ความรู้สึกของแม็กซิมัสในตอนนี้ราวกับกำลังถูกสายน้ำกลืนกินจนหายใจไม่ออก หลังจากที่เขาฟังรายงานการตรวจสุขภาพของปั้นหยาจากคุณหมอเจ้าของไข้‘คนไข้ตั้งครรภ์ครับ’เขาแทบล้มทั้งยืนเมื่อได้ยินคำพูดนั้นจากปากของคุณหมอสูงวัยตรงหน้า สองขาไร้เรี่ยวแรงแม้แต่จะทรงกายให้ยืนนิ่ง เขาถามกลับซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะคิดว่าตัวเองอาจจะหูฝาดเฝื่อน แต่สิ่งที่ได้ยินกลับมาหลายครั้งมันก็ยังเหมือนเดิมนั่นก็คือปั้นหยาตั้งท้อง...เขาไม่อาจจะบรรยายความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้ออกมาได้เลย ไม่อาจจะแยกแยะได้ว่าตอนนี้สมองกำลังคิดอะไรอยู่ รู้เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้เสียใจกับข่าวที่ได้ยินเลยชายหนุ่มเดินมาหยุดที่ขอบเตียง มองร่างแบบบางที่แทบปลิวตามลมของปั้นหยาด้วยความรู้สึกผิดบาปหล่อนอ่อนแอและแบบบางขนาดนี้ แต่เขาก็กระทำป่าเถื่อนกับหล่อนนับครั้งไม่ถ้วน หยาดน้ำตาของหล่อนไม่สามารถหยุดยั้งไฟโทสะได้เลยราวกับถูกหมัดหนาหนักซัดเข้าใส่ปลายคางจนแทบล้มทั้งยืน คำอ้อนวอนขอความเมตตาของปั้นหยาผุดพรายขึ้นในสมอง แต่ตอนนั้นเขาเหมือนหูดับตาบอด แยกแยะไม่ออกว่าอะไรคือความจริงอะไรคือคำลวงเขาข่มเหงหล่อน กระทำหยาบช้ากับหล่อน แถมยังโปรยเงินตราใส่ทุกครั
ปั้นหยานั่งนิ่งเงียบราวกับเป็นใบ้มาตลอดเส้นทาง ดวงตาของหล่อนจ้องมองฝ่าความมืดสลัวออกไปนอกตัวรถหรู มือเล็กประสานกันนิ่งบนตัก และก็ภาวนาให้ถึงบ้านเร็วที่สุดหล่อนไม่อยากอยู่ใกล้กับแม็กซิมัส ไม่อยากถูกอำนาจแห่งตัณหาราคะที่หล่อนไม่มีทางรับมือไหวเล่นงานเหมือนตอนอยู่ในห้องพักฟื้นหากเขาไม่หยุด หล่อนไม่อยากจะคิดเลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากจูบหวามนั้นหล่อนเกลียดตัวเองเหลือเกินที่เข้มแข็งไม่พอ ใจอ่อนเสมอเมื่อผู้ชายคนนั้นคือแม็กซิมัสหล่อนควรเกลียดเขาสิ เกลียดเขาให้มากๆ ให้สมกับความใจร้ายของเขา แต่กลับเกลียดเขาไม่ลง ไม่ว่าจะพยายามเกลียดสักแค่ไหนก็ตาม“นี่มัน... ไม่ใช่ทางไปบ้านคุณย่านี่คะ”นี่คือคำพูดแรกจากปากของหล่อน“นึกว่ามากับคนใบ้เสียอีก”คนตัวโตพูดอย่างอารมณ์ดี แต่หล่อนไม่ได้อยู่ในอารมณ์เดียวกันกับเขาเลย“คุณแม็กกำลังจะพาหยาไปไหนคะ นี่ไม่ใช่ทางกลับบ้านของหยา” หล่อนมองเขาตาเขียวปั๊ด แต่เขากลับอมยิ้ม“ก็กลับบ้านไงล่ะ”“ไม่ใช่ทางนี้ค่ะ”“บ้านฉัน”คำตอบของคนตัวโตทำเอาดวงตาของหล่อนแทบจะถลนออกมาจากเบ้าตา และหลังจากนั่งตั้งสติอยู่พักใหญ่ หล่อนก็ละล่ำละลักคัดค้าน“ไม่ค่ะ หยาไม่ไปบ้านคุณแม็ก...”“แต
