ร่างสูงที่อัดแน่นไปด้วยมัดกล้ามเนื้อสมบูรณ์แบบที่ซ่อนอยู่ในชุดสูทเรียบหรูพอดีตัวปรากฏกายขึ้นเบื้องหน้า ใบหน้าหล่อเหลาบูดบึ้งอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาสีเขียวที่ดึงดูดให้หล่อนลุ่มหลงตอนนี้เต็มไปด้วยความไม่พอใจ และจ้องเขม็งมายังหล่อนที่กำลังนั่งคุยอยู่กับไตรทศที่ริมระเบียงหล่อนเกลียดตัวเองจังที่ยังคงปล่อยให้เขามีอิทธิพลด้วยขนาดนี้ กายสาวคล้ายกับถูกไฟลามเลียเพียงแค่ถูกดวงตาสีเขียวจ้องมองมาเท่านั้น“คุณย่าอยู่ในห้องรับแขกค่ะ” หล่อนกัดฟันทำลายสงครามเย็นที่แม็กซิมัสเป็นฝ่ายเริ่มต้นด้วยน้ำเสียงที่พยายามปั้นให้ราบเรียบ แต่ให้ตายเถอะ ท้ายประโยคมันกลับสั่นเทาจนน่าเวทนา“ฉันไม่ได้มาพบคุณย่าวารี”เขาเดินมาหยุดตรงหน้าของหล่อนกับไตรทศ สายตาของเขาจ้องหน้าไตรทศราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ“ฉันมาหาเธอ”ร่างกายของหล่อนขานรับต่อคำพูดของเขา มันอุ่นซ่านและยอดทรวงก็เคร่งเครียดชูชันอยู่ในบราเซียร์อย่างน่าอับอาย ทำไมหล่อนจะต้องมีปฏิกิริยากับผู้ชายคนนี้ด้วย ทั้งๆ ที่เขาร้ายแสนร้าย“หยา... มีแขกค่ะ”“มีแขกแล้วไง แขกกับผัว ใครสำคัญกว่ากัน” แล้วเขาก็ทรุดกายลงนั่งโดยพลการ และไม่สนใจคำขับไล่ไสส่งของหล่อนแม้แต่น้อย“คุณแม็
ปั้นหยาตื่นขึ้นมาตอนบ่ายแก่ๆ หลังจากถูกแม็กซิมัสดูดพลังไปจนหมดเกลี้ยง บทรักของเขาเร่าร้อน ดุดัน และก็เต็มไปด้วยความตะกละตะกลามหล่อนถูกเขากลืนกินยาวนาน หลายชั่วโมงต่อเนื่องจนหลับใหลไปอย่างอ่อนเพลีย จนกระทั่งมารู้สึกตัวตื่นเอาตอนนี้นั่นเองหญิงสาวขยับกายลุกขึ้นนั่ง ความสุขสมที่เกิดจากสัมผัสหวามของแม็กซิมัสทำให้เนื้อตัวอิ่มเอมเท้าเล็กขาวสะอาดก้าวลงจากเตียง หล่อนหยิบเสื้อคลุมมาสวมใส่ และเดินไปเกาะขอบหน้าต่างมองลงไปยังสวนดอกมะลิ ก่อนที่พวงแก้มจะแดงระเรื่อ เมื่อนึกถึงตอนที่ตนเองโยกคลึงอยู่บนร่างกำยำของแม็กซิมัสที่นั่นมือเล็กยกขึ้นลูบหน้าของตัวเอง ก่อนจะเลิกคิ้วสูง เมื่อเห็นร่างของใครบางคนกำลังง่วนอยู่กับการทำอะไรสักอย่างที่สวนดอกมะลิของหล่อน“คุณแม็ก...”และด้วยความแคลงใจ ทำให้ปั้นหยารีบสวมเสื้อผ้า ก่อนจะรีบเดินลงไปยังสวนดอกมะลิ“คุณแม็กทำอะไรคะ”คนตัวโตที่กำลังให้ความสนใจกับการใช้พลั่วขุดดินชะงักมือ และหันมามองหล่อน เหงื่อเม็ดโตๆ ไหลย้อยอยู่บนหน้าผากและตามไรผมของเขา ซึ่งมันเป็นภาพที่น่ามองเหลือเกิน“ฉันกำลังซ่อมสวนมะลิให้เธอน่ะ”“ซ่อม?”หล่อนแปลกใจขณะก้าวเท้าเข้าไปหยุดใกล้ๆ และก้มมองฝีม
