แม็กซิมัสก็คิดไม่ต่างจากอันนาแม้แต่น้อย แต่เขาก็รู้ดีว่าไม่สมควรจะพูดมันออกไป
“พี่ขอตัวกลับก่อนนะครับน้องอัน รู้สึกเพลีย”
อันนาช้อนตาขึ้นมองแม็กซิมัสอย่างโมโหเพราะรู้ทันว่าทำไมชายหนุ่มถึงอ่อนเพลีย
“เรื่องนี้เป็นความผิดของพี่แม็ก ยังไงซะพี่แม็กก็ต้องรับผิดชอบชีวิตของอัน เข้าใจไหมคะ”
ใช่ มันคือความผิดพลาดของเขาเต็มๆ แต่ตัวต้นเหตุก็คือผู้หญิงแพศยาคนนั้น
“พี่จะไม่มีวันทิ้งน้องอัน ถึงพี่จะแต่งงานกับปั้นหยา แต่ผู้หญิงคนนั้นก็จะได้แค่ทะเบียนสมรส กับความเหี้ยมโหดของพี่ เพราะคนที่พี่รักคือน้องอันคนเดียว”
อันนาพอยิ้มออกมาได้บ้าง หล่อนรีบโผเข้ากอดแม็กซิมัสและประจบประแจงเสียงอ่อนเสียงหวาน
“พี่แม็กพูดแล้วนะคะ ห้ามผิดคำพูดเด็ดขาด”
“พี่เป็นคนรักษาคำพูดครับ น้องอันเชื่อใจพี่ได้ เราสองคนจะอยู่บนสวรรค์ ส่วนผู้หญิงคนนั้นจะต้องตกนรกทั้งเป็น”
อันนาอดที่จะยิ้มออกมาด้วยความสะใจไม่ได้ เพราะถึงแม้เรื่องราวมันจะกลับตาลปัตรแบบนี้ แต่แม็กซิมัสก็ให้คำมั่นว่าจะไม่ทอดทิ้งหล่อน
ปั้นหยาที่หลบออกมาร้องไห้หน้าบ้านต้องรีบก้าวเท้าเพื่อเดินเลี่ยงไปทางอื่น เมื่อจู่ๆ แม็กซิมัสก็ปรากฏตัวขึ้น ดวงตาสีเขียวจัดของเขาจ้องมองมาเขม็ง ความขยะแขยงที่เขาสาดซัดเข้าใส่ มันตรึงสองเท้าของหล่อนให้อยู่กับที่
หัวใจของหล่อนร้องไห้ไม่ต่างจากดวงตา พยายามที่จะมองไปทางอื่น แต่คนที่ก้าวเข้ามาหาจนเหลือช่องว่างไม่ถึงฟุตก็ออกคำสั่งเสียงดุดันเสียก่อน
“มองหน้าฉัน!”
หล่อนจำต้องสบประสานสายตากับผู้ชายที่ตัวสูงกว่ามากอย่างไร้ทางเลือก
เขามองหล่อนตั้งแต่หัวจดปลายเท้าอย่างรังเกียจ พร้อมกับทำลายล้างโลกทั้งใบของหล่อนด้วยคำพูดโหดร้าย
“ฉันเกลียดเธอ”
หล่อนรู้ หล่อนรู้อยู่แล้ว รู้เต็มหัวใจว่าเขาเกลียดชัง ขยะแขยงหล่อนแค่ไหน ไม่จำเป็นเลยที่เขาต้องย้ำแบบนี้บ่อยๆ
หล่อนอยากหายตัวไปจากตรงนี้ อยากไปให้พ้นจากดวงตาที่เต็มไปด้วยความชิงชังของแม็กซิมัสเหลือเกิน แต่ก็ไปไหนไม่ได้ เพราะหล่อนไร้เวทมนตร์
“หยา... ไปได้หรือยังคะ”
“หึ...”
เขาแสยะยิ้มเยาะ ก่อนจะเอาสองมือยื่นมาตะปบไหล่แบบบางเต็มแรง หล่อนต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บระบม คล้ายกับกระดูกจะแตกร้าว
“ฉันตอบตกลงรับผิดชอบอีตัวอย่างเธอไปแล้ว”
หล่อนหน้าซีดเผือด และส่ายหน้าไปมา
“ไม่ค่ะ... คุณแม็กไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น... หยาจะคุยกับคุณย่าเอง...”
