อันนาเห็นแม็กซิมัสเข้าใจผิด หล่อนก็รีบสมทบสนับสนุนเพื่อให้ตัวเองรอดพ้นข้อสงสัยทันควัน
“มึงร้ายกาจ... ร้ายกาจที่สุด นังปั้นหยา!”
ปั้นหยาส่ายหน้าไปมาเมื่อถูกปรักปรำจากสองคนที่กำลังเกรี้ยวกราด
หล่อนอยากหายตัวไปจากตรงนี้ หรือไม่ก็ตายไปจากโลกใบนี้เสียเลย
“พี่ไม่ได้ทำนะอัน... คุณแม็ก... หยาไม่ได้ทำ... หยา อ๊ะ... หยาเจ็บ...”
“ถ้าเธอไม่ได้เป็นคนทำ แล้วใครจะทำ เรื่องเลวๆ แบบนี้ มีแค่เธอคนเดียวเท่านั้นแหละที่กล้าทำ ปั้นหยา”
เขาบีบแขนของหล่อนแรงมากราวกับต้องการทำให้กระดูกของหล่อนแตกละเอียด
หล่อนเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวดทรมาน และพยายามวิงวอนให้เขาเมตตา
“ได้โปรด... เชื่อหยา... หยาไม่รู้เรื่อง หยาไม่ได้ทำ...”
หล่อนร้องไห้อย่างน่าเวทนา แต่ไม่มีใครที่จะเชื่อหล่อนเลย
“ตอแหล!”
“อ๊ะ...”
ปั้นหยาถูกผลักให้ล้มหงาย ร่างเปลือยแทบกลิ้งตกลงไปจากเตียง และพวกเขาก็คงจะรุมทึ้งหล่อนจนย่อยยับต่อไปอีก หากคุณย่าวารีไม่ปรากฏตัวขึ้นเสียก่อน
“เกิดอะไรขึ้น เสียงดังลั่นบ้านเชียว”
“คุณย่า...”
ปั้นหยาครางเรียกชื่อของผู้มีพระคุณด้วยน้ำเสียงสะอื้นไห้ ในขณะที่แม็กซิมัสนั่งทำหน้าเคร่งเครียดอยู่บนเตียงเพราะไร้ทางหลบหนี
“หยา... หยาทำไมเป็นแบบนี้ล่ะลูก...”
คุณย่าวารีเดินเข้ามาหยุดข้างร่างของปั้นหยา และก็ไม่ต้องให้ใครมาอธิบายก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืน
“หยา...” ปั้นหยาเอาแต่ร้องไห้พูดไม่ออก
“ฉันว่าคุณกับฉันมีเรื่องที่จะต้องคุยกันยาวเลยนะ คุณหมอแม็กซิมัส”
แม็กซิมัสถอนใจออกมาแรงๆ เขายกมือขึ้นเสยเส้นผมยุ่งๆ ที่ตกลงมาปรกหน้าผากด้วยความหงุดหงิด
“ครับ”
“คุณย่า... นังหยามันอ่อยพี่แม็กของอัน...”
อันนาตั้งสติได้ก็รีบเข้ามาเกาะแขนของคุณย่าวารี และพยายามใส่ไฟปั้นหยา แต่หญิงสูงวัยเลี้ยงหลานสาวสองคนมาตั้งแต่เล็ก ทำให้รู้จักนิสัยของคนทั้งคู่เป็นอย่างดี
“เรื่องนี้ย่าจะสอบสวนเอง”
“แต่นังหยามัน...”
“ออกไปกับย่าอันนา สองคนนั้นเขาจะได้แต่งเนื้อแต่งตัว ยังมีเรื่องอีกเยอะที่ต้องจัดการ”
อันนาไม่ต้องการทำตามคำสั่งของคุณย่าวารี แต่ก็ไม่อาจจะขัดข้องได้ จำต้องเดินออกไป และทันทีที่ประตูห้องปิดลง ปั้นหยาก็ถูกจอมมารร้ายเล่นงานทันที
“ถามจริงๆ เถอะ ชอบแย่งของคนอื่นเป็นนิสัยหรือไง ถึงทำเรื่องเลวทรามแบบนี้ขึ้นมาได้”
“หยา... ไม่ได้ทำ...” หล่อนปฏิเสธทั้งน้ำตา
“ถ้าเธอไม่ได้เป็นคนทำ แล้วเธอจะมานอนให้ฉันเอาทั้งคืนได้ยังไง ปั้นหยา!”
