เรือนร่างแบบบางน่าทะนุถนอมของหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของความสูงเพียงหนึ่งร้อยหกสิบสองเซนติเมตรกำลังหิ้วตะกร้าใส่ดอกไม้นานาชนิดที่เพิ่งเก็บมาจากสวนสวยด้านหลังบ้านเรือนไทยหลังงามกำลังเดินเข้าบ้าน แต่แล้ว ปั้นหยา สิทธิวงศ์ ก็ต้องชะงักเท้ากึก เมื่อพบว่าอันนา หญิงสาวผู้มีศักดิ์เป็นญาติผู้น้องยืนกอดอกขวางทางอยู่
อันนา สิทธิวงศ์ เป็นลูกสาวของคุณอาภาสกรซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องชายแท้ๆ ของบิดาของหล่อน ซึ่งหลังจากที่คุณอาเสียชีวิตไปพร้อมกับบิดาของหล่อนด้วยอุบัติเหตุเมื่อสิบกว่าปีก่อน ทำให้ทั้งหล่อนและอันนาต้องเข้ามาอยู่ในการอุปการะเลี้ยงดูของคุณย่า ซึ่งก็คือ คุณย่า วารี สิทธิวงศ์
และหลังจากที่บิดาของหล่อนเสียชีวิตไปได้ไม่นาน มารดาก็ตรอมใจตายตามไปอีกคน ทำให้ในชีวิตของหล่อนเหลือแค่เพียงคุณย่าวารีคนเดียวเท่านั้นที่ให้ความรักและความเมตตา ดังนั้นหล่อนจึงรักคุณย่าวารีมาก รักที่สุดในชีวิต
“อรุณสวัสดิ์จ้ะน้องอัน” หล่อนทักทายตามมารยาท
“ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดี เมื่อวานแกไปอ่อยพี่แม็กของฉันถึงรถเลยใช่ไหม”
คำพูดของอันนาทำให้ปั้นหยาหน้าซีดเผือด และก็อดนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนไม่ได้
หล่อนเดินเล่นอยู่ที่สวนหย่อมหน้าบ้าน ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับจุดที่แม็กซิมัสจอดรถเอาไว้ และหลังจากที่เขากับอันนารับประทานอาหารค่ำด้วยกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็กลับมาที่รถ ซึ่งหล่อนอยู่ตรงนั้นพอดี จึงถูกเขาหาเรื่องเอา
‘เมื่อวานเธอยุยงให้คุณย่าดุด่าอันนาด้วยเรื่องไม่จริงใช่ไหม ปั้นหยา’
ทุกครั้งที่เจอหน้ากัน เขามักจะกล่าวหาหล่อนด้วยข้อหาที่ไม่เป็นความจริงเสมอ ซึ่งหล่อนก็เอือมระอาที่จะโต้เถียงออกไป เพราะรู้ดีว่าเขาไม่มีทางเชื่อคำพูดของผู้หญิงที่เขาตั้งแง่รังเกียจอย่างตนเองแน่นอน
‘แล้วแต่คุณจะคิดเถอะค่ะ ขอตัวนะคะ อ๊ะ...’
หล่อนจำได้ว่าตัวเองจะเดินหนี แต่เขาคว้าแขนของหล่อนเอาไว้ พร้อมกับลากให้เข้ามาหยุดตรงหน้า
‘จำเอาไว้ อย่ารังแกอันนาอีก เพราะถ้าฉันทนไม่ได้เมื่อไหร่ เธอถูกสั่งสอนแน่’
หล่อนทำได้แค่เพียงเม้มปากอิ่มของตัวเองเป็นเส้นตรง และสะบัดแขนแรงๆ จนหลุดจากพันธนาการของเขา จากนั้นก็รีบเดินหนีจากมาทั้งน้ำตา
“เขาบอกน้องอันแบบนั้นเหรอจ๊ะ”
“พี่แม็กไม่ได้บอก แต่ฉันเห็นกับตา”
อันนาเค้นเสียงเกรี้ยวกราด ขณะเดินเข้ามาเอานิ้วชี้จิ้มหน้าผากของปั้นหยาแรงๆ จนปั้นหยาหน้าหงายไปด้านหลัง
“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าแกคิดจะแย่งพี่แม็กไปจากฉันน่ะ”
“พี่ไม่เคยคิดแบบนั้นเลยนะน้องอัน เชื่อพี่เถอะ” ปั้นหยาน้ำตาริน และพยายามอธิบาย
“สายตาที่แกใช้มองพี่แม็ก ใครๆ ก็อ่านออก แกแอบรักพี่แม็กแฟนของฉัน!”