“อย่ามาแสดงละครเป็นนางเอก ฉันรู้ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันคือแผนชั่วของเธอ”
“ไม่ใช่นะคะ... หยาไม่ได้ทำอะไรเลย...”
“ใช่... เธอไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากพาตัวเองมาหาฉันในห้องนอนของน้องอัน และอ้าขาให้ฉันเอา จริงไหม”
น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยการดูถูกดูแคลน หล่อนน้ำตาร่วงแล้วร่วงอีก และจำต้องเมินหน้าหนี
“หยา... จะไม่แต่งงานกับคุณแม็กหรอกค่ะ สบายใจได้”
“อย่ามาตอแหลเพื่อเพิ่มราคาให้กับตัวเอง ผู้หญิงอย่างเธอ ไม่มีราคา แม้จะพยายามถีบตัวเองให้มีค่าแค่ไหนก็ตาม”
หล่อนทนฟังคำด่าทอของเขาไม่ได้อีกแล้ว
“ขอ... ตัวนะคะ”
หล่อนสะบัดตัวแรงๆ เพื่อให้มือกระด้างหลุดจากบ่าแบบบาง แต่เขาไม่ปล่อย ทำให้ต้องต่อสู้กัน และแน่นอนว่าหล่อนแพ้ ร่างอรชรเสียหลักเซถลาเข้าไปในอ้อมอกกำยำ
“อ๊ะ...”
กลิ่นอายความเข้มแข็งประดุจดั่งเทพบุตรกรีกของแม็กซิมัสโชยเข้ามาในจมูก และมันก็มีผลต่อระบบสั่งงานในสมองของหล่อนเหลือเกิน
ดวงหน้างามซีดเผือดแหงนขึ้นมองเจ้าของแผงอกกว้างที่แน่นหนั่นไปด้วยมัดกล้ามเนื้อด้วยความตื่นตกใจ
“อ่อยเก่งเหลือเกินนะ ปั้นหยา”
แม็กซิมัสเค้นเสียงเดือดดาลออกมารดดวงหน้านวลที่ตอนนี้ซีดเผือดไร้สีเลือด ดวงตาของหล่อนเบิกกว้างฉายแววตื่นกลัวอยู่ในนั้นชัดเจน กลีบปากอิ่มเต็มที่ยังคงบวมเจ่อเพราะจูบนับครั้งไม่ถ้วนของเขาเผยอกว้างออกจากกันคล้ายกับกำลังเชิญชวนอยู่ในที
ให้ตายเถอะ เขานึกย้อนไปถึงบทสวาทเร่าร้อนที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ด้วย
เขาควรจะรังเกียจ ขยะแขยง และลืมมันซะต่างหากล่ะ!
“ไปให้พ้น!”
“อ๊ะ...”
ร่างอรชรถูกผลักออกห่างแรงๆ จนล้มลงไปกองกับพื้นอย่างน่าเวทนา ในขณะที่เขายืนค้ำอยู่เหนือร่าง
“ผู้หญิงน่าขยะแขยง”
เขาทิ้งคำพูดเลือดเย็นเอาไว้ให้กับหล่อน ก่อนจะก้าวเดินจากไปอย่างไม่ไยดี
ปั้นหยาร้องไห้ออกมาอย่างทุกข์ทรมาน ความรู้สึกติดลบมากมายกำลังทะลักท่วมท้นอยู่ภายในอก
หล่อนทรมานเหลือเกิน...
