เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เขารู้ดีว่าตัวเองถูกวางยา เพราะไม่อย่างนั้นเขาคงไม่กระทำเรื่องน่าสมเพชเช่นนั้นลงไปได้ แถมเจ้าหล่อนก็ยังเข้ามาหาในเวลาที่เหมาะเจาะพอดิบพอดี
ชายหนุ่มยกมือขึ้นเสยผมแรงๆ ด้วยความหงุดหงิด ขณะตวัดตามองผู้หญิงที่แสร้งทำเป็นยืนตัวสั่นตรงหน้าด้วยความเกลียดชัง เท่าที่เห็น หล่อนก็มีดีแค่อย่างเดียวเท่านั้น คือเยื่อพรหมจรรย์ที่เขาเป็นคนทำลายไป นอกนั้นปั้นหยาก็คือสิ่งจอมปลอม เป็นผู้หญิงสารเลวที่เขาขยะแขยง
เขาก้าวเท้าเดินเข้าไปหยุดตรงหน้าของหล่อน มองด้วยสายตาชิงชังอย่างที่ไม่เคยใช้กับใครมาก่อน
“ฉันเกลียดเธอ จำเอาไว้นะปั้นหยา”
คนฟังน้ำตาร่วงอีกครั้ง แต่ก็รีบยกหลังมือขึ้นมาป้ายทิ้ง และกลั้นใจพูดโต้ตอบออกไป
“หยา... จะจำเอาไว้ค่ะ”
เขาหัวเราะเครียดๆ สายตาของเขาเต็มไปด้วยกองไฟจำนวนมหาศาล และมันก็แผดเผาคนถูกมองจนแทบมอดไหม้
“ผู้หญิงที่ฉันรักคืออันนา ส่วนเธอมันก็แค่อีตัว ที่ฉันเผลอไผลนอนด้วย และอย่าฝันนะว่าฉันจะรับผิดชอบอะไรในตัวของเธอ”
หล่อนเจ็บจนหัวใจชาดิก เลือดสดๆ ไหลทะลักท่วมท้นจนแทบจะทะลักออกมาทางปาก
“หยา... ไม่ได้ต้องการให้คุณแม็กมารับผิดชอบอะไรอยู่แล้วค่ะ เรื่องเมื่อคืน... ให้มันจบตรงนี้”
“ถ้าคุณย่าของเธอให้จบ แน่นอนว่าฉันจบมันแน่ เพราะเรื่องเมื่อคืนมันคือฝันร้ายที่น่าขยะแขยงของฉัน”
“อย่าห่วงเลยค่ะ ยังไงมันก็ต้องจบ”
หล่อนกัดฟันโต้ตอบ ก่อนจะบังคับตัวเองให้เดินผ่านหน้าเขาออกมาจากห้อง หัวใจของหล่อนร่ำร้องด้วยความทรมานแสนสาหัส แต่กระนั้นก็ต้องอดทน
“หยาจะเป็นคน... บอกคุณย่าเองค่ะ”
“หึ... ฉันก็หวังว่าเรื่องมันจะจบแค่นี้”
คนที่เดินตามหลังมาโต้ตอบเสียงกระด้าง กลิ่นอายแห่งความเกลียดชังที่เขามีต่อหล่อน มันฟุ้งเข้ามาในจมูกจนแทบอาเจียน น้ำตาที่เพิ่งแห้งไปของปั้นหยาไหลออกมาอาบแก้มอีกครั้ง และคราวนี้ไม่ว่าจะเช็ดมันยังไง มันก็ไม่ยอมเหือดแห้งเลย
สองเท้าของหล่อนแทบไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะก้าวเดิน แต่หล่อนก็ต้องกัดฟัน อดทน เพราะไม่ต้องการอ่อนแอต่อหน้าของแม็กซิมัสอีกแล้ว
ไม่ช้าหล่อนก็มาถึงห้องรับแขก ซึ่งมีคุณย่าวารีนั่งหน้าเคร่งเครียดรออยู่
“หยา... มาแล้วค่ะคุณย่า”
คุณย่าวารีหันมามองหล่อน สายตาของท่านยังคงเต็มไปด้วยความเมตตาเหมือนเดิม น้ำตาของหล่อนไหลรินอีกครั้งด้วยความซาบซึ้งใจ เพราะไม่ว่าผู้คนทั้งโลกจะเกลียดชังหล่อนแค่ไหน แต่ก็จะยังมีคุณย่าวารีที่รักและเมตตาหล่อนอย่างจริงใจ
“มานั่งใกล้ๆ ย่านี่ปั้นหยา”
“ค่ะ”
หล่อนเดินไปทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตัวใกล้ๆ กับหญิงสูงวัยผู้มีพระคุณล้นหัว
“เชิญคุณหมอแม็กซิมัสนั่งด้วยค่ะ”
“ครับ”
แม็กซิมัสหย่อนกายลงนั่งบนโซฟาตัวตรงกันข้ามกับคุณย่าวารีผู้เป็นเจ้าของบ้าน
เขาอึดอัดกับสายตากล่าวหาของสตรีสูงวัยเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่อาจจะพาตัวเองออกจากสถานการณ์ตรงนั้นได้
“คุณหมอจะต้องรับผิดชอบปั้นหยาด้วยการแต่งงานค่ะ”
ไม่ใช่แค่แม็กซิมัสคนเดียวที่เบิกตากว้างจนลูกนัยน์ตาแทบจะถลนออกมานอกเบ้า แต่ปั้นหยาเองก็เช่นกัน หล่อนส่ายหน้าไปมา น้ำตาไหลริน และรีบคัดค้าน
“ไม่... ไม่นะคะคุณย่า... หยาไม่...”
