“คุณย่าขา... หยา... หยาไม่ต้องการความรับผิดชอบจากคุณแม็ก... คุณย่าเลิกคำสั่งเถอะนะคะ”
ปั้นหยานั่งร้องไห้อยู่กับพื้น และซบหน้าลงกับตักของคุณย่าวารี น้ำตาไหลรินอาบแก้ม
“หยา... ฟังย่านะ” คุณย่าวารียกมือขึ้นลูบศีรษะของปั้นหยาอย่างแสนเวทนา “เรื่องที่เกิดขึ้นมันทำให้หยาเสื่อมเสียเกียรติ ยังไงคุณหมอแม็กซิมัสก็ต้องรับผิดชอบด้วยการแต่งงานกับหยา”
“แต่คุณแม็กกับน้องอันเป็นคนรักกันนะคะ หยาไม่อยากถูกตราหน้าว่าแย่งคนรักของน้อง...” หล่อนสะอื้นไห้อย่างน่าเวทนา หัวใจปวดร้าวทรมานเหลือเกิน
“แม่อันน่ะ หัวหกก้นขวิดมานักต่อนักแล้ว ไม่ใช่สาวบริสุทธิ์อย่างหยานะลูก”
“แต่เขาสองคนรักกัน หยาไม่...”
“คุณหมอแม็กซิมัสควรจะได้ผู้หญิงที่ดีกว่าแม่อัน และผู้หญิงคนนั้นก็คือหยาไงลูก”
คุณย่าวารีรู้ว่าตัวเองอาจจะลำเอียงรักหลานสองคนไม่เท่ากัน แต่อันนาเป็นคนไม่ดี และจิตใจโหดร้าย หล่อนเป็นห่วงปั้นหยา
“แต่คุณแม็กเกลียดหยา...”
“คุณหมอแม็กแค่เข้าใจในตัวของหยาผิด ถ้าได้อยู่ด้วยกัน เขาจะต้องได้เห็น และได้รู้ว่าหยาเป็นเด็กดีแค่ไหน และเขาก็จะรักหยาของย่าได้ไม่ยาก”
หล่อนเคยได้ยินมากับหู ตอนที่อันนาใส่ไฟปั้นหยาให้กับแม็กซิมัส แต่หล่อนก็ได้แต่เก็บเงียบเอาไว้ในใจ
“คุณแม็กไม่ทางรักหยาได้หรอกค่ะ”
เพราะเขาขยะแขยงเกลียดชังหล่อนยังกับกิ้งกือไส้เดือน
“เชื่อย่าเถอะนะหยา ย่าอาบน้ำร้อนมาก่อน ไม่มีทางมองพลาดหรอก”
“แต่หยา... ไม่อยากทำร้ายใคร” ปั้นหยาพูดคำเดิมออกมาด้วยน้ำเสียงเจือสะอื้น
“แค่ปีเดียวนะหยา หากครบหนึ่งปีแล้วคุณหมอแม็กซิมัสยังจะขอหย่ากับหยาของย่าอยู่ ย่าก็ยินดีที่จะให้หยากับคุณหมอแม็กซิมัสหย่าขาดจากกัน”
“มันนานเกินไปค่ะคุณย่า หยากลัว...”