ปั้นหยาตื่นขึ้นมาพร้อมกับความเมื่อยขบ หลังจากที่เมื่อคืนถูกแม็กซิมัสกัดกินร่างกายจนเกือบรุ่งสาง มือเล็กยกขึ้นลูบหน้าไปมา ก่อนจะขยับกายลุกขึ้นนั่ง และมองหาอะไรบางอย่างรอบตัว แต่ก็ไม่พบธนบัตรค่าตัวของหล่อน ที่แม็กซิมัสจะโปรยเอาไว้รอบตัวทุกครั้งหลังจากลุกขึ้นไปจากเตียง“มองหาอะไรอยู่จ๊ะ”คนตัวโตเปิดประตูห้องออก ก่อนจะเดินเข้ามาพร้อมกับรถเข็นที่มีอาหารมากมายหน้าตาน่ารับประทาน แถมกลิ่นของมันยังหอมหวนเตะจมูก“เงินไงคะ” หล่อนประชดประชันออกไป ขณะดึงผ้าห่มขึ้นปิดหน้าอกอวบเปลือยของตนเองแม็กซิมัสอมยิ้ม เดินมาทรุดนั่งลงบนเตียงใกล้ๆ กับร่างอวบอัดของแม่สาวน้อยคนงาม“อยู่ในบัญชีน่ะ จะเอาเท่าไหร่ดีล่ะ สิบล้าน ยี่สิบล้าน หรือทั้งหมดของฉันเลยก็ได้นะ”ปั้นหยามองหน้าคนอวดรวยด้วยความหมั่นไส้ “ก็ปกติคุณแม็กจะโปรยเงินเอาไว้บนเตียงนี่คะ”“อย่าพูดถึงอดีตอีกเลยปั้นหยา แค่นี้ฉันก็รู้สึกผิดจะแย่อยู่แล้ว รู้ไหม”หล่อนย่นจมูกใส่คนตัวโต “คุณแม็กไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดอะไรหรอกค่ะ เพราะหยาไม่ใช่คนที่คุณแม็กต้องมาแคร์” น้ำเสียงเต็มไปด้วยความแง่งอน “เสื้อผ้าหยาอยู่ไหนคะ หยาจะอาบน้ำ แล้วก็จะกลับบ้าน”“แม่บ้านเอาไปซักให
“สวัสดีครับคุณย่าวารี”แม็กซิมัสกล่าวทักทายผู้ใหญ่ฝ่ายของปั้นหยา เมื่อหญิงสูงวัยเดินทางมาถึงคฤหาสน์หลังงามของตนเองตามที่นัดหมายกันเอาไว้“สวัสดีค่ะคุณหมอแม็ก”คุณย่าวารีกล่าวทักทายชายหนุ่มรูปหล่อตรงหน้า ก่อนจะชะเง้อคอมองหาปั้นหยา“แล้วนี่แม่หยาไปไหนซะล่ะคะ”แม็กซิมัสระบายยิ้มบางๆ เดินนำคุณย่าวารีไปนั่งในห้องโถงที่พนักงานจากสำนักงานเขตฯ นั่งรออยู่ก่อนหน้าแล้ว“อยู่บนห้องครับ นี่ผมให้เด็กขึ้นไปตามแล้วครับ”คุณย่าวารีอมยิ้ม หย่อนกายลงนั่งบนโซฟา กล่าวทักทายเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขตฯ อย่างเป็นกันเอง จากนั้นก็หันมาพูดกับแม็กซิมัสอีกครั้ง“ปรับความเข้าใจกันดีแล้วใช่ไหมคะคุณหมอ”“ครับ”หญิงสูงวัยระบายยิ้มผ่อนคลาย “โชคดีนะคะที่แม่หยาเป็นเด็กหัวอ่อน ไม่อย่างนั้นคุณหมอคงไม่มีโอกาสได้จดทะเบียนสมรสเป็นครั้งที่สองกับหลานสาวของฉันแน่นอนค่ะ”“ครับ ผมโชคดีมากที่ปั้นหยาให้โอกาสผมอีกครั้ง”“ฉันถามจริงๆ เถอะนะคะคุณหมอ”“ครับ” แม็กซิมัสสบตากับหญิงสูงวัย และรอคอยที่จะตอบคำถามของท่าน“รักหลานสาวของฉันบ้างไหม หรือว่าที่จดทะเบียนสมรสนี่ก็เพราะแค่แม่หยาท้องเท่านั้น”“ผมก็ยังไม่แน่ใจครับ”คุณย่าวารีถอนใจออกมาแผ