“นั่งเฉยๆ ปั้นหยา ย่าจะจัดการเอง” คุณย่าวารีสั่งหลานสาวคนโปรดเสียงเคร่งเครียด ก่อนจะสบประสานสายตากับแม็กซิมัสที่จ้องมองมา
“ฉันหวังว่าคุณหมอจะเป็นสุภาพบุรุษพอที่จะรับผิดชอบหลานสาวของฉัน”
แม็กซิมัสรู้สึกไม่ต่างจากถูกแผ่นดินกลบทับลงมาบนร่าง เขาเหมือนตายทั้งเป็นในขณะนี้ เขาตวัดตามองไปที่ตัวต้นเหตุ มองด้วยความเคียดแค้นชิงชัง
“ใช่ครับ ผมเป็นสุภาพบุรุษ กล้าทำก็กล้ารับ แต่...”
“แต่อะไรคะ” คุณย่าวารีย้อนถาม
“แต่เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ผมเป็นฝ่ายถูกกระทำจากน้ำมือของหลานสาวสุดที่รักของคุณย่าวารี ดังนั้น ผมไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบในตัวของผู้หญิงคนนี้”
เขากล่าวหาหล่อนอย่างไม่ไว้หน้า และหล่อนก็จนปัญญาที่จะแก้ตัวอีกแล้ว เพราะยังไงเขาก็ไม่ยอมเชื่อ ทำได้แค่เพียงนั่งร้องไห้เงียบๆ และรอให้เรื่องมันจบลงเท่านั้น
“ฉันเลี้ยงปั้นหยามากับมือ ฉันรู้จักนิสัยใจคอของหลานสาวของตัวเองดี ปั้นหยาไม่ใช่ผู้หญิงที่จะจับผู้ชายด้วยวิธีแบบนั้นแน่นอน”
“แล้วใครล่ะครับที่วางยาผม”
แม็กซิมัสย้อนถามอย่างไม่ยอมถูกบีบบังคับง่ายๆ
“ฉันไม่รู้ และก็ไม่เชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าสิ่งที่คุณหมอพูดมันจะเป็นความจริง บางทีมันก็อาจจะเป็นแค่คำแก้ตัวของผู้ชายมักง่ายคนหนึ่งก็ได้ จริงไหมล่ะคะ”
กรามแกร่งของแม็กซิมัสขบกันแน่นจนเนื้อข้างแก้มกระด้างเป็นริ้วรอย
“ผมไม่ใช่ผู้ชายมักง่าย”
“งั้นคุณหมอก็ต้องรับผิดชอบปั้นหยา เพราะหลานสาวของฉันเสียหายเพราะคุณหมอแล้ว”
แม็กซิมัสแทบจะหัวเราะออกมาให้สมกับความบัดซบที่ตนเองกำลังเผชิญหน้า เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ผู้ชายที่สามารถเหยียบโลกเอาไว้ใต้ฝ่าเท้าทั้งใบ จะต้องมาถูกบีบบังคับให้รับผิดชอบผู้หญิงน่าขยะแขยงคนหนึ่งแบบตอนนี้
“แต่ผมไม่ได้รักปั้นหยา และที่สำคัญผมกับอันนาเราเป็นแฟนกัน”
“ฉันทราบและรู้มาตลอดว่าคุณกับอันนาคบหาดูใจกันอยู่ แต่ในเมื่อฉันเห็นคาตาว่าคุณย่ำยีปั้นหยา และทำให้หลานสาวของฉันมีมลทิน คุณก็ต้องรับผิดชอบด้วยการแต่งงานกับเธอ”
“คุณย่าขา... หยาไม่...”