“ทำเพื่อย่านะหยา... แต่งงานกับคุณหมอแม็กซิมัสเถอะ เพราะหยากับคุณหมอมีความสัมพันธ์กันแล้ว”
ปั้นหยาทำได้แค่ร้องไห้ออกมาเท่านั้น เพราะรู้ดีว่าคุณย่าวารีไม่มีทางเปลี่ยนใจอีกแล้ว
“เฮ้ย เหล้านะโว้ยไม่ใช่น้ำเปล่า เบาๆ”
เคลวินเตือนเพื่อนซี้เสียงดังลั่น เพราะตกใจที่เห็นแม็กซิมัสดื่มแอลกอฮอล์หนักอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
“เครียดโว้ย”
“เรื่องอะไรของนายวะ”
เคลวินมองหน้าที่เคร่งเครียดของแม็กซิมัสด้วยความแปลกประหลาดใจ
“หรือว่าทะเลาะกับน้องอันนาคนงามมาล่ะ”
คนที่เพิ่งเทเหล้าใส่ปากไปอึกใหญ่ หันขวับมาจ้องหน้าเคลวิน ก่อนจะตอบออกมาเสียงกระด้างน่ากลัว
“ปั้นหยา”
“ปั้นหยา?” เคลวินทวนคำพูดของเพื่อน “ใช่ ญาติผู้พี่ของน้องอันนาแฟนนายหรือเปล่าวะ ที่บอกว่าจ้องจะกินนายตลอดเวลาน่ะ”
“ถูกต้อง”
“เฮ้ย... อย่าบอกนะว่านายถูกแม่นี่กินตับไปแล้ว” เคลวินเดาได้ถูกเป๋งเลยทีเดียว และนั่นก็ยิ่งสร้างริ้วรอยความเดือดดาลบนใบหน้าหล่อลากไส้ของแม็กซิมัสยิ่งขึ้น
“แม่นั่นเอายาปลุกเซ็กซ์ให้ฉันกิน แล้วก็เข้ามาอ่อยฉัน จนเกิดเรื่องน่าขยะแขยงนี้ขึ้น”
“อ้าว... แล้วน้องอันนาของนายหายไปไหนล่ะ ทำไมปล่อยให้ปั้นหยามาอ่อยนาย แล้วเอานายขึ้นเตียงได้”
“อันนาถูกเพื่อนตามออกไปนอกบ้าน ซึ่งฉันมั่นใจว่ามันก็ต้องเป็นหนึ่งในแผนการของผู้หญิงแพศยาคนนั้น”
เคลวินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ไม่น่าเชื่อเลยว่าผู้หญิงคนนั้นจะวางแผนได้แยบยลขนาดนี้ แล้วนายทำไงต่อ เอาเงินฟาดหัวไปใช่ไหม”
ดวงตาสีเขียวจัดที่ตอนนี้ลุกเป็นไฟของแม็กซิมัสละจากแก้วเหล้าขึ้นไปมองสบตากับเคลวิน
“ถ้าเอาเงินฟาดหัวได้ ฉันคงไม่ต้องมานั่งเครียดแบบนี้หรอก”
“ทำไมล่ะ หรือว่าแม่นั่นต้องการให้นายฟาดหล่อนซ้ำอีก”
“คุณย่าของเธอมาเห็นเข้าพอดี และบังคับให้ฉันรับผิดชอบด้วยการแต่งงาน”
“พระเจ้า! แต่งงานเลยหรือ”
เหล้าในแก้วใสถูกกรอกใส่ปากของแม็กซิมัสจนหมด เขากระแทกแก้วกับโต๊ะแรงๆ เพื่อระบายโทสะ
“ใช่ ฉันปฏิเสธไปแล้ว แต่คุณย่าไม่ยอม แถมยังขู่อีกว่าถ้าฉันไม่รับผิดชอบปั้นหยาด้วยการแต่งงาน เธอจะไม่ยอมให้ฉันไปเหยียบที่บ้านนั้นอีก แต่นายก็รู้ใช่ไหมว่าฉันรักอันนา ฉันต้องไปหาอันนาที่นั่น”
“แล้วนี่นายจะทำยังไงไอ้แม็ก” เคลวินฟังแล้วก็เครียดแทนเลยทีเดียว
“ฉันตอบตกลงไปแล้ว”
น้ำเสียงของแม็กซิมัสกระด้างน่ากลัวมากจนเคลวินยังอดขนลุกไม่ได้เลย
“อ้าว แล้วอย่างนี้น้องอันนาของนายไม่อกแตกตายหรือ”
“ฉันคุยกับอันนาแล้ว แค่ปีเดียวเท่านั้น แล้วฉันก็จะหย่ากับปั้นหยา”
“แล้วน้องอันนายอมหรือ”
“แน่นอน อันนาต้องยอม เพราะถึงแม้ฉันจะแต่งงานกับผู้หญิงแพศยาคนนั้น แต่ความสัมพันธ์ของฉันกับอันนาก็จะเหมือนเดิม เราจะยังเป็นคนรักกันไม่เปลี่ยนแปลง”
“ถ้านายทำแบบนั้น เมียตามกฎหมายของนายไม่อกแตกตายหรือไอ้แม็ก”
แม็กซิมัสหัวเราะออกมาอย่างเลือดเย็น “นั่นแหละที่ฉันต้องการ”
“นี่นายหมายความว่า...”