ใช่... หล่อนแอบรักแม็กซิมัสตั้งแต่สมัยที่เขาเข้าไปเป็นวิทยากรรับเชิญในชั้นเรียนที่มหาวิทยาลัย และก็แอบรักมาตลอด จนกระทั่งมารู้ว่าผู้ชายในฝันคือแฟนของญาติผู้น้อง แต่กระนั้นก็ไม่อาจจะตัดใจเลิกรักได้แล้ว หล่อนจึงทำได้แค่เก็บความรักเอาไว้ให้เป็นความลับเท่านั้น และก็ยินดีกับอันนาอย่างจริงใจ
“เปล่า... พี่ไม่ได้...”
“อย่ามาตอแหล ใครๆ ก็มองออก หึ... แต่ถึงแกจะอ่อยพี่แม็กยังไง พี่แม็กก็ไม่มีทางสนใจผู้หญิงจืดชืดอย่างแกหรอก ต่อให้แก้ผ้าให้ พี่แม็กก็ไม่ชายตามอง”
อันนาหัวเราะลั่น สะใจที่ถากถางปั้นหยาจนหญิงสาวน้ำตาไหลรินได้
“พี่... ขอตัวนะ...”
“อย่าเพิ่งไป”
อันนาคว้าแขนเรียวของปั้นหยาเอาไว้ และกระชากให้หยุดเดินอย่างเอาแต่ใจ
“ปล่อยแขนพี่เถอะน้องอัน พี่เจ็บ...”
อันนาอมยิ้มสะใจ แต่ก็ยอมปล่อยแต่โดยดี
“ฉันกับพี่แม็กจะแต่งงานกันเร็วๆ นี้ ดังนั้นแก เลิกหวังที่จะแย่งพี่แม็กไปจากฉันได้แล้ว เพราะโอกาสที่แกจะทำได้มันคือศูนย์”
“พี่ไม่เคยคิดจะแย่งแฟนของใคร น้องอันสบายใจเถอะ”
ปั้นหยายกหลังมือขึ้นป้ายน้ำตาทิ้ง และฝืนยิ้มเศร้าหมองออกมา
“พี่ขอตัวนะ”
อันนายิ้มเย้ยหยัน มองร่างอรชรของปั้นหยาที่เดินจากไปด้วยสายตาเกลียดชัง
ใช่... หล่อนเกลียดขี้หน้าปั้นหยามาก
ปั้นหยาเปรียบเสมือนมารในชีวิตของหล่อนไม่มีผิด หลังจากพ่อกับแม่ตายไป หล่อนก็ถูกเลี้ยงดูโดยคุณย่าวารีพร้อมกับปั้นหยา แต่ตลอดเวลาหล่อนรับรู้ได้ว่าคุณย่าวารีรักปั้นหยามากกว่า หล่อนมักจะถูกเปรียบเทียบกับปั้นหยาเสมอในทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องเรียน เรื่องมารยาท และเรื่องพฤติกรรมส่วนตัว หล่อนพ่ายแพ้ปั้นหยาทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องผู้ชาย
รอยยิ้มพึงพอใจระบายเกลื่อนใบหน้านวลของอันนา หล่อนภูมิใจที่ตัวเองสามารถฉกชิงผู้ชายทุกคนที่แสดงท่าทางสนใจปั้นหยามาเป็นของตนเองได้ทั้งหมด
นั่นคงเป็นเพราะหล่อนมีจริตจะก้านมากกว่า แต่งหน้าแต่งตัวเป็นผู้หญิงกว่า และหล่อนก็มีเสน่ห์มากกว่าผู้หญิงจืดชืดอย่างปั้นหยานั่นเอง
อันนายกมือขึ้นเสยเส้นผมสีดำขลับที่ตกลงมาปรกหน้าผากของตนเองไปไว้หลังใบหู ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปของตัวเองส่งไปให้แม็กซิมัส
‘คิดถึงมากค่ะ’
ติ๊งงง...