เขาตวาดลั่น ขณะก้าวลงจากเตียงไปหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวมใส่ สายตาที่มองมายังหล่อนเต็มไปด้วยความเกลียดชังขยะแขยง จนคนถูกมองเจ็บปวดแสนสาหัส
“ไม่คิดเลยนะว่าหน้าซื่อๆ ตาใสๆ อย่างเธอ จะแรดจะร่านได้ถึงเพียงนี้ สิ่งที่น้องอันบอกฉันเกี่ยวกับเธอ มันคือความจริงล้วนๆ เธอนี่มันเลวชาติชั่วจริงๆ”
เขาด่าหล่อน ด่าอย่างไม่ไว้หน้า ด่าอย่างเกลียดชัง ด่าราวกับหล่อนไม่ใช่คน
“หยา... ไม่ได้ทำจริงๆ นะคะ พาหยาไปสาบานที่ไหนก็ได้ หยาไม่รู้เรื่อง...”
“ถ้าไม่รู้เรื่อง เธอเข้ามาในห้องนี้ตอนที่อันนาไม่อยู่ทำไม”
“หยาเอา... เอาชุดมาคืนน้องอัน...”
หล่อนอธิบายตามความเป็นจริง แต่เขาหัวเราะเยาะ เพราะไม่เชื่อคำพูดของหล่อนเลย
“ตอแหล! อย่าคิดว่าฉันจะเชื่อคำพูดของผู้หญิงแพศยาอย่างเธอ ไม่มีวัน ผู้หญิงสารเลว!”
“คุณแม็ก... หยา... หยาไม่รู้เรื่องจริงๆ นะคะ หยา...”
“จำเอาไว้นะ ฉันทั้งเกลียดทั้งขยะแขยงผู้หญิงร่านอย่างเธอที่สุด ปั้นหยา!”
หัวใจของหล่อนเจ็บปวดราวกับถูกเฉือนออกไปชิ้นๆ น้ำตาที่หลั่งรินออกมาไม่สามารถชำระล้างความรวดร้าวทรมานให้เบาบางลงได้เลย
“แต่หยาขอยืนยัน... หยาไม่รู้เรื่อง หยาไม่ได้ทำ...”
หล่อนรวบรวมแรงกายแรงใจเฮือกสุดท้าย ก้าวลงจากเตียง คลานไปเก็บเสื้อผ้าของตัวเองบนพื้น และวิ่งหายเข้าไปในห้องน้ำทั้งน้ำตา
“บ้าฉิบ!”
แม็กซิมัสสบถตามหลังแบบบางไปด้วยความเดือดดาล แทบไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงที่ทำให้เขาลุ่มหลงเมื่อคืนจะเป็นปั้นหยา แถมหล่อนยัง...
สายตาของเขาสะดุดหยุดกึกอยู่กับรอยสีแดงบนผ้าปูเตียง กรามแกร่งขบกันแน่นจนเนื้อข้างแก้มกระตุกเป็นริ้ว
หล่อนเป็นสาวพรหมจารี...
พระเจ้า...
มือใหญ่สองข้างยกขึ้นลูบหน้าแรงๆ ก่อนจะเดินกลับไปกลับมาภายในห้อง
นี่เขากำลังเผชิญหน้าอยู่กับเรื่องบ้าบออะไรกันนะ แล้วทำไม ทำไมเรื่องแบบนี้มันถึงเกิดขึ้น
ร่างกำยำทรุดลงนั่งกับเตียงนอนยุ่งเหยิงราวกับผ่านสงครามโลกมาอย่างอ่อนแรง
แล้วนี่เขาจะทำยังไงดี...
จะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ยังไงดี
หัวสมองที่เคยชาญฉลาดของเขา ตอนนี้มันกำลังมืดแปดด้าน มองไปทางไหนก็เจอแต่ทางตันเสียทุกทาง
ร่างอรชรทรุดลงกองกับพื้นทันที เมื่อก้าวเข้ามาภายในห้องน้ำได้สำเร็จ หยาดน้ำตาไหลทะลักออกมาอาบแก้ม ซึ่งก็ไม่ต่างจากความทรงจำเมื่อคืนที่ไหลบ่าเข้ามาท่วมท้นหัวใจ
หล่อนไม่รู้ว่าทำไมมันเกิดเรื่องนี้ขึ้นได้ เพราะหล่อนไม่เคยมีเจตนาแบบนี้เลย หล่อนเข้ามาในห้องของอันนาเพียงเพราะต้องการนำชุดมาคืนให้ แต่ก็ถูกแม็กซิมัสกระทำย่ำยี เขาต่างหากที่เป็นคนผิด ไม่ใช่มายัดข้อหาแพศยาให้กับหล่อน
มือเล็กยกขึ้นปิดหน้าและร่ำไห้ด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส กายสาวสั่นสะท้านเพราะแรงสะอื้นน่าเวทนา หล่อนก้มลงมองเนื้อสาว และก็พบว่ามันชอกช้ำแดงก่ำเพราะน้ำมือของแม็กซิมัสทุกตารางนิ้ว ยิ่งตรงนั้น... ที่ซอกขา... หล่อนรับรู้ได้ถึงความบอบช้ำแสนสาหัส หล่อนเจ็บแปลบแม้กระทั่งตอนนั่งนิ่ง
ทำไมมันน่าอดสูแบบนี้
หญิงสาวสะอื้นไห้ไม่หยุด และก็พยายามที่จะลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อคืน แต่สมองกลับจดจำทุกอย่างได้อย่างแม่นยำ ทุกฉากทุกตอนที่ถูกเขาโลมเลีย มือใหญ่บีบเคล้นขยี้ขยำ ปากของเขาก็กัดก็แทะ โดยมีลิ้นสากแลบออกมาปาดเลีย
หล่อนครางออกมาอย่างปวดร้าว เมื่อภาพฉากสวาทตอนที่ถูกแม็กซิมัสล่วงล้ำสอดใส่ผุดขึ้นมาในหัว หล่อนยอมให้เขาจูงมือพาไปในสถานที่ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนอย่างเต็มใจ
ทำไมหล่อนถึงได้น่าสมเพชแบบนี้นะ สมควรแล้วล่ะที่จะถูกทุกคนประณาม
ก๊อก ก๊อก
“ตายอยู่ในนั้นหรือไง ออกมาได้แล้ว!”
เสียงดุกระด้างของแม็กซิมัสดังขึ้นพร้อมกับเสียงเขย่าประตูห้องน้ำ คนที่กำลังดำดิ่งอยู่ในเหวแห่งความอัปยศเงยหน้าขึ้น ก่อนจะกลั้นใจตอบออกไป
“คุณแม็ก... ออกไปก่อนเถอะค่ะ ไม่ต้องรอหยา”
“ฉันไม่ได้รอเธอ แต่คุณย่าของเธอ ให้ฉันมาลากเธอไปพร้อมกันต่างหาก”
งั้นก็แสดงว่าเขาออกไปจากห้องแล้วครั้งหนึ่ง แต่จำต้องกลับมาที่นี่อีกครั้งเพราะคำสั่งของคุณย่าวารี
น้ำตาของหล่อนไหลเป็นทางไม่ยอมหยุด ขณะกัดฟันลุกขึ้นยืนอย่างทรมาน
หล่อนเจ็บเหลือเกิน... ที่ตรงนั้น... ตรงที่แม็กซิมัสคุกคามด้วยความแข็งชันใหญ่โตมาตลอดทั้งค่ำคืน
“ขอ... เวลาอีกห้านาทีค่ะ”
“อย่าเกินล่ะ เพราะฉันไม่ชอบเสียเวลารอผู้หญิงไร้ค่าแบบเธอ”
“ค่ะ”
ไม่มีวินาทีไหนที่จะเจ็บปวดมากกว่านี้อีกแล้ว เมื่อถูกผู้ชายที่เฝ้าแอบรักด่าทอ และแสดงความรังเกียจเดียดฉันท์
หล่อนเจ็บเหลือเกิน...