“ผู้หญิงคนนั้นจะได้ซาตานในตัวของฉัน หล่อนจะต้องตกนรกทั้งเป็นตลอดหนึ่งปีต่อจากนี้”
“พระเจ้า... นายคงไม่ตบตีเมียหรอกนะ” เคลวินถามย้ำเสียงตื่นตกใจ
“ไม่... ฉันไม่ใช่ผู้ชายชอบใช้กำลัง แต่ฉันมีวิธีที่ดีเยี่ยม ที่จะทำให้ผู้หญิงคนนั้นตายทั้งเป็น”
เหล้าในมือของแม็กซิมัสถูกเทหายเข้าไปในลำคอแกร่งอีกครั้งและอีกครั้ง จนเจ้าตัวหน้าแดงก่ำเพราะความเมามาย
“ฉันเห็นใจนายว่ะ ไอ้แม็ก”
“ขอบใจ แต่นายไม่ต้องมาเห็นใจฉันหรอก เพราะเกมนี้ คนที่น่าเห็นใจคือแม่นั่นต่างหาก” น้ำเสียงของแม็กซิมัสน่าสะพรึงกลัวเหลือเกิน “อ้อ แล้วนายช่วยกระจายข่าวบอกไอ้ชาร์ลกับไอ้อเล็กด้วยว่าฉันจะแต่งงาน”
“ได้ๆ เดี๋ยวฉันจัดการให้ ส่วนนายก็ทำใจร่มๆ เอาไว้นะ บางทีผู้หญิงคนนี้อาจจะเป็นคู่แท้ของนายก็ได้”
แม็กซิมัสไม่ได้โต้ตอบเพื่อนอีก นอกจากนั่งดื่มเหล้าเงียบๆ ดวงตาสีเขียวจัดเต็มไปด้วยไฟแห่งเคียดแค้นชิงชัง
คนที่กำลังนั่งร้องไห้อยู่บนเตียงนอนต้องรีบป้ายน้ำตาทิ้ง เมื่อเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือกรีดร้องขึ้น หล่อนเอื้อมมือไปหยิบเจ้าอุปกรณ์สื่อสารที่กำลังสั่นไหวขึ้นมามองหน้าจอ และก็พบว่าเป็นสายของไตรทศ รุ่นพี่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยนั่นเอง
ไตรทศเคยตามจีบหล่อน แต่หล่อนไม่ได้ตอบรับความรักของเขา เพราะตนเองแอบรักแม็กซิมัสจนหมดหัวใจ แต่กระนั้นไตรทศก็ไม่เคยที่จะละความพยายาม เขายังหมั่นที่จะโทรมาถามสารทุกข์สุกดิบของหล่อนสม่ำเสมอ
“สวัสดีค่ะพี่ไตร”
“น้องหยานอนหรือยังครับ พี่โทรมารบกวนหรือเปล่า”
น้ำเสียงของไตรทศเคร่งเครียดอย่างที่หล่อนไม่เคยได้ยินมาก่อนตั้งแต่รู้จักกับเขามา
“หยายังไม่ได้นอนค่ะ ว่าแต่พี่ไตรมีธุระสำคัญเหรอคะ”
“ครับ”
“เรื่องอะไรเอ่ย หรือว่าพี่ไตรกำลังจะแต่งงานคะ”
ปั้นหยาแซวออกไปเพราะต้องการจะปกปิดความทุกข์ของตนเองเอาไว้จากคู่สนทนา
“คนที่กำลังจะแต่งงานคือน้องหยาไม่ใช่หรือครับ”
“พี่ไตร?”