“ว่ายังไงนะ นังอัน?!” รัชนกที่อยู่ปลายสายแทบจะตะโกนถามกลับมาเลยทีเดียว
“ฉันบอกว่าเมื่อคืนแผนพัง”
“มันจะพังได้ยังไงยะ ในเมื่อทางก็สะดวกขนาดนั้น หรือว่ายาแกไม่ได้ผล”
อันนากำกระบอกโทรศัพท์แน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความคับแค้นที่สุดในชีวิต
“ยาปลุกเซ็กซ์ที่ฉันใส่ในแก้วของพี่แม็กน่ะมันได้ผลมาก ได้ผลดีเยี่ยมเลยทีเดียว”
“อ้าว แล้วมันพังได้ยังไงวะ”
“แกจำไอ้ประวิทย์ได้ไหม ไอ้คนที่มันถ่ายคลิปเอาไว้แบล็กเมล์ฉันน่ะ”
“อ้อๆ จำได้ ไอ้ผู้ชายที่มันหิ้วแกไปขย่มจนน้ำแทบท่วมโรงแรมใช่ไหม”
“นี่แกอย่าพูดแบบนี้ได้ไหมนังนก ฉันขยะแขยงมันจะตายอยู่แล้ว”
“เออๆ ไม่พูดก็ได้ ไหนเล่ามาสิว่ายังไงต่อ แผนเผด็จศึกพี่แม็กของแกทำไมถึงพัง”
อันนายิ่งคิดก็ยิ่งแค้น “ตอนที่ฉันพาพี่แม็กขึ้นห้องนอน ไอ้ประวิทย์มันก็โทรมาพอดี แล้วมันก็ขู่ฉันว่าถ้าฉันไม่ออกไปหามันที่โรงแรม มันจะเอาคลิปโป๊ของฉันประจาน”
“แล้วแกก็ต้องออกไปหามันใช่ไหม”
“ก็ใช่น่ะสิ แต่ฉันคิดว่าแค่แป๊บเดียว เดี๋ยวก็ได้กลับมาหาพี่แม็ก แต่ไอ้ประวิทย์มันชั่วมาก มันมัดฉันเอาไว้ และมันก็ทำกับฉันทั้งคืน แถมมันยังถ่ายคลิปเอาไว้อีกตั้งหลายคลิป ฉันอยากจะฆ่ามันนัก”
อันนาเต็มไปด้วยความเจ็บแค้น ดวงตาลุกเป็นไฟกัลป์
“แล้วอย่างนี้พี่แม็กของแกก็ลงแดงตายคาเตียงน่ะสิ ไม่มีที่ระบายน่ะ”
“หึ ถ้ามันเป็นอย่างนั้นก็ดีน่ะสิ แต่นี่...”
อันนากัดฟันกรอดเมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
“แต่นี่อะไรนังอัน”
“อีปั้นหยามันคงเห็นพี่แม็กอยู่คนเดียว มันก็เลยเข้ามาอ่อย แล้วแกก็คงไม่ต้องให้ฉันบอกใช่ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้นน่ะ”
“โอ้โห งั้นญาติแกก็โดนพี่แม็กของแกเอาจนพรุนเลยน่ะสิ ฟินตายห่าแล้วมั้ง”
“ฉันล่ะเกลียดมันนัก อีพี่สารเลว”
“แล้วไงต่อ เช้ามาพี่แม็กแกไม่ตกใจเหรอวะที่นอนกับญาติของแกน่ะ”
“พี่แม็กตกใจยังไม่น่ากลัวเท่ากับคุณย่ากลับมาเห็นพอดี แล้วรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น”
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ” รัชนกถามอย่างลุ้นระทึก
“คุณย่าบังคับให้พี่แม็กรับผิดชอบอีปั้นหยายังไงล่ะ”
“ฮะ?!” รัชนกตกใจ “แล้วแกล่ะ แกเป็นแฟนกับพี่แม็กไม่ใช่เหรอ”
“คุณย่าลำเอียงยังไงล่ะ ไม่สนใจว่าฉันจะรู้สึกยังไง รักแต่นังปั้นหยาคนเดียว”
“แล้วนี่แกจะทำยังไงต่อไป” รัชนกอดสงสารเพื่อนไม่ได้
“ฉันก็จะสู้ไงล่ะ ฉันไม่มีวันยอมเสียพี่แม็กไปหรอก” แววตาของอันนาเป็นประกายเคียดแค้น
“ถ้ามีอะไรให้ช่วยบอกนะ ฉันยินดี ฉันสงสารแกว่ะอันนา”
“มีแน่นอน แกเตรียมตัวเอาไว้ได้เลย”
อันนาบอกเพื่อนสนิทก่อนจะรีบตัดสายสนทนา เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนอยู่ด้านหลัง
“คุณย่า...”
คุณย่าวารียืนอยู่ไม่ห่างนัก สีหน้าของท่านเรียบเฉยจนอ่านความรู้สึกไม่ได้
“ย่าได้ยินทุกอย่างหมดแล้ว”
“คะ?” อันนาหน้าซีดเผือด
“ก็เรื่องที่แม่อันวางยาปลุกเซ็กซ์ให้คุณหมอแม็กกินยังไงล่ะ แล้วก็เรื่องผู้ชายที่ชื่อประวิทย์นั่นด้วย”
“คุณย่า... ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ”
อันนาอยากกรีดร้องออกมาดังๆ ให้สมกับความโชคร้ายของตัวเองนัก ทำไมนะ ทำไมคุณย่าจะต้องเดินมาได้ยินด้วย ทั้งๆ ที่หล่อนก็แอบมาคุยในที่ลับตาคนแล้ว
“โกหกคนอื่นได้ แต่แม่อันไม่มีทางโกหกตัวเองได้ ดังนั้นอย่าได้โทษโชคชะตาเลยที่แม่อันต้องเสียคุณหมอแม็กซิมัสให้กับแม่หยา เพราะแม่อันทำตัวเอง...”
