“แกแน่ใจเหรอว่าจะทำอย่างนี้จริงๆ นังอัน”
อันนาที่นั่งซดเหล้าอยู่หันไปมองเพื่อนที่ตั้งคำถาม และตอบออกไปเสียงดังฟังชัด
“ฉันแน่ใจสิ”
ดวงตาของอันนาเปล่งประกายแห่งความหวัง
“เพราะถ้าฉันไม่ทำ พี่แม็กก็ไม่ขอฉันแต่งงานสักทีน่ะสิ”
“แต่มันประหลาดมากนะยะ วางยาปลุกเซ็กซ์แฟนตัวเองเนี่ย ฉันถามจริงๆ เถอะ แกกับพี่แม็กของแกยังไม่เคยเอากันเลยเหรอ”
“เคยสิ ฉันไม่พลาดเรื่องแบบนี้อยู่แล้วแกก็รู้นี่นังนก”
“อ้าว ถ้าเคยๆ ขี่กันมาแล้ว จะต้องมาวางยาปลุกเซ็กซ์อีกทำไมล่ะยะ เปลืองยาเปล่าๆ”
“ก็เดี๋ยวนี้พี่แม็กไม่ค่อยมีเวลาให้ฉันเท่าไหร่ พอไม่ค่อยได้เจอกัน ฉันก็ระแวงน่ะสิ กลัวพี่แม็กจะไปมีคนอื่น” อันนาพูดเสียงไม่สบายใจ
“แล้วถ้าแกวางยาปลุกเซ็กซ์พี่แม็ก แกจะได้อะไรตอบแทนกลับมาวะ นอกจากความฟินอ่ะ”
อันนายิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะตอบเพื่อนซี้ออกมา
“ฉันก็จะตั้งท้องไงล่ะ ถ้าฉันตั้งท้อง พี่แม็กก็จะต้องรีบแต่งงานกับฉัน”
“อ้าว แล้วเอากันปกติแกท้องไม่ได้หรือไง ทำไมต้องวางยาด้วย”
“ก็ทุกครั้งที่เอากัน พี่แม็กใส่ถุงทุกรอบน่ะสิ แล้วครั้งไหนถุงรั่วหรือแตก พี่แม็กก็กำชับให้ฉันกินยาคุม แล้วแบบนี้มันจะท้องไปได้ยังไงล่ะยะ” อันนาพูดอย่างหัวเสีย
“ดังนั้นแกก็เลยจะวางยาให้พี่แม็กเอาแกหนักๆ ซึ่งพี่แม็กก็อาจจะลืมสวมถุงยางเพราะอยากเอาแกจัดใช่ไหม”
“ถูกต้อง” อันนาตอบรับด้วยรอยยิ้มพึงพอใจ
“แกนี่มันเจ้าเล่ห์ร้ายฉิบหายเลยว่ะนังอัน”
“ขอบใจที่ชมนะนังนก แต่ถ้าฉันไม่ทำแบบนี้ ฉันก็ไม่ได้แต่งกับพี่แม็กสักทีน่ะสิ”
“เออๆ เข้าใจแล้วเพื่อน”
“ถ้าฉันทำสำเร็จเมื่อไหร่ ฉันจะซื้อตั๋วเครื่องบินให้แกกับแฟนแกไปเที่ยวต่างประเทศเลย” อันนายกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม
“นี่แกไม่ได้หลอกฉันใช่ไหม นังอัน”
“ระดับว่าที่เจ้าสาวของคุณแม็กซิมัส ซาเมนดอฟ คุณหมอหนุ่มไฟแรงเจ้าของโรงพยาบาลยักษ์ใหญ่ ไม่มีทางหลอกอยู่แล้วยะ แค่เศษเงินเอง”
อันนาหัวเราะร่วนด้วยความพึงพอใจกับวาสนาของตนเองที่กำลังจะได้เป็นเจ้าสาวของมหาเศรษฐีผู้ร่ำรวย
“ว่าแต่แกจะเริ่มเมื่อไหร่นังอัน”
“พรุ่งนี้คุณย่าไปปฏิบัติธรรมต่างจังหวัด ทางสะดวกเลยล่ะนังนก”
“แล้วมีอะไรให้ฉันช่วยหรือเปล่า”
“มีแน่นอน”
