เคลวินหัวเราะออกมา “ก็งานฉันมันยุ่งมาก ปลีกตัวได้สามสี่วันก็บุญแล้ว”“เออๆ เอาที่นายสะดวกก็แล้วกัน” แม็กซิมัสตอบรับอย่างอ่อนอกอ่อนใจ ขี้เกียจจะเซ้าซี้“สรุปนายรักคุณปั้นหยาแล้วจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย”“ถูกต้อง และไม่ใช่รักเฉยๆ นะ รักมากด้วย”เคลวินหัวเราะขบขัน “ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านายจะรักผู้หญิงที่ตัวเองบอกว่าเกลียดนักเกลียดหนาเข้าไปได้”“ก็ตอนนั้นฉันเข้าใจผิด แถมอันนาก็ยังเป่าหูใส่ร้ายปั้นหยาให้ฉันฟังทุกวัน ฉันก็ต้องเชื่อดิ”“เออ ก็ขอให้นายมีความสุขมาก มีลูกเยอะๆ เอาแบบตั้งทีมฟุตบอลได้เลยก็จะยิ่งดี”“ถ้าจะให้มีเยอะขนาดทำทีมฟุตบอลคงไม่ไหวหรอก ปั้นหยาคงไม่เห็นด้วย แต่ถ้ามีสักสี่ห้าคน เอาไว้เล่นกับลูกของนาย แล้วก็ลูกของเจ้าชาร์ลกับลูกเจ้าอเล็กน่ะพอไว้”“รอลูกไอ้ชาร์ลกับไอ้อเล็กเถอะ ฉันไม่มีหรอก” เคลวินส่ายหน้าปฏิเสธ และทำหน้าสยดสยองเมื่อคิดถึงเด็ก“เด็กๆ น่ารักนะโว้ย เมื่อก่อนฉันก็ไม่ชอบเด็ก แต่พอปั้นหยาท้อง ฉันก็รักเด็กขึ้นมากะทันหันเลยว่ะ ในมือถือตอนนี้นอกจากรูปของฉันกับปั้นหยาแล้ว ก็มีแต่รูปเด็กน่ารักๆ เต็มเครื่องไปหมดเลย ดูไหม จะอวด”“ไม่ๆๆ ฉันไม่อยากดูหรอก” เคลวินส่ายหน้าดิก“สักวันนายจ
คนตัวเล็กแก้มแดงระเรื่อ ขณะค่อยๆ กดสะโพกผายลงให้กลืนกินความเป็นชายที่ชูชันรอคอย“อ๊ะ... อ๊า... อา... อา...”“โอ้ววว... อืมมมม แน่นมาก อืม”ใบหน้าหล่อจัดของแม็กซิมัสบิดเบี้ยวด้วยความเสียวกระสัน เมื่อความเป็นชายถูกกลีบสาวอ่อนนุ่มโอบกระชับแน่นหนาเอาไว้ในทุกทิศทาง“หยา... ปั้นหยา... ยอดรัก... ได้โปรดขยับ... ได้โปรดเถอะ โอ้ววว พระเจ้า... โอ้ววว...”ปั้นหยาทำตามคำขอร้องหอบกระเส่าของแม็กซิมัสอย่างว่านอนสอนง่าย หล่อนบดบั้นท้ายกับความเป็นชายหนักๆ ด้วยจังหวะเร้าใจ ก่อนจะขยับขึ้นลงถี่ระรัว ตามความร้อนฉ่าของไฟสวาทที่ลุกโหมอยู่ภายในกาย“อ๊า... อา... อา...”“โอ้ว... เร็วอีก... ฉันจะทนไม่ไหวแล้ว โอ้ววว อืมมม...”มือใหญ่ทั้งสองข้างกุมสะโพกผายเอาไว้มั่น และช่วยให้หล่อนยกโยงตัวเองขึ้นสูง พร้อมกับดึงรั้งให้กลับลงมาหาหนักหน่วงแม็กซิมัสหน้าแดงก่ำ บิดเบี้ยวด้วยความเสียวกระสันร้อนแรง ยิ่งปั้นหยาซอยสะโพกลงมาหาด้วยจังหวะรัวระทึกเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกถึงสวรรค์ได้มากขึ้นเท่านั้น“อา... อา... คุณแม็กกก... หยา... หยาจะไม่... ไหวแล้ว อา... อ๊า...”ปั้นหยาเงยหน้าขึ้น กรีดร้องด้วยความเสียวกระสัน กายสาวสั่นเกร็ง แ