เสียงข้อความตอบกลับมาทันควัน
‘คิดถึงเช่นกันครับ’
อันนามองข้อความที่แม็กซิมัสส่งมาให้ด้วยหัวใจที่อิ่มเอม หล่อนโชคดีมากที่สุดท้ายแล้วก็สามารถครอบครองหัวใจของผู้ชายที่ทั้งหล่อทั้งรวยอย่างแม็กซิมัสเอาไว้ในกำมือได้
คุณย่าวารีมองเรือนร่างอรชรของหลานสาวหัวแก้วหัวแหวนอย่างปั้นหยาที่เดินหิ้วตะกร้าใส่ดอกไม้เข้ามาหาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชม
ปั้นหยาเป็นเด็กดีของย่าอย่างหล่อนเสมอมา กิริยามารยาทเรียบร้อยงดงาม หัวอ่อน ว่านอนสอนง่าย และไม่เคยประพฤติไม่ดีให้หล่อนต้องปวดหัวปวดใจเลยแม้แต่ครั้งเดียว
“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณย่า”
“อรุณสวัสดิ์จ้ะหลานรัก”
คุณย่าวารีระบายยิ้มอ่อนโยน ขณะปรายตามองไปในตะกร้าสานในมือขาวสะอาดของหลานสาวอย่างอยากรู้อยากเห็น
“วันนี้ได้ดอกไม้อะไรมาร้อยพวงมาลัยบ้างจ๊ะ”
ปั้นหยาหย่อนกายลงนั่งบนเก้าอี้ใกล้ๆ กับที่คุณย่าวารีนั่งอยู่ พร้อมกับวางตะกร้าลง
“วันนี้หยาได้ดอกมะลิมาเยอะเลยค่ะคุณย่า แล้วก็มีดอกกุหลาบสีชมพูด้วยค่ะ เพิ่งบานด้วยนะคะ”
ปั้นหยายิ้มหวาน ในขณะหยิบดอกไม้ในตะกร้าขึ้นให้คุณย่าวารีดู
“สวยๆ ทั้งนั้นเลยนะหยา”
“ใช่ค่ะ เดี๋ยวหยาจะร้อยพวงมาลัยให้คุณย่าเอาไว้บูชาพระหลายๆ พวงเลยนะคะ”
“เอาสิ เดี๋ยวย่าช่วยร้อยด้วย”
“ค่ะ คุณย่า”
คุณย่าวารีกวาดตามองดวงหน้าของหลานสาวสุดที่รักด้วยความชื่นชมยิ่งนัก
ปั้นหยาเป็นผู้หญิงผิวขาวสะอาด แก้มนวลเปล่งปลั่งมีสีเลือดฝาดตลอดเวลา ดวงตาหวานฉ่ำเพราะขนตายาวงอนมาก คิ้วโก่งตามธรรมชาติโดยไม่ต้องกันตกแต่งแบบสาวๆ คนอื่น ริมฝีปากเป็นรูปกระจับอวบอิ่ม สีแดงระเรื่อคล้ายกับผลของเชอร์รี่สุก เส้นผมสีดำขลับยาวตรงสยายถึงบั้นเอว ผิวกายก็ขาวนวลเนียนราวกับหยาดของน้ำนมโค
อันนาหลานสาวอีกคนของหล่อนมักจะค่อนแคะว่าปั้นหยาเป็นผู้หญิงจืดชืด หน้าซีดราวกับศพเดินได้ แถมยังแต่งตัวเชยไม่ทันสมัย แต่ในสายตาของหล่อนกลับรู้สึกว่าปั้นหยาสวยงาม และน่าทะนุถนอมมากกว่าผู้หญิงที่มีจริตจะก้านเยอะอย่างอันนาเสียอีก
ปั้นหยาให้ความรู้สึกเหมือนแสงแดดยามเช้าทั้งอบอุ่น ทั้งบริสุทธิ์สะอาด ในขณะที่อันนาไม่ต่างจากแสงแดดร้อนแรงยามเที่ยงวันที่สัมผัสนานเข้าก็มีแต่จะมอดไหม้