“ยิ้มถูกใจอะไรเหรอแม่หยา”คุณย่าวารีที่กำลังนั่งจิบน้ำชาดอกมะลิอดที่จะเอ่ยถามหลานสาวไม่ได้ เพราะหล่อนแทบจำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายที่ปั้นหยายิ้มทั้งริมฝีปากและแววตามันนานแค่ไหนกันแววตาของปั้นหยาตอนนี้สุกใส บ่งบอกให้รู้ว่าภายในหัวใจของสาวน้อยนั้นกำลังมีความสุขหล่อนยินดีกับความสุขของหลานสาว ถึงแม้ว่าในอีกมุมหนึ่งของหัวใจจะยังเป็นทุกข์กับชะตากรรมของอันนาหลานสาวอีกคนหนึ่งก็ตาม“เอ่อ... เปล่าค่ะคุณย่า...”ปั้นหยาชะงักเล็กน้อย รอยยิ้มเล็กๆ บนใบหน้าค่อยๆ จางหายไป ขณะเดินเข้ามาหย่อนกายนั่งใกล้ๆ กับคุณย่าวารี“นี่คงไม่ได้แกล้งอะไรคุณหมอแม็กใช่ไหมแม่หยา”คำพูดรู้ทันของคุณย่าวารีทำให้ปั้นหยายิ้มหน้าเจื่อน “เปล่าค่ะ หยาจะไปแกล้งอะไรผู้ชายตัวโตๆ แบบนั้นได้กันล่ะคะคุณย่า”“ใครจะไปรู้ล่ะ ก็ในเมื่อตอนนี้ผู้ชายตัวโต๊โตคนนั้นกลายเป็นลูกไก่ตัวน้อยในมือเล็กๆ ของแม่หยาแล้วนี่”พวงแก้มนวลของปั้นหยามีสีระเรื่อเข้มขึ้น และเสหลบสายตายิ้มๆ ของคุณย่าวารีอย่างเอียงอาย“คุณย่าเข้าใจผิดแล้วล่ะค่ะ คุณแม็กเขาไม่ได้เป็นลูกไก่ในมือของหยาหรอก”“แต่เท่าที่ย่าเห็น คุณแม็กยอมหยาทุกอย่างเลยนะ ย่าไม่อยากให้หยาใจแข็งจนเกิ
“คุณแม็กต้องนอนข้างนอกห้องค่ะ”ปั้นหยาโยนหมอนกับผ้าห่มใส่มือของคนตัวโต และดันให้เขาออกไปนอกห้องนอนของตนเอง“แต่คุณย่าให้ฉันนอนกับเธอนะ ปั้นหยา”แม็กซิมัสถูกคนตัวเล็กผลักจนพ้นออกมาจากห้องนอนสีหวานโดยไม่ทันได้ตั้งตัวเอ่ยแย้งขึ้น“คุณย่าอนุญาต แต่หยาไม่ได้อนุญาตค่ะ”“นี่เธอจะให้ฉันนอนตากยุงจริงๆ หรือ”“จริงค่ะ”แม็กซิมัสไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตัวเองต้องมาตกระกำลำบากด้วยฝีมือของผู้หญิงที่ตัวเองเคยตราหน้าว่าสารเลวอย่างปั้นหยา ความจริงเขาไม่ยอมก็ได้ ผลักหล่อนเข้าไป และปล้ำเสียให้รู้แล้วรู้รอด แค่นี้ปั้นหยาก็ต้องยอมสยบแล้ว แต่เพราะไม่อยากให้ปั้นหยาโกรธมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่จึงต้องยอม“ก็ได้ ฉันจะนอนหน้าห้องนี่แหละ พอใจหรือยังล่ะ”“หยาจะพอใจมาก ถ้าคุณแม็กกลับไปซะ”คนตัวโตส่ายหน้าไปมา “ฉันไม่กลับหรอก จะอยู่ที่นี่กับเธอนั่นแหละ”“งั้นก็ทนนอนตากยุงไปเถอะค่ะ ราตรีสวัสดิ์”ปั้นหยากำลังจะปิดประตูใส่หน้าของแม็กซิมัส แต่ชายหนุ่มทิ้งผ้าห่มกับหมอนในอุ้งมือ และกระชากร่างเล็กเข้ามากอดเสียก่อน จากนั้นเขาก็จูบปากอิ่มนั้นอย่างเร่าร้อน“อื้อ... อุ๊บบบ”ปั้นหยาดิ้นรน ผลักไส มือเล็กทุบแผงอกกว้างแรงๆ แต่เขาไม่สะทก