“นั่งเฉยๆ ปั้นหยา”
หล่อนร้องไห้ออกมา และรู้สึกราวกับกำลังถูกลากลงไปในขุมนรก
หล่อนไม่ได้ต้องการแบบนี้ ไม่ได้ต้องการให้แม็กซิมัสมารับผิดชอบอะไรในตัวของหล่อน
“แล้วคุณย่าวารีไม่นึกถึงจิตใจของอันนาบ้างหรือครับ เธอจะต้องเสียใจแค่ไหน หากรู้ว่าผมถูกบังคับให้แต่งงานกับญาติผู้พี่ของเธอ”
ทุกพยางค์ที่เล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากหยักสวยของแม็กซิมัส เต็มไปด้วยความเดือดดาล
“อันนาจะเสียใจ แต่คงไม่นาน เพราะฉันรู้จักนิสัยของหลานสาวตัวเองดี และที่สำคัญ สิ่งที่เกิดขึ้นมันเกิดขึ้นเพราะความมักง่ายของคุณหมอ ดังนั้นคุณหมอจะต้องแก้ไขปัญหาเอาเอง”
แม็กซิมัสโมโหจนแทบเป็นบ้า เขาพูดไม่ออก และสมองตอนนี้มืดมิดไปหมด
“ฉันให้เวลาแค่หนึ่งอาทิตย์ สำหรับการเตรียมงานแต่งงานของคุณหมอกับปั้นหยา”
“แล้วถ้าผมไม่ทำตามล่ะครับ”
“ถ้าคุณหมอไม่ยอมรับผิดชอบปั้นหยา นั่นก็แสดงให้เห็นว่าคุณหมอเป็นผู้ชายมักง่ายน่ารังเกียจ และที่นี่ก็จะไม่ต้อนรับคุณหมออีก”
“คุณย่าขา... หยา... หยาไม่ต้องการแบบนี้ค่ะ หยา...”
“ย่าบอกให้นั่งเฉยๆ ไงปั้นหยา”
“แต่หยา...”
“ไปรอย่าข้างนอก เดี๋ยวนี้”
เมื่อหลานสาวไม่ยอมหยุดโต้แย้ง คุณย่าวารีจึงต้องใช้มาตรการเด็ดขาด
“หยา...”
“ย่าบอกให้ออกไปรอข้างนอก หรือว่าเดี๋ยวนี้หยาไม่เชื่อฟังคำสั่งของย่าแล้ว”
“ไม่ค่ะ... ย่าเชื่อฟังคุณย่าเสมอค่ะ”
“งั้นก็ออกไป ย่าจะคุยกับคุณหมอตามลำพัง”
ปั้นหยาไม่มีทางเลือกอีกแล้ว หล่อนจำต้องขยับตัวลุกขึ้น และสายตาก็บังเอิญไปปะทะกับดวงตาสีเขียวที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังของแม็กซิมัสเข้าพอดิบพอดี
ร่างกายและหัวใจของหล่อนแทบจะมอดไหม้อยู่ในเพลิงแค้นที่ลุกอยู่ในดวงตาคมกริบคู่นั้นเสียให้ได้
เขาเกลียดหล่อนมาก...
สายตาของเขาบอกแบบนั้น
ปั้นหยากัดฟัน ก้าวออกมาจากห้องโถงทั้งน้ำตา ก่อนจะพบว่าที่ด้านนอกมีอันนารออยู่ และทันทีที่อันนาเห็นหล่อน ก็ตรงดิ่งเข้ามาตบหน้าทันที
“อีแมวขโมย อีสารเลว!”
ใบหน้าที่เปียกชุ่มน้ำตาของหล่อนสะบัดไปตามแรงปะทะของฝ่ามือเล็กนั้น หล่อนเจ็บไปทั้งซีกแก้ม แต่ก็จำต้องอดทนเอาไว้ และพยายามอธิบาย
“น้องอัน... พี่... ไม่ได้... ตั้งใจ...”