“คุณย่า!”
“ย่ารู้ว่าแม่อันคิดอะไรอยู่ แต่หยุดซะ เพราะไม่อย่างนั้น ย่าจะบอกความจริงทุกอย่างกับคุณหมอแม็กซิมัส”
น้ำตาแห่งความเจ็บแค้นไหลออกมาจากดวงตาของอันนา กลีบปากเม้มแน่นอย่างโกรธจัด
“คุณย่าลำเอียง!”
“ย่ายอมรับว่าย่ารักแม่หยามากกว่าเธอ แต่นั่นเป็นเพราะแม่หยาเป็นเด็กดี ไม่ใช่เด็กเอาแต่ใจไม่เชื่อฟังคำสั่งสอนของผู้ใหญ่อย่างแม่อัน”
“คุณย่าใจร้าย คอยดูเถอะ อันจะทำให้นังหยามันไม่มีความสุข ชีวิตของมันจะต้องฉิบหาย!”
“ถ้าแม่อันทำเรื่องไม่ดีกับแม่หยา ย่าก็จะเปิดเผยความจริงทุกอย่างกับคุณหมอแม็กซิมัส และย่าทำได้จริงๆ หากแม่อันขัดคำสั่งของย่า”
หล่อนไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าคุณย่าวารีจะรักหลานลำเอียงได้มากขนาดนี้
“ถึงอันไม่ทำอะไร พี่แม็กก็ไม่มีทางรักมัน และมันก็จะต้องตกนรกทั้งเป็น”
“นั่นเป็นเรื่องของอนาคต” คุณย่าวารีจ้องหน้าอันนา “อ้อ แล้วก็มีอีกเรื่องที่ย่าจะต้องบอกให้เธอรู้”
อันนาจ้องหน้าผู้มีพระคุณด้วยสายตากร้าวจัด และประชดประชันเสียงแข็งกระด้าง
“ยังมีข่าวร้ายอะไรที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าถูกญาติผู้พี่ฉกคนรักไปอีกเหรอคะ”
“เรื่องคดีเมื่อต้นปีก่อนไง”
อันนานิ่งอึ้งไปเพราะเข้าใจความหมายของคุณย่าวารีได้เป็นอย่างดี
“ตอนนี้ตำรวจจับคนร้ายที่ฉุดแม่หยาได้หนึ่งคนแล้วนะ แล้วตอนนี้ตำรวจก็กำลังเค้นสอบมันอยู่”
“คุณย่า... มองอันแบบนี้ทำไมคะ”
“ย่ากำลังภาวนาให้แม่อันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ยังไงล่ะ”
“นี่คุณย่าคิดว่าอัน...”
คุณย่าวารีแทรกขึ้นก่อนที่อันนาจะแก้ตัวเสร็จ “คนเราทำอะไรเอาไว้ สวรรค์รู้ ดินรู้ และตัวเองก็รู้”
“อัน... ไม่รู้เรื่อง”
“ความลับไม่มีในโลก ย่าอยากให้แม่อันจำคำสอนนี้เอาไว้ และละเลิกที่จะทำชั่ว”
“คุณย่า!”
คุณย่าวารีมองหล่อนด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะหมุนตัวและเดินจากไปในที่สุด
อันนากำมือแน่น หน้าตาซีดเผือด ก่อนจะรีบโทรหาประวิทย์เพื่อแจ้งข่าว
“นี่แก... ลูกน้องแกถูกตำรวจรวบตัวได้แล้วนะ แกไปทำยังไงก็ได้ ไม่ให้มันสามารถซัดทอดมาถึงแก หรือว่าฉัน เข้าใจนะ”
หล่อนวางสายจากประวิทย์ ใบหน้านวลเคร่งเครียดหนักหนายิ่งนัก
“บ้า ทำไมฉันจะต้องมาเจอเรื่องบ้าๆ แบบนี้ด้วยนะ!”