ปั้นหยาเดินกลับมาจากอีกฝั่งของห้อง พร้อมกับตลับยาทาสำหรับแก้แมลงกัดต่อยในมือ ร่างเล็กทรุดนั่งข้างๆ และจัดการแต้มยาในตลับเล็กนั้นบนผิวของเขาที่มีตุ่มสีแดง“เธอแน่ใจหรือว่ายาเนี่ยมันจะช่วยอะไรได้น่ะ”“ช่วยได้สิคะ มันเป็นยาทาสำหรับคนที่ถูกมดถูกยุงกัดน่ะค่ะ อยู่เฉยๆ สิคะ หยาทาไม่ถนัดนะ”ปั้นหยาดุเสียงไม่จริงจังนัก เมื่อแม็กซิมัสเอียงหน้าหนีเมื่อหล่อนป้ายยาบนแก้มของเขา“ไม่ต้องทาแล้วล่ะ ฉันคิดว่าฉันไม่น่าจะตายเพราะยุงพวกนี้หรอก”“ถ้าไม่ตายเพราะยุงพวกนี้ คุณแม็กก็คงจะตายเพราะไข้เลือดออกน่ะค่ะ” หล่อนประชด และยังไม่หยุดป้ายยาไปตามเนื้อตัวของแม็กซิมัส “เป็นหมออะไรกัน ยอมให้ยุงกัดทั้งตัวแบบนี้” แล้วก็อดบ่นด้วยความเป็นห่วงไม่ได้แม็กซิมัสดึงมือเล็กที่กำลังจะป้ายยาบนลำคอแกร่งเอาไว้ จากนั้นก็โน้มหน้าเข้ามาหา นัยน์ตาสีเขียวแสนสวยของเขาจ้องมองหล่อนไม่วางตา“รู้สึกผิดใช่ไหมที่ทำให้ฉันถูกยุงรุมทึ้งทั้งคืนน่ะ”“เอ่อ... ก็... ใช่ค่ะ”หล่อนตอบตะกุกตะกัก สายตาของเขาทำให้หล่อนร้อนรุ่มไปทั้งตัว โดยเฉพาะในอุ้งเชิงกราน จนต้องรีบเสหลบสายตาคม จึงไม่ทันได้เห็นแววตาเจ้าเล่ห์ในนั้น“อยากไถ่บาปไหมล่ะ”“ก็... กำลังท
“คุณอันนาคะ คุณอันนา”ผลั๊ววว!อันนาที่แกล้งนอนนิ่งทำเป็นหลับอยู่บนเตียงคนไข้ หยิบแจกันดอกไม้ที่ตั้งตกแต่งเอาไว้ภายในห้อง ฟาดหัวนางพยาบาลที่เข้ามาเพื่อนำยากลางวันมาให้รับประทาน จนล้มลงไปนอนกับพื้นห้องจากนั้นก็รีบก้าวลงจากเตียง วิ่งไปล็อกประตูห้อง และรีบเดินกลับมาลากร่างของนางพยาบาลเข้าไปในห้องน้ำทันทีเมื่อคืนหล่อนไม่ได้นอนเลย เพราะพยายามดิ้นรนหาทางแกะผ้าที่ผูกแขนขาเอาไว้ และก็เหมือนสวรรค์ยังเมตตา เพราะจากพยายามมาทั้งคืน ผ้าที่ผูกแขนเอาไว้ข้างหนึ่งก็คลายออก ซึ่งมันก็ทำให้หลุดพ้นจากพันธนาการได้ในที่สุดอันนาจ้องมองร่างไร้สติของนางพยาบาล ก่อนจะรีบจัดการถอดเสื้อผ้าออกจากร่างของนางพยาบาล และเอามาสวมใส่เสียเอง จากนั้นก็ยิ้มเลือดเย็น ดวงตาลุกเป็นไฟ“ถ้าฉันไม่มีความสุข ใครหน้าไหนก็มีความสุขไม่ได้”มือเล็กกำแน่นด้วยความเคียดแค้น ก่อนจะก้าวออกไปจากห้องพักฟื้นในคราบของนางพยาบาล ทำให้นายตำรวจหน้าห้องที่เอาแต่เล่นโทรศัพท์มือถือไม่ทันสังเกตเห็นรูปร่างที่แตกต่างไปอันนารีบออกมาจากโรงพยาบาลด้วยความรีบร้อน หล่อนโบกรถแท็กซี่ และหยิบเงินที่มีติดอยู่ในชุดของนางพยาบาลจ่ายเป็นค่ารถ เพื่อให้ขับรถพาไปยังสถ
