เรือนกายเปลือยเปล่าของบุรุษที่มีรูปร่างงดงามไม่ต่างจากเทพบุตรกรีกยืนนิ่งอยู่ใต้สายน้ำเย็นเฉียบ โทสะของเขากำลังพลุ่งพล่านเดือดดาล ความเกลียดชังที่มีต่อผู้หญิงที่เสแสร้งทำเป็นอ่อนแอราวกับนางเอกละครน้ำเน่าทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆเขาเกลียดปั้นหยา หล่อนสารเลว หล่อนแพศยา และหล่อนก็คือต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด เขากับอันนาต้องแยกจากกัน ก็เพราะผู้หญิงสารเลวที่ยอมเอาตัวเข้าแลกเพื่อให้ได้ผู้ชายอย่างหล่อนเขาจะต้องทำให้หล่อนตกนรกหมกไหม้ จะทำทุกอย่างเพื่อให้หล่อนรู้ว่าตัวเองไม่ใช่ผู้ชนะ หล่อนจะไม่มีวันชนะ หากยังอยู่ในอุ้งมือของเขา“ผู้หญิงสารเลว!”ตั้งแต่เกิดจากท้องพ่อท้องแม่ เขายังไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนแสดงบทนางเอกได้แนบเนียนอย่างปั้นหยามาก่อน แม้กระทั่งไอ้เพื่อนสนิททั้งสามคนของเขาก็ยังเชื่อเลยว่าปั้นหยาน่าสงสาร และไม่มีทางทำเรื่องอย่างว่าได้ แต่เขาคือคนหนึ่งแหละที่ไม่มีทางเชื่อมารยาร้อยพันเล่มเกวียนของหล่อนถ้าไม่ใช่หล่อน แล้วใครกันที่จะวางยาปลุกเซ็กซ์ให้เขากินในค่ำคืนนั้นกรามแกร่งขบกันแน่นจนขึ้นสันนูนเป่ง ความโกรธแค้น ศักดิ์ศรีที่ถูกหยามทำให้แม็กซิมัสเหี้ยมโหดขึ้นอย่างน่าหวาดกลัว เขาเอื้อมมื
“พี่แม็กจะกลับแล้วเหรอคะ”อันนาที่เปลือยเปล่าอยู่ใต้ผ้าห่มสีขาวส่งเสียงออดอ้อน เมื่อเห็นแม็กซิมัสหยิบชุดนอนมาสวมใส่“พี่ไม่อยากให้คนใช้มาเห็นน่ะ”“ก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่คะ เราสองคนรักกัน”“หากเป็นเมื่อก่อนน่ะใช่ แต่ตอนนี้พี่แต่งงานกับปั้นหยาแล้ว พี่ไม่อยากทำให้น้องอันเสื่อมเสีย”อันนาทำหน้ายุ่ง และผุดลุกขึ้นนั่ง “แต่นัง... เอ่อ... พี่ปั้นหยาใช้วิธีสกปรกแย่งพี่แม็กไปจากอันนะคะ”แม็กซิมัสที่เพิ่งกลัดกระดุมเสื้อเสร็จเดินเข้ามาหาอันนา และกุมมือเล็กของหญิงสาวเอาไว้“พี่หย่ากับปั้นหยาเมื่อไหร่ เราสองคนจะแต่งงานกันทันทีครับ”“อันกลัวว่าพี่แม็กจะใจอ่อนกับพี่ปั้นหยาน่ะสิคะ”“พี่เกลียดผู้หญิงเลว น้องอันก็รู้ ดังนั้นพี่ไม่มีทางใจอ่อนกับปั้นหยาแน่นอน”อันนาชะงักไปเล็กน้อย แต่ก็รีบยิ้มออดอ้อนออกมา “อันเชื่อพี่แม็กค่ะ”แม็กซิมัสยกมือขึ้นลูบศีรษะของอันนาแผ่วเบา ก่อนจะกำชับเมื่อนึกขึ้นมาได้“อย่าลืมทานยาคุมนะน้องอัน”อันนาเงยหน้าขึ้นมองแม็กซิมัส ก่อนจะทำหน้างอ “ทำไมต้องให้อันกินยาคุมอีกล่ะคะ”“พี่ยังไม่ต้องการให้น้องอันท้องตอนนี้”“พี่แม็กก็พูดแบบนี้ทุกทีเลย ทำเหมือนกับว่าไม่อยากมีลูกกับอันอย่างนั้นแห