“คุณย่าขา... หยา... หยาไม่ต้องการความรับผิดชอบจากคุณแม็ก... คุณย่าเลิกคำสั่งเถอะนะคะ”ปั้นหยานั่งร้องไห้อยู่กับพื้น และซบหน้าลงกับตักของคุณย่าวารี น้ำตาไหลรินอาบแก้ม“หยา... ฟังย่านะ” คุณย่าวารียกมือขึ้นลูบศีรษะของปั้นหยาอย่างแสนเวทนา “เรื่องที่เกิดขึ้นมันทำให้หยาเสื่อมเสียเกียรติ ยังไงคุณหมอแม็กซิมัสก็ต้องรับผิดชอบด้วยการแต่งงานกับหยา”“แต่คุณแม็กกับน้องอันเป็นคนรักกันนะคะ หยาไม่อยากถูกตราหน้าว่าแย่งคนรักของน้อง...” หล่อนสะอื้นไห้อย่างน่าเวทนา หัวใจปวดร้าวทรมานเหลือเกิน“แม่อันน่ะ หัวหกก้นขวิดมานักต่อนักแล้ว ไม่ใช่สาวบริสุทธิ์อย่างหยานะลูก”“แต่เขาสองคนรักกัน หยาไม่...”“คุณหมอแม็กซิมัสควรจะได้ผู้หญิงที่ดีกว่าแม่อัน และผู้หญิงคนนั้นก็คือหยาไงลูก”คุณย่าวารีรู้ว่าตัวเองอาจจะลำเอียงรักหลานสองคนไม่เท่ากัน แต่อันนาเป็นคนไม่ดี และจิตใจโหดร้าย หล่อนเป็นห่วงปั้นหยา“แต่คุณแม็กเกลียดหยา...”“คุณหมอแม็กแค่เข้าใจในตัวของหยาผิด ถ้าได้อยู่ด้วยกัน เขาจะต้องได้เห็น และได้รู้ว่าหยาเป็นเด็กดีแค่ไหน และเขาก็จะรักหยาของย่าได้ไม่ยาก”หล่อนเคยได้ยินมากับหู ตอนที่อันนาใส่ไฟปั้นหยาให้กับแม็กซิมัส แต่หล่อน
เพียงไม่กี่นาทีหล่อนก็สามารถมาหยุดตรงหน้าของไตรทศ เขาอยู่ในชุดทำงานสีขาวสะอาด แต่ค่อนข้างยับต่างไปจากทุกครั้งที่เห็น สายตาของเขานั้นเศร้าหมอง รอยยิ้มที่มักจะเปื้อนอยู่บนใบหน้าตอนนี้ไม่มีเหลือให้เห็นอีก“พี่ไตร...”ไตรทศมองนางในฝันของตัวเอง มองด้วยความเสียใจและเสียดาย เขาเฝ้าตามจีบ ตามรักมานานตั้งแต่ปั้นหยาเข้าเรียนมหาวิทยาลัยปีที่ 1 จนถึงตอนนี้ก็เกือบจะห้าปีแล้ว มันนานเหลือเกินที่ฝากหัวใจเอาไว้กับหล่อน และก็ไม่เคยเผื่อใจเอาไว้เลยว่า ปั้นหยาจะแต่งงานสายฟ้าแลบแบบนี้ นี่ถ้ารัชนกไม่บอก เขาก็คงไม่รู้เรื่องนี้“น้องหยา... ไม่คิดจะบอกข่าวดีให้พี่รู้เลยหรือครับ”ไตรทศเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าของปั้นหยา ดวงตาของชายหนุ่มแดงก่ำ“ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก... หยา... ขอโทษนะคะพี่ไตร... ขอโทษที่ไม่ได้บอกเรื่องนี้กับพี่ไตรเป็นคนแรก”ไตรทศฝืนยิ้ม ดึงมือเล็กของปั้นหยาขึ้นมากุมเอาไว้ เขามองหล่อนด้วยหัวใจที่ปวดร้าว“น้องหยารู้ใช่ไหมว่าพี่คิดยังไงกับน้องหยา”ปั้นหยาหลบสายตาของไตรทศลงมองปลายเท้าของตนเอง รู้สึกกระอักกระอ่วนใจเหลือเกิน“หยา... ทราบค่ะ”ไตรทศฝืนยิ้มออกมาทั้งๆ ที่ภายในอกเจ็บปวด “พี่ไม่ได้อยากทำให