“มึงไม่ได้ตั้งใจ แต่มึงก็นอนแบให้พี่แม็กเอาทั้งคืน อีสารเลว กูไม่รู้จะด่าผู้หญิงร่านอย่างมึงยังไงดี”
“พี่ขอโทษ... พี่ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ”
ปั้นหยาสะอึกสะอื้นน่าเวทนา
“หากพี่รู้ว่าในห้องนั้นมีคุณแม็กอยู่ พี่คงไม่เอาชุดไปคืนน้องอันหรอก”
“มันเป็นแผนของมึงน่ะสิ อีกะหรี่!”
แม้ว่าหล่อนจะพยายามอธิบายยังไง แต่อันนาก็ไม่ยอมเชื่อ แถมยังก่นด่าหล่อนลั่นไม่ยอมหยุด
ปั้นหยาต้องเดินออกไปร้องไห้นอกบ้าน เพราะไม่อย่างนั้นหล่อนคงถูกอันนาตบตีจนตายคามือ
อันนาเดินเป็นเสือติดจั่นอยู่หน้าห้องโถง เวลาแต่ละนาทีที่ล่วงเลยผ่านไปมันทำให้หญิงสาวเต็มไปด้วยความตึงเครียด หล่อนภาวนาให้คุณย่าไม่ทำเรื่องที่ผิดต่อหล่อน
“พี่แม็ก...”
ทันทีที่แม็กซิมัสเดินออกมาจากห้องโถง หล่อนก็รีบถลาเข้าไปกอดแขนกำยำทันที ก่อนจะละล่ำละลักถามเสียงสั่นเทา
“คุณย่าว่ายังไงบ้างคะ”
สีหน้าของแม็กซิมัสไม่ดีเลย ใบหน้าของเขาเคร่งเครียดอย่างที่หล่อนไม่เคยเห็นมาก่อน และนั่นก็พอจะทำให้หล่อนเดาออกว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
“นี่อย่าบอกนะว่าคุณย่าบังคับให้พี่แม็ก... รับผิดชอบอีปั้นหยาน่ะ!” เพราะความโมโห ทำให้อันนาลืมตัวเรียกปั้นหยาแบบจิกหัวต่อหน้าของแม็กซิมัส
“พี่ขอโทษนะน้องอัน แต่พี่ไม่รู้จะโต้แย้งยังไง”
“งั้นก็แสดงว่าพี่แม็กตอบตกลงไปแล้วใช่ไหมคะ!”
อันนาแผดเสียงดังกึกก้องด้วยความตกใจ และเมื่อแม็กซิมัสไม่ตอบออกมา หล่อนก็อาละวาดทันที มือเล็กทุบหน้าอกกว้างของแม็กซิมัสแรงๆ หลายครั้งเพื่อระบายอารมณ์ ซึ่งแม็กซิมัสก็ยืนนิ่งให้ทุบตีโดยไม่ปริปากบ่น สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความทรมาน
“ทำไมพี่แม็กทำแบบนี้ แล้วอันจะทำยังไง...”
อันนาทุบแม็กซิมัสจนเหนื่อยก็ร้องไห้ออกมาด้วยความผิดหวังและเคียดแค้น
“พี่ขอโทษ... แต่คุณย่าบอกว่าให้พี่แต่งงานกับปั้นหยาแค่หนึ่งปี หลังจากนั้นพี่สามารถหย่าได้”
“ตั้งหนึ่งปี?!”
“ครับ”
“อันทนรอไม่ไหวหรอกนะคะ อันจะต้องเป็นบ้าตายแน่ๆ ที่ต้องทนเห็นพี่แม็กอยู่กับอีแพศยานั่น”
“พี่ก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะทนได้แค่ไหน แต่พี่สาบานว่าพี่จะทำทุกวิถีทางให้ปั้นหยาเอ่ยปากยอมหย่าโดยเร็วที่สุด”
อันนาร้องไห้ด้วยความโกรธแค้น มือเล็กกำแน่นอยู่ข้างลำตัว ดวงตาลุกเป็นไฟ
“คุณย่าลำเอียง!”