“แล้ววันนี้หยามีสอนน้องสายไหมทำขนมหรือเปล่าจ๊ะ”
“วันนี้น้องสายไหมติดเรียนศิลปะน่ะค่ะคุณย่า คุณพฤกษ์ก็เลยยกยอดไปสัปดาห์หน้าเลยค่ะ”
คุณย่าวารีอมยิ้มและพยักหน้าน้อยๆ แต่ก็ยังอดที่จะถามหยั่งเชิงต่อไม่ได้
“คุณพฤกษ์เป็นคนดีนะ หยาว่าไหม”
ปั้นหยาช้อนตาขึ้นมองคุณย่าวารี ก่อนจะตอบด้วยรอยยิ้มอ่อนหวาน
“ค่ะ หยาก็คิดว่าคุณพฤกษ์เป็นคนดี และก็เป็นพ่อที่ดีของน้องสายไหมค่ะ”
“แล้วหยาไม่หวั่นไหวบ้างเหรอ”
“เอ่อ... หยา...”
คำพูดอึกอักของปั้นหยาทำให้คุณย่าวารีหัวเราะออกมา และก็ตัดบทเพราะไม่อยากทำให้หลานสาวสุดที่รักลำบากใจ
“ย่าถามไปงั้นแหละ ไม่ได้คิดอะไรหรอก”
“ค่ะ คุณย่า”
หญิงสาวก้มหน้าลงหยิบดอกมะลิมาร้อยพวงมาลัยเงียบๆ แต่ในหัวก็อดคิดถึงผู้ชายอีกคนไม่ได้
แม็กซิมัส...
เมื่อไหร่หล่อนจะหยุดรักผู้ชายคนนี้ได้เสียที
“แกแน่ใจเหรอว่าจะทำอย่างนี้จริงๆ นังอัน”อันนาที่นั่งซดเหล้าอยู่หันไปมองเพื่อนที่ตั้งคำถาม และตอบออกไปเสียงดังฟังชัด“ฉันแน่ใจสิ”ดวงตาของอันนาเปล่งประกายแห่งความหวัง“เพราะถ้าฉันไม่ทำ พี่แม็กก็ไม่ขอฉันแต่งงานสักทีน่ะสิ”“แต่มันประหลาดมากนะยะ วางยาปลุกเซ็กซ์แฟนตัวเองเนี่ย ฉันถามจริงๆ เถอะ แกกับพี่แม็กของแกยังไม่เคยเอากันเลยเหรอ”“เคยสิ ฉันไม่พลาดเรื่องแบบนี้อยู่แล้วแกก็รู้นี่นังนก”“อ้าว ถ้าเคยๆ ขี่กันมาแล้ว จะต้องมาวางยาปลุกเซ็กซ์อีกทำไมล่ะยะ เปลืองยาเปล่าๆ”“ก็เดี๋ยวนี้พี่แม็กไม่ค่อยมีเวลาให้ฉันเท่าไหร่ พอไม่ค่อยได้เจอกัน ฉันก็ระแวงน่ะสิ กลัวพี่แม็กจะไปมีคนอื่น” อันนาพูดเสียงไม่สบายใจ“แล้วถ้าแกวางยาปลุกเซ็กซ์พี่แม็ก แกจะได้อะไรตอบแทนกลับมาวะ นอกจากความฟินอ่ะ”อันนายิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะตอบเพื่อนซี้ออกมา“ฉันก็จะตั้งท้องไงล่ะ ถ้าฉันตั้งท้อง พี่แม็กก็จะต้องรีบแต่งงานกับฉัน”“อ้าว แล้วเอากันปกติแกท้องไม่ได้หรือไง ทำไมต้องวางยาด้วย”“ก็ทุกครั้งที่เอากัน พี่แม็กใส่ถุงทุกรอบน่ะสิ แล้วครั้งไหนถุงรั่วหรือแตก พี่แม็กก็กำชับให้ฉันกินยาคุม แล้วแบบนี้มันจะท้องไปได้ยังไงล่ะยะ” อันนาพูดอย่างหัวเสี