ใบหน้านวลของอันนาเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มพึงพอใจ
“คุณย่าไม่ให้หยาไปด้วยจริงๆ เหรอคะ”
ปั้นหยาจับมือของคุณย่าวารีเอาไว้ พร้อมกับพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วงเป็นใย
“ย่ามีแม่แววไปด้วย หยาไม่ต้องเป็นห่วงย่าหรอก เดี๋ยวมะรืนนี้ย่าก็กลับแล้ว ไม่ได้ไปนานเลย”
“แต่หยาก็ยังอดเป็นห่วงคุณย่าไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละค่ะ”
คุณย่าวารียกมือขึ้นลูบศีรษะของปั้นหยาอย่างแสนรัก ซึ่งอันนาที่กลับมาพอดีเห็นเข้าก็เบะปากอย่างหมั่นไส้ ก่อนจะเดินตรงเข้ามาสมทบ
“ย่าสัญญาว่าจะไม่ลืมกินยาเด็ดขาด สบายใจได้แล้วนะหยาหลานรัก”
“คุณย่าสัญญาแล้วนะคะ”
คุณย่าวารีผงกศีรษะตอบรับ ขณะจ้องมองหลานสาวด้วยความเมตตา
“แหม คุณย่าทำเหมือนมีหลานสาวคนเดียวเลยนะคะ”
เสียงเหน็บแนมของอันนาดังขึ้น และก็ทำให้ทั้งคุณย่าวารีและปั้นหยาต้องหันไปมอง
อันนาเดินหน้าบูดบึ้งเข้ามาหยุดตรงหน้า สายตาที่มองปั้นหยานั้นเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
“ประจบเก่งเหลือเกินนะพี่หยา”
“พี่ไม่ได้...”
ปั้นหยากำลังจะอ้าปากอธิบาย แต่คุณย่าวารีจัดการแทนเสียก่อน
“ทำไมพูดจาแบบนี้ล่ะแม่อัน”
อันนาตวัดตามองหน้าคุณย่าวารีอย่างน้อยอกน้อยใจ
“หรือว่าอันพูดผิดไปล่ะคะ ถ้าพี่หยาไม่ประจบประแจงเก่ง คุณย่าก็คงไม่รักหลานลำเอียงแบบนี้หรอกค่ะ”
“แม่อันนา!”
“ทำไมคะ อันพูดแทงใจดำคุณย่าใช่ไหมล่ะคะ”
อันนาลอยหน้าลอยตาอย่างอวดดี
“น้องอัน อย่าพูดจาแบบนี้กับคุณย่าสิจ๊ะ”
“แกอย่ามายุ่ง อีคนสอพลอ!”
อันนาตวาดใส่หน้าของปั้นหยาด้วยความเกรี้ยวกราด ก่อนจะตวัดสายตามองหน้าคุณย่าวารี
“คุณย่าจำเอาไว้เลยนะคะ อันแต่งงานกับพี่แม็กเมื่อไหร่ อันจะไปจากที่นี่ และจะไม่มาเหยียบที่นี่ให้เป็นเสนียดอีกเลยค่ะ”
คุณย่าวารีจ้องหน้าหลานสาวที่ตนเองเลี้ยงดูมากับมือด้วยความผิดหวัง
หล่อนก็ไม่เข้าใจนักว่าทำไมอันนากับปั้นหยาถึงได้มีนิสัยแตกต่างกันราวฟ้ากับเหวแบบนี้ ทั้งๆ ที่หล่อนก็พร่ำสอนและอบรมมาแบบเดียวกัน
“ตามใจแก แม่อันนา”
ยิ่งคุณย่าวารีแสดงท่าทางหมางเมินไม่ใส่ใจมากเท่าไหร่ อันนาก็ยิ่งเกรี้ยวกราดและต้องการเอาชนะ
“แล้วคุณย่าจะต้องเสียใจ เพราะรักหลานผิดคน!”
“ย่าว่าคนที่จะต้องเสียใจคือแกมากกว่ายายอัน”
“อันจะไม่มีวันเสียใจค่ะ”
คุณย่าวารีจ้องหน้าอันนา “คนที่หัวใจมีแต่ความอิจฉาริษยา ไม่มีวันสงบสุขหรอก ไฟร้ายในใจจะแผดเผาจนไหม้เกรียม”
“นี่คุณย่าแช่งอันเหรอคะ!”
“ย่าไม่ได้แช่ง ย่าแค่พูดให้แกมองเห็นสัจธรรมของโลกใบนี้ต่างหาก”
อันนาจ้องหน้าคุณย่าวารีด้วยสายตาจะกินเลือดกินเนื้อ ก่อนจะสะบัดหน้าเดินเข้าไปในบ้านทันควัน
ปั้นหยาน้ำตาคลอเบ้า มองตามร่างของญาติผู้น้องไปจนลับสายตา
“คุณย่าขา... น้องอันคงกำลังหงุดหงิด คุณย่าอย่าถือสาอะไรน้องอันเลยนะคะ”
คุณย่าวารีมองปั้นหยาอย่างเอ็นดู
“หยาเป็นคนจิตใจดีมาก ซึ่งมันทำให้ย่าอดที่จะห่วงหยาไม่ได้”
ปั้นหยาระบายยิ้มกว้างให้กับผู้มีพระคุณ แม้ว่าดวงตาจะยังฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำตาก็ตาม
“หยาเชื่อในความดีค่ะคุณย่า คนเราทำดีก็ต้องได้ดี แม้ว่าผลของมันจะมาช้าก็ตาม”
คุณย่าวารียกมือขึ้นลูบศีรษะของปั้นหยาอีกครั้ง ก่อนจะให้พรกับหล่อน
“ย่าขอให้เด็กดีๆ อย่างหยาพบเจอแต่ความสุขนะลูก ใครคิดร้ายก็ขอให้แพ้ภัยไป”
ปั้นหยาพนมมือไหว้คุณย่าวารีด้วยกิริยานอบน้อม “ขอบคุณคุณย่ามากค่ะ หยาจะจำคำสอนของคุณย่าเอาไว้ และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดค่ะ”
“ย่ารักหยามากนะลูก”
“หยาก็รักคุณย่าค่ะ”
ปั้นหยาโผเข้ากอดร่างของคุณย่าวารีเอาไว้ ก่อนจะส่งท่านขึ้นรถหรูที่จอดรออยู่
“คุณย่าดูแลตัวเองด้วยนะคะ”
หล่อนยังอดห่วงคุณย่าวารีไม่ได้ จึงต้องหันไปกำชับกับคนสนิทของคุณย่าอีกครั้ง
“ป้าแววจ๊ะ อย่าลืมให้คุณย่าทานยาตามที่หยาจัดไปให้ด้วยนะจ๊ะ”
“คุณหยาวางใจได้เลยค่ะ ป้าไม่ลืมแน่นอน”
ปั้นหยายิ้มโล่งใจออกมา มองรถหรูที่แล่นจากไปจนลับสายตา จึงหมุนตัวกลับเข้ามาภายในบ้าน ซึ่งก็เจอกันอันนาที่กำลังนั่งทาเล็บอยู่ในห้องโถงพอดี
“แกมาช่วยทาเล็บให้ฉันหน่อยสิ”
“พี่ไม่ว่างน่ะน้องอัน ต้องไปคุมแม่บ้านทำความสะอาดห้องคุณย่าน่ะ”
อันนาผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ และเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าของปั้นหยาอย่างเอาเรื่อง
“แค่ช่วยทาเล็บให้ฉันนี่ มันหนักหนาหรือไง ทำไมจะต้องปฏิเสธด้วย หึ!”