เจ็บทั้งตัว...
และหัวใจ...
แม็กซิมัสหงุดหงิดจนแทบจะเป็นบ้า เขารีบคุยโทรศัพท์สั่งงานเลขาฯ ของตนเองที่โทรมาตามเร็วๆ ก่อนจะรีบตัดสายเมื่อผู้หญิงที่เป็นต้นเหตุของความวุ่นวายทั้งหลายทั้งมวลก้าวออกมาจากห้องน้ำ
เนื้อตัวของหล่อนแบบบางราวกับตุ๊กตาแก้วที่พร้อมจะแตกหักโดยง่ายหากไม่ได้รับการทะนุถนอม ฝ่าเท้าเปลือยขาวสะอาดหยุดชะงักทันทีที่เห็นเขา ดวงหน้านวลไร้เครื่องสำอางซีดเผือดไร้สีเลือด ดวงตาของหล่อนเบิกกว้างและมีหยาดน้ำตาคลอตลอดเวลา ริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงสดตามธรรมชาติยังคงบวมเจ่อเพราะจุมพิตจากเขานั่นเอง
บ้าฉิบ!
เขาสบถอยู่ภายในลำคอด้วยความเดือดดาล เกลียดตัวเองที่พลาดพลั้งไปมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงแพศยาตรงหน้า ปั้นหยาก็แค่แสดงละครเป็นผู้หญิงแบบบาง ไร้เดียงสา แต่ความจริงแล้วหล่อนเจ้าเล่ห์ และคิดจะจับเขาอย่างที่อันนาพร่ำบอกจริงๆ
เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เขารู้ดีว่าตัวเองถูกวางยา เพราะไม่อย่างนั้นเขาคงไม่กระทำเรื่องน่าสมเพชเช่นนั้นลงไปได้ แถมเจ้าหล่อนก็ยังเข้ามาหาในเวลาที่เหมาะเจาะพอดิบพอดีชายหนุ่มยกมือขึ้นเสยผมแรงๆ ด้วยความหงุดหงิด ขณะตวัดตามองผู้หญิงที่แสร้งทำเป็นยืนตัวสั่นตรงหน้าด้วยความเกลียดชัง เท่าที่เห็น หล่อนก็มีดีแค่อย่างเดียวเท่านั้น คือเยื่อพรหมจรรย์ที่เขาเป็นคนทำลายไป นอกนั้นปั้นหยาก็คือสิ่งจอมปลอม เป็นผู้หญิงสารเลวที่เขาขยะแขยงเขาก้าวเท้าเดินเข้าไปหยุดตรงหน้าของหล่อน มองด้วยสายตาชิงชังอย่างที่ไม่เคยใช้กับใครมาก่อน“ฉันเกลียดเธอ จำเอาไว้นะปั้นหยา”คนฟังน้ำตาร่วงอีกครั้ง แต่ก็รีบยกหลังมือขึ้นมาป้ายทิ้ง และกลั้นใจพูดโต้ตอบออกไป“หยา... จะจำเอาไว้ค่ะ”เขาหัวเราะเครียดๆ สายตาของเขาเต็มไปด้วยกองไฟจำนวนมหาศาล และมันก็แผดเผาคนถูกมองจนแทบมอดไหม้“ผู้หญิงที่ฉันรักคืออันนา ส่วนเธอมันก็แค่อีตัว ที่ฉันเผลอไผลนอนด้วย และอย่าฝันนะว่าฉันจะรับผิดชอบอะไรในตัวของเธอ”หล่อนเจ็บจนหัวใจชาดิก เลือดสดๆ ไหลทะลักท่วมท้นจนแทบจะทะลักออกมาทางปาก“หยา... ไม่ได้ต้องการให้คุณแม็กมารับผิดชอบอะไรอยู่แล้วค่ะ เรื่องเมื่อคืน... ให