ปั้นหยาเดินเข้าไปคุกเข่าใกล้ๆ กับฝ่าเท้าของอันนา กำลังจะเปิดขวดน้ำยาทาเล็บอยู่แล้วเชียว แต่เสียงเครื่องยนต์คุ้นหูดังใกล้เข้ามาเสียก่อน“เสียงรถพี่แม็กนี่”รอยยิ้มพึงพอใจระบายเต็มใบหน้าของอันนา ก่อนที่หล่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา เมื่อคิดอะไรขึ้นมาได้“แกขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ เร็วเข้า”“เอ่อ... ทำไมล่ะจ๊ะน้องอัน”ปั้นหยาที่คุกเข่าอยู่กับพื้นเพื่อเตรียมทาเล็บเท้าให้กับอันนาช้อนตามองคนออกคำสั่งอย่างแปลกใจ“แกไม่ต้องมาถามหรอก ทำตามที่ฉันสั่งก็พอ ขึ้นมานั่งบนเก้าอี้สิ เร็วเข้า!”ปั้นหยาลุกขึ้นทำตามคำสั่งของอันนาทั้งๆ ที่สมองยังมึนงงไม่เปลี่ยนแปลง“เอาขาขึ้นมาพาดไว้บนโต๊ะสิ เร็วเข้า”“เอ่อ... พี่ใส่กระโปรงคงทำแบบนั้นไม่ได้หรอก”ปั้นหยาไม่ได้ทำตามคำสั่งนี้ ทำให้อันนาต้องเป็นฝ่ายกระชากขาเรียวของปั้นหยาขึ้นมาด้วยตัวเอง“น้องอัน... อุ๊ย!”มือเล็กของปั้นหยาต้องรีบตะครุบชายกระโปรงที่ร่นขึ้นมาถึงขาอ่อนเอาไว้ทันที“น้องอันจะทำอะไรเนี่ย ปล่อยเท้าพี่เถอะ”“อยู่เฉยๆ เถอะน่า”อันนาลงไปนั่งคุกเข่ากับพื้น และตั้งท่าจะทาเล็บเท้าให้กับปั้นหยา“แต่พี่ไม่อยากทาเล็บนะน้องอัน ปล่อยขาพี่เถอะ”สมองของปั้นหยาตามการกระ
มื้ออาหารค่ำของวันต่อมา อันนาก็ร่วมมือกับเพื่อนสนิทอย่างรัชนกทำตามแผนการที่วางเอาไว้ นั่นก็คือการใส่ยาปลุกเซ็กซ์ในเครื่องดื่มของแม็กซิมัส“แกแน่ใจนะนังนกว่ายาที่แกไปซื้อมาเนี่ยมันจะได้ผล”“แน่ใจสิยะ ไอ้คนขายมันบอกว่าเอาทั้งคืนไม่มีเหนื่อย แกเตรียมเมื่อยขาได้เลยนังอัน”อันนาระบายยิ้มอย่างพึงพอใจ ดวงตาเป็นประกายวาววับเมื่อสิ่งที่หวังกำลังจะเป็นจริง“คราวนี้แหละฉันต้องท้องแน่ๆ แล้วพี่แม็กก็จะต้องรีบแต่งงานกับฉันโดยเร็ว”รัชนกมองหน้าเพื่อนซี้แล้วส่ายศีรษะไปมา “นี่ถ้าฉันเป็นแกนะ ฉันจะไม่ทำแบบนี้ให้ยุ่งยากหรอก ฉันจะรอให้พี่แม็กพร้อมและขอแต่งงานด้วยตัวเอง ภูมิใจกว่าเยอะ”“ก็ฉันรอไม่ได้ ฉันไม่อยากอยู่ที่บ้านนรกหลังนี้ต่อแม้แต่วินาทีเดียว อ้อ และอีกเหตุผลหนึ่งที่สำคัญก็คือ มีผู้หญิงจ้องจะงาบ พี่แม็กของฉันเยอะเกินไป ฉันระแวง”“ก็ตามใจแก นั่นเสียงรถพี่แม็กหรือเปล่า”รัชนกพยักพเยิดหน้าอันนารีบวิ่งไปเกาะขอบหน้าต่างมอง และก็พบว่ารถสปอร์ตคันหรูของแฟนหนุ่มแล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้านแล้ว“ใช่ พี่แม็กมาแล้ว” น้ำเสียงของอันนาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น“เดี๋ยวแกไปไล่คนใช้ให้กลับที่พักให้หมดเลยนะ จากนั้นแกก็รีบ