แม็กซิมัสก็คิดไม่ต่างจากอันนาแม้แต่น้อย แต่เขาก็รู้ดีว่าไม่สมควรจะพูดมันออกไป“พี่ขอตัวกลับก่อนนะครับน้องอัน รู้สึกเพลีย”อันนาช้อนตาขึ้นมองแม็กซิมัสอย่างโมโหเพราะรู้ทันว่าทำไมชายหนุ่มถึงอ่อนเพลีย“เรื่องนี้เป็นความผิดของพี่แม็ก ยังไงซะพี่แม็กก็ต้องรับผิดชอบชีวิตของอัน เข้าใจไหมคะ”ใช่ มันคือความผิดพลาดของเขาเต็มๆ แต่ตัวต้นเหตุก็คือผู้หญิงแพศยาคนนั้น“พี่จะไม่มีวันทิ้งน้องอัน ถึงพี่จะแต่งงานกับปั้นหยา แต่ผู้หญิงคนนั้นก็จะได้แค่ทะเบียนสมรส กับความเหี้ยมโหดของพี่ เพราะคนที่พี่รักคือน้องอันคนเดียว”อันนาพอยิ้มออกมาได้บ้าง หล่อนรีบโผเข้ากอดแม็กซิมัสและประจบประแจงเสียงอ่อนเสียงหวาน“พี่แม็กพูดแล้วนะคะ ห้ามผิดคำพูดเด็ดขาด”“พี่เป็นคนรักษาคำพูดครับ น้องอันเชื่อใจพี่ได้ เราสองคนจะอยู่บนสวรรค์ ส่วนผู้หญิงคนนั้นจะต้องตกนรกทั้งเป็น”อันนาอดที่จะยิ้มออกมาด้วยความสะใจไม่ได้ เพราะถึงแม้เรื่องราวมันจะกลับตาลปัตรแบบนี้ แต่แม็กซิมัสก็ให้คำมั่นว่าจะไม่ทอดทิ้งหล่อนปั้นหยาที่หลบออกมาร้องไห้หน้าบ้านต้องรีบก้าวเท้าเพื่อเดินเลี่ยงไปทางอื่น เมื่อจู่ๆ แม็กซิมัสก็ปรากฏตัวขึ้น ดวงตาสีเขียวจัดของเขาจ้องมองมาเขม
“คุณย่าขา... หยา... หยาไม่ต้องการความรับผิดชอบจากคุณแม็ก... คุณย่าเลิกคำสั่งเถอะนะคะ”ปั้นหยานั่งร้องไห้อยู่กับพื้น และซบหน้าลงกับตักของคุณย่าวารี น้ำตาไหลรินอาบแก้ม“หยา... ฟังย่านะ” คุณย่าวารียกมือขึ้นลูบศีรษะของปั้นหยาอย่างแสนเวทนา “เรื่องที่เกิดขึ้นมันทำให้หยาเสื่อมเสียเกียรติ ยังไงคุณหมอแม็กซิมัสก็ต้องรับผิดชอบด้วยการแต่งงานกับหยา”“แต่คุณแม็กกับน้องอันเป็นคนรักกันนะคะ หยาไม่อยากถูกตราหน้าว่าแย่งคนรักของน้อง...” หล่อนสะอื้นไห้อย่างน่าเวทนา หัวใจปวดร้าวทรมานเหลือเกิน“แม่อันน่ะ หัวหกก้นขวิดมานักต่อนักแล้ว ไม่ใช่สาวบริสุทธิ์อย่างหยานะลูก”“แต่เขาสองคนรักกัน หยาไม่...”“คุณหมอแม็กซิมัสควรจะได้ผู้หญิงที่ดีกว่าแม่อัน และผู้หญิงคนนั้นก็คือหยาไงลูก”คุณย่าวารีรู้ว่าตัวเองอาจจะลำเอียงรักหลานสองคนไม่เท่ากัน แต่อันนาเป็นคนไม่ดี และจิตใจโหดร้าย หล่อนเป็นห่วงปั้นหยา“แต่คุณแม็กเกลียดหยา...”“คุณหมอแม็กแค่เข้าใจในตัวของหยาผิด ถ้าได้อยู่ด้วยกัน เขาจะต้องได้เห็น และได้รู้ว่าหยาเป็นเด็กดีแค่ไหน และเขาก็จะรักหยาของย่าได้ไม่ยาก”หล่อนเคยได้ยินมากับหู ตอนที่อันนาใส่ไฟปั้นหยาให้กับแม็กซิมัส แต่หล่อน
