แชร์

ตอนที่ 11

เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เขารู้ดีว่าตัวเองถูกวางยา เพราะไม่อย่างนั้นเขาคงไม่กระทำเรื่องน่าสมเพชเช่นนั้นลงไปได้ แถมเจ้าหล่อนก็ยังเข้ามาหาในเวลาที่เหมาะเจาะพอดิบพอดี

ชายหนุ่มยกมือขึ้นเสยผมแรงๆ ด้วยความหงุดหงิด ขณะตวัดตามองผู้หญิงที่แสร้งทำเป็นยืนตัวสั่นตรงหน้าด้วยความเกลียดชัง เท่าที่เห็น หล่อนก็มีดีแค่อย่างเดียวเท่านั้น คือเยื่อพรหมจรรย์ที่เขาเป็นคนทำลายไป นอกนั้นปั้นหยาก็คือสิ่งจอมปลอม เป็นผู้หญิงสารเลวที่เขาขยะแขยง

เขาก้าวเท้าเดินเข้าไปหยุดตรงหน้าของหล่อน มองด้วยสายตาชิงชังอย่างที่ไม่เคยใช้กับใครมาก่อน

“ฉันเกลียดเธอ จำเอาไว้นะปั้นหยา”

คนฟังน้ำตาร่วงอีกครั้ง แต่ก็รีบยกหลังมือขึ้นมาป้ายทิ้ง และกลั้นใจพูดโต้ตอบออกไป

“หยา... จะจำเอาไว้ค่ะ”

เขาหัวเราะเครียดๆ สายตาของเขาเต็มไปด้วยกองไฟจำนวนมหาศาล และมันก็แผดเผาคนถูกมองจนแทบมอดไหม้

“ผู้หญิงที่ฉันรักคืออันนา ส่วนเธอมันก็แค่อีตัว ที่ฉันเผลอไผลนอนด้วย และอย่าฝันนะว่าฉันจะรับผิดชอบอะไรในตัวของเธอ”

หล่อนเจ็บจนหัวใจชาดิก เลือดสดๆ ไหลทะลักท่วมท้นจนแทบจะทะลักออกมาทางปาก

“หยา... ไม่ได้ต้องการให้คุณแม็กมารับผิดชอบอะไรอยู่แล้วค่ะ เรื่องเมื่อคืน... ให้มันจบตรงนี้”

“ถ้าคุณย่าของเธอให้จบ แน่นอนว่าฉันจบมันแน่ เพราะเรื่องเมื่อคืนมันคือฝันร้ายที่น่าขยะแขยงของฉัน”

“อย่าห่วงเลยค่ะ ยังไงมันก็ต้องจบ”

หล่อนกัดฟันโต้ตอบ ก่อนจะบังคับตัวเองให้เดินผ่านหน้าเขาออกมาจากห้อง หัวใจของหล่อนร่ำร้องด้วยความทรมานแสนสาหัส แต่กระนั้นก็ต้องอดทน

“หยาจะเป็นคน... บอกคุณย่าเองค่ะ”

“หึ... ฉันก็หวังว่าเรื่องมันจะจบแค่นี้”

คนที่เดินตามหลังมาโต้ตอบเสียงกระด้าง กลิ่นอายแห่งความเกลียดชังที่เขามีต่อหล่อน มันฟุ้งเข้ามาในจมูกจนแทบอาเจียน น้ำตาที่เพิ่งแห้งไปของปั้นหยาไหลออกมาอาบแก้มอีกครั้ง และคราวนี้ไม่ว่าจะเช็ดมันยังไง มันก็ไม่ยอมเหือดแห้งเลย

สองเท้าของหล่อนแทบไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะก้าวเดิน แต่หล่อนก็ต้องกัดฟัน อดทน เพราะไม่ต้องการอ่อนแอต่อหน้าของแม็กซิมัสอีกแล้ว

ไม่ช้าหล่อนก็มาถึงห้องรับแขก ซึ่งมีคุณย่าวารีนั่งหน้าเคร่งเครียดรออยู่

“หยา... มาแล้วค่ะคุณย่า”

คุณย่าวารีหันมามองหล่อน สายตาของท่านยังคงเต็มไปด้วยความเมตตาเหมือนเดิม น้ำตาของหล่อนไหลรินอีกครั้งด้วยความซาบซึ้งใจ เพราะไม่ว่าผู้คนทั้งโลกจะเกลียดชังหล่อนแค่ไหน แต่ก็จะยังมีคุณย่าวารีที่รักและเมตตาหล่อนอย่างจริงใจ