แม็กซิมัสตั้งใจจะไปตามปั้นหยาที่บ้านของคุณย่าวารีตั้งแต่ช่วงเช้า แต่พอเขาขับรถออกจากบ้านได้เพียงแค่ไม่กี่นาที ทางโรงพยาบาลก็โทรมาหา และบอกว่าอันนาพยายามที่จะฆ่าตัวตายเขาจำต้องหักเลี้ยวรถกลับไปอีกทาง เพื่อมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลทันที แม้ตอนนี้เขาจะหมดรักในตัวของอันนาแล้ว แต่ยังไงซะความรู้สึกดีๆ ในฐานะเพื่อนก็ยังคงมีให้อยู่“คุณแม็กคะ คนไข้อาละวาดใหญ่เลยค่ะ”นางพยาบาลวิ่งออกมาจากห้องพักฟื้นของอันนาด้วยสีหน้าที่ตื่นตกใจ เสียงกรีดร้องของอันนาดังลั่นมาเข้าหู ทั้งๆ ที่เขายังไม่ได้ก้าวเข้าไปในห้องนั้นแม้แต่น้อย“ทำไมเธอถึงอาละวาดครับ”“เธอร้องหาแต่คุณแม็กค่ะ”กรามแกร่งของแม็กซิมัสขบกันแน่น ก่อนที่เขาจะยื่นมือไปกุมที่ลูกบิดประตู“คุณแม็กระวังนะคะ เธอแรงเยอะมาก” นางพยาบาลบอกอย่างเป็นห่วง“แต่เธอถูกมัดมือมัดเท้าเอาไว้ใช่ไหมครับ”“ใช่ค่ะ แต่เธอก็ดิ้นจนผ้าที่ผูกเท้าเอาไว้หลุดทั้งสองข้างค่ะ”“คุณไปเถอะ เดี๋ยวผมจัดการเอง”“คุณแม็กระวังตัวนะคะ”เขายิ้มบางๆ ให้กับนางพยาบาล ก่อนจะตัดสินใจเข้าไปในห้องพักฟื้นของอันนาเสียงกรีดร้องของอันนาสงบลงทันทีเมื่อเห็นหน้าของเขา“พี่แม็ก... พี่แม็กมาช่วยอันแล้วใช่ไ
ร่างสูงที่อัดแน่นไปด้วยมัดกล้ามเนื้อสมบูรณ์แบบที่ซ่อนอยู่ในชุดสูทเรียบหรูพอดีตัวปรากฏกายขึ้นเบื้องหน้า ใบหน้าหล่อเหลาบูดบึ้งอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาสีเขียวที่ดึงดูดให้หล่อนลุ่มหลงตอนนี้เต็มไปด้วยความไม่พอใจ และจ้องเขม็งมายังหล่อนที่กำลังนั่งคุยอยู่กับไตรทศที่ริมระเบียงหล่อนเกลียดตัวเองจังที่ยังคงปล่อยให้เขามีอิทธิพลด้วยขนาดนี้ กายสาวคล้ายกับถูกไฟลามเลียเพียงแค่ถูกดวงตาสีเขียวจ้องมองมาเท่านั้น“คุณย่าอยู่ในห้องรับแขกค่ะ” หล่อนกัดฟันทำลายสงครามเย็นที่แม็กซิมัสเป็นฝ่ายเริ่มต้นด้วยน้ำเสียงที่พยายามปั้นให้ราบเรียบ แต่ให้ตายเถอะ ท้ายประโยคมันกลับสั่นเทาจนน่าเวทนา“ฉันไม่ได้มาพบคุณย่าวารี”เขาเดินมาหยุดตรงหน้าของหล่อนกับไตรทศ สายตาของเขาจ้องหน้าไตรทศราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ“ฉันมาหาเธอ”ร่างกายของหล่อนขานรับต่อคำพูดของเขา มันอุ่นซ่านและยอดทรวงก็เคร่งเครียดชูชันอยู่ในบราเซียร์อย่างน่าอับอาย ทำไมหล่อนจะต้องมีปฏิกิริยากับผู้ชายคนนี้ด้วย ทั้งๆ ที่เขาร้ายแสนร้าย“หยา... มีแขกค่ะ”“มีแขกแล้วไง แขกกับผัว ใครสำคัญกว่ากัน” แล้วเขาก็ทรุดกายลงนั่งโดยพลการ และไม่สนใจคำขับไล่ไสส่งของหล่อนแม้แต่น้อย“คุณแม็