แม็กซิมัสคงกำลังจะคลั่ง และหล่อนมั่นใจว่าเขาไม่มีทางทันได้อาบน้ำหรอก เพราะหล่อนจะลากเขาขึ้นเตียงทันทีเมื่อเข้าไปในห้องนอน“นี่ค่ะ ห้องนอนของอัน”หล่อนเปิดประตูห้องนอนให้กับแม็กซิมัส กำลังจะก้าวตามเขาเข้าไปภายในนั้น แต่เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือดันดังกังวานขึ้นเสียก่อน“บ้าจริง ใครโทรมาตอนนี้วะ”หล่อนพึมพำอย่างหงุดหงิด แต่ก็ต้องเก็บอาการเอาไว้ และพูดกับแม็กซิมัส“อันขอตัวรับสายก่อนนะคะ เชิญพี่แม็กตามสบายเลยค่ะ”“ครับ”หล่อนตั้งใจจะคุยโทรศัพท์ที่หน้าห้องนอนของตนเอง แต่พอเห็นเบอร์ที่เรียกเข้ามา ก็หน้าซีดเผือด ต้องรีบกดวางสายแทบไม่ทัน แต่แค่เสี้ยววินาทีเดียว มันก็ดังขึ้นมาใหม่ จนหล่อนจำต้องเดินเลี่ยงออกมาตรงระเบียง และกดรับสาย“แกจะโทรมารังควานฉันอีกทำไม ไอ้วิทย์”เสียงหัวเราะดังมาตามสายทำให้อันนายิ่งโกรธแค้นแน่นอก แต่หล่อนกำลังเสียเปรียบผู้ชายคนนี้“แหม ผัวจะโทรหาเมียบ้างไม่ได้เลยเหรอครับ”“ไอ้บ้า อย่ามาพูดแบบนี้นะ เงินก็เอาไปจากฉันแล้ว ยังจะมาตามรังควานอะไรฉันอีก ไปให้พ้น!”“เงินแค่สองแสน มันไม่พอที่จะปิดปากผัวได้หรอกเมียจ๋า”“ไอ้สัตว์นรก แกต้องการอะไรจากฉันอีก!”อันนาเจ็บใจนักที่ต
เสียงกรีดร้องขอความเมตตาของปั้นหยาหายเข้าไปในลำคอแกร่งของแม็กซิมัสทั้งหมด ไม่ว่าหล่อนจะวิงวอน ร้องไห้ขอให้เขาหยุดกระทำสักเท่าไหร่ แต่ผู้ชายที่กำลังถูกตัณหาครอบงำก็ไม่แม้แต่จะหยิบยื่นเศษความปรานีให้ปากของหล่อนถูกเขาประกบจูบอย่างเร่าร้อนดูดดื่ม จูบแรกของวัยสาวถูกผู้ชายที่พร่ำบอกว่ารังเกียจนักหนาช่วงชิงไปอย่างป่าเถื่อน มือเล็กยกขึ้นผลักไสตลอดเวลา และก็พยายามที่จะเม้มปากแน่นไม่ให้ลิ้นใหญ่สอดแทรกเข้ามารุกรานภายใน แต่สุดท้ายแล้วหล่อนก็ต้องพ่ายแพ้ เมื่อความเจ็บหนึบที่เกิดขึ้นเพราะนิ้วแข็งแรงกดลงบนปลายคางรุนแรงเหลือเกิน“อ๊ะ... อื้อ...”