“มานั่งใกล้ๆ ย่านี่ปั้นหยา”

“ค่ะ”

หล่อนเดินไปทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตัวใกล้ๆ กับหญิงสูงวัยผู้มีพระคุณล้นหัว

“เชิญคุณหมอแม็กซิมัสนั่งด้วยค่ะ”

“ครับ”

แม็กซิมัสหย่อนกายลงนั่งบนโซฟาตัวตรงกันข้ามกับคุณย่าวารีผู้เป็นเจ้าของบ้าน

เขาอึดอัดกับสายตากล่าวหาของสตรีสูงวัยเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่อาจจะพาตัวเองออกจากสถานการณ์ตรงนั้นได้

“คุณหมอจะต้องรับผิดชอบปั้นหยาด้วยการแต่งงานค่ะ”

ไม่ใช่แค่แม็กซิมัสคนเดียวที่เบิกตากว้างจนลูกนัยน์ตาแทบจะถลนออกมานอกเบ้า แต่ปั้นหยาเองก็เช่นกัน หล่อนส่ายหน้าไปมา น้ำตาไหลริน และรีบคัดค้าน

“ไม่... ไม่นะคะคุณย่า... หยาไม่...”

“นั่งเฉยๆ ปั้นหยา ย่าจะจัดการเอง” คุณย่าวารีสั่งหลานสาวคนโปรดเสียงเคร่งเครียด ก่อนจะสบประสานสายตากับแม็กซิมัสที่จ้องมองมา

“ฉันหวังว่าคุณหมอจะเป็นสุภาพบุรุษพอที่จะรับผิดชอบหลานสาวของฉัน”

แม็กซิมัสรู้สึกไม่ต่างจากถูกแผ่นดินกลบทับลงมาบนร่าง เขาเหมือนตายทั้งเป็นในขณะนี้ เขาตวัดตามองไปที่ตัวต้นเหตุ มองด้วยความเคียดแค้นชิงชัง

“ใช่ครับ ผมเป็นสุภาพบุรุษ กล้าทำก็กล้ารับ แต่...”

“แต่อะไรคะ” คุณย่าวารีย้อนถาม

“แต่เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ผมเป็นฝ่ายถูกกระทำจากน้ำมือของหลานสาวสุดที่รักของคุณย่าวารี ดังนั้น ผมไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบในตัวของผู้หญิงคนนี้”

เขากล่าวหาหล่อนอย่างไม่ไว้หน้า และหล่อนก็จนปัญญาที่จะแก้ตัวอีกแล้ว เพราะยังไงเขาก็ไม่ยอมเชื่อ ทำได้แค่เพียงนั่งร้องไห้เงียบๆ และรอให้เรื่องมันจบลงเท่านั้น

“ฉันเลี้ยงปั้นหยามากับมือ ฉันรู้จักนิสัยใจคอของหลานสาวของตัวเองดี ปั้นหยาไม่ใช่ผู้หญิงที่จะจับผู้ชายด้วยวิธีแบบนั้นแน่นอน”

“แล้วใครล่ะครับที่วางยาผม”

แม็กซิมัสย้อนถามอย่างไม่ยอมถูกบีบบังคับง่ายๆ

“ฉันไม่รู้ และก็ไม่เชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าสิ่งที่คุณหมอพูดมันจะเป็นความจริง บางทีมันก็อาจจะเป็นแค่คำแก้ตัวของผู้ชายมักง่ายคนหนึ่งก็ได้ จริงไหมล่ะคะ”

กรามแกร่งของแม็กซิมัสขบกันแน่นจนเนื้อข้างแก้มกระด้างเป็นริ้วรอย

“ผมไม่ใช่ผู้ชายมักง่าย”

“งั้นคุณหมอก็ต้องรับผิดชอบปั้นหยา เพราะหลานสาวของฉันเสียหายเพราะคุณหมอแล้ว”

แม็กซิมัสแทบจะหัวเราะออกมาให้สมกับความบัดซบที่ตนเองกำลังเผชิญหน้า เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ผู้ชายที่สามารถเหยียบโลกเอาไว้ใต้ฝ่าเท้าทั้งใบ จะต้องมาถูกบีบบังคับให้รับผิดชอบผู้หญิงน่าขยะแขยงคนหนึ่งแบบตอนนี้

