยังโปรยเงินตราใส่ทุกครั
ปั้นหยานั่งนิ่งเงียบราวกับเป็นใบ้มาตลอดเส้นทาง ดวงตาของหล่อนจ้องมองฝ่าความมืดสลัวออกไปนอกตัวรถหรู มือเล็กประสานกันนิ่งบนตัก และก็ภาวนาให้ถึงบ้านเร็วที่สุดหล่อนไม่อยากอยู่ใกล้กับแม็กซิมัส ไม่อยากถูกอำนาจแห่งตัณหาราคะที่หล่อนไม่มีทางรับมือไหวเล่นงานเหมือนตอนอยู่ในห้องพักฟื้นหากเขาไม่หยุด หล่อนไม่อยากจะคิดเลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากจูบหวามนั้นหล่อนเกลียดตัวเองเหลือเกินที่เข้มแข็งไม่พอ ใจอ่อนเสมอเมื่อผู้ชายคนนั้นคือแม็กซิมัสหล่อนควรเกลียดเขาสิ เกลียดเขาให้มากๆ ให้สมกับความใจร้ายของเขา แต่กลับเกลียดเขาไม่ลง ไม่ว่าจะพยายามเกลียดสักแค่ไหนก็ตาม“นี่มัน... ไม่ใช่ทางไปบ้านคุณย่านี่คะ”นี่คือคำพูดแรกจากปากของหล่อน“นึกว่ามากับคนใบ้เสียอีก”คนตัวโตพูดอย่างอารมณ์ดี แต่หล่อนไม่ได้อยู่ในอารมณ์เดียวกันกับเขาเลย“คุณแม็กกำลังจะพาหยาไปไหนคะ นี่ไม่ใช่ทางกลับบ้านของหยา” หล่อนมองเขาตาเขียวปั๊ด แต่เขากลับอมยิ้ม“ก็กลับบ้านไงล่ะ”“ไม่ใช่ทางนี้ค่ะ”“บ้านฉัน”คำตอบของคนตัวโตทำเอาดวงตาของหล่อนแทบจะถลนออกมาจากเบ้าตา และหลังจากนั่งตั้งสติอยู่พักใหญ่ หล่อนก็ละล่ำละลักคัดค้าน“ไม่ค่ะ หยาไม่ไปบ้านคุณแม็ก...”“แต
ปั้นหยาตื่นขึ้นมาพร้อมกับความเมื่อยขบ หลังจากที่เมื่อคืนถูกแม็กซิมัสกัดกินร่างกายจนเกือบรุ่งสาง มือเล็กยกขึ้นลูบหน้าไปมา ก่อนจะขยับกายลุกขึ้นนั่ง และมองหาอะไรบางอย่างรอบตัว แต่ก็ไม่พบธนบัตรค่าตัวของหล่อน ที่แม็กซิมัสจะโปรยเอาไว้รอบตัวทุกครั้งหลังจากลุกขึ้นไปจากเตียง“มองหาอะไรอยู่จ๊ะ”คนตัวโตเปิดประตูห้องออก ก่อนจะเดินเข้ามาพร้อมกับรถเข็นที่มีอาหารมากมายหน้าตาน่ารับประทาน แถมกลิ่นของมันยังหอมหวนเตะจมูก“เงินไงคะ” หล่อนประชดประชันออกไป ขณะดึงผ้าห่มขึ้นปิดหน้าอกอวบเปลือยของตนเองแม็กซิมัสอมยิ้ม เดินมาทรุดนั่งลงบนเตียงใกล้ๆ กับร่างอวบอัดของแม่สาวน้อยคนงาม“อยู่ในบัญชีน่ะ จะเอาเท่าไหร่ดีล่ะ สิบล้าน ยี่สิบล้าน หรือทั้งหมดของฉันเลยก็ได้นะ”ปั้นหยามองหน้าคนอวดรวยด้วยความหมั่นไส้ “ก็ปกติคุณแม็กจะโปรยเงินเอาไว้บนเตียงนี่คะ”“อย่าพูดถึงอดีตอีกเลยปั้นหยา แค่นี้ฉันก็รู้สึกผิดจะแย่อยู่แล้ว รู้ไหม”หล่อนย่นจมูกใส่คนตัวโต “คุณแม็กไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดอะไรหรอกค่ะ เพราะหยาไม่ใช่คนที่คุณแม็กต้องมาแคร์” น้ำเสียงเต็มไปด้วยความแง่งอน “เสื้อผ้าหยาอยู่ไหนคะ หยาจะอาบน้ำ แล้วก็จะกลับบ้าน”“แม่บ้านเอาไปซักให
“สวัสดีครับคุณย่าวารี”แม็กซิมัสกล่าวทักทายผู้ใหญ่ฝ่ายของปั้นหยา เมื่อหญิงสูงวัยเดินทางมาถึงคฤหาสน์หลังงามของตนเองตามที่นัดหมายกันเอาไว้“สวัสดีค่ะคุณหมอแม็ก”คุณย่าวารีกล่าวทักทายชายหนุ่มรูปหล่อตรงหน้า ก่อนจะชะเง้อคอมองหาปั้นหยา“แล้วนี่แม่หยาไปไหนซะล่ะคะ”แม็กซิมัสระบายยิ้มบางๆ เดินนำคุณย่าวารีไปนั่งในห้องโถงที่พนักงานจากสำนักงานเขตฯ นั่งรออยู่ก่อนหน้าแล้ว“อยู่บนห้องครับ นี่ผมให้เด็กขึ้นไปตามแล้วครับ”คุณย่าวารีอมยิ้ม หย่อนกายลงนั่งบนโซฟา กล่าวทักทายเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขตฯ อย่างเป็นกันเอง จากนั้นก็หันมาพูดกับแม็กซิมัสอีกครั้ง“ปรับความเข้าใจกันดีแล้วใช่ไหมคะคุณหมอ”“ครับ”หญิงสูงวัยระบายยิ้มผ่อนคลาย “โชคดีนะคะที่แม่หยาเป็นเด็กหัวอ่อน ไม่อย่างนั้นคุณหมอคงไม่มีโอกาสได้จดทะเบียนสมรสเป็นครั้งที่สองกับหลานสาวของฉันแน่นอนค่ะ”“ครับ ผมโชคดีมากที่ปั้นหยาให้โอกาสผมอีกครั้ง”“ฉันถามจริงๆ เถอะนะคะคุณหมอ”“ครับ” แม็กซิมัสสบตากับหญิงสูงวัย และรอคอยที่จะตอบคำถามของท่าน“รักหลานสาวของฉันบ้างไหม หรือว่าที่จดทะเบียนสมรสนี่ก็เพราะแค่แม่หยาท้องเท่านั้น”“ผมก็ยังไม่แน่ใจครับ”คุณย่าวารีถอนใจออกมาแผ
แม็กซิมัสตั้งใจจะไปตามปั้นหยาที่บ้านของคุณย่าวารีตั้งแต่ช่วงเช้า แต่พอเขาขับรถออกจากบ้านได้เพียงแค่ไม่กี่นาที ทางโรงพยาบาลก็โทรมาหา และบอกว่าอันนาพยายามที่จะฆ่าตัวตายเขาจำต้องหักเลี้ยวรถกลับไปอีกทาง เพื่อมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลทันที แม้ตอนนี้เขาจะหมดรักในตัวของอันนาแล้ว แต่ยังไงซะความรู้สึกดีๆ ในฐานะเพื่อนก็ยังคงมีให้อยู่“คุณแม็กคะ คนไข้อาละวาดใหญ่เลยค่ะ”นางพยาบาลวิ่งออกมาจากห้องพักฟื้นของอันนาด้วยสีหน้าที่ตื่นตกใจ เสียงกรีดร้องของอันนาดังลั่นมาเข้าหู ทั้งๆ ที่เขายังไม่ได้ก้าวเข้าไปในห้องนั้นแม้แต่น้อย“ทำไมเธอถึงอาละวาดครับ”“เธอร้องหาแต่คุณแม็กค่ะ”กรามแกร่งของแม็กซิมัสขบกันแน่น ก่อนที่เขาจะยื่นมือไปกุมที่ลูกบิดประตู“คุณแม็กระวังนะคะ เธอแรงเยอะมาก” นางพยาบาลบอกอย่างเป็นห่วง“แต่เธอถูกมัดมือมัดเท้าเอาไว้ใช่ไหมครับ”“ใช่ค่ะ แต่เธอก็ดิ้นจนผ้าที่ผูกเท้าเอาไว้หลุดทั้งสองข้างค่ะ”“คุณไปเถอะ เดี๋ยวผมจัดการเอง”“คุณแม็กระวังตัวนะคะ”เขายิ้มบางๆ ให้กับนางพยาบาล ก่อนจะตัดสินใจเข้าไปในห้องพักฟื้นของอันนาเสียงกรีดร้องของอันนาสงบลงทันทีเมื่อเห็นหน้าของเขา“พี่แม็ก... พี่แม็กมาช่วยอันแล้วใช่ไ
ร่างสูงที่อัดแน่นไปด้วยมัดกล้ามเนื้อสมบูรณ์แบบที่ซ่อนอยู่ในชุดสูทเรียบหรูพอดีตัวปรากฏกายขึ้นเบื้องหน้า ใบหน้าหล่อเหลาบูดบึ้งอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาสีเขียวที่ดึงดูดให้หล่อนลุ่มหลงตอนนี้เต็มไปด้วยความไม่พอใจ และจ้องเขม็งมายังหล่อนที่กำลังนั่งคุยอยู่กับไตรทศที่ริมระเบียงหล่อนเกลียดตัวเองจังที่ยังคงปล่อยให้เขามีอิทธิพลด้วยขนาดนี้ กายสาวคล้ายกับถูกไฟลามเลียเพียงแค่ถูกดวงตาสีเขียวจ้องมองมาเท่านั้น“คุณย่าอยู่ในห้องรับแขกค่ะ” หล่อนกัดฟันทำลายสงครามเย็นที่แม็กซิมัสเป็นฝ่ายเริ่มต้นด้วยน้ำเสียงที่พยายามปั้นให้ราบเรียบ แต่ให้ตายเถอะ ท้ายประโยคมันกลับสั่นเทาจนน่าเวทนา“ฉันไม่ได้มาพบคุณย่าวารี”เขาเดินมาหยุดตรงหน้าของหล่อนกับไตรทศ สายตาของเขาจ้องหน้าไตรทศราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ“ฉันมาหาเธอ”ร่างกายของหล่อนขานรับต่อคำพูดของเขา มันอุ่นซ่านและยอดทรวงก็เคร่งเครียดชูชันอยู่ในบราเซียร์อย่างน่าอับอาย ทำไมหล่อนจะต้องมีปฏิกิริยากับผู้ชายคนนี้ด้วย ทั้งๆ ที่เขาร้ายแสนร้าย“หยา... มีแขกค่ะ”“มีแขกแล้วไง แขกกับผัว ใครสำคัญกว่ากัน” แล้วเขาก็ทรุดกายลงนั่งโดยพลการ และไม่สนใจคำขับไล่ไสส่งของหล่อนแม้แต่น้อย“คุณแม็