เขาพุ่งเข้าหาอย่างดุดัน บุกรุกอย่างไม่ปรานี แต่ครั้งนี้ต่างจากเมื่อคืน เพราะที่ร่องสาวมีน้ำหวานไหลออกมาคลอเคลียจำนวนมาก นั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกเสียวซ่านรุนแรงยิ่งนัก“โอ้ว... อืมมม แน่น... แน่นมาก... พระเจ้า... แน่น”เขาหลับตาลง ขณะสอดใส่ถี่ระรัว บั้นเอวของเขาซอยดุดัน จ้วงแทงอย่างไม่ลืมหูลืมตา เจ้าหล่อนตอบรับด้วยการหยัดร่อนกายขึ้นหาอย่างกระตือรือร้นแม็กซิมัสพยายามควบคุมตัวเอง และร้องตะโกนบอกตนเองลั่นอกว่าผู้หญิงคนนี้สารเลวมากแค่ไหน และสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นมันก็เป็นเพียงแค่การลงทัณฑ์ไม่มีความรู้สึกใดๆ มาเกี่ยวข้อง แต่...พระเจ้า... หล่อนน่าปรารถนาเกินไป...ความต้องการดิบเถื่อนที่ไม่คุ้นเคยทำให้เขาตื่นตัวกว่าเซ็กซ์ครั้งที่เคยผ่านมาอย่างเหลือเชื่อ แม้จะพยายามต่อต้านด้วยการกดนิ้วลงบนเอวคอดแรงๆ แค่ไหน แต่ความเป็นชายแข็งชันที่ถูกโอบกระชับด้วยกลีบเนื้อนุ่มเนียนราวกับผ้ากำมะหยี่ราคาแพงก็ยังคงตึงเครียด และแน่นอนว่าความนุ่มนวลของกายสาวที่ได้สัมผัสมันเอาชนะทุกสิ่งได้ทั้งหมด“โอ้วววว...”เขาจ้วงจุ่มอยู่ในแอ่งหวานร้อนระอุ เสียงครางหวานฉ่ำที่เต็มไปด้วยความรัญจวนของปั้นหยา ผลักดันให้เขาก้าวเข้าไปในอี
“ทำไมพี่แม็กนั่งหน้าเครียดแบบนี้ล่ะคะ คิดอะไรในใจอยู่คะ บอกอันได้ไหมเอ่ย”อันนาในชุดนอนวาบหวิวเดินมาทรุดนั่งบนตักของแม็กซิมัสที่เขากำลังนั่งดื่มเหล้าอยู่ริมระเบียงชั้นสองซึ่งเป็นระเบียงทางด้านหน้าของคฤหาสน์“นิดหน่อยน่ะครับ”แม็กซิมัสวางแก้วเหล้าลงบนโต๊ะ เพื่อที่จะได้โอบกอดร่างอวบอัดของอันนาได้ถนัด จากนั้นเขาก็ซบหน้าลงกับร่องปทุมถันเต่งตึง สูดกลิ่นหอมเข้ามาในปอดกลิ่นหอมของอันนาแตกต่างจากกลิ่นหอมของปั้นหยาโดยสิ้นเชิงอันนามีกลิ่นตัวที่ปรุงแต่งมาจากกลิ่นน้ำหอมราคาแพงจากต่างประเทศที่ผู้หญิงส่วนมากชอบใช้กัน และมันก็เป็นกลิ่นที่พบเจอได้ทั่วไปบนเนื้อตัวของสตรี ซึ่งต่างออกไปจากกลิ่นหอมละมุนจากกายของปั้นหยา เขาไม่เคยได้กลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายกับแป้งเด็กแบบนั้นจากเนื้อตัวของผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลย กลิ่นหอมมันเบาบาง แต่ตราตรึงลืมไม่ลง จนหยุดสูดดมไม่ได้บ้าฉิบ...ทำไมพักนี้สมองของเขาเอาแต่เปรียบเทียบอันนากับปั้นหยาผู้หญิงสารเลวคนนี้บ่อยนักนะชายหนุ่มกระแทกลมหายใจออกมาแรงๆ และพยายามจดจ่ออยู่กับอันนา“เรื่องอะไรเหรอคะ อันช่วยคิดได้นะคะ”ดวงตาสีเขียวจัดสบประสานกับดวงตาหวานมีจริตของอันนา ก่อนที่เขาจะพูดข