แม็กซิมัสถอนใจออกมาอย่างโล่งอก เมื่อสุดท้ายแล้วพวงมาลัยดอกมะลิฝีมือของตนเองก็เสร็จสมบูรณ์เสียที และถึงแม้มันจะเบี้ยวๆ เอียงๆ ไม่ค่อยสวยนัก แต่เขาก็ทำมันด้วยความตั้งใจที่สุดในชีวิต แถมมันยังเป็นงานที่ทำให้เขาเสียเลือดมากที่สุดอีกต่างหากชายหนุ่มอมยิ้มมองพวงมาลัยดอกมะลิสีขาวด้วยความภาคภูมิใจ ก่อนจะยกมันขึ้นดอมดม กลิ่นของดอกไม้ชนิดนี้หอมละมุนมาก แต่ก็ยังหอมตราตรึงใจสู้กลิ่นสาบสาวของปั้นหยาไม่ได้“เธอจะต้องปลื้มใจแน่ๆ ถ้าเห็นพวงมาลัยนี้”“คุณแม็กคะ ปลาสเตอร์ยาค่ะ”“ขอบใจ” แม็กซิมัสยื่นมือไปรับปลาสเตอร์ยาจากมือของสาวใช้ มาพันบนนิ้วที่ถูกเข็มตำ“นี่แผ่นสุดท้ายแล้วนะคะคุณหมอแม็ก”คุณย่าวารีมองนิ้วมือที่เต็มไปด้วยปลาสเตอร์ยาของแม็กซิมัสด้วยความเห็นใจระคนขบขัน“เดี๋ยวผมเบิกที่โรงพยาบาลมาคืนให้ครับ”“ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องเอามาคืนหรอกค่ะ ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณคุณหมอที่ช่วยใช้ปลาสเตอร์ยาก่อนที่มันจะหมดอายุใช้งานน่ะ”แม็กซิมัสยิ้มอายๆ “ผมคงเป็นนักเรียนที่แย่มากๆ เลยใช่ไหมครับเนี่ย”“ถ้าเอาความจริงก็ใช่ค่ะ เพราะคุณหมอแม็กสอนยากมาก”“แต่ตอนผมเรียนผ่าตัด อาจารย์หมอชมว่าผมหัวไว เรียนรู้เร็วกว่าเพื่อน
ปั้นหยาถูกอันนาตบด้วยฝ่ามือ และกระบอกปืนหลายครั้งจนเลือดไหลออกมาจากศีรษะที่แตก หน้าตาปูดบวมช้ำ โดยเฉพาะที่ปากแตกจนมีเลือดไหลซึมออกมาจากมุมปาก“น้องอัน... ปล่อยพี่เถอะ พี่ไม่เคยคิดร้ายอะไรกับน้องอันเลยนะ พี่หวังดีกับน้องอันเสมอ โอ๊ยยย... พี่เจ็บ”อันนากระชากเส้นผมนุ่มของปั้นหยาแรงๆ ก่อนจะก้มหน้าที่บิดเบี้ยวเพราะเสียสติไปแล้วลงมาหัวเราะใส่“มึงแย่งผัวกู”“พี่ก็หย่ากับคุณแม็กให้แล้วนี่จ๊ะ”“มึงคืนให้มาแต่ตัว แต่หัวใจของพี่แม็ก มึงขโมยไปแล้วไม่ยอมคืน อีพี่สารเลว!”เพียะ! ผัวะ!!!ทั้งมือทั้งหมัดของอันนาประเคนเข้าใส่ใบหน้าและร่างกายของปั้นหยาอย่างไม่ปรานี จนปั้นหยาล้มตัวงอนอนลงกับพื้นเจียนจะหมดสติสัมปชัญญะ“พี่แม็กเอาเงินมาให้กูเมื่อไหร่ กูจะระเบิดหัวมึงทันที”“น้องอัน... ปล่อยพี่ไปเถอะ แล้วน้องอันก็กลับเนื้อกลับตัวซะ โทษหนักจะได้กลายเป็นเบา”“มึงอย่ามาสอนกู!”“พี่ไม่อยากเห็นน้องอันต้องตกนรกทั้งเป็นหรอกนะ เชื่อพี่เถอะ มอบตัวกับตำรวจซะเถอะ” ปั้นหยาพยายามเตือนสติของญาติผู้น้องด้วยความห่วงใย แต่อันนาไม่สนใจที่จะรับฟัง“กูไม่ยอมแก่ตายในคุกหรอก กูจะหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน จนกว่าคดีจะหมดอายุความ แล