“พี่ขอโทษนะครับที่ต้องพูดออกไปตรงๆ แต่พี่... พี่เสียใจมากที่จู่ๆ น้องหยาก็จะแต่งงาน แถมน้องหยายังไม่คิดจะบอกพี่อีก”
น้ำเสียงตัดพ้อของไตรทศทำให้ปั้นหยาร้องไห้ออกมา หล่อนเดาไม่ได้ว่าใครเป็นคนบอกเรื่องนี้กับไตรทศ และก็ไม่ได้อยากรู้แม้แต่น้อย
“หยา... มีความจำเป็นค่ะพี่ไตร...”
“น้องหยาออกมาหาพี่ที่หน้ารั้วบ้านหน่อยได้ไหมครับ พี่... อยากเจอน้องหยาอีกสักครั้ง ก่อนที่น้องหยาจะมีเจ้าของ...”
“พี่ไตร... หยา...”
“ถ้าน้องหยาไม่สะดวก... ก็ไม่เป็นไรครับ งั้นพี่กลับก่อน”
“หยาสะดวกค่ะ พี่ไตรรอหยาสักครู่นะคะ”
น้ำเสียงของไตรทศเศร้าหมองมาก ทำให้ปั้นหยารู้สึกผิดเหลือเกิน
“ขอบคุณน้องหยามากนะครับ”
ปั้นหยาวางโทรศัพท์มือถือเอาไว้บนเตียง ก่อนจะรีบวิ่งออกจากห้องนอน และลงไปหาไตรทศที่หน้ารั้วบ้าน
เพียงไม่กี่นาทีหล่อนก็สามารถมาหยุดตรงหน้าของไตรทศ เขาอยู่ในชุดทำงานสีขาวสะอาด แต่ค่อนข้างยับต่างไปจากทุกครั้งที่เห็น สายตาของเขานั้นเศร้าหมอง รอยยิ้มที่มักจะเปื้อนอยู่บนใบหน้าตอนนี้ไม่มีเหลือให้เห็นอีก“พี่ไตร...”ไตรทศมองนางในฝันของตัวเอง มองด้วยความเสียใจและเสียดาย เขาเฝ้าตามจีบ ตามรักมานานตั้งแต่ปั้นหยาเข้าเรียนมหาวิทยาลัยปีที่ 1 จนถึงตอนนี้ก็เกือบจะห้าปีแล้ว มันนานเหลือเกินที่ฝากหัวใจเอาไว้กับหล่อน และก็ไม่เคยเผื่อใจเอาไว้เลยว่า ปั้นหยาจะแต่งงานสายฟ้าแลบแบบนี้ นี่ถ้ารัชนกไม่บอก เขาก็คงไม่รู้เรื่องนี้“น้องหยา... ไม่คิดจะบอกข่าวดีให้พี่รู้เลยหรือครับ”ไตรทศเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าของปั้นหยา ดวงตาของชายหนุ่มแดงก่ำ“ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก... หยา... ขอโทษนะคะพี่ไตร... ขอโทษที่ไม่ได้บอกเรื่องนี้กับพี่ไตรเป็นคนแรก”ไตรทศฝืนยิ้ม ดึงมือเล็กของปั้นหยาขึ้นมากุมเอาไว้ เขามองหล่อนด้วยหัวใจที่ปวดร้าว“น้องหยารู้ใช่ไหมว่าพี่คิดยังไงกับน้องหยา”ปั้นหยาหลบสายตาของไตรทศลงมองปลายเท้าของตนเอง รู้สึกกระอักกระอ่วนใจเหลือเกิน“หยา... ทราบค่ะ”ไตรทศฝืนยิ้มออกมาทั้งๆ ที่ภายในอกเจ็บปวด “พี่ไม่ได้อยากทำให
