แชร์

ตอนที่ 2

            เรือนร่างแบบบางน่าทะนุถนอมของหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของความสูงเพียงหนึ่งร้อยหกสิบสองเซนติเมตรกำลังหิ้วตะกร้าใส่ดอกไม้นานาชนิดที่เพิ่งเก็บมาจากสวนสวยด้านหลังบ้านเรือนไทยหลังงามกำลังเดินเข้าบ้าน แต่แล้ว ปั้นหยา สิทธิวงศ์ ก็ต้องชะงักเท้ากึก เมื่อพบว่าอันนา หญิงสาวผู้มีศักดิ์เป็นญาติผู้น้องยืนกอดอกขวางทางอยู่

             อันนา สิทธิวงศ์ เป็นลูกสาวของคุณอาภาสกรซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องชายแท้ๆ ของบิดาของหล่อน ซึ่งหลังจากที่คุณอาเสียชีวิตไปพร้อมกับบิดาของหล่อนด้วยอุบัติเหตุเมื่อสิบกว่าปีก่อน ทำให้ทั้งหล่อนและอันนาต้องเข้ามาอยู่ในการอุปการะเลี้ยงดูของคุณย่า ซึ่งก็คือ คุณย่า วารี สิทธิวงศ์

            และหลังจากที่บิดาของหล่อนเสียชีวิตไปได้ไม่นาน มารดาก็ตรอมใจตายตามไปอีกคน ทำให้ในชีวิตของหล่อนเหลือแค่เพียงคุณย่าวารีคนเดียวเท่านั้นที่ให้ความรักและความเมตตา ดังนั้นหล่อนจึงรักคุณย่าวารีมาก รักที่สุดในชีวิต

            “อรุณสวัสดิ์จ้ะน้องอัน” หล่อนทักทายตามมารยาท

            “ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดี เมื่อวานแกไปอ่อยพี่แม็กของฉันถึงรถเลยใช่ไหม”

            คำพูดของอันนาทำให้ปั้นหยาหน้าซีดเผือด และก็อดนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนไม่ได้

            หล่อนเดินเล่นอยู่ที่สวนหย่อมหน้าบ้าน ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับจุดที่แม็กซิมัสจอดรถเอาไว้ และหลังจากที่เขากับอันนารับประทานอาหารค่ำด้วยกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็กลับมาที่รถ ซึ่งหล่อนอยู่ตรงนั้นพอดี จึงถูกเขาหาเรื่องเอา

            ‘เมื่อวานเธอยุยงให้คุณย่าดุด่าอันนาด้วยเรื่องไม่จริงใช่ไหม ปั้นหยา’

            ทุกครั้งที่เจอหน้ากัน เขามักจะกล่าวหาหล่อนด้วยข้อหาที่ไม่เป็นความจริงเสมอ ซึ่งหล่อนก็เอือมระอาที่จะโต้เถียงออกไป เพราะรู้ดีว่าเขาไม่มีทางเชื่อคำพูดของผู้หญิงที่เขาตั้งแง่รังเกียจอย่างตนเองแน่นอน

            ‘แล้วแต่คุณจะคิดเถอะค่ะ ขอตัวนะคะ อ๊ะ...’

            หล่อนจำได้ว่าตัวเองจะเดินหนี แต่เขาคว้าแขนของหล่อนเอาไว้ พร้อมกับลากให้เข้ามาหยุดตรงหน้า

          ‘จำเอาไว้ อย่ารังแกอันนาอีก เพราะถ้าฉันทนไม่ได้เมื่อไหร่ เธอถูกสั่งสอนแน่’

            หล่อนทำได้แค่เพียงเม้มปากอิ่มของตัวเองเป็นเส้นตรง และสะบัดแขนแรงๆ จนหลุดจากพันธนาการของเขา จากนั้นก็รีบเดินหนีจากมาทั้งน้ำตา

            “เขาบอกน้องอันแบบนั้นเหรอจ๊ะ”

            “พี่แม็กไม่ได้บอก แต่ฉันเห็นกับตา”

อันนาเค้นเสียงเกรี้ยวกราด ขณะเดินเข้ามาเอานิ้วชี้จิ้มหน้าผากของปั้นหยาแรงๆ จนปั้นหยาหน้าหงายไปด้านหลัง

“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าแกคิดจะแย่งพี่แม็กไปจากฉันน่ะ”

“พี่ไม่เคยคิดแบบนั้นเลยนะน้องอัน เชื่อพี่เถอะ” ปั้นหยาน้ำตาริน และพยายามอธิบาย

“สายตาที่แกใช้มองพี่แม็ก ใครๆ ก็อ่านออก แกแอบรักพี่แม็กแฟนของฉัน!”