ร่างสูงเกือบหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตรของ แม็กซิมัส ซาเมนดอฟ ก้าวเข้ามาภายในไนต์คลับหรูใจกลางเมืองหลวง เพื่อมาตามนัดของเหล่าเพื่อนสนิทอีกสามคนที่นานๆ จะมีโอกาสได้เจอกันพร้อมหน้าพร้อมตาเสียทีพวกเขาทั้งสี่คนแยกย้ายกันไปใช้ชีวิตของตนเองหลังจากเรียนจบจาก Princeton University ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยในกลุ่ม Ivy League ของประเทศสหรัฐอเมริกา“เฮ้...”แม็กซิมัสยกมือขึ้นโบกทักทายกลุ่มเพื่อน เมื่อเห็นพวกเขาทั้งสามคนในระยะไม่ไกลนัก สองเท้ารีบก้าวเดินเข้าไปหา“โทษทีนะที่มาสาย พอดีเพิ่งไปส่งอันนาที่บ้านน่ะ”แม็กซิมัสอธิบายเหตุผลที่ตนเองมาช้ากว่าเวลานัดกับเพื่อนของตนเองด้วยความไม่สบายใจนัก“เฮ้ย ไม่ต้องขอโทษหรอก พวกฉันก็เพิ่งมาถึงไม่นานเหมือนกัน”เคลวิน แม็คคลาเรน เจ้าของไร่ชาใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของเมืองไทยเอ่ยขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม ขณะใช้สายตาคมเข้มสีน้ำตาลของตนเองมองเพื่อนสนิทที่ไม่ค่อยได้เจอกันนักอย่างสำรวจตรวจตรา ก่อนจะพบว่าหนึ่งในสี่จตุรเทพแห่งปริ้นซ์ตันหล่อเหลาขึ้นมาก และกาลเวลาไม่อาจจะทำร้ายได้เลยดวงตาของแม็กซิมัสที่อยู่ใต้คิ้วหนาดกเป็นสีเขียวจัด จมูกโด่งเป็นสันอย่างผู้ดี ริมฝีปากบางเฉียบหยักสวยน่าม
เรือนร่างแบบบางน่าทะนุถนอมของหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของความสูงเพียงหนึ่งร้อยหกสิบสองเซนติเมตรกำลังหิ้วตะกร้าใส่ดอกไม้นานาชนิดที่เพิ่งเก็บมาจากสวนสวยด้านหลังบ้านเรือนไทยหลังงามกำลังเดินเข้าบ้าน แต่แล้ว ปั้นหยา สิทธิวงศ์ ก็ต้องชะงักเท้ากึก เมื่อพบว่าอันนา หญิงสาวผู้มีศักดิ์เป็นญาติผู้น้องยืนกอดอกขวางทางอยู่ อันนา สิทธิวงศ์ เป็นลูกสาวของคุณอาภาสกรซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องชายแท้ๆ ของบิดาของหล่อน ซึ่งหลังจากที่คุณอาเสียชีวิตไปพร้อมกับบิดาของหล่อนด้วยอุบัติเหตุเมื่อสิบกว่าปีก่อน ทำให้ทั้งหล่อนและอันนาต้องเข้ามาอยู่ในการอุปการะเลี้ยงดูของคุณย่า ซึ่งก็คือ คุณย่า วารี สิทธิวงศ์ และหลังจากที่บิดาของหล่อนเสียชีวิตไปได้ไม่นาน มารดาก็ตรอมใจตายตามไปอีกคน ทำให้ในชีวิตของหล่อนเหลือแค่เพียงคุณย่าวารีคนเดียวเท่านั้นที่ให้ความรักและความเมตตา ดังนั้นหล่อนจึงรักคุณย่าวารีมาก รักที่สุดในชีวิต “อรุณสวัสดิ์จ้ะน้องอัน” หล่อนทักทายตามมารยาท “ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดี เมื่อวานแกไปอ่อยพี่แม็กของฉันถึงรถเลยใช่ไหม” คำพูดของอันนาทำให้ปั้นหยาหน้าซีดเผือด และก