“แต่ผมไม่ได้รักปั้นหยา และที่สำคัญผมกับอันนาเราเป็นแฟนกัน”

“ฉันทราบและรู้มาตลอดว่าคุณกับอันนาคบหาดูใจกันอยู่ แต่ในเมื่อฉันเห็นคาตาว่าคุณย่ำยีปั้นหยา และทำให้หลานสาวของฉันมีมลทิน คุณก็ต้องรับผิดชอบด้วยการแต่งงานกับเธอ”

“คุณย่าขา... หยาไม่...”

“นั่งเฉยๆ ปั้นหยา”

หล่อนร้องไห้ออกมา และรู้สึกราวกับกำลังถูกลากลงไปในขุมนรก

หล่อนไม่ได้ต้องการแบบนี้ ไม่ได้ต้องการให้แม็กซิมัสมารับผิดชอบอะไรในตัวของหล่อน

“แล้วคุณย่าวารีไม่นึกถึงจิตใจของอันนาบ้างหรือครับ เธอจะต้องเสียใจแค่ไหน หากรู้ว่าผมถูกบังคับให้แต่งงานกับญาติผู้พี่ของเธอ”

ทุกพยางค์ที่เล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากหยักสวยของแม็กซิมัส เต็มไปด้วยความเดือดดาล

“อันนาจะเสียใจ แต่คงไม่นาน เพราะฉันรู้จักนิสัยของหลานสาวตัวเองดี และที่สำคัญ สิ่งที่เกิดขึ้นมันเกิดขึ้นเพราะความมักง่ายของคุณหมอ ดังนั้นคุณหมอจะต้องแก้ไขปัญหาเอาเอง”

แม็กซิมัสโมโหจนแทบเป็นบ้า เขาพูดไม่ออก และสมองตอนนี้มืดมิดไปหมด

“ฉันให้เวลาแค่หนึ่งอาทิตย์ สำหรับการเตรียมงานแต่งงานของคุณหมอกับปั้นหยา”

“แล้วถ้าผมไม่ทำตามล่ะครับ”

“ถ้าคุณหมอไม่ยอมรับผิดชอบปั้นหยา นั่นก็แสดงให้เห็นว่าคุณหมอเป็นผู้ชายมักง่ายน่ารังเกียจ และที่นี่ก็จะไม่ต้อนรับคุณหมออีก”

“คุณย่าขา... หยา... หยาไม่ต้องการแบบนี้ค่ะ หยา...”

“ย่าบอกให้นั่งเฉยๆ ไงปั้นหยา”

“แต่หยา...”

“ไปรอย่าข้างนอก เดี๋ยวนี้”

เมื่อหลานสาวไม่ยอมหยุดโต้แย้ง คุณย่าวารีจึงต้องใช้มาตรการเด็ดขาด

“หยา...”

“ย่าบอกให้ออกไปรอข้างนอก หรือว่าเดี๋ยวนี้หยาไม่เชื่อฟังคำสั่งของย่าแล้ว”

“ไม่ค่ะ... ย่าเชื่อฟังคุณย่าเสมอค่ะ”

“งั้นก็ออกไป ย่าจะคุยกับคุณหมอตามลำพัง”

ปั้นหยาไม่มีทางเลือกอีกแล้ว หล่อนจำต้องขยับตัวลุกขึ้น และสายตาก็บังเอิญไปปะทะกับดวงตาสีเขียวที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังของแม็กซิมัสเข้าพอดิบพอดี

ร่างกายและหัวใจของหล่อนแทบจะมอดไหม้อยู่ในเพลิงแค้นที่ลุกอยู่ในดวงตาคมกริบคู่นั้นเสียให้ได้

เขาเกลียดหล่อนมาก...

สายตาของเขาบอกแบบนั้น

ปั้นหยากัดฟัน ก้าวออกมาจากห้องโถงทั้งน้ำตา ก่อนจะพบว่าที่ด้านนอกมีอันนารออยู่ และทันทีที่อันนาเห็นหล่อน ก็ตรงดิ่งเข้ามาตบหน้าทันที

“อีแมวขโมย อีสารเลว!”