แม็กซิมัสก็คิดไม่ต่างจากอันนาแม้แต่น้อย แต่เขาก็รู้ดีว่าไม่สมควรจะพูดมันออกไป“พี่ขอตัวกลับก่อนนะครับน้องอัน รู้สึกเพลีย”อันนาช้อนตาขึ้นมองแม็กซิมัสอย่างโมโหเพราะรู้ทันว่าทำไมชายหนุ่มถึงอ่อนเพลีย“เรื่องนี้เป็นความผิดของพี่แม็ก ยังไงซะพี่แม็กก็ต้องรับผิดชอบชีวิตของอัน เข้าใจไหมคะ”ใช่ มันคือความผิดพลาดของเขาเต็มๆ แต่ตัวต้นเหตุก็คือผู้หญิงแพศยาคนนั้น“พี่จะไม่มีวันทิ้งน้องอัน ถึงพี่จะแต่งงานกับปั้นหยา แต่ผู้หญิงคนนั้นก็จะได้แค่ทะเบียนสมรส กับความเหี้ยมโหดของพี่ เพราะคนที่พี่รักคือน้องอันคนเดียว”อันนาพอยิ้มออกมาได้บ้าง หล่อนรีบโผเข้ากอดแม็กซิมัสและประจบประแจงเสียงอ่อนเสียงหวาน“พี่แม็กพูดแล้วนะคะ ห้ามผิดคำพูดเด็ดขาด”“พี่เป็นคนรักษาคำพูดครับ น้องอันเชื่อใจพี่ได้ เราสองคนจะอยู่บนสวรรค์ ส่วนผู้หญิงคนนั้นจะต้องตกนรกทั้งเป็น”อันนาอดที่จะยิ้มออกมาด้วยความสะใจไม่ได้ เพราะถึงแม้เรื่องราวมันจะกลับตาลปัตรแบบนี้ แต่แม็กซิมัสก็ให้คำมั่นว่าจะไม่ทอดทิ้งหล่อนปั้นหยาที่หลบออกมาร้องไห้หน้าบ้านต้องรีบก้าวเท้าเพื่อเดินเลี่ยงไปทางอื่น เมื่อจู่ๆ แม็กซิมัสก็ปรากฏตัวขึ้น ดวงตาสีเขียวจัดของเขาจ้องมองมาเขม
“คุณย่าขา... หยา... หยาไม่ต้องการความรับผิดชอบจากคุณแม็ก... คุณย่าเลิกคำสั่งเถอะนะคะ”ปั้นหยานั่งร้องไห้อยู่กับพื้น และซบหน้าลงกับตักของคุณย่าวารี น้ำตาไหลรินอาบแก้ม“หยา... ฟังย่านะ” คุณย่าวารียกมือขึ้นลูบศีรษะของปั้นหยาอย่างแสนเวทนา “เรื่องที่เกิดขึ้นมันทำให้หยาเสื่อมเสียเกียรติ ยังไงคุณหมอแม็กซิมัสก็ต้องรับผิดชอบด้วยการแต่งงานกับหยา”“แต่คุณแม็กกับน้องอันเป็นคนรักกันนะคะ หยาไม่อยากถูกตราหน้าว่าแย่งคนรักของน้อง...” หล่อนสะอื้นไห้อย่างน่าเวทนา หัวใจปวดร้าวทรมานเหลือเกิน“แม่อันน่ะ หัวหกก้นขวิดมานักต่อนักแล้ว ไม่ใช่สาวบริสุทธิ์อย่างหยานะลูก”“แต่เขาสองคนรักกัน หยาไม่...”“คุณหมอแม็กซิมัสควรจะได้ผู้หญิงที่ดีกว่าแม่อัน และผู้หญิงคนนั้นก็คือหยาไงลูก”คุณย่าวารีรู้ว่าตัวเองอาจจะลำเอียงรักหลานสองคนไม่เท่ากัน แต่อันนาเป็นคนไม่ดี และจิตใจโหดร้าย หล่อนเป็นห่วงปั้นหยา“แต่คุณแม็กเกลียดหยา...”“คุณหมอแม็กแค่เข้าใจในตัวของหยาผิด ถ้าได้อยู่ด้วยกัน เขาจะต้องได้เห็น และได้รู้ว่าหยาเป็นเด็กดีแค่ไหน และเขาก็จะรักหยาของย่าได้ไม่ยาก”หล่อนเคยได้ยินมากับหู ตอนที่อันนาใส่ไฟปั้นหยาให้กับแม็กซิมัส แต่หล่อน