หล่อนทำได้แค่นั่งร้องไห้สะอึกสะอื้น และก็ไม่อาจรู้ได้ว่าเขากำลังจะพาหล่อนไปที่ไหนสักพักรถก็เลี้ยวเข้ามาในโรงแรมเล็กๆ แห่งหนึ่ง เขาจอดรถ และหันมามองหน้าซีดเผือดของหล่อน“ผู้หญิงอย่างเธอ เอาในโรงแรมมันยังดูแพงไปเลย”แล้วรถที่จอดอยู่ก็ถูกเคลื่อนขึ้นมาบนท้องถนนอีกครั้ง ในขณะที่หล่อนร้องไห้คร่ำครวญด้วยความหวาดกลัว“คุณ... แม็กจะพาหยาไปไหนคะ...”หล่อนได้ยินแต่เสียงหัวเราะราวกับปีศาจร้ายของผู้ชายที่กำลังเมามาย และไม่ช้ารถสปอร์ตก็เลี้ยวจอดที่ข้างทางใต้ต้นไม้ขนาดใหญ่ หัวใจของปั้นหยาสั่นสะท้าน หล่อนหันมองไปรอบตัวด้วยความตื่นกลัว“คุณแม็ก... จอดรถ... ทำไมคะ”เขาปลดเข็มขัดนิรภัยออกจากตัว และหันมาจ้องหน้าหล่อน แม้จะอยู่ในความมืดสลัว แต่หล่อนก็ยังสามารถมองเห็นกองไฟในสายตาของแม็กซิมัสได้อย่างชัดเจน“เวลาฉันเมา ฉันต้องระบาย”“คุณแม็กหมายถึง...”“ทำไมต้องทำเป็นติดอ่างด้วยล่ะ นี่มันงานโปรดของเธอเลยไม่ใช่หรือ ปั้นหยา”“ไม่... ไม่ใช่นะคะ...” หล่อนขยับตัวหนีไปจนชิดประตูฝั่งที่ตัวเองนั่ง มองคนตัวโตด้วยความหวาดกลัว“อย่าดัดจริตให้มากนัก ทำหน้าที่ของเธอซะ”“ไม่... หยา... หยาไม่ทำ อ๊ะ...”เส้นผมของหล่อนถูกเข
ปั้นหยามองตามคนทั้งคู่ไปด้วยสายตาเศร้าหมอง จนสามหนุ่มเพื่อนรักของแม็กซิมัสต้องเข้าไปปลอบใจ“พอดีน้องอันนามีปัญหาหนักอกหนักใจน่ะครับ ก็เลยต้องการความช่วยเหลือจากไอ้แม็กมัน ไม่มีอะไรหรอกครับ จริงไหม ไอ้เคน ไอ้ชาร์ล” อเล็กซิสหันไปหาตัวช่วยซึ่งก็คือเพื่อนๆ ของตนเอง“ใช่ครับ ไม่มีอะไรหรอกครับ” ชาร์ลีกับเคลวินตอบกลับมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม“ค่ะ”ปั้นหยาฝืนยิ้มน้อยๆ และก่อนจะก้มหน้าลงมองพื้น หัวใจปวดร้าวเหลือเกินหล่อนไม่มีสิทธิ์... ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะคิดหึงหวงแม็กซิมัสด้วยซ้ำ“เอ่อ... หยาขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” หล่อนตัดสินใจเอ่ยขึ้นกับบรรดาเพื่อนๆ สุดหล่อของแม็กซิมัสที่เข้ามาช่วยหล่อนต้อนรับแขกที่มาร่วมงานแต่ง“ผมไปส่งไหมครับ” ชาร์ลีรับอาสา“เอ่อ... ไม่เป็นไรค่ะ หยาไปเองได้ค่ะ”“แต่ผมคิดว่าชุดสาวเจ้าน่าจะเดินลำบากอยู่นะครับ ให้ผมไปส่งดีกว่า เฮ้ย ไอ้เคน ไอ้อเล็ก อยู่ตรงนี้แป๊บนะ ฉันไปเป็นเพื่อนคุณหยาเข้าห้องน้ำก่อน” ชาร์ลีหันไปพูดกับเพื่อนสองคน“ตามสบาย ดูแลเจ้าสาวของไอ้แม็กให้ดีล่ะ” อเล็กซิสกำชับชาร์ลีก่อนจะยิ้มให้กับปั้นหยา“เดินระวังนะครับ”“ขอบคุณค่ะ”ปั้นหยาเดินไปข้างหน้าด้วยความระมัดร