หล่อนทำได้แค่นั่งร้องไห้สะอึกสะอื้น และก็ไม่อาจรู้ได้ว่าเขากำลังจะพาหล่อนไปที่ไหนสักพักรถก็เลี้ยวเข้ามาในโรงแรมเล็กๆ แห่งหนึ่ง เขาจอดรถ และหันมามองหน้าซีดเผือดของหล่อน“ผู้หญิงอย่างเธอ เอาในโรงแรมมันยังดูแพงไปเลย”แล้วรถที่จอดอยู่ก็ถูกเคลื่อนขึ้นมาบนท้องถนนอีกครั้ง ในขณะที่หล่อนร้องไห้คร่ำครวญด้วยความหวาดกลัว“คุณ... แม็กจะพาหยาไปไหนคะ...”หล่อนได้ยินแต่เสียงหัวเราะราวกับปีศาจร้ายของผู้ชายที่กำลังเมามาย และไม่ช้ารถสปอร์ตก็เลี้ยวจอดที่ข้างทางใต้ต้นไม้ขนาดใหญ่ หัวใจของปั้นหยาสั่นสะท้าน หล่อนหันมองไปรอบตัวด้วยความตื่นกลัว“คุณแม็ก... จอดรถ... ทำไมคะ”เขาปลดเข็มขัดนิรภัยออกจากตัว และหันมาจ้องหน้าหล่อน แม้จะอยู่ในความมืดสลัว แต่หล่อนก็ยังสามารถมองเห็นกองไฟในสายตาของแม็กซิมัสได้อย่างชัดเจน“เวลาฉันเมา ฉันต้องระบาย”“คุณแม็กหมายถึง...”“ทำไมต้องทำเป็นติดอ่างด้วยล่ะ นี่มันงานโปรดของเธอเลยไม่ใช่หรือ ปั้นหยา”“ไม่... ไม่ใช่นะคะ...” หล่อนขยับตัวหนีไปจนชิดประตูฝั่งที่ตัวเองนั่ง มองคนตัวโตด้วยความหวาดกลัว“อย่าดัดจริตให้มากนัก ทำหน้าที่ของเธอซะ”“ไม่... หยา... หยาไม่ทำ อ๊ะ...”เส้นผมของหล่อนถูกเข
ปั้นหยามองตามคนทั้งคู่ไปด้วยสายตาเศร้าหมอง จนสามหนุ่มเพื่อนรักของแม็กซิมัสต้องเข้าไปปลอบใจ“พอดีน้องอันนามีปัญหาหนักอกหนักใจน่ะครับ ก็เลยต้องการความช่วยเหลือจากไอ้แม็กมัน ไม่มีอะไรหรอกครับ จริงไหม ไอ้เคน ไอ้ชาร์ล” อเล็กซิสหันไปหาตัวช่วยซึ่งก็คือเพื่อนๆ ของตนเอง“ใช่ครับ ไม่มีอะไรหรอกครับ” ชาร์ลีกับเคลวินตอบกลับมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม“ค่ะ”ปั้นหยาฝืนยิ้มน้อยๆ และก่อนจะก้มหน้าลงมองพื้น หัวใจปวดร้าวเหลือเกินหล่อนไม่มีสิทธิ์... ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะคิดหึงหวงแม็กซิมัสด้วยซ้ำ“เอ่อ... หยาขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” หล่อนตัดสินใจเอ่ยขึ้นกับบรรดาเพื่อนๆ สุดหล่อของแม็กซิมัสที่เข้ามาช่วยหล่อนต้อนรับแขกที่มาร่วมงานแต่ง“ผมไปส่งไหมครับ” ชาร์ลีรับอาสา“เอ่อ... ไม่เป็นไรค่ะ หยาไปเองได้ค่ะ”“แต่ผมคิดว่าชุดสาวเจ้าน่าจะเดินลำบากอยู่นะครับ ให้ผมไปส่งดีกว่า เฮ้ย ไอ้เคน ไอ้อเล็ก อยู่ตรงนี้แป๊บนะ ฉันไปเป็นเพื่อนคุณหยาเข้าห้องน้ำก่อน” ชาร์ลีหันไปพูดกับเพื่อนสองคน“ตามสบาย ดูแลเจ้าสาวของไอ้แม็กให้ดีล่ะ” อเล็กซิสกำชับชาร์ลีก่อนจะยิ้มให้กับปั้นหยา“เดินระวังนะครับ”“ขอบคุณค่ะ”ปั้นหยาเดินไปข้างหน้าด้วยความระมัดร