เขาไม่เคยเป็นแบบนี้ ไม่เคยยอมให้ร่างกายของเขาถูกผู้หญิงคนไหนควบคุม แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะแปรเปลี่ยนไปหมด ยามที่เขาได้ฝากฝังลึกล้ำในกายแน่นหนั่นของปั้นหยา สมองก็ว่างเปล่าไม่มีความคิดใดๆ อยู่ในนั้นนอกจากโหยหิวเขาแตกระเบิดในไม่ช้า ภายในความเป็นหญิงคับแน่น และเขาก็ควรจะหยุด และออกไปหาอันนาอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ แต่ร่างกายกลับไม่ให้ความร่วมมือพระเจ้า... เขาต้องการปั้นหยาอีกครั้งชายหนุ่มมองไปที่เตียงนอนกลางห้อง แต่ให้ตายเถอะ มันไกลเกินไป และเขาก็รอไม่ไหว“อ๊ะ... อา...”สุดท้ายแล้วเซ็กซ์ครั้งที่สองของเขากับปั้นหยาในค่ำคืนนี้ก็อยู่บนพื้นใกล้ๆ กับกำแพงห้องนั้นเองเขาสอดใส่ ส่ายวน จ้วงแทงเข้าไปหนักหน่วง ต้องการจะฝังลึกอยู่ภายในนั้นให้ได้นานที่สุดมันไม่เคยเป็นแบบนี้ ไอ้จ้อนของเขาไม่เคยรู้สึกหิวกระหายจนหน้ามืดตามัวแบบนี้“โอ้วววว... รัดแรงมาก พระเจ้า... ทำไมแรงแบบนี้ โอ้วววว”บ้าชะมัด ทำไมเขาถึงควบคุมตัวเองไม่ได้เลย และทำไมแรงปรารถนาครั้งนี้ถึงรุนแรงหนัก มันซัดกระหน่ำใส่จนเขาหมดทางที่จะรับมืออันนาผุดลุกผุดนั่งอยู่บนเตียง คอก็ชะเง้อรอคอยการมาเยือนของแม็กซิมัส“ไหนว่าจะมาไง นี่จะสี่ทุ่มอ
“คุณอันตื่นนอนหรือยัง”แม็กซิมัสนั่งจิบกาแฟอยู่ริมระเบียงและเอ่ยถามสาวใช้ถึงคนรักอย่างอันนา“เอ่อ... ยังไม่กลับมาเลยค่ะ”คิ้วหนาดกของแม็กซิมัสเลิกสูงด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะพึมพำออกมา“นี่หายไปทั้งคืนเลยหรือ หายไปไหนกัน”“เอ่อ... คุณแม็กต้องการอะไรเพิ่มเติมไหมคะ” สาวใช้เอ่ยถาม“ไม่”“งั้นหนูขอตัวก่อนนะคะ” สาวใช้กำลังจะปลีกตัวออกไป แต่แม็กซิมัสเรียกเอาไว้ก่อน“เธอจะรีบไปไหน”สาวใช้หยุดเดิน และรีบตอบออกมา “คือหนูจะออกไปตลาดน่ะค่ะ”“ไปทำไมแต่เช้า”“เอ่อ... เมื่อวานคุณหยาเธอวานให้หนูหาดอกมะลิให้น่ะค่ะ”“ดอกมะลิ?” คิ้วเข้มของแม็กซิมัสยิ่งขมวดกันยุ่ง “เอาไปทำอะไรดอกมะลิ”“หนูก็ไม่ทราบค่ะ แต่ถ้าให้เดาน่าจะเอามาร้อยพวงมาลัย”แม็กซิมัสยิ้มหยันอย่างไม่เชื่อว่าผู้หญิงแพศยาอย่างปั้นหยาจะมานั่งร้อยพวงมาลัยเป็นกุลสตรีไทยได้ ถ้าเป็นอันนาก็ว่าไปอย่าง“จะไปไหนก็ไปเถอะ”“ค่ะ”สาวใช้เดินจากไปแล้ว ในขณะที่แม็กซิมัสจิบกาแฟต่อไป ก่อนที่หูจะได้ยินเสียงเครื่องยนต์ของรถดังขึ้นที่หน้าบ้าน ดวงตาคมกริบตวัดมองก็เห็นว่าอันนาก้าวลงมาจากรถญี่ปุ่นสีขาวแต่งซิ่งคันนั้น“บอกให้จอดนอกบ้านไง เดี๋ยวคนอื่นก็สงสัยกันพอดี” อั