“พี่ก็เห็นน้องอันทาเองได้นี่จ๊ะ”
“ที่เห็นฉันทาได้นี่ มันเล็บมือย่ะ แต่เล็บเท้าฉันทาไม่ถึง”
ปั้นหยาเอียงหน้าหลบนิ้วเรียวของอันที่พยายามจะจิ้มหน้าผากมนของตนเองได้หวุดหวิด พร้อมกับขยับถอยหลังออกห่างตามสัญชาตญาณ
“งั้นน้องอันก็ไปที่ร้านก็ได้นี่จ๊ะ เห็นปกติน้องอันก็ไปทำเล็บที่ร้านออกจะบ่อย”
“ก็วันนี้ขี้เกียจมีอะไรไหม แล้วแกก็ต้องมาทาเล็บตีนให้ฉันด้วย ไม่อย่างนั้นเห็นดีกันแน่”
อันนาเน้นคำว่า ‘ตีน’ ชัดถ้อยชัดคำ ก่อนจะอมยิ้มสะใจเมื่อเห็นปั้นหยาทำหน้าคล้ายกับจะร้องไห้
“หึ อย่ามาบีบน้ำตา มานี่ มาทาเล็บตีนให้ฉัน”
อันนาเดินกลับไปนั่งบนเก้าอี้ตัวเดิม และยกขาขึ้นพาดกับโต๊ะกระจกตรงหน้า
“มาสิ ยืนเซ่ออยู่ได้”
แต่เมื่อเห็นปั้นหยายืนนิ่งอยู่ หล่อนก็ต้องตวาดเรียกอีกครั้งอย่างหงุดหงิด
“เอ่อ... จ้ะ”
ปั้นหยาเดินเข้าไปคุกเข่าใกล้ๆ กับฝ่าเท้าของอันนา กำลังจะเปิดขวดน้ำยาทาเล็บอยู่แล้วเชียว แต่เสียงเครื่องยนต์คุ้นหูดังใกล้เข้ามาเสียก่อน“เสียงรถพี่แม็กนี่”รอยยิ้มพึงพอใจระบายเต็มใบหน้าของอันนา ก่อนที่หล่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา เมื่อคิดอะไรขึ้นมาได้“แกขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ เร็วเข้า”“เอ่อ... ทำไมล่ะจ๊ะน้องอัน”ปั้นหยาที่คุกเข่าอยู่กับพื้นเพื่อเตรียมทาเล็บเท้าให้กับอันนาช้อนตามองคนออกคำสั่งอย่างแปลกใจ“แกไม่ต้องมาถามหรอก ทำตามที่ฉันสั่งก็พอ ขึ้นมานั่งบนเก้าอี้สิ เร็วเข้า!”ปั้นหยาลุกขึ้นทำตามคำสั่งของอันนาทั้งๆ ที่สมองยังมึนงงไม่เปลี่ยนแปลง“เอาขาขึ้นมาพาดไว้บนโต๊ะสิ เร็วเข้า”“เอ่อ... พี่ใส่กระโปรงคงทำแบบนั้นไม่ได้หรอก”ปั้นหยาไม่ได้ทำตามคำสั่งนี้ ทำให้อันนาต้องเป็นฝ่ายกระชากขาเรียวของปั้นหยาขึ้นมาด้วยตัวเอง“น้องอัน... อุ๊ย!”มือเล็กของปั้นหยาต้องรีบตะครุบชายกระโปรงที่ร่นขึ้นมาถึงขาอ่อนเอาไว้ทันที“น้องอันจะทำอะไรเนี่ย ปล่อยเท้าพี่เถอะ”“อยู่เฉยๆ เถอะน่า”อันนาลงไปนั่งคุกเข่ากับพื้น และตั้งท่าจะทาเล็บเท้าให้กับปั้นหยา“แต่พี่ไม่อยากทาเล็บนะน้องอัน ปล่อยขาพี่เถอะ”สมองของปั้นหยาตามการกระ