ใบหน้าที่เปียกชุ่มน้ำตาของหล่อนสะบัดไปตามแรงปะทะของฝ่ามือเล็กนั้น หล่อนเจ็บไปทั้งซีกแก้ม แต่ก็จำต้องอดทนเอาไว้ และพยายามอธิบาย

“น้องอัน... พี่... ไม่ได้... ตั้งใจ...”

“มึงไม่ได้ตั้งใจ แต่มึงก็นอนแบให้พี่แม็กเอาทั้งคืน อีสารเลว กูไม่รู้จะด่าผู้หญิงร่านอย่างมึงยังไงดี”

“พี่ขอโทษ... พี่ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ”

ปั้นหยาสะอึกสะอื้นน่าเวทนา

“หากพี่รู้ว่าในห้องนั้นมีคุณแม็กอยู่ พี่คงไม่เอาชุดไปคืนน้องอันหรอก”

“มันเป็นแผนของมึงน่ะสิ อีกะหรี่!”

แม้ว่าหล่อนจะพยายามอธิบายยังไง แต่อันนาก็ไม่ยอมเชื่อ แถมยังก่นด่าหล่อนลั่นไม่ยอมหยุด

ปั้นหยาต้องเดินออกไปร้องไห้นอกบ้าน เพราะไม่อย่างนั้นหล่อนคงถูกอันนาตบตีจนตายคามือ

อันนาเดินเป็นเสือติดจั่นอยู่หน้าห้องโถง เวลาแต่ละนาทีที่ล่วงเลยผ่านไปมันทำให้หญิงสาวเต็มไปด้วยความตึงเครียด หล่อนภาวนาให้คุณย่าไม่ทำเรื่องที่ผิดต่อหล่อน

“พี่แม็ก...”

ทันทีที่แม็กซิมัสเดินออกมาจากห้องโถง หล่อนก็รีบถลาเข้าไปกอดแขนกำยำทันที ก่อนจะละล่ำละลักถามเสียงสั่นเทา

“คุณย่าว่ายังไงบ้างคะ”

สีหน้าของแม็กซิมัสไม่ดีเลย ใบหน้าของเขาเคร่งเครียดอย่างที่หล่อนไม่เคยเห็นมาก่อน และนั่นก็พอจะทำให้หล่อนเดาออกว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง

“นี่อย่าบอกนะว่าคุณย่าบังคับให้พี่แม็ก... รับผิดชอบอีปั้นหยาน่ะ!” เพราะความโมโห ทำให้อันนาลืมตัวเรียกปั้นหยาแบบจิกหัวต่อหน้าของแม็กซิมัส

“พี่ขอโทษนะน้องอัน แต่พี่ไม่รู้จะโต้แย้งยังไง”

“งั้นก็แสดงว่าพี่แม็กตอบตกลงไปแล้วใช่ไหมคะ!”

อันนาแผดเสียงดังกึกก้องด้วยความตกใจ และเมื่อแม็กซิมัสไม่ตอบออกมา หล่อนก็อาละวาดทันที มือเล็กทุบหน้าอกกว้างของแม็กซิมัสแรงๆ หลายครั้งเพื่อระบายอารมณ์ ซึ่งแม็กซิมัสก็ยืนนิ่งให้ทุบตีโดยไม่ปริปากบ่น สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความทรมาน

“ทำไมพี่แม็กทำแบบนี้ แล้วอันจะทำยังไง...”

อันนาทุบแม็กซิมัสจนเหนื่อยก็ร้องไห้ออกมาด้วยความผิดหวังและเคียดแค้น

“พี่ขอโทษ... แต่คุณย่าบอกว่าให้พี่แต่งงานกับปั้นหยาแค่หนึ่งปี หลังจากนั้นพี่สามารถหย่าได้”

“ตั้งหนึ่งปี?!”

“ครับ”

“อันทนรอไม่ไหวหรอกนะคะ อันจะต้องเป็นบ้าตายแน่ๆ ที่ต้องทนเห็นพี่แม็กอยู่กับอีแพศยานั่น”

“พี่ก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะทนได้แค่ไหน แต่พี่สาบานว่าพี่จะทำทุกวิถีทางให้ปั้นหยาเอ่ยปากยอมหย่าโดยเร็วที่สุด”

อันนาร้องไห้ด้วยความโกรธแค้น มือเล็กกำแน่นอยู่ข้างลำตัว ดวงตาลุกเป็นไฟ

“คุณย่าลำเอียง!”

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status