เรือนกายเปลือยเปล่าของบุรุษที่มีรูปร่างงดงามไม่ต่างจากเทพบุตรกรีกยืนนิ่งอยู่ใต้สายน้ำเย็นเฉียบ โทสะของเขากำลังพลุ่งพล่านเดือดดาล ความเกลียดชังที่มีต่อผู้หญิงที่เสแสร้งทำเป็นอ่อนแอราวกับนางเอกละครน้ำเน่าทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆเขาเกลียดปั้นหยา หล่อนสารเลว หล่อนแพศยา และหล่อนก็คือต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด เขากับอันนาต้องแยกจากกัน ก็เพราะผู้หญิงสารเลวที่ยอมเอาตัวเข้าแลกเพื่อให้ได้ผู้ชายอย่างหล่อนเขาจะต้องทำให้หล่อนตกนรกหมกไหม้ จะทำทุกอย่างเพื่อให้หล่อนรู้ว่าตัวเองไม่ใช่ผู้ชนะ หล่อนจะไม่มีวันชนะ หากยังอยู่ในอุ้งมือของเขา“ผู้หญิงสารเลว!”ตั้งแต่เกิดจากท้องพ่อท้องแม่ เขายังไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนแสดงบทนางเอกได้แนบเนียนอย่างปั้นหยามาก่อน แม้กระทั่งไอ้เพื่อนสนิททั้งสามคนของเขาก็ยังเชื่อเลยว่าปั้นหยาน่าสงสาร และไม่มีทางทำเรื่องอย่างว่าได้ แต่เขาคือคนหนึ่งแหละที่ไม่มีทางเชื่อมารยาร้อยพันเล่มเกวียนของหล่อนถ้าไม่ใช่หล่อน แล้วใครกันที่จะวางยาปลุกเซ็กซ์ให้เขากินในค่ำคืนนั้นกรามแกร่งขบกันแน่นจนขึ้นสันนูนเป่ง ความโกรธแค้น ศักดิ์ศรีที่ถูกหยามทำให้แม็กซิมัสเหี้ยมโหดขึ้นอย่างน่าหวาดกลัว เขาเอื้อมมื
“พี่แม็กจะกลับแล้วเหรอคะ”อันนาที่เปลือยเปล่าอยู่ใต้ผ้าห่มสีขาวส่งเสียงออดอ้อน เมื่อเห็นแม็กซิมัสหยิบชุดนอนมาสวมใส่“พี่ไม่อยากให้คนใช้มาเห็นน่ะ”“ก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่คะ เราสองคนรักกัน”“หากเป็นเมื่อก่อนน่ะใช่ แต่ตอนนี้พี่แต่งงานกับปั้นหยาแล้ว พี่ไม่อยากทำให้น้องอันเสื่อมเสีย”อันนาทำหน้ายุ่ง และผุดลุกขึ้นนั่ง “แต่นัง... เอ่อ... พี่ปั้นหยาใช้วิธีสกปรกแย่งพี่แม็กไปจากอันนะคะ”แม็กซิมัสที่เพิ่งกลัดกระดุมเสื้อเสร็จเดินเข้ามาหาอันนา และกุมมือเล็กของหญิงสาวเอาไว้“พี่หย่ากับปั้นหยาเมื่อไหร่ เราสองคนจะแต่งงานกันทันทีครับ”“อันกลัวว่าพี่แม็กจะใจอ่อนกับพี่ปั้นหยาน่ะสิคะ”“พี่เกลียดผู้หญิงเลว น้องอันก็รู้ ดังนั้นพี่ไม่มีทางใจอ่อนกับปั้นหยาแน่นอน”อันนาชะงักไปเล็กน้อย แต่ก็รีบยิ้มออดอ้อนออกมา “อันเชื่อพี่แม็กค่ะ”แม็กซิมัสยกมือขึ้นลูบศีรษะของอันนาแผ่วเบา ก่อนจะกำชับเมื่อนึกขึ้นมาได้“อย่าลืมทานยาคุมนะน้องอัน”อันนาเงยหน้าขึ้นมองแม็กซิมัส ก่อนจะทำหน้างอ “ทำไมต้องให้อันกินยาคุมอีกล่ะคะ”“พี่ยังไม่ต้องการให้น้องอันท้องตอนนี้”“พี่แม็กก็พูดแบบนี้ทุกทีเลย ทำเหมือนกับว่าไม่อยากมีลูกกับอันอย่างนั้นแห