“แกแน่ใจเหรอว่าจะทำอย่างนี้จริงๆ นังอัน”อันนาที่นั่งซดเหล้าอยู่หันไปมองเพื่อนที่ตั้งคำถาม และตอบออกไปเสียงดังฟังชัด“ฉันแน่ใจสิ”ดวงตาของอันนาเปล่งประกายแห่งความหวัง“เพราะถ้าฉันไม่ทำ พี่แม็กก็ไม่ขอฉันแต่งงานสักทีน่ะสิ”“แต่มันประหลาดมากนะยะ วางยาปลุกเซ็กซ์แฟนตัวเองเนี่ย ฉันถามจริงๆ เถอะ แกกับพี่แม็กของแกยังไม่เคยเอากันเลยเหรอ”“เคยสิ ฉันไม่พลาดเรื่องแบบนี้อยู่แล้วแกก็รู้นี่นังนก”“อ้าว ถ้าเคยๆ ขี่กันมาแล้ว จะต้องมาวางยาปลุกเซ็กซ์อีกทำไมล่ะยะ เปลืองยาเปล่าๆ”“ก็เดี๋ยวนี้พี่แม็กไม่ค่อยมีเวลาให้ฉันเท่าไหร่ พอไม่ค่อยได้เจอกัน ฉันก็ระแวงน่ะสิ กลัวพี่แม็กจะไปมีคนอื่น” อันนาพูดเสียงไม่สบายใจ“แล้วถ้าแกวางยาปลุกเซ็กซ์พี่แม็ก แกจะได้อะไรตอบแทนกลับมาวะ นอกจากความฟินอ่ะ”อันนายิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะตอบเพื่อนซี้ออกมา“ฉันก็จะตั้งท้องไงล่ะ ถ้าฉันตั้งท้อง พี่แม็กก็จะต้องรีบแต่งงานกับฉัน”“อ้าว แล้วเอากันปกติแกท้องไม่ได้หรือไง ทำไมต้องวางยาด้วย”“ก็ทุกครั้งที่เอากัน พี่แม็กใส่ถุงทุกรอบน่ะสิ แล้วครั้งไหนถุงรั่วหรือแตก พี่แม็กก็กำชับให้ฉันกินยาคุม แล้วแบบนี้มันจะท้องไปได้ยังไงล่ะยะ” อันนาพูดอย่างหัวเสี
ปั้นหยาเดินเข้าไปคุกเข่าใกล้ๆ กับฝ่าเท้าของอันนา กำลังจะเปิดขวดน้ำยาทาเล็บอยู่แล้วเชียว แต่เสียงเครื่องยนต์คุ้นหูดังใกล้เข้ามาเสียก่อน“เสียงรถพี่แม็กนี่”รอยยิ้มพึงพอใจระบายเต็มใบหน้าของอันนา ก่อนที่หล่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา เมื่อคิดอะไรขึ้นมาได้“แกขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ เร็วเข้า”“เอ่อ... ทำไมล่ะจ๊ะน้องอัน”ปั้นหยาที่คุกเข่าอยู่กับพื้นเพื่อเตรียมทาเล็บเท้าให้กับอันนาช้อนตามองคนออกคำสั่งอย่างแปลกใจ“แกไม่ต้องมาถามหรอก ทำตามที่ฉันสั่งก็พอ ขึ้นมานั่งบนเก้าอี้สิ เร็วเข้า!”ปั้นหยาลุกขึ้นทำตามคำสั่งของอันนาทั้งๆ ที่สมองยังมึนงงไม่เปลี่ยนแปลง“เอาขาขึ้นมาพาดไว้บนโต๊ะสิ เร็วเข้า”“เอ่อ... พี่ใส่กระโปรงคงทำแบบนั้นไม่ได้หรอก”ปั้นหยาไม่ได้ทำตามคำสั่งนี้ ทำให้อันนาต้องเป็นฝ่ายกระชากขาเรียวของปั้นหยาขึ้นมาด้วยตัวเอง“น้องอัน... อุ๊ย!”มือเล็กของปั้นหยาต้องรีบตะครุบชายกระโปรงที่ร่นขึ้นมาถึงขาอ่อนเอาไว้ทันที“น้องอันจะทำอะไรเนี่ย ปล่อยเท้าพี่เถอะ”“อยู่เฉยๆ เถอะน่า”อันนาลงไปนั่งคุกเข่ากับพื้น และตั้งท่าจะทาเล็บเท้าให้กับปั้นหยา“แต่พี่ไม่อยากทาเล็บนะน้องอัน ปล่อยขาพี่เถอะ”สมองของปั้นหยาตามการกระ