เพียงไม่กี่นาทีหล่อนก็สามารถมาหยุดตรงหน้าของไตรทศ เขาอยู่ในชุดทำงานสีขาวสะอาด แต่ค่อนข้างยับต่างไปจากทุกครั้งที่เห็น สายตาของเขานั้นเศร้าหมอง รอยยิ้มที่มักจะเปื้อนอยู่บนใบหน้าตอนนี้ไม่มีเหลือให้เห็นอีก“พี่ไตร...”ไตรทศมองนางในฝันของตัวเอง มองด้วยความเสียใจและเสียดาย เขาเฝ้าตามจีบ ตามรักมานานตั้งแต่ปั้นหยาเข้าเรียนมหาวิทยาลัยปีที่ 1 จนถึงตอนนี้ก็เกือบจะห้าปีแล้ว มันนานเหลือเกินที่ฝากหัวใจเอาไว้กับหล่อน และก็ไม่เคยเผื่อใจเอาไว้เลยว่า ปั้นหยาจะแต่งงานสายฟ้าแลบแบบนี้ นี่ถ้ารัชนกไม่บอก เขาก็คงไม่รู้เรื่องนี้“น้องหยา... ไม่คิดจะบอกข่าวดีให้พี่รู้เลยหรือครับ”ไตรทศเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าของปั้นหยา ดวงตาของชายหนุ่มแดงก่ำ“ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก... หยา... ขอโทษนะคะพี่ไตร... ขอโทษที่ไม่ได้บอกเรื่องนี้กับพี่ไตรเป็นคนแรก”ไตรทศฝืนยิ้ม ดึงมือเล็กของปั้นหยาขึ้นมากุมเอาไว้ เขามองหล่อนด้วยหัวใจที่ปวดร้าว“น้องหยารู้ใช่ไหมว่าพี่คิดยังไงกับน้องหยา”ปั้นหยาหลบสายตาของไตรทศลงมองปลายเท้าของตนเอง รู้สึกกระอักกระอ่วนใจเหลือเกิน“หยา... ทราบค่ะ”ไตรทศฝืนยิ้มออกมาทั้งๆ ที่ภายในอกเจ็บปวด “พี่ไม่ได้อยากทำให
หล่อนทำได้แค่นั่งร้องไห้สะอึกสะอื้น และก็ไม่อาจรู้ได้ว่าเขากำลังจะพาหล่อนไปที่ไหนสักพักรถก็เลี้ยวเข้ามาในโรงแรมเล็กๆ แห่งหนึ่ง เขาจอดรถ และหันมามองหน้าซีดเผือดของหล่อน“ผู้หญิงอย่างเธอ เอาในโรงแรมมันยังดูแพงไปเลย”แล้วรถที่จอดอยู่ก็ถูกเคลื่อนขึ้นมาบนท้องถนนอีกครั้ง ในขณะที่หล่อนร้องไห้คร่ำครวญด้วยความหวาดกลัว“คุณ... แม็กจะพาหยาไปไหนคะ...”หล่อนได้ยินแต่เสียงหัวเราะราวกับปีศาจร้ายของผู้ชายที่กำลังเมามาย และไม่ช้ารถสปอร์ตก็เลี้ยวจอดที่ข้างทางใต้ต้นไม้ขนาดใหญ่ หัวใจของปั้นหยาสั่นสะท้าน หล่อนหันมองไปรอบตัวด้วยความตื่นกลัว“คุณแม็ก... จอดรถ... ทำไมคะ”เขาปลดเข็มขัดนิรภัยออกจากตัว และหันมาจ้องหน้าหล่อน แม้จะอยู่ในความมืดสลัว แต่หล่อนก็ยังสามารถมองเห็นกองไฟในสายตาของแม็กซิมัสได้อย่างชัดเจน“เวลาฉันเมา ฉันต้องระบาย”“คุณแม็กหมายถึง...”“ทำไมต้องทำเป็นติดอ่างด้วยล่ะ นี่มันงานโปรดของเธอเลยไม่ใช่หรือ ปั้นหยา”“ไม่... ไม่ใช่นะคะ...” หล่อนขยับตัวหนีไปจนชิดประตูฝั่งที่ตัวเองนั่ง มองคนตัวโตด้วยความหวาดกลัว“อย่าดัดจริตให้มากนัก ทำหน้าที่ของเธอซะ”“ไม่... หยา... หยาไม่ทำ อ๊ะ...”เส้นผมของหล่อนถูกเข