ใช่... หล่อนแอบรักแม็กซิมัสตั้งแต่สมัยที่เขาเข้าไปเป็นวิทยากรรับเชิญในชั้นเรียนที่มหาวิทยาลัย และก็แอบรักมาตลอด จนกระทั่งมารู้ว่าผู้ชายในฝันคือแฟนของญาติผู้น้อง แต่กระนั้นก็ไม่อาจจะตัดใจเลิกรักได้แล้ว หล่อนจึงทำได้แค่เก็บความรักเอาไว้ให้เป็นความลับเท่านั้น และก็ยินดีกับอันนาอย่างจริงใจ

“เปล่า... พี่ไม่ได้...”

“อย่ามาตอแหล ใครๆ ก็มองออก หึ... แต่ถึงแกจะอ่อยพี่แม็กยังไง พี่แม็กก็ไม่มีทางสนใจผู้หญิงจืดชืดอย่างแกหรอก ต่อให้แก้ผ้าให้ พี่แม็กก็ไม่ชายตามอง”

อันนาหัวเราะลั่น สะใจที่ถากถางปั้นหยาจนหญิงสาวน้ำตาไหลรินได้

“พี่... ขอตัวนะ...”

“อย่าเพิ่งไป”

อันนาคว้าแขนเรียวของปั้นหยาเอาไว้ และกระชากให้หยุดเดินอย่างเอาแต่ใจ

“ปล่อยแขนพี่เถอะน้องอัน พี่เจ็บ...”

อันนาอมยิ้มสะใจ แต่ก็ยอมปล่อยแต่โดยดี

“ฉันกับพี่แม็กจะแต่งงานกันเร็วๆ นี้ ดังนั้นแก เลิกหวังที่จะแย่งพี่แม็กไปจากฉันได้แล้ว เพราะโอกาสที่แกจะทำได้มันคือศูนย์”

“พี่ไม่เคยคิดจะแย่งแฟนของใคร น้องอันสบายใจเถอะ”

ปั้นหยายกหลังมือขึ้นป้ายน้ำตาทิ้ง และฝืนยิ้มเศร้าหมองออกมา

“พี่ขอตัวนะ”

อันนายิ้มเย้ยหยัน มองร่างอรชรของปั้นหยาที่เดินจากไปด้วยสายตาเกลียดชัง

ใช่... หล่อนเกลียดขี้หน้าปั้นหยามาก

ปั้นหยาเปรียบเสมือนมารในชีวิตของหล่อนไม่มีผิด หลังจากพ่อกับแม่ตายไป หล่อนก็ถูกเลี้ยงดูโดยคุณย่าวารีพร้อมกับปั้นหยา แต่ตลอดเวลาหล่อนรับรู้ได้ว่าคุณย่าวารีรักปั้นหยามากกว่า หล่อนมักจะถูกเปรียบเทียบกับปั้นหยาเสมอในทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องเรียน เรื่องมารยาท และเรื่องพฤติกรรมส่วนตัว หล่อนพ่ายแพ้ปั้นหยาทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องผู้ชาย

รอยยิ้มพึงพอใจระบายเกลื่อนใบหน้านวลของอันนา หล่อนภูมิใจที่ตัวเองสามารถฉกชิงผู้ชายทุกคนที่แสดงท่าทางสนใจปั้นหยามาเป็นของตนเองได้ทั้งหมด

นั่นคงเป็นเพราะหล่อนมีจริตจะก้านมากกว่า แต่งหน้าแต่งตัวเป็นผู้หญิงกว่า และหล่อนก็มีเสน่ห์มากกว่าผู้หญิงจืดชืดอย่างปั้นหยานั่นเอง

อันนายกมือขึ้นเสยเส้นผมสีดำขลับที่ตกลงมาปรกหน้าผากของตนเองไปไว้หลังใบหู ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปของตัวเองส่งไปให้แม็กซิมัส

‘คิดถึงมากค่ะ’

ติ๊งงง...

เสียงข้อความตอบกลับมาทันควัน

‘คิดถึงเช่นกันครับ’

อันนามองข้อความที่แม็กซิมัสส่งมาให้ด้วยหัวใจที่อิ่มเอม หล่อนโชคดีมากที่สุดท้ายแล้วก็สามารถครอบครองหัวใจของผู้ชายที่ทั้งหล่อทั้งรวยอย่างแม็กซิมัสเอาไว้ในกำมือได้

คุณย่าวารีมองเรือนร่างอรชรของหลานสาวหัวแก้วหัวแหวนอย่างปั้นหยาที่เดินหิ้วตะกร้าใส่ดอกไม้เข้ามาหาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชม

ปั้นหยาเป็นเด็กดีของย่าอย่างหล่อนเสมอมา กิริยามารยาทเรียบร้อยงดงาม หัวอ่อน ว่านอนสอนง่าย และไม่เคยประพฤติไม่ดีให้หล่อนต้องปวดหัวปวดใจเลยแม้แต่ครั้งเดียว