ปั้นหยาตื่นขึ้นมาตอนบ่ายแก่ๆ หลังจากถูกแม็กซิมัสดูดพลังไปจนหมดเกลี้ยง บทรักของเขาเร่าร้อน ดุดัน และก็เต็มไปด้วยความตะกละตะกลามหล่อนถูกเขากลืนกินยาวนาน หลายชั่วโมงต่อเนื่องจนหลับใหลไปอย่างอ่อนเพลีย จนกระทั่งมารู้สึกตัวตื่นเอาตอนนี้นั่นเองหญิงสาวขยับกายลุกขึ้นนั่ง ความสุขสมที่เกิดจากสัมผัสหวามของแม็กซิมัสทำให้เนื้อตัวอิ่มเอมเท้าเล็กขาวสะอาดก้าวลงจากเตียง หล่อนหยิบเสื้อคลุมมาสวมใส่ และเดินไปเกาะขอบหน้าต่างมองลงไปยังสวนดอกมะลิ ก่อนที่พวงแก้มจะแดงระเรื่อ เมื่อนึกถึงตอนที่ตนเองโยกคลึงอยู่บนร่างกำยำของแม็กซิมัสที่นั่นมือเล็กยกขึ้นลูบหน้าของตัวเอง ก่อนจะเลิกคิ้วสูง เมื่อเห็นร่างของใครบางคนกำลังง่วนอยู่กับการทำอะไรสักอย่างที่สวนดอกมะลิของหล่อน“คุณแม็ก...”และด้วยความแคลงใจ ทำให้ปั้นหยารีบสวมเสื้อผ้า ก่อนจะรีบเดินลงไปยังสวนดอกมะลิ“คุณแม็กทำอะไรคะ”คนตัวโตที่กำลังให้ความสนใจกับการใช้พลั่วขุดดินชะงักมือ และหันมามองหล่อน เหงื่อเม็ดโตๆ ไหลย้อยอยู่บนหน้าผากและตามไรผมของเขา ซึ่งมันเป็นภาพที่น่ามองเหลือเกิน“ฉันกำลังซ่อมสวนมะลิให้เธอน่ะ”“ซ่อม?”หล่อนแปลกใจขณะก้าวเท้าเข้าไปหยุดใกล้ๆ และก้มมองฝีม
“ยิ้มถูกใจอะไรเหรอแม่หยา”คุณย่าวารีที่กำลังนั่งจิบน้ำชาดอกมะลิอดที่จะเอ่ยถามหลานสาวไม่ได้ เพราะหล่อนแทบจำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายที่ปั้นหยายิ้มทั้งริมฝีปากและแววตามันนานแค่ไหนกันแววตาของปั้นหยาตอนนี้สุกใส บ่งบอกให้รู้ว่าภายในหัวใจของสาวน้อยนั้นกำลังมีความสุขหล่อนยินดีกับความสุขของหลานสาว ถึงแม้ว่าในอีกมุมหนึ่งของหัวใจจะยังเป็นทุกข์กับชะตากรรมของอันนาหลานสาวอีกคนหนึ่งก็ตาม“เอ่อ... เปล่าค่ะคุณย่า...”ปั้นหยาชะงักเล็กน้อย รอยยิ้มเล็กๆ บนใบหน้าค่อยๆ จางหายไป ขณะเดินเข้ามาหย่อนกายนั่งใกล้ๆ กับคุณย่าวารี“นี่คงไม่ได้แกล้งอะไรคุณหมอแม็กใช่ไหมแม่หยา”คำพูดรู้ทันของคุณย่าวารีทำให้ปั้นหยายิ้มหน้าเจื่อน “เปล่าค่ะ หยาจะไปแกล้งอะไรผู้ชายตัวโตๆ แบบนั้นได้กันล่ะคะคุณย่า”“ใครจะไปรู้ล่ะ ก็ในเมื่อตอนนี้ผู้ชายตัวโต๊โตคนนั้นกลายเป็นลูกไก่ตัวน้อยในมือเล็กๆ ของแม่หยาแล้วนี่”พวงแก้มนวลของปั้นหยามีสีระเรื่อเข้มขึ้น และเสหลบสายตายิ้มๆ ของคุณย่าวารีอย่างเอียงอาย“คุณย่าเข้าใจผิดแล้วล่ะค่ะ คุณแม็กเขาไม่ได้เป็นลูกไก่ในมือของหยาหรอก”“แต่เท่าที่ย่าเห็น คุณแม็กยอมหยาทุกอย่างเลยนะ ย่าไม่อยากให้หยาใจแข็งจนเกิ
คนตัวเล็กแก้มแดงระเรื่อ ขณะค่อยๆ กดสะโพกผายลงให้กลืนกินความเป็นชายที่ชูชันรอคอย“อ๊ะ... อ๊า... อา... อา...”“โอ้ววว... อืมมมม แน่นมาก อืม”ใบหน้าหล่อจัดของแม็กซิมัสบิดเบี้ยวด้วยความเสียวกระสัน เมื่อความเป็นชายถูกกลีบสาวอ่อนนุ่มโอบกระชับแน่นหนาเอาไว้ในทุกทิศทาง“หยา... ปั้นหยา... ยอดรัก... ได้โปรดขยับ... ได้โปรดเถอะ โอ้ววว พระเจ้า... โอ้ววว...”ปั้นหยาทำตามคำขอร้องหอบกระเส่าของแม็กซิมัสอย่างว่านอนสอนง่าย หล่อนบดบั้นท้ายกับความเป็นชายหนักๆ ด้วยจังหวะเร้าใจ ก่อนจะขยับขึ้นลงถี่ระรัว ตามความร้อนฉ่าของไฟสวาทที่ลุกโหมอยู่ภายในกาย“อ๊า... อา... อา...”