หล่อนร้องครางต่อต้านได้แค่นั้น ลิ้นใหญ่ก็พุ่งทะยานเข้ามาภายใน เขาเอามือบีบอุ้งปากของหล่อนเอาไว้ เพื่อไม่ให้หล่อนกัดลิ้น จากนั้นก็ปลุกเร้าหล่อนด้วยลีลาเชี่ยวชาญช่ำชอง จนในที่สุดสาวน้อยไร้เดียงสาเช่นหล่อนก็ต้องยอมพ่ายแพ้ความรู้สึกวาบหวามที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนในชีวิตทำให้กายสาวลอยสูงขึ้นเรื่อยๆ เปลวไฟสวาทเร่าร้อนแผดเผาจนอนุสติสูญสลาย กายสาวค่อยๆ โอนอ่อนตอบสนองสัมผัสทรงอานุภาพของเขาในที่สุดเสียงครางด้วยความพึงพอใจของแม็กซิมัสดังกระหึ่มกังวาน เขาบดจูบหนักหน่วงยิ่
“อื้อ... อื้อ...”เขาไม่สนใจว่าหล่อนจะทรมานสักแค่ไหน เพราะเขาเดินหน้าเคลื่อนไหวอย่างดุดัน ทุกจังหวะของเขาเต็มไปด้วยความป่าเถื่อน หยาดน้ำตาของหล่อนไม่อาจจะทำให้คนใจร้ายสงสารได้เลย“อืมมม โอ้ววว...”เสียงครางของเขาดังกังวานขึ้นต่อเนื่อง ในขณะที่ความเจ็บเริ่มจางหายไปจากกายสาวบ้างแล้ว“อา... อา...”ความอุ่นซ่านแห่งความเสียวกระสันเกิดขึ้นในทุกครั้งที่แม็กซิมัสเคลื่อนไหว และมันก็ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนหล่อนไม่สามารถหักห้ามใจได้อีก“อา... อา...”หล่อนปล่อยกายปล่อยใจให้เพลิดเพลินไปกับพายุสวาทของแม็กซิมัสอย่างยากจะต้านทาน กายสาวเบียดกระแซะขึ้นหา หยัดร่อนความเป็นหญิงขึ้นรับการสอดแทรกร้อนแรงด้วยความเต็มใจเสียงคำรามที่ฟังไม่ได้ศัพท์ของเขาดังกังวานขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ใบหน้าหล่อจัดตอนนี้บิดเบี้ยวเหยเกคล้ายกำลังต่อสู้กับอะไรบางอย่างที่ทรงพลังสะโพกของเขาส่ายวนคลึงเคล้นกับความเป็นหญิงร้อนแรง มือใหญ่ทั้งสองข้างกอบกุมสะโพกกลมกลึงเอาไว้แน่น และกระชากให้หล่อนอ้ารับความหิวกระหายบ้าคลั่งครั้งแล้วครั้งเล่า“อา... อา... คุณแม็ก... อา... ไม่ไหวแล้ว... อา...”หล่อนบิดกายเร่าๆ ครางสะอื้นเป็นชื่อของเขาน
ไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศทำให้คนที่นอนขดอยู่บนเตียงโดยไร้ผ้าห่มรู้สึกตัวตื่นขึ้น ดวงตากลมโตเบิกท่ามกลางความมืดสลัว ความทรงจำจากเหตุการณ์ที่เพิ่งจะผ่านพ้นไปเมื่อหลายชั่วโมงก่อนทำให้หล่อนเผลอครางออกมาอย่างลืมตัว หยาดน้ำตารินไหลอาบแก้ม และก็พยายามที่จะกัดฟันขยับตัวลงจากเตียง แต่ความเจ็บปวดที่ซอกขาทำให้หล่อนเผลอส่งเสียงครางออกมาอีกครั้ง“อ๊ะ...”ตรงนั้นของหล่อนเจ็บระบมมาก นั่นเป็นเพราะแม็กซิมัสรุนแรง ป่าเถื่อน และชำเราหล่อนนานต่อเนื่องกันหลายชั่วโมง แถมอาวุธที่เขาใช้รังแกหล่อนก็ทั้งใหญ่ทั้งยาว จนสาวบริสุทธิ์เช่นหล่อนรู้สึกคล้ายกับจะฉีกขาดไปทั้งตัวหล่อนพยายามสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ขณะต่อสู้กับความเจ็บปวดก้าวลงจากเตียง ความเจ็บลึกในซอกขาย้ำเตือนให้หล่อนลืมความป่าเถื่อนของแม็กซิมัสไม่ลง“อัน... อยู่กับพี่ก่อน...”เอวคอดของหล่อนถูกคว้าเอาไว้ และเขาก็พลิกกายขึ้นทาบทับเอาไว้ทั้งตัว ท่ามกลางความมืดมิดเขาเรียกหาอันนา โดยไม่ได้สนใจเลยว่าผู้หญิงใต้ร่างของเขาจะเป็นใคร“อย่า... ปล่อยค่ะ...”“พี่ต้องการอัน...”เขาครางเสียงกระเส่าก่อนจะก้มลงจูบปากอิ่ม กลืนกินเสียงต่อต้านอ่อนแรงของหล่อนเข้าไปในลำคอเสียห
อันนาเห็นแม็กซิมัสเข้าใจผิด หล่อนก็รีบสมทบสนับสนุนเพื่อให้ตัวเองรอดพ้นข้อสงสัยทันควัน“มึงร้ายกาจ... ร้ายกาจที่สุด นังปั้นหยา!”ปั้นหยาส่ายหน้าไปมาเมื่อถูกปรักปรำจากสองคนที่กำลังเกรี้ยวกราดหล่อนอยากหายตัวไปจากตรงนี้ หรือไม่ก็ตายไปจากโลกใบนี้เสียเลย“พี่ไม่ได้ทำนะอัน... คุณแม็ก... หยาไม่ได้ทำ... หยา อ๊ะ... หยาเจ็บ...”“ถ้าเธอไม่ได้เป็นคนทำ แล้วใครจะทำ เรื่องเลวๆ แบบนี้ มีแค่เธอคนเดียวเท่านั้นแหละที่กล้าทำ ปั้นหยา”เขาบีบแขนของหล่อนแรงมากราวกับต้องการทำให้กระดูกของหล่อนแตกละเอียดหล่อนเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวดทรมาน และพยายามวิงวอนให้เขาเมตตา“ได้โปรด... เชื่อหยา... หยาไม่รู้เรื่อง หยาไม่ได้ทำ...”หล่อนร้องไห้อย่างน่าเวทนา แต่ไม่มีใครที่จะเชื่อหล่อนเลย“ตอแหล!”“อ๊ะ...”ปั้นหยาถูกผลักให้ล้มหงาย ร่างเปลือยแทบกลิ้งตกลงไปจากเตียง และพวกเขาก็คงจะรุมทึ้งหล่อนจนย่อยยับต่อไปอีก หากคุณย่าวารีไม่ปรากฏตัวขึ้นเสียก่อน“เกิดอะไรขึ้น เสียงดังลั่นบ้านเชียว”“คุณย่า...”ปั้นหยาครางเรียกชื่อของผู้มีพระคุณด้วยน้ำเสียงสะอื้นไห้ ในขณะที่แม็กซิมัสนั่งทำหน้าเคร่งเครียดอยู่บนเตียงเพราะไร้ทางหลบหนี“หยา... หยาทำ