เพียงไม่กี่นาทีหล่อนก็สามารถมาหยุดตรงหน้าของไตรทศ เขาอยู่ในชุดทำงานสีขาวสะอาด แต่ค่อนข้างยับต่างไปจากทุกครั้งที่เห็น สายตาของเขานั้นเศร้าหมอง รอยยิ้มที่มักจะเปื้อนอยู่บนใบหน้าตอนนี้ไม่มีเหลือให้เห็นอีก“พี่ไตร...”ไตรทศมองนางในฝันของตัวเอง มองด้วยความเสียใจและเสียดาย เขาเฝ้าตามจีบ ตามรักมานานตั้งแต่ปั้นหยาเข้าเรียนมหาวิทยาลัยปีที่ 1 จนถึงตอนนี้ก็เกือบจะห้าปีแล้ว มันนานเหลือเกินที่ฝากหัวใจเอาไว้กับหล่อน และก็ไม่เคยเผื่อใจเอาไว้เลยว่า ปั้นหยาจะแต่งงานสายฟ้าแลบแบบนี้ นี่ถ้ารัชนกไม่บอก เขาก็คงไม่รู้เรื่องนี้“น้องหยา... ไม่คิดจะบอกข่าวดีให้พี่รู้เลยหรือครับ”ไตรทศเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าของปั้นหยา ดวงตาของชายหนุ่มแดงก่ำ“ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก... หยา... ขอโทษนะคะพี่ไตร... ขอโทษที่ไม่ได้บอกเรื่องนี้กับพี่ไตรเป็นคนแรก”ไตรทศฝืนยิ้ม ดึงมือเล็กของปั้นหยาขึ้นมากุมเอาไว้ เขามองหล่อนด้วยหัวใจที่ปวดร้าว“น้องหยารู้ใช่ไหมว่าพี่คิดยังไงกับน้องหยา”ปั้นหยาหลบสายตาของไตรทศลงมองปลายเท้าของตนเอง รู้สึกกระอักกระอ่วนใจเหลือเกิน“หยา... ทราบค่ะ”ไตรทศฝืนยิ้มออกมาทั้งๆ ที่ภายในอกเจ็บปวด “พี่ไม่ได้อยากทำให
หล่อนทำได้แค่นั่งร้องไห้สะอึกสะอื้น และก็ไม่อาจรู้ได้ว่าเขากำลังจะพาหล่อนไปที่ไหนสักพักรถก็เลี้ยวเข้ามาในโรงแรมเล็กๆ แห่งหนึ่ง เขาจอดรถ และหันมามองหน้าซีดเผือดของหล่อน“ผู้หญิงอย่างเธอ เอาในโรงแรมมันยังดูแพงไปเลย”แล้วรถที่จอดอยู่ก็ถูกเคลื่อนขึ้นมาบนท้องถนนอีกครั้ง ในขณะที่หล่อนร้องไห้คร่ำครวญด้วยความหวาดกลัว“คุณ... แม็กจะพาหยาไปไหนคะ...”หล่อนได้ยินแต่เสียงหัวเราะราวกับปีศาจร้ายของผู้ชายที่กำลังเมามาย และไม่ช้ารถสปอร์ตก็เลี้ยวจอดที่ข้างทางใต้ต้นไม้ขนาดใหญ่ หัวใจของปั้นหยาสั่นสะท้าน หล่อนหันมองไปรอบตัวด้วยความตื่นกลัว“คุณแม็ก... จอดรถ... ทำไมคะ”เขาปลดเข็มขัดนิรภัยออกจากตัว และหันมาจ้องหน้าหล่อน แม้จะอยู่ในความมืดสลัว แต่หล่อนก็ยังสามารถมองเห็นกองไฟในสายตาของแม็กซิมัสได้อย่างชัดเจน“เวลาฉันเมา ฉันต้องระบาย”“คุณแม็กหมายถึง...”