“โอ้ว... เร็วอีก... ฉันจะทนไม่ไหวแล้ว โอ้ววว อืมมม...”มือใหญ่ทั้งสองข้างกุมสะโพกผายเอาไว้มั่น และช่วยให้หล่อนยกโยงตัวเองขึ้นสูง พร้อมกับดึงรั้งให้กลับลงมาหาหนักหน่วงแม็กซิมัสหน้าแดงก่ำ บิดเบี้ยวด้วยความเสียวกระสันร้อนแรง ยิ่งปั้นหยาซอยสะโพกลงมาหาด้วยจังหวะรัวระทึกเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกถึงสวรรค์ได้มากขึ้นเท่านั้น“อา... อา... คุณแม็กกก... หยา... หยาจะไม่... ไหวแล้ว อา... อ๊า...”ปั้นหยาเงยหน้าขึ้น กรีดร้องด้วยความเสียวกระสัน กายสาวสั่นเกร็ง แ
เคลวินหัวเราะออกมา “ก็งานฉันมันยุ่งมาก ปลีกตัวได้สามสี่วันก็บุญแล้ว”“เออๆ เอาที่นายสะดวกก็แล้วกัน” แม็กซิมัสตอบรับอย่างอ่อนอกอ่อนใจ ขี้เกียจจะเซ้าซี้“สรุปนายรักคุณปั้นหยาแล้วจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย”“ถูกต้อง และไม่ใช่รักเฉยๆ นะ รักมากด้วย”เคลวินหัวเราะขบขัน “ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านายจะรักผู้หญิงที่ตัวเองบอกว่าเกลียดนักเกลียดหนาเข้าไปได้”“ก็ตอนนั้นฉันเข้าใจผิด แถมอันนาก็ยังเป่าหูใส่ร้ายปั้นหยาให้ฉันฟังทุกวัน ฉันก็ต้องเชื่อดิ”“เออ ก็ขอให้นายมีความสุขมาก มีลูกเยอะๆ เอาแบบตั้งทีมฟุตบอลได้เลยก็จะยิ่งดี”“ถ้าจะให้มีเยอะขนาดทำทีมฟุตบอลคงไม่ไหวหรอก ปั้นหยาคงไม่เห็นด้วย แต่ถ้ามีสักสี่ห้าคน เอาไว้เล่นกับลูกของนาย แล้วก็ลูกของเจ้าชาร์ลกับลูกเจ้าอเล็กน่ะพอไว้”“รอลูกไอ้ชาร์ลกับไอ้อเล็กเถอะ ฉันไม่มีหรอก” เคลวินส่ายหน้าปฏิเสธ และทำหน้าสยดสยองเมื่อคิดถึงเด็ก“เด็กๆ น่ารักนะโว้ย เมื่อก่อนฉันก็ไม่ชอบเด็ก แต่พอปั้นหยาท้อง ฉันก็รักเด็กขึ้นมากะทันหันเลยว่ะ ในมือถือตอนนี้นอกจากรูปของฉันกับปั้นหยาแล้ว ก็มีแต่รูปเด็กน่ารักๆ เต็มเครื่องไปหมดเลย ดูไหม จะอวด”“ไม่ๆๆ ฉันไม่อยากดูหรอก” เคลวินส่ายหน้าดิก“สักวันนายจ
แม็กซิมัสรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลของตนเองมาครบหนึ่งอาทิตย์แล้ว โดยมีปั้นหยาคอยเฝ้าดูแลไม่ห่างไปไหน ซึ่งก็ทำให้เขามีความสุขเหลือเกิน“คุณแม็กขา... หยาขอออกไปซื้อของใช้ที่เซเว่นใต้โรงพยาบาลสักครู่นะคะ เดี๋ยวจะรีบมาค่ะ”แม็กซิมัสอมยิ้มกับน้ำเสียงหวานฉ่ำของหญิงสาว และก็กวักมือเรียกให้หล่อนเข้ามาหา ซึ่งปั้นหยาก็ยอมเดินเข้ามาหาเขาอย่างว่านอนสอนง่าย“เดินระวังนะรู้ไหม ตอนนี้เธอไม่ใช่คนตัวเปล่าแล้ว”ปั้นหยายิ้มหน้าแดงด้วยความเอียงอาย พร้อมกับยกมือขึ้นลูบหน้าท้องของตัวเองไปมาอย่างลืมตัว“หยาจะเดินให้ระวังที่สุดค่ะ คุณแม็กอยู่คนเดียวได้นะคะ”“อยู่ได้ครับ ไปเถอะไม่ต้องรีบร้อนล่ะ”หญิงสาวก้มหน้าลงมาจูบแก้มสากที่มีไรหนวดของคนตัวโตเบาๆ อย่างแสนรัก“หยารักคุณแม็กนะคะ”มือใหญ่ของแม็กซิมัสยกขึ้นประคองดวงหน้านวลของปั้นหยาเอาไว้ ก่อนจะพรมจูบไปจนทั่ว และมาอิ่งอ้อยอยู่กับกลีบปากอิ่มหวานฉ่ำนานที่สุด“ฉันก็รักเธอ... ฉันบอกเธอไปกี่ครั้งแล้วนะ” ชายหนุ่มอมยิ้ม ดวงตาเป็นประกายระยิบระยับปั้นหยาเสหลบสายตาสีเขียวสวยอย่างเอียงอาย แต่ก็อ้อมแอ้มตอบออกไปเสียงเบา“น่าจะเกือบห้าสิบครั้งแล้วล่ะค่ะ”“โอ้พระเจ้า... นี่ฉันบ
“น้องอัน... สัญญากับพี่ได้ไหมว่าจะไม่ทำอะไรคุณแม็ก หากพี่ตายไปแล้ว”“ไม่นะปั้นหยา ฉันไม่ยอมเด็ดขาด ไม่มีวันยอมให้เธอตาย เข้าใจไหมว่าเธอตายไม่ได้!”แม็กซิมัสตะโกนมาอีกฟากหนึ่งของกำแพง เขาอยากจะเข้าไปแย่งปืนจากมือของอันนานัก แต่ก็กลัวว่ามันจะผิดพลาด แล้วปั้นหยาจะไม่ปลอดภัย จึงจำต้องนั่งนิ่งและพยายามหาทางออกอื่นให้ได้เร็วที่สุด“แค่หยารู้ว่าคุณแม็กเป็นห่วงหยา... แค่นี้หยาก็ตายตาหลับแล้วล่ะค่ะ”“ผู้หญิงบ้า! ถ้าเธอไม่หยุดพูดบ้าๆ ฉันสาบานว่าจะหยุดรักเธอเดี๋ยวนี้แหละ!”“คุณแม็ก... รักหยาเหรอคะ”อย่างน้อยๆ ก่อนตาย หล่อนก็ยังได้รู้ว่าตัวเองได้รับความรักตอบจากบุรุษที่ตัวเองแอบรักมาเนิ่นนาน“ก็ใช่น่ะสิ ฉันรักเธอปั้นหยา รักมากด้วย ดังนั้นห้ามตายเด็ดขาด นี่เป็นคำสั่งของฉัน”“หยาดีใจ... ดีใจเหลือเกิน...”“เลิกพล่ามกันได้แล้ว แล้วพี่แม็กก็เตรียมเห็นนังหยามันไร้วิญญาณได้เลย”“อย่านะ... อันนา! อย่าทำอะไรปั้นหยานะ!”อันนาหันไปยิ้มเลือดเย็นให้กับแม็กซิมัส ก่อนจะสอดนิ้วเรียวเหนี่ยวไกปืนทันทีปัง! ปัง! ปัง!ลูกปืนทั้งสามนัดดังกังวาน และพุ่งเข้าใส่คนตรงหน้าอย่างแม่นยำ แต่ผิดคน“พี่แม็ก!!!”“คุณแม็ก! กรี๊ดด
ปั้นหยาถูกอันนาตบด้วยฝ่ามือ และกระบอกปืนหลายครั้งจนเลือดไหลออกมาจากศีรษะที่แตก หน้าตาปูดบวมช้ำ โดยเฉพาะที่ปากแตกจนมีเลือดไหลซึมออกมาจากมุมปาก“น้องอัน... ปล่อยพี่เถอะ พี่ไม่เคยคิดร้ายอะไรกับน้องอันเลยนะ พี่หวังดีกับน้องอันเสมอ โอ๊ยยย... พี่เจ็บ”อันนากระชากเส้นผมนุ่มของปั้นหยาแรงๆ ก่อนจะก้มหน้าที่บิดเบี้ยวเพราะเสียสติไปแล้วลงมาหัวเราะใส่“มึงแย่งผัวกู”“พี่ก็หย่ากับคุณแม็กให้แล้วนี่จ๊ะ”“มึงคืนให้มาแต่ตัว แต่หัวใจของพี่แม็ก มึงขโมยไปแล้วไม่ยอมคืน อีพี่สารเลว!”เพียะ! ผัวะ!!!ทั้งมือทั้งหมัดของอันนาประเคนเข้าใส่ใบหน้าและร่างกายของปั้นหยาอย่างไม่ปรานี จนปั้นหยาล้มตัวงอนอนลงกับพื้นเจียนจะหมดสติสัมปชัญญะ“พี่แม็กเอาเงินมาให้กูเมื่อไหร่ กูจะระเบิดหัวมึงทันที”“น้องอัน... ปล่อยพี่ไปเถอะ แล้วน้องอันก็กลับเนื้อกลับตัวซะ โทษหนักจะได้กลายเป็นเบา”“มึงอย่ามาสอนกู!”“พี่ไม่อยากเห็นน้องอันต้องตกนรกทั้งเป็นหรอกนะ เชื่อพี่เถอะ มอบตัวกับตำรวจซะเถอะ” ปั้นหยาพยายามเตือนสติของญาติผู้น้องด้วยความห่วงใย แต่อันนาไม่สนใจที่จะรับฟัง“กูไม่ยอมแก่ตายในคุกหรอก กูจะหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน จนกว่าคดีจะหมดอายุความ แล