มื้ออาหารค่ำของวันต่อมา อันนาก็ร่วมมือกับเพื่อนสนิทอย่างรัชนกทำตามแผนการที่วางเอาไว้ นั่นก็คือการใส่ยาปลุกเซ็กซ์ในเครื่องดื่มของแม็กซิมัส“แกแน่ใจนะนังนกว่ายาที่แกไปซื้อมาเนี่ยมันจะได้ผล”“แน่ใจสิยะ ไอ้คนขายมันบอกว่าเอาทั้งคืนไม่มีเหนื่อย แกเตรียมเมื่อยขาได้เลยนังอัน”อันนาระบายยิ้มอย่างพึงพอใจ ดวงตาเป็นประกายวาววับเมื่อสิ่งที่หวังกำลังจะเป็นจริง“คราวนี้แหละฉันต้องท้องแน่ๆ แล้วพี่แม็กก็จะต้องรีบแต่งงานกับฉันโดยเร็ว”รัชนกมองหน้าเพื่อนซี้แล้วส่ายศีรษะไปมา “นี่ถ้าฉันเป็นแกนะ ฉันจะไม่ทำแบบนี้ให้ยุ่งยากหรอก ฉันจะรอให้พี่แม็กพร้อมและขอแต่งงานด้วยตัวเอง ภูมิใจกว่าเยอะ”“ก็ฉันรอไม่ได้ ฉันไม่อยากอยู่ที่บ้านนรกหลังนี้ต่อแม้แต่วินาทีเดียว อ้อ และอีกเหตุผลหนึ่งที่สำคัญก็คือ มีผู้หญิงจ้องจะงาบ พี่แม็กของฉันเยอะเกินไป ฉันระแวง”“ก็ตามใจแก นั่นเสียงรถพี่แม็กหรือเปล่า”รัชนกพยักพเยิดหน้าอันนารีบวิ่งไปเกาะขอบหน้าต่างมอง และก็พบว่ารถสปอร์ตคันหรูของแฟนหนุ่มแล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้านแล้ว“ใช่ พี่แม็กมาแล้ว” น้ำเสียงของอันนาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น“เดี๋ยวแกไปไล่คนใช้ให้กลับที่พักให้หมดเลยนะ จากนั้นแกก็รีบ
แม็กซิมัสคงกำลังจะคลั่ง และหล่อนมั่นใจว่าเขาไม่มีทางทันได้อาบน้ำหรอก เพราะหล่อนจะลากเขาขึ้นเตียงทันทีเมื่อเข้าไปในห้องนอน“นี่ค่ะ ห้องนอนของอัน”หล่อนเปิดประตูห้องนอนให้กับแม็กซิมัส กำลังจะก้าวตามเขาเข้าไปภายในนั้น แต่เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือดันดังกังวานขึ้นเสียก่อน“บ้าจริง ใครโทรมาตอนนี้วะ”หล่อนพึมพำอย่างหงุดหงิด แต่ก็ต้องเก็บอาการเอาไว้ และพูดกับแม็กซิมัส“อันขอตัวรับสายก่อนนะคะ เชิญพี่แม็กตามสบายเลยค่ะ”“ครับ”หล่อนตั้งใจจะคุยโทรศัพท์ที่หน้าห้องนอนของตนเอง แต่พอเห็นเบอร์ที่เรียกเข้ามา ก็หน้าซีดเผือด ต้องรีบกดวางสายแทบไม่ทัน แต่แค่เสี้ยววินาทีเดียว มันก็ดังขึ้นมาใหม่ จนหล่อนจำต้องเดินเลี่ยงออกมาตรงระเบียง และกดรับสาย“แกจะโทรมารังควานฉันอีกทำไม ไอ้วิทย์”เสียงหัวเราะดังมาตามสายทำให้อันนายิ่งโกรธแค้นแน่นอก แต่หล่อนกำลังเสียเปรียบผู้ชายคนนี้“แหม ผัวจะโทรหาเมียบ้างไม่ได้เลยเหรอครับ”“ไอ้บ้า อย่ามาพูดแบบนี้นะ เงินก็เอาไปจากฉันแล้ว ยังจะมาตามรังควานอะไรฉันอีก ไปให้พ้น!”“เงินแค่สองแสน มันไม่พอที่จะปิดปากผัวได้หรอกเมียจ๋า”“ไอ้สัตว์นรก แกต้องการอะไรจากฉันอีก!”อันนาเจ็บใจนักที่ต