“ทำไมต้องทำเป็นติดอ่างด้วยล่ะ นี่มันงานโปรดของเธอเลยไม่ใช่หรือ ปั้นหยา”“ไม่... ไม่ใช่นะคะ...” หล่อนขยับตัวหนีไปจนชิดประตูฝั่งที่ตัวเองนั่ง มองคนตัวโตด้วยความหวาดกลัว“อย่าดัดจริตให้มากนัก ทำหน้าที่ของเธอซะ”“ไม่... หยา... หยาไม่ทำ อ๊ะ...”เส้นผมของหล่อนถูกเข
ปั้นหยามองตามคนทั้งคู่ไปด้วยสายตาเศร้าหมอง จนสามหนุ่มเพื่อนรักของแม็กซิมัสต้องเข้าไปปลอบใจ“พอดีน้องอันนามีปัญหาหนักอกหนักใจน่ะครับ ก็เลยต้องการความช่วยเหลือจากไอ้แม็กมัน ไม่มีอะไรหรอกครับ จริงไหม ไอ้เคน ไอ้ชาร์ล” อเล็กซิสหันไปหาตัวช่วยซึ่งก็คือเพื่อนๆ ของตนเอง“ใช่ครับ ไม่มีอะไรหรอกครับ” ชาร์ลีกับเคลวินตอบกลับมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม“ค่ะ”ปั้นหยาฝืนยิ้มน้อยๆ และก่อนจะก้มหน้าลงมองพื้น หัวใจปวดร้าวเหลือเกินหล่อนไม่มีสิทธิ์... ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะคิดหึงหวงแม็กซิมัสด้วยซ้ำ“เอ่อ... หยาขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” หล่อนตัดสินใจเอ่ยขึ้นกับบรรดาเพื่อนๆ สุดหล่อของแม็กซิมัสที่เข้ามาช่วยหล่อนต้อนรับแขกที่มาร่วมงานแต่ง“ผมไปส่งไหมครับ” ชาร์ลีรับอาสา“เอ่อ... ไม่เป็นไรค่ะ หยาไปเองได้ค่ะ”“แต่ผมคิดว่าชุดสาวเจ้าน่าจะเดินลำบากอยู่นะครับ ให้ผมไปส่งดีกว่า เฮ้ย ไอ้เคน ไอ้อเล็ก อยู่ตรงนี้แป๊บนะ ฉันไปเป็นเพื่อนคุณหยาเข้าห้องน้ำก่อน” ชาร์ลีหันไปพูดกับเพื่อนสองคน“ตามสบาย ดูแลเจ้าสาวของไอ้แม็กให้ดีล่ะ” อเล็กซิสกำชับชาร์ลีก่อนจะยิ้มให้กับปั้นหยา“เดินระวังนะครับ”“ขอบคุณค่ะ”ปั้นหยาเดินไปข้างหน้าด้วยความระมัดร
เรือนกายเปลือยเปล่าของบุรุษที่มีรูปร่างงดงามไม่ต่างจากเทพบุตรกรีกยืนนิ่งอยู่ใต้สายน้ำเย็นเฉียบ โทสะของเขากำลังพลุ่งพล่านเดือดดาล ความเกลียดชังที่มีต่อผู้หญิงที่เสแสร้งทำเป็นอ่อนแอราวกับนางเอกละครน้ำเน่าทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆเขาเกลียดปั้นหยา หล่อนสารเลว หล่อนแพศยา