เรือนกายเปลือยเปล่าของบุรุษที่มีรูปร่างงดงามไม่ต่างจากเทพบุตรกรีกยืนนิ่งอยู่ใต้สายน้ำเย็นเฉียบ โทสะของเขากำลังพลุ่งพล่านเดือดดาล ความเกลียดชังที่มีต่อผู้หญิงที่เสแสร้งทำเป็นอ่อนแอราวกับนางเอกละครน้ำเน่าทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆเขาเกลียดปั้นหยา หล่อนสารเลว หล่อนแพศยา และหล่อนก็คือต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด เขากับอันนาต้องแยกจากกัน ก็เพราะผู้หญิงสารเลวที่ยอมเอาตัวเข้าแลกเพื่อให้ได้ผู้ชายอย่างหล่อนเขาจะต้องทำให้หล่อนตกนรกหมกไหม้ จะทำทุกอย่างเพื่อให้หล่อนรู้ว่าตัวเองไม่ใช่ผู้ชนะ หล่อนจะไม่มีวันชนะ หากยังอยู่ในอุ้งมือของเขา“ผู้หญิงสารเลว!”ตั้งแต่เกิดจากท้องพ่อท้องแม่ เขายังไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนแสดงบทนางเอกได้แนบเนียนอย่างปั้นหยามาก่อน แม้กระทั่งไอ้เพื่อนสนิททั้งสามคนของเขาก็ยังเชื่อเลยว่าปั้นหยาน่าสงสาร และไม่มีทางทำเรื่องอย่างว่าได้ แต่เขาคือคนหนึ่งแหละที่ไม่มีทางเชื่อมารยาร้อยพันเล่มเกวียนของหล่อนถ้าไม่ใช่หล่อน แล้วใครกันที่จะวางยาปลุกเซ็กซ์ให้เขากินในค่ำคืนนั้นกรามแกร่งขบกันแน่นจนขึ้นสันนูนเป่ง ความโกรธแค้น ศักดิ์ศรีที่ถูกหยามทำให้แม็กซิมัสเหี้ยมโหดขึ้นอย่างน่าหวาดกลัว เขาเอื้อมมื
“พี่แม็กจะกลับแล้วเหรอคะ”อันนาที่เปลือยเปล่าอยู่ใต้ผ้าห่มสีขาวส่งเสียงออดอ้อน เมื่อเห็นแม็กซิมัสหยิบชุดนอนมาสวมใส่“พี่ไม่อยากให้คนใช้มาเห็นน่ะ”“ก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่คะ เราสองคนรักกัน”“หากเป็นเมื่อก่อนน่ะใช่ แต่ตอนนี้พี่แต่งงานกับปั้นหยาแล้ว พี่ไม่อยากทำให้น้องอันเสื่อมเสีย”อันนาทำหน้ายุ่ง และผุดลุกขึ้นนั่ง “แต่นัง... เอ่อ... พี่ปั้นหยาใช้วิธีสกปรกแย่งพี่แม็กไปจากอันนะคะ”แม็กซิมัสที่เพิ่งกลัดกระดุมเสื้อเสร็จเดินเข้ามาหาอันนา และกุมมือเล็กของหญิงสาวเอาไว้“พี่หย่ากับปั้นหยาเมื่อไหร่ เราสองคนจะแต่งงานกันทันทีครับ”“อันกลัวว่าพี่แม็กจะใจอ่อนกับพี่ปั้นหยาน่ะสิคะ”“พี่เกลียดผู้หญิงเลว น้องอันก็รู้ ดังนั้นพี่ไม่มีทางใจอ่อนกับปั้นหยาแน่นอน”อันนาชะงักไปเล็กน้อย แต่ก็รีบยิ้มออดอ้อนออกมา “อันเชื่อพี่แม็กค่ะ”แม็กซิมัสยกมือขึ้นลูบศีรษะของอันนาแผ่วเบา ก่อนจะกำชับเมื่อนึกขึ้นมาได้“อย่าลืมทานยาคุมนะน้องอัน”อันนาเงยหน้าขึ้นมองแม็กซิมัส ก่อนจะทำหน้างอ “ทำไมต้องให้อันกินยาคุมอีกล่ะคะ”“พี่ยังไม่ต้องการให้น้องอันท้องตอนนี้”“พี่แม็กก็พูดแบบนี้ทุกทีเลย ทำเหมือนกับว่าไม่อยากมีลูกกับอันอย่างนั้นแห
เขาพุ่งเข้าหาอย่างดุดัน บุกรุกอย่างไม่ปรานี แต่ครั้งนี้ต่างจากเมื่อคืน เพราะที่ร่องสาวมีน้ำหวานไหลออกมาคลอเคลียจำนวนมาก นั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกเสียวซ่านรุนแรงยิ่งนัก“โอ้ว... อืมมม แน่น... แน่นมาก... พระเจ้า... แน่น”เขาหลับตาลง ขณะสอดใส่ถี่ระรัว บั้นเอวของเขาซอยดุดัน จ้วงแทงอย่างไม่ลืมหูลืมตา เจ้าหล่อนตอบรับด้วยการหยัดร่อนกายขึ้นหาอย่างกระตือรือร้นแม็กซิมัสพยายามควบคุมตัวเอง และร้องตะโกนบอกตนเองลั่นอกว่าผู้หญิงคนนี้สารเลวมากแค่ไหน และสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นมันก็เป็นเพียงแค่การลงทัณฑ์ไม่มีความรู้สึกใดๆ มาเกี่ยวข้อง แต่...พระเจ้า... หล่อนน่าปรารถนาเกินไป...ความต้องการดิบเถื่อนที่ไม่คุ้นเคยทำให้เขาตื่นตัวกว่าเซ็กซ์ครั้งที่เคยผ่านมาอย่างเหลือเชื่อ แม้จะพยายามต่อต้านด้วยการกดนิ้วลงบนเอวคอดแรงๆ แค่ไหน แต่ความเป็นชายแข็งชันที่ถูกโอบกระชับด้วยกลีบเนื้อนุ่มเนียนราวกับผ้ากำมะหยี่ราคาแพงก็ยังคงตึงเครียด และแน่นอนว่าความนุ่มนวลของกายสาวที่ได้สัมผัสมันเอาชนะทุกสิ่งได้ทั้งหมด“โอ้วววว...”เขาจ้วงจุ่มอยู่ในแอ่งหวานร้อนระอุ เสียงครางหวานฉ่ำที่เต็มไปด้วยความรัญจวนของปั้นหยา ผลักดันให้เขาก้าวเข้าไปในอี
“ทำไมพี่แม็กนั่งหน้าเครียดแบบนี้ล่ะคะ คิดอะไรในใจอยู่คะ บอกอันได้ไหมเอ่ย”อันนาในชุดนอนวาบหวิวเดินมาทรุดนั่งบนตักของแม็กซิมัสที่เขากำลังนั่งดื่มเหล้าอยู่ริมระเบียงชั้นสองซึ่งเป็นระเบียงทางด้านหน้าของคฤหาสน์“นิดหน่อยน่ะครับ”แม็กซิมัสวางแก้วเหล้าลงบนโต๊ะ เพื่อที่จะได้โอบกอดร่างอวบอัดของอันนาได้ถนัด