แม็กซิมัสถอนใจออกมาอย่างโล่งอก เมื่อสุดท้ายแล้วพวงมาลัยดอกมะลิฝีมือของตนเองก็เสร็จสมบูรณ์เสียที และถึงแม้มันจะเบี้ยวๆ เอียงๆ ไม่ค่อยสวยนัก แต่เขาก็ทำมันด้วยความตั้งใจที่สุดในชีวิต แถมมันยังเป็นงานที่ทำให้เขาเสียเลือดมากที่สุดอีกต่างหากชายหนุ่มอมยิ้มมองพวงมาลัยดอกมะลิสีขาวด้วยความภาคภูมิใจ ก่อนจะยกมันขึ้นดอมดม กลิ่นของดอกไม้ชนิดนี้หอมละมุนมาก แต่ก็ยังหอมตราตรึงใจสู้กลิ่นสาบสาวของปั้นหยาไม่ได้“เธอจะต้องปลื้มใจแน่ๆ ถ้าเห็นพวงมาลัยนี้”“คุณแม็กคะ ปลาสเตอร์ยาค่ะ”“ขอบใจ” แม็กซิมัสยื่นมือไปรับปลาสเตอร์ยาจากมือของสาวใช้ มาพันบนนิ้วที่ถูกเข็มตำ“นี่แผ่นสุดท้ายแล้วนะคะคุณหมอแม็ก”คุณย่าวารีมองนิ้วมือที่เต็มไปด้วยปลาสเตอร์ยาของแม็กซิมัสด้วยความเห็นใจระคนขบขัน“เดี๋ยวผมเบิกที่โรงพยาบาลมาคืนให้ครับ”“ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องเอามาคืนหรอกค่ะ ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณคุณหมอที่ช่วยใช้ปลาสเตอร์ยาก่อนที่มันจะหมดอายุใช้งานน่ะ”แม็กซิมัสยิ้มอายๆ “ผมคงเป็นนักเรียนที่แย่มากๆ เลยใช่ไหมครับเนี่ย”“ถ้าเอาความจริงก็ใช่ค่ะ เพราะคุณหมอแม็กสอนยากมาก”“แต่ตอนผมเรียนผ่าตัด อาจารย์หมอชมว่าผมหัวไว เรียนรู้เร็วกว่าเพื่อน
“คุณอันนาคะ คุณอันนา”ผลั๊ววว!อันนาที่แกล้งนอนนิ่งทำเป็นหลับอยู่บนเตียงคนไข้ หยิบแจกันดอกไม้ที่ตั้งตกแต่งเอาไว้ภายในห้อง ฟาดหัวนางพยาบาลที่เข้ามาเพื่อนำยากลางวันมาให้รับประทาน จนล้มลงไปนอนกับพื้นห้องจากนั้นก็รีบก้าวลงจากเตียง วิ่งไปล็อกประตูห้อง และรีบเดินกลับมาลากร่างของนางพยาบาลเข้าไปในห้องน้ำทันทีเมื่อคืนหล่อนไม่ได้นอนเลย เพราะพยายามดิ้นรนหาทางแกะผ้าที่ผูกแขนขาเอาไว้ และก็เหมือนสวรรค์ยังเมตตา เพราะจากพยายามมาทั้งคืน ผ้าที่ผูกแขนเอาไว้ข้างหนึ่งก็คลายออก ซึ่งมันก็ทำให้หลุดพ้นจากพันธนาการได้ในที่สุดอันนาจ้องมองร่างไร้สติของนางพยาบาล ก่อนจะรีบจัดการถอดเสื้อผ้าออกจากร่างของนางพยาบาล และเอามาสวมใส่เสียเอง จากนั้นก็ยิ้มเลือดเย็น ดวงตาลุกเป็นไฟ“ถ้าฉันไม่มีความสุข ใครหน้าไหนก็มีความสุขไม่ได้”มือเล็กกำแน่นด้วยความเคียดแค้น ก่อนจะก้าวออกไปจากห้องพักฟื้นในคราบของนางพยาบาล ทำให้นายตำรวจหน้าห้องที่เอาแต่เล่นโทรศัพท์มือถือไม่ทันสังเกตเห็นรูปร่างที่แตกต่างไปอันนารีบออกมาจากโรงพยาบาลด้วยความรีบร้อน หล่อนโบกรถแท็กซี่ และหยิบเงินที่มีติดอยู่ในชุดของนางพยาบาลจ่ายเป็นค่ารถ เพื่อให้ขับรถพาไปยังสถ