เสียงกรีดร้องขอความเมตตาของปั้นหยาหายเข้าไปในลำคอแกร่งของแม็กซิมัสทั้งหมด ไม่ว่าหล่อนจะวิงวอน ร้องไห้ขอให้เขาหยุดกระทำสักเท่าไหร่ แต่ผู้ชายที่กำลังถูกตัณหาครอบงำก็ไม่แม้แต่จะหยิบยื่นเศษความปรานีให้ปากของหล่อนถูกเขาประกบจูบอย่างเร่าร้อนดูดดื่ม จูบแรกของวัยสาวถูกผู้ชายที่พร่ำบอกว่ารังเกียจนักหนาช่วงชิงไปอย่างป่าเถื่อน มือเล็กยกขึ้นผลักไสตลอดเวลา และก็พยายามที่จะเม้มปากแน่นไม่ให้ลิ้นใหญ่สอดแทรกเข้ามารุกรานภายใน แต่สุดท้ายแล้วหล่อนก็ต้องพ่ายแพ้ เมื่อความเจ็บหนึบที่เกิดขึ้นเพราะนิ้วแข็งแรงกดลงบนปลายคางรุนแรงเหลือเกิน“อ๊ะ... อื้อ...”หล่อนร้องครางต่อต้านได้แค่นั้น ลิ้นใหญ่ก็พุ่งทะยานเข้ามาภายใน เขาเอามือบีบอุ้งปากของหล่อนเอาไว้ เพื่อไม่ให้หล่อนกัดลิ้น จากนั้นก็ปลุกเร้าหล่อนด้วยลีลาเชี่ยวชาญช่ำชอง จนในที่สุดสาวน้อยไร้เดียงสาเช่นหล่อนก็ต้องยอมพ่ายแพ้ความรู้สึกวาบหวามที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนในชีวิตทำให้กายสาวลอยสูงขึ้นเรื่อยๆ เปลวไฟสวาทเร่าร้อนแผดเผาจนอนุสติสูญสลาย กายสาวค่อยๆ โอนอ่อนตอบสนองสัมผัสทรงอานุภาพของเขาในที่สุดเสียงครางด้วยความพึงพอใจของแม็กซิมัสดังกระหึ่มกังวาน เขาบดจูบหนักหน่วงยิ่
“อื้อ... อื้อ...”เขาไม่สนใจว่าหล่อนจะทรมานสักแค่ไหน เพราะเขาเดินหน้าเคลื่อนไหวอย่างดุดัน ทุกจังหวะของเขาเต็มไปด้วยความป่าเถื่อน หยาดน้ำตาของหล่อนไม่อาจจะทำให้คนใจร้ายสงสารได้เลย“อืมมม โอ้ววว...”เสียงครางของเขาดังกังวานขึ้นต่อเนื่อง ในขณะที่ความเจ็บเริ่มจางหายไปจากกายสาวบ้างแล้ว“อา... อา...”ความอุ่นซ่านแห่งความเสียวกระสันเกิดขึ้นในทุกครั้งที่แม็กซิมัสเคลื่อนไหว และมันก็ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนหล่อนไม่สามารถหักห้ามใจได้อีก“อา... อา...”