ปั้นหยามองตามคนทั้งคู่ไปด้วยสายตาเศร้าหมอง จนสามหนุ่มเพื่อนรักของแม็กซิมัสต้องเข้าไปปลอบใจ“พอดีน้องอันนามีปัญหาหนักอกหนักใจน่ะครับ ก็เลยต้องการความช่วยเหลือจากไอ้แม็กมัน ไม่มีอะไรหรอกครับ จริงไหม ไอ้เคน ไอ้ชาร์ล” อเล็กซิสหันไปหาตัวช่วยซึ่งก็คือเพื่อนๆ ของตนเอง“ใช่ครับ ไม่มีอะไรหรอกครับ” ชาร์ลีกับเคลวินตอบกลับมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม“ค่ะ”ปั้นหยาฝืนยิ้มน้อยๆ และก่อนจะก้มหน้าลงมองพื้น หัวใจปวดร้าวเหลือเกินหล่อนไม่มีสิทธิ์... ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะคิดหึงหวงแม็กซิมัสด้วยซ้ำ“เอ่อ... หยาขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” หล่อนตัดสินใจเอ่ยขึ้นกับบรรดาเพื่อนๆ สุดหล่อของแม็กซิมัสที่เข้ามาช่วยหล่อนต้อนรับแขกที่มาร่วมงานแต่ง“ผมไปส่งไหมครับ” ชาร์ลีรับอาสา“เอ่อ... ไม่เป็นไรค่ะ หยาไปเองได้ค่ะ”“แต่ผมคิดว่าชุดสาวเจ้าน่าจะเดินลำบากอยู่นะครับ ให้ผมไปส่งดีกว่า เฮ้ย ไอ้เคน ไอ้อเล็ก อยู่ตรงนี้แป๊บนะ ฉันไปเป็นเพื่อนคุณหยาเข้าห้องน้ำก่อน” ชาร์ลีหันไปพูดกับเพื่อนสองคน“ตามสบาย ดูแลเจ้าสาวของไอ้แม็กให้ดีล่ะ” อเล็กซิสกำชับชาร์ลีก่อนจะยิ้มให้กับปั้นหยา“เดินระวังนะครับ”“ขอบคุณค่ะ”ปั้นหยาเดินไปข้างหน้าด้วยความระมัดร
เรือนกายเปลือยเปล่าของบุรุษที่มีรูปร่างงดงามไม่ต่างจากเทพบุตรกรีกยืนนิ่งอยู่ใต้สายน้ำเย็นเฉียบ โทสะของเขากำลังพลุ่งพล่านเดือดดาล ความเกลียดชังที่มีต่อผู้หญิงที่เสแสร้งทำเป็นอ่อนแอราวกับนางเอกละครน้ำเน่าทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆเขาเกลียดปั้นหยา หล่อนสารเลว หล่อนแพศยา และหล่อนก็คือต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด เขากับอันนาต้องแยกจากกัน ก็เพราะผู้หญิงสารเลวที่ยอมเอาตัวเข้าแลกเพื่อให้ได้ผู้ชายอย่างหล่อนเขาจะต้องทำให้หล่อนตกนรกหมกไหม้ จะทำทุกอย่างเพื่อให้หล่อนรู้ว่าตัวเองไม่ใช่ผู้ชนะ หล่อนจะไม่มีวันชนะ หากยังอยู่ในอุ้งมือของเขา“ผู้หญิงสารเลว!”ตั้งแต่เกิดจากท้องพ่อท้องแม่ เขายังไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนแสดงบทนางเอกได้แนบเนียนอย่างปั้นหยามาก่อน แม้กระทั่งไอ้เพื่อนสนิททั้งสามคนของเขาก็ยังเชื่อเลยว่าปั้นหยาน่าสงสาร และไม่มีทางทำเรื่องอย่างว่าได้ แต่เขาคือคนหนึ่งแหละที่ไม่มีทางเชื่อมารยาร้อยพันเล่มเกวียนของหล่อนถ้าไม่ใช่หล่อน แล้วใครกันที่จะวางยาปลุกเซ็กซ์ให้เขากินในค่ำคืนนั้นกรามแกร่งขบกันแน่นจนขึ้นสันนูนเป่ง ความโกรธแค้น ศักดิ์ศรีที่ถูกหยามทำให้แม็กซิมัสเหี้ยมโหดขึ้นอย่างน่าหวาดกลัว เขาเอื้อมมื