ปั้นหยาเดินกลับมาจากอีกฝั่งของห้อง พร้อมกับตลับยาทาสำหรับแก้แมลงกัดต่อยในมือ ร่างเล็กทรุดนั่งข้างๆ และจัดการแต้มยาในตลับเล็กนั้นบนผิวของเขาที่มีตุ่มสีแดง“เธอแน่ใจหรือว่ายาเนี่ยมันจะช่วยอะไรได้น่ะ”“ช่วยได้สิคะ มันเป็นยาทาสำหรับคนที่ถูกมดถูกยุงกัดน่ะค่ะ อยู่เฉยๆ สิคะ หยาทาไม่ถนัดนะ”ปั้นหยาดุเสียงไม่จริงจังนัก เมื่อแม็กซิมัสเอียงหน้าหนีเมื่อหล่อนป้ายยาบนแก้มของเขา“ไม่ต้องทาแล้วล่ะ ฉันคิดว่าฉันไม่น่าจะตายเพราะยุงพวกนี้หรอก”“ถ้าไม่ตายเพราะยุงพวกนี้ คุณแม็กก็คงจะตายเพราะไข้เลือดออกน่ะค่ะ” หล่อนประชด และยังไม่หยุดป้ายยาไปตามเนื้อตัวของแม็กซิมัส “เป็นหมออะไรกัน ยอมให้ยุงกัดทั้งตัวแบบนี้” แล้วก็อดบ่นด้วยความเป็นห่วงไม่ได้แม็กซิมัสดึงมือเล็กที่กำลังจะป้ายยาบนลำคอแกร่งเอาไว้ จากนั้นก็โน้มหน้าเข้ามาหา นัยน์ตาสีเขียวแสนสวยของเขาจ้องมองหล่อนไม่วางตา“รู้สึกผิดใช่ไหมที่ทำให้ฉันถูกยุงรุมทึ้งทั้งคืนน่ะ”“เอ่อ... ก็... ใช่ค่ะ”หล่อนตอบตะกุกตะกัก สายตาของเขาทำให้หล่อนร้อนรุ่มไปทั้งตัว โดยเฉพาะในอุ้งเชิงกราน จนต้องรีบเสหลบสายตาคม จึงไม่ทันได้เห็นแววตาเจ้าเล่ห์ในนั้น“อยากไถ่บาปไหมล่ะ”“ก็... กำลังท
“คุณแม็กต้องนอนข้างนอกห้องค่ะ”ปั้นหยาโยนหมอนกับผ้าห่มใส่มือของคนตัวโต และดันให้เขาออกไปนอกห้องนอนของตนเอง“แต่คุณย่าให้ฉันนอนกับเธอนะ ปั้นหยา”แม็กซิมัสถูกคนตัวเล็กผลักจนพ้นออกมาจากห้องนอนสีหวานโดยไม่ทันได้ตั้งตัวเอ่ยแย้งขึ้น“คุณย่าอนุญาต แต่หยาไม่ได้อนุญาตค่ะ”“นี่เธอจะให้ฉันนอนตากยุงจริงๆ หรือ”“จริงค่ะ”แม็กซิมัสไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตัวเองต้องมาตกระกำลำบากด้วยฝีมือของผู้หญิงที่ตัวเองเคยตราหน้าว่าสารเลวอย่างปั้นหยา ความจริงเขาไม่ยอมก็ได้ ผลักหล่อนเข้าไป และปล้ำเสียให้รู้แล้วรู้รอด แค่นี้ปั้นหยาก็ต้องยอมสยบแล้ว แต่เพราะไม่อยากให้ปั้นหยาโกรธมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่จึงต้องยอม“ก็ได้ ฉันจะนอนหน้าห้องนี่แหละ พอใจหรือยังล่ะ”“หยาจะพอใจมาก ถ้าคุณแม็กกลับไปซะ”คนตัวโตส่ายหน้าไปมา “ฉันไม่กลับหรอก จะอยู่ที่นี่กับเธอนั่นแหละ”“งั้นก็ทนนอนตากยุงไปเถอะค่ะ ราตรีสวัสดิ์”ปั้นหยากำลังจะปิดประตูใส่หน้าของแม็กซิมัส แต่ชายหนุ่มทิ้งผ้าห่มกับหมอนในอุ้งมือ และกระชากร่างเล็กเข้ามากอดเสียก่อน จากนั้นเขาก็จูบปากอิ่มนั้นอย่างเร่าร้อน“อื้อ... อุ๊บบบ”ปั้นหยาดิ้นรน ผลักไส มือเล็กทุบแผงอกกว้างแรงๆ แต่เขาไม่สะทก