มื้ออาหารค่ำของวันต่อมา อันนาก็ร่วมมือกับเพื่อนสนิทอย่างรัชนกทำตามแผนการที่วางเอาไว้ นั่นก็คือการใส่ยาปลุกเซ็กซ์ในเครื่องดื่มของแม็กซิมัส“แกแน่ใจนะนังนกว่ายาที่แกไปซื้อมาเนี่ยมันจะได้ผล”“แน่ใจสิยะ ไอ้คนขายมันบอกว่าเอาทั้งคืนไม่มีเหนื่อย แกเตรียมเมื่อยขาได้เลยนังอัน”อันนาระบายยิ้มอย่างพึงพอใจ ดวงตาเป็นประกายวาววับเมื่อสิ่งที่หวังกำลังจะเป็นจริง“คราวนี้แหละฉันต้องท้องแน่ๆ แล้วพี่แม็กก็จะต้องรีบแต่งงานกับฉันโดยเร็ว”รัชนกมองหน้าเพื่อนซี้แล้วส่ายศีรษะไปมา “นี่ถ้าฉันเป็นแกนะ ฉันจะไม่ทำแบบนี้ให้ยุ่งยากหรอก ฉันจะรอให้พี่แม็กพร้อมและขอแต่งงานด้วยตัวเอง ภูมิใจกว่าเยอะ”“ก็ฉันรอไม่ได้ ฉันไม่อยากอยู่ที่บ้านนรกหลังนี้ต่อแม้แต่วินาทีเดียว อ้อ และอีกเหตุผลหนึ่งที่สำคัญก็คือ มีผู้หญิงจ้องจะงาบ พี่แม็กของฉันเยอะเกินไป ฉันระแวง”“ก็ตามใจแก นั่นเสียงรถพี่แม็กหรือเปล่า”รัชนกพยักพเยิดหน้าอันนารีบวิ่งไปเกาะขอบหน้าต่างมอง และก็พบว่ารถสปอร์ตคันหรูของแฟนหนุ่มแล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้านแล้ว“ใช่ พี่แม็กมาแล้ว” น้ำเสียงของอันนาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น“เดี๋ยวแกไปไล่คนใช้ให้กลับที่พักให้หมดเลยนะ จากนั้นแกก็รีบ
แม็กซิมัสคงกำลังจะคลั่ง และหล่อนมั่นใจว่าเขาไม่มีทางทันได้อาบน้ำหรอก เพราะหล่อนจะลากเขาขึ้นเตียงทันทีเมื่อเข้าไปในห้องนอน“นี่ค่ะ ห้องนอนของอัน”หล่อนเปิดประตูห้องนอนให้กับแม็กซิมัส กำลังจะก้าวตามเขาเข้าไปภายในนั้น แต่เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือดันดังกังวานขึ้นเสียก่อน“บ้าจริง ใครโทรมาตอนนี้วะ”หล่อนพึมพำอย่างหงุดหงิด แต่ก็ต้องเก็บอาการเอาไว้ และพูดกับแม็กซิมัส“อันขอตัวรับสายก่อนนะคะ เชิญพี่แม็กตามสบายเลยค่ะ”“ครับ”หล่อนตั้งใจจะคุยโทรศัพท์ที่หน้าห้องนอนของตนเอง แต่พอเห็นเบอร์ที่เรียกเข้ามา ก็หน้าซีดเผือด ต้องรีบกดวางสายแทบไม่ทัน แต่แค่เสี้ยววินาทีเดียว มันก็ดังขึ้นมาใหม่ จนหล่อนจำต้องเดินเลี่ยงออกมาตรงระเบียง และกดรับสาย“แกจะโทรมารังควานฉันอีกทำไม ไอ้วิทย์”เสียงหัวเราะดังมาตามสายทำให้อันนายิ่งโกรธแค้นแน่นอก แต่หล่อนกำลังเสียเปรียบผู้ชายคนนี้“แหม ผัวจะโทรหาเมียบ้างไม่ได้เลยเหรอครับ”“ไอ้บ้า อย่ามาพูดแบบนี้นะ เงินก็เอาไปจากฉันแล้ว ยังจะมาตามรังควานอะไรฉันอีก ไปให้พ้น!”“เงินแค่สองแสน มันไม่พอที่จะปิดปากผัวได้หรอกเมียจ๋า”“ไอ้สัตว์นรก แกต้องการอะไรจากฉันอีก!”อันนาเจ็บใจนักที่ต