หล่อนปล่อยกายปล่อยใจให้เพลิดเพลินไปกับพายุสวาทของแม็กซิมัสอย่างยากจะต้านทาน กายสาวเบียดกระแซะขึ้นหา หยัดร่อนความเป็นหญิงขึ้นรับการสอดแทรกร้อนแรงด้วยความเต็มใจเสียงคำรามที่ฟังไม่ได้ศัพท์ของเขาดังกังวานขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ใบหน้าหล่อจัดตอนนี้บิดเบี้ยวเหยเกคล้ายกำลังต่อสู้กับอะไรบางอย่างที่ทรงพลังสะโพกของเขาส่ายวนคลึงเคล้นกับความเป็นหญิงร้อนแรง มือใหญ่ทั้งสองข้างกอบกุมสะโพกกลมกลึงเอาไว้แน่น และกระชากให้หล่อนอ้ารับความหิวกระหายบ้าคลั่งครั้งแล้วครั้งเล่า“อา... อา... คุณแม็ก... อา... ไม่ไหวแล้ว... อา...”หล่อนบิดกายเร่าๆ ครางสะอื้นเป็นชื่อของเขาน
ไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศทำให้คนที่นอนขดอยู่บนเตียงโดยไร้ผ้าห่มรู้สึกตัวตื่นขึ้น ดวงตากลมโตเบิกท่ามกลางความมืดสลัว ความทรงจำจากเหตุการณ์ที่เพิ่งจะผ่านพ้นไปเมื่อหลายชั่วโมงก่อนทำให้หล่อนเผลอครางออกมาอย่างลืมตัว หยาดน้ำตารินไหลอาบแก้ม และก็พยายามที่จะกัดฟันขยับตัวลงจากเตียง แต่ความเจ็บปวดที่ซอกขาทำให้หล่อนเผลอส่งเสียงครางออกมาอีกครั้ง“อ๊ะ...”ตรงนั้นของหล่อนเจ็บระบมมาก นั่นเป็นเพราะแม็กซิมัสรุนแรง ป่าเถื่อน และชำเราหล่อนนานต่อเนื่องกันหลายชั่วโมง แถมอาวุธที่เขาใช้รังแกหล่อนก็ทั้งใหญ่ทั้งยาว จนสาวบริสุทธิ์เช่นหล่อนรู้สึกคล้ายกับจะฉีกขาดไปทั้งตัวหล่อนพยายามสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ขณะต่อสู้กับความเจ็บปวดก้าวลงจากเตียง ความเจ็บลึกในซอกขาย้ำเตือนให้หล่อนลืมความป่าเถื่อนของแม็กซิมัสไม่ลง“อัน... อยู่กับพี่ก่อน...”เอวคอดของหล่อนถูกคว้าเอาไว้ และเขาก็พลิกกายขึ้นทาบทับเอาไว้ทั้งตัว ท่ามกลางความมืดมิดเขาเรียกหาอันนา โดยไม่ได้สนใจเลยว่าผู้หญิงใต้ร่างของเขาจะเป็นใคร“อย่า... ปล่อยค่ะ...”“พี่ต้องการอัน...”เขาครางเสียงกระเส่าก่อนจะก้มลงจูบปากอิ่ม กลืนกินเสียงต่อต้านอ่อนแรงของหล่อนเข้าไปในลำคอเสียห