“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณย่า”

“อรุณสวัสดิ์จ้ะหลานรัก”

คุณย่าวารีระบายยิ้มอ่อนโยน ขณะปรายตามองไปในตะกร้าสานในมือขาวสะอาดของหลานสาวอย่างอยากรู้อยากเห็น

“วันนี้ได้ดอกไม้อะไรมาร้อยพวงมาลัยบ้างจ๊ะ”

ปั้นหยาหย่อนกายลงนั่งบนเก้าอี้ใกล้ๆ กับที่คุณย่าวารีนั่งอยู่ พร้อมกับวางตะกร้าลง

“วันนี้หยาได้ดอกมะลิมาเยอะเลยค่ะคุณย่า แล้วก็มีดอกกุหลาบสีชมพูด้วยค่ะ เพิ่งบานด้วยนะคะ”

ปั้นหยายิ้มหวาน ในขณะหยิบดอกไม้ในตะกร้าขึ้นให้คุณย่าวารีดู

“สวยๆ ทั้งนั้นเลยนะหยา”

“ใช่ค่ะ เดี๋ยวหยาจะร้อยพวงมาลัยให้คุณย่าเอาไว้บูชาพระหลายๆ พวงเลยนะคะ”

“เอาสิ เดี๋ยวย่าช่วยร้อยด้วย”

“ค่ะ คุณย่า”

คุณย่าวารีกวาดตามองดวงหน้าของหลานสาวสุดที่รักด้วยความชื่นชมยิ่งนัก

ปั้นหยาเป็นผู้หญิงผิวขาวสะอาด แก้มนวลเปล่งปลั่งมีสีเลือดฝาดตลอดเวลา ดวงตาหวานฉ่ำเพราะขนตายาวงอนมาก คิ้วโก่งตามธรรมชาติโดยไม่ต้องกันตกแต่งแบบสาวๆ คนอื่น ริมฝีปากเป็นรูปกระจับอวบอิ่ม สีแดงระเรื่อคล้ายกับผลของเชอร์รี่สุก เส้นผมสีดำขลับยาวตรงสยายถึงบั้นเอว ผิวกายก็ขาวนวลเนียนราวกับหยาดของน้ำนมโค

อันนาหลานสาวอีกคนของหล่อนมักจะค่อนแคะว่าปั้นหยาเป็นผู้หญิงจืดชืด หน้าซีดราวกับศพเดินได้ แถมยังแต่งตัวเชยไม่ทันสมัย แต่ในสายตาของหล่อนกลับรู้สึกว่าปั้นหยาสวยงาม และน่าทะนุถนอมมากกว่าผู้หญิงที่มีจริตจะก้านเยอะอย่างอันนาเสียอีก

ปั้นหยาให้ความรู้สึกเหมือนแสงแดดยามเช้าทั้งอบอุ่น ทั้งบริสุทธิ์สะอาด ในขณะที่อันนาไม่ต่างจากแสงแดดร้อนแรงยามเที่ยงวันที่สัมผัสนานเข้าก็มีแต่จะมอดไหม้

“แล้ววันนี้หยามีสอนน้องสายไหมทำขนมหรือเปล่าจ๊ะ”

“วันนี้น้องสายไหมติดเรียนศิลปะน่ะค่ะคุณย่า คุณพฤกษ์ก็เลยยกยอดไปสัปดาห์หน้าเลยค่ะ”

คุณย่าวารีอมยิ้มและพยักหน้าน้อยๆ แต่ก็ยังอดที่จะถามหยั่งเชิงต่อไม่ได้

“คุณพฤกษ์เป็นคนดีนะ หยาว่าไหม”

ปั้นหยาช้อนตาขึ้นมองคุณย่าวารี ก่อนจะตอบด้วยรอยยิ้มอ่อนหวาน

“ค่ะ หยาก็คิดว่าคุณพฤกษ์เป็นคนดี และก็เป็นพ่อที่ดีของน้องสายไหมค่ะ”

“แล้วหยาไม่หวั่นไหวบ้างเหรอ”

“เอ่อ... หยา...”

คำพูดอึกอักของปั้นหยาทำให้คุณย่าวารีหัวเราะออกมา และก็ตัดบทเพราะไม่อยากทำให้หลานสาวสุดที่รักลำบากใจ

“ย่าถามไปงั้นแหละ ไม่ได้คิดอะไรหรอก”

“ค่ะ คุณย่า”

หญิงสาวก้มหน้าลงหยิบดอกมะลิมาร้อยพวงมาลัยเงียบๆ แต่ในหัวก็อดคิดถึงผู้ชายอีกคนไม่ได้

แม็กซิมัส...

เมื่อไหร่หล่อนจะหยุดรักผู้ชายคนนี้ได้เสียที

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status