เขาพุ่งเข้าหาอย่างดุดัน บุกรุกอย่างไม่ปรานี แต่ครั้งนี้ต่างจากเมื่อคืน เพราะที่ร่องสาวมีน้ำหวานไหลออกมาคลอเคลียจำนวนมาก นั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกเสียวซ่านรุนแรงยิ่งนัก“โอ้ว... อืมมม แน่น... แน่นมาก... พระเจ้า... แน่น”เขาหลับตาลง ขณะสอดใส่ถี่ระรัว บั้นเอวของเขาซอยดุดัน จ้วงแทงอย่างไม่ลืมหูลืมตา เจ้าหล่อนตอบรับด้วยการหยัดร่อนกายขึ้นหาอย่างกระตือรือร้นแม็กซิมัสพยายามควบคุมตัวเอง และร้องตะโกนบอกตนเองลั่นอกว่าผู้หญิงคนนี้สารเลวมากแค่ไหน และสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นมันก็เป็นเพียงแค่การลงทัณฑ์ไม่มีความรู้สึกใดๆ มาเกี่ยวข้อง แต่...พระเจ้า... หล่อนน่าปรารถนาเกินไป...ความต้องการดิบเถื่อนที่ไม่คุ้นเคยทำให้เขาตื่นตัวกว่าเซ็กซ์ครั้งที่เคยผ่านมาอย่างเหลือเชื่อ แม้จะพยายามต่อต้านด้วยการกดนิ้วลงบนเอวคอดแรงๆ แค่ไหน แต่ความเป็นชายแข็งชันที่ถูกโอบกระชับด้วยกลีบเนื้อนุ่มเนียนราวกับผ้ากำมะหยี่ราคาแพงก็ยังคงตึงเครียด และแน่นอนว่าความนุ่มนวลของกายสาวที่ได้สัมผัสมันเอาชนะทุกสิ่งได้ทั้งหมด“โอ้วววว...”เขาจ้วงจุ่มอยู่ในแอ่งหวานร้อนระอุ เสียงครางหวานฉ่ำที่เต็มไปด้วยความรัญจวนของปั้นหยา ผลักดันให้เขาก้าวเข้าไปในอี
“ทำไมพี่แม็กนั่งหน้าเครียดแบบนี้ล่ะคะ คิดอะไรในใจอยู่คะ บอกอันได้ไหมเอ่ย”อันนาในชุดนอนวาบหวิวเดินมาทรุดนั่งบนตักของแม็กซิมัสที่เขากำลังนั่งดื่มเหล้าอยู่ริมระเบียงชั้นสองซึ่งเป็นระเบียงทางด้านหน้าของคฤหาสน์“นิดหน่อยน่ะครับ”แม็กซิมัสวางแก้วเหล้าลงบนโต๊ะ เพื่อที่จะได้โอบกอดร่างอวบอัดของอันนาได้ถนัด จากนั้นเขาก็ซบหน้าลงกับร่องปทุมถันเต่งตึง สูดกลิ่นหอมเข้ามาในปอดกลิ่นหอมของอันนาแตกต่างจากกลิ่นหอมของปั้นหยาโดยสิ้นเชิงอันนามีกลิ่นตัวที่ปรุงแต่งมาจากกลิ่นน้ำหอมราคาแพงจากต่างประเทศที่ผู้หญิงส่วนมากชอบใช้กัน และมันก็เป็นกลิ่นที่พบเจอได้ทั่วไปบนเนื้อตัวของสตรี ซึ่งต่างออกไปจากกลิ่นหอมละมุนจากกายของปั้นหยา เขาไม่เคยได้กลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายกับแป้งเด็กแบบนั้นจากเนื้อตัวของผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลย กลิ่นหอมมันเบาบาง แต่ตราตรึงลืมไม่ลง จนหยุดสูดดมไม่ได้บ้าฉิบ...ทำไมพักนี้สมองของเขาเอาแต่เปรียบเทียบอันนากับปั้นหยาผู้หญิงสารเลวคนนี้บ่อยนักนะชายหนุ่มกระแทกลมหายใจออกมาแรงๆ และพยายามจดจ่ออยู่กับอันนา“เรื่องอะไรเหรอคะ อันช่วยคิดได้นะคะ”ดวงตาสีเขียวจัดสบประสานกับดวงตาหวานมีจริตของอันนา ก่อนที่เขาจะพูดข