อันนาเห็นแม็กซิมัสเข้าใจผิด หล่อนก็รีบสมทบสนับสนุนเพื่อให้ตัวเองรอดพ้นข้อสงสัยทันควัน“มึงร้ายกาจ... ร้ายกาจที่สุด นังปั้นหยา!”ปั้นหยาส่ายหน้าไปมาเมื่อถูกปรักปรำจากสองคนที่กำลังเกรี้ยวกราดหล่อนอยากหายตัวไปจากตรงนี้ หรือไม่ก็ตายไปจากโลกใบนี้เสียเลย“พี่ไม่ได้ทำนะอัน... คุณแม็ก... หยาไม่ได้ทำ... หยา อ๊ะ... หยาเจ็บ...”“ถ้าเธอไม่ได้เป็นคนทำ แล้วใครจะทำ เรื่องเลวๆ แบบนี้ มีแค่เธอคนเดียวเท่านั้นแหละที่กล้าทำ ปั้นหยา”เขาบีบแขนของหล่อนแรงมากราวกับต้องการทำให้กระดูกของหล่อนแตกละเอียดหล่อนเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวดทรมาน และพยายามวิงวอนให้เขาเมตตา“ได้โปรด... เชื่อหยา... หยาไม่รู้เรื่อง หยาไม่ได้ทำ...”หล่อนร้องไห้อย่างน่าเวทนา แต่ไม่มีใครที่จะเชื่อหล่อนเลย“ตอแหล!”“อ๊ะ...”ปั้นหยาถูกผลักให้ล้มหงาย ร่างเปลือยแทบกลิ้งตกลงไปจากเตียง และพวกเขาก็คงจะรุมทึ้งหล่อนจนย่อยยับต่อไปอีก หากคุณย่าวารีไม่ปรากฏตัวขึ้นเสียก่อน“เกิดอะไรขึ้น เสียงดังลั่นบ้านเชียว”“คุณย่า...”ปั้นหยาครางเรียกชื่อของผู้มีพระคุณด้วยน้ำเสียงสะอื้นไห้ ในขณะที่แม็กซิมัสนั่งทำหน้าเคร่งเครียดอยู่บนเตียงเพราะไร้ทางหลบหนี“หยา... หยาทำ
เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เขารู้ดีว่าตัวเองถูกวางยา เพราะไม่อย่างนั้นเขาคงไม่กระทำเรื่องน่าสมเพชเช่นนั้นลงไปได้ แถมเจ้าหล่อนก็ยังเข้ามาหาในเวลาที่เหมาะเจาะพอดิบพอดีชายหนุ่มยกมือขึ้นเสยผมแรงๆ ด้วยความหงุดหงิด ขณะตวัดตามองผู้หญิงที่แสร้งทำเป็นยืนตัวสั่นตรงหน้าด้วยความเกลียดชัง เท่าที่เห็น หล่อนก็มีดีแค่อย่างเดียวเท่านั้น คือเยื่อพรหมจรรย์ที่เขาเป็นคนทำลายไป นอกนั้นปั้นหยาก็คือสิ่งจอมปลอม เป็นผู้หญิงสารเลวที่เขาขยะแขยงเขาก้าวเท้าเดินเข้าไปหยุดตรงหน้าของหล่อน มองด้วยสายตาชิงชังอย่างที่ไม่เคยใช้กับใครมาก่อน“ฉันเกลียดเธอ จำเอาไว้นะปั้นหยา”คนฟังน้ำตาร่วงอีกครั้ง แต่ก็รีบยกหลังมือขึ้นมาป้ายทิ้ง และกลั้นใจพูดโต้ตอบออกไป“หยา... จะจำเอาไว้ค่ะ”เขาหัวเราะเครียดๆ สายตาของเขาเต็มไปด้วยกองไฟจำนวนมหาศาล และมันก็แผดเผาคนถูกมองจนแทบมอดไหม้“ผู้หญิงที่ฉันรักคืออันนา ส่วนเธอมันก็แค่อีตัว ที่ฉันเผลอไผลนอนด้วย และอย่าฝันนะว่าฉันจะรับผิดชอบอะไรในตัวของเธอ”หล่อนเจ็บจนหัวใจชาดิก เลือดสดๆ ไหลทะลักท่วมท้นจนแทบจะทะลักออกมาทางปาก“หยา... ไม่ได้ต้องการให้คุณแม็กมารับผิดชอบอะไรอยู่แล้วค่ะ เรื่องเมื่อคืน... ให