“คุณหยาคะ หนูซื้อดอกมะลิมาให้เต็มตะกร้าเลยค่ะ”ปั้นหยาที่ดวงหน้ายังมีคราบน้ำตาเปื้อนรีบหันไปทางเสียงเรียก และก็เห็นว่าเป็นสาวใช้วัยรุ่นคนเมื่อวานที่หล่อนไหว้วานให้หาซื้อดอกมะลิให้หล่อนระบายยิ้ม เดินเข้าไปหาสาวใช้ พร้อมกับควักธนบัตรส่งให้“ขอบใจมากนะจ๊ะ นี่จ้ะเงินค่าดอกมะลิ”“ไม่เป็นไรค่ะคุณหยา หนูรับไม่ได้หรอกค่ะ” สาวใช้ส่ายหน้าดิกปฏิเสธเงิน“ทำไมล่ะ ค่าดอกไม้น่าจะหลายร้อย รับไปเถอะจ้ะ ฉันไม่อยากเอาเปรียบเธอ”“คือไม่ใช่เงินหนูหรอกค่ะ”คิ้วโก่งตามธรรมชาติของปั้นหยาเลิกสูงด้วยความสงสัย “แล้วเงินใครเหรอจ๊ะ ฉันจะได้เอาไปคืนได้ถูก”สาวใช้ระบายยิ้มน้อยๆ “เงินนี้เป็นเงินของคุณแม็กที่ให้ใช้จ่ายในบ้านตลอดหนึ่งเดือนค่ะ”ชื่อของคนใจร้ายดังออกมาจากปากของคู่สนทนา ทำให้รอยยิ้มหวานจางหายไปจากดวงหน้านวลของปั้นหยา“งั้น... ฉันฝากเอาไปคืนเขาหน่อยได้ไหมคะ”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แค่สามร้อยกว่าบาท คุณแม็กไม่ใส่ใจหรอกค่ะ”“แต่ฉันไม่อยากติดหนี้ใคร รบกวนเธอเอาไปคืนเขาแทนฉันหน่อยได้ไหม”สาวใช้มีสีหน้ากระอักกระอ่วนใจ และสักพักก็ทำเหมือนจะร้องไห้ออกมา“หนู... ไม่กล้าค่ะ...”ปั้นหยาเห็นจึงไม่อยากจะบังคับจิตใจของใค
ปั้นหยาที่กำลังนั่งรับประทานอาหารค่ำอยู่กับคุณย่าวารีอยู่ริมระเบียงบ้านต้องชะงักกึก เมื่อเห็นรถสปอร์ตของแม็กซิมัสแล่นเข้ามาจอดที่ลานหน้าบ้านดวงหน้างามซีดเผือด ความรู้สึกหวาดหวั่นที่มีต่อแม็กซิมัสทำให้หล่อนรู้สึกทรมานเหลือเกิน“คุณหมอคงมารับหยากลับบ้านนั่นแหละ”คุณย่าวารีพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม แต่หล่อนรู้ดีว่าไม่ใช่ และสิ่งที่ยืนยันความคิดของหล่อนได้เป็นอย่างดีก็คืออันนาที่ก้าวตามลงมาจากรถของแม็กซิมัสนั่นเอง“แม่อันนานี่ ทำไมมาด้วยกัน”คุณย่าวารีขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ ก่อนจะให้คนใช้ไปตามสองคนนั้นมาร่วมโต๊ะรับประทานอาหารค่ำด้วยกันปั้นหยาไม่อยากเผชิญหน้ากับแม็กซิมัสจึงพยายามจะขอปลีกตัว แต่คุณย่าวารีไม่อนุญาต สุดท้ายก็จำต้องเผชิญหน้ากับเขาอย่างไม่มีทางเลือก“เป็นไงมาไงคะเนี่ยคุณหมอ ถึงมากับแม่อันได้”“คืออันจะกลับมาค้างกับคุณย่าที่นี่น่ะค่ะ พี่แม็กก็เลยขันอาสามาส่ง” อันนาตอบแทน ในขณะที่แม็กซิมัสจ้องมองดวงหน้าซีดขาวของปั้นหยาไม่วางตา“เชิญคุณหมอทานได้เลยค่ะ แต่วันนี้กับข้าวน้อยหน่อยนะคะ ฉันไม่รู้ว่าจะมีแขกมาเยือน” คุณย่าวารีเอ่ยขึ้นอย่างเป็นกันเอง ก่อนจะหันไปบอกปั้นหยา“หยา ตักกับข้าวให้คุณห