และหล่อนก็คือต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด เขากับอันนาต้องแยกจากกัน ก็เพราะผู้หญิงสารเลวที่ยอมเอาตัวเข้าแลกเพื่อให้ได้ผู้ชายอย่างหล่อนเขาจะต้องทำให้หล่อนตกนรกหมกไหม้ จะทำทุกอย่างเพื่อให้หล่อนรู้ว่าตัวเองไม่ใช่ผู้ชนะ หล่อนจะไม่มีวันชนะ หากยังอยู่ในอุ้งมือของเขา“ผู้หญิงสารเลว!”ตั้งแต่เกิดจากท้องพ่อท้องแม่ เขายังไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนแสดงบทนางเอกได้แนบเนียนอย่างปั้นหยามาก่อน แม้กระทั่งไอ้เพื่อนสนิททั้งสามคนของเขาก็ยังเชื่อเลยว่าปั้นหยาน่าสงสาร และไม่มีทางทำเรื่องอย่างว่าได้ แต่เขาคือคนหนึ่งแหละที่ไม่มีทางเชื่อมารยาร้อยพันเล่มเกวียนของหล่อนถ้าไม่ใช่หล่อน แล้วใครกันที่จะวางยาปลุกเซ็กซ์ให้เขากินในค่ำคืนนั้นกรามแกร่งขบกันแน่นจนขึ้นสันนูนเป่ง ความโกรธแค้น ศักดิ์ศรีที่ถูกหยามทำให้แม็กซิมัสเหี้ยมโหดขึ้นอย่างน่าหวาดกลัว เขาเอื้อมมื
“พี่แม็กจะกลับแล้วเหรอคะ”อันนาที่เปลือยเปล่าอยู่ใต้ผ้าห่มสีขาวส่งเสียงออดอ้อน เมื่อเห็นแม็กซิมัสหยิบชุดนอนมาสวมใส่“พี่ไม่อยากให้คนใช้มาเห็นน่ะ”“ก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่คะ เราสองคนรักกัน”“หากเป็นเมื่อก่อนน่ะใช่ แต่ตอนนี้พี่แต่งงานกับปั้นหยาแล้ว พี่ไม่อยากทำให้น้องอันเสื่อมเสีย”อันนาทำหน้ายุ่ง และผุดลุกขึ้นนั่ง “แต่นัง... เอ่อ... พี่ปั้นหยาใช้วิธีสกปรกแย่งพี่แม็กไปจากอันนะคะ”แม็กซิมัสที่เพิ่งกลัดกระดุมเสื้อเสร็จเดินเข้ามาหาอันนา และกุมมือเล็กของหญิงสาวเอาไว้“พี่หย่ากับปั้นหยาเมื่อไหร่ เราสองคนจะแต่งงานกันทันทีครับ”“อันกลัวว่าพี่แม็กจะใจอ่อนกับพี่ปั้นหยาน่ะสิคะ”“พี่เกลียดผู้หญิงเลว น้องอันก็รู้ ดังนั้นพี่ไม่มีทางใจอ่อนกับปั้นหยาแน่นอน”อันนาชะงักไปเล็กน้อย แต่ก็รีบยิ้มออดอ้อนออกมา “อันเชื่อพี่แม็กค่ะ”แม็กซิมัสยกมือขึ้นลูบศีรษะของอันนาแผ่วเบา ก่อนจะกำชับเมื่อนึกขึ้นมาได้“อย่าลืมทานยาคุมนะน้องอัน”อันนาเงยหน้าขึ้นมองแม็กซิมัส ก่อนจะทำหน้างอ “ทำไมต้องให้อันกินยาคุมอีกล่ะคะ”“พี่ยังไม่ต้องการให้น้องอันท้องตอนนี้”“พี่แม็กก็พูดแบบนี้ทุกทีเลย ทำเหมือนกับว่าไม่อยากมีลูกกับอันอย่างนั้นแห