จากนั้นเขาก็ซบหน้าลงกับร่องปทุมถันเต่งตึง สูดกลิ่นหอมเข้ามาในปอดกลิ่นหอมของอันนาแตกต่างจากกลิ่นหอมของปั้นหยาโดยสิ้นเชิงอันนามีกลิ่นตัวที่ปรุงแต่งมาจากกลิ่นน้ำหอมราคาแพงจากต่างประเทศที่ผู้หญิงส่วนมากชอบใช้กัน และมันก็เป็นกลิ่นที่พบเจอได้ทั่วไปบนเนื้อตัวของสตรี ซึ่งต่างออกไปจากกลิ่นหอมละมุนจากกายของปั้นหยา เขาไม่เคยได้กลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายกับแป้งเด็กแบบนั้นจากเนื้อตัวของผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลย กลิ่นหอมมันเบาบาง แต่ตราตรึงลืมไม่ลง จนหยุดสูดดมไม่ได้บ้าฉิบ...ทำไมพักนี้สมองของเขาเอาแต่เปรียบเทียบอันนากับปั้นหยาผู้หญิงสารเลวคนนี้บ่อยนักนะชายหนุ่มกระแทกลมหายใจออกมาแรงๆ และพยายามจดจ่ออยู่กับอันนา“เรื่องอะไรเหรอคะ อันช่วยคิดได้นะคะ”ดวงตาสีเขียวจัดสบประสานกับดวงตาหวานมีจริตของอันนา ก่อนที่เขาจะพูดข
เขาไม่เคยเป็นแบบนี้ ไม่เคยยอมให้ร่างกายของเขาถูกผู้หญิงคนไหนควบคุม แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะแปรเปลี่ยนไปหมด ยามที่เขาได้ฝากฝังลึกล้ำในกายแน่นหนั่นของปั้นหยา สมองก็ว่างเปล่าไม่มีความคิดใดๆ อยู่ในนั้นนอกจากโหยหิวเขาแตกระเบิดในไม่ช้า ภายในความเป็นหญิงคับแน่น และเขาก็ควรจะหยุด และออกไปหาอันนาอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ แต่ร่างกายกลับไม่ให้ความร่วมมือพระเจ้า... เขาต้องการปั้นหยาอีกครั้งชายหนุ่มมองไปที่เตียงนอนกลางห้อง แต่ให้ตายเถอะ มันไกลเกินไป และเขาก็รอไม่ไหว“อ๊ะ... อา...”สุดท้ายแล้วเซ็กซ์ครั้งที่สองของเขากับปั้นหยาในค่ำคืนนี้ก็อยู่บนพื้นใกล้ๆ กับกำแพงห้องนั้นเองเขาสอดใส่ ส่ายวน จ้วงแทงเข้าไปหนักหน่วง ต้องการจะฝังลึกอยู่ภายในนั้นให้ได้นานที่สุดมันไม่เคยเป็นแบบนี้ ไอ้จ้อนของเขาไม่เคยรู้สึกหิวกระหายจนหน้ามืดตามัวแบบนี้“โอ้วววว... รัดแรงมาก พระเจ้า... ทำไมแรงแบบนี้ โอ้วววว”บ้าชะมัด ทำไมเขาถึงควบคุมตัวเองไม่ได้เลย และทำไมแรงปรารถนาครั้งนี้ถึงรุนแรงหนัก มันซัดกระหน่ำใส่จนเขาหมดทางที่จะรับมืออันนาผุดลุกผุดนั่งอยู่บนเตียง คอก็ชะเง้อรอคอยการมาเยือนของแม็กซิมัส“ไหนว่าจะมาไง นี่จะสี่ทุ่มอ