“พี่แม็กจะกลับแล้วเหรอคะ”อันนาที่เปลือยเปล่าอยู่ใต้ผ้าห่มสีขาวส่งเสียงออดอ้อน เมื่อเห็นแม็กซิมัสหยิบชุดนอนมาสวมใส่“พี่ไม่อยากให้คนใช้มาเห็นน่ะ”“ก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่คะ เราสองคนรักกัน”“หากเป็นเมื่อก่อนน่ะใช่ แต่ตอนนี้พี่แต่งงานกับปั้นหยาแล้ว พี่ไม่อยากทำให้น้องอันเสื่อมเสีย”อันนาทำหน้ายุ่ง และผุดลุกขึ้นนั่ง “แต่นัง... เอ่อ... พี่ปั้นหยาใช้วิธีสกปรกแย่งพี่แม็กไปจากอันนะคะ”แม็กซิมัสที่เพิ่งกลัดกระดุมเสื้อเสร็จเดินเข้ามาหาอันนา และกุมมือเล็กของหญิงสาวเอาไว้“พี่หย่ากับปั้นหยาเมื่อไหร่ เราสองคนจะแต่งงานกันทันทีครับ”“อันกลัวว่าพี่แม็กจะใจอ่อนกับพี่ปั้นหยาน่ะสิคะ”“พี่เกลียดผู้หญิงเลว น้องอันก็รู้ ดังนั้นพี่ไม่มีทางใจอ่อนกับปั้นหยาแน่นอน”อันนาชะงักไปเล็กน้อย แต่ก็รีบยิ้มออดอ้อนออกมา “อันเชื่อพี่แม็กค่ะ”แม็กซิมัสยกมือขึ้นลูบศีรษะของอันนาแผ่วเบา ก่อนจะกำชับเมื่อนึกขึ้นมาได้“อย่าลืมทานยาคุมนะน้องอัน”อันนาเงยหน้าขึ้นมองแม็กซิมัส ก่อนจะทำหน้างอ “ทำไมต้องให้อันกินยาคุมอีกล่ะคะ”“พี่ยังไม่ต้องการให้น้องอันท้องตอนนี้”“พี่แม็กก็พูดแบบนี้ทุกทีเลย ทำเหมือนกับว่าไม่อยากมีลูกกับอันอย่างนั้นแห
เขาพุ่งเข้าหาอย่างดุดัน บุกรุกอย่างไม่ปรานี แต่ครั้งนี้ต่างจากเมื่อคืน เพราะที่ร่องสาวมีน้ำหวานไหลออกมาคลอเคลียจำนวนมาก นั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกเสียวซ่านรุนแรงยิ่งนัก“โอ้ว... อืมมม แน่น... แน่นมาก... พระเจ้า... แน่น”เขาหลับตาลง ขณะสอดใส่ถี่ระรัว บั้นเอวของเขาซอยดุดัน จ้วงแทงอย่างไม่ลืมหูลืมตา เจ้าหล่อนตอบรับด้วยการหยัดร่อนกายขึ้นหาอย่างกระตือรือร้นแม็กซิมัสพยายามควบคุมตัวเอง และร้องตะโกนบอกตนเองลั่นอกว่าผู้หญิงคนนี้สารเลวมากแค่ไหน และสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นมันก็เป็นเพียงแค่การลงทัณฑ์ไม่มีความรู้สึกใดๆ มาเกี่ยวข้อง แต่...พระเจ้า... หล่อนน่าปรารถนาเกินไป...ความต้องการดิบเถื่อนที่ไม่คุ้นเคยทำให้เขาตื่นตัวกว่าเซ็กซ์ครั้งที่เคยผ่านมาอย่างเหลือเชื่อ แม้จะพยายามต่อต้านด้วยการกดนิ้วลงบนเอวคอดแรงๆ แค่ไหน แต่ความเป็นชายแข็งชันที่ถูกโอบกระชับด้วยกลีบเนื้อนุ่มเนียนราวกับผ้ากำมะหยี่ราคาแพงก็ยังคงตึงเครียด และแน่นอนว่าความนุ่มนวลของกายสาวที่ได้สัมผัสมันเอาชนะทุกสิ่งได้ทั้งหมด“โอ้วววว...”เขาจ้วงจุ่มอยู่ในแอ่งหวานร้อนระอุ เสียงครางหวานฉ่ำที่เต็มไปด้วยความรัญจวนของปั้นหยา ผลักดันให้เขาก้าวเข้าไปในอี